Injustice: Gods among Us #14-16 Another Death in the Family
เรื่อง : Tom Taylor
ภาพ : Jeremy Raapack, Tom Denerick, Mike S.Miller
วางจำหน่าย: 16, 23, 30 เมษายน 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ความสูญเสียอีกหนึ่งในสงคราม
++——————————————————++
มีเสียงร้อง ที่ไม่อาจเงียบสงบ
มันดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ
มันเป็นเสียงร้องของเด็กที่ถูกทิ้งในพริบตา เมื่อนานมาแล้ว
เสียงกรีดร้องสะท้อนในตรอกนั่น ดังที่มันสะท้อนในใจของฉันตอนนี้
แทรกซึมเข้าไปในทุกอนูของสถานที่อันมืดมิด
มันกระแทกกระทั้นไปในความสูญเสีย กระเด้งกระดอนไปมาระหว่างความเสียใจ… และความเจ็บปวด
เขาจากไปแล้ว
ผมถูกทิ้งอีกครั้ง
ลูกชายของผมตายแล้ว
ก่อนหน้านี้ ที่สถานีโทษทัศน์ช่อง 2 ของกอทแธม พิธีกรกำลังพูดถึงการแบ่งแยกดินแดน ด้วยการกระทำราวเผด็จการของซุปเปอร์แมน (Clark Kent — Superman) หลังจากเหตุการณ์ที่เมโทรโปลิส ทางรายการเชิญนักวิชาการมาพูด แต่กลับกลายเป็นว่า ทู-เฟซ (Harvey Dent — Two-Face) ได้เข้ามาแทน พยายามจะฆ่าพิธีกรคนใดคนหนึ่งโดยตัดสินจากการโยนเหรียญ แต่ขณะที่เหรียญกำลังลอยเคว้งอยู่บนอากาศ แสงเลเซอร์ก็เข้ามาทำลายมันเป็นผง ทูเฟซโกรธมาก พยายามหาคนที่เห็นว่าเหรียญลงด้านไหน แต่สิ่งที่เขาพบ คือซุปเปอร์แมน
ทูเฟซถูกจัดการอย่างงายดาย จูลี่ หนึ่งในนักข่าวขอถามคำถามอะไรกับซุปเปอร์แมนก่อนเขาไป
“คุณคิดว่าลูอิสเห็นด้วยกับการ… เล่นบทผู้ควบคุมสถานการณ์ที่มากกว่าเดิมให้กับโลกใบนี้หรือไม่?”
“ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะผมทำแบบนี้เพราะเธอ–เพราะบางอย่างที่เธอพูดกับผม”
ซุปเปอร์แมนยอมรับว่าเขาฆ่าโจ๊กเกอร์ (Joker) แต่จูลี่คิดว่ามีอยู่คนหนึ่งในเมืองที่ที่เขาเห็นว่าสิ่งที่บุรุษเหล็กทำเป็นสิ่งผิด เขาเลยได้แต่หวังว่าหล่อนจะพูดถูก
“แต่ยังมีพวกคนที่พยายามปกป้องพวกโรคจิตนี้อยู่”
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวันนี้ผมมาที่กอทแธม”
ชายผู้เป็นดังพระเจ้าประกาศว่า เขาจะไม่ยอมให้คนพวกนี้มาฆ่ามาทำลายเมืองของพวกคุณอีก เขากับสมาชิก Justice League ของตนตัดสินใจจะพาอาชญากรพวกนี้ไปไกลแสนไกล ไกลจากกอทแธม
“ผมสัญญาว่าพวกมันจะไม่มีวันทำร้ายคุณอีกต่อไป”
แบทแมน (Bruce Wayne — Batman) กับไนท์วิงก์ (Dick Grayson — Nightwing) ผู้ฟังรายงานนี้อยู่ในถ้ำค้างคาว รีบรุดหน้าไปยังยานแบทวิงก์เพื่อมุ่งสู่อาร์คัม เพราะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พวกสันติบาตยุติธรรมกำลังจะทำ
“แล้วไง?”
จู่ๆโรบิน (Damian Wayne — Robin) ก็ถามขึ้น เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการที่พ่อและพี่ชายของเขาประณีประณอมเหล่าอาชญากรในกอทแธมมานานแสนนานแล้ว เขาจะขึ้นเครื่องบินไปกับทั้งสอง ถ้าไปเพื่อช่วยซุปเปอร์แมนทำลายอาร์คัมให้มอดไหม้เท่านั้น ไนท์วิงก์ถามว่า เดเมี่ยนมีความคิดดำมืดแบบนั้นทั้งที่อายุเพียงแค่สิบสามได้เช่นไร ซึ่งเด็กน้อยก็เถียงกลับไปว่า ทั้งคู่ไม่เคยคิดซักวินาทีเดียวเลยหรือ ว่าทั้งสองน่ะคิดผิด พวกเชื่อในความชอบธรรม–ของตนเอง–
แต่แบทแมนไม่สนใจจะฟังและควบคุมยานบินออกไปอย่างรวดเร็ว
บนยาน ไนท์วิงก์ถามว่าแบทแมนเห็นประเด็นของลูกชายใช่ไหม แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่ามันน่ารำคาญมากเวลาที่คุณไม่ตอบคำถาม คุณอาจคิดว่าความเงียบแสดงถึงจุดยืนของคุณ แต่บางทีมันก็ดูแย่นะ
แบทแมนตอบเงียบๆว่า นายไม่เคยหัวดื้อเท่าเดเมี่ยนหรอก แต่ดิ๊กตอบติดตลกไปว่า สำหรับคนที่หัวดื้อขนาดนั้น พวกเขาช่างเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับคุณโดยตรงจริงๆ
“แต่เราทั้งคู่จำได้ว่าการเป็นวัยรุ่นฉุนเฉียวง่ายมันเป็นอย่างไร”
“นายเข้าใจใช่ไหม? นายรู้หรือเปล่าว่าทำไมเราถึงปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้ไม่ได้?”
“แน่นอน แต่คุณยังต้องปลูกฝังผมอีกเยอะ”
แบทแมนเขาจะไม่เข้าใจ แต่ไนท์วิงก์บอกว่าเขาเข้าใจแล้ว ตอนนี้ไปปกป้องพวกฆาตกรใจโหดจากฮีโร่ที่เก่งที่สุดในโลกกันดีกว่า
ที่อาร์คัม หมอขอบคุณที่พวกจัสติส ลีก พาฮาร์วีย์มาคืน วันเดอร์ วูแมน (Princess Diana of Themyscira — Wonder Woman) บอกว่าเธอไม่ได้พาเจ้าสองหน้ามาคืน เพราะเราเสียความมั่นใจต่อที่อาร์คัมไปแล้ว ถึงเวลาจะต้องพานักโทษไปยังที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยมากกว่านี้เสียที
“คุณไม่มีสิทธิตัดสินนะครับ–”
“ไม่–” เสียงใครบางคนดังขึ้น “–พวกเขาไม่มีสิทธิตัดสินต่างหาก”
แบทแมนกับไนท์วิงก์มายืนปกป้องเหล่านักโทษแล้ว ซึ่งพวกสันติบาตยุติธรรมก็ไม่มีท่าทีแปลกใจอะไร วันเดอร์ วูแมน หันไปบอกกับใครบางคนว่ามันเป็นอย่างที่คนนั้นได้บอกจริงๆ
“ใช่ ยืนหยัดอยู่กับพวกสัตว์ประหลาด”
และคนคนนั้นคือเดเมี่ยน เวยน์ — โรบิน “แต่ก็มีแค่สองคน ไม่เป็นปัญหาต่อพวกเราหรอก”
สิ่งนี้สร้างความตกใจให้แก่แบทแมนเป็นอย่างมาก ไนท์วิงก์ถามว่าโรบินไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น
“ข้าทำอะไรอยู่งั้นหรือ? ข้าก็จะพาอาชญากรพวกนี้ไปให้ความยุติธรรมไงล่ะ ข้ายืนอยู่กับซุปเปอร์แมน ไซบอร์ก (Victor Stone — Cyborg) และวันเดอร์วูแมน”
“แล้วดูซิว่าท่านยืนอยู่กับใคร เจ้าคิลเลอร์ คร็อค! กับ เอ่อ…”
คาเล็นดาร์แมน (Julian Gregory Day — Calendar Man) รีบบอกชื่อตัวเอง และพยายามพูดกับวันเดอร์วูแมน ซึ่งเธอไม่สนใจ ขณะเดียวกันนั้น ซุปเปอร์แมนก็พูดดคุยกับแบทแมน ว่าเขาจะไม่บอกให้อีกฝ่ายหลบ เพราะรู้ว่าบรูซจะไม่ทำ แต่ก็ไม่มีสิทธิหยุดเขาเหมือนกัน แบทแมนบอกว่า คลาร์กไม่ควรมาอยู่กับพวกอาชญากรรมที่นี่ แต่ซาส (Victor Zsasz) ฆาตกรต่อเนื่องผู้จะขีดรอยแผลให้ตนเองหนึ่งแผลเมื่อฆ่าคนหนึ่งคนก็ขัดขึ้นมา เขาบอกว่าเห็นแผลบนร่างนี้ไหม หนึ่งแผลหมายถึงหนึ่งชีวิต ตอนนี้นายเองก็มีแผลนั้นเหมือนกันใช้ไหม ซุปเปอร์แมน? นายชอบไหม? นายรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยหรือเปล่า?
แต่ไม่มีใครสนใจเขา วันเดอร์วูแมนเองก็คุยกับไซบอร์ก ผู้ที่บอกว่า ได้เข้าควบคุมระบบควบคุมความปลอดภัยของอาร์คัมไว้หมดแล้ว เจ้าหญิงแห่งแอมะซอนสั่งให้เปิดห้องข้องของซาส และพลันนั้นก่อนที่ฆาตกรโหดจะได้ทำอะไร เขาก็หายแวบไป แบทแมนรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของแฟลช แต่นายขายหมวกไม่รู้ และถูกพาตัวหายแวบเป็นรายต่อไป
แบทแมนบอกให้อีกฝ่ายพอได้แล้ว แต่ไม่มีใครฟัง ไซบอร์กพยายามเปิดประตูต่อ แต่ถูกแบทแมนใช้ไวรัสทำให้ล้มพับไป ไนท์วิงก์บอกให้พอได้แล้ว เพราะไม่มีใครอยากเสียหน้าต่อคนโรคจิตพวกนี้หรอก
หน้าอาร์คัม กรีน แอร์โรว์ (Oliver Queen — Green Arrow) พา ฮาร์ลีย์ ควินน์ (Harleen Quinzel — Harley Quinn)มาส่ง เพราะนายนักธนูเห็นว่า ใกล้เกิดสงครามแล้ว ตัวตลกสาวอยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่า และซุปเปอร์แมนดูจะเป็นเผด็จการมากกว่าฆาตกร แต่เขาไม่รู้เลยว่าที่นี่เอง เหล่าฮีโร่กำลังทำเลาะกันอยู่ แอร์โรว์เลยต้องรีบมุ่งหน้าไปสมทบ ทิ้งฮาร์ลีย์ไว้อยู่กับผู้คุม
แต่เหตุการเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อฮาร์ลีย์สะเดาะกุญแจมืออก จัดการผู้คุม และปล่อยนักโทษทั้งหมดออกมา!
รวมทั้งโซโลมอน กรันดี (Solomon Grundy) ที่โผล่มาจากใต้ดิน และกระชากคอโรบินลงไปในหลุมทันทีทันใด!
ความวุ่นวายเกิดขึ้น แบทแมนโดนเล่นงาน ขณะที่ไดอาน่าลงไปช่วยโรบิน แต่ถูกโซโลม่อนต่อยปลิว ซุปเปอร์แมนกับไนท์วิงก์จึงตามไปสมทบ ไนท์วิงก์บอกว่าโซโลมอนตายไปแล้ว ไม่ว่าจพทำอย่างไรมันก็ฝื้นตัวกลับมาได้ ไม่จำเป็นต้องออมมือ เขาจะไปรับโรบินเอง
ซุปเปอร์แมนจึงยิงเลเซอร์ตัดมือของผีดิบอมตะและบินทะลุตัวมันทันที
ไนท์วิงก์เข้ามาช่วยโรบิน และถามว่าเป็นอะไรไหม แต่เด็กชายบอกว่าเขาสบายดี เขาจัดการได้ จึงโดนรุ่นพี่เถียงว่า จัดการได้กับผีน่ะซิ จะโดนมันบีบหัวอยู่แล้ว
แบทแมนรีบตามมาด้วยความเป็นห่วง แต่โรบินก็ไม่สนใจ บรูซจึงออกคำสั่งต่อให้ทั้งสองจัดการนักโทษเข้าห้องขังเสีย แต่เดเมี่ยนเถียง ว่าพวกมันจะไม่เข้าห้องขัง พวกมันต้องไปที่อื่น
“อย่าได้เถียง!”
ไนท์วิงก์รีบถามกันสถานการณ์แย่กว่านี้ว่าแบทแมนจะไปทำอะไร ซึ่งอัศวินรัตติกาลตอบว่า เขาจะจัดการกรันดีก่อนที่มันจะถล่มที่นี่ราบ แต่ไนท์วิงก์ไม่คิดว่ามันจะฝื้นขึ้นมาได้
ซึ่งเขาคิดผิด
“ไปซะ”
แบทแมนวิ่งเข้าไประเบิดหัวกรันดีผู้กำลังลุกขึ้นมาใหม่ บุรุษเหล็กชมว่าทำได้ดี แต่แบทแมนไม่สนใจคำชม ทั้งยังบอกให้พาผีไร้หัวกลับเข้ากรงและติดตั้งที่ทำให้อ่อนแรงเสีย
ในอีกฝากฝั่ง โรบินกำลังจัดการอาชญากรด้วยความรุนแรงเด็ดขาด
“โรบิน พอได้แล้ว!”
แต่เด็กชายไม่ยอมหยุด “นายมันก็แย่เหมือนเขานั่นแหละ! ซุปเปอร์แมนพูดถูก พวกมันไม่ควรได้รับการปกป้องจากพวกเรา”
“โรบินไม่ทำร้ายคนที่ล้มแล้วหรอกนะ!”
“นายไม่ใช่โรบินอีกต่อไปแล้ว!”
“เลิกบอกให้ข้าทำอย่างนั้นอย่างนี้เสียที!”
เดเมี่ยนบันดาลโทษะ เหวี่ยงกระบองข้างหนึ่งในมือไปที่หัวของไนท์วิงก์ และมันกระแทกขมับของชายหนุ่มอย่างจัง ส่งผลให้เขาล้ม คอกระแทกกับเศษหินบนพื้นเสียงดังแกร็ก
จากนั้นจึงบังเกิดแต่ความเงียบ
“ไนท์วิงก์?”
และความเงียบ
“ดิ๊ก…?”
สิ่งใดดำเนินต่อไปบ้างไม่รู้ จนกระทั้งซุปเปอร์แมนบอกให้ทุกคนหยุด เพราะกรันดี้ลงหลุมไปแล้ว และกลับไปที่ห้องขังของตนเอง
พลันนั้นแบทแมนก็สังเกตเฟ็นร่างของลูกชายทั้งสองบนพื้น
“ข้า…” เดเมี่ยนเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษ”
แบทแมนตื่นตะลึง รีบผลักเด็กชายออกไปทันที “หลบไปจากเขาเดี๋ยวนี้!!”
ซุปเปอร์แมนเข้าไปปลอบโรบินผู้เสียขวัญจากทั้งการสูญเสียและจากพ่อของตนเอง
และทุกคนต่างอยู่ในความตื่นตะลึงกับการสูญเสียที่ไม่มีใครคาดคิด
มีเสียงร้อง ที่ไม่อาจเงียบสงบ
มันดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ
มันเป็นเสียงร้องของเด็กที่ถูกทิ้งในพริบตา เมื่อนานมาแล้ว
เสียงกรีดร้องสะท้อนในตรอกนั่น ดังที่มันสะท้อนในใจของฉันตอนนี้
แทรกซึมเข้าไปในทุกอนูของสถานที่อันมืดมิด
มันกระแทกกระทั้นไปในความสูญเสีย กระเด้งกระดอนไปมาระหว่างความเสียใจ… และความเจ็บปวด
เขาจากไปแล้ว
ผมถูกทิ้งอีกครั้ง
ลูกชายของผมตายแล้ว
++——————————————————++
คุยแถมท้าย
มาจับ Injustice เพราะว่า เอ้อ อ่าน #17 แล้วอยากแปล อ่านแล้วมันปวดตับน่ะค่ะ จริงๆคือ ไม่ได้ตามซีรียส์นี้แบบจริงจังมาก่อนเลย จนกระทั่งได้เล่นเกมและ… เอ้อ เอาเถอะค่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์เนื้อเรื่องในเกมไปด้วย
ก็ สำหรับเนื้อเรื่องก่อนหน้านี้ (ที่ยังไม่มีใครสปอยล์เป็นไทย และจะมีหรือไม่ก็ไม่รู้) ประมาณว่า หลังจากที่ซุปเปอร์แมนฆ่าโจ๊กเกอร์แล้ว ก็เกิดความขัดแย้งกับแบทแมน เพราะบรูซไม่เห็นด้วยกับวิธีเผด็จการ ขณะที่พวกจัสติส ลีก ก็ไปกับซุป เลยกลายเป็นการตั้งแง่กันไปแบบนั้น และในครอบครัวค้างคาวก็มีความขัดแย้งเช่นกัน เพราะโรบินเห็นด้วยกับคลาร์ก ขณะที่ไนท์วิงก์ยังเห็นด้วยกับอาจารย์ของตนอยู่ จนมาถึงจุดที่น่าจะเรียกได้ว่าแตกหักในสามเล่มนี้ ถ้ามีรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ก็ขออภัยด้วยนะคะ เพราะยัยนี่ก็ตามของฝรั่งเขาต่ออีกทอด อาจไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก : P
อาจเขียนอะไรงงๆก็ขออภัย อย่างไรก็ขอขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ