Author Archives: St.Valentinus

About St.Valentinus

Ok, this looks bad...

The Incredible Hulk #02

The Incredible Hulk #2

เรื่อง : Jason Aaron

ภาพ : Marc Silvestri, Sunny Gho

วางจำหน่าย : 16 พฤศจิกายน 2011

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

 

หลังจาก Hulk และ Banner แยกจากกันแล้ว Hulk ก็ลงไปหลบหาความสงบอยู่ใต้ดิน แล้ว Banner ล่ะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่?

 

 

หนึ่งสัปดาห์ก่อน

Betty : พระเจ้า ที่นี่มันสวยงามมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณจะหาที่นี่เจอ Bruce?

“มันมอดไหม้”

“มันมอดไหม้อยู่ภายใน เหมือนกับว่าโลกกลายเป็นสีขาวโพลน เสียงอื้ออึงดังก้องในหู อากาศร้อนแรงดุจไฟ และ Rick กำลังกรีดร้อง จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็…”

“ทุกอย่างก็เขียวไปหมด”

Betty : Bruce นี่คุณฟังอยู่เปล่าเนี่ย

“มันเริ่มล้อมรอบทุกสิ่งทุกอย่าง”

Betty : Bruce!

Banner : อ๊ะ ขอโทษจ๊ะ Betty ใช่แล้วล่ะ มันสวยมาก

 

Betty : มองชั้นสิ Bruce Banner นายควรจะเลิกเหม่อลอยกับเรื่องรังสีแกมม่าได้แล้วนะ ไหนสัญญากันแล้วไง ว่าตอนนี้เราจะทิ้งเรื่องงานไว้ก่อน

Banner : ผมรู้ แต่ผมแค่…

Betty : ทำไมต้องมี ”แต่” ทุกทีด้วย ชั้นเห็นด้วยกับคุณนะ ที่จะลองให้โอกาสกับชีวิตแต่งงานของเราอีก แต่คุณก็ยังมี ”แต่” ตลอด

Banner : ไม่นะ Betty อย่าพึ่งไป ผมรู้ว่าผมผ่านอะไรมามากหลังจากที่แต่งงานกันในหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งพ่อของคุณ ทั้งไอ้พวกค้อนบ้าๆนั่น แล้วก็….

Betty : พูดมาเถอะ Bruce คุณต้องยอมรับมันแล้ว

Banner : ตั้งแต่ผมกับ Hulk… ต่างก็มีเส้นทางของตัวเอง

Banner : แต่ถ้าคุณจะกรุณาให้โอกาสสุดท้ายกับผม ผมสัญญาว่าผมจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้คุณมีชีวิตอย่างที่คุณต้องการ และเพื่อให้ผมเป็นสามีที่คุณสมควรจะยืนเคียงคู่ด้วยกัน

Banner : คุณคือสิ่งที่ผมแคร์มากที่สุด และผมขอสาบานว่าจะไม่มีอะไรมาคั่นกลางระหว่างเราได้

 

สัญญาไม่ถึง 5 วิ ก็มีบางอย่างมาคั่นกลางซะแล้ว

ตัวประกอบ : Dr.Banner ใช่ไหมครับ

Banner : ใช่ครับ ผมเอง

ตัวประกอบ : ผมคือไกด์ที่นี่ครับ Dr.Banner ผมจะพาคุณไปดูไซท์ครับ

Banner : เอ่อ ตอนนี้คงไม่เหมาะนะครับ

ตัวประกอบ : ไซท์อยู่ในป่า ไม่ไกลจากที่นี่หรอกครับ

Betty : ไซท์? หมายความว่าไง Bruce?

Banner : ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ ที่รัก

ตัวประกอบ : เราต้องไปที่นั่นก่อนจะมืด ผมเตรียมเครื่องตรวจจับกัมมันตภาพรังสีไว้ให้คุณทั้งสองคนแล้ว

Betty : เครื่องตรวจจับกัมมันตภาพรังสี? ทำไมคุณถึงต้องใช้มันด้วย

Banner : ชั้นบอกแล้วไงว่าไม่ใช่ตอนนี้

Betty : คุณบอกชั้นว่าเรามาที่นี่เพื่อทิ้งงาน เพื่อมาฮันนีมูนกัน จริงๆแล้วเรามาที่นี่ทำไมกันแน่

Banner : Betty ให้ผม….

Betty : ไม่ ตอบชั้นมา ที่นี่มันที่ไหนกันแน่

Banner : ไซท์ทดลองนิวเคลียร์ตั้งแต่ยุค ’50 น่ะ เกาะนี้เต็มไปด้วยรังสีทั้งเกาะ

 

Betty : บ้าเอ๊ย

Banner : เดี๋ยวสิ Betty รังสีในเกาะนี้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยอยู่นะ

Betty : ปล่อยชั้น

Betty : นายโกหกชั้นมาทั้งหมด ชั้นเหรอที่นายต้องการ ไม่ใช่ คุณบอกว่าคุณเกลียดเขา เขาทำลายชีวิตของคุณ แต่สุดท้ายคุณก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาใช่ไหมล่ะ

Banner : Betty งานวิจัยของผมจำเป็นต้องดำเนินต่อ คุณต้องอยู่เพื่อเห็นมัน ผมไว้ใจคนของรัฐบาลไม่ได้ ผมจำเป็นต้องมาทำงานที่นี่เพื่อ…

Betty : คุณสร้างระเบิด และบังเอิญทำให้คุณกลายเป็นสัตว์ประหลาดทำลายล้างตัวสีเขียว นั่นล่ะที่คุณทำ เอาล่ะ บอกชั้นมาสิ ทำไมงานของคุณมันถึงได้สำคัญนักหนา

Banner : คุณก็รู้

Betty : ชั้นอยากฟังจากปากคุณเอง

Banner : เพราะนั่นคือทั้งหมดที่ผมมี

 

Betty : โอเค เรื่องนั้นคุณคงพูดถูก

Betty : แต่ผิดไปหน่อยตรงที่คุณไม่ได้เป็นสามีแย่ๆตลอดเวลา ชั้นเคยมีเวลาที่รักคุณจากก้นบึ้งหัวใจนะ

Betty : แต่เมื่อชั้นมองคุณตอนนี้ ชั้นอดสงสัยไม่ได้เลย ว่าใครกันแน่คือคนที่ชั้นรัก และใครกันแน่คือสัตว์ประหลาด

 

เหวี่ยงเสร็จ Red She-Hulk ก็โดดหายไป

ตัวประกอบ : Dr.Banner ผมขอโทษจริงๆที่เข้ามาขัดจังหวะ ผมไม่รู้จริงๆ ไว้ผมจะพาคุณไปที่ไซท์คราวหน้าก็แล้วกันครับ

(รู้สึกตัวผิดช้าไปไหมพี่)

Banner : ไม่ต้อง ตอนนี้นี่ล่ะ

 

ปัจจุบัน

“นี่มันบ้ามาก ชั้นรู้ แต่ถึงอย่างนั้นชั้นก็ยังไม่หยุดฉีดรังสีใส่ตัวเองทุกเช้า นั่งเอาไฟช็อตตัวเองเป็นชั่วโมงๆทุกคืน”

“สามวันก่อนชั้นลองยื่นหัวเข้าไปในไมโครเวฟคลื่นแกมม่าขนาดยักษ์ เมื่อวานซืนก็ลองถ่ายเลือดลิงบาบูนปนเปื้อนรังสีเข้าไปในร่างกาย”

“จนวันนี้ ชั้นฉีดเข็มขนาด 8 นิ้วเข้าไปกลางกะโหลก เพื่ออัดฉีดสารเคมีกระตุ้นความโกรธเข้าไปถึง 30 ซีซี แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของ Hulk”

“หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ชั้นทำได้แค่สร้างเกาะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด”

“และสมองที่เกิดเนื้องอกขนาดเท่าเม็ดองุ่น”

“ชั้นไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แต่ชั้นมั่นใจว่าตอนนี้ Hulk ต้องกำลังหัวเราะเยาะไอ้ขี้แหย Banner คนนี้อยู่แน่ๆ”

 

“ทุกคนที่ชั้นรู้จัก ล้วนกลายเป็น Hulk”

“ทุกคนยกเว้นชั้น”

“Hulk คือคำสาป คือภาระ ชั้นวางใจที่จะกำจัดมันออกไป แต่มันก็เลยเถิดมาไกล จนชั้นหนีจากคำถามคำถามหนึ่งไม่ได้ หากไม่มี Hulk แล้ว…”

“ชั้นจะเป็นอะไรกันแน่”

“Hulk คืออุบัติเหตุ คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ แต่มันก็เป็นความสำเร็จอย่างเดียวในชีวิตชั้น”

“Hulk คือชั้น คือส่วนหนึ่งของชั้นที่ชั้นเก็บฝังมันเอาไว้จนกระทั่งระเบิดแกมม่ากระตุ้นมันออกมา หากไม่มีมัน ชั้นก็เหมือนคนที่ไม่สมบูรณ์ ส่วนหนึ่งของชั้นที่ถูกเอาไป ที่ถูกขโมยไป”

“และชั้นอยากได้มันคืน”

โว๊ย ยิ่งคิดยิ่งเครียด กวาดโต๊ะแมร่มเลย

 

Banner : มันยังไม่ใช่ เอามาอีก ไปเอามาอีก!

26 & 27 : ได้ครับ คุณพ่อ

“ชั้นไม่ได้นอนมา 2 อาทิตย์เป็นอย่างน้อยแล้ว จะให้ชั้นฉีดคาเฟอีนเข้าไปในเบ้าตาชั้นก็ยอม ถ้ามันจำเป็น ต่อให้ต้องทดลองสัตว์ทั้งโลก ชั้นก็จะทำ”

“ชั้นสร้าง Hulk ขึ้นมา และชั้นจะสร้างมันขึ้นมาใหม่อีก ไม่งั้นก็นอนเน่าตายให้หนอนแดกไปทั้งอย่างนี้นี่ล่ะ”

“ชั้นจะทดลองหลายๆวิธี ไม่ว่าจะเซรุ่ม, สารรักษากัมมันตภาพรังสี, หรือแม้แต่ตัดต่อพันธุกรรม ชั้นก็จะทำ จนกว่าชั้นจะหาวิธีที่มันได้ผล และหากว่ามันไม่ได้ผลจริงๆ”

“ชั้นก็คงต้องใช้วิธีที่โบราณสักหน่อย”

และกระดาษที่ Banner กางออกมาคือพิมพ์เขียว Gamma Bomb นั่นเอง

 

ตัดมาทางด้าน Hulk ในที่สุด Hulk ก็ยอมขึ้นมายังเบื้องบน

Amanda : ชั้นยินดีมาก ที่นายยอมให้โอกาสชั้นได้อธิบาย…

Hulk : 3 นาที ชั้นให้เวลาแค่ 3 นาทีในการกล่อมชั้นไม่ให้ฆ่าเธอ

 

Amanda : แค่นั้นก็แฟร์พอแล้วล่ะ ชั้นใช้เวลาไม่นานหรอก ที่จะกล่อมคน

Hulk : เหลือ 2 นาทีแล้ว

Amanda : อย่างที่บอก ชั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกตระกูล Von Doom ที่น่าอับอายพวกนั้น ชั้นทำงานให้กับหน่วยงานลับของรัฐบาลที่มีชื่อว่า Mad Squad

Amanda : นี่ทีมของชั้น Mr.Gor อดีตผู้ติดตามนักวิทยาศาสตร์โรคจิต เชี่ยงชาญทั้งการต่อสู้ประชิด, เคมี, จารกรรม, และจัดหาซากศพ และนี่ B.R.A.I.N พวกนักวิทยาศาสตร์ชาวบาวาเรียสร้างมันมาเพื่อจะใช้ยึดครองโลก ตอนเราบุกเข้าจับกุม มันจับพวกนั้นป่นจนเหลือแต่ฟันและเล็บเท้าเลยล่ะ

 

Amanda : และเราก็มีหุ่นยนต์มากพอที่จะบุกประเทศเล็กๆได้เพื่อใช้จู่โจมพวกนักวิทยาศาสตร์บ้าอำนาจทั้งหลาย

Amanda : ตั้งแต่นายและ Banner แยกจากกัน บอกชั้นหน่อยสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

Hulk : Banner ไม่ใช่ปัญหาของชั้นอีกแล้ว

Amanda : ใช่ นายพูดถูก แต่ตอนนี้กลายเป็นปัญหาของชั้นแทน นายต้องเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

 

Amanda : 2สัปดาห์ก่อน บริเวณนี้มีเรือถูกอับปางไม่ต่ำกว่า 8 ลำโดยไม่รู้สาเหตุ อย่างไรก็ตาม จากรายงานได้บอกว่าเรือเหล่าก่อนจะจม พวกเขาเห็นบางสิ่งในน้ำที่มหึมาและมีสีเขียว

Hulk : หมดเวลาแล้ว

Amanda : เดี๋ยวสิ นายไม่สนใจเลยรึ ว่าเพื่อนซี้นายกำลังทำอะไรอยู่กันแน่

Hulk : บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ปัญหาของชั้น

Amanda : เข้าใจละ นายคงยังงอนอยู่สินะ ที่เขาแยกนายออกมา

Hulk ได้ยินเช่นนั้นก็ยืนนิ่งครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกความจริงบางอย่าง

Hulk : ไม่ใช่ Banner หรอก เป็นฝีมือของชั้นเอง ชั้นและ…

 

กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แท้ๆ พวกฉลามเขียวดันบุกโจมตีเรือพอดี Hulk และ Mad Squad จึงต้องลงไปสั่งสอนซะหน่อย

 

ฉลามเขียวอาจจะทำร้ายหุ่นยนต์ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเหล่า Mad Squad

 

ยิ่ง Hulk นี่ไม่ต้องพูดถึง

 

ในที่สุดทุกคนก็เอาตัวรอด เกยตื้นได้สำเร็จ

Amanda : เห็นรึยังว่าทำไมชั้นถึงต้องการนาย Banner อยู่ที่ไหนสักแห่งในบริเวณนี้ เขากำลังทำการทดลองกับสัตว์ทุกชนิด เพื่อสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หรือก็คือนายนั่นเอง ดังนั้น มาช่วยพวกเราหยุดเขากัน

 

Hulk : ไม่ บอกแล้วไงว่าชั้นไม่สนใจ Banner รวมถึงเธอด้วย ชั้นแค่ออกมาสำรวจว่าพวกเธอมีกันเท่าไหร่แค่นั้น ถ้ายังมาตอแยอีก ชั้นจะตามไล่คิลเรียงตัวเลย

พูดจบ Hulk ก็โดดหนีไป

Amanda : ชักจะชอบหมอนี่แล้วสิ

 

ณ ถ้ำของเหล่า Moloids

หัวหน้าเผ่า : แผ่นดินสั่นสะเทือนจากเบื้องบน หวังว่าผู้กล้าของเราคงจะกลับมาแล้ว

เสียงแผ่นดินไหวเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนบางสิ่งพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

Moloids : Hulk! Hulk! Hulk กลับมาแล้ว!

Moloids : Hulk?

แต่กลับไม่มีเงา Hulk ออกมา และเงาผู้มาเยือนก็ไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่เป็นสอง

???1 : ที่นี่เหรอ

???2 : ที่นี่ล่ะ กลิ่นเขาโชยไปทั่วเลย เขาที่เราเกลียด เขาที่ทำให้คุณพ่อร้องไห้

???1 : ตอนนี้เรามาแล้ว และจะทำให้เขาร้องไห้แทนใช่ไหม

???2 : ใช่

 

27 : ฆ่า Hulk และฆ่าทุกอย่างที่เขารัก

 

26 และ 27 บุกมายังถ้ำ Moloids แล้ว แล้ว Hulk ล่ะอยู่ที่ไหน และเหล่า Moloids จะชะตาขาดหรือไม่

โปรดติดตามตอนต่อไป…

Ghost Rider #9

Ghost Rider #9

เรื่อง : Rob Williams

ภาพ : Lee Garbett, Emmanuela Lupacchino, Guillermo Ortego, Rob Schwager

วางจำหน่าย : 28 มีนาคม 2012

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

 

 

บทสรุปสุดท้ายของ Ghost Rider สาว Alejandra

เมื่อ Alejandra ตัดสินใจจะทวงบาปของเหล่าผู้คนที่ถูกกำจัดบาปจากน้ำมือเธอเองกลับคืนมาด้วยการ… บุกนรก!

 

 

 

เริ่มต้นจาก Ghost Rider บุกผับ และมีผู้เคราะห์ร้ายหนึ่งรายถูก Ghost Rider ตัดหัว

“Ghost Rider คือผู้พิพากษา คือผู้ที่คอยชำระบาปให้กับผู้ที่สมควรได้รับมากที่สุด คอยลงโทษเหล่าผู้ชั่วร้ายทั้งหลาย”

“แล้ว… ใครล่ะ จะเป็นคนลงโทษ Ghost Rider”

 

อดีต ณ วิหารในป่าแถบนิการากัว สถานที่ที่ Alejandra เติบโตมานั่นเอง

Alejandra และหนุ่มน้อยนายหนึ่ง กำลังละเมิดข้อห้ามของ Adam

ชายหนุ่ม : รอด้วยสิ Alejandra

Alejandra : นายกลัวรึไง ชั้นก็แค่อยากจะเห็นโลกภายนอกเอง ชั้นทำอะไรผิดเหรอ

ชายหนุ่ม : แต่ Adam ห้ามไม่ให้เราออกไป…

Alejandra : แล้วเธอก็เชื่อเขางั้นสิ

Alejandra : ลองถามตัวนายเองดู นายอยากจะเป็นคนแบบไหนกันแน่

ชายหนุ่ม : ระวัง

 

หนุ่มสาวต่างหยอกล้อจนลืมดูว่าข้างหน้าเป็นทางขาด ทั้งสองตกลงมาเจอน้ำตกแห่งหนึ่ง นั่นคือสิ่งแรกของโลกภายนอกที่พวกเขาได้เห็น

ชายหนุ่ม : ไม่เป็นอะไรใช่ไหม

Alejandra : ตัวนายยังอุ่นอยู่ ดีจังที่นายไม่เป็นอะไร

ว่าแล้วก็แลกเปลี่ยนสารแลคโตบาซิลัสกันซะหน่อย

 

กลับมาปัจจุบัน เป็น The Seeker นั่นเองที่ถูก Ghost Rider ตัดหัว

The Seeker : มันจำเป็นด้วยเหรอที่ต้องทำแบบนี้ ชั้นเป็นแค่ซอมบี้ธรรมด๊าธรรมดาที่มาดูสาวๆเต้นรูดเสาแค่นั้นเอง

Ghost Rider ไม่สนใจ เตะฟรีคิก The Seeker ไปกระแทกกำแพงตู้มเข้าให้

Ghost Rider : แกคือ The Seeker แกคือคนที่มอบ Ghost Rider ให้ชั้น ชั้นจะบุกนรกเพื่อไปเอาบาปที่ชั้นเคยกำจัดไปคืนมา ชั้นจะทำให้ทุกคนกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง

The Seeker : เธอกำลังใช้ Ghost Rider เพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวมากกว่าการแก้แค้น Zarathos จะต้องไม่พอใจแน่ และสุดท้ายวิญญาณอาฆาตก็จะผู้เลือกร่างสถิตย์

Ghost Rider : เงียบไป ชั้นจำเป็นต้องมีพลังมากกว่านี้ในการบุกนรก แกต้องมอบพลังให้ชั้น

The Seeker : เล่นมาไม้นี้ชั้นก็กระอักกระอ่วนใจที่จะตอบเหมือนกันนะ เอ่อครือว่า จะว่ายังไงดีล่ะ ชั้นทำไม่ได้ง่ะ ชั้นทำได้แค่หาร่างสถิตย์ให้ Ghost Rider แค่นั้น

Ghost Rider : งั้นก็พาชั้นไปหาใครก็ได้ที่มันทำได้

The Seeker : ก็มีคนนึงไง คนที่เคยเพิ่มพลังให้เธอจนเธอระเบิดบาปใส่คนไปซะครึ่งอเมริกาเหนือ เธอน่าจะจำได้นี่

Ghost Rider : Adam หมอนั่นยังไม่ตายรึ

 

เมื่อได้ยินดังนั้น Ghost Rider จึงออกไปรับ Adam ถึงที่ทันที

Ghost Rider : จะช่วยชั้นบุกนรก หรือจะมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านตรงนี้ เลือกมา

(หลังจากจบ #4 Adam ยังไม่ตายครับ แต่ก็บาดเจ็บจนมีพลังไม่พอจะไปตอแยกับ Ghost Rider ตรงๆได้แล้ว จะมีก็เคยส่งสองพี่น้อง Steel Wind และ Steel Vengeance มาจับตัว Alejandra แต่ก็ล้มเหลว ซึ่งในที่นี้ Ghost Rider ก็อาศัยตามรอยวาร์ปที่ Adam ใช้วาร์ปส่งมาเจอสองพี่น้องนี่ล่ะครับในการตามตัว Adam ได้ทันที)

 

Adam : Alejandra หรือ?

Ghost Rider : ไม่มี Alejandra อีกต่อไปแล้ว ชั้นคือ Ghost Rider

Adam : ถ้า Alejandra หายไป แล้วทำไมเธอถึงยังเกลียดชั้นอยู่ล่ะ ชั้นชุบเลี้ยงเธอมาเพื่อให้เธอยิ่งใหญ่นะ แล้วดูสิจุดที่เธอเป็นตอนนี้สิ งดงามมาก

Ghost Rider : แกเคยเพิ่มพลังให้ฉันมาก่อน จงเพิ่มพลังให้ชั้นอีกครั้งซะ หรือจะเป็นขี้เถ้าลอยไปตามลมแทน

Adam : เธอจะไปนรกงั้นหรือ จะไปสร้างสงครามและการทำลายล้างในดินแดนเหล่าผู้เคราะห์ร้ายของ Mephisto สินะ

Adam : แน่นอน ชั้นจะปฏิเสธได้ไงล่ะ ในเมื่อนี่คือเหตุผลที่ชั้นเลี้ยงเธอมา เพื่อการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์

 

Adam : จงสะบั้นนรกให้เป็นชิ้นๆ เมื่อนั้นทุกคนจะร่ำร้องบทเพลงแด่ Ghost Rider

“และจะไม่มีใครหยุดยั้งเธอได้”

??? : Blaze

 

อีกด้านหนึ่ง ที่ Las Vegas

เป็น Dr.Strange นั่นเอง เขามีต้องการจะคุยกับ Johnny เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดใน Circle of Four ก่อนที่ Johnny จะออกไปตามตัว Alejandra

Johnny : นึกว่าจะนายไปกับพวก Avengers แล้วซะอีก

Dr.Strange : ชั้นมีเรื่องต้องคุยกับนายเยอะเลยล่ะเพื่อน

Johnny : ชั้นรู้ ชั้นรู้ เรื่องที่ Ghost Rider หักหลังเราไปช่วย Blackheart แล้วก็เกือบจะทำโลกโดนนรกดูดกลืนลงไปสินะ

Johnny : เธอมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น มันมาจากเรื่องที่เธอก่อไว้ เธอก็แค่ต้องการพยายามจะแก้ไขมันให้ถูกต้อง เพื่อเหล่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น

Dr.Strange : นั่นไม่เกี่ยวกัน วิญญาณอาฆาตน่ะทรงพลังเกินกว่าที่จะถูกควบคุมโดยผู้ที่อ่อนแอ เธออาจจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้เลยนะ มันต้องเป็นนายสิ

Johnny : ไม่ต้องบอกหรอก ชั้นรู้น่า ว่าชั้นควรจะทำอะไร

Johnny : ชั้น… นายจะเชื่อไหม ชั้นหลงเชื่อจริงๆนะ ว่าชั้นหลุดพ้นจาก ”คำสาป” แล้ว จริงๆนะ

 

Dr.Strange : ไม่หรอก นายน่ะแข็งแกร่งยิ่งกว่าคำสาปไหนๆเสียอีก นายแบกรับพลังอันมหาศาลพอที่จะทำลายโลกได้มานานเป็นปีๆ แต่นายก็ไม่เคยหลุดจากเส้นทางแห่งความถูกต้องเลย

Dr.Strange : แต่ถึงกระนั้น แค่ความกล้าหาญของนายอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตหรอกนะ มาเถอะ วาร์ปนี้จะพานายไปหา Ghost Rider ได้ ชั้นจะไปตาม แคป, Hulk และพรรคพวกมาช่วยด้วย ถ้าพวกเราร่วมมือกัน รับรองพวกเราจะต้อง…

Johnny : ชั้นว่านายไปหาหมอรักษาเท้าเหอะ

Johnny ชักรำคาญที่หมอแปลกจะเข้ามาช่วย จึงจัดลูกซองใส่เท้าหมอแปลกหนึ่งดอก

Dr.Strange : เอ๋งงง!!

Johnny : โทษทีนะคุณหมอ แต่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยรับผิดชอบเรื่องนี้หรอก เป็นชั้นเองล่ะที่อ่อนแอ จึงทำให้เด็กหญิงคนหนึ่งต้องมารับเคราะห์ ถ้ามีใครที่ควรจะไปหยุดหล่อนไว้ก็ต้องเป็นชั้นนี่ล่ะ ชั้นพอจะเดาได้ว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน อย่าแอบตามมาล่ะ ที่นั่นสามารถหั่นนายเป็นชิ้นๆได้เชียวนะ ที่นั่นไม่ใช่ที่สำหรับนายหรอก แต่เป็นชั้นต่างหาก

แล้ว Johnny ก็เข้าวาร์ปไปคนเดียว แล้วสถานที่ที่เขาคาดเดาไว้ล่ะ จะเป็นที่ไหนกันแน่

 

ตัดมาที่นรก เหล่าปีศาจทั้งหลายกำลังนินทาเรื่องที่ Blackheart ดึงนรกขึ้นมาบนโลกกันอย่างเมามัน

ปีศาจ A: เมิงหัวเราะกรูเหรอ

ปีศาจ B : ปะ เปล่าจ๊ะ

??? : เจ้านั่นมันไม่ได้หัวเราะแกหรอก ชั้นเองแหละ เอาล่ะ นี่จะเป็นเสียงสุดท้ายที่แกจะได้ยินหลังจากที่ชั้นหักปีกไก่ของแกไปทอด KFC บอกมาสิ ผู้เฝ้าผระตูนรกเอ๋ย

ปีศาจ A กำลังถูกโซ่เพลิงรัดและดึงตัวไป

 

Ghost Rider : ว่าชั้นดูบ้าตรงไหน!?

Ghost Rider นั่นเอง เธอบุกมายังที่นี่เพียงลำพัง พร้อมด้วยพลัง Ghost Rider ที่ยกระดับพลังวิญญาณอาฆาตมาเต็มเปี่ยม

 

หลังจากทักทายแล้ว Ghost Rider ก็เปิดฉากไล่คิลทันที

Ghost Rider : หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่ชั้นได้เป็น Ghost Rider ชั้นรู้สึกดีมากเลยว่ะ เวลาได้เจื๋อนพวกแกเนี่ย

Ghost Rider : พลังมันพลุ่งพล่านไปทั่วตัวชั้น ในที่สุด Adam ก็ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสียที Ghost Rider นั้นจะคอยป้อนความแค้น แต่ที่นี่ เบื้องหลังประตูนั่น ความแค้นมากมายมหาศาลอยู่ที่นั่น ชั้นรู้สึกได้ว่ามันกำลังป้อนพลังให้ชั้นมากกว่า

Ghost Rider : นี่คือประตูนรก ที่ซึ่งเต็มไปด้วยวิญญาณมากมายไม่มีวันหมดที่ต้องการการแก้แค้น กรีดร้องโหยหาการชำระแค้นให้กับคนๆหนึ่ง จอมปีศาจผู้สมควรได้รับการลงโทษยิ่งกว่าใครๆ

Ghost Rider : Mephisto!!

 

ผ่านไปแค่หน้าเดียว Ghost Rider ก็กวาดเหล่าผู้คุมประตูนรกซะเหี้ยน

Ghost Rider : ประตูนรกที่ไม่มีทางผ่านเข้าไปได้งั้นรึ

พูดไปงั้นล่ะ ว่าแล้วก็เรียกแมงกะไซออกมาแว๊นฝ่าประตูเข้าไปแมร่มเลย

Ghost Rider : เหล่าวิญญาณในนรกเอ๋ย Ghost Rider กำลังจะไปเยือนผู้ที่สมควรได้รับการชดใช้ที่สุดแล้ว

 

ตัดมาที่ Johnny บ้าง ใช่ เขาเดาถูกว่า ว่า Ghost Rider จะต้องมานรก แต่บางทีเขาอาจจะมาช้าไปก็ได้

Johnny : นี่มันอะไรกันเนี่ย ขนาดนี้เลยเหรอ นี่มันนรกถึงขั้นกำลังจะถล่มแล้วนะ Alejandra อยู่ๆเธอก็ไปได้พลังถึงขั้นทำนรกเป็นแบบนี้ได้มาจากไหนเนี่ย

ระหว่างที่ Johnny กำลังจะไปยังประตูนรก เขาก็ถูกมังกรปีศาจขวางทางเอาไว้ เมื่อเขาถูกจับ เหล่าปีศาจตนอื่นก็ต่างกรูกันเข้ามาทันที เนื่องจากเนื้อมนุษย์ตัวเป็นๆนั้นถือว่าเป็นแรร์ไอเท็มในนรกเลยทีเดียว

Johnny เห็นท่าไม่ดีจึงหยิบสิ่งๆหนึ่งออกมาให้เหล่าปีศาจดู

Johnny : ชั้นมีสัญญากับ Mephisto นะ ถอยไปได้แล้ว ไอ้พวกนี้นี่

 

มันได้ผล เหล่าปีศาจต่างถอยทันที

มังกรปีศาจ : สัญญา? นั่นมันสุดยอดอาวุธเลยนะ

Johnny : ที่นี่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอทำไม่ได้นะ Alejandra เธอจะทำลายนรกไม่ได้ ถ้าเธอทำลายนรก บาปคนพวกนั้นรับรองว่าจะไม่มีวันกลับคืนมาแน่

Johnny พบบางสิ่งเบื้องหน้า นั่นทำให้เขาตกตะลึง นั่นคือ…

 

Ghost Rider กำลังเปิดศึกกับ Mephisto นั่นเอง

Johnny : ใช่ Ghost Rider หรือวะนั่น

ขณะนั้นเองสุดยอดอาวุธที่เขาเก็บไว้ก็เริ่มลุกไหม้ สัญญาปีศาจเปลี่ยนเป็นกระสุนสีทองไปแล้ว

 

Mephisto เป็นฝ่ายได้เปรียบ แถมยังงอกมืออีกข้างมาช่วยสู้ด้วย

Mephisto : ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ ชั้นพึ่งจะคืนชีพให้แกไปไม่ใช่รึไง

Mephisto : ไอ้การบุกนรกซึ่งๆหน้าแบบนี้มันไม่ใช่งานของ Ghost Rider นะ แต่ชั้นพอจะเดาได้ แกต้องการบาปของพวกคนที่แกกำจัดบาปไปคืนสินะ

Mephisto : แกต้องการแก้ไขเรื่องที่แกเคยก่อให้ถูกต้องล่ะสิ การชดใช้, ความสำนึกผิด และการยกโทษ นี่ไม่มีใครรู้เลยเหรอ ว่าชั้นน่ะทรมานพวกแกไม่ได้นะ เป็นพวกแกเองต่างหากที่ทำตัวเองก่อนทั้งนั้น จนทำให้ชั้นเข้าไปร่วมทรมานพวกแกได้

 

คราวนี้ Mephisto ขอใช้ออปชั่นเสริมบ้าง Mephisto เรียกตรีศูลจากทะเลเพลิงเบื้องล่างเพื่อจะใช้ปลิดชีพ Ghost Rider

Mephisto : การแว้งกัดใส่ชั้น ในดินแดนของชั้นมันเป็นสิ่งที่ชั้นไม่อนุญาตนะ คงถึงเวลาแล้วล่ะ ที่ชั้นจะต้องจบชีวิตอันแสนสั้นของแกเสียที

Mephisto : แกมันเป็น Ghost Rider ที่น่าอดสูเสียจริง ถึงแกตายไปก็ไม่มีใครคิดถึงแกหรอก เอาล่ะชั้นจะบอกอะไรดีๆให้ก่อนที่แกจะหายไป

Mephisto : รู้ไหมทำไมชั้นถึงต้องคอยไปยุ่งกับ Ghost Rider ตลอดเวลา

Mephisto : นั่นเพราะ Ghost Rider คือกำปั้นของพระเจ้า ส่วนชั้นคือเจ้านรกไงล่ะ เอาล่ะ สนุกมามากพอแล้ว เวทีต้องปิดม่านแล้วล่ะ

 

แต่ Ghost Rider ก็ไม่ยอมง่ายๆ คราวนี้ถึงที Ghost Rider ตอบโต้บ้าง

Ghost Rider : แล้วแกอยากลองกำปั้นของพระเจ้าบ้างไหมล่ะ

Ghost Rider สวน Mephisto กลับอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับควักหัวใจ Mephisto ติดมือมาด้วย

Ghost Rider : จงดูกำปั้นของพระเจ้าซะ

Mephisto : กะ แกทำได้ไง…

 

Ghost Rider : เลือกซะ จะคืนบาปมา หรือว่าจะอกแตกตาย

เจอแบบนี้เข้าให้ Mephisto ถึงกับกลายเป็นลูกไก่ในกำมือไปเลย

(หายากนะเนี่ย Mephisto ยอมหงอ)

Mephisto : ถ้าเธอทำแบบนั้น ที่นี่ก็จะหายไป บาปของทุกคนก็จะหายตามไปด้วย นั่นล่ะนรกของแท้

Ghost Rider : ไม่หรอก ชั้นว่านั่นมันแค่ลมปากของปีศาจที่โกหกเพื่อให้ตัวเองรอดแค่นั้น

Ghost Rider : งั้นก็เตรียมตัวตายได้

Mephisto : ไม่

เมื่อจนตรอกสุดๆ Mephisto จึงเสกหีบทองคำขึ้นมาใบหนึ่่ง เป็นหีบที่บรรจุบาปไว้นั่นเอง

Mephisto : นี่คือบาปของเหล่าคนที่เธอลงมือในนิการากัว รับไป แล้วก็ออกไปจากที่นี่ซะ

เธอทำได้ ในที่สุด Alejandra ก็จะได้ชดใช้ความผิดของเธอเสียที แต่นั่นมันยังไม่พอ เมื่อตรงหน้าเธอคือคนที่สมควรถูกความแค้นลงโทษมากที่สุด

Ghost Rider : ความเศร้าโศกทั้งหมดทั้งมวลที่แกก่อขึ้น ถ้ามีใครที่สมควรถูกแก้แค้น นั่นก็ต้องเป็นแก จงดูหัวใจอันดำมืดของแกมอดไหม้กลายเป็นจุลซะ

Mephisto : อย่า!!

 

ปัง!

ในที่สุดความบ้าคลั่งของ Ghost Rider ก็ถูกหยุดด้วยฝีมือของ Johnny Blaze และกระสุนทองคำนั่นเอง

Johnny : โอเค เป็นอันสิ้นสุดสัญญาแล้วนะ Mephisto พับสัญญาไปได้เลย

(ตรงนี้ผมเดาว่าสัญญาอันนี้คือสัญญาที่ Johnny ลงชื่อไว้เพื่อขอมอไซอวกาศใน #4 นั่นเอง)

 

หลังจากที่ Ghost Rider ถูกกระสุนทองคำ ก็กลับคืนสู่ร่าง Alejandra ตามเดิม แต่แรงกระสุนก็พาเธอกระเด็นลงทะเลเพลิง โชคดีที่เธอสามารถเกาะโขดหินไว้ได้ทัน แต่โชคร้ายที่หีบบรรจุบาปกลับไม่ได้ติดมือ Alejandra มาด้วย

Alejandra : ไม่นะ!

 

Johnny : Alejandra! รอก่อนนะ

Johnny เห็น Alejandra กำลังแย่ จึงรีบบึ่งมอไซโดดข้ามฝากไปหา Alejandra ทันที

(อะ เอ่อผมรู้นะว่าพี่เป็นสตันท์มอไซผาดโผน แต่นี่มัน… ไกลเว่อเกินคนแล้วนะครับพี่)

แม้แต่ Mephisto ยังตะลึงกับสิ่งที่เห็น

ข้ามผ่าน ลงจอดอย่างสวยงาม เมิงทำได้ไงวะ

 

Johnny : อย่าเชียวนะ ชั้นรู้ว่าเธอจะทำอะไร

Johnny : เธอทำดีที่สุดแล้ว มันไม่ใช่ความผิดของเธอ เป็นชั้นเองที่ผิด ชั้นทำให้เธอต้องมาเป็นแบบนี้ ชั้นยอมแพ้ให้กับ Ghost Rider เพราะชั้นมันอ่อนแอและเห็นแก่ตัว

Johnny รู้สึกผิดกับเรื่องที่ตัวเองเป็นสาเหตุจนน้ำตาเริ่มคลอเบ้าขณะตนเองกำลังพยายามจะพูดกล่อมช่วย Alejandra

Johnny : ชั้นไม่ใช่คำสาป เธอก็ไม่ใช่คำสาป มันไม่เกี่ยวหรอกว่าเคยเกิดอะไรกับเราในอดีต เราเลือกที่จะเป็นคนดีได้ ถ้าเราอยากจะเป็น

Alejandra : ชั้นทำร้ายผู้คนนะ ชั้นไม่ได้ใช้ Ghost Rider เพื่อจุดประสงค์ที่ควรจะเป็น และนั่นทำให้ชั้นสมควรได้รับ

Alejandra : การแก้แค้น…

 

Johnny : อย่านะ!

Alejandra : วิญญาณอาฆาตจะเป็นผู้เลือกร่างสถิตย์

Johnny เห็น Alejandra ยอมตาย จึงตัดสินใจแว๊นตามลงไป

Johnny : โธ่เว๊ย จะให้ยอมแพ้กับนรกเหรอ ตายซะยังจะดีกว่า

 

และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

“วิญญาณอาฆาตเป็นผู้เลือกงั้นหรือ” 

“ใครบอกล่ะ”

“ชั้นต่างหากที่เลือก”

“เหมือนอย่างที่ชั้นทำทุกที”

ในที่สุด Johnny ก็ตัดสินใจยอมกลับมาแบกรับอดีตของตัวเอง กลับมาเป็น Ghost Rider อีกครั้ง และช่วย Alejandra ได้สำเร็จ ก่อนที่จะแว๊นขึ้นฟ้าออกจากนรก ทิ้ง Mephisto ให้นั่งมองตาปริบๆ

Mephisto : เป็นการหลุดพ้นอย่างดงามเลยนะเนี่ย

 

กลับมาบนผืนโลก แม้ Alejandra จะรอดชีวิต แต่เพลิงนรกก็เผาร่างกายเธอจนมอดไหม้แทบจนแทบไม่เหลือเค้ามนุษย์

(ดูเผินๆนึกว่า SIN นะนั่น)

Alejandra : ชั้นไม่ใช่ Ghost Rider อีกต่อไปแล้ว

Ghost Rider : เพราะพลังวิญญาณแห่งความแค้นที่เธอได้รับมามันมากไป ทำให้เธอยังหลงเหลือพลัง Ghost Rider อยู่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรอดชีวิต แต่ Zarathos ไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว และเธอก็ไม่ใช่ Ghost Rider แล้ว

Ghost Rider : เป็นชั้นเอง ตลอดมา มันควรจะเป็นชั้น ชั้นต้องขอโทษเธอจริงๆ

Alejandra : ชั้นเป็น…

“ผิวหนังมนุษย์ รู้สึกดีเหลือเกิน”

Alejandra : ชั้นเป็นสัตว์ประหลาด

Ghost Rider : ก็ตามใจ ถ้าจะคิดแบบนั้น แต่มีอย่างนึงที่เธอควรจะได้เห็น ก่อนที่จะตัดสินใจแบบนั้น

 

Ghost Rider : เธอทำสิ่งที่ถูกต้องให้กับคนเหล่านั้นแล้วนะ

“นำบาปกลับคืนมาให้พวกเขา นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาเป็นคนเลว แต่นั่นทำให้พวกเขากลับมาเติมเต็มอีกครั้ง”

“ทุกคนต่างก็ทั้งความดีและไม่ดีอยู่ในตัว อยู่ที่ว่าเราจะใช้มันยังไง”

Ghost Rider : เธอลงโทษตัวเธอเองมามากพอแล้ว

Alejandra : ชั้น…

Ghost Rider : ไม่เอาน่า ป่ะ ไปซิ่งกันหน่อยไหม

Alejandra : ไม่ล่ะ นายทำให้ชั้นเป็น Ghost Rider แล้วนายก็เอามันคืน แถมนายยังยิงชั้นอีก จริงๆนายควรจะได้รับ

Alejandra : การแก้แค้นไปด้วยนะ

 

Ghost Rider : แล้วนั่นจะไปไหน

Alejandra : ไม่รู้สิ

Ghost Rider : อืม ไม่เป็นไร ยังไงเธอก็รู้อยู่ดีว่าตามหาชั้นได้ที่ไหน

หลังจาก Aljandra แยกทางไป Ghost Rider ก็ออกเดินทางบ้าง

Ghost Rider : ใครจะกล้ามาลงโทษ Ghost Rider เฮอะ มาเจอกันบนผืนถนนได้เลย

 

เป็นอันว่าบทสรุปของ Aljandra ก็มาถึงจุดสิ้นสุดเสียที

และซีรีย์ Ghost Rider ก็จะสิ้นสุดที่ตอนนี้เช่นกันครับ ทาง Marvel ไม่ทำตอนต่อแล้ว

(คงต้องรอออก Volume ใหม่ไม่ก็ไปแจมกะเล่มชาวบ้านเอาลูกเดียว)

สุดท้าย ขอขอบคุณที่ติดตามซีรีย์นี้ครับ

Ghost Rider #4

Ghost Rider #4

เรื่อง : Rob Williams

ภาพ : Matthew Clark, Sean Parsons, Rob Schwager

วางจำหน่าย : 12 ตุลาคม 2011

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

 

 

 

ในที่สุดแผนของ Adam ก็มาถึงขั้นสุดท้าย

นั่นคือการใช้พลัง Ghost Rider ส่งผ่านกล้องโทรทรรศน์อวกาศเพื่อกำจัดบาปแบบครั้งเดียวหมดโลกนั่นเอง

 

 
“ชั้นเคยคิดว่าที่นี่จะมีดวงดาวมากมาย”

“แต่สิ่งที่ชั้นเห็นมีแค่สีสัน ที่ถูกล้อมรอบด้วยความมืดอันหิวโหยเพียงเท่านั้น”

“ตอนนี้ชั้นอายุ 18 ปีแล้ว”

“ชื่อของชั้นคือ Alejandra”

“ชั้นคือ Ghost Rider”

“ตั้งแต่เกิดมาจนถึงเมื่อวาน ชั้นไม่เคยได้ออกไปเห็นโลกนอกวิหารเลย”

“ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

เบื้องหลัง Ghost Rider ปรากฎนักบินอวกาศ 2 คน ซึ่งถูกขจัดบาปไปแล้วเรียบร้อย

“และตอนนี้ชั้นต้องมาช่วยชีวิตมนุษย์ทั้งโลก”

 

Adam: สถานีอวกาศแห่งนี้เคยจับภาพที่เรียกว่าสุดขอบอวกาศได้ นั่นเป็นภาพอวกาศของจริงที่อยู่ห่างจากเรามาก และพึ่งเกิดมาเมื่อ 400 ล้านปีก่อนหลังเกิดบิ๊กแบง

Adam: อาทิตย์และเหล่าดวงดาวจากเมื่อ 13 พันล้านปีก่อน รุ่งอรุณแห่งอวกาศ

“และสถานีอวกาศแห่งนี้ก็สามารถจับภาพนั้นได้ นี่คือความยอดเยี่ยมของกล้องโทรทรรศน์อวกาศขั้นสุดยอด”

“เราจะใช้พลังทั้งหมดของเธอรวบรวมเป็นจุดเดียวส่งผ่านจากเลนส์กล้องลงไปยังโลก เหมือนกับการใช้แว่นขยาย”

 

“Adam กำลังพูดอยู่ แต่ชั้นไม่ได้ยินหรอกว่าเขาพูดอะไร”

“เขาไม่เคยบอกชั้นว่ามีเสียงๆหนึ่งอยู่ในหัวของชั้น กระซิบบอกกับชั้น”

“เขาไม่เคยบอกชั้นหลายอย่างเลยล่ะ”

“เสียงนั้นบอกชั้นว่ามันคือปีศาจนาม Zarathos มันยังบอกชั้นอีกว่ามันกับชั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน และตอนนี้มันอยากจะออกมาแล้ว”

“มันเผาผลาญและมอดไหม้อยู่ภายในตัวชั้นด้วยแรงกระหายแห่งความแค้น”

“มันทำให้ชั้นเห็นภาพที่แท้จริงของสวรรค์และนรก และความจริงที่ชั้นเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 18 ปีเท่านั้น”

“มันสามารถตามกลิ่นบาปในจากสิ่งมีชีวิตได้ แต่นักบินอวกาศสองคนกลับไม่มีกลิ่นของบาปแล้ว”

“เหมือนว่าชั้นได้เอาความมีชีวิตของพวกเค้าไปด้วยตอนที่ชั้นกำจัดบาปออกไปจากพวกเค้า”

“เหมือนที่ชั้นทำกับเพื่อนร่วมวิหารเหล่านั้น”

“Adam บังคับให้ชั้นทำ”

“Zarathos ได้กลิ่นของบาป”

“และตอนนี้มันกำลังกรีดร้องอยู่”

Adam: ได้เวลาแล้ว Alejandra

 

ตัดมาที่แห่งหนึ่งในนิการากัว

Johnny บุกไปหา Mephisto ถึงที่

Johnny: Mephisto! ชั้นต้องการมอเตอร์ไซอวกาศ ณ บัด นาว!!

Mephisto: อา… Johnny Blaze นั่นเอง ชั้นต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เนื่องจากไม่มีใครให้ความสนใจรถเหล่านี้ ชั้นเลยต้องปิดกิจการซะแล้ว

Johnny: อย่ามาฮา นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น แกให้ชั้นช่วยแก เพราะมันกระจอกเกินกว่าที่จะจัดการ Ghost Rider ด้วยตัวแกเองได้ และชั้นก็ตกลงช่วยแก

Johnny เริ่มอ้อนวอน Mephisto ด้วยการเอาลูกซองมาจ่อกบาล Mephisto

Johnny: และตอนนี้ชั้นต้องการมอเตอร์ไซอวกาศ รีบเอามันมาซะ ชั้นจะได้ไปจัดการเจ้านั่นซะที

Mephisto: อืม ขอคิดดูก่อนนะ

Johnny ไม่รอเล่นลิ้นอะไรทั้งนั้น ตั้งไกปืนเตรียมเหนี่ยว Mephisto แล้ว

Mephisto: ชั้นคิดได้ละ ไม่ว่ะ

 

Mephisto เปลี่ยนลูกซองของ Johnny ให้กลายเป็นปากกาขนนก พร้อมด้วยม้วนกระดาษสัญญา

Mephisto: Satre เคยกล่าวว่า “นรกคือคนผู้อื่น” นั่นเป็นประโยคที่งดงามมาก แต่นั่นมันผิด นรกคือสิ่งที่ชั้นเลือกจะให้มันเป็นต่างหาก

Johnny: นายมาหาชั้น นายต้องการให้ชั้นช่วยจัดการ Adam

Mephisto: ช่าย ชั้นขอให้นายช่วย Adam และสงครามล้างบาปมันริดรอนพลานุภาพชั้น และชั้นต้องการที่จะคงความทรงพลานุภาพเหมือนที่ผ่านๆมาด้วย

Mephisto: แต่ชั้นทรงพลานุภาพได้เพราะมนุษย์มาหาชั้นเพื่อสิ่งที่พวกเค้าสิ้นหวังจนต้องการมันจริงๆ สิ่งที่มีแค่ชั้นเท่านั้นที่สามารถบันดาลให้ได้

Mephisto: และตอนนี้ชั้นรู้สึกเปี่ยมพลานุภาพสุดๆไปเลยล่ะ เอาล่ะ บอกชั้นมาสิ ว่านายต้องการไอ้เจ้ามอเตอร์ไซอวกาศมากแค่ไหน

Mephisto: นายรู้สึกต้องรับผิดชอบอย่างไรกับสิ่งที่เกิดบนโลก และสิ่งที่นายจะจ่ายเพื่อช่วยโลกนั้นคืออะไร

 

– Satre และประโยค “นรกคือคนผู้อื่น “ที่ Mephisto คือ ฌ็อง-ปอล ซาทร์ (Jean-Paul Sartre) นักเขียนนวนิยาย, นักบทละคร, นักปรัชญา และผู้มีบทบาทสำคัญในแนวคิดอัตถิภาวนิยมหรือทฤษฎีที่ว่าทุกคนนั้นอิสระและรับผิดชอบในการกระทำของตน (Existentialism) เป็นนักปรัชญาผู้ประกาศเสรีภาพของมนุษย์ในแง่ปัจเจกชน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) แต่ไม่ยอมรับรางวัลดังกล่าว หนึ่งในประโยคที่โด่งดังมาจากหนังสือของเขาเรื่อง No Exit นั่นคือคำว่า “L’enfer, c’est les autres,” โดยแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “Hell is other ” นั่นเอง

 

ในที่สุด Johnny ก็ออกเดินทางสู่อวกาศ

 

Johnny: แน่ใจเหรอว่าเธอจะอยู่ที่นั่น

The Seeker: ชั้นคือ The Seeker นะเพื่อน การตามหา Ghost Rider คือเหตุผลในการมีชีวิตของชั้น ชั้นมาที่นี่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไปตามทางที่เธอเลือก เพื่ออุทิศตัวเองให้แด่…

Johnny: วิญญาณอาฆาต

The Seeker: ถูก!

Johnny: ตามพระคัมภีย์ไบเบิล นักรบจะถูกส่งมาเพื่อสนองกรรมให้กับผู้ที่สมควรจะได้รับมัน

The Seeker: ขอยืนยันว่าใช่

Johnny: เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิง หญิงสาวคนหนึ่ง ตอนนี้เธอกำลังหวาดกลัวในความเจ็บปวด และติดอยู่กับสภาวะทางจิตที่เกิดขึ้นกับเธอ

Johnny: และแกก็สร้าง Ghost Rider ขึ้นมาโดยที่ไม่ได้คิดถึงคนๆนั้นเลย

The Seeker: รู้สึกเหมือนชั้นจะทำพลาดแฮะ

Johnny: สำหรับซอมบี้แล้ว นายไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ ชั้นไม่ได้อยากจะเสียใจเรื่องนี้ทีหลังเรื่องอื่นนะ แต่ชั้นเสียใจที่นายแค่ต้องการใช้ Ghost Rider

Johnny ดึงสวิทช์บางอย่างออกมา

 

สวิทช์นั่นคือสวิทช์ปล่อยตัวเบาะหลังนั่นเอง

Johnny: โทษทีนะเพื่อน

The Seeker: อืม… ว่าแต่นายมีร่มชูชีพให้ด้วยรึเปล่าเนี่ย

กลับมาที่ Johnny เขาได้มาถึงสถานีอวกาศแล้ว

Johnny: กล้องโทรทรรศน์อวกาศอันเบ้อเริ่มเลยแฮะ

Johnny: พร้อมด้วยประตูที่ท่าทางจะหนาเว่อร์

Johnny: ไม่มีวิธีเข้าไปได้เลยรึไงเนี่ย

 

Johnny: โชคดีที่เจ้าบ้านั่นให้ของดีติดมาด้วย

จรวดมิซไซล์นั่นเอง Johnny ยิงเข้าหาประตูทันที 2 ลูก

ตูม! สอยยานอวกาศด้วยเป็นของแถม

Johnny: ตายโหง ชั้นแค่จะระเบิดประตูแค่นั้นนะ

Johnny: ท่าจะแพงมากๆซะด้วย และดูเหมือนนี่จะไม่ใช่การเข้าไปอย่างลับๆแล้วล่ะ แต่ยังไงก็ต้องเข้าล่ะวะ ไม่มีทางเลือกแล้ว

 

“ชั้นควรจะตกใจกลัวเมื่อชั้นได้ยินเสียงระเบิด พื้นยานสั่นสะเทือนและพร้อมจะตกได้ทุกเมื่อ”

Adam: ตอนนี้ล่ะ ต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น!

Adam: ฟังชั้นนะ ตอนนี้ The Serpent กำลังจะสร้างโลกให้กลายเป็นเทศกาลเลือด มันไม่มีความหวังอะไรอีกแล้วสำหรับมนุษย์ ต่อให้พวกเค้ารอดจากสงครามนี้ได้ก็เถอะ บาปนั้นแข็งแกร่งเกินไป

“บางอย่างในตัวชั้นบอกว่านี่มันเป็นแค่ทางเลือก”

Adam: ชั้นรู้ Alejandra ชั้นอยู่ ณ จุดนี้ในฐานะผู้ให้กำเนิดบาป ชั้นคือการเสียสละ

“บอกว่านี่เป็นการปูทางไปสู่นรก”

Adam: เธอไม่รู้หรอกว่าชั้นต้องแบกรับความผิดนี้มานานแค่ไหน และในที่สุด ก็ได้เวลาสิ้นสุดมันเสียที

Adam เริ่มควบคุมพลังของ Ghost Rider อีกครั้ง

“พลังกำลังก่อตัว และคงไม่มีทางหยุดมันได้แล้ว”

 

ตัดมาที่ Johnny ที่กำลังโดนดูดเพราะแรงอัดอากาศจากที่ประตูระเบิด

Johnny: โว้ว ไอ้ประตูนั่นมันมีไว้กันแรงดันอากาศเหรอเนี่ย

Johnny กำลังจะโดนดูดเข้าไปอัดกับเฟืองยักษ์

Johnny: เหมือนหนังไซไฟเลย ต่อไปมันก็คงจะกระแทกชั้นกับไอ้มอเตอร์ไซนี่จนเป็นปลากระป๋องแหง

Johnny โชว์เมพเอาตัวรอดด้วยการเอาล้อไปกระแทกกับขอบเฟืองเพื่อดีดตัวออกมา

Johnny: เอ่อ หวัดดี ชั้นขอจอดที่นี่ได้ไหม

 

เบื้องหน้า Johnny คือนักบินอวกาศที่โดนขจัดบาปไปแล้วนั่นเอง

Johnny: นักบินอวกาศก็โดนเธอทำให้เอ๋อไปด้วยแล้ว

Johnny: นี่มันไม่ถูกต้อง พวกนายคือฮีโร่นะ

Johnny: พวกนายสมควรได้รับอะไรที่มันดีกว่านี้

Johnny รู้สึกเสียใจกับผลลัพธ์ที่เกิดจากกระทำของตัวเอง จึงจับส่งนักบินอวกาศใส่ยานเล็กกลับโลกไป เพื่อไม่ให้โดนลูกหลง

“ชั้นเสียใจ”

“กับทุกสิ่งทุกอย่างที่จิตใจที่อ่อนแอและเห็นแก่ตัวของชั้นก่อมันขึ้นมา”

 

“ทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปเมื่อชั้นยอมแพ้ให้กับ Ghost Rider”

“และตอนนี้ ชั้นจะทำให้ทุกอย่างกลับมาถูกต้องดังเดิม”

ในที่สุด Johnny ก็พบ Ghost Rider ในสภาพที่ลอยตัวอยู่พร้อมด้วยไอเพลิงนรกที่กระจายออกมาทั่วตัว และพลังนั่นก็กำลังส่งผ่านเลนส์กล้องโทรทรรศน์อวกาศลงไปยังโลก

 

“ชั้นกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ”

“ชั้นอยากจะกรีดร้องออกมา แต่มันติดอยู่ในคอชั้น ชั้นอยากจะหยุดพลังนี้ แต่ชั้นไม่รู้วิธีที่จะหยุดมัน”

“คนที่ทรงพลังรู้วิธีหยุดมัน แต่ชั้นไม่ใช่พวกคนประเภทนั้น”

Johnny: หยุดนะ

Ghost Rider: ชั้นหยุดไม่ได้ เขาควบคุมชั้นไว้ มันช่างทรงพลังเหลือเกิน ทรงพลังเกินไปสำหรับคนอย่างชั้น

Johnny: ยัยโง่! นี่เป็นพลังของเธอ เธอสามารถควบคุมมันได้นะ

Ghost Rider: Adam… Adam เลี้ยงชั้น ฝึกชั้นมาเพื่อการนี้ เขาสร้างชั้นขึ้นมา และชั้น… ชั้นเป็นเพียงแค่…

 

Johnny ฝ่าเข้ากองเพลิงนรกเพื่อให้เข้าใกล้ Alejandra ได้มากขึ้น

Johnny: เธอเป็นอะไรก็ได้ที่เธออยากจะเป็น!

Johnny: ฟังชั้นนะ ไม่ว่าเธอจะผ่านอะไรมาในอดีต ไม่ว่าเธอจะเป็นใครในตอนนี้ ไม่ว่า Adam หรือใครก็ตามบอกว่าเธอเป็นใคร

Johnny: มันไม่มีคำสาปหรอก ชั้นพึ่งจะเข้าใจเอาตอนนี้เอง มันมีแค่การกระทำ! สวรรค์, นรก หรือว่าทั้งสองอย่าง จงเป็นในสิ่งที่เธออยากจะเป็นสิ

ปัง! Johnny ถูกยิงกลางอกเต็มๆ

Adam: เป็นคำพูดที่งดงามมาก Johnny Blaze

Adam: จงดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ซะ สิ่งที่เกิดขึ้นจากชั้น!

 

Adam: แกคิดว่าชั้นอยากเป็นผู้ให้กำเนิดบาปรึไง เราเคยอยู่กันอย่างสงบสุข แต่มันรู้ว่าชั้นต้องอยากรู้ มันรู้ว่าชั้นไม่อาจต่อต้านมันได้ เขาจึงให้ชั้นสร้างต้นกำเนิดบาปขึ้นมา!

Adam: มันโกหกชั้น! ทำให้ชั้นต้องจมอยู่กับความละอายและความผิดตั้งแต่วันนั้น แกรู้บ้างไหมว่าชั้นต้องแบกรับมันมานานแค่ไหน ชั้นต้องคอยมองดูมนุษย์ล่มสลายเพราะผลจากสิ่งที่ชั้นทำลงไป ชั้นจะไม่ทนมันอีกต่อไปแล้ว! ชั้นเลี้ยงเด็กพวกนี้ ฝึกเด็กพวกนี้มาเพื่อการนี้ เวลานี้!

Adam: เวลานี้ล่ะ ที่ชั้น…

Ghost Rider: เดี๋ยว

Ghost Rider: ต้นกำเนิด “บาป” งั้นรึ

“สงครามของเขา เขาเพียงแค่พยายามแก้ไขสิ่งที่เขาก่อขึ้นมาเท่านั้น”

“Adam เลี้ยงชั้นมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ฝึกเพื่อให้ชั้นเป็นนักรบ พ่อเพียงคนเดียวที่ชั้นรู้จัก”

“เขาสอนให้ชั้นสู้”

“และเมื่อเวลาผ่านไป ชั้นก็ตัดสินใจได้แล้ว ว่าชั้นจะสู้เพื่ออะไร”

Ghost Rider: ชั้นรู้ว่านายเป็นคนเลี้ยงชั้นมา ชั้นก็อยากจะพูดอะไรที่มันซึ้งๆตรงนี้เหมือนกัน แต่ว่านะ… ไอ้คุณพ่อ

 

Ghost Rider: ไปจูบก้นชั้นแทนเหอะ!

Ghost Rider อัดพลังระยะประชิดใส่ Adam เต็มๆ

Johnny: มีคนบ้าอยากได้ Ghost Rider และมันก็ได้ไปเต็มๆ

แรงระเบิดที่ Ghost Rider อัดใส่ Adam ส่งผลให้สถานีอวกาศระเบิดตามไปด้วยทั้งยาน

“เป็นพวกคนเลวเหรอ”

 

“ชั้นไม่เอาด้วยหรอก”

Johnny และ Ghost Rider หนีออกมาจากระเบิดได้ทันเวลาด้วยมอเตอร์ไซอวกาศคันเดิม

 

Johnny: ไอ้จ๋อ หน้าตาแกดูดีจังเลยว่ะ

Johnny: นี่ไม่ใช่คำแรกที่ชั้นอยากจะพูดหลังจากที่ตายไปแล้วหรอกนะ แต่การตายก็เหมือนเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งใช่ไหม

Alejandra: นายยังไม่ตาย

Alejandra: Adam ยิงนายด้วยเพลิงนรก ชั้นถอนเพลิงนรกออกจากร่างนายให้แล้ว

Alejandra: ชั้นคิดว่าชั้นติดหนี้นาย

Alejandra: ชั้นติดหนี้ผู้คนมากมาย นักบินอวกาศพวกนั้น เหล่าผู้คนที่นี่

Alejandra: นายบอกว่าชั้นสามารถควบคุมมันได้ และจงเป็นในสิ่งที่ชั้นอยากจะเป็น ชั้นจะไปตามหาวิธีคืนวิญญาณให้แก่คนเหล่านี้ น่าจะมีใครสักคนที่รู้วิธี

Johnny: ชั้นจะช่วยเธอเอง

Johnny: ชั้นรู้จัก Ghost Rider ดี บางทีชั้นอาจจะช่วยแนะนำเธอได้ ว่าเรื่องผิดพลาดอย่างไหนที่ไม่ควรทำ

Alejandra: นายจะบอกว่าชั้นควรจะทำอะไรงั้นรึ

 

Alejandra เปลี่ยนร่างเป็น Ghost Rider และถีบยอดอก Johnny เข้าให้หนึ่งป้าบ

Ghost Rider: ชั้นรู้ว่าชั้นควรจะทำอะไร เรื่องนี้ไม่จำเป็นสำหรับคุณปู่ชุดหนังหรอก

Johnny: คุณปู่ชุดหนัง?

Ghost Rider: Ghost Rider ตามไล่ล่าบาปและผู้คนที่สมควรจะได้รับความสำนึกผิดต่อบาป Ghost Rider พบชั้น

Ghost Rider: และชั้นก็แก้ไขทุกอย่างให้ถูกต้องเอง

และ Ghost Rider ก็จากไป

Ghost Rider #3

Ghost Rider #2

เรื่อง : Rob Williams

ภาพ : Brian Ching, Sean Parsons, Rob Schwager

วางจำหน่าย : 14 กันยายน 2011

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

 

ในที่สุด Johnny ก็ได้พบ Alejandra ร่างสถิตย์ร่างใหม่ของวิญญาณอาฆาตที่ดูท่าทางจะไม่ญาติดีกับ Johnny เอาเสียเลย

มาดูกัน ว่าคนที่ไม่มีพลังพิเศษในตัวแล้วอย่าง Johnny จะสามารถเอาตัวรอดจาก Ghost Rider ได้หรือไม่

 

 

 

 

 

“สิ่งที่ดีที่สุดในการเป็น Ghost Rider น่ะหรือ?”

“การได้ออกท่องโลกกว้างสุดลูกหูลูกตายังไงล่ะ”

“คงไม่มีคนปกติที่ไหนมีโอกาสได้เจอนิกายที่มีแต่คนพกปืนที่วิหารในป่าหรอก”

“Ghost Rider กลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว แถมขี้วีนซะด้วย!”

Ghost Rider: บาป!

Johnny: เฮ้ เบามือหน่อยก็ได้ ชั้นก็มีเลือดมีเนื้อนะ ถึงเราจะเจอหน้าครั้งแรกแบบไม่ได้ตั้งใจก็เหอะ

 

Ghost Rider ไม่สนใจอะไรอะไรทั้งนั้น เตรียมเงื้อดาบจะสะบั้นคอ johnny เต็มที่

Ghost Rider: แกต้องชดใช้

ทันใดนั้นก็มีมือคนๆหนึ่งเข้ามารับคมดาบแทน johnny

The Seeker: แย่

 

The Seeker: เป็นร่างสถิตย์ที่แย่มาก ไม่ได้หมายถึงนายนะ ว่าแต่ไม่เป็นไรใช่ไหม

The Seeker: อย่าฝืนดีกว่า ชั้นสามารถลดพลังของ Ghost Rider ได้นะ ชั้นคือ The Seeker ชั้นมาที่นี่เพื่อตามหา Ghost Rider คนต่อไป เพื่อตามกลิ่นร่างสถิตย์ที่สมบูรย์แบบที่สุด และชั้นก็เลือกเธอ

The Seeker: นี่ไม่ใช่สิ่งที่ Ghost Rider ควรทำ วิญญาณอาฆาตมีไว้สำหรับผู้ที่สมควรจะได้รับมันเท่านั้น เธอไม่จำเป็นต้องกำจัดบาปออกไปจากคนทั้งโลกหรอกนะ

The Seeker: หากปราศจากบาป คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว

The Seeker: Alejandra ฟังชั้นนะ ชั้นมาที่นี่เพื่อช่วยเธอ เธอกำลังถูก Adam หลอกใช้อยู่

ตูม!!

 

เป็น Adam นั่นเองที่เล่นงาน The Seeker จนกระเด็น
Adam: เธอกำลังแสดงพลานุภาพอยู่

Adam: จะมีใครรู้จักบาปดีไปกว่า Adam คนนี้ ในเมื่อชั้นนี่แหละที่สร้างมันมาเองกับมือ

Adam ส่งพลังตัวเองผ่านกะโหลก Ghost Rider เพื่อควบคุมพลังนั้น

Adam: ชั้นคือผู้สร้างบาป และด้วยการมอบพลังนี้ให้แก่ Ghost Rider ชั้นก็สามารถกำจัดบาปทั้งหมดได้

Adam: ชั้นจะแสดงให้แกดูเอง johnny ถึงสิ่งที่แกควรจะทำมาตั้งนานแล้ว

Adam: ซึ่งนั่นคือความผิดพลาดของแก

Ghost Rider: ชั้นคืออาวุธที่จะช่วยโลก

 

Adam เริ่มร่ายมนต์บางอย่างเพื่อเพิ่มระดับพลังวิญญาณอาฆาต

Adam: “และข้าเห็นเทพธิดาประกาศด้วยเสียงอันกึกก้องว่า “ใครกันที่คู่ควรพอจะเปิดคัมภีย์และปลดผนึกนั้น?”” “และไม่มีผู้ใดบนสวรรค์ บนโลกหรือแม้แต่โลกเบื้องล่างก็ไม่มีใครสามารถเปิดมันได้ นั่นทำให้ข้าโศกเศร้าเป็นอย่างมาก” ไม่มีผู้ใดทำได้ แต่เธอทำได้

Johnny เห็นท่าไม่ดีจึงจะเข้าไปหยุด แต่กลับเป็นเขาถูกผลักกระเด็นออกมาเสียเอง

Adam: “และจงเบิกตาดูจากนี้ไป แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ อาทิตย์จักถูกย้อมจนดุจสีหม่น”

เหล่าจิ้งหรีดเริ่มรวมตัวกับพลังวิญญาณอาฆาตจนก่อตัวเป็นช็อบเปอร์คันเท่าบ้าน

Adam: “และดวงจันทร์จักแดงฉานดุจโลหิต”

 

วิหารกำลังจะถล่ม โชคดี johnny หลบสายฟ้าได้ทัน จึงรอดตายหวุดหวิด

Johnny: Ghost Rider มีพลังมากเกินไป ชั้นเข้าใกล้เธอไม่ได้เลย

The Seeker: พลังงานในตัวเธอกำลังก่อตัวอยู่ อีกไม่นานมันจะระเบิด

The Seeker: เราต้องหนีแล้วล่ะ เรื่องราวมันกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว

Johnny: หนี? เลวร้ายขนาดนั้นเชียว

The Seeker: โคตรๆเลยล่ะ

 

Johnny: ชั้นไม่ค่อยเข้าใจที่แกพูดหรอกนะ แต่ถ้าแกช่วยหล่อนได้ แกก็มากับชั้นซะ

Johnny สตาร์ทมอไซเตรียมโกยเถอะโยม

Johnny: เอาล่ะ งั้นก็เผ่นกันเถอะ

The Seeker: นี่ชั้นจะได้เป็นสก๊อยซ้อนท้ายอดีต Ghost Rider รึนี่ เป็นเกียรติจริงๆ

The Seeker: มันทำให้ชั้นปลาบปลื้มจนรู้สึกอยากจะแต่งกลอนขึ้นมาซักกลอนจริงๆ เพื่อบรรยายเกียรติยศ ความรู้ซาบซ่านสดใสที่แล่นเข้ามาในหัว และก็ความรั…

Johnny: หุบปากแล้วรีบขึ้นมาได้แล้วโว๊ย!

ตุบ! หินก้อนหนึ่งตกลงตรงแขนที่ The Seeker พอดี

The Seeker: แขนชั้นร่วงซะแล้ว

Johnny: ดูแขนข้างเหลือของแกดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าชั้นไม่เตือน

 

Adam: พลุระเบิดแล้ว

Johnny: แล้วเราต้องไปไกลแค่ไหนถึงจะรอดจากไอ้พลุนี่

Adam: ไกลโขเลยล่ะ น่าจะประมาณแถวๆสตุ๊ตการ์ทนะ

Johnny ไม่ลืมที่จะเก็บลูกซองคู่ใจกลับมาด้วย

Johnny: นั่นเด็กๆของ Adam นี่

Adam: สำหรับหมอนั่น คนพวกนี้ก็เป็นแค่ภาชนะบรรจุบาปเท่านั้นล่ะ นายช่วยอะไรเค้าไม่ได้หรอก

“เพราะนายไม่มีพลัง”

 

หน้านี้คงไม่ต้องบรรยายหรอกมั้ง

(ถ้าดูแบบห่างๆ สังเกตุดีๆ จะเห็นรางๆว่าระเบิดเป็นรูปหัวกะโหลกด้วยครับ)

 

ทันใดนั้น โซ่ของ Ghost Rider ก็พุ่งเข้าหาเหล่าสาวกทั้งหมดทันที

Ghost Rider: ชั้นคืออาวุธที่จะช่วยมนุษยชาติ!!!

Adam: ชั้นภูมิใจในตัวเธอมาก งั้นเราไปลองกับอะไรที่มันยิ่งกว่านี้ดีไหม

 

Johnny และ The Seeker รอดมาจากแรงระเบิดได้ทันเวลาพอดี

The Seeker: วี๊!!

Johnny: หยุด ไอ้บ้า! ชั้นไม่อยากได้ยินเสียงแบบนั้นโว๊ย!

The Seeker: โทษที

Johnny: นี่แกเป็นซอมบี้ประเภทไหนเนี่ย

The Seeker: ก็ประเภทที่มีเวลาให้ใช้หลังความตายเหลือเฟือ คิดซะว่าชั้นเป็นแฟนบอย Ghost Rider ก็ได้นะ โอ๊ะ ระวัง

Johnny: เชี่ย!

The Seeker: ชั้นขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม ว่านายแว๊นโคตรเก่งเลยว่ะ

The Seeker: Robert Pirsig เขียนหนังสือดังๆเล่มนึงไว้ ในนั้นมีกล่าวไว้ว่า “สิงห์พวงมาลัยกับสิงห์นักบิดน่ะต่างกัน” เหล่านักบิดนั้นแว๊นเพื่อเปิดใจสู่สิ่งแวดล้อมขณะนั้น พวกเค้าแว๊นเพื่อทำจิตใจให้ปรอดโปร่งและลดความเครียด

แต่ johnny ตอนนี้น่ะเหรอ กรี๊ดแต๋วแตกไปแล้วเรียบร้อย

 

Johnny: หมู่บ้านนี่ ทำไมถึงมาสร้างหมู่บ้านกันแถวนี้เนี่ย

(ตรงนี้ชาวบ้านทุกคนพูดภาษาสเปนนะครับ)

ชาวบ้าน 1: เกิดอะไรขึ้น

ชาวบ้าน 2: แผ่นดินไหว

Johnny: หนีไป! จะมามัวมองอยู่ทำไม เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย

Johnny: ไม่ได้ยินเสียงรึไง ว่าอะไรกำลังจะมา

The Seeker: นายช่วยพวกเค้าไม่ได้หรอก

ชาวบ้าน 3: คุณเป็นคนทำให้เกิดแผ่นดินไหวเหรอ

Johnny: ชั้น ชั้น…

Johnny: ชั้นน่าจะยังเป็น Ghost Rider อยู่

ในที่สุดแสงชำระบาปก็มาถึงหมู่บ้านแล้ว

 

The Seeker: อา นายพูดคำแสนวิเศษออกมาแล้ว

The Seeker: แต่มันสายไปแล้…

อีกด้านหนึ่ง The Serpent กำลังสำราญกับสิ่งที่เกิดขึ้นของ Ghost Rider

SIN: บิดา ทำไมท่านถึงยิ้มแบบนั้นล่ะ

The Serpent: เพราะการกำเนิดของน้องสาวจอมทำลายล้างคนใหม่แล้วยังไงล่ะ Skadi

 

ตัดมาที่ Columbia

เหล่า Avengers ประกอบด้วย Hawkeyes, Ms. Marvel และ Spider-Woman ต่างก็เห็นเหตุการณ์ระเบิดของ Ghost Rider เข้าพอดี

Hawkeye: โอเค นั่นมันอะไรอีกล่ะ

Hawkeye: เราโดน Hulk ปั่นหัวซะเละเทะ ยาน Quinjet โดนทุบซะแหลกเป็นชิ้นๆ แล้วตอนนี้เรากลับได้แค่ต้องมารับมือกับแผ่นดินไหวแล้วให้ Avengers คนอื่นไปลุยที่อเมริกาเนี่ยนะ

(ติดตามเหตุการณ์นี้ได้ใน Avengers #15 ครับ)

Spider-Woman: ชั้นเห็นแสงมาจากทิศเหนือ

Ms. Marvel: ระเบิดปรมาณูรึ

ว่าแล้ว Ms. Marvel ก็บินขึ้นไปดูเหตุการณ์ทันที

Hawkeyes: ไม่มั้ง ไม่น่าใช่หรอก

เมื่อ Ms. Marvel ขึ้นไปสูงได้ระดับนึง จึงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

Ms. Marvel: พระเจ้า

 

เบื้องหน้าเธอคือหลุมระเบิดขนาดยักษ์นั่นเอง

Ms. Marvel: นี่มันเหมือนระเบิดพลังงานที่รุนแรงพอที่จะครอบคลุมทั้งประเทศได้เลยนะนั่น

Ms. Marvel: มันไม่ใช่ระเบิดปรมาณู มันมีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน มันอาจจะเป็นอาวุธชนิดใหม่ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม…

 

“เราจำเป็นต้องทำลายมัน”

กลับมาที่ johnny เหล่าชาวบ้านถูกขจัดบาป เอ๋อรับประทานไปเรียบร้อย

Johnny: ชั้นยังอยู่ ชั้นยัง…

Johnny: โอ ไม่นะ ฝีมือ Ghost Rider รึเนี่ย

The Seeker: พวกเค้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเค้ายังกินนอนและใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม แต่ตัวตนแบบที่พวกเค้าเคยเป็นได้หายไปหมดแล้ว Ghost Rider และ Adam เผาผลาญบาปพวกเค้าไปจนหมด

Johnny: แล้วทำไมชั้นถึงไม่เป็นไร

The Seeker: ชั้นสามารถลดทอนพลัง Ghost Rider ได้ ตอนคลื่นแสงชำระบาปมาถึง ชั้นจับตัวนายเอาไว้เองล่ะ นายถึงได้ไม่เป็นอะไร

 

Johnny: ทำไม!? ชั้นเป็นแค่คนธรรมดาเอง แค่คนธรรมดาโง่ๆคนนึง ชั้นหยุด Adam ไม่ได้ ชั้นทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง

The Seeker: ใช่แน่รึ นายน่าจะทำแบบนั้นมาตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว แต่นายก็ไม่เคยรู้เลย ดังนั้น…

The Seeker: ใครล่ะจะรู้ว่านายจะสามารถทำอะไรได้บ้างในอนาคต เราทุกคนต่างก็มีพลังในตัวทั้งนั้นล่ะเพื่อน

The Seeker: แต่คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็นมันก็เท่านั้นเอง

 

ณ แหลม Canaver

Ghost Rider ปรากฎตัวมาลอบกำจัดบาปจากเหล่ายาม

Adam: เราจะช่วยเผ่าพันธุ์มนุษย์จากบาป Alejandra เธอคือผู้ที่จะช่วยเหลือมนุษย์

 

Adam: มนุษย์ทั้งมวล

เบื้องหน้า Adam และ Ghost Rider คือยานอวกาศนั่นเอง

 

Ghost Rider และยานอวกาศ? Adam มีแผนอะไรกันแน่?

Ghost Rider #2

Ghost Rider #2

เรื่อง : Rob Williams

ภาพ : Matthew Clark, Sean Parsons, Rob Schwager

วางจำหน่าย : 10 สิงหาคม 2011

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

 

แม้ Johnny จะไม่ได้เป็นร่างสถิตย์ของ Ghost Rider แล้ว แต่ยังไม่วายถูก Mephisto คอยตามราวีอยู่ดี และคราวนี้ Mephisto ต้องการอะไรจากเขากันแน่?

 

 

เริ่มเรื่องด้วย Mephisto กำลังหว่านล้อม Johnny ด้วยการเปิดโชว์ภาพโชว์รูมชอปเปอร์ตัวเองให้ดู

Mephisto: สนใจสักคันไหมท่าน?

Johnny: นั่นมันนรกนี่

Mephisto: ถั่วต้ม! ณ สวนสวรรค์ของ Mephisto เรามีแต่รถที่ดีที่สุดในนรกทั้งนั้น แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีตัวเลือกเสริมหากเงินไม่พอด้วยนะ ความเศร้าชั่วนิรันดร์และดอกเบี้ยมหาโหดไง

Johnny: ชั้นว่าชั้นถอนตัวออกไปแล้วนะ

Mephisto ทำเป็นไม่ได้ยินและยื่นกระดาษกับปากกาขนนกให้ Johnny

Mephisto: เซ็นตรงนี้นะ แล้วนายก็เอาคันที่ชอบไปได้เลย พร้อมกับโอกาสให้นายไปช่วยมนุษยชาติจากชะตากรรมที่นายทำลายมันไปเพราะความเห็นแก่ตัว
ของนาย

Mephisto: แถมให้อีกเอ้า ชั้นการันตีให้เลยว่าหัวนายจะไม่โล้นตามวัยแน่นอน เจ๋งใช่ไหมล่ะ

Johnny โดนรบเร้ามากๆชักโมโห เลยต่อยหน้า Mephisto เข้าให้

 

Johnny: ลุกขึ้นมาสิ รับรองชั้นฆ่าแกแน่

Mephisto: อย่าสาบานอะไรอย่างนั้นสิพวก นี่มันนรกนะ ไม่ใช่ช่อง HBO แล้วอีกอย่าง…

สมุนของ Mephisto จับ Johnny ยกขึ้นมา

Mephisto: ที่นี่ก็มีมารยาทของที่นี่นะ และบังคับใช้กับทุกคนด้วย

Johnny: เยี่ยม เจ้านี่อีกแล้วเหรอ

Johnny: Mephisto ชั้นเป็นอิสระจาก Ghost Rider แล้วนะ ไอ้ Ghost Rider ที่แกหลอกให้ชั้นกลายเป็นมัน แกควรจะลืมไปได้แล้วว่าชั้นเคยเป็น ไม่ว่าแกจะเสนออะไรมาให้ชั้นก็ตาม

Mephisto: Blaze เอ๋ย แกไม่ต้องเป็น Ghost Rider อีกครั้งหรอก มันจบแล้วสำหรับแก

Johnny: ว่าไงนะ?

 

Johnny: งั้นแกต้องการอะไรจากชั้นกันแน่

Mephisto: ชั้นต้องการความช่วยเหลือจากแก ได้โปรดเถอะ Blaze

Johnny ได้ยิน Mephisto เอ่ยปากขอร้องแบบนี้ถึงกับอึ้งไป 3 วิ ก่อนที่จะ…

Johnny: ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

Johnny: แกเจ๋งว่ะ ชั้นนึกว่าชั่วชีวิตจะไม่ได้ขำแบบนี้แล้วนะเนี่ย จากใจจริงเลยนะ ขอบใจมาก แล้วก็ไปตายซะไป

Mephisto: Blaze ชั้นมีอะไรจะให้แกดู

 

Johnny: แกก็รู้นี่ มันไม่ได้ผลหรอก ไม่ว่าแกจะเอาอะไรมาเสนอชั้นก็ตาม

Johnny: ต่อให้เป็น Jane Fonda มาเต้น และชั้นเล่นเปียโนในวง E Steet เมื่อตอนยุค ’75 มันก็เสียเวลาเปล่าอยู่ดี

Mephisto: แล้วเราจะได้เห็นกัน

Mephisto พา Johnny วาปมาที่โรงงานแห่งหนึ่ง นั่นมันหุ่นยนต์นาซีสมุนของ Sin นี่ และตรงหน้าทั้งคู่มีชายแก่ยืนหันหลังให้พวกเค้าอยู่

Johnny: ว้าว นั่นมันซานตาคลอสนี่

Mephisto: ว่าไงนะ

Mephisto: ใช่ที่ไหนล่ะไอ้งั่ง นั่นคือ The Serpent เทพเจ้าแอสการ์ดแห่งความกลัวผู้ไร้ความปราณีที่ตอนนี้กำลังจะทำสงครามทำลายล้างมนุษย
ชาติ

Johnny: ไม่ใช่ซานตาคลอสสินะ

Mephisto: เออสิวะ

Johnny: ลดเสียงหน่อย เดี๋ยวเทพเจ้าทำลายล้างแห่งความกลัวผู้ไร้ความปราณีจะได้ยินเสียงแกเข้า

Mephisto: เขาไม่รู้หรอกว่าเราอยู่ที่นี่ การพรางตัวเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชั้นถนัดนะ

 

Johnny: แสดงว่าซานต้าท่าทางน่ากลัวไม่เห็นเราสินะ ดีเลย แล้ว? ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ เขาแข็งแกร่งและชั่วร้าย แต่ชั้นไม่มีพลังแล้ว ชั้นทำอะไรมันไม่ได้หรอก

Mephisto: Adam คือคนที่เอาไรเดอร์ไปจากแกใช่ไหม เจ้านั่นมันอยู่บนโลกนี้มานานแล้วล่ะ แต่มันไม่เคยแสดงตัวออกมาเลย มันเตรียมแผนอะไรบางอย่างไว้มาเป็นปีๆแล้ว และสงครามของ The Serpent ก็ส่งผลให้มันต้องออกมาตามหาแก

Mephisto: Adam มองเห็นว่าโลกนี้กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และแกก็คือฟางเส้นสุดท้าย เขาเชื่อว่าหากเป็นแบบนี้ มนุษยชาติจะไม่สามารถดำรงต่อไปได้ เขาเชื่อว่าเขาจะต้องช่วยมวลมนุษย์เอาไว้ ดังนั้นเขาจึงออกตามหาอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้

Johnny: แล้วมันคืออะไรล่ะ

Mephisto: เอ็งโง่จริงหรือแกล้งโง่วะ

The Serpent ค่อยๆหันหน้ามาทาง Mephisto และ Johnny

The Serpent: พวกแกนี่มันรกหูรกตาจริงๆ

The Serpent: พวกแกกล้าดียังไงถึงเข้ามาเหยียบถิ่นของข้า เทพเจ้าแห่งความหวาดกลัวผู้ซึ่งหัวใจอาบไปด้วยเลือด!

The Serpent ยิงคลื่นพลังออกจากไม้เท้าทันที

Johnny: เชี่ยแล้วไง มันเห็นเราแล้ว ตาย…

 

Mephisto วาปออกมาได้ทันเวลาพอดี

Johnny: …แน่

Mephisto: ใจเย็น ชั้นวาปเรามาที่อื่นแล้ว

Johnny: โอเค The Serpent เป็นพวกชั่วร้าย และการกระทำของมันก็ส่งผลกับ Adam ด้วย เข้าใจละ แต่ชั้นไม่สนหรอก

Mephisto: นายต้องสน Blaze

Mephisto ชี้ให้ดูด้านล่าง ซึ่งเต็มไปด้วยพี่อี๊ดวงฟลาย

Johnny: เราอยู่ที่ไหนเนี่ย

Mephisto: อนาคต นี่คือสิ่งที่เกิดหลังจากที่ The Serpent พ่ายแพ้ และแผนของ Adam สำเร็จ

“แผน? โกนหัวทุกคนน่ะเหรอ”

“เจ้านั่นต้องการช่วยพวกแกจากบาป”

“บาปคือสิ่งที่ไม่ดีก็จริง แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมนุษยชาติเช่นกัน”

“มันถูกปลูกฝังอยู่ในความอ่อนแอ, ความกระหาย, และแรงจูงใจ”

“หากไม่มีบาป เราก็จะไม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์”

“ไร้เป้าหมาย, ไร้ความกระหายซึ่งชัยชนะ, ไร้แรงกระตุ้นเพื่อพัฒนาตัวเอง”

“เหลือเพียงแค่ความตายด้าน ไร้อารมณ์เท่านั้น นี่ล่ะคือสิ่งที่จะเกิดหาก Adam กำจัดบาปออกไปจากมนุษย์”

“นี่มันบ้าไปแล้ว!”

Johnny: แกไม่ได้ต้องการช่วยมนุษย์หรอก ก็แค่ถ้า Adam ทำสำเร็จ มนุษย์ก็จะไร้บาป และนั่นจะทำให้แกอดตายเท่านั้น

Johnny: พนันได้เลยว่าเจ้า Adam มันเก่งพอที่จะเตะก้นแกได้แน่ๆ แกถึงได้อยากให้ชั้นไปจัดการกับมัน

Mephisto: อย่าตัดสินอะไรแบบนั้นสิ

 

Mephisto: ชั้นจำเป็นต้องมีแก เพราะแกมีประสบการณ์มากที่สุดในโลก ในการควบคุมสุดยอดอาวุธที่ Adam จะใช้

“ชั้นต้องการให้แกช่วยร่างสถิตย์ร่างใหม่ของ Ghost Rider และพาเธอไปให้ไกลจาก Adam มากที่สุดเท่าที่แกจะทำได้”

“เด็กน้อยที่ถูก Adam ชุบเลี้ยงและขังไว้ในวิหารนั่นมาเป็นปีๆ”

“ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะให้เธอได้ออกไปเห็นโลกภายนอก”

Mephisto: เห็นแล้วสินะ Blaze แกยอมแพ้ให้กับ Ghost Rider อย่างเห็นแก่ตัว และนี่คือสิ่งที่แกสร้างขึ้นมา ชื่อของเธอคือ…

 

ตัดมาที่วิหารของ Adam ซึ่ง Adam พา Alejandra กลับมาจากการปะทะ Sin แล้ว

“ชั้นชื่อ Alajandra”

Adam: Ghost Rider กลับมาแล้ว

Adam: เธอปะทะกับ Sin และเธอคือผู้ชนะ

“ชั้นคือ Ghost Rider ชั้นถูกฝึกมาเพื่อเวลานี้ที่วิหารแห่งนี้ ชั้นไม่เคยได้ออกไปเห็นโลกนอกวิหารเลย”

“ชั้นคือจิตวิญญาณแห่งการแก้แค้น”

“ชั้นรู้สึกได้ กายชั้นถูกเผาไหม้เพื่อกลายโครงกระดูกเพลิงมีชีวิต”

“แต่มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวชั้นตอนนี้”

“แต่มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวชั้น เมื่อชั้นได้กลับมาพบเพื่อนๆ เหล่าเพื่อนร่วมวิหารของชั้น”

“ชั้นได้ออกไปโลกภายนอกแล้ว”

Adam: จงดูซะ Ghost Rider! ดูการลงโทษของพระเจ้า

 

Adam: การลงโทษ!! นี่คือสงครามเพื่อรักษามวลมนุษยชาติ พวกแกก็รู้ ชั้นฝึกพวกแกมาเพื่อเวลานี้ และเวลาได้มาถึงแล้ว

Adam: เหล่าผู้ร่วมวิหารของเจ้า คนเหล่านี้ต่างเต็มไปด้วยบาป อย่าให้เสียเวลาเลย ประทานพรให้พวกเค้าที่นี่ ปลดปล่อยพวกเค้า พิพากษาพวกเค้าซะ!

Alejandra: ว่าไงนะ?

The Seeker: เฮ้ รายละเอียดงานของ Ghost Rider มันไม่ใช่แบบนี้นะ พวกเด็กชมรมคาราเต้ของแกก็ไม่ใช่พวกประเทศที่สามนะเว้ย

Adam: แกอยู่ที่นี่เพื่อหาร่างสถิตย์ที่เหมาะสมเท่านั้น อย่ามาเจ๋อ

The Seeker: ชั้นทำแน่ แกก็รู้

Adam สั่งลูกน้องให้ยิง The Seeker ทิ้งทันที

Adam: เก็บไอ้ผีดิบนี่ซะ

The Seeker: โอ้ว! โอ้ว! โอ้ว! (โดนยิงบ้านไหนร้องยังงี้วะ)

 

Adam: เจ้าคือ Ghost Rider และนี่คือสงครามแห่งบาป เจ้าถูกฝึกมาเพื่อสิ่งนี้ ลงมือซะ!

Alejandra เมื่อได้ยินเช่นนี้ จึงเปลี่ยนร่างเป็น Ghost Rider

Ghost Rider: สหายของชั้น เหล่าผู้ที่ถูกฝึกฝนมาด้วยกันกับชั้น ตั้งแต่เมื่อครั้ง Adam นำพวกเรามาชุบเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ

Ghost Rider: อืม… ใครกันนะที่สมควรได้รับการแก้แค้นมากที่สุด เป็นพวกแกหรือว่า…

Ghost Rider สะบัดมือ Adam ออก

Ghost Rider: แกไม่สมควรทำเช่นนั้น

 

Ghost Rider เริ่มโจมตี Adam

Adam: ชั้นฟูมฟักแกมาตลอด แล้วแกตอบแทนชั้นแบบนี้เนี่ยนะ?

Adam: แกถูกเลี้ยงมาเพื่อจุดประสงค์เดียว จุดประสงค์เดียวเท่านั้น! พวกแกทั้งหมด!!

Adam สร้างพลังไว้ที่มือ และโดดเข้าไปตบกะโหลก Ghost Rider

Ghost Rider: อ๊าาาาาาาา

Adam: และแกจะต้องทำตาม!

ส่วน The Seeker ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากมองดู Alejandra ถูก Adam ลงทัณฑ์

 

ตัดมาอีกทางด้านหนึ่ง

Johnny: แฮ่ก… แฮ่ก…

Johnny: เอามาปล่อยเกาะไว้กลางป่า รู้กับเค้าบ้างไหมว่ามอเตอร์ไซเค้าใช้กันยังไง

Johnny: ล้อน่ะมีไว้บดถนน ไม่ใช่มีไว้บดอะไรในป่าแบบนี้

Johnny: แล้วก็ชุดหนังกับภูมิประเทศแบบนี้เนี่ยนะ

 

Johnny: ห่วยแตก

Johnny Blaze มาถึงวิหารของ Adam แล้ว

 

Johnny พุ่งมอไซทะลวงประตูวิหารเข้ามาทันที

Johnny: Adam โว๊ย!

ไม่รอช้า Johnny ทักทายก่อนด้วยลูกซอง

 

กระสุนโดนไหล่ Adam เต็มๆ

ส่วน Johnny ล้มหน้าคว่ำไปแล้ว

Johnny: โว้ว นี่ถ้าเป็นไอ้หัวไฟคงแลนดิ้งนิ่มกว่านี้ชัวร์

The Seeker เข้ามาดูอาการ Johnny

The Seeker: ไม่เป็นไรใช่ไหม พ่อหนุ่ม

Johnny: กลิ่นตัวแกเหมือนลิ้นชักถุงเท้าบ้านชั้นเลยว่ะ

The Seeker: Johnny Blaze สินะ อดีต Ghost Rider รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ

The Seeker เอาตัวบังกระสุนลูกน้อง Adam ให้ Johnny

The Seeker: พาชั้นไปหา Alejandra ชั้นสามารถลดพลังเธอได้ เธอไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแบบนี้

Johnny: ชั้นไม่เคยได้ยินใครสำเนียงห่วยแตกเท่าแกเลยว่ะ

Johnny: ชั้นต้องเข้าไปหาเธอให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะ…

 

Johnny: …เลยเถิดไปกว่านี้

ทันใดนั้น สมุนร่างยักษ์ของ Mephisto ก็บุกเข้ามาในวิหาร

Johnny: นั่น Mephisto ส่งลูกสมุนมาอีก

Ghost Rider เห็นดังนั้นจึงทำอะไรบางอย่าง

Ghost Rider อ้าปาก บางสิ่งบางอย่างพากันกรูออกมาจากปาก

The Seeker: นั่นมันสิ่งมีชีวิตในนรก สิ่งมีชีวิตที่สร้างมาจากบาปบริสุทธิ์

Johnny: จิ้งหรีด! ทำไมชั้นไม่เห็นเคยทำแบบนั้นได้มั่งเลย

The Seeker: นายทำได้ Blaze

 

“นายแค่ไม่เคยคิดจะทำแบบนี้มาก่อน”

เหล่าจิ้งหรีดพากันกรูออกมานับแสนนับล้านตัวจนรุมโค่นสมุนของ Mephisto ได้สำเร็จ

Ghost Rider: บาปเอย จงมอดไหม้ไปซะ

 

Johnny เห็นว่ามีโอกาสแล้ว จึงรีบเข้าไปหา Alajandra ทันที

Johnny: Alejandra สินะ ชั้นชื่อ Johnny ชั้นสามารถพาเธอออกไปจากที่นี่ได้นะ

Johnny: ชั้นสามารถพาเธอออกไปได้

Ghost Rider: ด้านนอกงั้นรึ

Johnny: ช่าย ว่าไงล่ะ ออกไปเป็นสก๊อยซ้อนท้ายมอไซกินลมกันหน่อยมะ

ผัวะ! Johnny เลือดสาด ลงไปนอนกองทันที

 

Ghost Rider: ชั้นคือ Ghost Rider! ชั้นคืออาวุธในสงครามเพื่อวิญญาณมนุษยชาติ และชั้นจะขจัดบาปออกไปให้หมด!

ดาบของ Ghost Rider ลงมาจ่อคอ Johnny

Ghost Rider: และแกคือรายแรก!

 

เอาล่ะสิ ชะตากรรม Johnny Blaze จะเป็นเช่นไร เขาจะกลายเป็นพี่อี๊ดวงฟลายหรือไม่…