Omega Effect 01 : Avenging Spider-man # 06

Marvel Comic: Omega Effect 01 : Avenging Spider-man 06 : An Unlikely Team-up!

เรื่อง : Greg Rucka, Mark Waid
ภาพ : Marco Checchetto
วางจำหน่าย: 11 เมษายน 2012
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

Spider-man ไม่ฆ่าคน และตอนนี้เขาก็เพิ่ม “ไม่ให้มีใครตาย” เข้าไปในกฎส่วนตัวของเขาด้วย ทว่า…เขาจะรักษามันไว้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เมื่อเขาต้องร่วมงานกับ The Punisher!!

นี่เป็นโปรเจ็คร่วม 3 ตอนจบที่ผมกับคุณ Voeten ทำร่วมกัน โดยผมจะทำสองตอนแรกและเขาจะทำตอนจบนะครับ

(หมู่นี้ทำแต่สไปดี้รัวเลยแฮะ แต่เอาเฮอะ ก็มันสนุกนี่นา)


.
.
.
ขอแนะนำตัวละครหลักของบทแรกนี้

คนแรก : ในตอนที่เขาเข้าร่วมการแสดงสาธิตเรื่องรังสีวิทยา นักเรียนมัธยมธรรมดานาม Peter Parker ได้ถูกแมงมุมที่ถูกอาบด้วยรังสีกัด และด้วยความมหัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์นี้เอง Peter ได้พบว่าเขามีพลังพิเศษแบบเดียวกับแมงมุม…และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นมนุษย์แมงมุมขึ้นมา! และตั้งแต่วันนั้น เขาก็กลายมาเป็น “Avenging Spider-man”

คนที่สอง : เมื่อตอนที่แม็ต เมอร์ด็อกยังเป็นวัยรุ่ร เขาช่วยคนจากการโดนรถบรรทุกชน แต่ตัวเขากลับโดนสารเคมีที่บรรทุกมานั้นอาบร่าง และทำให้เขาตาบอดอย่างไม่มีทางรักษา แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบว่าสัมผัสด้านอื่นๆของเขาพัฒนาขึ้นจนถึงระดับเหนือมนุษย์ และเขาก็ได้สัมผัสเรดาร์ที่ครอบคลุม 360 องศารอบตัวมาแทนตา เขาได้กลายมาเป็นทนาย และยังเป็น “ชายผู้ไร้ซึ่งความกลัว” เขาคือ Daredevil!!

คนสุดท้าย : แฟรงค์ คาสเซิ่ลเป็นทหารเรือผู้รับใช้ชาติมาหลายสมรภูมิ แต่เมื่อเขากลับมาหาภรรยาและลูกของเขา เขาก็ต้องสูญเสียครอบครับของเขาไปในการก่ออาชญากรรมที่ไม่ได้เจาะจงที่พวกเขาด้วยซ้ำ และในตอนนั้นแฟรงค์ คาสเซิ่ลก็ตายไปกับครอบครัวของเขา ตอนนี้สิ่งที่เขามีเหลืออยู่คือความต้องการที่จะแก้แค้น และการลงโทษเหล่าคนชั่ว บัดนี้เขาคือ The Punisher!!

/>

เปิดฉากมาที่ภายในเมือง New York

Spider-man กำลังฟัดกับเหล่านินจาของกลุ่ม The Hand อยู่กล่างอากาศ

(แต่เดิมพวกนี้เป็นกลุ่มนักฆ่าที่มีฐานใหญ่ที่ญี่ปุ่น แต่ในช่วง Shadowland ที่ Daredevil ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ย้ายฐานมาที่ New York และเมื่อจบช่วง Shadow Land ที่ Daredevil หลุดพ้นจากการครอบงำของปีศาจ พวกนี้ก็ย้ายมารับใช้ The Kingpin (Wilson Fisk) แทน)

“เจ้าพวกนินจานี่พยายามจะเอาดาบเสียบฉัน”
“นี่น่ะนะคือผลตอบแทนของการทำตัวเป็นคนดี”

/>

ย้อนไปก่อนหน้านี้

“เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อรีด ริชาร์ดมีเรื่องจะขอไหว้วานฉัน”

(เนื่องจากตอนนี้ Johnny Storm กลับมาแล้ว ทำให้ Spidey ไม่ต้องมาร่วมงานกับกลุ่ม FF มากเท่ากับเมื่อก่อน ประมาณว่ามีงานต้องวิ่งรอกน้อยลงนั่นแหละ)

Spider-man : คุณอยากเจอผมเหรอ?

Reed : นายคบหากับแดร์เดวิลอยู่สินะ

Spider-man : ก็ไม่ถึงขั้นจูบกันหรอกน่ะนะ

Reed : ฉันหมายถึงเรื่องงานน่ะ เขาน่าจะฟังนายมากกว่าคนอื่น เห็นด้วยไหมล่ะ?

Spider-man : ก็คงมากกว่าคนอื่นนิดหน่อยล่ะนะ ทำไมเหรอ?

(ปัจจุบัน Daredevil เข้าเป็นสมาชิกทีม New Avenger แล้ว แต่เขาก็เป็นเพื่อนกับ Spidey มานานกว่านั้นมาก นอกจากนี้ยังสนิทกับ Luke Cage กับ Ironfist อีกด้วย)

Reed : เมื่อวานนี้เขามาหาฉันพร้อมกับของที่น่าตกตะลึง เป็นดาต้าไดร์ฟที่สร้างจาก “โมเลกุลไม่สเถียร”จากชุดเครื่องแบบเก่าของแฟนทาสติกโฟร์ที่ฉีกขาดในการต่อสู้ น่าจะเป็นของจอห์นนี่ล่ะนะ…เขาเก็บกวาดของตกค้างของตัวเองได้แย่ที่สุดเลย

Spider-man : ว้าว ขอบังอาจถามหน่อยได้ไหมว่าเจ้าไดร์ฟนั่นมันใส่อะไรไว้น่ะ?

(Unstable Molecule : เป็นสิ่งที่ใช้สร้างชุดเครื่องแบบของ FF เนื่องจากความสามารถของพวกเขาแต่ละคนนั้นไม่ค่อยเหมาะจะใช้กับเสื้อผ้าปกติ Reed จึงใช้สิ่งนี้ทำเป็นเครื่องแบบ ซึ่งมันสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของมันไปตามผู้สวมใส่ อย่างเช่นของ Reed มันก็จะสามารถยืดได้เท่าที่ตัวเขาเองจะยืดได้ หรือถ้าเป็น Sue มันก็จะสามารถโปร่งใสตามเธอได้)

/>

Reed : ถ้าเป็นอันที่สร้างขึ้นจากโมเลกุลไม่สเถียรน่ะรึ? ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้ใช้มันต้องการเลยล่ะ มันมีความสามารถเชื่อมต่อค้นหาและบรรจุข้อมูลได้ไม่จำกัด และยังสามารถสร้างไฟร์วอร์ลที่ซ่อมแซมตัวเองได้เป็นจำนวนมหาศาล และ…เมื่อคนใช้คือแดร์เดวิล…ก็เป็นข้อมูลการบริหารและด้านเงินทุนขององค์การอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกห้าองค์กร

Spider-man : HYDRA?, A.I.M. ด้วยหรือ?

Reed : และอันอื่นๆด้วย เขาให้ฉันดึงข้อมูลของ “แบล็คสเป็คเตอร์” ให้เขา

(Black Spectre : เป็นชื่อองค์กรอาชญากรรมอันหนึ่งที่เป็นศัตรูกับ Daredevil)

Spider-man : แล้วจากนั้นเขาก็คืนไดร์ฟนั่นให้คุณ เพราะว่าไปแล้วมันก็เป็นของๆคุณงั้นสิ

Reed : จริงๆแล้วมันตรงกันข้ามเลยล่ะ พอฉันหันไปทางอื่นนิดเดียวเขาก็ไปแล้ว เขาถือโอกาสจากความจริงที่ว่าฉันไม่สามารถทิ้งการทดลองที่ฉันกำลังทำอยู่นี่โดยไม่ทำลายจักรวาลคู่ขนานที่อยู่ข้างเคียงได้

(แล้วเฮียจะทำการทดลองที่มันอันตรายแบบนั้นไปเพื่อ??!! พวกนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องนี่มันน่าปวดหัวจริงๆ…)

Spider-man : แต่ถ้าเป็นผมก็สามารถไปจากห้องแล็ปนี้ได้โดยไม่ทำลายจักรวาลแห่งหนึ่งไป ผมจะไปจัดการให้ เดี๋ยวมานะ

Reed : ระวังตัวด้วยนะปีเตอร์

/>

Reed : ถ้าพวกโลกใต้ดินรู้ถึงการมีอยู่ของไดร์ฟนั่นล่ะก็…พวกตัวแสบๆจะต้องตามรอยของมันมาแน่

และเมื่อ Spidey มาถึงแถวที่ทำงานของ Matt Murdock

Spider-man : เจ๋งเลย พวกนินจาของกลุ่มเดอะแฮนด์นี่นา ทำไมคุณถึงต้องคิดถูกอยู่ตลอดเลยน่ะ รีด…?

“พวกนี้กำลังจับตาดูห้องทำงานของแดร์เดวิลจากตึกใกล้ๆ”

“ซึ่งที่พวกมันทำแบบนี้ได้ก็เพราะนายแดร์เดวิล..หรืออีกชื่อคือทนายความ แม็ต เมอร์ด็อก…โดนคนรู้ตัวจริงกันหมดเรียบร้อยแล้ว

(ก็ไม่แน่ว่าจะมีคนรู้มากขนาดไหน แต่พวก The Hand นี่รู้แน่ๆเพราะเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มอยู่พักหนึ่งนี่นะ)

“และฉันก็หวังว่าไม่ว่านายจะกำลังทำอะไรอยู่ ก็คงไม่ใช่การสู้กับนินจาอยู่นะ DD…”
“…หวังว่าคืนนี้นายคงไม่เจอเรื่องหนักๆเท่ากับที่ฉันเจอ”

ที่ใน Office ของ Matt Murdock เขากำลังต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาลอยู่

/>

Matt : มาเยี่ยมเยียนดึกไปหน่อยนะแฟรงค์ ถึงแม้คราวนี้นายจะพกขวดเหล้ามาแทนปืนก็เถอะ

Matt : แถมยังเป็นของชั้นดีเสียด้วย นายต้องการอะไรอยู่ล่ะสิ

The Punisher (Frank Castle) ไม่ตอบ แต่เดินไปหยิบแก้วเหล้ามารินวางไว้บนโต๊ะให้ Matt

แต่ตอนนั้นเอง Matt ก็ชิงพูดขึ้นก่อน

Matt : เพื่อนของนายเป็นใครหรือแฟรงค์?

The Punisher : อะไรนะ?

Matt : กลิ่นวิสกี้เกือบจะกลบมันได้ก็จริง แต่ก็ยังมีกลิ่นจางๆให้รู้สึกได้

Matt : กลิ่นราสเบอร์รี่กับน้ำมันหอมโจโจบา…

/>

Matt : …ไม่ใช่กลิ่นแชมพูที่ฉันคิดว่านายจะใช้นะ

Matt : ฉันจะได้พบกับ “หล่อน” ไหมล่ะเนี่ย?

ที่ห้องชั้นบนของสำนักงาน ผู้ช่วยของ Punisher ที่เป็นผู้หญิงอย่างที่ Matt คาดไว้ก็กำลังเตรียมการอะไรบางอย่าง…

ส่วน Punisher ที่เห็นว่า Matt ดูออกแล้วก็ไม่อ้อมค้อมอีก

The Punisher : นายกำลังมีปัญหานะเมอร์ด็อก

The Punisher : และฉันก็สามารถช่วยแก้ให้นายได้

Matt : ด้วยวิธีที่นายใช้แก้ปัญหาทุกเรื่องน่ะรึ? ฉันว่าไม่เอาดีกว่า

The Punisher : ใครๆก็รู้กันหมดแล้วว่านายมีไดร์ฟนั่นอยู่ พวกมันจะฆ่านายเพื่อเอามันไป

The Punisher : ฉันสามารถใช้มันเพื่อทำร้ายพวกมันได้ ฉันสามารถป้องกันมันให้ปลอดภัยได้ เอามาให้ฉันซะ

/>

Matt : “นายใช้มันได้” งั้นหรือแฟรงค์? นายจะใช้มันเพื่อฆ่าคน ถึงไม่นับเรื่องศีลธรรม นั่นก็ยังทำให้ฉันกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับนายไปด้วย แล้วนายว่านายจะปกป้องมันได้งั้นรึ?

แล้ว Matt ก็ดึงเอา Data Drive ที่ห้อยคออยู่ออกมา

Matt : ตอนนี้มันก็ปลอดภัยดีเท่าที่มันจะเป็นได้แล้วล่ะ

Matt : นายพยายามได้ดีนี่นะแฟรงค์ การมาเยือนอย่างเป็นมิตร พร้อมกับเหล้าเพื่อให้ประสาทสัมผัสฉันทื่อลง

Matt : แต่ฉันดูกับดักออกทันทีที่ฉันเห็นมันแหละน่า

The Punisher : นายคงไม่ลืมนะว่านายน่ะตาบอดนะเมอร์ด็อก

แล้ว Punisher ก็สั่งให้ผู้ช่วยลงมือ

The Punisher : เอาเลย

/>

ทันใดนั้นเพดานก็ระเบิดเสียงดังสนั่น และแรงระเบิดยังทำให้ของในห้องตกกระแทกพื้นเสียงดัง ซึ่งสำหรับ Matt ที่ประสาทหูดีกว่าคนธรรมดามากนั้น มันก็ทำให้เขามึนงงกว่า Punisher ที่โดนแบบเดียวกัน

/>

แต่ Matt ก็ยังสามารถรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสอื่นและกันไม่ให้ Punisher ชิงเอา Data Drive ไปได้

และในขณะที่ต่างฝ่ายต่างก็คุมเชิงกันอยู่นั่นเอง…

/>

แขกกลุ่มใหม่ก็ทะลุหน้าต่างเข้ามา

/>

แต่เมื่อ Spidey เห็นปืนหันมาทางเขา…

Spider-man : เดี๋ยว!

“เป็นพันนิชเชอร์จริงๆ…แล้วเขายังพาเพื่อนมาด้วย”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”
“อย่าพูดออกไปเชียวล่ะ กลั้นเอาไว้ ไม่งั้นหมอนี่ฆ่าฉันแน่ อย่า อย่า…”

แต่สัญชาติแมงมุมต้องชักใยฉันใด ปากนาย Spidey ก็ต้องพูดงี่เง่าออกมาฉันนั้น…

Spider-man : อ้อ ท่าทางนายจะมีแฟนใหม่แล้วสินะ

“ไอ้ปากงี่เง่าเอ๊ย…!”

แต่ก่อนที่จะยิงกัน Matt ที่เปลี่ยนชุดเป็น Daredevil แล้วก็พูดขัดขึ้นเสียก่อน

Daredevil : เรามีปัญหาแล้วล่ะ

“เดวิลช่วยชีวิตไว้พอดีเลย”

Spider-man : ใช่! นั่นแหละ! ใช่เลย!!

Spider-man : ฉันไม่คิดว่าพวกนี้จะมาเพื่อช่วยซ่อมหน้าต่างนะเนี่ย…

/>

ที่ด้านนอกตึก เหล่านินจากลุ่ม The Hand นับสิบกำลังปีนผนังตึกขึ้นมา

The Punisher : ถอยก่อน…ยิงกราดคุ้มกันด้วย

Alves : รับทราบ

แต่ Spidey ที่รู้วิธีทำงานของ Punisher ดีก็รีบเข้าไปหาทันที

Spider-man : เดี๋ยวๆๆ…ห้ามฆ่าคนนะ ห้ามไม่ให้มีใครตาย…

แต่ Punisher ก็ตอบกลับแบบเรียบๆว่า…

The Punisher : ทุกคนต่างก็ต้องตายกันทั้งนั้นแหละเจ้าหนู

The Punisher : และบางครั้งเราก็ยังสามารถเป็นคนเลือกเวลาตาย(ให้คนอื่น)ได้ด้วย

“ไอ้หมอนี่มันน่ากลัวเป็นบ้า”
“แถมยังบ้าสุดๆเลยด้วย”

/>

แต่ Daredevil ที่เป็นเพื่อนของ Spidey ก็เข้ามาช่วยพูดอีกคน

Daredevil : นายอยากได้ข้อมูลในโอเมก้าไดร์ฟใช่ไหม? ถ้าใช่นายก็ต้องทำตามกฎของสไปดี้ซะ

Daredevil : ถ้าเข้าใจแล้วเราก็ไปจากที่นี่กันได้แล้ว

” ‘เรา’ งั้นหรือ? โอ้ เจ๋งเลย”
“ทีนี้ปัญหาก็คือคู่หูของเขาล่ะนะ”
“…ตรงที่ว่าเธอบ้าเท่ากับเขาหรือเปล่า?”
“คำตอบมาเร็วมาก เพราะหล่อนเพิ่งโดดหน้าต่างตามหมอนั่นไปอยู่เดี๋ยวนี้เอง”

/>

แล้วทั้งสี่ก็เข้าลุยกับกองทัพนินจา

Punisher ที่ดูจะนับถือ Daredevil อยู่พอสมควรก็ยอมที่จะไม่ยิงที่จุดตายให้ด้วย (ถ้าเป็น Spidey คนเดียวล่ะก็รับรองว่าตานี่ไม่สนใจแหงๆ)

/>

สุดท้ายก็จัดการได้โดยไม่มีใครตาย

(สำหรับพวกนินจา The Hand นี่จะดูง่ายมาก เพราะถ้าพวกนี้ตายศพจะสลายไปจนหมด ตามวิถีของนินจาที่เมื่อตายจะต้องไม่เหลือร่องรอย ดังนั้นถ้าร่างไม่สลายก็หมายความว่ายังไม่ตาย)

เมื่อเสร็จเรื่องแล้ว Spidey ก็ใช้ Spider-sense ร่วมกับสุดยอดประสาทสัมผัสของ Daredevil ตรวจสอบโดยรอบจนแน่ใจว่าไม่มีศัตรูอื่นอีก

/>

แล้วพวกเขาก็มาคุยกันถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้

Spider-man : …อะไรนะ? นายทำอะไรลงไปนะ? นี่นายไปให้เส้นตายกับองค์กรอาชญากรรมเนี่ยนะ? นายเข้าใจไหมว่ามันมีคำว่า “ตาย” อยู่ด้วยน่ะ?

Daredevil : ใช่ และฉันก็รู้ด้วยว่าแผนการรบทุกอย่างจะต้องมีความยืดหยุ่น จริงไหมล่ะแฟรงค์?

The Punisher : เชอะ

Daredevil : ฉันก็ไม่ได้ชอบเวลาที่นายกับฉันมีความเห็นตรงกันนักหรอก แต่มันก็เกิดขึ้นอยู่ดีล่ะนะ แถมนายยังติดหนี้เพดานออฟฟิศของฉันด้วย

Daredevil : ทีนี้ฟังนะ เหตุผลเดียวที่ฉันสามารถปกป้องโอเมก้าไดร์ฟจากไฮดร้าและองค์กรอื่นๆมาได้นานขนาดนี้…

Daredevil : ก็เพราะพวกมันต้องหาวิธีที่จะเอามันไปโดยไม่ก่อสงครามกับองค์กรอื่นๆไปด้วย

Daredevil : จนกระทั่งฉันเบื่อที่จะต้องรอพวกมันแล้ว ฉันเลยดึงข้อมูลของแบล็คสเป็คเตอร์ให้พวกมันดูต่อหน้า…และบอกพวกมันว่าตอนนี้นิ้วฉันอยากกดไกปืนใส่พวกมันเต็มทีแล้ว

Spider-man : ถ้างั้นแผนขั้นแรกของนายคือการบังคับให้พวกมันติดต่อกับนายสินะ แล้วแผนขั้นที่สองล่ะ?

Daredevil : ก็ตามน้ำไปน่ะสิ

The Punisher&Spidey : กะแล้วเชียว

/>

The Punisher : แล้วก่อนที่พวกแบล็คสเปคเตอร์จะหลบไปซ่อนตัวก็ทิ้งของฝากไว้ด้วย พวกมันปล่อยข่าวออกไป ให้แน่ใจว่าทุกคนตั้งแต่พวกเดอะแฮนด์จนถึงโซดิแอครู้ว่านายมีไดร์ฟนั่นอยู่…

Spider-man : …และก็เป็นการเอาเป้าเบ้อเริ่มไปติดไว้ที่ “ชายผู้ปราศจากความกลัว” ด้วย

Spider-man : เห็นแก่พระเจ้าเหอะแม็ตตี้ ทำไมนายถึงได้ไม่เอาไดร์ฟนั่นไปให้ชีลด์หรืออเวนเจอร์ หรือ…

Daredevil : เพื่อเป็นหลักประกันไงล่ะ ตราบที่ฉันมีมันอยู่ พวกองค์กรใหญ่เหล่านั้นก็จะไม่กล้ามาเล่นงานพวกเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของแม็ต เมอร์ด็อก

Alves : พวกมันต้องมาแน่ๆอยู่แล้วล่ะ พวกมันชอบที่จะทำให้พวกผู้บริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์อยู่แล้ว และนายก็โง่มากที่ไม่คิดแบบนั้น

The Punisher : พอได้แล้วน่าโคล

Alves : บอกแล้วไงให้เรียกว่า “อัลเวส”

Spider-man : โคล…อัลเวส…?

“แล้วตรงนั้นเองฉันก็นึกออกขึ้นมา…”

Spidey นึกถึงข่าวพาดหัวเมื่อไม่นานมานี้

[การฆ่าหมู่ในวันแต่งงานมีคนตายไป 29 คน]
[จ่าทหารเรือราเชล โคล-อัลเวส อาการเป็นตายเท่ากันหลังจากสามีที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงสองชั่วโมงถูกฆ่าตาย]

“…ก็คงเป็นวิธีรับมือกับความเศร้าอย่างหนึ่งล่ะนะ

The Punisher : นายอยากแก้ปัญหาของนายไหมล่ะ? ส่งไดร์ฟนั่นมาให้ฉันสิ

Spider-man : ให้ไอ้นั่นกับนายไปมันก็เหมือนให้เครื่องพ่นไฟกับพวกคลั่งวางเพลิงน่ะสิ

Spider-man : เอามันไปให้กับอเวนเจอร์เถอะน่าแม็ต รีดก็คงต้องเข้าใจแน่

/>

Spider-man : แถมจะว่าไป เขาจะเอามันไปทำอะไรได้กันล่ะจริงไหม? เจ้านั่นมันไม่ใช่ USB นะ มันมีไฟร์วอลและป้องกันการก็อปปี้ไปจนถึงระดับอนุภาคเลยใช่ไหมล่ะ?

Daredevil : นายควรจะรู้นะว่าไม่ควรจะดูแคลนฉันน่ะ

Spider-man : อย่าเพิ่งเถียงแล้วฟังให้จบก่อน ในตอนนี้มีแต่คนระดับรีดเท่านั้นที่จะดึงข้อมูลในไดร์ฟออกมาได้ ใช่ไหม?

Spider-man : เขาสามารถดึงเอาข้อมูลทั้งหมดในนั้นออกมาได้ ไม่ใช่แค่ข้อมูลเล็กๆน้อยๆของแบล็คสเปคเตอร์…ที่นายขอไปนั่น

Daredevil : เรามีเวลาไม่พอจะทำแบบนั้นหรอก แต่ฉันก็ยังมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอื่นๆอยู่อีก

Spider-man : เจ๋งเลย และพวกเราทุกคนต่างก็เก่งเรื่องรุกมากกว่ารับ ถูกไหม?

The Punisher : แล้วที่นายพูดถึงการรุกนี่…

Alves : เดี๋ยวนะ นายกำลังเสนอให้พวกเราเตรียมแผนการร่วมมือกันจู่โจมพวกมันงั้นรึ?

Spider-man : ถูกต้องแล้วคนสวย นาย DD นี่จะล่อพวกมันออกมาด้วยข้อมูลที่เขามีอยู่แล้วนี่…แล้วพวกนายสองคนก็นำพวกเราตรงเข้าถ้ำเสือไงล่ะ

Daredevil : โอ้ ฉันชอบแผนนี้นะ

Spider-man : แล้วขณะที่เราให้รีดช่วยดึงข้อมูลทั้งหมดในนั้นออกมา เราก็จะทำให้พวกองค์กรใหญ่พวกนั้นยุ่งเกินกว่าจะมาเล่นงานแดร์เดวิล…

Spider-man : ด้วยการบุกจู่โจมพวกมันอย่างใหญ่โตและเออะมะเทิ่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาไง

The Punisher : ไม่…

Spider-man : ฉันว่านายหมายความว่า “เอาด้วย” นะ เพราะไม่งั้นนายก็จะพลาดโอกาสการเล่นงานองค์กรอาชญากรรมถึงสี่แห่งในคืนเดียวไงล่ะ

The Punisher : …เราต้องการเวลาเตรียมตัวสักสี่สิบนาที

Spider-man : โดยไม่ให้มีใครตายด้วยนะ?

The Punisher : ถ้างั้นก็สี่สิบห้านาที

/>

Daredevil : งั้นก็เป็นอันตกลง แผน “ค่ำคืนแห่งความวุ่นวาย” ที่จะดึงเอาพวกองค์กรใหญ่ทั้งหมดออกมา…

Spider-man : …และจากนั้น เราก็จะทำการทำลายโอเมก้าไดร์ฟต้อหน้าพวกมันอย่างยิ่งใหญ่…และทำให้ชีวิตของนายกลับสู่อะไรก็ตามที่นายจะเรียกว่า “ปกติ” ล่ะนะ

The Punisher : ทำลายมันทิ้งงั้นรึ? แล้วฉันจะได้อะไรตอบแทนจากเรื่องทั้งหมดนี้กันล่ะ?

Spider-man : ก็แล้วพวกเรามีใครได้อะไรจากเรื่องนี้กันบ้างล่ะ? โอกาสได้ร่วมงานกับนายหรือไง…?

Daredevil : รับข้อเสนอไปซะเถอะน่าแฟรงค์ เว้นแต่ว่านายจะกลัวน่ะนะ

คนอย่าง Punisher จะยอมโดนปรามาสได้อย่างไร…?

The Punisher : ไปพบกับพวกเราตามที่อยู่นี้ในอีกหนึ่งชั่วโมง เตรียมตัวสำหรับค่ำคืนที่ยาวนานได้เลย

เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไป

Spider-man : ฉันชักจะนึกเสียใจขึ้นมาแล้วนะเนี่ย ว่าแต่นายรู้ไหมว่าอะไรคือข้อพิสูจน์ว่าเราเป็นเพื่อนกันน่ะ?

Daredevil : อะไรล่ะ?

Spider-man : ก็เพราะเพื่อที่จะช่วยปกป้องตัวตนของนาย ฉันเพิ่งจะยอมร่วมมือกับพันนิชเชอร์ไปน่ะสิ

/>

โปรดติดตามตอนต่อไป ใน : Punisher เล่ม 10 และต่อด้วย Daredevil เล่ม 11

16 thoughts on “Omega Effect 01 : Avenging Spider-man # 06

  1. lucaman

    ภาพสวยเว่อร์เลย ตาลุงแฟรงค์ไปลุยอีท่าไหนหน้าตาถึงออกเป็ยแบบนั้น

    ว่าแต่คุณ NetNN ไม่ทำตอน 4 5 หรือครับ ผมว่าฮาดีออก เนื้อเรื่องใช้ได้เลย

    spoil

    ฮอคกายยิงพลาดซะแล้ว >< เจ้าสไปดี้ยังมาช่วยกลบเลื่อน ทำเป็นไม่รู้เนื้อร้อนตัว

  2. Ramzanaja

    แมตหน้าตานายแบบมาก

    ส่วนแฟร้งนี่มัน บอย ปกรณ์ ชัดๆ

  3. Jarkrider

    พันนิชเชอร์เหมือน ลุงงู เมทัลเกียร์เลย

  4. St.Valentinus

    สงสัยพี่แฟรงค์ตีกันกับดีดีมานาน เลยยอมฟังแหง

    กัดกันจนรู้ใจกันไปซะแล้ว

  5. seventoon

    อยากให้ ตาคนนี้มาเขียน AVX จังครับ T-T

    ชอบภาพ มาก

    สนุกดีครับ แวะมาเจอ แก๊ง แนงมาร์เวลไนท์ จนได้

  6. RedRaven

    เป็น งานที่ เฮียแฟรงค์ บอกว่าเหนื่อยที่สุดแล้วมั้งนี่
    ดันมาเจอ อีโก้ No death ของ สไปดี้

    ส่วนคู่หู เฮีย แก ชีวิตก่อนหน้า คล้ายๆ เฮียแกจริงๆ

  7. boss

    ในที่สุดแฟรงค์ ก็ยอมไม่ฆ่าคน เหลือเชื่อ

  8. shinshil

    อั้ยย่ะ
    นึกว่าพันนิชเชอร์เป็นเฮียสเน็ก เมทัลเกียร์ซะอีก

  9. The Cap.

    ฝากถามคุณdoc holidayหน่อยครับshadow landเล่ม/หาอ่านได้ที่ไหนครับ
    ขอบพระคุณอย่างสูง

  10. doc holliday

    ^
    ^
    ^
    ขอคำถามอีกครั้ง ^_^?
    http://www.comics66.com/?tag=shadowland
    http://www.comics66.com/?page_id=5113&vasthtmlaction=viewtopic&t=258

    ถ้าหมายถึงเล่ม 2 มีคุณ M3talkOre มาทำต่อลงไว้ใน forum ครับ (ลิงก์ข้างบน)
    เล่มอื่นๆ ยังไม่มา แหะๆ ^_^! (มาเมื่อมันมา เผื่อถามต่อว่ามาเมื่อไหร่) 😛

  11. The Cap.

    ขอบคุณมากครับพี่ จะกด2บนโน้ตบุ้กแต่ดันลืม ขอบคุณมากๆครับ

  12. Poom

    ขอบคุณสำหรับสปอยล์ครับ ภาพสวยมาก
    เหตุการณ์นี้เกิดก่อนแฟรงกลายเป็นแฟรงเก้นหรอครับ งงๆ ??

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *