Fantastic Four #585 Three Part 3
เรื่อง : Jonathan Hickman
ภาพ : Steve Epting, Paul Mounts
วางจำหน่าย: 24 พฤศจิกายน 2010
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
วันที่ 2
>> เวลา 12.25 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก <<
(EST: Eastern Time Zone)
Human Torch หรือ Jonathan (Lowell Spencer) Storm หรือ Johnny Storm
และ The Thing หรือ Ben Grimm กำลังนั่งรถกลับบ้าน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจรักภารกิจ Love ของ พี่ Ben
ทั้งสองคนได้แต่เงียบ แต่เหมือน Ben พูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
(แหน่ะๆๆ มีแอ๊บซึนซะด้วย!)
จนกระทั่ง….
“เฮ้ย! อะไรฟระ…!”
Johnny และ Ben รีบเบรครถดัง เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด!!
เมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างตรงหน้าพวกเขา
Thing: Johnny รีบไปเร็ว
Thing: เดี๋ยวชั้นตามไปทีหลัง!
Johnny รีบแปลงร่างเป็น Human Torch ทันที!
“อย่าทำรถผมเป็นรอยนะเฟร้ย!”
ฟ้าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
แล้ว Johnny ก็รีบพุ่งไปบนตึก Baxter ทันที
เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา ก็คือ………..
Galactus นั่นเอง!
Galactus: จงอธิบายมาซะ
Mr.Fantastic: ยุคที่ โลกที่กำลังล่มสลาย (Dying Earth) ในอนาคต
Mr.Fantastic: เหล่าฮีโร่และวายร้ายที่ยังเหลือรอดหยิบมือหนึ่งได้ร่วมมือกันสร้างเครื่องจักร
Mr.Fantastic: ที่สามารถเปิดมิติและเวลาได้เพื่อส่งมนุษยชาติที่ยังเหลือรอดอยู่อีกราวพันล้านคนมาที่โลกยุคนี้
Mr.Fantastic: แต่เพื่อให้เครื่องจักรนี้ทำงานได้ จำเป็นต้องใช้พลังมหาศาล
Mr.Fantastic: พวกนั้นจึงได้จับตัวคุณเพื่อจะส่งถ่ายพลังที่มหาศาลจากร่างคุณไปยังเครื่องจักรนั้น
Mr.Fantastic: ผลก็คือ คนเหล่านั้นกลับมายังโลกยุคปัจจุบันได้ และคุณก็ตายลง
(*รายละเอียดของเหตุการณ์นี้ผมขอยกไปอธิบายในเล่มที่ 586 นะครับ)
Mr.Fantastic: ที่ Surfer พบซากของร่างที่ยังเหลืออยู่ใต้พื้นโลกนี้ ก็เพราะผมเป็นคงฝังมันไว้เอง
Mr.Fantastic: ผมไม่มีเจตนาจะปกปิดเรื่องนี้เลยจริงๆ แต่ถ้าไม่ฝังร่างคุณมันก็ดูไม่ถูกต้องนัก
Silver Surfer: พวกนั้นอยู่ที่ไหน
Mr.Fantastic: ไกลจากที่นี่มาก
Mr.Fantastic: พวกนั้นอยู่ที่โลกจักรกลที่หมุนรอบๆดาวฤกษ์ที่ใกล้จะดับลง อีกด้านหนึ่งของระบบสุริยะนี่แหล่ะ
Galactus: ระบุตำแหน่งสิ
Silver Surfer หรือ Norrin Radd ก็ใช้พลังหาตำแหน่งดาวที่ว่าทันที (ข้อมูลแค่นั้นเนี่ยนะ!!)
Silver Surfer: 12.2988710
Silver Surfer: 1902.5366
Silver Surfer: 187.25008
Silver Surfer: สถานที่เหล่านี้ล้วนมี เตคีออน (Tachyon) เข้มข้นไหลออกมาที่นั่น
Silver Surfer: แต่มีอยู่ที่เดียวที่มีลักษณะเหมือนกับที่ผมพบ
Silver Surfer: บนโลกที่โคจรอยู่ใกล้ใจกลางกาแลคซี่ ใกล้กับดาว Anhg Taut กลางระบบสุริยะ Ul Dan Aott
Silver Surfer: หรือที่ชาวโลกเรียกกันว่า Cygnus-Norma Arm ของระบบกาแลคซี่ นั่นเอง
(Norma Arm ก็คือพื้นที่ที่อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางของกาแลคซี่ครับ)ง
จากนั้นไม่นาน Johnny ก็ตามไปสมทบกับ Reed ที่ยืนอยู่บนมือ Galactus
Mr.Fantastic: JOHNNY!?
Human Torch: นายไม่เป็นอะไรนะ Reed?
Human Torch: บอกหน่อยสิ…ว่าชั้นควรจะสติแตกกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้รึเปล่า?
Mr.Fantastic: ชั้นสบายดี Johnny แต่ว่า…Surfer เจอศพ Galactus จากโลกอนาคตเข้าให้แล้วน่ะ
Human Torch: โอ้ว ชีสจิ้มน้ำพริกเผา! งั้นคงต้องสติแตกมากกว่านี้สินะ!
Mr.Fantastic: ชั้นเองก็ไม่ค่อยจะแน่ใจเหมือนกัน
Galactus: เจ้าไม่ต้องตื่นกลัวไปหรอก Johnny Strom
Galactus: ข้าไม่ได้หมายจะทำอะไรโลกใบนี้ เฉพาะแค่ในยามนี้
Galactus: และข้ากำลังจะจากที่นี่ไปแล้ว
Galactus: จากนั้นจะเดินทางไปยังโลกจักรกลเพื่อจะหาคำตอบเพิ่มเติม
Galactus: …..เจ้าต้องมากับข้าด้วย Reed Richards …จนกว่าเรื่องนี้ และเรื่องอื่นๆจะเรียบร้อย
Mr.Fantastic: ชั้นจะไปกับเค้า
Human Torch: นายต้องกำลังล้อชั้นเล…..
Mr.Fantastic: ไม่ได้มุข Johnny …ชั้นรู้ดีว่าเรื่องจะไปจบที่ไหน ชั้นต้องไปให้ได้
Mr.Fantastic: และตอนนี้ Susan ก็ไม่อยู่ด้วย ฉะนั้นตอนนี้นายกับ Ben ต้องดูเด็กๆในขณะที่ชั้น…
Human Torch: อ๊ะ เอ้ย เดี๋ยว! เกือบลืมไปเลย! เฮียแกกินยาเข้าแล้วนะ
Mr.Fantastic: อะไรนะ?
Human Torch: ก็ Ben ไง ก็เฮียแกทานยาไปแล้ว ตอนนี้กลับกลายเป็นคนอีกครั้งแล้ว
Mr.Fantastic: แล้วไม่เป็นไรอะไรใช่มั๊ย?
Human Torch: ไม่เป็นไรเลยคร้าบ ขอบวอก
Mr.Fantastic: จริงรึนี่?
Human Torch: เฮียสบายบรื๋อเลยล่ะ อันที่จริง สบายยิ่งกว่าสบายบรื๋ออีก
Reed ก็ดีใจอย่างมาก และพูดความดีใจของตนออกมา ด้วยคำว่า…..
Mr.Fantastic: วิเศษจริงๆ (FANTASTIC)
ส่วน Galactus ก็สั่งให้ Silver Surfer ไปทำภารกิจ
แต่ Reed ก็ดีใจได้ไม่นาน บางสิ่งบางอย่างก็โผล่ลงมาจากบนฟ้า
สิ่งๆนั้นก็คือ….
ยานของ Galactus นั่นเอง
Galactus: ได้เวลาแล้ว
แล้ว Galactus ก็พา Reed ขึ้นไปยังยาน แต่ก่อนไป
Mr.Fantastic: ฝากดูแลเรื่องอื่นๆแทนด้วยนะ Johnny
Mr.Fantastic: ประเดี๋ยวชั้นก็กลับบ้านแล้ว
และแล้ว Reed ก็จากไป พร้อมทิ้ง Johnny ไว้ข้างหลัง
วันที่ 3
>> เวลา 15.15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก <<
ณ. ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก
Susan กำลังนั่งยานดำน้ำ เพื่อเป็นฑูตสันตะพาพให้แก่ พี่หน้าหม้อ เอ๊ย Namor และขณะเดินทางนั่นเอง
Andromeda ทหารผู้จงรักภักดี ของ พี่หน้าหม้อ เอ๊ย Namor กำลังถกเถียงกับ Susan
Invisible Woman: บอกได้เลยว่า เธอมีปัญหาอะไรจุกอกอยู่แน่ๆ
Andromeda: ถึงในนี้จะระบุไว้ว่า ทุกๆกลุ่มที่เข้าร่วมการเจรจาสามารถพาองครักษ์ส่วนตัวไปได้
Andromeda: แต่กลับเอาองครักษ์เข้าห้องเจรจาได้แค่ไม่เกินสิบสองคน
Andromeda: และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ตอนเจรจาแทนที่จะให้เจรจาเป็นกลุ่มอาณาจักร
Andromeda: เจ้ากลับกำหนดให้เจรจาและทำสนธิสัญญาแบบแยกเผ่าพันธุ์กันซะอีก
หมายเหตุ
เล่มก่อน ผมบอกว่าเป็นเมีย เป็นบ้อมูลที่ผิดพลาดครับ
เพราะหลังจากที่ผมลองเช็คข้อมูลอย่างจริงจังในหลายเว็ป
ไม่มีที่ไหนบอกเลยครับว่า เจ๊แกเป็นภรรยาของ Namor
ต้องขออภัยอย่างสูงสำหรับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนนะครับ m(_ _)m
Andromeda: เรื่องแบบนี้ข้ารับไม่ได้อย่างแน่นอน
Andromeda: แบบนั้นเท่ากับว่า กำลังทหารของเราจะน้อยกว่าถึงหนึ่งต่อสามส่วน
Invisible Woman: ก็นะ เราคงหนีความจริงที่ว่าพวกนั้นมีโครงสร้างการปกครองที่ซับซ้อนหลายเผ่าไม่พ้น
Invisible Woman: แต่ชั้นกลับคิดว่าเธอหลงประเด็นอะไรผิดไปรึเปล่า Andromeda
Invisible Woman: เรื่องที่เธอจะเอามาคิดเป็นประเด็น
Invisible Woman: น่าจะเป็นเรื่องกำหนดนโยบายทางเมืองและสังคมอะไรเพื่อชาวแอตแลนติสทุกๆคนต่างหากนะ
Invisible Woman: ฉะนั้นเชื่อชั้นเถอะว่าเธออยากให้เป็นแบบนี้แหล่ะ
Andromeda: เอาะเหรอ ตอนนี้พวกข้าต้องการแบบนั้นหรอกเหรอ?
Andromeda: แล้วตัวเจ้าเองล่ะต้องการอะไรแน่?
Namor: สิ่งที่นางต้องการคือ คำมั่นสัญญา…..
Namor: ….ความอดทนอดกลั้น, สันติภาพ และความเท่าเทียมของทุกสรรพสิ่งใต้ท้องทะเล
Namor: ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะมีการประนีประนอมซึ่งกันและกัน แต่กลับถูกเพิกเฉยไป
Namor: ผมพูดถูกใช่รึไม่?
Invisible Woman: ถูกต้องเลย
Namor: และสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีความสุขรึไม่ Susan?
Invisible Woman: ชั้นต้องเป็นสุขแน่นอน Namor
Namor: งั้นก็ดี
Namor: ผมยอมรับเงื่อนไขที่เจ้ากำหนดขึ้นตามอำเภอใจนี้ในการเข้าร่วมประชุม แต่…
Andromeda: ไม่นะเพคะ นายเหนือหัว ข้าขอคัดค้าน!
Andromeda ตะโกน ขัดคำพูดของ Namor ผู้เป็นนาย
เมื่อโดน Andromeda พูดแทรก ทำให้ Namor เริ่มวิถีจิกกัดด้วยสายตา จนเจ้าตัวเริ่มรู้ตัว….
Andromeda: ข้า..ข้า…ขอประทานอภัยเพคะ ข้าแค่..
Namor: ออกไปซะ Andromeda….เดี๋ยวนี้!!
Andromeda: เพคะ ท่านเหนือหัว
เมื่อโดนสั่งไปแบบนั้น ทำให้ Andromeda ได้แต่คอกตกแล้วเดินออกไปจากห้อง
เมื่อ Andromeda ออกไป ทั้ง Namor และ Susan ก็เงียบไปครู่หนึ่ง
Invisible Woman: บอกได้เลย
Invisible Woman: งานนี้ เจ้าหล่อนกับชั้น เราสองคนจะได้กลายเป็นเพื่อนร๊ากจนวันตายแน่ๆ
Namor: หึ Andromeda เธอจงรักภักดี และไม่ไว้ใจคุณ
Namor: เธอเชื่อว่าจริงๆ ว่าคุณกำลังวางแผนให้ผมไปทำอะไรที่ไม่จำเป็นและไม่เป็นผลดีต่อประชาชนของผม
Invisible Woman: ชั้นก็แค่อยากให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุด กับทุกๆฝ่าย
Invisible Woman: ถ้าอะไรๆมันจะง่ายแบบนั้นอ่ะนะ
Susan หันไปมอง Namor เพราะดูเหมือนทั้งเธอและ Namor ยังคงมีความกังวลบางอย่างอยู่ในใจ
วันที่ 3
>> เวลา 22.25 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก<<
Galactus กำลังเคลื่อนยานพา Reed ผ่านแถบน้ำแข็งไคเปอร์ (Kuiper Belt)
Mr.Fantastic: โอ้
Mr.Fantastic: ผมไม่นึกว่าคุณยังเก็บเจ้านี่ไว้อยู่นะเนี่ย
สิ่งที่ Reed เห็นก็คือ …
Galactus: TAA II เป็นบ้านของข้า Reed Richards….
Galactus: ข้าจะทิ้งขว้างมันได้อย่างไรเล่า?
Galactus: เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าผู้นำสารของข้าจะกลับมาพร้อมคนอื่นๆ
Galactus: จากนั้นพวกเราจะรีบออกจากที่นี่ไปยัง Nu-World ทันที
Mr.Fantastic: คนอื่นๆที่ว่านี่ใครกันครับ?
Galactus: ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลกของเจ้า ที่มีความถี่ของรังสีแบบเดียวกับที่พบบนซากศพของข้า
Mr.Fantastic: ไม่ใช่ครอบครัวของผมรึ
Galactus: ไม่ใช่ เป็นของอีกกลุ่มนึง
Galactus: ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้ามันสมองอัจริยะระดับจักรวาล นี่นา Reed Richards
Galactus: เจ้าไม่สังเกตุบ้างเลยรึว่า พวกเราจากโลกของเจ้าไปง่ายและเร็วกว่าปกติ?
Mr.Fantastic: ผมก็เอะใจอยู่……
Mr.Fantastic: เพราะมันดูสิ้นเปลืองขัดกับ…….รูปแบบพฤติกรรมการสะสมพลังงานของคุณเลย
Mr.Fantastic: โดยเฉพาะยิ่งมารู้ว่า Surfer จะไปรวบรวมคนมาเพิ่มอีก
Mr.Fantastic: นั่นย่อมทำให้ต้องการยานพาหนะเพิ่มอีกเครื่องแน่นอน
Mr.Fantastic: แต่เมื่อมาพิจารณาถึง ข้อมูลที่ผมมีอยู่เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับของคุณที่เยอะกว่า
Mr.Fantastic: ผมจึงคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมควรทำก็คือเฝ้าสังเกตุคุณต่อไปแบบ….
Mr.Fantastic: ..เงียบๆ
(ป๊าดดดด เมพ ขริงๆ)
Galactus: ตอนนี้ – เป้าหมายที่สำคัญอันดับหนึ่งของข้า คือการป้องกันความตายผิดธรรมชาติของข้าซะก่อน
Galactus: แต่สาเหตุที่พวกเรารีบออกมาจากโลก เพราะถ้าข้ายังดึงดันจะอยู่ที่โลก
Galactus: ข้า “กลัว” ถึง ผลที่จะตามมาจากการที่ต้องเผชิญหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ต่างหาก
Mr.Fantastic: คุณกลัวเหรอ?
Galactus: สิ่งที่ปิดกั้นในหัวของ เขาคนนั้น ถูกปลดออกแล้ว
Galactus: แล้วบัดนี้พลังของเขาจะกลับมาอีกครั้งแล้ว…
Galactus: Reed Richards เราสองคนคงต้องคุยเรื่อง ลูกของเจ้า กันเสียหน่อย
คนที่ Galactus กลัวมิใช่ใครอื่น คือ บักหำน้อยคนนี้……….
Franklin: โอ้! ไม่จริงน่า
วันที่ 4
>> เวลา 20.45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก <<
ทั้ง Ben และ Johnny กำลังเล่านิทานเรื่องจริงผ่านจอกับเหล่าเด็กๆ Future Foundation ในขณะที่ Reed ไม่อยู่
Thing: โอ้ว จริงซะยิ่งกว่าจริงซะอีก! แล้วจากนั้นนะ……
Thing: ….จากนั้น หมอนั่นก็ปล่อยหมัดจูบหน้าชั้นดัง เปรี้ยงเข้าให้ เลยล่ะ!
Tong: โอ้ว….หมอนั่นต่อยหน้า The Ben!!
Korr: นี่มันผิดแล้ว! ไม่ใช่แล้ว! The Ben ไม่ควรจะโดนต่อยสิ
Mik: การต่อย Ben เป็นอะไรที่แย่กับแย่มากๆเลย!
Franklin: แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่หุ่นยนต์…
Valeria: จักรกลหรอกย่ะ
Franklin: อะไรก็ช่างเถอะ!
Franklin: แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่มันน๊อคน้ากับลุง Ben ไปแล้วล่ะครับ
Human Torch: อ่ะนะ จากนั้นคุณพ่อกับแม่ของเธอก็ไปค้นพบกับวิธีปิดมันออกน่ะสิ
Human Torch: แล้วจากนั้น…เจ้า Mad Thinker ก็โดนซัดจนหมอบ
Human Torch: และพวกเราก็ทำลายพวกอาวุธ Anti-Matter (ปฏิสสาร) ลงได้ในที่สุด
Human Torch: ต้องขอบคุณเครื่องมือของ Reed ที่ทำให้สามารถปิดเครื่องมันได้ในเวลา 4 โมงตรงเป๊ะ!
Thing: เออ ตามนั้นแหล่ะ แล้วนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอะไรเอ่ย?
Alex: เอ ไม่รู้สิครับ
Alex: สอนให้รู้ว่า ถ้าอยากจะสร้างหุ่นรบสังหารตัวไหนซักตัว
Alex: ให้ใช้อะไรที่มันประยุกต์ป็นและซับซ้อนกว่าใช้ DNA ของลิงกัง มั้งครับ
Dragon man: โอ้ อันนี้ผมเองว่าไอ้ลิงนั่นไม่น่าจะมีผลเท่ากับเรื่องตัวหุ่น
Dragon man: ที่ดันใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้มันไม่มีความเสถียรนั่นหรอกนะครับ
Dragon man: ผมว่าหันมาใช้เครื่องจักรที่ใช้พลังงานความร้อนน่าจะดีกว่า!
Wu: ประเด็นที่เจ้า Thinker เลือกใช้โมเลกุลที่ไม่เสถียรมาเป็นพลังงานตั้งแต่ตอนแรก ดูน่าคิดเหมือนกันนะ..
Bentley 23: ที่จริงเรื่องนี้ทำผมอึ้งเลยนะ
Bentley 23: ผมเคยเจอะกับคุณ Thinker มาก่อนนะครับ
Bentley 23: นอกจากจะดูกระจอกแล้ว
Bentley 23: กลิ่นปากยังเหม็นโฉ่เอามากๆด้วย
(หนูๆจ๊ะ …….พวกเอ็งถกเรื่องบร้าอะไรกันว้อยยยยย!!!)
Thing: อะแฮ่ม!! (พอเลย!)
Thing: พวกเธอนี่มันเพี้ยนได้โล่ห์จริงๆ
Thing: นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า……..
Thing: การที่พวกเธอจะโคตรฉลาด ไม่ได้แปลว่าพวกเธอจะสามารถจัดการอุปสรรคทุกเรื่องได้ ต่างหาก!!
Valeria: แล้ว….มันเกี่ยวอะไรกับพวกหนูด้วยล่ะคะ ลุง Ben
Human Torch: อู้ย ชัดแจ้งแดงเจ๋เลยว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเธอเลยจ๊า
Human Torch: เอาล่ะ รู้สึกพวกอาจะให้พวกเธออดหลับอดนอนเกินเวลาซะแล้ว
Human Torch: งั้นก็ หลับฝันดีนะ
FutureFoundation: ราตรีสวัสดิ์ ครับ/ค่ะ
พวกเด็กๆ Future Foundation ก็แยกย้ายกันไปเข้านอนกัน ส่วน Ben กับ Johnny ก็เดินย้อนมาที่ตู้เย็น
จากนั้น Johnny ก็เริ่มคุ้ยตู้เย็น
Human Torch: หิวมั๊ยเฮีย
Thing: …อะฮึ่ม…
Human Torch: เออเนาะ ถามอะไรโง่ๆ (มีหรืออาเฮียจะพลาด)
Thing: ………
Thing: แกเคยคิดอยากมีเด็กบ้างมั๊ยวะ Johnny?
Human Torch: อยากมียิ่งกว่าอะไรเลยล่ะ
Human Torch: เฮ้ยนี่ ของเฮียนี่ ทามายองเนสด้วยใช่มะ?
Thing: ฟังแล้วอี๋เลยว่ะ
Human Torch: แล้วเฮียล่ะ คิดไง? เรื่องมีเด็กน่ะ?
Thing: ชั้นพยายามจะไม่คิดถึงเรื่องนั้นวะ
Human Torch: ก็นะ ผมว่า คงไม่มีอะไรจะช่วยให้ลืมเรื่องนี้ได้เท่ากับ
Human Torch: วันดีๆเงียบๆซักวันสองวัน แล้วนอนตีพุงอยู่ในบ้านที่มีแต่พวกเด็กๆแล้วล่ะ
วันที่ 4
>> เวลา 21.47 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก <<
Anti-Priest นักพูดผู้มีความไฝ่ฝันจะหลอมรวมโลกกับ Negative Zone กำลังพูดโน้มน้าวใจเหยื่อของเขา
ที่ The Words of Anti-Priest
Anti-Priest: ตั้งแต่ทุกสรรพสิ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมา ทุกสรรพชีวิตนั้นต้องรู้จักความเจ็บปวดและรวดร้าว
Anti-Priest: ความทุกข์ทรมานที่กินเวลาหลายพันล้านปีของความเสื่อมถอย
Anti-Priest: รอยแผลเป็นที่ถูกจารึกลงไปในตัวของพวกเรา
Anti-Priest: พวกคุณย่อมรู้ดีว่า เรื่องที่ผมพูดอยู่นี้คือเรื่องจริง
Anti-Priest: เพราะ ความเจ็บปวด นั้นยังคงดังก้องกังวาลอยู่ภายในตัวเรา
Negative Zone คืออะไร?
คำตอบง่ายๆครับ...
โลกที่เราอยู่เรียกว่า Positive Zone ครับ
ส่วน Negative Zone ก็คือ โลกที่ทุกๆอย่าง ส่วนทางกับโลกที่เราอยู่นั่นเอง
ภาษาอังกฤษเรียกว่า Sub-Space คือจักรวาลที่ขนานกับจักรวาลของเรา ประมาณนั้น
ซึ่งใน Negative Zone นี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ ถูกปกครองโดย Blastaar พี่เมพหัวสิงห์โต
ยกเว้นพื้นที่ที่ชื่อว่า Level 42 ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษ ที่ถูกปกครองโดย Annihilus วายร้ายคลาสสิคของ F4 ครับ
Anti-Priest: พวกเราทุกคนต่างรับรู้ถึงเจ้าต้นตอแห่งความหวาดกลัวนี้ดี
Anti-Priest: แม้มันจะมาเพียงน้อยนิด แต่เสียงของมันก็ยังคงดังก้องหลอกหลอนจากอดีตของเรา
Anti-Priest: ดังก้องมาจากจิตส่วนลึกที่สุดของเรา
Anti-Priest: พวกเราทุกคนต่างก็กำลังจะตาย
Anti-Priest: และที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อที่จะบอกว่าความตายนั้น ไม่ใช่ เรื่องของชะตากรรม
Anti-Priest: แต่ความตายนั้นคือเรื่อง ทางเลือก ที่สามารถเลือกได้
Anti-Priest: ทางเลือกที่ผมจะขอเสนอแก่พวกคุณทุกคน
Anti-Priest: จงไปซะ
Anti-Priest: จงไปบอกข่าวดีนี้แก่คนอื่นๆ
Anti-Priest: พวกเราทุกคนจะสามารถมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์ได้!
เมื่อพูดเสร็จ Anti-Priest ก็เดินกลับไปยังหลังเวที
หลังเวทีนั้น เต็มไปด้วยบุคคลปริศนาที่คลุมผ้าเอาไว้ 3 คน หนึ่งในนั้นก็พูดกับ Anti-Priest ว่า
พี่โม่ง: ท่านต้องการพบเจ้า
แควกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
Anti-Priest ฉีกร่างจำแลงของตัวเองออกมา
เผยให้เห็นถึงร่างที่แท้จริงของเขาคือพวก Zerg เอ๊ย! เผ่า Arthrian
(เผ่าแมลงแห่งดาว Arthos ซึ่งเป็นดาวที่อยู่ใน มิติ Negative Zone ครับ)
เมื่อ Anti-Priest เผยร่างจริงออกมา เขาก็ขานชื่อ เจ้านาย ของเขา
“Annihilus”
Annihilus ถามลูกน้องของเขา ผ่านเครื่องมือสื่อสารล้ำอนาคตหลาย ว่า
“อีออออีกกก นนนานนานนน เท่าไรรรรร?”
Anti-Priest: พรุ่งนี้ครับ เจ้านาย
Anti-Priest: พรุ่งนี้ พวกเราจะทะลวง ตึก Baxter และเปิดประตู Nagative Zone ออกมา
Anti-Priest: จากนั้น Annihilation Wave (คลื่นแห่งความพินาศ) ครั้งที่สอง ก็จะเริ่มขึ้น!
Annihilation Wave
นั้นเป็นชื่อเรียก คลื่นกำลังพลของพวกแมลง Arthrian ที่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน
แสดงว่า Annihilus ต้องการใช้ประตูที่เปิดเข้า-ออก Negative Zone ที่ตึก Baxter
เพื่อนำเอากองทัพของ Annihilus มาบุกโลกนั่นเอง……ชะอ้าว! เอ๋! แบบนี้ก็แปลว่า…
Johnny, Ben และพวกเด็กๆ งานเข้าซะแล้ว!!
วันที่ 5
>> เวลา 19.07 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก <<
การประชุมระหว่างราชวงศ์ทั้งสองยุค ได้เริ่มขึ้นที่…..
อ่าวไทย!
(The Gulf of Thailand)
(ที่เขาว่าปลาชุมท่าจะจริงนะเนี่ย มากันเป็นอาณาจักรเลย เอิ๊กกกก)
อาณาจักรแอตแลนติสเก่านั้น ประกอบด้วยเผ่าสามเผ่า ได้แก่
เผ่า Mala จะมีรูปร่างคล้ายปู
เผ่า Chordai มีรูปร่างคล้ายปลาไหลมอเรย์
และเผ่า Uhari มี รูปร่างคล้ายปลา เป็นเผ่าเดียว กับ น้อง Wu กับ น้อง Vii แห่ง Fututre Foundation
(ซึ่งเผ่า Uthari นี่แหล่ะครับ ที่เป็นเผ่าผู้ปกครองครับ)
และขณะนี้ Ul-Uhar ผู้นำแห่งอาณาจักรแอตแลนติสเก่า กำลังเริ่มแถลงการณ์
Ul-Uhar: พวกข้าขอเสนอว่าให้เหล่า ขอพื้นที่ ร้อยละ 20 ในเขตรทะเลลึกที่ถูกทิ้งร้าง
Ul-Uhar: ในเขตพื้นที่ Skarka (สแกร์กา?) ภายใต้อาณาเขต Attuma (ลูกน้องของ Namor)
Ul-Uhar: แล้วขอสิทธิ์ในการเข้าออกถ้ำโบราณในเขตพื้นที่นั้นได้อย่างเสรี
Andromeda: เจ้าขอมากเกินไป!
Invisible Woman: ทุกคนใจเย็นกันก่อนนะ…
Invisible Woman: นี่ Andromeda ชั้นว่าคำขอก็ไม่เห็นมันจะมากมายอะไรเลยนี่
Andromeda: ข้าได้บอกไปแล้วว่า พวกเรายินดีจะเสียสละอะไรบ้าง
Ul-Uhar: ที่แทบจะเหมือนไม่เสียอะไรเลย!
Ul-Uhar: เรื่องนี้ข้ารับไม่ได้!
Ul-Uhar: ……และข้าก็เริ่มจะเหลืออดแล้วด้วย!
Ul-Uhar: พวกเราทุกตนต่างก็หายใจในทะเลเดียวกัน
Ul-Uhar: แต่พวกเจ้ากลับไม่รู้จักที่จะแบ่งปัน!
Ul-Uhar: เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องและครอบครองทุกๆอย่างในท้องทะเลได้หรอก!
Ul-Uhar: เจ้าต้องรู้จักประนีประนอมบ้างสิ Namor
Susan มองมาที่ Namor เพื่อให้เขาจัดการกับความขัดแย้งนี้ ซึ่ง Namor เองก็ลุกขึ้นพูดบ้าง
Namor: ขณะที่พวกเจ้าหลับไหลอยู่นั้น โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ราชาเฒ่าเอ๋ย
Namor: และมันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีเสียด้วย
Namor: ที่ข้ายอมมาประชุมในครั้งนี้ ก็เพื่อที่ข้าจะได้พบหน้าเจ้าซักที
Namor: เพื่อที่จะได้พบด้วยตาตนเองว่าอะไรที่ได้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลหลายปีก่อน
Namor: และบัดนี้ ทุกๆอย่าง…..มันก็พร้อมแล้ว
Ul-Uhar: เจ้าพูดอะไรของเจ้า?
“คำตอบของแกก็คือไอ้นี่ไง!”
“Namor อย่า!!!!”
ฟ้าววววววววววววววววววววววววว!!!!
เฮ้ยอะไรฟระ อยุ่ๆ หน้าหม้อก็เกรียนแตก ขว้างหอกใส่ฝั่งของ Ul-Uhar ทันที!
ฉึบ!
หอกปักเข้าที่ลำตัวของทหารองครักษ์ของ Ul-Uhar จนล้มลง
แต่ Namor ก็ไม่พูดพล่ำทำเพลง รีบดึงหอกแล้วเตะ Ul-Uhar จนล้มลงไปอีกคน
“ประนีประนอมเรอะ”
“รับประทานบาทาแทนซะเมิง!”
เมื่อ Ul-Uhar ราชาเฒ่าพยายามทำเอามือน้อยๆของตนปัดป้องอย่างสิ้นหวัง
แต่ทว่า Namor ก็….
ฉึก!!
อ๊อกกกกกก…ก….ก……
Ul-Uhar กลับบ้านเก่าไปในที่สุด!!
เง้ออออ!! พวกเอ็งมาเจรจาสมานฉันท์กันไม่ใช่เร้ออออ!
“ใต้ผืนทะเลแห่งนี้จะต้องมี ราชา เพียงคนเดียวเท่านั้น …”
“IMPERIUS REX คนนี้ไงว้อย!!”
ไอ้หน้าหม้อ มันบ้าไปแล้วววว!!
เอ็งคิดอะไรอยู่ฟระ!! แบบนี้……
Susan งานเข้าซะแล้ว!!
Fantastic Four #586 Three Part 4
ต่อไปถึงคราว Reed ก็งานเข้า เพราะ….
Galactus เริ่มหิวแล้ว!!
เช่นเคยครับ ราวนี้ผมมี Bonus track เอ๊ย End Credit แถมให้ครับ
เป็นเรื่องราวของ Franklin Richards และ เรื่องราวของ Anti-Priest กับหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาครับ
ถ้าพร้อมแล้วก็คลิ๊กหน้าต่อไปได้เลยจ้าาาา!!
เขียนเรื่องได้ซับซ้อนและยังสนุกไปด้วย ฮิคแมนสุดยอดจริงๆ ชาบู~~
เก่งกันเกินหน้า เกินตาพ่อกับแม่ไปแล้วน้อง (-__-“
ลูกตระกูลนี่ น่ากลัวจริงๆ
อ่านยาว แต่โคตรสนุกเลยครับ ขอบคุณที่ทำมาให้ได้อ่านกัน ชอบมากครับ อยากอ่านต่อแล้ว ><
บร้ะเจ้า Franklin -*-
เพิ่งรู้ว่าพี่เทพ Black Bolt มีเมียเป็นแก้วหน้าม้าด้วย ทั้งๆที่มีน้อง Medusa สวยอึ๋มอยู่ทั้งคนเนี่ยนะ
รสนิยมผิดมนุษย์สมเป็น Inhuman
สนุกมากมากมาก พลังแต่ละคนเมพ เมพ ทั้งนั้นเลยอ่ะ
ทั้งฉลาดโคตร โคตร กินดวงดาวได้
มีทั้งเผ่าหลายเผ่า
คุ้นๆ ว่า ตอนแรกเฮียแกมีเมดูซ่าคนเดียวแหละครับ ส่วนเมียคนหลังๆ เหมือนได้มาโดยตำแหน่ง แถมแต่ละคนนี่ก็ Inhumans มาก (- -“)
ไปค้นดูแล้วอยู่ใน FF #7 ครับ เฮียแก้ได้เมียใหม่อีก 4 คน เป็น Universal Inhumans คือกลุ่มแกเป็น Inhumans ที่พัฒนาจากเผ่าพันธุ์ชาวโลก
แต่ชุดหลังที่ไปพบกันนี่คือ Inhumans จากดาวต่างๆ แต่ละคนก็เลยเอิ่ม…
อ่าวไทย โลเคชั่นดีจริง ภูมิใจในความเป็นไทย
F4 นี่รู้สึกแทบจะเป็นตัวชูโรงให้ตัวละครอื่นใน marvel เลยแหะ อะไร ๆก็เริ่มจาก F4 ก่อนทั้งนั้น
ทั้งเอเลี่ยนครี,สกรัลล์,ป๋ากาแลคตัส,แมลงอะนิฮิลัสแล้วก็เนกาทีฟโซน-3-
แล้วมีซีรี่ย์อื่นที่ยังทะลุสวรรค์ไปหาโอดินแล้วลงดิ่งไปหาเมมฟิสโต้อีกตะหาก ลึกล้ำได้ใจ ชอบมากขอบคุณครับ
คนที่ วาบมาน่าจะเป็น Franklin Richards นะครับ ก็หน้าแรกเป็นงานวันเกิด และตอนท้าย Valeria ยังบอก HBD อีก
ย้อนเวลามาแบบนี้นึกถึง terminator(คนเหล็ก) อ่ะ