Marvel Comic : Circle of Four : Venom 13.1 : The Antithesis!

เรื่อง : ROB WILLIAMS
ภาพ : LEE GARBETT
วางจำหน่าย: 8 กุมภาพันธ์ 2012
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ด้วยแผนร้ายของ Blackheart เจ้าชายแห่งนรก ได้ทำให้ Las Vegas กลายเป็นแดนนรก และตอนนี้เหล่า Hero ทั้ง 4 ที่พยายามจะหยุดยั้งมันก็ต้องเผชิญหน้ากับเหล่า “Antithesis” ตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเล่นงานจุดอ่อนที่สุดของพวกเขาเอง!!

ปล.ถึงแม้จะอยู่ในหัวของ Venom แต่จริงๆแล้วเล่มนี้เป็น Tie-in ของ Series Ghost Rider ซึ่งนั่นก็ทำให้เดือนนี้เล่มหัว Ghost Rider หยุดพัก 1 เดือนและไปออกเดือนหน้าแทน

.
.
.
เปิดเรื่องมาที่ทางเข้าเมือง Las Vegas

เจ้าหน้าที่ตำรวจจากนอกเมืองมาตรวจสอบกรณีที่มีคนแจ้งว่ามี “ม่านพลัง” บางอย่างที่ขวางไม่ให้ใครเข้าไปใน Las Vegas ได้

เมื่อไม่ว่าทำอย่างไรก็เข้าไปไม่ได้ พวกตำรวจก็หันมาสนใจเหรียญที่ Johnny Blaze แขวนไว้ที่ป้ายทางเข้าเมืองเมื่อตอนที่แล้ว

ตำรวจ1 : มีบางอย่างที่ผิดธรรมชาติกำลังเกิดขึ้นในลาสเวกัสแน่นอน นายเห็นสร้อยที่แขวนอยู่บนป้ายนั่นไหม?

ตำรวจ1 : ด้วยการคิดอย่างมีเหตุมีผล ฉันคิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแน่ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามันคือ…

ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดจากด้านหลัง

??? : มันคือเครื่องรางที่เก่าแก่และทรงอำนาจมาก ซึ่งมีที่มาจากมิติที่อยู่ใกล้กับเรามากแต่ในขณะเดียวกันก็ห่างไกลสุดจะพรรณนา…

ตำรวจ2 : หืม?

ผู้ที่มาก็คือ Doctor Stephen Stange อดีตจอมเวทย์สูงสุด และ Daimon Hellstorm “บุตรแห่งซาตาน”

Dr.Strange : และถ้าสิ่งที่ผมได้รู้จากโลกวิญญาณเป็นจริงล่ะก็ เครื่องรางนั่นก็คือสิ่งเดียวที่ช่วยหยุดไม่ให้โลกนี้ถูกครอบครองโดยเหล่าผู้อาศัยอยู่ในนรก

Daimon : อย่าคิดมากกับสิ่งที่คุณหมอแกพูดมากเลยนะ เขาชอบพูดพล่ามยาวๆแบบนั้นแหละ แต่เรื่องนรกที่ว่านั่นเขาพูดจริงนะขอบอก

เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งตำรวจและคนขับรถบรรทุกก็รีบเผ่นไปทันที

เมื่อตัวเกะกะไปแล้ว ทั้งสองก็เข้าตรวจสอบเครื่องราง

Daimon : ฉันจะลองดูว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อจะได้เข้าไปข้างในม่านพลังนั่นได้

Dr.Strange : คุณทำไม่ได้หรอกเดม่อน เพราะสิ่งนี้จะกันไม่ให้สิ่งใดเข้าและออกทั้งนั้น ซึ่งเราก็ควรจะดีใจที่เป็นแบบนั้นนะ อืมม ผมสงสัยว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นสร้อยเส้นนี้ ผมให้มันกับฮอว์คอายเพื่อให้เขาใช้มันจับกุมสิ่งที่อันตรายมากๆ

Daimon : อะไรล่ะ?

Dr.Strange : โกสไรเดอร์น่ะสิ

(เหตุการณ์ใน Ghost Rider เล่ม 7)

ตัดมาทางด้าน Johnny Blaze ที่เข้าทำหน้าที่มอบพลังให้วงเวทย์แทน Alejandra ตอนนี้เรี่ยวแรงของเขากำลังถดถอยลงเรื่อยๆ เพราะเขาต้องใช้พลังจิตของเขาเองเข้าร่วมในการหมุนวงเวทย์ ไม่งั้นวงเวทย์จะหมุนกลับทางและดึงโลกลงไปในนรกแทน

ตัดมาที่ห้องบัลลังค์ของ Blackheart เจ้าชายแห่งนรก

ตอนนี้เหล่า Hero ทั้ง 4 ที่ประกอบด้วย Venom (Eugene “Flash” Thompson), Red Hulk (General Thaddeus E. “Thunderbolt” Ross), X-23 (Laura Kinney) และ Ghost Rider (Alejandra) กำลังเผชิญหน้ากับเหล่า “Antithesis” สิ่งที่ถูกสร้างจากกระจกเวทย์มนต์ ตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เล่นงานจุดอ่อนที่สุดของบุคคลที่ส่องกระจกนั้น

เมื่อเรียกเหล่า Antithesis มาพร้อมแล้ว Blackheart ก็สั่งให้ Gari Oyle สมุนคนสนิทไปตรวจสอบสาเหตุที่การแพร่ขยายของนรกถูกหยุดไว้

Blackheart : ทีนี้…ข้าต้องการพลังของวิญญาณแห่งความอาฆาตแค้นมาเป็นของข้า และเมื่อเจ้าชายแห่งนรกต้องการสิ่งใดก็ต้องได้มา เหล่าแอนติธีซิสทั่งหลาย! ฆ่าเจ้าพวกที่เหลือให้หมด!

ว่าแล้วพวก Antithesis ก็เข้าลุยกับ Hero ทั้งสี่จนหลุดออกมาจากหอคอย!

โดยจับคู่กันดังนี้

Ichor เจอกับ Ghost Rider
X-666 เจอกับ X-23
The Evangelist เจอกับ Venom
Encephalon เจอกับ Red Hulk

Red Hulk สั่งให้ Ghost Rider ตาม Gari Oyle ไป ซึ่งแม้จะไม่ชอบใจที่โดนสั่ง แต่เธอก็เห็นด้วยว่านั่นคือสิ่งที่ควรทำ

แล้วเธอก็รีบบึ่งไปทันที โดยมี Ichor ซึ่งเป็น Antithesis ของเธอตามไปติดๆ

Ghost Rider : เจ้าการ์กอยนั่นไม่มีทางเร็วสู้ฉันได้หรอก นี่มันเรื่องง่ายๆอยู่แล้ว

แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของ Blackheart ดังขึ้นในหัวของเธอ

Blackheart : ก็อาจใช่…แต่ก่อนอื่นนะอาเลฮันดร้า..ข้ามีข้อเสนอจะให้กับเจ้า

ตัดมาที่จุดปะทะ

Red Hulk : ไว้เราค่อยมาจัดการเรื่องการหนีทหารของแกทีหลังนะทหาร เรากำลังเจอกับแบล็คฮาร์ทอยู่ และเราต้องกลับขึ้นไปบนนั้นและ…

Venom : ได้ๆ ฉันจัดการเจ้านี่เอง นี่นายคือคู่ปราบของฉันงั้นหรือ? จริงอ่ะ?

Venom : โค๊ชฟุตบอลของฉันบอกเสมอว่าคนตัวใหญ่ชนะคนตัวเล็กกว่าเสมอนั่นแหละ และฉันก็ไม่ใช่คนเคร่งศีลธรรมเสียด้วยนะปู่ แถมนายยังดู…อ่อนแอด้วย

The Evangelist : อ่อนแองั้นเรอะ?

The Evangelist : แกรู้เรื่องความอ่อนแอเป็นอย่างดีเลยใช่ไหมล่ะ เจ้าหนู?

ทันใดนั้น The Evangelist ก็ชูคัมภีร์ในมือขึ้นแล้วหน้ากระดาษจำนวนมากก็ปลิวมาล้อมตัว Venom ไว้

The Evangelist : ก่อนอื่นเลยก็…ช่วงหลังๆมานี้แกพึ่งพาเจ้าชุดจากต่างดาวนั่นขนาดไหนแล้ว?

Venom : อะไร…แกได้ยัง…เดี๋ยว!!

เพียงไม่ถึงอึดใจ Symbiote ก็ถูกทำให้หลุดจากร่างของ Flash ไป!!

The Evangelist : ผู้อ่อนแอมักจะมองหาพลังจากสิ่งอื่นๆ ทั้งฟุตบอล, ปืน หรือซิมไบโอต…แกได้รับสิ่งต่างๆมามากมาย และแกก็เอาแต่พึ่งพาสิ่งที่ได้รับมาเหล่านั้น

The Evangelist : จากสภาพร่างกายของแก ข้าเดาว่าแกคงต้องการตัวช่วยสักอย่างอยู่เสมอใช่ไหมล่ะ?

The Evangelist : อ้อโทษที มันสองอย่างนี่นะ อย่างแรกคือเจ้าชุดจากต่างดาวนั่น…มันเป็นเหมือนเก้าอี้รถเข็นแบบซุปเปอร์ไฮเท็คของแก

ทันใดนั้นก็มีเงาดำปรากฎขึ้นข้างๆ The Evangelist และมันก็เปลี่ยนเป็นร่างของ…พ่อของเขาในวัยหนุ่ม?!

The Evangelist : อีกอย่างก็คือเหล้านี่ไง เดินตามรอยเท้าพ่อแกเลย…

The Evangelist : มันคือสิ่งที่เรารับสืบทอดมาใช่ไหมล่ะ? เป็นสิ่งที่พ่อแม่ส่งต่อมาให้เรา จากพ่อมาสู่ลูก แกคิดว่าลึกๆแล้วพวกเขารู้ว่าพวกเขาทำอะไรกับเราใช่ไหมล่ะ แฟลช?

The Evangelist : พ่อแกก็รู้จริงๆนั่นแหละว่าเขาทำอะไรกับแก ทั้งเรื่องที่เขาเมาเหล้าและทุบตีแก แต่เขาแค่ไม่สนใจเท่านั้นแหละ แทบจะไม่รับรู้ถึงตัวตนของแกเลยด้วยซ้ำ

The Evangelist : แกมันพิการทางใจมาตั้งแต่ก่อนที่แกจะเสียขาของแกไปเสียอีก

ตัดมาทางคนอื่นๆบ้าง

Red Hulk : นี่เธอ! มิสวูฟเวอรีน หรือจะชื่ออะไรก็ช่างเหอะ! นี่เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า?

จริงๆแล้ว X-23 ก็ไม่ได้ฟังจริงๆนั่นแหละ

X-23 : นี่…ที่นี่คือนรก แต่…

ตอนนั้นเองคู่ต่อสู้ของเธอก็พูดขึ้น

X-666 : เธอกำลังคิดว่าเธอมาอยู่ในนรกได้ยังไงถ้าเธอไม่มีวิญญาณใช่ไหมล่ะ?

X-666 : แหมมมม น่าดีใจจริงๆที่เธอแคร์เรื่องนั้นด้วย

แล้วมันก็เริ่มเต้น

X-666 : (พูดเป็นจังหวะเพลง) X-23 ผู้น่าสงสาร! การฆ่าคนเป็นทุกอย่างของเธอ! โตขึ้นมาในฐานะโคลนเพื่อเชือดและฆ่า! อาชญากรรมผิดมนุษย์จะทำให้คุณคลื่นไส้!

ด้วยความที่ไม่ชอบเรื่องตลกไร้สาระ X-23 จึงเอามือผลักหน้า X-666 ไปให้พ้นทาง

X-23 : หล่อนเป็นเชียร์ลีดเดอร์ผมบลอนด์แบบอเมริกันแท้ที่ฉันไม่มีวันเป็นได้ ฉันก็เข้าใจอยู่ และฉันก็ไม่คิดมากเรื่องนั้นหรอก นรกต้องหาอย่างอื่นที่ดีกว่านั้นถึงจะยั่วโมโหฉันได้ เจ้าแบล็คฮาร์ทมันขโมยเลือดของฉันไปแล้วใช้มันสร้างเป็นสัตว์ประหลาด และมันก็ต้องตายเพื่อชดใช้ความผิดนั้น

X-666 : เธอรู้ใช่ไหมว่านั่นไม่ใช่วิธีที่พวกฮีโร่เขาทำกัน? นั่นมันการฆาตกรรมนะจ๊ะ

แต่ทันใดนั้น X-666 ก็ใช้พู่ในมือฟันใส่ X-23 จนเลือดทะลัก

X-23 : อ๊า!!

X-666 : ฉันคือ “คู่ปราบ” ของเธอเพราะฉันนั้นเป็นยิ่งกว่าเธอไงล่ะ เข้าใจไหม? ฉันมีตัวตนสองด้าน ฉันมี “ความขัดแย้ง”

X-666 : ดูจากเปลือกนอก ฉันยิ้มแย้มและอ่อนหวาน ฉันรักพ่อแม่ และประธานาธิปดี และแอ๊ปเปิ้ลพาย

X-666 : แต่ข้างใต้เปลือกนอกนั้นฉันเป็นนักฆ่าที่ไร้ความปราณี มนุษย์ส่วนใหญ่นั้นต่างก็มีความขัดแย้งทั้งนั้นแหละ พวกเขาอาจไม่ใช่นักฆ่าแต่พวกเขาต่างก็มีตัวตนซ่อนเร้นที่ปิดบังไว้จากโลกอยู่

มันขว้างพู่ใส่ X-23 ซึ่งพลาดหัวเธอไปนิดเดียว ซึ่งเธอก็เห็นว่ามันไม่ใช่พู่ที่ทำจากกระดาษ แต่มันทำจากแผ่นเหล็กคมกริบที่ประกอบกันหลายสิบเส้น แถมยังหนักจนทำให้กำแพงปุ๋มลงไปได้!

X-666 : แต่เธอไม่มี “ความขัดแย้ง” เพราะเธอไม่ใช่มนุษย์ยังไงล่ะ

X-23 ยืนนิ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่มันพูด สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจมานับครั้งไม่ถ้วน…ว่าโคลนอย่างเธอนั้นเป็นมนุษย์หรือไม่?

X-666 : เธอน่ะเป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ภายนอกเต็มๆเลย เป็นตัวเลียนแบบราคาถูกของวูฟเวอร์รีน เป็นนักฆ่า

เมื่อไม่อยากจะฟังมันพูดอีก X-23 จึงออกวิ่งเข้าไปในหอคอยเพื่อไปจัดการ Blackheart

X-666 : ใช่แล้ว…ไปพยายามทำสิ่งที่เธอถนัด อย่างเดียวที่เธอทำได้ การฆ่ายังไงล่ะ

Red Hulk ที่กำลังไล่ทุบ Encephalon อยู่ก็เห็น X-23 วิ่งเข้าไปในหอคอย

Red Hulk : แม่นั่นจะไปไหนน่ะ…ยัยนั่นจะโดนฉีกเป็นชิ้นๆถ้าเข้าไปตามลำพังแบบนั้น! ยุทธวิธีน่ะจะต้องใช้ประโยชน์จากจำนวนคน เราต้องทำงานกันเป็นกลุ่ม ภายใต้การสั่งการของฉัน ให้ตายสิฉันคิดถึงสมัยอยู่ในกองทัพชะมัด

Encephalon : ฮืมมมม! ฮืมมม!

Red Hulk : พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย หลักสำคัญของการสั่งการน่ะจะต้องอาศัยเสียงพูดนะเฟ้ย

เมื่อซัด Encephalon กระเด็นไปแล้ว Red Hulk ก็โดดขึ้นสูงเตรียมจะเผด็จศึก

Red Hulk : ว่าแต่แกมันตัวอะไรกันแน่ล่ะเนี่ย? สมองงั้นเรอะ?

Red Hulk : แกมันสับสนแล้วว่ะไอ้หนู! ถ้าแกอยากเป็นคู่ตรงข้ามล่ะก็ไอ้ที่โง่น่ะมันเจ้าตัวเขียวต่างหาก ฉันน่ะเป็นพวกรู้จักใช้สมองคิดแผนการต่อสู้…

แต่ทันใดนั้นเอง Encephalon ก็ยื่นมือไปทาง Red Hulk แล้วพูดว่า

Encephalon : “หยุด”

แล้วก็ราวกับจะทำตามคำสั่งของ Encephalon ร่างของ Red Hulk หยุดนิ่งกลางอากาศ!!??

Encephalon : “ลงมาที่พื้นแล้ววิดพื้นยี่สิบที”

ทันใดนั้น Red Hulk ก็หล่นตุ๊บลงไปที่พื้นจนฝุ่นคลุ้งขโมง (ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าแกวิดพื้นด้วยหรือเปล่า)

Encephalon : “แถว-ตรง!”

เมื่อสิ้นเสียงสั่ง Red Hulk ก็ลอยกลับขึ้นไปอีกครั้ง

Red Hulk : นี่แกออกคำสั่งฉันอยู่งั้นเรอะ? ใช่ไหม?

แต่ Encephalon ไม่ตอบคำถามของเขา มันกลับปล่อย “ฝูง” ของอะไรบางอย่างออกมาจากภายในร่างของมัน

Encephalon : “รู้สึกหวาดกลัว”

Red Hulk : นั่น…พวกนั้น..มันอะไร? พวกมันเป็นแมลงงั้นหรือ? โอพระเจ้า

Encephalon : “รู้สึกจิตตก”

Red Hulk : พวกคนอื่นๆ…ไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน ไม่มีใคร…ฟังคำสั่งของฉันอีกต่อไปแล้ว ทุกคนเคยฟังฉันแต่…

Encephalon : “ร่ำไห้ถึงแม่…”

Red Hulk : แม่ครับ!!!!

ที่ด้านบนหอคอย Blackheart กำลังดูภาพการต่อสู้พร้อมกับทานของว่างไปด้วย (ไม่มีปากกินยังไงหว่า? หรือว่าถ้าอยากให้มีมันก็จะมี…ก็ปีศาจนี่นะ)

Blackheart : สนุกดีจริงๆ

Blackheart : ข้าชอบดูการเล่นงานตรงจุดอ่อนเฉพาะตัวของแต่ละคนซะจริงๆ แต่ถึงมันจะทำให้พวกบ้าตัวอื่นๆได้ แต่มันก็ไม่อาจให้สิ่งที่ข้าต้องการจริงๆสองอย่างได้ อย่างแรก : วิญญาณแห่งความอาฆาตแค้น

Blackheart : และสอง : ให้นรกแผ่ขยายไปทั่วดาวดวงนี้

แล้วมันก็ส่งกระแสจิตไปหา Ghost Rider

Blackheart : ในนรกน่ะข่าวมันแพร่ไปเร็วนะอาเลฮันดร้า

Blackheart : ข้ารู้นะว่าเจ้าทำอะไรลงไปที่นิคารากัว

Ghost Rider : ออกไปจากหัวฉันนะ!

Blackheart : แม่หนูเอ๋ย ข้าคือแบล็คฮาร์ท ข้าคือเจ้าชายแห่งนรก

Blackheart : ถ้าเจ้าต้องการจะเอาบาปที่เจ้าลบไปจากเหล่าผู้คนที่น่าสงสารนั้น มอบความเป็นมนุษย์คืนให้กับพวกเขา…

Blackheart : …เพียงเจ้าร้องขอมาข้าก็ให้เจ้าได้

Ghost Rider : แต่มีข้อแม้อยู่นิดหน่อย : ถ้าแอนติธีซิสคู่ต่อสู้ของเจ้าฉีกวิญญาณของเจ้าเป็นเสี่ยงๆได้ ข้อเสนอนี้ก็เป็นอันยกเลิก

ทันใดนั้น Ichor ก็เร่งความเร็วพุ่งชน Ghost Rider จนหล่นจากมอเตอร์ไซด์

เกร็ดจากซีรีย์ Ghost Rider

ในช่วง Fear Itself นั้น Johnny Blaze ที่เหนื่อยหน่ายกับการเป็น Ghost Rider เต็มทน ได้พบกับชายปริศนาที่ชื่อ Adam ที่เสนอว่าเขาสามารถแยกเอา Ghost Rider ออกจากตัว Blaze ได้ ซึ่ง เมื่อ Blaze ตกลง Adam ก็กระทำพิธีการจนเอา Ghost Rider ไปจากตัว Blaze ได้ ซึ่งตอนแรก Blaze ก็ดีใจกับอิสระที่ได้รับมาอย่างยิ่ง แต่ภายหลังเขาก็ถูกเยี่ยมเยียนโดย Mephisto อดีตนายจ้างเก่าว่าเขาเพิ่งจะทำพลาดครั้งใหญ่ไปแล้ว เพราะเป้าหมายของ Adam ที่เอา Ghost Rider ไปนั้นมันเป็นเรื่องร้ยแรงมาก

โดย Adam นั้นได้เอา Ghost Rider ไปใส่ให้กับ 1 ในเด็กที่เขาเลี้ยงดูมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดย Ghost Rider ได้เลือกเด็กสาวชื่อ Alejandra เป็น Host คนใหม่ ซึ่งความต้องการของ Adam ก็คือการใช้พลังของ Ghost Rider เผาผลาญ “บาป” ของมนุษย์ทั้งโลกไปให้หมดสิ้น แต่ปัญหาก็คือบาปนั้นก็คือส่วนหนึ่งที่สร้างเป็นตัวตนของคนแต่ละคนขึ้นมา การเผาผลาญบาปไปจนหมดสิ้นก็มีค่าไม่ต่างกับการทำลายตัวตนของคนๆนั้นจนเหลือแต่เปลือกที่ว่างเปล่า (ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ทำให้ Mephisto เดือดร้อน เพราะถ้าคนทั้งโลกปราศจากบาป ก็จะไม่มีใครตกนรกอีก และจะทำให้ Mephisto หมดอำนาจลง) Blaze จึงไปเผชิญหน้ากับ Adam และ Ghost Rider คนใหม่ ซึ่งแม้เขาจะไม่อาจทำอะไร Adam ได้ แต่เขาก็สามารถเกลี้ยกล่ิอมให้ Alejandra ต่อต้าน Adam และจัดการกับมันลงได้

หลังจากนั้น Blaze ก็เสนอตัวเป็นผู้ดูแลให้ Alejandra ในการสอนเรื่องของ Ghost Rider ให้เธอแต่ก็ถูกปฏิเสธ แต่สุดท้าย Blaze ก็ยังตามไปอยู่ดี

Ghost Rider : นั่นมันทำให้ฉันเจ็บได้ แกมันตัวอะไรกันแน่?

Ichor : ข้าคือโลหิตแห่งทวยเทพ!

ทันใดนั้น Ichor ก็เสียบมือดาบของมันลงไปที่พื้น ทำให้แผ่นดินแยกเป็นหุบเหว จน Ghost Rider ต้องเกาะขอบของมันไว้เพื่อไม่ให้ตกลงไป

Ichor : ข้าคือการพิพากษาอันบริสุทธิ์ยุติธรรมยังไงล่ะนังหนู โดยปราศจากซึ่งความอ่อนแออย่างมนุษย์ของเจ้า

Ichor : การชำระความแค้นแบบของเจ้านั้นมันไม่ใช่ภารกิจที่ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นแค่การล้างแค้นที่เห็นแก่ตัวแบบมนุษย์ ข้าต่างหากที่เป็นผู้ชำระล้างมวลมนุษย์ที่แท้จริง

Ichor : และเจ้าก็มีความผิดที่ต้องชดใช้มากมายนัก อาเลฮันดร้าเอ๋ย

Ghost Rider : แกพูดถูก

Ghost Rider : อาแลจันดร้าเป็นเด็กเลว

โดยที่ Ichor ไม่รู้ Ghost Rider ได้ส่งพลังจิตไปสั่งการรถของเธอ

Ghost Rider : แกอยากให้ฉันร่ำร้องขอการให้อภัยงั้นเรอะ?

Ghost Rider : ความผิดที่ฉันก่อมันไม่มีวันได้รับการให้อภัยหรอก

Ghost Rider : แกเล่นกับความอ่อนแอของผู้คน

Ghost Rider : แต่ความอ่อนแอนั่นมันไม่มีอยู่อีกแล้ว

ขณะที่รถของเธอแล่นตรงมาหา Ghost Rider ก็กระโจนขึ้นจากหุบเหว!

Ghost Rider : ใช่… แกอาจมีอำนาจเหนืออาเลฮันดร้าก็จริง

Ghost Rider : แต่อาเลฮันดร้าน่ะตายไปแล้ว

Ghost Rider กระโจนขึ้นไปขึ้นขี่มอเตอร์ไซด์ของเธอกลางอากาศ แล้วใช้ล้อที่ลุกเป็นไฟบดขยี้ร่างของ Ichor

Ghost Rider : ที่เหลืออยู่มีเพียงโกสไรเดอร์เท่านั้น!

เมื่อ Ichor พ่ายแพ้ มันก็กลายสภาพเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง

(หมายความว่ากระจกของ Blackheart สร้างพวก Antithesis ขึ้นมาจากการใช้ร่างของคนที่ถูกมันดูดกลืนเข้าไปเป็นร่างทรงให้ภาพเงาของผู้ที่ส่องมันสิงสู่นั่นเอง ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อเล่มที่แล้ว Blackheart ก็เอาคนให้กระจกดูดกลืนเช่นกัน)

Ghost Rider : เจ้านี่มันเป็นมนุษย์นี่ อย่างน้อยก็ยังเป็นอยู่แหละนะ

Ghost Rider : ทีนี้เจ้าการ์กอยนั่นไปทางไหนแล้ว?

ตอนนั้นเองเสียงของ Blackheart ก็ดังขึ้นอีก

Blackheart : นั่นมัน…น่าประทับใจมาก

Blackheart : ข้าอยากได้วิญญาณแห่งความอาฆาตแค้นมาทำงานให้อาณาจักรของข้าจริงๆ ทีนี้ถ้าข้าจะมอบวิญญาณของพวกชาวนิคารากัวคืนให้กับเจ้าเพื่อแลกกับการที่เจ้าจะทำงานเล็กๆน้อยๆให้กับข้าล่ะก็

Blackheart : เจ้าจะว่ายังไงล่ะ?

Ghost Rider ไม่ตอบคำถามของมัน และบึ่งรถต่อไป

ตัดมาที่ Dr.Strange เขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง

Dr.Strange : โอ ไม่นะ…

Daimon : เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือสตีเฟน?

Dr.Strange : ผมรู้สึกได้ถึง…

Dr.Strange : ความอ่อนแอ…

Dr.Strange : ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถหยุดการแผ่ขยายของสิ่งนี้ได้

Daimon : นรกไง…สตีเฟน นรกกำลังจะมา

เมื่อ Daimon ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หยิบตรีศูรของเขาและเริ่มพยายามหาทางฝ่าข่ายมนต์เข้าไปข้างใน แต่จะสำเร็จหรือไม่?

แม้ Ghost Rider จะสามารถพิชิต Antithesis ไปได้ตนหนึ่ง แต่พวกที่เหลืออีกสามคนดูจะสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก อีกทั้งตัว Ghost Rider เองก็ถูก Blackheart ยื่นข้อเสนอที่เกินห้ามใจด้วย พวกเขาจะผ่านมันไปได้หรือไม่?

อีกทั้ง Johnny Blaze ก็เหลือพลังที่จะทำให้วงเวทย์ทำงานได้อีกไม่นานนัก สถานการณ์ยังคงย่ำแย่…แล้วไหนยังต้องจัดการกับ Blackheart อีก!

พวกเขาจะสามารถหยุดหายนะครั้งนี้ได้หรือไม่?

โปรดติดตามตอนต่อไป : สัปดาห์หน้า!

และสำหรับหลายๆท่านที่บ่่นว่าเล่มที่แล้ววาด X-23 ไม่สวย ขอให้สบายใจได้ เพราะเล่มหน้าที่เป็น Tie-in ของ X-23 จะได้ Sana Takeda นักวาดประจำซีรีย์ X-23 ตัวจริงมาวาดให้ (ลายเส้นงามมากขอบอก)