DC Comic : Green Lantern Corps 05 : The Mean Machine!!

เรื่อง : Peter J Tomasi
ภาพ : Fernando Parasin, Scott Hanna
วางจำหน่าย: 18 มกราคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Guy Gardner ได้รู้ถึงความเป็นมาของพวก The Keeper และเขาได้รวบรวมพวกตัวแสบที่สุดของ Green Lantern Corps มาเสริมกำลัง พร้อมคิดแผนการที่จะจัดการกับพวก The Keeper และช่วย John Stewart เพื่อนของเขากลับมา!!

.
.
.
.
เปิดเรื่องมาที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps

ที่ศูนย์ฝึก Green Lantern ใหม่ Kilowog หัวหน้าครูฝึกที่เพิ่งจะกลับมารับหน้าที่เดิมกำลังพ่นน้ำลายใส่เด็กใหม่คนหนึ่งอยู่ จนกระทั่ง Guy Gardner เข้ามาหา

Guy : คิโลวอค ฉันมีเรื่องจะขอให้ช่วย…

Kilowog : นีควรจะเป็นเรื่องสำคัญนะกาย! เพราะฉันกำลังอยู่ระหว่างสอนเจ้าพวกเด็กใหม่นี่ให้รู้จักเอาชีวิตตัวเองให้รอดอยู่นะ!

Guy : เอาน่า พี่เบิ้ม เรามาเดินไปคุยกันไปดีกว่านะ

Kilowog : แล้วนายจะให้ฉันช่วยเรื่องอะไร?

Guy : ฉันอยากได้รายชื่อคนน่ะ

Kilowog : แล้วมันรายชื่อคนแบบไหนกันล่ะ?

Guy : รายชื่อของพวกตัวแสบสุดถึกที่สุดในองค์กรของเราเลยไงล่ะ

Kilowog : ไอ้แบบที่มีนายอยู่บนสุดของรายชื่องั้นสิ?

Guy : นั่นมันแน่อยู่แล้ว

Kilowog : ถ้างั้นนายก็ต้องไปหาพวกกลุ่ม “Mean Machine”

Guy : ฉันนึกว่าพวกนั้นตายไปหมดแล้วเสียอีก?

Kilowog : เปล่าหรอก ยังพอมีเหลือรอดอยู่บ้างน่ะ

Guy : แล้วฉันจะไปหาพวกนี้ได้ที่ไหนล่ะ?

Kilowog : ที่วอร์ริเออร์ไง

Guy : ฉันว่าถ้าฉันเห็นพวกแบบนั้นในบาร์ของฉันเองฉันก็น่าจะรู้นะ

Kilowog : ไม่ใช่ในบาร์ แต่เป็นข้างใต้ของบาร์วอร์ริเออร์ต่างหาก

Guy : ข้างใต้งั้นรึ?

Kilowog : พวกนั้นขุดสร้างห้องพักส่วนตัวอยู่ลึกร้อยฟุตข้างใต้บาร์วอร์ริเออร์ของนายไงล่ะ

Guy : ฉันจะไม่ขอถามก็แล้วกันว่านายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง!

แล้ว Guy ก็ไปที่ Warrior Bar บาร์เหล้าที่เขากับเพื่อนสนิทของเขา Kyle Reyner เป็นเจ้าของร่วม

เขาไปที่ประตูแล้วส่งพลังจากแหวนเข้าไปที่เครื่องรับที่หน้าประตู แล้วทันใดนั้นก็มีหญิงสาวที่สร้างขึ้นจากพลังแสงสีเขียวออกมาเปิดประตู

(เนื่องจากทั้ง Guy และ Kyle นั้นมักงานยุ่งอยู่เสมอๆ ดังนั้นจึงตั้งระบบอัตโนมัติไว้ให้ลูกค้าที่เป็น Green Lantern สามารถใช้พลังของแหวนเรียกใช้สาวเสริฟมาบริการได้)

Waitress : แหม อรุณสวัสดิ์ค่ะกาย นานแล้วนะเนี่ยที่คุณหรือแลนเทิร์นเรย์เนอร์ไม่ได้มาเปิดร้านด้วยตัวเองแบบนี้

Guy : แบบว่าฉันค่อนข้างจะยุ่งน่ะนะ แล้วเราก็ยังไม่เปิดร้านด้วยล่ะนะคนสวย

Waitress : จะให้ฉันแสดงรายการรายรับรายจ่ายให้คุณแทนผู้จัดการไหมคะ?

Guy : ฉันไม่ได้มาทำงานเอกสารหรอก ฉันมาด้วยธุระอย่างอื่นน่ะ

เขาลงไปที่ชั้นใต้ดินของร้าน

Guy : แหวน แสกนบริเวณรอบๆนี้แล้วเทียบกับแบบพิมพ์เขียวที่จอห์น สจ๊วตเขียนไว้ แสดงส่วนที่มีการต่อเติมที่ซึ่ง…

ทันใดนั้นแสงสีเขียวก็แสดงจุดที่ต่างกับในแบบแปลนขึ้นที่พื้นห้องใต้ดิน

Guy : แหม ใครจะรู้ล่ะนะ…ว่าฉันจะมาเจอปัญหารูหนูในที่แบบนี้ด้วย

Guy : ตอนที่คิโลวอคบอกว่ามีพวกนายเหลืออยู่หลายคนนี่ ฉันนึกว่าเขาล้อเล่นเสียอีกนะ

Aldo : ไม่ต้องบ่นไปหรอกน่าเจ้าหนู พวกเรายังมีเหลืออยู่มากกว่าที่แกคิดเยอะ…เพียงแต่พวกนั้นไม่อยู่ที่นี่ในตอนนี้เท่านั้นเอง

Lee : แล้วนายมีธุระอะไรกับรูหนูของเรานี่ล่ะ?

Guy : ที่จริงแล้วมันเป็นรูของฉันน่ะนะลี บาร์วอร์ริเออร์ตั้งอยู่ข้างบนของที่นี่นะ

Flint : เราก็รู้เรื่องนั้นดี แต่ไม่ต้องห่วงนะ เราไม่ว่าอะไรเรื่องนั้นหรอก

Bronchuk : ช่าย ยิ่งดีเสียอีกที่มีเหล้าให้ไปหยิบมาฟรีๆน่ะ

Guy : แล้วควันขโมงนั่นมันอะไรกันน่ะอัลโด้?

Aldo : ขาฉันมันติดไฟขึ้นมาเองเป็นบางครั้ง…ขาจริงฉันมันขาดไปตั้งแต่ตอนสู้กับพวกคันด์ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กใหม่น่ะ

Flint : รีบเข้าเรื่องที่ว่านายมาหาเราทำไมดีกว่ามั๊งเจ้าหนู

Guy : ฉันมีภารกิจพิเศษที่ต้องรับมือกับเจ้าพวกสารเลวที่เรียกตัวเองว่า “เดอะคีปเปอร์” พวกมันมีความทนทานต่อพลังจากแหวนของพวกเรา…พวกมันต้องถูกจัดการ และอย่างเร็วด้วย

Bronchuk : นายกำลังมองหาแลนเทิร์นที่เหลือเวลาหายใจอีกไม่มากและไม่มีใครจะคิดถีงเมื่อตายไปใช่ไหมล่ะหือ?

Guy : ผิดแล้วบรุนชัค ฉันกำลังมองหาแลนเทิร์นที่เก่งในการสร้างความเจ็บปวดให้ศัตรูและไม่สนว่าตัวเองจะอยู่หรือตาย…นั่นคือภารกิจของเรา และสิ่งสำคัญมีเพียงการทำให้ภารกิจสำเร็จเท่านั้น แล้วพวกนายจะเอาด้วยไหม?

Mean Machine ทั้งสี่คนมองหน้ากันอยู่ชั่วอึดใจ แล้วก็ได้คำตอบตรงกัน

Lee : แน่นอนอยู่แล้ว พวกเราเอาด้วย

แล้ว Guy ก็พาพวก Mean Machine ไปหารวมกลุ่มกับพวก Lantern ที่ร่วมภารกิจต่อสู้กับพวก The Keeper มาตั้งแต่แรก รวมถึงแขกที่ถือวิสาสะเข้ามาตั้งแต่เล่มที่แล้วอย่าง Matian Manhunter (J’onn J’onzz) แห่งทีม Storm Watch

หลังจากทำความรู้จักกันไปพอหอมปากหอมคอ Guy ก็ให้ Matian Manhunter บอกเล่าข้อมูลที่รู้มาให้กับพวกเขา

J’onn : จงเปิดใจของพวกท่านให้กับข้าซะ แลนเทิร์นทั้งหลาย….

J’onn : เรื่องมันเริ่มจากการที่เกิดปัญหาพลังงานแหวนหมดลงในภาวะฉุกเฉินหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งพวกการ์เดี้ยนได้คิดว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นที่เหล่าแลนเทิร์นจะต้องสามารถเรียกใช้แบตเตอรี่ของพวกเขาได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลายามที่จำเป็นต้องชาร์จพลังให้แหวน

J’onn : ซึ่งเพื่อการนั้นพวกเขาจึงไปยังดาวที่มีลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “อูรัค”

J’onn : ซึ่งคุณลักษณะที่พิเศษของดาวเคราะห์ดวงนั้นได้ทำให้พวกการ์เดี้ยนสามารถจูนแหวนและแบตเตอรี่ให้เข้ากับสสารเฉพาะพิเศษที่อยู่ในแกนกลางของดาวดวงนั้นได้…

J’onn : …และนั้นก็ได้สร้างการเชื่อมโยงข้ามมิติที่ทำให้แลนเทิร์นในทุกเขตอวกาศสามารถเรียกแบตเตอรี่ของตนมาหาได้ทุกที่ทุกเวลา

J’onn : แต่มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง

J’onn : ถึงแม้ว่าดาวดวงนี้จะมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการของพวกการ์เดี้ยน แต่เหล่าผู้ที่อาศัยบนดาวดวงนี้กลับแทบจะไม่มีทรัพยากรพอจะหล่อเลี้ยงชีวิตของตัวเอง

J’onn : ดังนั้นพวกการ์เดี้ยนจึงทำข้อตกลงกับคนเหล่านั้น

J’onn : พวกนั้นช่วยคนเหล่านั้นสร้างดาวของพวกเขาขึ้นมาใหม่

J’onn : ชาวดาวดวงนั้นจะได้รับสิทธิที่จะใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่เหล่านั้น ตราบที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพวกมัน ดุจดั่งคนเลี้ยงแกะดูแลฝูงแกะของเขา

J’onn : และตั้งแต่นั้นชาวดาวดวงนั้นก็ได้ถูกเรียกว่า “เดอะคีปเปอร์” (ผู้ดูแล) และมีเพียงพวกการ์เดี้ยนเท่านั้นที่รู้สถานที่ตั้งและตัวตนของคนเหล่านั้น

J’onn : จากลักษณะพิเศษของดาวดวงนั้น แบตเตอรี่เหล่านั้นได้กลายเป็นแหล่งของพลังชีวิตให้กับดวงดาว ซึ่งก็ได้ช่วยหล่อเลี้ยงผู้คนบนดาวดวงนั้นอีกต่อหนี่ง

J’onn : และเมื่อเวลาผ่านไป มันก็ได้ช่วยเสริมสร้างให้ชาวดาวดวงนั้นให้มีพลังแห่งความมุ่งมั่นสถิตย์อยู่อย่างแรงกล้าจนถึงระดับ DNA เลยทีเดียว

J’onn : …จนกระทั่งเมื่อไม่นานนักมานี้ โดยที่ไม่มีทั้งคำอธิบายหรือการเตือนใดๆทั้งสิ้น จู่ๆพวกการ์เดี้ยนก็มาริบเอาแบตเตอรี่ทั้งหมดไปจากพวกเดอะคีปเปอร์

J’onn : ซึ่งนั่นก็ทำให้ดาวของพวกนั้นค่อยๆตายไปอย่างช้าๆ

(สาเหตุมาจากการที่พวก Guardian ค้นพบวิธีที่ดีกว่าในการเก็บรักษา Power Battery โดยการให้ Lantern แต่ละคนใช้ “มิติพิเศษขนาดเล็ก” ในการเก็บ Battery เอาไว้ ซึ่งมิติที่ว่านี้จะติดตามแหวนพลังของแต่ละคนไปทุกที่ ทำให้ตัดปัญหาการที่ต้องคอยกังวลว่าจะมีใครรู้ที่เก็บรักษาและมาเล่นงานตรงจุดนี้แบบตอนที่อยู่กับพวก The Keeper ซึ่งวิธีการนี้ก็ถูกเอาไปใช้โดยพวก Lantern กลุ่มอื่นๆด้วย)

J’onn : และนั่นก็เป็นสาเหตุที่พวกเดอะคีปเปอร์ไปรุกรานดาวต่างๆเพื่อชิงเอาทรัพยากรมา และกระทำการฆ่าล้างดวงดาวเหล่านั้นไปด้วย

J’onn : นี่คือทั้งหมดที่ข้าจะให้ความช่วยเหลือพวกท่านได้แล้ว ทีนี้จงไปและต่อสู่กับพวกมันเถิดกรีนแลนเทิร์นทั้งหลาย

J’onn : พวกท่านเคยไม่อาจปกป้องคริปตัน และดาวอังคาร บ้านเกิดของข้าได้ จงอย่าให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับโลก…

แล้ว J’onn ก็จากไป ซึ่งเขาก็ได้ลบความทรงจำส่วนของการพบกันครั้งนี้จากสมองของพวก Green Lantern โดยให้เหลือไว้เพียงข้อมูลของพวก The Keeper เท่านั้น

Guy : อย่าให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับโลก… เอ่อ ถึงไหนแล้วเนี่ย? เจ้าพวกคีปเปอร์นี่ไม่กลัวพวกเรา แล้วที่นี้เมื่อตอนที่เราได้แหวนพลังนี่มา มันบอกอะไรกับพวกเรานะบริค?

Brik : มันบอกว่าเรามีความสามารถที่จะสยบความหวาดกลัวได้

Guy : แล้วสิ่งที่เจ้าพวกคีปเปอร์ไม่มีแต่พวกเรามีคืออะไรกัน บอกมาซิเชอร์ริฟ

Sheriff : แหวนพลัง แต่เราก็เห็นว่าพวกมันสามารถใช้พลังความมุ่งมั่นของมันเองเป็นอาวุธใช้ต่อสู้

Guy : ไม่ เราต้องมองให้ลึกลงไปอีก พวกมันสามารถต่อสู้กับเราได้อย่างสูสีอยู่ระยะหนึ่ง แต่ว่า…

Lee : การที่เรามีแหวนพลังนั้นเป็นการช่วยบอกให้เรารู้ว่าเราคือใคร มันได้ช่วยให้เราสามารถก้าวข้ามความหวาดกลัวได้ง่ายขึ้น

Isamot : ซึ่งนั่นก็หมายความว่าถ้าเราจะจัดการพวกมัน เราก็ต้อง…

Guy : เราต้องทำให้เจ้าพวกศัตรูที่มันไม่กลัวเรารู้สึกกลัวขึ้นมา ทีนี้จึงเหลืออยู่ว่าจะทำได้ยังไง

Aldo : ฉันพอจะบอกได้นะ นายต้องการสองอย่าง : นายต้องการระเบิดที่จะแพร่กระจายความกลัวออกไปในบริเวณกว้าง และอีกอย่างก็คือปืน อาวุธปืนจำนวนมาก

Guy : หืม “ระเบิดความกลัว” หรือ? ฉันชอบไอเดียนี้แฮะ

ตัดมาที่พวกของ John Stewart

พวก The Keeper กำลังทรมาณพวกเขาเพื่อให้พวกเขายอมบอกรหัสคลื่นความถี่ที่จะทำให้พวกมันสามารถเปิดประตูมิติไปยัง Oa ได้โดยที่ไม่ทำให้พวก Green Lantern ที่นั่นรู้ตัว เพื่อที่ว่าพวกมันจะเข้าไปแย่งชิงเอา Central Power Battery มาเป็นของตนและเอามาใช้คืนชีวิตให้กับดาวของพวกมัน

ตัดกลับมาทางด้าน Guy

เขามาที่เรือนจำ Sciencell เพื่อมาดูตัว Fatman กับ Little Boy สมาชิกของ Sinestro Corps ที่โดนจับกุมตัวมาเพราะพวกมันละเมิดข้อตกลงสงบศึก

(ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดก่อนที่ Sinestro กับ Hal Jordan จะไปจับกุมสมาชิกทั้งหมดบนดาว Korugar และเอามาคุมขังที่ Oa แฮะ)

ความสามารถของ Fatman คือมันสามารถสร้างก๊าซที่ทำให้ผู้ที่สูดมันเข้าไปเกิดภาพหลอนเห็นสิ่งที่น่ากลัวต่างๆนาๆจนฆ่าตัวตายหรือไม่ก็ฆ่ากันเอง (คิดง่ายๆก็เป็นว่าเป็นแก๊สแบบเดียวกับที่ Scarecrow ศัตรูของ Batman ใช้นั่นแหละ)

หลังจากนั้น

Salaak : นี่นายจะเอายานอินเตอร์เซ็ปเตอร์ไปทำอะไรกัน?

Guy : เพื่อประหยัดพลังงานของแหวนและเพื่อขนย้าย “สัมภาระพิเศษ” ไงล่ะ

Salaak : สัมภาระแบบไหนกัน?

Guy : แบบนี้ไงล่ะ

แล้วตอนนั้นเองพวก Hannu ก็ขนเอา Fatman กับ Little Boy ขึ้นมา

Salaak : นี่นายคิดจะเอานักโทษพวกนี้ไปทำอะไรกัน?

Guy : พาไปกินมิลค์เชคมั๊ง

Salaak : ฉันไม่ได้อนุญาตใช้เคลื่อนย้ายพวกนี้นะ แค่ความสามารถพิเศษเฉพาะของพวกมันก็กวาดล้างเมืองทั้งเมืองได้สบายแล้ว

Guy : นายไม่ได้บอกหรือ? งั้นฉันว่าเราควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษแล้วสิเนี่ย หือ?

ตอนนั้นเอง Lee ก็เข้ามาข้างหลัง Salaak

Lee : นายไม่อยากมีแขนครบแล้วหรือไงกันล่ะ ซาลาค?

Salaak : ดูเหมือนว่าพวกนายจะคลานออกมาจากเงามืดอีกครั้งแล้วสินะลี นายคงได้กลิ่นเลือดล่ะสิ

Lee : ที่ฉันได้กลิ่นคือความผิดพลาดอีกอย่างที่พวกการ์เดี้ยนทำทิ้งไว้ แล้วมันก็กลับมาเล่นงานองค์กรของฉันอีกครั้งแล้วไงล่ะ

Salaak : ฉันจะไม่ทนการไม่เคารพผู้บังคับบัญชาของนายอีกแล้ว ฉันจะไปเคลียร์เรื่องนี้กับพวกการ์เดี้ยนแน่

Guy : นายก็ได้เห็นบันทึกการสอบสวนที่ฉันส่งไปให้แล้วนี่นา นายก็รู้ว่าเรากำลังเจอกับอะไรนะซาลาค

Salaak : นั่นไม่ได้หมายความว่านายจะมาฝ่าฝืนระเบียบการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายนักโทษเอาตามอำเภอใจได้นะการ์ดเนอร์

Salaak : เจ้าพวกคีปเปอร์นี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในปัญหาร้อยพันที่เกิดขึ้นในจักรวาลนี้เท่านั้น

Guy : และเราก็กำลังจะจัดการกับปัญหานั่นด้วยทุกวิถีทางอยู่ไงล่ะ พวกการ์เดี้ยนได้มีส่วนสร้างเจ้าพวกสารเลวนี่ขึ้นมา แล้วนายจะช่วยเราจัดการพวกมันได้หรือเปล่าล่ะ?

Salaak : ก็ได้ นายทำสิ่งที่ต้องทำไปตามสบายเลย

หลังจากนั้น

ณ.ที่แห่งหนึ่งในอวกาศ สลัดอวกาศกลุ่มหนึ่งกำลังรอคอยลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าจากมัน

แต่จู่ๆพวกมันก็เห็นว่าลูกค้าของพวกมันหันหัวกลับไปอย่างด่วนจี๋

และทันใดนั้นพวกมันก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร…

พวก Green Lantern เข้าถล่มพวกโจรสลัดอย่างเมามัน

ต่างคนต่างใช้พวกโจรสลัดเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างเมามัน ในขณะเดียวกันก็หา “ของ” ไปด้วย

หลังจากถล่มยานโจรสลัดจนพังยับเยิน ในที่สุดพวกเขาก็พบสิ่งที่พวกเขากำลังตามหาอยู่

พวก The Keeper สามารถใช้พลังความมุ่งมั่นของพวกมันในการต่อต้านพลังของแหวนสีเขียวได้

แต่พวกมันไม่มีแหวนพลัง และนั่นหมายความว่าพวกมันจะไม่มีสนามพลังเป็นเกราะป้องกันตัว และนั่นก็ทำให้พวกเขาเกิดไอเดียที่จะใช้อาวุธปกติเข้าสู้กับพวกมันจะได้ผลกว่าการใช้พลังแสงสีเขียว!!

และเมื่อบวกกับความสามารถพิเศษของ Fatman กับ Little Boy ตอนนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะไปลุยกับพวก The Keeper! ได้เวลาไปช่วยเหล่าสหายของพวกเขากันแล้ว!!!

โปรดติดตามตอนต่อไป