Red Lantern #05

DC Comic : Red Lantern 05 : หลากที่มา หลายเรื่องราว

เรื่อง : Peter Milligan
ภาพ : Ed Benes, Rob Hunter
วางจำหน่าย: 4 มกราคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ศพของ Krona หายไป!? ด้วยความรู้สึกแตกตื่นและยินดีระคนกัน Atrocitus ได้สั่งรวบรวม Red Lantern ทั้งหมดให้ช่วยเขาตามหา เพื่อทีเขาจะได้ฆ่า Krona อีกครั้งด้วยมือของเขาเอง!!

ในขณะเดียวกันนั้นที่ดาวเคราะห์โลก Red Lantern คนใหม่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น!!

.
.
.

“โครน่า”

“ศัตรูของข้า จุดศูนย์รวมความเกลียดชังและความเคียดแค้นของข้า คนผู้ซึ่งสังหารเผ่าพันธุ์ของข้า ซึ่งมันก็โดนกรีนแลนเทิร์นที่ชื่อฮาล จอร์แดนฆ่าตาย”

“โครน่าหายไปแล้ว”

“ใครบางคนมาแย่งมันไปจากข้าอีกครั้งแล้ว”

“แต่เป็นใครกันล่ะ…?

หลังจากระบายความโกรธไปเล็กน้อย Atrocitus ก็ออกบินไปพร้อมเรียกชื่อคนที่เขาคิดว่าน่าสงสัยที่สุด

Atrocitus : บลีซ!!

อีกด้านหนึ่ง ที่ชายฝั่งของทะเลเลือด คนที่ Atrocitus เรียกหาก็ได้ยินเสียงตะโกนเช่นกัน

Bleez : โอ้ ช่างน่ายินดีเสียไม่มี ข้าว่าข้าได้ยินอโตรซิตัสเรียกหาข้านะนี่

(สำหรับท่านที่สงสัยถึงความแตกต่างระหว่าง Bleez ในเล่มนี้กับในเล่ม New Guardian ผมคาดว่าคงเป็นเพราะ Time-Line ของ Red Lantern เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ในเล่ม New Guardian เล็กน้อย ดังนั้นในเล่ม New Guardian Bleez จึงน่าจะยังไม่ได้ลงไปในทะเลเลือดจนได้สติปัญญากลับมา)

ทันใดนั้น Atrocitus ก็รวบคอ Bleez จนตัวปลิว

Bleez : อัคร์!

Atrocitus : ข้ามันโง่ที่หลงเชื่อเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าฉลาดแล้วงั้นสิ ข้าส่งเจ้าลงไปในทะเลเลือดให้เจ้าได้สติของเจ้ากลับมาเพื่อว่าเจ้าจะได้ช่วยเหลือข้า แต่แทนที่จะช่วยข้าเจ้ากลับ…

Bleez : อะไร? นี่ท่านพูดเรื่องอะไรกันแน่?

Atrocitus : ข้าพูดถึงโครน่า บอกข้ามาบลีซ มันอยู่ที่ไหน? เจ้าทำอะไรกับมัน?

Bleez : โครน่าหายไปงั้นรึ?

Atrocitus : เจ้าจะบอกว่าเจ้าไม่รู้เรื่องงั้นเรอะ?

Bleez : โง่จริงๆ ข้าจะเอาซากศพแห้งๆของโครน่าไปทำไมกัน?

Atrocitus : ข้าจะไม่แกล้งทำเป็นว่าข้าเข้าใจจิตใจที่มากเล่ห์ของเจ้าหรอก ข้ารู้แต่ว่า…เมื่อข้ามอบสติปัญญาคืนให้เจ้า…แล้วต่อมาศพของโครน่าก็หายไป

Bleez : ก็แค่เรื่องบังเอิญน่ะสิ

Atrocitus : ข้าอยู่มานานเกินกว่าจะเชื่อเช่นนั้นได้นะ

Atrocitus : จะมีใครอีกที่จะคิดเคลื่อนย้ายศพนั่น? จะมีใครอีก…ในเมื่อเจ้ากับข้าเป็นพวกเดียวที่สามารถใช้ความคิดได้?

Bleez : บางทีท่านอาจต้องการเพิ่มความมีสติปัญญาของท่านเองบ้างนะอโตรซิตัส เพราะท่านได้มองข้ามความเป็นไปได้อีกอย่างไป

Bleez : ถ้าหากว่าโครน่าไม่ได้ถูกใครเอาไปล่ะ? ถ้าหากว่าโครน่า…ยังไม่ตายล่ะ?

คำพูดของ Bleez ทำให้ Atrocitus ต้องอึ้งไป

ที่อีกด้านหนึงในหุบเขา ร่างลึกลับร่างหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายคืบคลาน

??? : แฮ่ก…แฮ่ก…อึก…ต้อง…ไปเรื่อยๆ…อึก…อากาศ…เบาบาง…หายใจ…ลำบาก…อึก แฮ่ก! แฮ่ก!

??? : ดะ…เดี๋ยว อึก นั่น…อึก ใช่ มันมา เจ้า…โง่…ที่น่าสมเพศนั่น…

ตัดมาที่ Atrocitus เขากับ Bleez มาที่ตั้งศพของ Krona อีกครั้ง

“มันจะเป็นไปได้รึ?”

“ข้าเห็นมันตายกับตา ข้าต่อยทะลุเลือดเนื้อของมันและได้กลิ่นศพเน่าเปื่อยออกมา”

“แต่นี่คือโครน่า นี่คือ 1 ใน Guardian of Thr Universe ผู้ที่มีชีวิตอยู่มานับล้านๆปี มีพลังมหาศาล ใครจะรู้ว่าเจ้าแก่นั่นจะมีลูกเล่นอะไรซ่อนอยู่บ้าง?”

Atrocitus : ข้าต้องการคนช่วยมากที่สุดเท่าที่จะมีได้เพื่อตามหามัน เจ้าจงไปที่ทะเลเลือดแล้วเอาซิลเลียส ซ็อก, แร็ตเช็ต และสกัลล็อกขึ้นมาซะ

Bleez : ท่านไม่รู้นี่ว่าข้างล่างนั่นมันเป็นอย่างไร ความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดของข้ามากมายรออยู่ข้างใต้นั่น

(จริงๆแล้ว Atrocitus รู้ว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนที่สร้างแหวนพลังสีแดงวงแรกขึ้นมานั้น Atrocitus ก็ลงไปแช่อยู่ในทะเลเลือดเช่นกัน)

“บลีซนั้นเป็นปัญหา นางเป็นผู้ที่มีประโยชน์กับข้าอย่างมาก แต่ข้าก็ไม่เชื่อใจนาง”

“มันเมื่อไม่นานมานี้เอง ข้าเห็นนางในภาพนิมิตรที่ข้าดึงออกมาจากเลือดของเรดแลนเทิร์นที่ชื่อสกัลล็อก”

“น่าเสียดายที่ภาพนิมิตรที่เห็นนั้นไม่ชัดเจน…มันพร่ามัวเกินกว่าจะรู้ชัดได้…”

Atrocitus : นั่นมันเป็นปัญหาของเจ้า…เจ้าต้องรับมือมันด้วยตัวเอง ที่นี้ไปเอาตัวเรดแลนเทิร์นสามคนนั้นแล้วกลับมาช่วยข้าตามหาโครน่า

Bleez : นี่ท่านต้องการให้ข้าไปตามตัวพวกที่ท่านอาจเพิ่งส่งไปตายพวกนั้นจริงๆรึ?

Bleez : …หรือว่าท่านพยายามจะกำจัดข้าไปให้พ้นๆทางกันแน่? บางทีท่านอาจหวังไว้ว่าครั้งนี้ข้าจะไม่กลับขึ้นมาอีกก็ได้

Atrocitus : พอได้แล้ว!

ว่าแล้ว Atrocitus ก็จับหน้า Bleez กระแทกพื้นให้หยุดพูดเสียที

แล้วก็โยนไปกระแทกก้อนหิน

ขณะที่ Bleez กำลังนอนเจ็บอยู่ Dex-Starr แมว Red Lantern ก็เดินเข้ามาหา

Bleez : เด็กซ์-สตาร์…เจ้านายสุดที่รักของแก…เล่นงานข้า…บ่อยเกินไปหน่อยแล้วนะนี่…

ซึ่งเมื่อได้ยิน Bleez พูดว่านายของมัน Dex-Starr ก็ขู่ฟ่อขึ้นมาทันที

หลังจากนั้น Bleez ก็ลงไปในทะเลเลือดตามที่ Atrocitus สั่ง

“หลังจากที่ลงมาแล้ว ทะเลเลือดก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าที่ข้ากลัว มันไม่ได้เจ็บปวดเหมือนกับครั้งแรก”

“การที่ข้าเคยลิ้มรสของทะเลเลือดนี้มาแล้วดูจะทำให้ข้ามีภูมิคุ้มกันขึ้นมา”

“ทะเลนี้ลึกมาก แต่บางอย่างได้ชักนำข้าไปยังพรรคพวก โดยคนแรกที่พบคือแร็ตเช็ต”

“เมื่อเราขึ้นมาที่ผิวน้ำ ข้ารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง มีประกายบางอย่างกลับคืนมาสู่ร่างกายของเขา”

“ข้าพอจะรู้ว่าเขากำลังประสบกับอะไรอยู่”

ในหัวของ Ratchet เขารำลึกถึงอดีตที่เขาโดนลงโทษจากการละเมิดกฎของดาวของเขาที่ห้ามการติดต่อกับผู้อื่น”

เขาโดนขังเดี่ยวโดยที่โดนตัดรยางค์แขนขาทิ้งทั้งหมด เขาโดนบังคับกรอกอาหารเพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพื่อให้รับความทุกข์ทรมาณต่อไป

ผ่านไปหลายปี จิตใจของเขาก็เริ่มถดถอย เริ่มเห็นภาพหลอน และหลอมรวมกลายไปเป็นความเกลียดชังต่อโลกของเขา ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง!!

เมื่อถึงจุดที่เขาไม่สามารถแยกความจริงกับภาพหลอนได้อีกต่อไป ความโกรธของเขาก็ขึ้นสู่จุดที่ไม่เคยมีมาก่อน และมันก็ได้ดึงดูดสิ่งหนึ่งมา…

และด้วยรยางค์ใหม่ที่งอกขึ้นมาโดยเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นไปได้ยังไง…เขารับเอาสิ่งนั้นมา…และชีวิตใหม่ของเขาก็เริ่มขึ้น

ตัดมาทาง Atrocitus เขากำลังออกบินไป

“ช่างไร้ซึ่งชีวิตจริงๆ แม้แต่สำหรับดาวยาซมาลต์แห่งนี้ ในด้านมืด ด้านกลางคืนแห่งนี้”

“ข้าเห็นรอยเท้าอยู่ข้างล่างนั่น เป็นก้าวช้าๆ ชิดๆกัน”

“มันจะเป็นร่องรอยแบบที่คนที่เพิ่งฟื้นจากความตายจะทำกันงั้นรึ?”

“ข้าเห็นรอยลงน้ำหนักเท้า รอยลากเท้า ร่องรอยของชีวิต”

“ชีวิต! มันยังไม่ตายจริงๆ!”

“จิตใจของข้าลิงโลดกับความคิดนั้น เพราะจริงๆแล้วข้าอยากให้มันยังไม่ตาย ข้าอยากให้มันฟื้นคืนชีพ”

“เพื่อข้าจะได้ฆ่ามันกับมือของข้า เพื่อจะได้มองตามันยามที่ข้า…”

ขณะที่ Atrocitus กำลังคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆเขาก็โดนลอบโจมตีจากด้านหลัง!?

ในกลุ่มควันฝุ่น มีร่างลึกลับร่างหนึ่งที่โจมตีเขาอยู่ Atrocitus ที่กำลังอารมณ์คึกสุดขีดก็เข้าโจมตีร่างนั่น แต่เมื่อเขาจะเข้าถึงตัวมัน ก็มีเลือดสาดใส่หน้าเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง

Zilius Zox : …มืด…มันมืดมิดไปหมด…

Ratchet : บอกข้ามาหน่อยสิบลีซ ข้าจำไม่ได้…ว่าทำไมเรามาอยู่ที่นี่? ข้าคิดว่าเราถูกรวบรวมมาอยู่ที่นี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่างใช่ไหม?

Bleez : ใช่แล้ว เรามีจุดประสงค์แน่ พวกเราเรดแลนเทิร์นนั้นมีภารกิจที่ต้องทำอยู่ เราถูกสร้างขึ้นเพื่อการแก้แค้น เป็นความยุติธรรมอันป่าเถื่อนเพื่อเหล่าผู้ที่ถูกทำร้ายและกดขี่

Ratchet : น่าสนใจ แล้วใครจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครสมควรจะโดนลงโทษกันล่ะ?

Bleez : ก็พวกเรานี่แหละ

Ratchet : เจ้าจะบอกข้าว่า เราจะเป็นทั้งผู้พิพากษา…และเพชรฆาตไปพร้อมๆกันงั้นสิ?

Zilius Zox : เฮ้ย แร็ตเช็ค หุบปากไปได้แล้ว ข้าชอบแนวคิดเรื่องการชำระแค้นนะ มันเรียบง่ายและตรงไปตรงมาดี ถ้าข้าหาตัวพวกสารเลวที่มันทำร้ายข้า ข้าก็ไม่ต้องการใครที่ไหนมาพิพากษาพวกมันให้ข้าหรอก

Zilius Zox : แต่เดี๋ยวนะ…มันมีอีกคนหนึ่งอยู่ข้างล่างนั่นด้วยกันกับพวกเรานี่นา เจ้าตัวที่มันดูหน้าเละๆน่ะ…

Bleez : เจ้าพูดถึงสกัลล็อก ข้ายังหาเขาไม่พบ

ที่ด้านล่างของทะเลเลือด Skallox กำลังตะเกียกตะกายอยู่ในทะเลเลือด เขานึกถึงอดีตตอนที่เขาโดนเจ้านายของตัวเองโยนเข้าไปในเตาหลอมราวกับเป็นขยะ

เขารำลึกถึงความเจ็บปวดทรมาณในตอนที่เปลวไฟแผดเผาร่างของเขา

เขาจำได้ว่า ความเจ็บปวดจากเปลวไฟนั้นมันหายไปอย่างรวดเร็ว…เพราะเขาโกรธแค้นจนลืมความเจ็บปวดไปสิ้น!!

เขาโกรธของเขานั้นไม่ได้มุ่งไปสู่เจ้านายของเขาที่หักหลังเขา แต่มุ่งสู่ตัวเขาเอง!! เขาโกรธแค้นตัวเองที่ไม่รู้เท่าทันว่าเจ้านายจะหักหลังเขา! เขาโกรธแค้นความโง่เขลาของตัวเขาเอง!!

และความโกรธแค้นอันรุนแรงที่ข้ามพ้นเหตุและผลก็ได้เรียกสิ่งหนึ่งมา…

ตัดมาที่ปัจจุบัน ในที่สุด Bleez ก็เอาตัว Skallox ขึ้นมาจากทะเลเลือดจนได้

Skallox : ข้าระ…รับใช้เขา ข้าฆ่าเพื่อเขา…เขาหักหลังข้า…ข้า ผู้ที่รับใช้เขาอย่างซื่อสัตย์มาตลอด…

Bleez : ข้ารู้สกัลล็อก บางครั้งจักรวาลนี้มันก็ห่วยแตกแบบนั้นแหละ

Ratchet : จากที่ฟังเจ้าบ่นเมื่อกี้นี้ ข้าคิดว่าเจ้าคงเป็นนักฆ่างั้นสิ?

Skallox : นักฆ่า, นักทรมาณ, ผู้เชี่ยวชาญการทำลายจิตใจคน เป็นมือดีที่สุดเลยล่ะ…

Ratchet : แล้วเจ้าก็ยังได้รับแหวนพลังสีแดงด้วยงั้นรึ?

Bleez : แล้วเจ้ามีปัญหาอะไรงั้นรึแร็ตเช็ค?

Ratchet : ข้ารู้สึกผิดหวังมาก เพราะดูเหมือนว่าคนชั่วก็มีความโกรธที่รุนแรงไม่ต่างกับผู้บริสุทธิ์ และคนชั่วก็สามารถถูกเลือกให้ครอบครองแหวนพลังสีแดงได้

Ratchet : ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าเราจะมาทำอะไรที่นี่ ไม่ว่าเราจะมีภารกิจใดก็ตาม เราก็ไม่ควรจะเอามันมาปนกับความยุติธรรมใดๆทั้งสิ้น

Zilius Zox : ตั้งแต่ข้าได้สมองของข้ากลับมา เจ้าก็ทำให้มันปวดไปหมดด้วยคำพูดพล่ามไร้สาระของเจ้า ทีนี้จงหุบปากไปซะ ไม่งั้นข้าจะโยนเจ้ากลับลงไปในทะเลเลือดนั่น

Ratchet : อึ๊ก!

ทันใดนั้น Atrocitus ก็ผลัก Zillius Zox ออกไป

Atrocitus : ข้าจะบอกให้พวกเจ้ารู้ว่าเราจะทำอะไร เราจะตามล่าเจ้าอาชญากรที่ชื่อโครน่ากัน

แล้ว Atrocitus ก็ชาร์จพลังกับ Central Power Battery พร้อมกับกล่าวคำสาบานของ Red Lantern Corps

Atrocitus : ด้วยเลือดและความโกรธสีแดงฉาน ที่ควักออกมาจากศพที่พึ่งสิ้นชีพไป…

Atrocitus : พร้อมด้วยความโกรธแค้นอันเหลือประมาณของพวกเรา…เราจะเผาผลาญเจ้าให้สิ้น…นั่นคือชะตากรรมของเจ้า!

“ข้ารู้สึกถึงความร้อนอันแผดเผา”

“ข้ารู้สึกถึงความโกรธอันรุนแรงมหาศาล…จากสถานที่ซึ่งแหวนพลังสีแสงวงหนึ่งกำลังมุ่งไปหามัน”

“ในที่แสนไกลไปในอวกาศ มันมาจากเผ่าพันธ์ที่มีความโกรธแค้นอยู่มากมาย…ที่อาศัยบนดาวเคราะห์เล็กจ้อยดวงนั้น…”

ที่ดาวเคราะห์โลก ในเขตอวกาศ 2814

ในเมือง Little Ockdon ประเทศอังกฤษ

John กำลังมองดู Raymond น้องชายของเขาโดนตำรวจพาตัวไป

{เขาบอกตัวเองว่าเขาพยายามจะช่วยแล้ว เขาทำทุกสิ่งที่จะทำได้แล้ว}

{บางทีนี่อาจเป็นการดีต่อน้องชายของเขาก็ได้ มันจะเป็นบทเรียนให้กับเขา}

ทันใดนั้น Raymond ก็ขัดขืนการจับกุม และนั่นก็ทำให้พวกตำรวจเริ่มซ้อมเขา

{เสียงกระดูกแตกหักนั้นมันราวกับจะก้องกังวาลไปทั่วจักรวาล}

{ตัวจอห์นนั้นมีความโกรธอยู่เสมอ ทั้งต่อสำเนียงท้องถิ่นเชยๆของเขาเอง ทั้งต่อพ่อของพวกเขาที่ทอดทิ้งพวกเขาไป}

{เขาใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมาพยายามจะควบคุมมัน ผลักดันมันลึกลงไปในจิตใจของเขา เก็บซ่อนมันไว้ด้วยการอ่านหนังสือและการเรียน}

{เขาได้ยินเสียงทุบตี ได้ยินเสียงกรีดร้อง}

{แต่เขาก็ช่วยอะไรน้องชายของเขาไม่ได้}

{ก็แล้วทำไมเขาถึงไปช่วยน้องของเขาไม่ได้กันล่ะ?}

{ทำไมเขาไม่ยอมให้ตัวเองแสดงความโกรธแค้นออกมากันล่ะ?}

{เขารู้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น}

{ตอนนั้นเองเขาก็ได้รู้}

{เขาสามารถเดินหนีไปได้ แต่เขาก็ยังได้ยินอยู่ และมันจะดังอยู่ในหัวเขาไปตลอด}

{เสียงกระโหลกของน้องชายของเขาถูกทุบจนแตก}

{เสียงที่น้องชายของเขาเปล่งออกมาตอนที่ชีวิตของเขาหลุดลอยไป}

{ตอนนั้นเองเขาก็ได้รู้ตัว}

{ว่าเขานั้นมันเป็นคนชี้ขลาด}

{ขลาดกลัวเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับความโกรธของตัวเอง ขลาดกลัวเกินกว่าจะช่วยน้องชายของเขาเอง}

{เขารู้สึกได้ว่ากระแสคลื่นที่ไม่อาจหยุดยั้งได้กำลังก่อตัวขึ้นภายในตัวเขา}

{ความโกรธแค้นและความเกลียดชังตัวเขาเองพุ่งพล่าน}

และตอนนั้นเอง “สิ่งนั้น” ก็ลงมาจากฟากฟ้า

{และในที่สุด}

{หลังจากผ่านมายี่สิบสองปี…จอห์น มัวร์ก็ไม่ต้องเก็บซ่อนความโกรธของเขาอีกต่อไปแล้ว}

[จอห์น มัวร์ แห่งเขตอวกาศ 2814]
[เจ้ามีความโกรธแค้นอันยิ่งใหญ่อยู่ในหัวใจของเจ้า]

และตอนนั้นเอง Red Lantern คนใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น!!

โปรดติดตามตอนต่อไป

15 thoughts on “Red Lantern #05

  1. 13Hatesong

    รอมานาน สนุกมากสมการรอคอยครับ แต่ไม่รู้ว่า เรด คนใหม่ จะ มีบทบาทมากรึเปล่า

  2. BaaMzS

    นึกอยู่แล้วว่าศพหายต้องโทษบลีซ กัดกันอยู่นี่เนอะ

  3. RedRaven

    นึกว่า คนน้องนะนี่ ที่จะเป็น RL

    ไหงเป็นคนพี่ซะ งั้น

    บทเยอะ แน่ ดูจาก เวลามนุษย์ เป็น แลนเทิรน์ วีรกรรมเยอะทุกราย

  4. Aone

    คนเขียนทำให้คนอ่านแล้วรุสึกแค้นตามตัวละครได้ดีจริงๆ

  5. oatslomo

    พี่ได้เฉยเลยแหะ หน้าตาดูเนิร์ดไปรึปล่าว 55

  6. enigmazombie

    ผมหล่ะเสียวหัวนี้จะโดนยุบเป็นรายต่อไปจริงๆเลย ขนาดผมชอบเรดแลนเทิร์นมากยังคิดว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เลย+เดินเรื่องค่อนข้างช้ามากถ้าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นออกรายอาทิตย์จะไม่บ่นเลย ว่าแต่ทำเจ้าตัวกลมป็อกนั่นตอนลงทะเลเลือดไม่มีภาพอดีตให้ดูหว่าหรือเก็บไว้เซอไพรส์

  7. seventoon

    เดินเรื่องช้าไปนิด แต่ บลีซดดนอโตรซิสคุง ทำร้าย ผมนึกว่า 2 คนนี้ กิ๊กกันซะอีก

    พวกแหวนแดงซาดิสจัง

    แหวนแดงคนแรก บนโลกถ้าไม่นับ เมร่ากับเจ้าแมวแล้ว นี่คือคนแรกใช่ไหมเ่อย

  8. Tatoo

    เอาล่ะเว้ยย เเหวนเเดงที่เป็นมนุษย์มาเเล้ว เเต่ชุดรู้สึกไม่เท่ เอาซะเลย

  9. DOL

    เฮ้ย นี่มัน มนุษย์ธรรมดาคนแรกเลยมั้งที่ได้กลายเป็น Red Lantern นะนั่น

    อ่านแล้วแอบแค้นแทนเหมือนกัน ทำไมอยู่ๆตำรวจถึงต้องตีน้อง Raymond จนตายเลยฟระ!?

  10. BoatmasterZZZ

    เดี๋ยวเราอาจจะได้เห็นมนุษย์มีครบทุกสีเลยก็ได้ แล้วรวมตัวเป็นขบวนการเซนไต 55+

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *