DC Comic : Green Lantern : New Guardians 04 : ปริศนาที่ยิ่งลึกลับยิ่งขึ้น
เรื่อง : Tony Bedard
ภาพ : Tyler Kirkham, Harvey Tolibao, Batt
วางจำหน่าย: 28 ธันวาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
กรณีการขโมยแหวนจาก Lantern กลุ่มต่างๆอาจมีอะไรมากกว่าที่คิด เมื่อ Lafleeze เผยว่ามันเป็นเพียงบทโหมโรมของเรื่องใหญ่ระดับจักรวาลครั้งใหม่!!
.
.
.
เปิดฉากมาที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps
Lafleeze กับ Sayd Guardian ที่เป็นข้ารับใช้ของมันปรากฎตัวขึ้นที่หอประชุมของเหล่า Guardian ขณะที่พวกเขากำลังจะจัดการ Kyle Reyner กับคนจาก Lantern กลุ่มต่างๆที่มาทวงเอาแหวนพลังที่โดนขโมยมาคืน
Ganthet : ลาฟลีซ! ครั้งนี้เจ้าล้ำเส้นไปแล้ว!
Ganthet : เจ้าต้องชดใช้กับการรุกล้ำหอประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ของเราด้วยชีวิตของเจ้า!
Larfleeze : อะไรกัน ไม่มีอะไรจะพูดกับคนรักเก่าผู้ทุกข์ทนของแกบ้างเลยรึไง?
Sayd : โอ กานเธทผู้หลงทางที่น่าสงสารของข้า พวกการ์เดี้ยนได้ทำให้ท่านกลายเป็นผู้ไร้ซึ่งวิญญาณเหมือนกับพวกนั้นไปแล้ว แม้ตอนที่ข้าอยู่บนโอคาร่าอันห่างไกล ข้าก็ยังรู้สึกได้ถึงตอนที่พวกเขาพรากเอาอารมณ์ความรู้สึกไปจากท่าน…แต่เมื่อมาเห็นแววตาที่ไร้ซึ่งแสงสว่างของท่านตรงๆเช่นนี้…
Ganthet : ดวงตาของข้ามันไม่สำคัญหรอกเซดย์ และเจ้าก็ไม่ใช่พวกของเราอีกต่อไปแล้ว
Ganthet : บอกข้ามาหน่อยซิลาฟลีซ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าการเอานางมาที่นี่จะทำให้ข้าเกิดหวั่นไหวได้น่ะ?
Larfleeze : =เชอะ= ไม่ใช่หรอก…
Larfleeze : ข้าเอาการ์เดี้ยนคนรับใช้ของข้ามาด้วย เพราะข้าคิดว่ามันคงจะน่าสนุกดี…
Larfleeze : ที่จะได้ดูหล่อนซัดพวกแกให้กลิ้งโค่โร่ยังไงล่ะ!!
Larfleeze : ออเร้นท์แลนเทิร์นทั้งหลาย! จัดการเจ้าพวกตัวจิ๋วสีฟ้านี้ซะ! พวกมันเรียกตัวเองว่า “การ์เดี้ยน” (ผู้พิทักษ์) แต่พวกมันนี่แหละคือตัวอันตรายที่สุด!!
ขณะที่ Lafleeze กับลูกสมุนกำลังปะทะกับพวก Guardian ทางด้าน Kyle ก็ได้สติขึ้นมาพอดี
Kyle : …อึ๊ก…ลาฟลีซ…?! พวกการ์เดี้ยน…เพิ่งจะจัดการพวกเราทุกคนได้ง่ายๆ แล้วก็คิดว่าแกจะสู้กับพวกนั้นตามลำพังได้งึ้นรึ?
Larfleeze : ข้าก็ไม่ได้กะจะทำแบบนั้นหรอก! ข้ากำลังกะให้พวกการ์เดี้ยนใหม่ของข้ามาร่วมวงด้วยต่างหาก!
Guardian : นี่แสดงว่าลาฟลีซคือคนที่ส่งแหวนพลังพวกนั้นไปหาแลนเทิร์นเรย์เนอร์…เป็นแผนเพื่อหลอกล่อเราให้ไม่ทันระวังการโจมตีของมัน!
ขณะนั้นเองพวก Lantern คนอื่นๆก็เริ่มลุกขึ้นมากันแล้วเช่นกัน
ขณะที่พวก Guardian เริ่มโต้ตอบกลับพวก Orange Lantern ทันใดนั้น Sayd ก็มุ่งไปหา Kyle
ขณะที่ Saint Walker ใช้แหวนพลังสีฟ้าชาร์จพลังให้แหวนพลังสีเขียวของ Kyle Sayd ก็มาถึงตัวเขาพอดี
Sayd : แลนเทิร์นเรย์เนอร์!
Sayd : ท่านต้องการรู้เหตุผลที่แหวนพลังเหล่านั้นเลือกท่านหรือไม่?
Kyle : ก็…อยากรู้อยู่น่ะนะ แต่ว่า…
Sayd : ถ้างั้นเราก็ต้องรีบไปจากที่นี้เดี๋ยวนี้ ยิ่งเรามัวเสียเวลาสู้อยู่ที่นี่ โอกาสของเราก็…
ทันใดนั้น Sayd ก็โดนโจมตี ซึ่งคนที่ทำก็คือ Ganthet นั่นเอง
Ganthet : ความรู้สึกที่ข้าเคยมีให้นางเป็นแค่ความคุ้มคลั่งชั่วคราว แต่ตอนนี้ข้ากลับมาเป็นอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว…
เมื่อเห็นเช่นนั้น Kyle ก็รี่เข้าหา Ganthet ทันที!
Kyle : กานเธท ไม่ว่าพวกนั้นจะเปลี่ยนคุณเป็นอะไรไปแล้วก็ตาม ผมก็ให้คุณฆ่าเธอไม่ได้หรอก
Ganthet : ช้าก่อนไคล์ ฟังข้าก่อน
Ganthet : แหวนพลังเหล่านั้นแตกสลายเป็นผุยผงเมื่อตอนที่เจ้าพยายามจะรวมพวกมันเป็นหนึ่ง แต่พลังงานบางส่วนก็ยังคงเหลืออยู่ในตัวของเจ้า
Ganthet : มันไม่เหมือนกับสิ่งใดที่พวกเราเคยเห็นมาก่อน ข้าเห็นเมล็ดพันธ์ที่ยิ่งใหญ่กำลังลุกไหม้อยู่ในตัวเจ้า ข้ารู้ดีมาตลอด
Ganthet : จงอยู่ที่นี่แล้วให้เราศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า
Ganthet : จงเชื่อในตัวข้าอีกครั้งเถอะ และเจ้าก็จะยังคงกลับไปทำหน้าที่ของเจ้าอย่างมีเกียรติ์เช่นเดิมได้
แต่คำตอบของไคล์คือ
Kyle : จากนี้ไป ฉันขอเลือกอนาคตด้วยตัวฉันเอง!!
(โปรดสังเกตุว่าตอนที่ Kyle ใช้พลัง มีพลังแสงสีอื่นๆปรากฎออกมาด้วย แสดงว่าที่ Ganthet พูดว่าพลังของแหวนวงอื่นๆยังหลงเหลือในตัวเขานั้นเป็นความจริง)
เมื่อซัด Ganthet กระเด็นไปแล้ว Kyle ก็รีบไปหา Munk เพื่อให้เขาช่วย Teleport พวกเขาทุกคนไปจากที่นี่
แล้วพริบตาต่อมาพวกเขาก็มาปรากฎที่ดาวเคราะห์ Okaara ในเขตอวกาศ 2828 (ดาวที่อยู่ของ Lafleeze)
แต่การเคลื่อนย้ายนี้ดูจะกินแรงของ Munk เป็นอย่างมาก
แต่ในบรรดาคนที่โดนพามาก็มีคนที่ไม่พอใจที่ไม่ได้สู้จนรู้ผลอยู่ 2 คน คือ Bleez จาก Red Lantern Corps และ Arkillo จาก Sinestro Corps
ว่าแล้ว Arkillo ก็มุ่งไปจะเล่นงาน Munk แต่ Saint Walker ก็เข้ามาขวาง!!
ทันใดนั้นแหวนพลังสีฟ้าก็ส่องแสงเข้าอาบร่างของ Arkillo
[ล็อคเป้าหมาย]
Saint Walker : ช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด…และความเกลียดชัง…
Saint Walker : …ไม่อยากเชื่อว่าซิเนสโตรจะให้คนผู้นี้ดูแลองค์กรให้เขา
Saint Walker : ทว่า แม้แต่สัตว์ร้ายก็มีจิตวิญญาณได้
แล้วแสงสีฟ้าก็ก่อรูปเป็นร่างของ Sinestro
[อาร์คิลโล จงหยุดซะ…]
[จงเปิดปากของเจ้า และให้ฉันดูเครื่องหมายของความอับอายของเจ้า]
[เจ้ามองกูลมันฉีกลิ้นของเจ้าออกไปเมื่อตอนที่เจ้าต่อสู้กับมัน]
[เจ้าทำเพื่อฉัน เพราะเจ้าเห็นว่ามันไม่คู่ควรที่จะควบคุมองค์กรของฉัน]
[และแม้เจ้าจะพ่ายแพ้ เจ้าก็ทำถูกต้องแล้ว]
ขณะที่ Arkillo หยุดนิ่ง แสงสีฟ้าก็ช่วยรักษาลิ้นที่เสียไปคืนให้กับเขา
[จงลุกขึ้นได้แล้วอาร์คิลโล เจ้าไม่ต้องแบกรับความอับอายอีกต่อไปแล้ว]
Arkillo : แกตั้งความหวังไว้สูงเกินไปนะบลูแลนเทิร์น…ที่ใช้รูปเหมือนของซิเนสโตรแบบนั้น
Saint Walker : ข้า…ข้าไม่ได้เป็นคนที่เลือก…
Saint Walker : แหวนพลังสีฟ้านี้จะแสดงภาพสิ่งที่ท่านต้องการออกมา พวกเราไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรจนกว่าแสงแห่งความหวังจะแสดงมันออกมา
Arkillo : ฮึ่ม…
(Arkillo เป็น 1 ในคนสนิทของ Sinestro และเป็นคนที่จงรักภักดีกับ Sinestro ที่สุด และรับหน้าที่ดูแลองค์กรในตอนที่ Sinestro ไม่อยู่ ซึ่งเพราะเขามาทำการตามหาแหวนพลังสีเหลืองที่โดนขโมยมาจึงทำให้เขาไม่รู้เรื่องที่ Sinestro กับ Hal ไปบุกดาวเคราะห์ Korugar ในเล่ม Green Lantern)
เมื่อจัดการเสร็จไปเรื่องหนึ่ง Saint Walker ก็หันไปหาคนที่ดูจะยังมีอารมณ์ร้อนอยู่อีกคนหนึ่ง
Saint Walker : บลีซ แหวนสีแดงนั่นทำให้จิตใจของท่านขุ่นมัว ทำให้ดวงตาของท่านถูกบดบังด้วยความโกรธและความเกลียดชัง ให้ข้าช่วยรักษาความมีสติให้ท่านเถอะ…
แต่ Bleez ดูจะไม่ต้องการ
Bleez : ไม่!!
(Bleez โดน Atrocitus บังคับเรียกเอาสติและความทรงจำมาแล้วในเล่ม Red Lantern ซึ่งถ้าหากเธอโดนอาบแสงสีฟ้าเข้าไปอีกก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เธอจึงไม่ขอเสี่ยง)
Fatality : แม่นั่นไม่ยอมช้าลงเลยนะเนี่ย
Munk : งั้นเราก็ควรจะรีบจัดการธุระของเราให้เสร็จก่อนที่นางจะพาพรรคพวกกลับมาที่นี่จะดีกว่า
Kyle : เฮ้ เราทิ้งเจ้าตัวนั้นไว้ที่โออาร์นี่นา…! เจ้าตัวที่ปลอมเป็นแหวนพลังสีส้มนั่นน่ะ?
แต่ Larfleeze ก็ไขข้อข้องใจให้ Kyle ทันที
Larfleeze : แกไม่ได้ยินที่ข้าบอกไว้ก่อนหน้านี่รึไง? องค์กรของข้าน่ะอยู่กับข้าเสมอนั่นแหละ
เพียง Lafleeze ดีดนิ้วมือ Glomulus สมุนร่างพลังงานของมันก็ปรากฎขึ้นมาทันที
Larfleeze : การ์เดี้ยนของข้า! บอกเจ้าพวกลิงนี่ซิว่าพวกมันต้องทำอะไร!
แล้วพวกเขาก็ตาม Sayd ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
Sayd : ตอนนี้เราอยู่เหนือวังของเจ้านายของข้า ตามข้ามาที่ข้างล่างนี้เถอะ แล้วข้าจะได้บอกพวกท่านว่าใครกันที่ส่งแหวนพลังเหล่านั้นไปหาแลนเทิร์นเรย์เนอร์
Sayd : เมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ ในปราการของออเร้นท์แลนเทิร์นนี้ พลังงานลึกลับบางอย่างได้พยายามจะดึงแหวนพลังสีส้มไปจากมือของท่านลาฟลีซ
Larfleeze : ข้าสามารถจะต่อต้านมันได้เพราะข้ามีแบตเตอรี่ของข้าติดตัวเสมอ แต่ก็เกือบไปเหมือนกัน…
Fatality : =แฮ่ก= กลิ่นที่นี่สุดทนจริงๆ…!
Larfleeze : อย่ามาจับของๆข้าก็แล้วกัน!
Sayd : หลังจากที่นายของข้าสามารถต่อต้านพลังลึกลับนั่นได้ ข้าก็ใช้โทรจิตของข้าตรวจสอบดูและรู้สึกได้ว่าสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับแลนเทิร์นจากองค์กรอื่นๆด้วย ซึ่งแลนเทิร์นเหล่านั้นไม่สามารถต่อต้านมันแบบเดียวกับนายของข้าได้ ท่านลาฟลีซได้ปลอมแปลงกโลมูลัสให้เป็นแหวนพลังสีส้มแห่งความโลภเพื่อให้เขาสามารถติดตามแหวนที่โดนขโมยเหล่านั้นไปยังผู้รับพวกมัน
Sayd : ในขณะที่ข้าก็ตามไปค้นหาต้นทางของพลังประหลาดนั่นจนถึงศูนย์กลางของกาแล็คซี่แห่งนี้
Sayd : ตอนที่ข้าไปถึง ก็มีคนอื่นๆไปอยู่ที่นั่นแล้ว…เหล่ายานรบที่ทรงพลังที่สุดจากอาณานิคมระหว่างดวงดาวต่างๆนับสิบ ที่ถูกดึงดูดมาด้วยปรากฎการณ์ประหลาดระดับที่ทรงพลังแทบไม่น่าเชื่อนี้
Sayd : หลุมดำยักษ์ที่อยู่ใจกลางกาแล็คซี่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นบางอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน
(ที่ใจกลางของ Galaxy ส่วนใหญ่ รวมทั้งทางช้างเผือกด้วยจะมีหลุมดำขนาดยักษ์ที่แรงดึงดูดทรงพลังขนาดที่ทำให้ดาวนับล้านๆดวงทั่วทั้ง Galaxy หมุนรอบตัวมันได้)
Sayd : มันกลายไปเป็น “หลุมขาว” รอยแตกของกาลอวกาศ ที่คายเอาสสารจากอีกจักรวาลหนึ่งออกมา
(มีทฤษฎีที่ว่ากันว่าหลุมดำนั้นมีแรงดึงดูดที่เป็นอนันต์อยู่ภายใน และมันทำให้ห้วงมิติบิดผันจนเชื่อมต่อไปยังจักรวาลคู่ขนานได้ แต่ก็ยังเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น เพราะยังไม่มีวิธีที่จะพิสูจน์ได้)
Sayd : ข้ารู้สึกถึงบางอย่างอยู่ภายในนั้น บางอย่างที่ทรงพลังมหาศาล
Sayd : และตอนนั้นเองข้าก็รู้สึกว่าแรงดึงดูดกำลังบิดเบี้ยวเมื่อ “สิ่งนั้น” เริ่มปรากฎออกมา…
Sayd : …มันเป็นยานอวกาศที่มีขนาดเทียบเท่ากับทั้งระบบสุริยะ
Sayd : เหล่ายานรบและยานพิฆาตที่อยู่รอบตัวข้าดูราวกับเป็นของเล่น ไม่สิ เพียงแค่เศษผง เมื่อเทียบกับความใหญ่โตของสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเช่นนั้น
Sayd : และในที่ใดที่หนึ่งในยานยักษ์นั้น ข้าสัมผัสได้ถึงตัวตนบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวจนข้าต้องรีบหยุดการใช้โทรจิตทันที
Sayd : หากพวกท่านต้องการที่จะรู้ว่าใครคือผู้ขโมยแหวนพลังของพวกท่านไป และหยุดยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก นั่นก็คือที่ๆจะให้คำตอบแก่พวกท่าน
โปรดติดตามตอนต่อไป : กับการสำรวจยานพาหนะขนาดมหายักษ์ที่ถูกเรียกว่า “Orrery” และสิ่งที่โดยสารมันมา!!
ว้าว Green Lantern มีเรื่องให้มันส์ทุกครั้งซิน่า 🙂
ซี่รี่เเหวนนี้น่าติดตามที่ซู็ดๆๆๆๆ
Larfleeze แกทั้งฉลาดทั้งเก่งผิดคาดแฮะ- -“
มันจะฉลาดเกินไปแล้วแฮะ
เนื้อเรื่องเยี่ยมครับ จะได้เห็น kyle สวมแหวนหลากสีแล้วเป็นซุปเปอร์แลนเทิร์นอีกรึเปล่าเนี่ย
ฮา Arkillo เหมือนมาเชื่องไปเลยถ้ามีหางมันคงกระดิกหางแล้ว
แต่Larfleeze เล่มนี้สุดยอดเด่นกว่าKyleอีก
ปล.งงเรื่องbleez สรุปว่าเธอพูดรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องนี้
เมื่อตะเกียงคิดจะสู้หลอดไฟ
ตอนแรกเดาไว้ว่าลาฟลีซจะเป็นคนแจกแหวนซะอีก เดาผิดแฮะ
ลาฟรีซ เล่มนี่แสดงความฉลาดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ชอบที่กาเดี้ยนโดนด่าจริงๆ สร้างแต่เรื่อง
ตอนหน้ารวมกลุ่มแล้วสินะ
นี่มันงานใหญ่ชัดๆ มันส์ยาวๆแน่ๆ
จริงๆแล้ว ยานอวกาศขนาดยักษ์นั้นมีชื่อจริงๆว่า เดดสตา่ร์ แล้วคงไม่ต้องบอกว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร 55+
(ดาร์กเวเดอร์มาแล้ว)
มหากาพย์สงครามจะกำเนิดขึ้น จนจักรวาลพังเป็น แถบแถบ
หรือเปล่า
จักรวาลคู่ขนาน ? Anti matter universe หรือไงหว่า … คนโดยสารยาน Orrery คงไม่ใช่ Anti-Monitor นะวุ้ย – -“
Larfleeze : ออเร้นท์แลนเทิร์นทั้งหลาย! จัดการเจ้าพวกตัวจิ๋วสีฟ้านี้ซะ! พวกมันเรียกตัวเองว่า “การ์เดี้ยน” (ผู้พิทักษ์) แต่พวกมันนี่แหละคือตัวอันตรายที่สุด!!
^
^
^
ชอบประโยคนี้มาก ๆ มันโดนจริง ๆ
ชอบ ๆ Glomulus
ขบวนการหลากสีเริ่มเป็นรูปร่างแล้ว งานนี้ศึกระดับแกแลคซี่
สงสัยคือ ไอ้ตัวที่อยู่ข้างในสิ่งก่อสร้างนั้นจะตัวใหญ่ขนาดไหน เพราะหลุมดำใหญ่กว่าโลกหลายแสนเท่า แลนเทิร์นคงเล็กกว่าฝุ่นสำหรับมัน >.<
ป.ล. แต่ถ้าได้ตัวข้างในใหญ่กว่าคนไม่มาก มันไปไนในยานที คงต้องวาร์ปลูกเดียว
สุดยอด นี่ท่าทางจะมันส์ระดับ blackest nightเลยนะนี่
Larfleeze ขโมยซีนอย่างแรงเลย
ส่วน Orrey นี่ น่าติดตามมากกว่าใครอยู่ในยานน่าจะเป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง Anti-Monitor รึเปล่า!!!
7คนนี้จะเป็นguardianใหม่เหรอ?