I,Vampire #3 : สหาย
เรื่อง : Joshua Hale Fialkov
ภาพ : Andrea Sorrentino, Marcelo Maiolo
วางจำหน่าย: 23 พฤศจิกายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
สงครามระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ได้เริ่มตัน แอนดริว แบนเน็ตเองก็ไม่อาจสู้ศัตรูตามลำพังได้
****
หมายเหตุ ขออภัยจากความเข้าใจผิด ฉบับนี้ Constaintin ยังไม่ปรากฏตัวออกมา
****
ตีห้า ห้าสิบสองนาที ย่านดาวน์เทาว์ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์
ชีวิตผู้คนนับล้านๆต่างหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ด้วยฝีมือพวกมัน เหล่าผู้บุริสุทธิ์ในช่วงสงครามกลับไม่รู้ถึงมันเลย
ตีสี่ ห้าสิบสองนาที บริษัทนายหน้าโคเฮ็นจำกัด และ ร้านยาง ร้านชางเหล็ก เมืองสตาร์ซิตี้
หลังจากเลิกพเนจร ก็ผ่านมาได้ห้าปีมาแล้ว ความสงบสุขหวนคืนสู่ปวงชน
ตีห้า ห้าสิบสองนาที ร้านโดนัทสวรรค์แห่งการลิ้มลองรสชาติ เมืองโคสท์ซิตี้
สิ่งหนึ่งสิ่งที่ทุกคนรู้มาซึ่งถือเป็นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง และ ความหวังจากใจลึกๆ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ…
ความสงบสุขหายวับไปกับสายลม
ตีสอง ห้าสิบสองนาที ไนท์คลับ Apollo’s Landing ลอสแองเตลิส
หนึ่งเดียวที่จำเป็นต้องมีได้ก่อความขัดแย้งกับผู้ที่เป็นที่ต้องการของกลุ่ม… และผู้ที่เป็นต้องการของชนกลุ่มน้อยจะนำทัพเข้าตีใส่ผู้จำเป็นต้องมีของชนกลุ่มใหญ่…
มีผู้คนนับร้อยๆต่างหายสาบสูญในเวลาไล่เลี่ยกันถึงสี่เมือง
ข่าวทีวีก็ต่างออกมารายงานข่าวถึงการหายตัวไปของผู้คน ทั้งรัฐบาลและจัตจิสลีก ก็เริ่มลงมือสืบสวนถึงสาเหตุ
จากนั้นเรื่องที่คาดไว้จะเกิดขึ้น
จะมีการนองเลือด เสียเลือดเนื้อ ชีวิตของผู้บริสุทธิ์จะถูกช่วงชิงไป
แต่กระนั้นย่อมมีความหวังเสมอ
เพราะมีเหล่าวีรบุรุษ
แต่ทั่วทั้งโลกยังไม่รับรู้ถึงตัวตนของบุคคลผู้้ช่วยเหลือพวกเขาไว้ได้ เหตุผล เรื่องราวก็ได้เริ่มขึ้น
ผมมีนามว่าศาสตราจารย์จอห์น ธอตัน และผมอยากกล่าวคำขอบคุณกับพระองค์ทุกวี่ทุกวัน ที่พระองค์ทรงประทานแอนดริว เบ็นแน็ตบุรุษนี้มาให้
เขาอธิบายเรื่องนั้นกับผม และผมก็ไม่เคยเข้าใจ
เพราะมันไม่เหมือนกับที่หนังฉายเลย
ว่าพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นสัตว์ร้ายไร้หัวใจไปซะทีเดียว
ความจริงก็คือ เขานั้นเจอะเหตุการณ์นั้นแค่หนเดียวเอง
ความหิวถือเป็นเรื่องใหญ่ มันก็เป็นแรงกระตุ้นเหมือนกับอันอื่นๆ เขาเชื่อมั่นว่า สามารถอดกลั้นกับความหิวได้
แวมไพร์ก็เหมือนกับพวกเรา ชนหมู่มากมักเป็นผู้ตามมากกว่าจะเป็นผู้นำ
แอนดริว ได้ปีนขึ้นจากท่อระบายน้ำ เพื่อตามหาคนที่รักษาบาดแผดเขา
Professor John : คุณแอนดริว!
Andrew :ชะ ช่วยชั้น ที…
นี่ก็เกือบสามสิบห้าปี นับตั้งแต่รู้จักกันมา ผมไม่เคยเห็นแอนดริวบาดเจ็บสาหัสเท่านี้มาก่อนเลย
ไม่ว่าเขาจะผจญกับสิ่งใด เขาชนะเสมอมา
ผมก็ได้แต่สวดภาวนาให้เป็นเช่นนั้นเสมอ
อพ้าตเม้นต์ ย่านบุชานาน อาร์ม ซานฟรานซิสโก ในปี 1979
Professor John โดนเหล่าแวมไพร์รุมล้อมเครื่องรางป้องกันตัวช่วยเขาไม่ได้เลย ของขลังไม่มีผลต่อแวมไพร์เลย
Professor John : พวกแกสังหารหมู่มาเท่าไหร่แล้วล่ะ?
แวมไพร์ตนหนึ่ง : ก็เป็นร้อยๆไงล่ะ! พวกมันมาตอมเรายังกับผึ้งเล้ยว่ะ!
คืนที่ผมได้พบเขาเป็นครั้งแรก เขาช่างไม่ตรงกับคำบรรยายในนิยายวิกเตอร์เรียเลย และเป็นอะไรที่มากกว่านั้นอีก
Professor John : พวกแกให้สัญญากันแล้วนี่ ให้เซ็กซ์เสพย์อย่างสุขสรรค์ แต่กระนั้นแกกับจับพวกคนไปกินซะแทนนี่ซี่!
แวมไพร์ : ผิดล่ะ! เราจะดูดกันหลังจากสุขสรรค์กันเสร็จแล้ว จุดสุดยอดนี่มันช่างน่าเย้ายวนยิ่งนัก!
แวมไพร์ : มาม๊ะ
Professor John : ไป๊! อย่าเข้ามา! ชั้นบอกว่า!
และเขาก็เสียท่าให้กับแวมไพร์
แวมไพร์ : เอาล่ะ ชู่วว์ซะที ข้าเกลียดเหยื่อตอนที่มันพูดไม่หยุดไม่หย่อน
Andrew : เอามือโสโครกของแกให้พ้นตัวเขาซะ
ทว่าก็มีเสียงบุรุษหนึ่งแทรกเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
Professor John :โอ้ ขอบคุณ สวรรค์
แวมไพร์ : คุณปู่นี่หน่า!คุณปู่มาเยี่ยมหนูด้วยนี่!
Professor John : แย่กว่าเก่าอีก แย้ว
Andrew : แมรี่เคยบอกรึยังว่าชั้นคนนี้เกลียดการถูกเรียกแบบนั้นแค่ไหนฮึ?
เขาร่ายเพลงดาบหั่นร่างแวมไพร์สองตัวออกเป็นเสี่ยงๆ
ผมไม่เคยเห็นการเคลื่อนไหวแบบที่เขาทำมาก่อน
การเคลื่อนไหวที่ดุจดั่งสัตว์ป่าอีกทั้งความเที่ยงตรงในการฟันอีก
แวมไพร์แต่ละตนก็ล้มตายจากไปทีละตัว พวกมันมองเขาด้วยสายตาความตัณหาและขยะแขยงในคราวเดียวกัน
เขาคนนี้น่าทึ่งยิ่งนักเชียว
แวมไพร์ : ปู่คิดใช่ไหมว่าพวกเรามีกันแค่นี้ห๊า? เรารวมตัวกันเป็นกองทัพสมาพันธ์เลยนะ!
Andrew : ที่จริงชั้นเพิ่งเสียบพวกมันทุกตนในบ้านหลังนั้นด้วยลิ่มหมดแล้วล่ะ เพราะงั้น ก็อย่างที่รู้กัน ไม่มีกองทัพสมาพันธ์แถวนี้อีกแล้ว
แวมไพร์ : อ้าว ฮ่วย
เมื่อรู้ว่าพรรคพวกของตนถูกจัดการเรียบ ก็มีทางเลือกเพียงทางเดียวคือหนีโลด
ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันที่แวมไพร์ตนหนึ่งจะเป็นเพื่อนสนิทของผม
กระนั้นผมก็โชคดีมากเหลือหลายที่ได้เป็นเพื่อนกับคนอย่างเขา
กับมาช่วงเวลาปัจจุบัน
แอนดริวได้ตื่นขึ้นพรวดมาทันทีหลังจากที่บาดแผลหายดี
Professor John : แอนดริว เจ้าปลอดภัยแล้ว อยู่บ้านแล้วล่ะ
Andrew : เราต้องไปต่อแล้ว
Professor John : ไปที่ไหนล่ะ?
Andrew : ก็ไปหยุดพวกมันไงเล่า!
Professor John : หยุดพวกมันทั้งหมดเลยหรือ? แล้วเจ้ากับกระผมจะมีหนทางทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ?
Andrew : ก็แค่ไม่กี่หลักร้อย บวกหัวหน้าไปด้วย ส่วนที่เหลือ ที่ถูกจับไป เช้านี้ยังไม่เปลี่ยนหรอกนะ ไม่ทั้งหมด เรายังมีสิทธิ์ช่วยผู้คนได้อยู่
Professor John : ขนาดเจ้ายังยืนเกือบไม่ไหวเลย
Andrew : ชั้นไม่มีเวลาเหลือ…
Professor John ยื่นหนังสือพิมพ์ที่ออกข่าวการหายสาบสูญไปของคนทั้งสี่เมือง
Professor John : แล้วก็ไม่ได้มีแต่ไม่กี่หลักร้อยตน
Andrew : โอ้ คุณพระช่วย สี่ เมืองเลยรึ? ได้ไงกัน?
Professor John : เจ้าเป็นคนบอกข้าเอง
ระหว่างสนทนากัน แอนดริวก็สวมใส่เสื้อพร้อมเตรียมอาวุธไว้ลุยกับแวมไพร์
Andrew : แมรี่เล่นเราแล้วล่ะ ชั้น เธอแอบสร้างกองทัพใต้จมูกชั้นเลย
Professor John : กระนั้นจะหายังไงล่ะ? เจ้ามีจิตที่เชื่อมต่อกับผู้สืบสายโลหิตของเจ้ารึ?
Andrew : ชั้นก็นั่งไคร่คิดมาตลอด ก็คงใช่แหละ แต่ปเท่าที่ดูแล้วมีไม่ต่ำกว่าห้าร้อยตนที่ยังเหลือรอดเช้านี้ต้องนับเมืองอื่นๆเพิ่มอีก
Professor John : เจ้าคิดว่าสามารถหาพวกมันพบได้งั้นรึ?
Andrew : อย่างน้อยชั้นก็รู้ถึงแก่นพวกมันก็เพียงพอต่อการแกะรอยแล้วล่ะ จะมาด้วยไหมล่ะหรือจะ?
ผมทุ่มเวลาเรียนรู้มาทั้งชีวิตเพื่อจะเกลียดเจ้าแวมไพร์
พวกมันมีจุดยืนอะไร พวกมันคิดจะทำอะไร พวกมันอยู่กันได้อย่างไร
แต่รัศมีบางอย่าง ที่แผ่ออกมาจาก ชายผู้นี้… คือสิ่งดีๆ
ตอนที่ผมพบเค้า ผมรู้เลยว่าจะสู้เคียงข้างเค้าจนกว่าชีวิตเราจะมอดม้วย
Andrew : ที่นี่แหละ
ไม่ได้คิดหรอกนะที่ตัวผมยอมเลิกราเพียงเพราะรู้ว่าเรื่องที่เขาต้องเสียสละอะไรไปบ้างที่ทำให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้
Andrew : ระวังตัวแล้วก็ทำตัวให้เงียบเฉียบด้วยล่ะ
ตัวผมรู้ดีว่าห้ามแม้แต่จะเอ่ยชื่อเธอ
ในตัวเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความเกลียดชัง
แย่ยิ่งกว่าความรักใดๆ
ความรักบริสุทธิ์ที่ไม่วันตายจาก
ทั้งสองลงไปทางรถไฟใต้ดินร้านแห่งหนึ่งที่คาดว่าเคยเป็นที่อยู่ของแวมไพร์
ทว่านั้น จู่ๆก็มีธนูพุ่งเข้าหาหัวใขแอนดริว ยังดีที่เขาจับไว้ได้ทัน
??? : ตายซะ! เจ้าสัตว์ประหลาด
Andrew : อะไรกันวะ…
สาวน้อยนักล่าได้ยิงธนูพุ่งเข้าหาศัตรู แอนดริวนั่นเอง
??? : ตายซะ เจ้าสัตว์ประหลาย ตายไป๊เลย!
แอนดริวแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าพร้อมยกแขนรับธนูแทนศาสตร์จารย์จอห์น
Andrew : หมอบลง
Andrew : ยุติเสียที! ข้าไม่ได้เป็นตัว อย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ
??? : เหรอ?
Andrew : อ๊าก!
??? : แล้วทำไมถึงแพ้น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ได้ล่ะ?
หญิงนักล่าแวมไพร์หยิบขวานเพื่อหวังจะเผด็จศึก
??? : แล้ว ก็จำไว้ซะ ดีจริงๆที่ได้รู้จักเจ้าในหลายๆอย่าง แต่ถึงเวลาที่ต้องพูดว่าลาขาดแล้วล่ะ
แต่ศาสตร์จารย์จอห์นก็ห้ามไว้ได้ทัน
Professor John : เราไม่จำเป็นต้องลงมือถึงขั้นนี้หรอกนะ หนูน้อย
??? : อย่ามาจับชั้นนะ!
Professor John : หยุดเหอะ พี่ขอร้องนะ
??? : เจ้านี่มันแวมไพร์นะ! แล้วก็ยังแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าให้เห็นชัดๆอีก อีกทั้งยังปล่อยไอน้ำได้… หัวชั้น
Andrew : ข้าอยากให้เจ้าสงบสติอารมณ์ลงก็เท่านั้น
Andrew : มองด้วยใจ อย่ามองด้วยตา เข้าใจไหม?
??? : ฉะ…ฉัน
Andrew : เธอสัมผัสได้ว่าข้าแตกต่างจากคนอื่น ใช่ไหม?
??? : ค…ค่ะ
Andrew : โอเค บอกชั้นมาทีสิ ว่าเจ้าเจอที่นี่ได้ยังไง
??? : ฉันก็แกะรอยแวมไพร์มาไง แต่ครั้งที่มาถึงนี่ พวกมันก็ม้วนเสื่อหนีแว๊บไปแล้ว ฉันก็เลยตัดสินใจรอพวกมันออกมา
Andrew : เป็นหนูน้อยผู้น่ายำเกรงมากเลยนะ ใช่ไหมล่ะ?
Professor John : อย่าเล่นตัวหน่อยนักสิ แอนดริว
??? : คุณแม่เป็นคนสอนฉัน ว่าเรากำลังตามหาตัวที่ฆ่าคุณพ่อ
Professor John : เธอไปได้ไกลกว่าฉันอีกนะ
Andrew : ชั้นก็ซักสงสัย ไอ้ที่
Andrew : เคยมีตาเฒ่าสุภาพบุรุษรูปหล่อคนนึงที่ยืนอยู่ตรงนั้นฆ่าแวมไพร์ไปสิบสองตนทั้งๆที่ไม่มีตอกลิ่มหรือขวานอยู่เลย
Professor John : ก็แบบ ผมจะตระเตรียมอุปกรณ์น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่แบบไว้ราดแบบวงกว้างได้ คงเจ๋งน่าดู
??? : งั้นพวกคุณ ก็เหมือนว่า…ร่วมกันสินะคะ
Professor John : ใช่แล้ว เราทำงานร่วมกันน่ะ
Andrew : อืม ไม่เห็นเข้าใจเลย พวกมันจะไปไหนกันแน่? อืม
Andrew : ทุกรอยนำเรากลับไปยังสถานทีตอนใต้
เมื่อเข้าไปข้างในทุกอย่างมืดมาก
Professor John : ผมเองก็คาดไว้เช่นกัน ก็คง ใช่แหละ
Andrew : งั้นก็ ดีเลยที่เธอทิ้งโน้ตไว้ให้ชั้น
Professor John : ผมมองไม่เห็นเลย
Andrew : คุณ เอ่อ ….
Tig : ฉันชื่อทิก
Andrew : ทิกหรือ???
Tig : ก็ใช่สิ ทิก มีปัญหาไรรึไง?
Andrew : เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ก็จะไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่เธอมีไฟฉายพกติดตัวบ้างไหม?
แทนการตอบ ทิกก็ได้เปิดไฟฉายส่อง
รอยเลือดที่วาดต่อกันเป็นสัญลักษณ์ค้างคาว คำบอกใบ้ของแมรี่ พร้อมข้อความที่ถูกเขียนทิ้งไว้
แล้วเจอกันที่นั้น ที่รัก
Tig : งั้นก็ได้เวลาออกเดินทางแล้วสิแนะ?
Andrew : ก็คงเป็นอย่างงั้น
Tig : อยากจะไปก็อตแธมมานานแล้วมากแล้วล่ะ
ทั้งสองหันกลับมามองหญิงนักล่าแวมไพร์
Tig : อะไรล่ะ?
แอนดริวขนของจำเป็นขึ้นรถกระบะ ซึ่งทิกก็ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราต้องออกพเนจร แอนดริวกลับไปเก็บของ
เขาดึงดูดผู้คนให้มาหาเขา เปรียบเป็นพรสวรรค์ได้เลย
แต่ก็ว่ากันตรงๆ อำนาจครอบงำก็ถือเป็นหนึ่งในพลังของเขาเช่นกัน
เด็กหญิงคนนี้ที่อยากฆ่าเขาให้ตายเมื่อห้านาทีก่อน กลับอยากร่วมออกเดินทางกับเขาไปด้วย
ผมทำความรู้จักเผ่าพันธุ์ของเขามานานเกินกว่าสามสิบมาแล้ว ผมอยู่ร่วมกับเขา
เผ่าพันธุ์เค้าจะอยู่จะตายยังไง
ขณะที่แอนดริวและสหายของเขามุ่งหน้าไปยังนครก็อตแธม บนรถไฟขบวนหนึ่ง แมรี่ ราชินีนองเลือด ก็เข้ายึดขบวนนั้นไป
ผมเรียนรู้สิ่งๆนั้นด้วยตนเอง
ผ่านงานวิจัยและการศึกษา สิ่งๆนั้น ที่ไม่เคยบอกใคร
อย่างเช่นว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อแวมไพร์อยู่อย่างยาวนานเกินสามร้อยปี
หรือวิธีเดียวที่จะทำลายแวมไพร์อาวุโสได้ก็มีเพียงตัวมันเลือกที่จะตายอย่างเต็มใจ
หรือแวมไพร์ผู้เป็นบิดาเผ่าพันธุ์ยอมตายอย่างเต็มใจ
ผมไม่รึอาจตั้งคำถามกับตัวเองได้ว่า หากเขารู้สิ่งนี้แล้วว่าเขาจะเป็นฝ่ายยุติเรื่องราวต่างๆได้ ด้วยวิธีการเพียงแค่หันลิ่มตอกใส่ตัวเขาเอง
แอนดริว แบนเน็ต เป็นเพื่อนสนิทของผม
แต่หากจำเป็นที่ช่วยให้ทำลายเผ่าพันธุ์แวมไพร์ได้ล่ะก็ ผมจะเป็นคนลงมือสังหารเขาเอง
ก็ได้แต่สวดภาวนา ขอให้เขาเข้มแข็งพอที่จะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย
ทั้งสองต่างมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันคือนครก็อตแธม!! เวทีการต่อสู้ที่เตรียมรอรับทั้งสองคนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ฉบับต่อไป The Blood & The Brit และแขกรับเชิญ Constantine
ชอบเล่มนี้มากๆครับ ได้เห็นตัวละครใหม่ๆเพียบ
เล่มหน้ามันแน่ๆ
แขกรับเชิญคอนสแตนติน? แล้วแบทแมนล่ะ ไม่เฝ้าเมืองเหรอ – -?
มาอ่านก่อน ทิก เนี่ยว่าที่นางเอกใหม่อ๊ะเปล่า moe นิดนิดนะ 55555+
อะไรๆที่เลวร้าย ไปเกิดที่ก็อตเเธมทั้งนั้น – –