CAPTAIN ATOM #3
เรื่อง : J.T. KRUL
ภาพ : FREDDIE WILLIAMS II
วางจำหน่าย: 16 พฤศจิกายน 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
แฟล็ชมาเยือน… แต่เขามาดีหรือมาร้ายกันแน่?
..
ซีแอทเทิ่ล
เราต่างก็มีช่วงเวลาเช่นนั้นในชีวิตของพวกเรา ชั่วเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นและความตาย
สิ่งใดกันที่หยุดยั้งหายนะ? เป็นเพราะโชคช่วย? เพราะอัชฌัตติกญาณ? … หรือเพราะพระเจ้าคุ้มครอง?
ชายคนหนึ่งเกือบจะลื่นตกจากตึกสูง แต่เพราะ “เหตุ” บางอย่างเขาจึงไม่ตกลงไป
แอ็ตแลนต้า
แล้วอีกหลาย ๆ เรื่องที่เราไม่อาจอธิบายได้ล่ะ? เรื่องที่ไม่อิงทั้งกฏเกณฑ์และเหตุผลเหล่านั้น
หญิงคนหนึ่งพยายามจะช่วยลูกชายที่ถูกคานเหล็กทับ ทันใดนั้นเธอก็ยกมันออกไปได้ราว “ปาฏิหารย์”
ฮูสตั้น
เมื่อผู้ที่สมควรตายกลับรอดชีวิต? ผู้ไร้ศรัทธาจะเรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าอะไร?
วายร้ายกลุ่มหนึ่งสาดกระสุนใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทันใดนั้นกระสุนก็กลายเป็นไออย่าง “ไร้เหตุผล”
นี่ใช่เรื่องที่ผมควรจะก้าวก่ายหรือเปล่า? ผมควรจะช่วยพวกเขาจากผู้อื่นหรือไม่? ควรจะช่วยพวกเขาจากตัวพวกเขาเองหรือไม่? ขอบเขตอยู่ตรงไหนกันแน่?
ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องการรังสรรค์อันสมบูรณ์แบบเท่าไหร่ เอาจริง ๆ ผมไม่สนเลยด้วยซ้ำ พวกปัญหาปรัชญาไม่ได้ทำให้เงินเดือนผมเพิ่มมากขึ้นสักหน่อย…
แต่ถ้าเกิดว่าชะตาลิขิตมีอยู่จริงล่ะ?
นี่ผมเป็นส่วนหนึ่งของลิขิตหรือกำลังฝืนลิขิตอยู่กันแน่?
ตั้งแต่ที่ผมช่วยมิคกี้พ้นจากมะเร็งสมอง ผมก็เข้าสู่โหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติ… เพื่อค้นหาเป้าหมายต่อ ๆ ไป ผมรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปหลายวันโดยผมไม่อาจเจาะจงชัดได้ ทั้งยังไม่ได้กินและไม่ได้นอน
ลิเบีย
เวลากำลังสูญค่า… ชั่วโมง, นาที, วินาที เริ่มจะไร้ความหมายสำหรับผม ผมอยู่บนโลกคนละใบกับโลกที่ผู้อื่นอาศัยอยู่
และที่นี่ ผมเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย…
“กัปตันอะตอม?”
รึเปล่านะ?
“คุณมาทำบ้าอะไรที่นี่”
ฐานปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ฐานอนุกรม, แคนซัส
สก็อตต์: รานิต้า นี่เที่ยงคืนกว่าแล้วนะ ผมคิดว่าเราน่าจะออกไปข้างนอกบ้าง
รานิต้า: โทษทีสก็อตต์ แต่กัปตันอะตอมหายตัวไปเกือบจะอาทิตย์หนึ่งแล้ว ฉันต้องช่วยดร.เมกาล่าหาตัวเขา
สก็อตต์: ให้ฝ่ายเทคนิคทำไปสิ หมอนั่นตัวเป็นประกายวิ้ง ๆ แถมยังปล่อยรังสีออกมาได้อีก หาไม่ยากหรอกน่า
เมกาล่า: ตอนนี้เขาแค่ปล่อยละอองปนเปื้อนรังสีออกมาเท่านั้นเอง ดร.อเล็กซานเดอร์ และเขาน่ะหาตัวยากกว่าที่คุณคิด
รานิต้า: ดร.เมกาล่าคะ ลองดูฐานข้อมูลจากลิเบียสิคะ เราพบสัญญาณคลื่นไมโครเวฟเมื่อห้านาทีที่แล้ว
เมกาล่า: เยี่ยมมากดร.คาร์เตอร์ พลังของอะตอมคงทำให้สิ่งต่าง ๆ ผันผวนน่ะ
สก็อตต์: การมีอยู่ของเขารบกวนพลังงานไมโครเวฟโลก แล้วคุณไม่กังวลบ้างเลยเหรอ? ขอโทษนะ ดร.เมกาล่า แต่ผมคงต้องบอกว่าคุณน่าจะฉลาดกว่านี้
รานิต้า: ว่าแต่เขาไปทำอะไรที่ลิเบียกันแน่นะ?
กลับมาที่ลิเบีย…
เนธ: คุณว่าผมควรไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ?
แบร์รี่: คงต้องเป็นคุกล่ะมั้ง จะได้ไม่มีใครเจอคุณอีก
เนธ: ผมเป็นอันตรายงั้นหรือครับ?
แบร์รี่: ถามคนนิวยอร์คสิ ทำไมภูเขาไฟถึงระเบิดได้ล่ะ?
เนธ: ผมไม่ได้ทำให้ภูเขาไฟระเบิด ผมไปที่นั่นเพื่อหยุดยั้งมัน
แบร์รี่: ถึงคุณจะพูดอย่างนั้น แต่ลีกไม่ได้คิดเหมือนกันกับคุณ พวกเขาคิดว่าคุณอันตราย
เนธ: คุณพูดว่าอันตราย? ทั้ง ๆ ที่คุณคือชายผู้มีโมเลกุลเคลื่อนไหวไม่หยุดยั้งเหมือนโดนไฟจี้เนี่ยนะ
แบร์รี่: ไม่ใช่ไฟ สายฟ้าต่างหากล่ะ… คนอื่นเรียกผมว่าแฟล็ช ผมจับตาดูกบฏลิเบียพวกนี้ต่อสู้เพื่ออนาคตมานานพอแล้ว และผมว่าพวกเขาควรมีผู้ช่วย
เนธ: เหมือนกันเลย ผมมาเพื่อช่วยเหลือ
แบร์รี่: พวกเขาคงดีใจที่มีปรมาณูเดินได้มาช่วย
เนธ: ผมไม่ได้โง่นะ ถ้าผมปล่อยกัมมันตรังสีรั่วไหลได้ ผมก็สามารถเก็บกักมันได้
แบร์รี่: งั้นให้ดีก็แบกเครื่องวัดค่ารังสีมาด้วยสิ คนอื่นจะได้สบายใจ อีกอย่างนะ ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะมีประโยชน์ที่นี่ เราไม่ได้มาช่วยให้พวกเขาชนะสงคราม เราแค่จะทำให้พวกเขาสู้ได้ในระดับเดียวกัน
แฟล็ชแยกชิ้นส่วนรถถังในพริบตา…
เนธ: คนพวกนี้กล้าที่จะยืนหยัดสู้กับเผด็จการทั้งที่ไร้อาวุธ พวกเขาไม่มีปืนสักกระบอกแต่ยังคงต่อสู้ ต้องชื่นชมในความอุตสาหะของพวกเขา
ทันใดนั้นรถถังก็กลายเป็นหิมะไปอีกคัน!
แบร์รี่: โว้ว นายทำอะไรฟะเนี่ย?
เนธ: แค่ใช้วิธีแปลสภาพง่าย ๆ เปลี่ยนโมเลกุลรถถังให้กลายเป็นไฮโดรเจนและอ๊อกซิเจน
แบร์รี่: โอโห ง้ายง่าย
แบร์รี่: คนพวกนี้พูดไม่รู้เรื่องหรอก เราต้องหยุดเขาไว้
เนธ: แน่นอน งั้นเราสร้างบ้านให้พวกเขากันเถอะ
อะตอมจึงสร้างกำแพงดินล้อมรอบทหารเหล่านั้นไว้
แบร์รี่: แข็งเป็นหินเลย ขอบใจที่ช่วยนะ ดูเหมือนคนอื่นจะตัดสินนายเร็วเกินไป ส่วนฉันน่ะถึงจะเร็ว แต่ฉันก็ไม่ตัดสินใครส่งเดช ฉันเป็นพวกที่ต้องรู้จักให้ดีเสียก่อน
เนธ: ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เนธ: ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ๆ แต่พอดูจากพลังของคุณ ผมว่าคุณคงจะเข้าใจผม
แบร์รี่: บางทีหลังจากนี้ นายอาจจะมาร่วมกับ… อ้าวเฮ้ย! อะตอม นายจะไปไหน?
การร่วมมือกันทำให้รู้สึกดี แต่ยังมีปัญหาบางอย่าง เพราะเหมือนเราต่างจะลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไป
จิตของผมไหลหลั่งออกไปยังที่อื่น ห่างออกไป ถูกดึงไปไกล ไปยังฐานของพวกมัน ที่ที่บางอย่างกำลังเกิดขึ้น
มันคือหัวรบนิวเคลียร์
ผมยังไม่เจอมัน แต่ผมสัมผัสมันได้… มันทำให้ขนลุกซู่ กระบวนการของมันกำลังเริ่มต้น และจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่… พลูโตเนี่ยมกำลังบีบตัว ยูเรเนี่ยมกำลังรวมตัว นี่คือภารกิจฆ่าตัวตาย
ในชั่วไมโครวินาทีสถานการณ์กลับกลายเป็นอันตรายขั้นวิกฤติ… ผมมาช้าเกินไป
แบร์รี่: พระเจ้า! นั่นเขาทำอะไร?
แฟล็ชสามารถกำหนดขอบเขตได้ เขาสามารถช่วยให้คนอื่นพ้นจากอันตราย พลังงานและรังสีพวกนี้สามารถฆ่าพวกเขาได้ทันทีที่สัมผัสกาย
แต่นั่นต้องเว้นผมไว้ ผมกับรังสีสามารถจับเข่าคุยกันได้
พลังงานพวกนี้มันมากเหลือเกิน ต้องทนหน่อยเพื่อรวมมันเข้ามา… อย่าได้อ่อนแอเชียว
คลื่นไส้เป็นบ้า รู้สึกไม่เหมือนทุกครั้งเลย เจ็บเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เจ็บเป็นบ้า
พริบตานั้นอะตอมกลับสามารถคืนชีพให้กลับผู้ที่โดนรังสีสลายไปแล้วขึ้นมาได้!
“ไม่!”
เขาดูดซับพลังงานจนทำให้รอบข้างกลายเป็นทุ่งน้ำแข็งในพริบตา!
เหมือนทุกสิ่งที่ผมทำ จะทำให้ผมแตกต่างจากคนอื่นมากขึ้นไปทุกที
ผมเพียงแค่อยากจะอยู่ร่วม แต่ดูเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ผมเหลือความเป็นมนุษย์เพียงเศษเสี้ยว ตอนนี้ผมคือตัวอะไร? มนุษย์ต่างดาว? หรืออสูรกาย?
โอเรก้อน
ชายแต่งชุดประหลาดคนหนึ่งกำลังเดินโซซัดโซเซอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาของเขาส่องประกายสีเดงมุ่งร้าย!
ชายเช่นแฟล็ชยังมีชีวิต… มีครอบครัว มีบ้านให้กลับไป แต่ผมล่ะ? ผมมีเพียงแค่ห้องทดลองเท่านั้น
ฐานอนุกรม
อะตอม: รานิต้า คุณไม่เห็นต้องรอผมเลย ที่นี่ดูเงียบเป็นป่าช้าเชียว หรือว่าเมกาล่าลืมจ่ายค่าเช่า?
รานิต้า: เราถูกควบคุมตัวไว้น่ะ
อะตอม: ควบคุมตัว? เพราะเหตุนิวเคลียร์ระเบิดสินะ? ไม่ต้องห่วง ผมจัดการรังสีกับพลังงานที่หลงเหลือไปเรียบร้อยแล้ว
รานิต้า: เปล่าหรอก สก็อตต์ต่างหาก เขาคิดว่าคุณอันตรายก็เลย…
อะตอม: อะไรนะ?
รานิต้า: ฉันพยายามจะเตือนคุณแล้ว ฉันมายืนอยู่ตรงนี้แล้วพยายามส่งความคิดไปให้คุณ… ฉันคิดว่าบางทีด้วยพลังของคุณอาจสามารถรับคลื่นสมองได้
อะตอม: เตือนผม?
ทันใดนั้นแสงไฟทุกดวงก็ส่งมาที่อะตอม!
“ดูท่าฉันจะทำให้พวกนักวิทยาศาสตร์กังวลได้เสมอเลย”
“ฉันไม่ชอบเรื่องลับลวงพรางเสียด้วยสิ กัปตัน… เอ่อ”
“กัปตันอะตอมใช่มั้ย? ฉันคือนายพลไอล์ลิ่ง”
“เป็นอะไรไปพลทหาร ไม่เห็นดาวบนบ่าของฉันเรอะ?”
..
“ทำความเคารพกันหน่อยสิฟะเฮ้ย”
..
ตอนต่อไป:
AMERICAN MADE
โผล่มาหลายเรื่องและ ตาแฟลช
ชอบตรงที่ เบื้องหลังความโชคดี หรือปราฎิหารต่างๆ พี่อตอมนี่แหล่ะที่เป็นคนจัดการให้
น่าสงสารพี่แกจริงๆ มีพลังเมพโคตรๆ แต่สิ่งที่ต้องหารมากที่สุดอย่าง เพื่อน คนที่เข้าใจ กลับไม่มี
แถมโดนมองว่าเป็นตัวอันตรายอีก เห้อออ
แฟรชมองออกใช้ไหมว่ากับตันอะตอมดูดซับพลังงานพูโตเนียม
ว่าแต่แฟรชช่วงหลังไปแจม2หัวของคนอื่นแล้วแฮะ
Doctor แมนฮัตตั้น มาเอง ^^ ชอบๆ
สนุกอะ ยิ่งอ่านยิ่งชอบกัปตันคนนี้แฮะ
ยอดเยี่ยมจริงๆ พลังของตานี่ต้องเรียกว่า “ดุจเทพเจ้า” ของแท้เลยนะเนี่ย
คิดว่าอีกไม่นานต้องมีเรื่องให้ตานี่ไปจากโลกแหงๆ เพราะระดับพลังของเขานั้นมันเกินกว่าจะหาใครบนโลกมารับมือได้แล้ว
พลังขนาดนี้…. ตัว ๆ กับใครก็ได้นะเนี่ย
กายภาพเข้าขั้นไร้เทียมทานแล้ว แพ้ชนะต้องวัดกันที่ใจแล้วแบบนี้ >.<
สู้ๆ กัปตัน ^^
ทำไมเวอร์ชั่นนี้เหมือน Dr.Manhattan เข้าไปทุกที แถมชายประหลาดที่โผล่มาแต่งตัวคล้ายๆ Rorschach อีก
จำได้ว่าทั้งจักรวาลเก่าและในการ์ตูนเน็ตเวิร์คมันไม่เมพขนาดนี้นะ 🙂
flash เล่มนี้้ภาพแรกมานี่อย่างเท่อ่ะ!!!!
สุดยอดเลย รีบูทจักรวาลพลังเมพขึ้นเยอะเลย
ตั้งแต่ตอนที่รับคลื่นสอมงได้ทั่วโลกแระ 555
เทพจริงๆ ยอมรับ ผมเท่ห์อีกต่างหาก สุดยอดด ด \m/
นี้มัน ด๊อกเตอร์แมนฮัตตัน นี้หน่า
ใกล้เคียงความเป็น ดร. แมนฮัตตัน ทุกที พลังของ อะตอม มากมายจริงๆฮะ จนน่ากลัว
ชอบหัวนี้มากสุดจริงๆ แต่อ่านแล้ว เศร้ามากๆ ชอบ ตอนต้นเรื่อง ที่พูดถึง สิ่งที่แกทำไป ว่า ดีหรือไม่ดี
ป.ล. แฟลชว่าอัพสกิลแล้ว เหน สกิล เนธเข้าไป มี เหวอ
ไม่มีอะไรเพอเฟคไปทุกอย่าง แม้แต่อะตอม ในที่สุดนายพลไอลิ่งก็มาแล้ว
เวอร์มาก เเต่ละอย่างที่พี่เเกทำ ใครจะไปทำลายพี่เเกได้เนี่ย นอกจากตัวพี่เเกเอง
– -เงิบเลย
ส่วนตัว ชอบ ดร.แมนฮัท ตััน มากกว่า ดูรงพลังและคลาสิคดี
มารอบนี้ กัปตันอตอมกลาย เป็นว่ามีพลัง ระดับเดียวกัน ตาม ที่คอมเม้นท์ข้างบนพุดไว้ละ
ส่วนตัว ชอบฉบับเดิมมากกว่า สู้สนุกดี – –
ดูพลังแล้วเทพมากเลยอ่ะ ใครมีประวัติฮีโร่คนนี้บ้างครับ ไม่เคยติดตามเลย
เคยแพ้ ซุป..มาก่อนหรือเปล่านาาาา.??