RED HOOD AND THE OUTLAWS #3
เรื่อง : SCOTT LOBDELL
ภาพ : KENNETH ROCAFORT and BLOND
วางจำหน่าย: 16 พฤศจิกายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
อดีตที่สุขสมของคนที่ถูกทิ้ง
..
บริเวณใดสักแห่งในเทือกเขาหิมาลัย
ปากทางเข้าสู่วิหารสรรพาลัย
เจ้าแคระนี่ชื่อซ’ารุผู้เฝ่าทรัพย์ เห็นรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กแบบนี้แต่อย่าโดนมันหลอกเอาได้เชียวล่ะ เจ้านี่อายุประมาณสี่พันปีแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใคร… หรือสิ่งมีชีวิตตัวไหนสามารถผ่านเข้าไปได้ จนกระทั่งครึ่งชั่วโมงก่อน
เจสัน: ท่านคงคิดว่าเราไม่ควรเข้ามาในนี้ได้สินะ ถ้าหาก…
ซ’ารุ: ถ้าหากเหล่าสาวกแห่งสรรพวรรณะไม่ตายด้วยน้ำมือของผู้ไร้นามที่เข้ามาก่อนหน้าเจ้าไปเสียแล้ว
ขณะเดียวกันข้างหลังเจสันรอยก็กำลังซุบซิบนินทาเจสันอย่างเมามัน
รอย: เขากำลังจะยิงเด็กนั่นแล้ว… คอยดูนะ
โคริ: นั่นไม่ใช่เด็กแล้วนะ
ไอ้เด็กสวมหมวกที่ปากไม่มีหูรูดชื่อรอย ฮาร์เปอร์ มันเรียกตัวเองว่าอาร์เซน่อล ส่วนยัยผมแดงนั่นคือเจ้าหญิงโคริแอนเดอร์หรือสตาร์ไฟร์แห่งดาวทามาราน ส่วนผมเจสัน ท็อดด์หรือเร้ดฮู้ด
ซ’ารุ: แล้วไง? เจ้าอยากตามผู้ไร้นามคนนั้นเข้าไปข้างในเพื่อแก้แค้นอย่างนั้นหรือ?
เจสัน: นี่ไม่ใช่การแก้แค้น ผมเป็นศิษย์แห่งลัทธิสรรพวรรณะ ภาระในการสืบหาจุดประสงค์ที่ทำให้ผู้ไร้นามคนนี้ถึงกับยอมละเมิดสัญญาสงบศึกโบราณคือหน้าที่ของผม
ซ’ารุ: ก็ดี แต่ตามหน้าที่ของข้า ข้าจำต้องยึดความทรงจำที่สุขสมที่สุดของพวกเจ้าไว้เป็นตัวประกัน พวกเจ้าจะได้มันคืน… หากพวกเจ้ารอดกลับมาได้
เจสัน: ก็เอาไปเลยสิ
ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็ไหลออกมาจากร่างของทั้งสามเข้าไปในมือของซ’ารุ
โคริ: เอ่อ ตอนนี้…
รอย: เฮ้ย โคริ! นี่เธอกำลังลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่แล้วใช่มั้ย?
โคริ: นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่หรอก นายชื่อเรย์ใช่บ่?
รอย: ตัยหอง!
ซ’ารุ: หลังประตูนั่น ทุกอย่างรอเจ้าอยู่
รอย: อย่าแอบดูความทรงจำของเราเชียวนะเหวย เดี๋ยวพวกเราจะกลับมาแน่
ซ’ารุ: ไว้ใจข้าได้แหละน่า
รอย: งั้นฉันรออยู่ตรงนี้นะเร้ด
โคริ: เดี๋ยวนะ? เฮ้ย นี่นายจะไม่เข้าไปด้วยกันกับเราเหรอ?
เจสัน: หมอนั่นเล่นมุขน่ะโคริ
เจสัน: กลั้นหายใจเอาไว้ วิหารสรรพาลัยอาจทำให้พวกนายหัวหมุนได้
เจสัน: พวกนั้นน่ะคือประตูมิติ มันสามารถพาไปได้ทุกที่ และพาไปยังช่วงเวลาไหนก็ได้
โคริ: แล้ว… นี่เรากำลังจะไปไหนกัน?
เจสัน: ไม่รู้แฮะ
รอย: ไม่ช่วยให้มั่นใจขึ้นมาได้เล้ย
เจสัน: ดูคราพูดเสมอว่า “เดินไปตามเส้นทาง แล้วมันจะนำเจ้าไปเอง”
เจสัน: อยู่ให้ชิดกับฉันไว้
รอย: นักบวชพวกนั้น… แล้วก็วิหารนี่อีก นี่คือบ้านเก่าของนายจริงอ่ะ? ไม่แปลกใจเลยที่นายจิตงุดเงี้ยว
เจสัน: ใช่ ฉันเคยอยู่กับคนพวกนี้ช่วงหนึ่ง แต่แกว่าใครจิตงุดเงี้ยวฟะ?
โคริ: คราวนี้ฉันเห็นด้วยกับรอยนะ
รอย: จริงดิโคริ?
ทางด้านเจ้าเฒ่าแอ๊บเด็กมันกำลังคิดไม่ซื่อกับความทรงจำของทั้งสาม โดยเริ่มจากความทรงจำของสตาร์ไฟร์ก่อน…
ซ’ารุ: ข้าไม่ควรทำเลยเพราะมันผิดต่อกฏ แต่เจ้าสามคนนี้มันช่างแปลกประหลาดดีแท้… ข้าคงจะดูความทรงจำของมนุษย์ต่างดาวได้กระมัง เพราะกฏไม่ได้ครอบคลุมถึงพวกมนุษย์ต่างดาวนี่นะ… ดูสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ซ’ารุ: ช่างเยี่ยมยอดจริง ๆ นางผู้นี้เก็บกักความทรงจำได้ประหลาดดีแท้ จนข้าเกือบจะปลดล็อคไม่ได้แล้วเชียว
ซ’ารุ: เจ้าหญิงโคริแอนเดอร์ผู้ถูกส่งไปเป็นทาส อิสระภาพของเด็กน้อยแลกมาซึ่งภราดรภาพของสองดินแดน แต่ว่านะ…
“ความโหดร้ายไม่มีวันจบลงหรอก”
ปราการเรือนจำ, บนดวงดาวของผู้พิชิตทามาราน
สตาร์ไฟร์ถูกส่งมาเป็นทาสบนดาวศัตรูเพื่อป้องกันสงคราม และเธอก็ถูกใช้งานเยี่ยงทาสมาแต่เล็ก คุณหนอนผู้เป็นยามเกิดความสงสารเลยเข้ามาคุยด้วย
หนอน: ตอนที่ข้าตัวเท่าเจ้าข้ายังนอนอยู่ในรังไหมอยู่เลย เจ้าควรจะได้รับอิสระ เจ้าหญิงน้อย ข้อต้องขออภัยในสิ่งที่คนของข้าทำกับเจ้าด้วย
โคริ: ขอบคุณสำหรับความปราณีที่มีให้ ท่านทหาร ข้าขออะไรท่านสักอย่างได้มั้ย?
หนอน: ได้สิ ถ้าข้ามีอำนาจพอจะทำได้นะ
โคริ: ไปตายซะ ไอ้พวกมือถือศากปากถือศีล!
โคริ: ข้าอาจถูกจองจำอยู่ที่นี่ แต่ข้าไม่ยอมรับความเวทนาจากหนอนบุ้งหรอก
โคริ: เจ้าคิดว่าข้าเป็นองค์หญิงประเภทไหนกัน?
โคริ: ลองเข้ามาใกล้ข้าสิ แล้วข้าจะทำให้เจ้าจะรู้ว่าข้ารู้สึกยังไง
ซ’ารุ: โหดเป็นบ้า… นี่คือความทรงจำที่สุขสมที่สุดของนางหรือเนี่ย? แก๊งสามช่าพวกนี้มันยังไงกันหว่า?
ภายในวิหาร
รอย: อธิบายหน่อยซิว่านายรู้จักที่นี่ได้ไงทั้งที่นายไม่เคยเข้ามาสักครั้ง?
เจสัน: ฉันเรียนเอาน่ะ
รอย: ดูท่านายคงจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากโรงเรียนนักฆ่านี่แหงเลย พวกเขาคงภูมิใจมากเลยสินะ
เมื่อนั้นเองทั้งสามก็มาถึงห้องหนึ่ง ตรงใจกลางห้องมีลูกแก้วประหลาดส่องแสงสกาวตั้งเอาไว้ซึ่งเจสันเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ศัตรูทิ้งเอาไว้…
โคริ: นายมั่นใจได้ไงว่านั่นเป็นของที่ผู้ไร้นามทิ้งเอาไว้… แล้วถ้าใช่ มันจะทิ้งเอาไว้ทำไมกัน?
เจสัน: เพื่อเยาะเย้ยฉันไงล่ะ… มันทิ้งเกร็ดขนมปังไว้เพราะมั่นใจว่าฉันจะต้องตามหามันแน่ ๆ
โคริ: งั้นรีบเอามันมาแล้วเผ่นดีกว่า
รอย: หวังว่าไอ้เด็กนั่นจะไม่แอบดูความทรงจำของพวกเรานะ เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกแหยะมาก ยี้เลยล่ะ
โคริ: หยุดอยู่ตรงนั้นก่อน! นี่เป็นกับดัก!
รอย: เธอกลัวเหรอนั่น น่ารักจัง
เจสัน: นั่นสิ เราคุมสถานการณ์ไว้หมดแล้…
ทันใดนั้นหนามแหลม ๆ ก็แทงทะลุพื้นขึ้นมาโดยไม่คาดคิดคาดฝัน!
เจสัน: เกิดบ้าอะไร…!?
รอย: ดูเหมือนพวกนั้นจะไม่ได้บอกนักเรียนดีเด่นอย่างนายทุกเรื่องสินะเนี่ย?
เจสัน: หุบปากไปเลย รอย ส่วนโคริ… เธออยู่บนนั้นช่วยบอกเราหน่อยว่าเราเจอตัวอะไรอยู่!
โคริ: เจสัน ฉันรู้ว่าต้องทำยัง… โอ้! พระเจ้า!
เจสัน: ช่างมันเหอะ ฉันรู้แล้ว
ที่แท้พวกเขาอยู่บนหลังของยักษ์มหึมาที่เฝ้าห้องนี้อยู่นั่นเอง!
รอย: ฉันคงประทับใจไม่รู้ลืมแหงงานนี้ ไม่ได้มุกนะเนี่ย… มันเจ๋งโคตร ๆ!
โคริ: เป็นอะไรมั้ยเจสัน?
เจสัน: ไม่เคยดีเท่านี้เลยล่ะ อย่าห่วงฉัน… เอาเวลามาจัดการไอ้ยักษ์อัปลักษณ์นี่ดีกว่า!
อีแบบนี้คนเดียวเอาไม่อยู่หรอก
เจสันกระหน่ำกระสุนเต็มรูหูของปิศาจยักษ์! จนมันร้องไม่เป็นภาษา เมื่อได้เรื่องแล้วเขาก็กระโดดชิ่งหนีอย่างว่อง แต่ทันใดนั้นมันก็ยืดลิ้นออกมารัดตัวโคริเอาไว้!
โคริ: ปล่อยฉัน! เจ้าปิศาจ
เจสัน: อะไรน่ะ!? เกิดอะไรขึ้นฟะนั่น?
รอย: ให้ตายเหอะ! เจ้านี่มันจะกินโคริแล้วนะเฟ้ย… เจสัน!
กลับมาที่ทางเข้า
ซ’ารุ: ยังไงข้าก็คงละเมิดกฏไปหนึ่งข้อแล้วแน่ ๆ งั้นขอดูความทรงจำของรอย ฮาร์เปอร์ด้วยดีกว่า มันน่าจะสนุกไม่ใช่น้อย
แต่ความทรงจำที่มีความสุขของรอยกลับเป็นตอนที่เขาถูกคิลเลอร์ คร็อคถลุงจนยับ
รอย: ทำได้… แค่นี้เองเรอะ?
คร็อค: พอได้แล้วไอ้หนู! ทำไมแกไม่ยอมแพ้เสียที
รอย: แพ้? นาย… ล้อเล่นสินะคร็อค? ฉันคือรอย ฮาร์เปอร์นะเฟ้ย จะมีใครขี้แพ้ไปกว่าฉันอีกฟะ
คร็อค: อ้อ เข้าใจล่ะ
รอย: หยุดพล่ามแล้วต่อยมาอีกสิฟะ
คร็อค: แกคิดจะยืมมือฉันใช่มั้ย แกอยากให้ฉันปลดปล่อยแกจากชีวิตเน่า ๆ นี่ แกอยากให้ฉันฆ่าแกสินะ
รอย: ฉลาดใช่มั้ยล่ะ?
คร็อค: ไม่สักนิด “คนฉลาด” น่ะเขาไม่หนีปัญหาเฟ้ย เขาต้องหาวิธีมีชีวิตอยู่ต่อไป ฮาร์เปอร์… ฉันเองก็อ่านหนังสือพิมพ์เหมือนชาวบ้านชาวช่องนะเฟ้ย ฉันรู้ว่าแกถูกโอลิเวอร์ ควีนเฉดหัวออกมาจาก Q-คอร์ แต่จบงี้จะดีเรอะ? มาตายบนดาดฟ้าย่านเฮลส์คิทเช่นแบบนี้น่ะนะ?
คร็อค: อย่าเข้าใจฉันผิดนะเฟ้ย ฉันก็อยากฉีกแกให้กระจุยเหมือนกัน แต่ฉันไม่ยอมทำเรื่องสกปรกให้แกหรอก
คร็อค: ถ้าจะฆ่าตัวตายก็อย่าลากฉันไปเอี่ยว
รอย: นายนี่เป็นคนดีเกินหน้าเกินตาแฮะ
คร็อค: เจอกันคราวหน้าแกจะไม่คิดอย่างนี้แน่
…
ซ’ารุ: ถูกเพื่อนหักหลัง ทรัพย์สินสูญสิ้น เขาพยายามคืนสังเวียนด้วยการยืนหยัดต่อสู้ แม้มันจะแลกด้วยชีวิตก็ตามที
ซ’ารุ: เขาช่างน่าสงสารจริง ๆ
รอย: เพื่อน ไอ้หน้าหนามนี่กินโคริเข้าไปแล้วนะ! พวกเราจะเป็นรายต่อไปนะเฟ้ย!
เจสัน: เธอไม่เป็นไรหรอกน่า… ยิงต่อไปสิฟะ
รอย: คราวหน้าฉันคงต้องบุกเข้าไปจิ๊กลูกดอกรุ่นใหม่ ๆ จาก Q – คอร์แล้วล่ะ อยากได้ไอ้แบบที่มันระเบิดเถิดเทิงมากกว่านี้!
เจสัน: รออีกแป๊บเดียว ฮาร์เปอร์
เจสัน: ได้ของแล้ว เผ่นกันเหอะว่ะก่อนที่… เฮ้ย!?
เจสัน: นี่เราเกือบตาย… เพื่อไอ้ของชำร่วยจากโคโลราโด้เหรอฟะเนี่ย!
ของที่ศัตรูทิ้งไว้กลับเป็นแค่ลูกแก้วหิมะที่ขายตามร้านโชว์ห่วยในโคโลราโด้!
พร้อมกันนั้นเอง รอยก็ได้กลิ่นแปลก ๆ จากร่างของอสูรกาย
แล้วร่างของมันก็ระเบิดเถิดเทิงขึ้นมาทันที่ทันใด! นี่เป็นฝีมือของสตาร์ไฟร์ที่อยู่ในท้องนั่นเอง!
โคริ: เจ้าหมิ่นเกียรติแห่งราชนิกูล ปล่อยเราไปซะ
รอย: ไม่ตอนมันซะเลยล่ะ?
เจสัน: นายรู้รึเปล่าว่าตอนมันก็เหมือนกับฆ่ากันนั่นแหละ หยุดพล่ามเหอะว่ะฮาร์เปอร์
ครู่ต่อมา
ซ’ารุ: โอ้ เจ้าทำได้จริงด้วย
รอย: เรื่องกล้วย ๆ เฟ้ย ทีนี้เอาความทรงจำยัดเข้าสมองเราได้แล้ว
ซ’ารุ: ได้เลย ว่าแต่พวกเจ้าแก้แค้นสำเร็จรึเปล่า?
เจสัน: ท่านพอจะคิดออกมั้ยว่าโหลแก้วนี่มันหมายถึงอะไร? แล้วทำไมผู้ไร้นามถึงต้องทิ้งมันเอาไว้?
ซ’ารุ: บ่ฮู้บ่หันแฮะ เอานี่ ความทรงจำของเจ้า
เจสัน: ไม่เอาหรอก ในนั้นคงมีแต่เรื่องเด็กสาวฝาแฝดกับแยมสีขาวเท่านั้นแหละ
ซ’ารุ: ไม่อยากดูสักหน่อยเหรอ เจสัน ท็อดด์?
เจสัน: เก็บมันไว้เถอะ
เมื่อมองเข้าไปในความทรงจำที่สุขสมที่สุดของเจสัน เราจะเห็นภาพคฤหาสน์เวย์น…
“คุณหนูบรู๊ซ… กระผมขอเสนออะไรสักหน่อยได้มั้ยขอรับ?”
อัลเฟร็ด: คุณหนูเจสันเป็นไข้น่ะครับ จะดีกว่าถ้าคืนนี้เขาไม่ไปลาดตระเวณกับคุณ
บรู๊ซ: เขาเป็นเด็กฉลาดนะอัลเฟร็ด เขาต้องรู้ตัวดีว่าไหวหรือไม่ไหว
ทันใดนั้นเจสันก็เดินออกมาจากหลังฉาก
เจสัน: ผมบอกแล้วไง… แค่ก ๆ พร้อมจะไปกันรึยัง?
บรู๊ซ: อัลเฟร็ดพูดถูกนะโรบิ้น เธอต้องพักงานจนกว่าจะหายดีเข้าใจมั้ย
เจสัน: โธ่ ก็ได้ครับ
เจสันตัวน้อยจึงต้องมานั่งจับเจ่าดูทีวีอย่างเซ็ง ๆ
อัลเฟร็ด: ดูทีวีกันดีกว่าครับ
เจสัน: ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ! ฉันดูแลตัวเองได้นะเฟ้ย!
อัลเฟร็ด: งั้นก็ควรจะดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้นะครับคุณหนูเจสัน
…
“ดูเหมือนคืนนี้จะไม่มีอาชญากรรมอะไรให้ฉันต้องออกไปดูเป็นพิเศษน่ะเจสัน”
“เพราะงั้นเรามาดูทีวีกันดีกว่า”
..
…
ตอนต่อไป:
THE WORLD CONSIDERS THEM OUTLAWS – –
WE’RE ABOUT TO SEE WHY!
ต้อนรับอีเว้นวันพ่อรึไงนิ=_=
ผมว่ารีบูทใหม่ เรื่องราวของเจสันดูมีมิติขึ้นเยอะเลยครับ
ความทรงจำที่มีความสุขที่สุดของ Jason คือการที่คนที่เคารพเหมือนพ่อยอมแสดงความอ่อนโยนต่อเขางั้นสินะ
ส่วนเรื่องของ Roy ดูเหมือนว่าประวัติจะเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ชักน่าสนใจว่าในเล่ม Green Arrow จะมีการกล่าวถึงตรงนี้ไหมนะ
พอรีบูตแล้วเนี่ย ชุดของเจสันสมัยเป็นโรบินนี่ดูเจ๋งกว่าของเดเมี่ยนอีกแฮะ
ผมเคยคิดเล่นๆว่าเจสัน น่าจะเดินรอยตามบรู๊ซ โดยการออกเดินทางไปแสวงหาตัวตน แทนที่จะมาเป็นอาชญากรใน Gotham ตามปั่นป่วนพรรคพวกตัวเองน่ะครับ DC แต่งเรื่องอย่างนี้โดยใจผมมากเลย ไม่แน่ว่าเจสันกลับไป อาจได้ประสบการณ์ดีๆ และผันตัวเองเป็นฮีโร่แบบเต็มตัวสักที
ตอนจบซึ้งพิลึกแหะ 555
เหลือเชื่อ บรูช ยอมงดไปบู้ เพื่อดูแล เจสัน
แต่ไง เจ้าตัว ดันไม่อยากนึกถึงฟะ
ของสตาร์ไฟร์นั่นดีสุดแล้วเรอะ -*- ของรอยนี่ดูแล้วคิลเลอร์คร็อคเป็นคนดีไปเลย
ดูแล้วเจสันนี่เป้นความทรงจำที่ดีที่สุดจริงๆ
คงเพราะว่าความทรงจำตอนเป็นไข้
น่าจะเป็นความทรงจำที่ดีอย่างเดียวของเจสัน
พอไม่มีความทรงจำนั่นแล้ว
ความทรงจำอืนๆก็คงไม่มีเรื่องดีๆสักเท่าไหร่
เรื่องเด็กสาวฝาแฝดกับแยมสีขาวนั่นก็คงเป็นเรื่องดีๆรองลงมาแหละนะ…มั้ง
นึกว่าความทรงจำที่ดีที่สุดของสตาร์ไฟร์คือตอนอยู่กับทีนไททั่นส์ซะอีก-* –
เพราะถูกยึดความทรงจำก่อนเข้าไปในวิหารสรรพาลัย
พอออกมาก็ไม่รู้ว่ามีความทรงจำนั่นอยู่ ก็เลยคิดว่าไม่สำคัญ เลยไม่เอาความทรงจำกลับมา
จบได้น่ารักจริงๆ รู้สึก Lobdell เขียนได้ดีเลยนะเนี่ย
ของเจสันนี่ล่ะที่เหมาะกับคำว่าความทรงจำที่สุขสมที่สุดแล้ว ของคนอื่นนี่มันอะไรก๊าน – -*
อยากเชียให้เจสันกลับเข้าสู่วิธีฮีโร่จริงๆแฮะ ถึงวิธีการจะดิบหน่อยก็โอเค
เหมือนเจสันเรียกว่า ปกติ สุดน่ะเนี้ย
น่าสงสาร เจสันจัง
พ่อก็คือพ่อสินะ
หัวนี้สนุกติดอันดับ ต้นต้นเลยแฮะ
ขอบคุณมากครับ
ครอค หัวใจนายมันหล่อมากกกกกก
แต่ของเจสัน นี่ซึ๊งจริงๆครับ
ผมวึ้งกับความทรงจำของเจสันจริงๆนะ มันอบอุ่นมากเลย
ของรอยก็เยี่ยม ไม่อยากเชื่อว่าคนที่ดันหลังเขาจากความสิ้นหวังจะเป็นคิลเลอรืคร็อคนะ พี่เข้เราได้บทหล่อๆหลายทีแล้วแหะ
ว่าแต่ถ้าจำไม่ผิด รอย ก่อนรีบูตมันแก่ขนาดเป็นพ่อคนแล้วนี่หว่า!!?? ได้ลดอายุด้วยแหะ
ส่วนของสตาร์ไฟร์นี่ติ่งตัวแม่เลย ดูแล้วปวดตับครับ DC แค้นอะไรเธอนักหนา
ป.ล เรียนพณฯท่านซารุ….ช่วยดึง+ฉาย สาวแฝดกับแยมขาวหน่อยสิครับ แฮ่กๆๆ
สนุกครับ
พี่เข้นี่หัวใจหล่อมาก ไม่คิดว่าจะเป็นคนฉุดให้รอยลุกขึ้นมาได้
ถ้านี่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของสตาร์ไฟรร์แสดงว่าความทรงจำของเธอหลังจากนี้คงเป็นเรื่องที่เลวร้ายกว่ามาก
(แต่แอบใจหายที่ช่วงเวลาที่อยู่กับดิ๊กคงไม่มีในความทรงจำของเธอแล้ว)
ตอนของเจสันเป็นอะไรที่อบอุ่นมาก แต่เพราะเจสันเลือกที่จะเดินทางของตัวเองแล้ว
ถึงเลือกที่จะทิ้งความทรงจำนั้นไว้..แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เจสันเทิดทูนบรูซมากแค่ไหน
ส่วนตัวในเล่ม รีรันซ์ทั้งหมดของซีรีย์แบทแมน แอบคิดว่า ซีรีย์นี้ดูสนุกที่สุดแล้วค่ะ
ความทรงจำของเจสันซึ้งมั่กๆ พี่เข้ก็หล่ออะไรปานนั้น
ส่วนที่สับสนคือ
ในตอนที่หนึ่งของหัวเด็กมีปัญหาแก๊งนี้มีการกล่าวถึง ตอนสตาร์ไฟร์เคยเข้าร่วม’ทีนไททัน’ แล้วกล่าวถึงการคบกับ’ดิค’ในช่วงนั้น ถึงคุณเธอจะไม่สนใจจำแล้วก็เถอะ
แต่ตอนนี้หนังสืออีกหัวหนึ่ง เรดโรบิ้น’ทิม’กำลังจะเริ่มรวมคนตั้งทีมทีนไททั่นกันอยู่ไม่ใช่เหรอ ตกลงเรื่องโรบิ้นกับทีมทีนไทั่นนี่มันยังไงกันแน่ละนี่
โอ๊ย ตอนจบอย่างซึ้งเ้ลย
ชอบหัวเรื่องนี้มากๆเลยครับ ถ้าไม่นับเรื่อง…. บอกตามผมชอบทุกอย่างในเรื่องนี้ ทั้งเนื้อเรื่อง ทั้งลายเส้น
โดยเฉพาะเรื่องของเจสัน ผมชอบพี่แกในเวอร์ชั่นนี้มากๆเลย
ผมฮาฉากเเรกที่ไอเด็กหัวโล้นนั่งดูดบารากุอ่ะ 555
แล้วทำไมไม่เอาความทรงจำดีๆคืนไปซะล่ะ แล้วจะเหลืออะไรดีๆให้ิจดจำ T^T
ดูยังไงๆผมก็นึกถึง deadpool แม้เจสันมันจะเท่กว่าเยอะก็เถอะ