CAPTAIN ATOM #2
เรื่อง : J.T. KRUL
ภาพ : FREDDIE WILLIAMS II
วางจำหน่าย: 19 ตุลาคม 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
คืนชีพ!
..
นิวยอร์ค
นักข่าว: ที่นี่นะคะ คือสถานที่ที่เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวอย่างผิดปกติอันเป็นเหตุให้ภูเขาไฟลูกหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นใจกลางแมนฮัตตั้น… กรมธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯบอกว่าเหตุการณ์หายนะครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบพันปี… ลาวาได้พวยพุ่งปกคลุมทั่วเมืองและเกือบคร่าชีวิตผู้คนนับล้าน… แต่เพราะกัปตัน อะตอม…หายนะจึงถูกหยุดยั้ง
นักข่าว: ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า กัปตัน อะตอมได้พุ่งลงไปในปากปล่องภูเขาไฟ ทุกคนยกย่องเขาราววีรบุรุษ
นักข่าว: แต่ที่น่าสงสัยคือ แท้จริงแล้วสิ่งมีชีวิตประหลาดผู้นี้มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อหายนะที่เกิดขึ้นวันนี้หรือไม่
นักข่าว: หากเขาประกอบวีรกรรมและหยุดยั้งหายนะจริง เหตุใดเขาถึงหายตัวไป?
นักข่าว: ทำไมเขาถึงต้องหนี?
ขณะเดียวกัน ที่กลางทะเล กัปตัน อะตอมกำลังก่อร่างขึ้นมาใหม่ราวกับปาฏิหารย์!
ผมไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เรียนเลขก็ไม่ค่อยจะเข้าสมอง ชีวะก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุผมไม่มีทางเลือกมากนัก ผมจำเป็นต้องศึกษาวิทยาศาสตร์พื้นฐานบ้างหากคิดจะคงรูปเช่นนี้เอาไว้ เวลาเช่นนี้เองที่ประสบการณ์สมัยเป็นหน่วยรบพิเศษทางอากาศสามารถช่วยเหลือผมได้: มันทำให้ผมรู้จักปรับตัว, ดัดแปลง
และเอาตัวรอด
ผมรวบรวมองค์ประกอบพื้นฐานมาได้อย่างไม่ลำบากนัก … ทั้งอ็อกซิเจน, คาร์บอน, ไฮโดรเจน แต่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของฮอร์โมนนี่สิที่ยากยิ่งกว่า… พวกคลอรีน, โปแทสเซียม และซัลเฟอร์ ช่าย ในร่างกายของมนุษย์เราก็มีซัลเฟอร์ประกอบอยู่นิดหน่อยกันทุกคน
แต่แน่ล่ะ ผมรู้สึกต่างจากที่เคยเป็นมา
การดูดซับพลังงานเหมือนจะส่งผลให้ร่างกายของผมขาดเสถียรภาพ ทุกโมเลกุลในร่างกายของผมสั่นสะเทือน สติสตางค์ระส่ำระส่าย อีเล็คตรอนทั้งหลายโคจรพล่านไปทั่วร่าง ตอนนี้ภายในตัวผมเต็มไปด้วยคลื่นความร้อนของภูเขาไฟ
ถึงจะเสี่ยงไปบ้าง แต่เหมือนผมสามารถหยุดเหตุหายนะกลางเมืองได้แล้ว ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ
เดี๋ยวนะ…
คลื่นประหลาดบางอย่างไหลหลั่งทะลักสู่ร่างของกัปตัน อะตอม
นั่นมันคลื่นพลังงานอะไรกัน? เหมือนมันมาจากทุกทิศทุกทางเลย มันพุ่งมาที่ผม พุ่งเข้าสู่สมอง
คลื่นข้อมูลเหล่านั้นไหลหลั่งเข้าสู่สมองของเขาราวน้ำเชี่ยว!
..
“อ๊ากกกกก”
ฐานปฏิบัติการอนุกรม – The Continuum
ศูนย์ค้นคว้าวิจัยเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
กัปตัน อะตอมวาร์ปร่างกลับมายังศูนย์ปฏิบัติการไปพริบตา!
นักวิทย์: นั่นเขานี่!
นักวิทย์2: รีบแจ้งดร.เมกาล่าเร็ว
นักวิทย์3: เอาเขาไปไกล ๆ เร็ว!
รานิต้า: ทุกท่าน ร่างกายเขาไม่เสถียร
รานิต้า: กัปตัน อะตอมเกิดอะไรขึ้น? นาธาเนียล!?
เนธ: รานิต้า… หยุด… มัน… ที!
รานิต้า: ดร.เมกาล่า การแช่เขาไว้ในสารไหลยิ่งยวดเป็นความคิดที่ฉลาดมากค่ะ
เมกาล่า: ต้องหวังว่ามันจะได้ผล
รานิต้า: โชคดีที่เขามีคุณคอยช่วยเหลือ
เมกาล่า: หวังว่าเขาจะคิดอย่างนั้นนะ เอาจริง ๆ ฉันยังงงอยู่เลยที่นาธาเนียลมาขอคำปรึกษาจากฉัน… เพราะฉันมีส่วนต้องรับผิดชอบที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้
“ครั้งหนึ่ง พวกเราเคยพยายามวิจัยเรื่องสนามพลังควอนตั้ม… เราพยายามศึกษาเรื่องการส่งวัตถุข้ามมิติด้วยทฤษฎีสตริง ซึ่งผลทดสอบขั้นต้นเป็นไปอย่างน่าพอใจ แต่สำหรับขั้นต่อไป พวกเราต้องการนักบินเพื่อบังคับยนตรกรรมของเรา… ผู้ที่อาสาสมัครมาทดสอบให้นั้นก็คือกัปตันนาธาเนียล อดัมนี่เอง”
“ฉันละสายตาจากเครื่องควบคุมพลังงาน เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่กำลังจะปรากฏตรงหน้า นั่นจึงทำให้ยานยนต์ที่เขาควบคุมอยู่เกิดระเบิดใส่ร่างของเขา ฉันคิดว่าเขาต้องตายแหง ๆ … และถ้าว่าตามสภาพจริง ๆ เขาตายไปแล้ว”
“ทว่า ในขณะนั้นเองรังสีนิวเคลียร์ได้รวมตัวกับพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เข้าแทรกแซงโครงสร้างโมเลกุลทั้งหมดของร่างกายเขา เขาฟื้นคืนชีพกลับมา หากแต่ไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล มนุษย์คนเดิมได้ตายจากไป…”
“เขาเกิดใหม่เป็น
กัปตัน อะตอม”
รานิต้า: คงเลวร้ายน่าดูที่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้
รานิต้า: อย่างโดดเดี่ยว
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็เข้ามาขัดจังหวะรานิต้ากับเมกาล่า…
สก็อต: รานิต้า! ตอนคุณบอกผมว่าคุณจะทำงานในแผนกวิจัยการเปลี่ยนรูปอนภาค คุณไม่เห็นบอกผมว่าคุณทำงานร่วมกับหมอนี่
รานิต้า: อย่าพูดแบบนั้นกับฉันนะ สก็อต… โดยเฉพาะในห้องทดลองแบบนี้ ตอนนี้กัปตัน อะตอมกำลังเจ็บปวดจากคลื่นความคิดจำนวนมากที่ไหลถาโถมเข้าสมองผ่านรังสีสเป็คตรัม… เขามีสภาพเหมือนเสาอากาศมนุษย์ เราจำเป็นต้องแช่เขาไว้ในสารไหลยิ่งยวดเพื่อปกป้องเขา
เมกาล่า: มันจะทำให้ร่างกายที่เป็นโมเลกุลของเขาไม่เสียหายน่ะ ดร.อเล็กซานเดอร์… นี่คือหัวข้อวิจัยล่าสุดของแผนกเราเอง
สก็อต: เยี่ยมเลย คุณพูดง่าย ๆ ก็ได้ว่าร่างกายของเขากำลังผันผวน
เนธ: เอาล่ะ ๆ สก็อตตี้ ฉันว่าฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว
สก็อต: โอ้ ตอนนี้ฉันรู้สึกดีมากเลย อยู่ให้ห่างจากรานิต้าเลยนะ ผมไม่อยากให้เธออยู่ใกล้คุณเวลาที่คุณมีสภาพเป็นพลังงานนิวเคลียร์แบบนี้
เนธ: เธอคือผู้หญิงมีสมองครับ ผมคิดว่าเธอฉลาดพอจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
คลื่นข้อมูลการสื่อสารก็เหมือนกันกับพลังงานอื่น ๆ ผมต้องตั้งสมาธิควบคุม… แค่กลั่นกรองพวกมันแล้วคัดมันทิ้งออกมา นี่คือระบบป้องกันตัวพื้นฐานของผม
สก็อต: เขาควรจะโดนกักตัว ไม่ใช่ปล่อยให้ร่อนไปร่อนมาแบบนี้ เธอเคยคิดมั้ยล่ะว่าทำไมจัสติซ ลีกไม่เคยเรียกตัวเขา
รานิต้า: ก็เพราะพลังของกัปตัน อะตอมอาจสร้างความเสียหายได้หากเขาอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ฐานปฏิบัติการอนุกรมของเราไงล่ะ
สก็อต: ไอ้หมอนี่มีพลังที่ไม่จำกัด จนแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง
รานิต้า: นั่นยิ่งทำให้เราต้องช่วยเขาใหญ่เลย เขาต้องการเรา
สก็อต: แต่ที่ผมห่วงมากกว่าคือความปลอดภัยของเรา
รานิต้า: สก็อต ถ้าเราไม่ให้เขาอยู่กับเรา แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก?
สก็อต: ดาวอังคารดีมั้ย? รูปร่างหน้าตาเขาก็คล้ายมนุษย์ต่างดาวอยู่นะ
ในขณะนั้น กัปตัน อะตอมก็กำลังตื่นตากับของเล่นใหม่ มันคือข้อมูลอิเล็คโทรนิคทั้งหลายของมนุษย์!
ทั้งหมดนี้… ข้อมูลสื่อสารทั้งหมดของมวลมนุษยชาติกำลังลอยล่องอยู่ทั่วท้องฟ้า คนทั่วไปไม่อาจมองเห็น แต่ผมเห็นได้อย่างชัดเจน
เขาฉวยหน้าจอแผ่นหนึ่งมาแผ่ดู ในหน้าจอนั้นเป็นภาพของเด็กคนหนึ่งที่กำลังป่วยอยู่
[กัปตัน อะตอม ท่านได้ยินผมมั้ยฮะ? ผมเห็นท่านปกป้องนิวยอร์ค มันเยี่ยมมากเลย! ท่านปกป้องทุกอย่างในเมืองนี้ไว้! ผมหวังให้ท่านช่วยปกป้องผมด้วย ที่ที่ผมอยู่ไม่มีภูเขาไฟระเบิดหรอกฮะ แต่มันอยู่ในสมองของผมเอง มันคือเซลล์มะเร็งที่ติดตัวผมมาตั้งแต่กำเนิด]
[มันแย่ แย่มากเลยฮะ คุณหมอบอกให้ผมมีความหวัง หวังว่าปาฏิหารย์จะเกิดขึ้นสักวัน]
[ผมเลยหวัง หวังให้ท่านเป็นปาฏิหารย์ของผม ได้มั้ยฮะ? ได้โปรดเถอะ]
แคนซัส
เพียงครู่เดียว กัปตัน อะตอมพลันปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าเหนือโรงพยาบาล
เจ้าหนูดูผ่ายผอมและอ่อนแอ เขาอยู่ในห้องนี้นานเกินไปจนครอบครัวของเขาสามารถเรียกที่นี่เป็นบ้านได้เลย ผมทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพล่องหน เพื่อไม่ให้เจ้าหนูมิคกี้ต้องหวังลม ๆ แล้ง ๆ บันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์บอกให้ผมรู้ว่าปัญหาคืออะไร มันคือกลิโอบลาสโตม่า มัลติฟอร์ม… หรือเรียกเป็นภาษาคนว่าเนื้องอกในสมอง
พวกเขาใช้ทั้งยาและการผ่าตัด แต่ก็ยังกำจัดมันไปไม่ได้ มันลุกลามไปทั่ว เจ้าหนูเหมือนเรือที่กำลังจะจม
เอาล่ะ มิคกี้ ลองมาดูกันว่าฉันจะทำอะไรได้บ้าง
กัปตัน อะตอมแยกร่างตัวเองออกมาเสี้ยวหนึ่ง แล้วส่งเข้าไปในร่างกายของมิคกี้!
ขอแค่รู้ว่าน้ำหล่อสมองไขสันหลังเป็นยังไง ผมก็จะสามารถแปลงเซลล์มะเร็งเป็นน้ำนั่นได้ แทนที่จะต้องทำลายเซลล์ต่อเซลล์ โปรตอนต่อโปรตอน
แค่ถ่ายส่วนที่เสีย…
และเสริมส่วนที่ดีเข้าไป
..
โว้ว คงต้องเรียกไอ้นี่ว่าสิ่งแปลกปลอมสินะ เอาเถอะ ถึงยังไงผมเองก็คือสิ่งแปลกปลอมเหมือนกัน
ตอนนั้นเอง หมอก็แทงเข็มฉีดยาเข้าร่างหนูน้อย และปลายเข็มทะลวงมาจนถึงที่ที่อะตอมอยู่!
มันคืออะไรน่ะ? ไอโอดีนรึเปล่า? ไม่สิ มันคือสารอะไรสักอย่างที่ไปยึดเกาะเซลล์มะเร็งแปลกปลอม ถึงผมไม่ใช่เซลล์มะเร็ง แต่อธิบายไปมันก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี นี่สินะที่เรียกว่าผิดโดยไม่เจตนา
ยาต้านเซลล์มะเร็งกลับเข้าจู่โจมกัปตัน อะตอมในฐานะสิ่งแปลกปลอมด้วยเช่นกัน!
ต้องใช้พลังอย่างระวัง
เจ้าหนูคงไม่อยากให้หัวตัวเองกลายเป็นหลอดไฟเรืองแสงแน่ ๆ
พวกแกใจเย็นกันหน่อยสิ… พวกแกโจมตีผิดตัวอยู่นะ ฉันไม่ได้มาสร้างปัญหาสักหน่อย… บ้าจริง นี่ฉันมาเพื่อช่วยเขานะ!
ที่จริงในวัยเช่นนี้เจ้าหนูควรจะวิ่งเล่นเบสบอล, ปั่นจักรยานและไปโรงเรียน ไม่ใช่ต้องมานอนอยู่บนเปลแบบนี้ ไม่ใช่ต้องคอยหวาดผวาว่าความตายจะย่างกรายมาเมื่อไหร่แบบนี้
เอาล่ะ ฉันขอบอกให้พวกแกได้รู้เอาไว้ ไอ้พวกมัจจุราช แกจะไม่มีทางได้ตัวเขาไป
ไม่ว่าจะเป็นวันไหนก็ตาม
มิคกี้: พ่อฮะ! แม่ฮะ!
แม่: มิคกี้!
พ่อ: ลูกไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?
หมอ: แปลกมาก ๆ ครับ จากผลแสกนดูเหมือนเซลล์เนื้องอกทั้งหมดจะถูกทำลายแล้ว
มิคกี้: หัวผมไม่ปวดอีกแล้ว เขาช่วยผมไว้
มิคกี้: เขาช่วยผมจริง ๆ ด้วย
แม่: ลูกหมายถึงใครกันจ๊ะ?
มิคกี้: กัปตัน อะตอมฮะ
มิคกี้: เขาช่วยผมไว้!
การช่วยเยียวยาใครสักคนมันทำให้รู้สึกดีจริง ๆ
รู้สึกดีกว่าเป็นผู้ที่คอยทำลายล้างเสียอีก
..
ห่างออกไปไกล สุนัขจรจัดสองตัวกำลังรุมทำลายสุนัขเฝ้าบ้านประหลาดตัวหนึ่ง!
“หยุดนะ! ไอ้หมาเวรตะไล!”
“นี่แกทำบ้าอะไรกัน? ฉันเลี้ยงแกไว้ไล่ผู้บุกรุกนะโว้ย ไม่ใช่ให้มากัดกับหมากันเอง”
..
“เฮ้ย ไม่นะ!”
รูปร่างของเจ้าสุนัขกำลังเปลี่ยนไป!
..
กรรรรรรรรรรรร!!!!
..
สิ่งมีชีวิตประหลาดที่แฝงกายเป็นกาฝากในร่างสัตว์อื่นตัวนี้คือตัวอะไรกันแน่?
และชีวิตของนาธาเนียลจะเป็นเช่นไร เมื่อเขายิ่งห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ขึ้นไปทุกที
ตอนต่อไป:
LESS HUMAN THAN HUMAN!
..
คุยกันท้ายเล่ม
เมื่อดีซีทำการเทคโอเวอร์สำนักพิมพ์ชาร์ลตั้นแล้ว ตัวละครชื่อดังทั้งหลายของชาร์ลตั้นก็พากันตบเท้าเข้าสู่จักรวาลดีซีด้วยอีเวนท์ประวัติศาสตร์ Crisis on Infinite Earts หลายตัวละครเช่น The Question หรือ Blue Beetle ยังคงใช้การออกแบบเดิมและประวัติเดิม แต่สำหรับ Allen Adam นักวิทยาศาสตร์หนุ่มผู้สวมเครื่องแบบกัปตันอะตอมกลับถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด
ในจักรวาลดีซีเก่า Nathaneil Adam ทหารอากาศแห่งกองทัพสหรัฐยุคสงครามเวียดนาม ประสบอุบัติเหตุนิวเคลียร์ระเบิดระหว่างเข้ารับการทดลองของรัฐบาลทำให้เหล็กอวกาศหลอมรวมเข้าร่างของเขา และทำให้เขากระเด็นข้ามเวลามาสู่ยุคปัจจุบัน เขาตื่นขึ้นมาพร้อมพลังในการควบคุมสนามพลังควอนตั้ม ซึ่งทำให้เขาสามารถดูดซับพลังงาน ควบคุมหรือจัดเรียงสสาร และปล่อยพลังงานโจมตีได้ (บางครั้งก็ข้ามเวลาได้ด้วย เพราะสนามพลังควอนตั้มนั้นจะทำให้เวลาผันผวน) เขาจึงผันตนมาเป็นยอดมนุษย์นามกัปตันอะตอม
มีเกร็ดอย่างหนึ่งที่อาจยังไม่รู้ แต่ Alan Moore นั้น ได้ไอเดียการสร้างสรรค์ผลงานเรื่อง Watchmen มาจากตัวละครของชาร์ลตั้นนี่เอง ในตอนแรกนั้น มัวร์ได้ขอใช้ตัวละครของชาร์ลตั้น แต่บ.ก.ของดีซีตอนนั้นไม่อนุมัติและแนะให้เขาสร้างตัวละครใหม่จะดีกว่า มัวร์จึงได้สร้างตัวละครใหม่ขึ้นมาโดยอิงจากตัวละครของชาร์ลตั้นเกือบทั้งหมด…
ออสซิแมนเดียส มาจาก ธันเดอร์โบลท์, คอมเมเดี้ยน มาจาก พีซเมคเกอร์, ซิลค์ สเปคเตอร์ มาจาก ไนท์เช้ด, รอร์ชาร์ช มาจาก เดอะ เควสชั่น, ไนต์โอว์ล มาจาก บลูบีทเทิ่ล และ ดร.แมนฮัตตั้น มาจากกัปตันอะตอมครับ
ที่จริงในจักรวาลก่อนนั้นดีซีทิ้ง Earth-4 ไว้ให้เป็นโลกของฮีโร่จักรวาลชาร์ลตั้น โดยกัปตันอะตอมใน E-4 นั้นยังคงเป็น Allen Adam อยู่ แถมอัลเลนใน E-4 ค่อนข้างจะเหมือนดร.แมนฮัตตั้นอย่างกับแกะ 😛 พอเข้าสู่จักรวาลใหม่ DCnU ผมจึงยังรู้สึกแปลก ๆ ที่ดีซีเขียนบทให้เนธดูใกล้เคียงกับดร.แมนฮัตตั้นและอัลเลน ทั้งความสามารถและรูปร่างหน้าตา (แต่ผมคิดถึงตัวสีเงิน ๆ มากกว่า ฮ่า ๆ) แต่เมื่ออ่านไปอ่านมาแล้วก็รู้สึกว่า “เออ ก็สนุกดีแฮะ” (ฮ่า) หลังจากนี้ถ้าจะให้ดีก็ขอเดอะ เควสชั่นที่ดิบแบบรอร์ชาร์ชด้วยแล้วกัน 😛
ในเล่มนี้พลังของเนธใกล้เคียงกับพระเจ้าเข้าไปทุกที ทั้งเกิดใหม่ได้ รับรู้คำร้องขอของประชาชนได้ รักษาโรคได้ เขาจะเมพไปมากกว่านี้หรือไม่ และสัตว์ประหลาดที่แฝงร่างเป็นสัตว์นั้นคือตัวอะไรคงต้องติดตามต่อในเล่มต่อไป
ขอบคุณที่รับชมครับ 🙂
พออ่านเล่มนี้จบยิ่งชอบกัปตันคนนี้มากขึ้นไปอีก สนุกมากฮะ ว่าแต่ิอย่างฟิตเลยหัวเดียว 2 เล่มในหนึ่งวัน ^ ^
อ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกว่า กัปตันอะตอมเทพมากๆ
นี่ถ้าพี่แกเผยตัวตอนไปรักษา คนคงแห่มารักษากันเพียบ
ผมว่าไม่น่าจะใช่คลื่นความคิดหรือรับรู้คำร้องนะครับ เพราะเท่าที่อ่าน น่าจะหมายถึงคลื่นอิเล็กทรอนิกในการส่งข้อมูลมากกว่า เหมือนคลื่นโทรศัพ หรือคลื่นอินเตอเนต ไม่น่าจะใช่คลื่นความคิดโดยตรงเลย (คงยังไม่ถึงขนาดอ่านความคิดได้) แต่โดยรวมแล้วเก่งขึ้นมาก จนรู้สึกน่ากลัว -0-
ผ่าทางตัน ทางการแพทย์ แบบนี่เลย หรอ
กัปตันตอนนี้กลายเป็นเทพจริงๆไปแล้วแหะ ความสามารถระดับนี้เข้าข่ายไร้เทียมทานแล้วนา
@bluewing_a23
โอ้ จริงด้วยครับ ผมมัวแต่สนใจธีมเรื่องเลยไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดพลังตรงนี้
ผมดันเข้าใจว่าจะเป็นการสื่อสารทั้งหมดของมนุษย์รวมถึงคำพูดและความคิดน่ะครับ
แต่ดูดี ๆ มันมีแต่ยูทูปกับสื่ออิเลคโทรนิคทั้งนั้นจริง ๆ ด้วย
ขอบคุณคุณ bluewing ที่ช่วยแก้ให้นะครับ
อาทิตย์นี้ไม่ค่อยมีเวลาทำสปอยล์เลยครับ จึงอาจมีที่ผิดพลาดบ้าง
ถ้าใครเห็นพบจุดผิดพลาดท้วงเข้ามาได้เลยนะครับ จะรีบแก้ให้ครับผม 🙂
ขอบคุณที่ยังติดตามรับชมครับ
นี่มันพลังระดับพระเจ้าชัด ๆ น่ากลัวมาก เเต่คงมีจุดอ่อนในด้านจิตใจซินะ
ของคุณมากครับสำหรับสปอย สนุก ๆ เเบบนี้
กับตันอะตอมนี่สุดยอดจริง ๆ ครับ
ต้องใช้ทักษะการแปลอีกขั้น เอาใจช่วยนะครับ
แปลมา แล้ว ขอบคุณทุกท่านจากใจอีกครั้ง
ผมชอบขอบคุณบ่อย บ่อย เพราะเว็บนี้ ไม่ได้หวังค่าหรือผลตอบแทน เ
ลยนอกจากใจรัก Hero Comic
จึงมีแค่กำลังใจเท่านั้นที่ ผมมอบให้ได้ครคับ ขอบคุณครับ
** ไม่ชอบทรงผมเลยครับให้ตายเถิด สรุป ประวัติครั้งแรกถูกเปลี่ยนก่อนเข้าDC จากชาร์ลตั้น
แยกย่อยเพราะอลัน มัวร์คิดสร้างวอช เมน เอตามหลักอลันมัวร์ก็เคยสร้างฮีโร่ร่วมด้วยกับสแตนลี อย่างF4นะ
ทำไมถึงยืมตัวละครมาสร้างเนื้อเรื่องของตัวเองอีก แทนที่จะสร้างเองต่อเลย
จึงทำให้เกิดมาเป็น ดร.แมนฮัทตัน ที่โด่งดังที่สุด (สำหรับคนทั่วไปนะ )
** รีบูทประวัติอีกครั้งเพราะคราวนี้ DC จะหลอมรวม WildStorm อีกแล้ว
ประวัติวอชเมน เหล่านี้ผมได้รับจากคอมิค66 ตอนเข้าใหม่ ใหม่เลย Thxอีกที
เกร็ดท้ายเล่ม สุดยอดมากครับ ทำให้ ชอบ กัปตัน อตอม มากขึ้นไปอีก
เดอะ เควสชั่น โหด เหมือน รอชาช จะดีใจมากๆอีกคนครับ
ผมชักชอบกัปตันอะตอมเวอร์ชั่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆแ้ล้วสิเนี่ย
พลังเขาเทียบเท่าพระเจ้าเลยนะเนี่ย ขอบคุณสำหรับงานแปลชิ้นนี้และก่อนหน้าครับ สนุกมาก 🙂
ความสามารถนี่อย่างเทพจริงๆ ถ้าใช้ดีๆนี่แทบจะไม่มีใครทำอะไรได้เลยนะนั่น
แต่ทรงผมพี่แกนี่ ส๊วดยวดจริงๆ 5555+