O.M.A.C. #3
เรื่อง : DAN DIDIO
ภาพ : KEITH GIFFEN, SCOTT KOBLISH
วางจำหน่าย: 2 พฤศจิกายน 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
โอแม็คเผชิญนายสมองไหล!
..
ไม่มีคุกใดสามารถกักขังมันได้! แม้จะมาเป็นกองทัพก็เอามันไว้ไม่อยู่! แต่โ.อ.แ.ม็.ค.กำลังจะได้พบศัตรูที่ร้ายกาจกว่าศัตรูตัวใด ในการผจญภัยที่มีชื่อตอนว่า…
OFFENSIVE MEETINGS,
ANTAGONISTIC COMMUNICATIONS
ตอนนี้ เควิน โคพบว่าตัวเองกำลังโต้เถียงอย่างพิศดารพันลึกที่สุดในชีวิต
ชรีฟพอร์ต, หลุยเซียน่า
บริเวณนอกย่านศูนย์กลางการค้าเบโย
เควิน: นี่มันความคิดแกนะเฟ้ย ไม่ใช่ความคิดฉันสักกระผีก บอกแล้วไงล่ะว่าฉันไม่มีบัตรเครด่งเครดิตอะไรสักอย่าง ขนาดกระเป๋าตังค์ยังไม่มีเลยนะเฟ้ย
[กระผมไม่ได้บอกว่าท่านจำเป็นต้องใช้]
เควิน: แล้วฉันจะดูดเงินออกมาได้ไงล่ะเฟ้ย!?
เควิน: นี่ทำไมฉันต้องมาเถียงกับตู้เอทีเอ็มด้วยฟะเนี่ย?
[ท่านไม่ได้กำลังเถียงกับตู้เอทีเอ็ม ท่านกำลังสนทนากับบราเธอร์ อาย กระผมบอกท่านแล้วว่ากระผมจะช่วย]
ทันใดนั้น ตู้เอทีเอ็มก็พ่นเงินออกมาราวกับน้ำ
[เห็นหรือไม่? ไม่ต้องขอบใจกระผมก็ได้นะครับ]
เควิน: จะไปขอบใจแกทำแป๊ะซากอะไรฟะ? ทำงี้ใครผ่านไปผ่านมาเห็นตูเป็นโจรแหง ต้องคิดว่าตูเป็นผู้ร้ายแน่ล่ะเหวย
ไม่ทันขาดคำตำรวจก็มาถึงพอดี
ตำรวจ: ทิ้งเงินซะ แล้วชูมือให้เราเห็น!
เควิน: ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเฮีย! ตู้มันเจ๊งบ๊งเองต่างหาก!
ตำรวจหมายเลข1: อยู่เฉย ๆ ไว้ อย่าขยับ!
เควิน: ผมเก็บให้แล้วกัน! นี่เฮียเข้าใจผิดแล้ว… แอ๊กกก!
ตำรวจหมายเลข1: บอกว่าอย่าขยับไงล่ะเฟ้ย!
เตือนให้หยุดก็ไม่ฟัง พี่เจ้าหน้าที่เลยยิงเข้าให้!
ตำรวจหมายเลข2: ต้องทำถึงขั้นนี้เลยเรอะ?
ตำรวจหมายเลข1: แต่เจ้านี่มันผู้ก่อการร้ายนะ! บุญโขแล้วที่ฉันไม่ใช้กระสุนจริง!
ตำรวจหมายเลข2: แต่เขาดูไม่เหมือนเลยนะ
ตำรวจหมายเลข1: คนจะเลวเลวที่ใจใช่ใบหน้าโว้ย! และเราก็ควรกันไว้ก่อน เผื่อถ้ามันเป็นวายร้ายตัวเอ้จริง ๆ ขึ้นมาล่ะก็ เราจะยุ่ง
ที่แท้คนที่ส่งสัญญาณไปแจ้งคุณพี่เจ้าหน้าที่นั้นคือบราเธอร์อายนั่นเอง! มันมีแผนอะไรกันแน่!?
ถึงวันเสาร์เสียที หลังจากโหมงานมาตลอดอาทิตย์ ในที่สุดโจดี้ ร็อบบิ้นส์ก็ได้พักผ่อนอยู่บ้านกับเขาบ้าง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่เธออาบน้ำอยู่พอดี
เควิน: ฮัลโหลที่รัก โจดี้นี่ผมเอง เควินไง ช่วยรับสายทีเถ๊อะ
โจดี้: เควินเหรอ?
โจดี้: เควินเกิดบ้าอะไรขึ้นยะ? ไหนว่าจะถึงบ้านแล้วไง ทำไมไม่แวะมาหาฉันหน่อยล่ะ ฉันอุตส่าห์ตื่นมาหุงหาอาหาร…
เควิน: โจดี้ ผมยังไปไม่ได้… มีปัญหานิดหน่อย
เควิน: ผมโดนจับ
โจดี้: โดนจับ!? เรื่องอะไรกัน?
เควิน: เป็นเรื่องเข้าใจผิดแบบสุด ๆ น่ะสิ ผมถูกจับข้อหาปล้นตู้เอทีเอ็ม แต่ตอนนี้กลายเป็นพวกเขาคิดว่าผมเป็นผู้ก่อการร้ายไปซะแล้ว!
โจดี้: ปล้นตู้งั้นเหรอเควิน! คุณไปมั่วกับเรื่องแบบนี้อีท่าไหนกันหา?
เควิน: ผมไม่เกี่ยวเล้ย สาบานได้
ทันใดนั้นพี่ผู้คุมหน้าโหดก็กดตัดสายอย่างหน้าด้าน ๆ
ผู้คุม: หมดเวลาแล้ว! แกไม่มีสิทธิ์ใช้โทรศัพท์อีกตราบเท่าที่ฉันเฝ้าแกอยู่
โจดี้: โทรกลับก็ไม่ได้ด้วย แล้วจะหาตัวเขายังไงกันล่ะทีนี้ โธ่ เควิน ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ
เควิน: แล้วผมจะได้คุยกับทนายเมื่อไหร่? เขาจะได้มาเคลียร์เรื่องให้ผมสักที
ผู้คุม: แกได้โทรศัพท์แล้วนี่
เควิน: ก็พี่เองไม่ใช่เรอะที่กดตัดสายผมเมื่อกี้?
ผู้คุม: เรื่องของเอ็ง ทีนี้อยู่เฉย ๆ จนกว่าท่านจะเรียกพบก็แล้วกัน
เควิน: ท่านที่ว่านี่ใครกัน? พัศดีเหรอ?
ผู้คุม: พัศดีตายไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้วเฟ้ย
เควิน: อ้าว งั้นใครอีกล่ะฟะ! จับผมไว้ทำซากอะไรกันล่ะเว้ยเฮ้ย?
นักโทษหัวล้าน: อย่าเปลืองน้ำลายเลยไอ้ลูกชาย หมอนั่นโดนล้างสมองมาพักหนึ่งแล้ว…
เควิน: คุณพูดอะไรน่ะ? เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
นักโทษหัวล้าน: ที่นี่กลายเป็นนรกไปแล้ว
นักโทษหัวล้าน: ตอนที่คุณหมอท่านมาที่นี่ใหม่ ๆ ท่านคิดจะศึกษาหาทางแก้ไขพฤติกรรมเสพติดความรุนแรง ท่านพยายามหาวิธีควบคุมจิตใจของเหล่านักโทษ แต่พัศดีกลับไม่ชอบงานทดลองนี้เท่าไหร่ เขาสั่งขังคุณหมอ คุณหมอท่านจึงลองทดสอบกับตัวเองจนสำเร็จ และหลังจากนั้นคุณพัศดีก็โดนเจี๋ยน
นักโทษหัวล้าน: ท่านตื่นเต้นมาก ๆ เมื่อได้รู้ว่าเธอมาที่นี่ แถมยังพูดไม่ขาดปากเลยล่ะว่าอยากเจอเธอสองคน ว่าแต่อีกคนนี่ท่านหมายถึงใครกันนะ พอจะรู้มั้ย?
เควินเดินสวนกับนักโทษสองคนที่เพิ่งออกมา ท่าทางพบวกเขาดูไร้วิญญาณมาก ๆ
เควิน: เรื่องจะยิ่งแย่ลงรึเปล่าหว่า… โอ้ ไม่เอานะ
“ยินดีต้อนรับเควิน โค ดีใจจริง ๆ ที่คุณแวะมา อภัยให้ผมด้วยที่ไม่ได้ลุกขึ้นต้อนรับ แต่หมวกใบนี้หนักกว่าที่เห็น ผมรู้ว่ารูปลักษณ์ของมันคงดูเช้ยเชยอย่างกับหมวกเจ้าป้า แต่มันก็ช่วยให้ผมไม่ต้องได้ยินเสียงรบกวน”
“ผมคือศาสตราจารย์อาเราส์ แต่เพื่อน ๆ ที่นี่มักจะเรียกผมว่าไซ-ไฟแมน ฟังดูเท่ดีใช่มั้ย?”
“เลิกคุยเรื่องผมเถอะ คุยเรื่องคุณบ้างดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องเพื่อนหัวใสของคุณ เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณมาที่นี่สินะ ผมรู้สึกได้ว่าเขาแฝงตัวอยู่ในเครื่องจักรทุกชิ้นของเรือนจำนี้ แถมยังพยายามจะแทรกแซงเข้ามาในหมวกผมด้วย”
“เขาอยู่ในตัวคุณด้วยใช่มั้ย งั้นคงไม่ว่าถ้าผมจะพูดคำว่า ‘สวัสดี’”
ไซ-ไฟแมน: หืมม… ผมคิดว่าเขาชื่อบราเธอร์อายใช่มั้ย เขาอยากเจอผมเหมือนกันล่ะสิ ผมอยู่นี่แล้ว มีอะไรก็พูดมาเถอะ
[โอแม็คทิเวท – โอแม็คดำเนินการ]
ลึกเข้าไปในอวกาศ ดาวเทียมมีชีวิตชื่อบราเธอร์อายสัมผัสได้ถึงจิตของไซ-ไฟเม็นที่พยายามแทรกแซงการทำงานของเขา และเขาไม่ชอบเอาซะเลย
[แม็กซ์เวล ลอร์ด กระผมรู้สึกดีที่ได้สนทนากับท่าน แต่คงต้องขอยุติไว้เพียงเท่านี้ กระผมมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ]
แม็กซ์: โอ้ แย่จัง ฉันกำลังนึกถึงอดีตอันหวานชื่นของเราอยู่เลย
[เก็บคำถากถางของท่านไว้ และอย่าคิดกักขังผมอีกเป็นอันขาดเดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน]
แม็กซ์: จ้า ๆ กลัวแล้วจ้า… ซาร์จ สตีล นายค้นหาพิกัดสัญญาณที่ส่งให้ได้รึยัง?
..
“ได้แล้วครับท่าน”
พวกเขาคือยอดจารชนเช็คเมท หน่วยพิเศษที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับ ‘ม้า’ ขึ้นไปซึ่งตั้งขึ้นเพื่อรับมือปัญหาต่าง ๆ
แม็กซ์: ฉันอยากให้นายพา ‘เรือ’ และ ‘โคน’ ในสังกัดของนายตามสัญญาณนั่นไปและทำลายทุกอย่างในบริเวณนั้นให้ราบ ทำได้มั้ย?
สตีล: ทำได้มั้ยงั้นเหรอ? ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้นะเพ่ มาริเบลกับลิตเติ้ลนิปเป้อตามมาเร็ว! ไปล่าช้างกัน
ด้านเควิน เขากลับไม่สามารถกลายร่างเป็นโอแม็คได้!
ไซ-ไฟแมน: ประทับใจจัง ผมรู้ว่าคุณกลัวการแปลงสภาพ แต่อย่ากลัวไปเลย เดี๋ยวผมจะเข้าไปอยู่กับคุณเอง
ไซ-ไฟแมน: คุณคงได้ยินเรื่องที่ผมทำการทดลองกับตัวเองแล้ว… มันก็ได้ผลอยู่นะ ว่างั้นมั้ย? เอาล่ะ ไปถึงไหนแล้วเอ่ย?
ไซ-ไฟแมน: อ่อ ใช่สินะ ผมหยุดคุณไว้ระหว่างการแปลงร่างนี่นา งั้นทีนี้ผมจะเข้าไปในจิตคุณล่ะนะ หวังว่าผมจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับบราเธอร์อายเพิ่มขึ้น
ไซ-ไฟแมน: น่าเบื่อชะมัด วงจรไฟฟ้าประหลาดพวกนี้น่าสนใจก็จริงแต่ไม่ใช่เป้าหมายของผมหรอก
[กระผมพยายามติดต่อกับท่าน และกระผมรู้ว่าท่านต้องหาทางติดต่อกระผมเป็นแน่ กระผมสัมผัสพลังที่เติบโตขึ้นของท่านได้ ศาสตราจารย์อาเราส์ ผมจำเป็นต้องหยุดมัน]
ไซ-ไฟแมน: คุณทำอะไรผมไม่ได้หรอก คุณไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ
[กระผมจะถือเป็นคำชม]
[ตอนนี้ที่ท่านต้องกังวลไม่ใช่ตัวกระผม แต่เป็นโ.อ.แ.ม็.ค.ซึ่งแปลงร่างสมบูรณ์แล้วต่างหาก]
ไซ-ไฟแมน: ว… ว่าไงนะ?
[พลังจิตของท่านกล้าแข็งยากรับมือ แต่ร่างกายท่านอ่อนปวกเปียกป้อแป้]
[โ.อ.แ.ม็.ค.จัดยาให้คุณหมอหน่อยสิ]
“ข้าคือโ.อ.แ.ม็.ค.”
…
ไซ-ไฟแมน: ดูเหมือนคุณกับบราเธอร์อายเชื่อมโยงกันอยู่ ถ้าผมสามารถควบคุมการเชื่อมโยงนั้นได้ คุณจะกลายเป็นยอดขุนศึกแห่งกองทัพของผมแทน
ขณะเดียวกัน ทีมของซาร์จก็วาร์ปมาโผล่กลางคุกพอดี
สตีล: ลิตเติ้ลนิปเปอร์ แกส่งเรามาที่ไหนกันฟะ? ไอ้บ้าที่ไหนใช้ให้แกส่งเรามาทะลุกลางปล้องแบบนี้ฟะเนี่ย?
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: เหมือนจะเป็นลูกพี่เองไม่ใช่เรอะ?
สตีล: งั้นคราวหน้าช่วยบอกตูก่อนว่าเราจะมาติดอยู่ในคกแบบนี้
มาริเบล: จะไปสนทำไมว่าเราอยู่ที่ไหน มาสนุกกันดีกว่า
สตีล: เดี๋ยวเซ่ มาริเบล! เธอไม่เห็นไอ้พวกที่ยืนทำหน้าหื่นเป็นกองทัพตรงหน้ารึไงวะเฮ้ย!?
มาริเบล: แล้วลูกพี่จะให้นั่งแช่รอสวรรค์วิมานอะไรไม่ทราบคะ?
มาริเบล: นิปเปอร์! มั่นใจว่าปืนใหญ่แอมเบียนท์แคนน่อนจะไม่มีปัญหานะ
เทคโนโลยีแอมเบียนท์คือนวัตกรรมชิ้นล่าสุดของเช็คเมท มันคือขั้วประจุและอนุภาคอิสระที่สามารถแปลงรูปร่างเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ใดก็ได้ ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา มีแต่ลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดงเท่านั้นที่กล้านำมาใช้ก่อน
มาริเบล: เอาส้นตึกไปกินซะไป๊!
มาริเบล: เจ้าพวกนี้เรียกเหงื่อได้ดีจริง ๆ แล้วไหนพ่อช้างน้อยเป้าหมายของเราล่ะ?
สตีล: ฉันว่านั่นล่ะมั้ง
ระเบียงชั้นสองพลันถล่มลงมาด้วยฤทธิ์โอแม็คพอดิบพอดี!
[โ.อ.แ.ม็.ค.ท่านต้องโจมตีโดยไม่ให้ตั้งตัว พลังจิตของเขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่ผมจะประเมิณได้ ถ้าเขาตั้งตัวติดเขาสามารถโจมตีท่านจนเสียหาย]
โอแม็ค: เสียหาย
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: ดูเหมือนเราจะโผล่มาตอนเขาตีกันพอดี๊พอดี ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้สมองไหลแกว่งไปแกว่งมานั่นใคร แต่ถือว่าเรามองไม่เห็นก็แล้วกัน
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: กำหนดเป้าหมายที่โ.อ.แ.ม็.ค.
[นี่คือเทคโนโลยีแอมเบียนท์ ไม่นึกว่าเช็คเมทจะก้าวหน้าขนาดนี้ หรือบางทีพวกเขาอาจซ่อนมันให้พ้นจากผม]
โอแม็ค: แข็ง… แกร่งมาก สู้… ไม่ได้
[ท่านต้องไม่ให้มันก่อตัวล้อมจับท่านได้ โปรดเตรียมตัวเพิ่มพลัง]
[ดำเนินการ]
โอแม็ค: ดำเนินการ!
สตีล: เฮ้ น้องเบิ้ม มาทางนี้มะ ถึงตาพี่ลุยเองแล้ว
[ขณะนี้ เช็คเมทกลายเป็นภัยที่อันตรายยิ่งกว่าภัยใด ๆ จงกำจัดพวกเขา]
โอแม็ค: กำจัด!
สตีล: กำจัดงั้นเรอะ!? นี่มันเพื่อเริ่มเฟ้ย! ดูจากข้อมูลที่พี่มีมันบอกว่าน้องเป็นครึ่งคนครึ่งเครื่องจักร…
สตีล: อยากรู้จังว่าส่วนที่เป็นเครื่องจักรของน้องจะเจ็บจี๊ดแค่ไหนตอนโดนปืนใหญ่สนามพลังแม่เหล็กของพี่กระซวก
สตีล: แต่พี่ว่ามันต้องเจ็บถึงทรวงในแน่นอน
มาริเบล: ถอยไปนิปเปอร์! ให้ผู้หญิงก่อนสิยะ!
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: ฉันสู้อยู่นะเฟ้ย!
มาริเบล: ก็ฉันอยากสนุกบ้างเหมือนกันนี่นา
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: นั่นแหละ! ซัดมันซ้ำเลย!
“เจ็บ… ถอยไป”
[โ.อ.แ.ม็.ค. ท่านต้องตั้งสมาธิมองศัตรูให้ดี]
โอแม็ค: ตั้งสมาธิ… ไม่ได้
[ท่านต้องทำได้ ท่านคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของผม ท่านไร้เทียมทาน]
[ผมยอมรับไม่ได้ ถ้าท่านพ่ายแพ้เจ้าหน้าที่เช็คเมทเหล่านี้ ผมจะเอาหน้าหล่อ ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน]
สตีล: อย่าฝืนเลยน้อง กรงทองของพี่ขังน้องไว้แล้ว
[ท่านมีอะไรจะพูดตอบหรือไม่]
โอแม็ค: ข้า… พูด… ว่า…
“หุบปาก!”
..
โอแม็คสแมช!
[สแมชได้เหมือนเพื่อนตัวเขียวจากอีกค่ายมากครับ ดูเหมือนการรุกล้ำจิตใจของศาสตราจารย์อาเราส์และการโจมตีของเช็คเมทจะมีผลกระทบกับท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องหยาบคาย]
[อาจจะดีถ้าให้ท่านได้กลับบ้านและพักผ่อนเสียก่อน… ส่วนพวกเช็คเมท กระผมจะจับตาดูท่านไว้]
มาริเบล: ลูกพี่อยากโทรหาบอสมั้ย? หรือจะให้ฉันโทร?
สตีล: นี่เพิ่งยกแรกเองเฟ้ย คราวหน้าเจ้าปิศาจนั่นหนีเราไม่พ้นแน่
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: เฮ้ ลูกพี่ ยกเรื่องแค้นฝังหุ่นไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้เราต้องหาตัวนักโทษคนนั้น
ลิตเติ้ลนิปเปอร์: เฮ้ย พวกแก ใครเห็นไอ้สมองไหลตัวนั้นบ้าง?
ใจกลางเมือง อาเสี่ยที่ขับรถหรูพบหญิงสาวหน้าตาแฉล้มจิ้มลิ้มกำลังโบกรถ อาเสี่ยจึงแวะจอดรับ
อาเสี่ย: เฮ้ น้องสาว ขึ้นรถป๋าสิจ๊ะ
สาวน้อย: ป๋าขา รู้มั้ยหนูคิดอะไรอยู่?
สาวน้อย: จิตป๋าดูงุดเงี้ยวเหลือทน หนูว่าป๋าน่าจะไปนวดที่อาบอบนาบแทนจะดีกว่านะ… ทีนี้ออกมาซะ หนูจะใช้รถ
อาเสี่ยเหมือนถูกสะกดจิตเขาเดินออกมาโบกรถแทน
อาเสี่ย: ไปอาบ… อบ… นาบ…
ที่แท้หญิงสาวคนเมื่อครู่คือไซ-ไฟแมนนั่นเอง!
“ฉันต้องการเวลาวางแผน ต้องรู้ทุกอย่างเกียวกับบราเธอร์อายและสิ่งที่มันสร้างเสียก่อน”
…
“ทีนี้ โ.อ.แ.ม็.ค.ก็จะตกเป็นของฉัน!”
..
ตอนต่อไป:
BATTLE OF THE BIO-GATORS!
ไปอาบ… อบ… นาบ…
-..-
หัวยาวๆแบบนี้ไปไหนคงลำบากอ่ะนะ 555+
ไซไฟ แมน ไม่เท่เลยอ่ะ
โอแม็คเท่กว่าเอยะนะ
สนุกครับ สนุกกว่าสองสามเล่มแรกเยอะเลยอ่ะ 55+
สแมช ยังกับ เพื่อนตัวเขียว เฮ้ออ
แปลได้เด็ดมากๆครับ
เล่มนี้มันสนุกมากๆเลย ติดที่ตัวร้าย เช้ยเชยไปหน่อย 5555+
เหมือนเพือนตัวเขียวของพวกเรา
เรื่องการแปล..
ชักจะรู้สึกว่าหัวนี้มันกวน ๆ น่ะครับ บวกวิธีการใช้กรอบบรรยายเรื่องแบบคอมิคยุคเก่า ๆ เลยลองแปลให้อารมณ์มันหรรษาคลายเครียดดู หวังว่าจะชอบครับ 🙂
แปลฮามากๆครับ
ค่อนข้างถูกใจดีไซน์ของนายไซไฟแมนนะเนี่ย แบบว่ามันพิลึกได้ใจจริงๆ