BATMAN: THE DARK KNIGHT #2
เรื่อง : DAVID FINCH และ PAUL JENKINS
ภาพ : DAVID FINCH และ RICHARD FRIEND
วางจำหน่าย: 27 ตุลาคม 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
เมื่อแบทแมนจะเสียท่าแก่ทู-เฟซ!
..
แกไม่กลัวความเจ็บปวด แกไม่กลัวความตาย แต่แกอาจยังกลัวการมีชีวิตอยู่
สำหรับความเจ็บปวด แกไม่กลัวมัน
ถึงอย่างนั้นความเจ็บปวดก็ไม่ได้ลดลงอยู่ดี
DC COMICS PROUDLY PRESENTS:
BATMAN: THE DARK KNIGHT
In
A RUSH OF BLOOD
ทู-เฟซ: อา วันนี้ฉันได้รู้เรื่องหนึ่ง แบทแมน บางอย่างที่ฉันไม่เคยรู้ และฉันก็มีน้ำใจจะบอกให้แกฟัง
ทู-เฟซ: เพราะความกลัวนั่นแหละที่ทำให้เราหลงลืมการใช้ชีวิตที่แท้จริง
ทู-เฟซ: คิดว่ามันจะเป็นยังไงกัน เมื่อแกได้ละทิ้งสามัญสำนึกทั้งหมดที่ขัดขวางการกระทำของแกอยู่… เมื่อละทิ้งทุกความสงสัยในใจ แกก็จะถูกปลดปล่อยให้หลุดพ้นไงล่ะโว้ย แกอยากได้มั้ย?
ทู-เฟซ: มันถึงเวลาแล้ว แบทแมน เวลาที่คนทั้งโลกจะตาสว่างมาถึงแล้ว ตอนแรกอาจยังมีคนประเภทฉันไม่มาก แต่ความกล้าหาญอันแท้จริงนั้นจักแพร่ขยายออกไป
ทู-เฟซ: จะทนใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากและหวาดกลัวโดยที่ไม่ได้อะไรเลยไปทำไมเล่า? ดูฉันสิ ฉันได้รับประทานพรมา…
ทู-เฟซ: โอ้… ฉันมองเห็น…
ทู-เฟซพลันหมดสภาพล้มลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ..
บรู๊ซ: ตาปิดอยู่อย่างนี้ แกจะมองเห็นอะไรได้อีกล่ะหา เด็นท์?
กองบังคับการตำรวจกรุงก็อทแธม
กอร์ดอน: เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสามสิบเจ็ดนาย บาดเจ็บสาหัสเจ็ดนาย อีกสิบห้านายเสียชีวิต คุณเกือบเป็นคนที่สิบหก
บรู๊ซ: ก็แค่เกือบน่ะจิม
กอร์ดอน: ผมคิดว่าทู-เฟซคงเป็นร่างทดลองที่สมบูรณ์ จากคำให้การของผู้ป่วยรายอื่นบอกว่า พวกเขาได้รับการฉีดสารบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งร่างทดลองส่วนใหญ่ตายทั้งหมด คนที่เหลืออยู่ก็อยู่ในสภาพไม่สมประกอบ หนึ่งในพวกนั้นบอกว่าเขาเห็นกระต่ายขาว – White Rabbit เมื่อยาออกฤทธิ์
บรู๊ซ: กระต่ายขาว?
กอร์ดอน: เหมือนกับว่าคนที่ได้รับยาจะมองเห็นภาพหลอนนี้กันทุกคน
กอร์ดอนยื่นเข็มฉีดยาซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญส่งให้แบทแมน..
กอร์ดอน: เอานี่… เข็มฉีดยาพวกนี้เกลื่อนไปทั่วตัวอาคารเลย ดูท่าเจ้าของคงไม่คิดจะซ่อนมันเท่าไหร่ ทีนี้พอคุณตรวจสอบเสร็จแล้วช่วยส่งผลมาให้ผมรู้ด้วยก็แล้วกัน
บรู๊ซ: ว่าแต่มีใครพูดถึงผู้หญิงในชุดกระต่ายบ้างรึเปล่า?
กอร์ดอน: นี่คุณถามเล่น ๆ ใช่มั้ย ผมพูดตรง ๆ นะ ตอนนี้งานผมล้นมือ… มีผู้ป่วยสามคนที่สมองใช้การไม่ได้ แถมทนายของพวกชั่วยังตั้งเป้าเล่นงานเราอีกต่างหาก
“คนนที่ร่างกายสมประกอบพอจะให้ปากคำได้มีเพียงทู-เฟซคนเดียว แต่เขายังช็อคจากอาการเลือดไหลทางเบ้าตาจนพูดจาไม่เป็นภาษา”
กอร์ดอน: คิดในแง่ร้ายที่สุด อาจมีหมอสักคนในโรงพยาบาลอาร์คามคิดใช้คนไข้เป็นหนูลองยาในช่วงที่ผมดูแล…
บรู๊ซ: ไม่หรอก นี่เป็นฝีมือคนนอก ต้องมีใครสักคนลอบเข้าไปข้างใน
กอร์ดอน: คงงั้นแหละ… แต่ตอนนี้มีแต่คนจ้องจะเล่นงานผมเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบชีวิตการทำงานของผมรึเปล่า
กอร์ดอน: ฟอร์บสฺก็คนหนึ่งที่ไล่ต้อนผมเหมือนจระเข้ไล่งับหมาพุดเดิ้ล ที่ผมยังรักษาหัวโขนของตัวเองเอาไว้ได้ก็เพราะกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์นั้นล่าช้าราวกับเต่าคลาน เจ้าหน้าที่หลายคนที่ผมไว้ใจเริ่มมองข้ามหัวผมไปแล้ว ฟอร์บสฺก็หนึ่งในนั้นด้วย
กอร์ดอน: แต่ผมก็ยังโชคดีที่มีคนประหลาดแต่งกายด้วยชุดค้างคาวให้พึ่งพา คนที่พร้อมจะบุกน้ำลุยไฟไปทุกที่
กอร์ดอน: ตอนนี้ คุณเหมือนเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของผม
..
เช่นทุกครั้ง เมื่อกอร์ดอนหันกลับมา แบทแมนก็ไปเสียแล้ว
บรู๊ซ: อัลเฟร็ด รายงานสถานการณ์ที
อัลเฟร็ด: คุณหนูคงไม่แปลกใจถ้ารู้ว่าเราได้รับรายงานเรื่องวายร้ายโรคจิตโด๊ปยาเข้ามานับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมเมือง เรากำลังพยายามประสานงานกับหลาย ๆ ฝ่ายเช่นตำรวจ
บรู๊ซ: แล้วผมควรไปล่าตัวใครก่อน? สแกร์โครว? หรือว่าฮิวโก้ สแตรนจ์?
อัลเฟร็ด: โอ้ จะใครก็ไม่เกี่ยงขอรับคุณหนู! อย่างน้อยสำหรับกระผม งานตามล่าตัวฆาตกรโรคจิตมันก็สนุกสนานกว่างานอื่นอยู่แล้ว งานแบบนี้ทำให้กระผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาก
บรู๊ซ: แต่ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ปลุกคุณขึ้นมากลางดึกแบบนี้ ช่วยงานผมสักครู่แล้วเข้านอนเถอะ ผมใส่ตัวอย่างเซรั่มยาเข้าไปในฐานข้อมูลแล้ว ช่วยวิเคราะห์ให้ผมหน่อยนะ… แล้วก็เรื่องผู้หญิงปริศนาคนนั้นด้วย มีความคืบหน้าบ้างรึเปล่า?
อัลเฟร็ด: สาวน้อยกึ่งเปลือยสวมหูกระต่ายสินะครับ ในอินเตอร์เน็ตมีรูปคอสเพลย์ประมาณนี้มีเต็มเลยล่ะคุณหนูบรู๊ซ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะตรวจสอบทุกรูปอย่างละเอียดแน่นอน
อัลเฟร็ด: ผลวิเคราะห์เบื้องต้นบอกว่าตัวอย่างทางเคมีของเซรั่มตัวนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกับก๊าสแห่งความกลัวของสแกร์โครว์ เพราะฉะนั้นคงสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าสแกร์โครว์ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
บรู๊ซ: เริ่มได้เค้าแล้ว พอรู้มั้ยว่าตอนนี้มันกบดานอยู่ที่ไหน?
อัลเฟร็ด: เหมือนเขาจะอยู่ในอาร์คามพักหนึ่งก่อนหน้านี้
อัลเฟร็ด: เอาเป็นว่าเมื่อได้ผลตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว กระผมจะอัพโหลดกลับเข้าไปในแบทโมบิลแล้วกันนะครับคุณหนู ระหว่างนี้เรามาเคลียร์ตารางนัดของคุณหนูก่อนดีกว่า…
อัลเฟร็ด: นัดทานมื้อเที่ยงกับท่านสมาชิกสภาฯ?
บรู๊ซ: ปฏิเสธไป ฝากคำขอโทษไปให้เขาและภรรยาด้วย
อัลเฟร็ด: นัดชมการแข่งขันเบสบอล รอบที่ห้า?
บรู๊ซ: ยกเลิก พร้อมฝากขอบคุณเจ้าภาพ
อัลเฟร็ด: มื้อเย็นกับคุณไจน่า ฮัดสัน?
บรู๊ซ: ปฏิเสธ… ไม่ เดี๋ยวก่อน ผมไปดีกว่า ยังมีอะไรอีกมั้ย?
อัลเฟร็ด: นอกจากรอผลวิเคราะห์แล้ว กระผมเชื่อว่าเราไม่มีธุระอะไรให้สะสางแล้วล่ะครับคุณหนูบรู๊ซ
“… แต่ถ้าเหล่าพันธมิตรตัวน้อยของพวกเรามีความคืบหน้าอะไรแจ้งเข้ามา คุณหนูโปรดปลุกกระผมด้วยก็แล้วกัน”
ณ ธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงก็อทแธม
โรบิ้นคนปัจจุบันหรือเดเมี่ยน เวย์นถูกโยนทะลุกระจกออกมา
ตามมาด้วยร่างของไนท์วิงหรือดิ๊ก เกรย์สัน
“แกพังตุ๊กตาของฉัน”
ดิ๊ก: ทีนี้ พี่บึ้กคนนี้เป็นใคร แล้วเขาทำอะไรกับนักพากย์ตุ๊กตา – Ventriloquist ตัวจริงของเรา ขอฟังความเห็นนายหน่อยสิ
เดเมี่ยน: น่าขำดีนะ… เพราะข้ากำลังจะพูดประโยคนั้นกับเจ้าอยู่พอดี
เวนทริลโลควิสต์: เด็กดื้อพวกนี้พังตุ๊กตาของฉัน ฉันควรทำยังไงกับพวกเขาดีน้า?
เว็นทริลโลควิสต์ใช้วิชาพากย์ตุ๊กตาบังคับให้ศพพูด
เวนทริลโลควิสต์: “ฉีกมันเป็นชิ้น ๆ เลยสิครับท่าน”
เวนทริลโลควิสต์: ช่าย ๆ เราจะฉีกมันเป็นชิ้น ๆ แล้วจากนั้นทำไงต่อดีล่ะ?
เวนทริลโลควิสต์: “เราก็แขวนมันไว้บนผนัง เอาเลือดมันทาวอลเปเปอร์แทนสีแดง”
เดเมี่ยน: โอย ข้าว่าเราต้องเรียกกองหนุนด่วนเลย
ย่านเดอะ แนร์โร่ว์ส
แบทเกิร์ลกำลังรับมือกับวิคเตอร์ ซาซที่กำลังอาละวาด
ซาซ: ดูเซ่แบทเกิร์ล! ฉันกรีดแขนตัวเองแล้ว… ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮี่ฮี่ เธอต้องตายแหง ๆ เลยว่ะ
บาร์บ: โอย อยากจะบ้า
ตรอกไครม์ อัลเลย์
คานารี่, สตาร์ลิ่งและคาตานะ สามสาวแห่งเบิร์ดส ออฟ เพรย์กำลังรับมือกับราชานาฬิกา – Clock King
คานารี่: คาตานะ! โอบกระหนาบทางซ้าย! ส่วนฉันกับสตาร์ลิ่งจะลุยเข้าไปตรง ๆ
คาตานะ: แค่นั้นเหรอคานารี่? เรามีแผนแค่นี่เองเหรอ?
คานารี่: เธอมีที่ดีกว่านี้มั้ยล่ะ?
จตุรัสเดวิล’ส์ สแควร์
แบทวูแมนกำลังเผชิญหน้ากับคาวาเลียร์ – Cavalier
คาวาเลียร์: ข้าพเจ้าโดนแบทวูแมนต่อยเข้าเต็มรักเลยเว้ยเฮ้ย!
“โลกใบนี้กำลังเป็นบ้าอะไรกันไปหมด?”
ณ โรงพยาบาลก็อทแธม…
บรู๊ซ: แกพล่ามเรื่องอิสระภาพและการปลดปล่อยเสียยืดยาว สุดท้ายแกก็ต้องมานอนบนเตียงใบเดิมของแก ฮาร์วี่ย์
บรู๊ซ: จะเจ็บตัวหรือไม่มันขึ้นอยู่กับแกแล้ว ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่อาร์คาม ใครกันที่ให้ยาผู้ป่วยกว่าสามร้อยคนข้างใน แล้วผู้หญิงลึกลับคนนั้นเกี่ยวข้องยังไง?
ทู-เฟซ: อ้าว แกก็เห็นภาพหลอนเหรอเนี่ย… เฮ้ เฮ้ เฮ้ แกคงโหมงานมากไปล่ะสิท่า… แต่โด๊ปยามันไม่ดีเลยน้า รู้รึเปล่าว่ายานั่นมันทำลายสมองของแกได้นะโว้ย
บรู๊ซ: อย่ามาเล่นเกมกับฉัน! บอกมาว่าใครเป็นตัวการ?
ทู-เฟซ: เฮอะ แกคิดว่าแกเป็นยอดนักสืบแต่แกกลับไม่รู้อะไรสักอย่าง
บรู๊ซ: ฉันจะบอกให้แกรู้ไว้นะ ยาที่แกได้รับมันจะทำให้แกลงแดง แต่แน่นอนว่าฉันจะกวาดล้างยาพวกนั้นให้หมดไป ทีนี้อาการอยากยาของแกก็จะเลวร้ายลงกว่าเดิม อิสระภาพกับพละกำลังที่แกถวิลหาน่ะ… แกจะไม่มีวัน ไม่มีวันได้มันอีก
แล้วมนุษย์ค้างคาวของเราก็จากไป…
อัลเฟร็ด: เรื่องนี้คุณหนูต้องชอบแน่ ๆ
อัลเฟร็ด: เมื่อสักเจ็ดนาทีที่แล้วมีข่าวเข้ามาว่าโจ๊กเกอร์บุกยึดรถไฟขบวนที่กำลังมุ่งเหนือออกจากก็อทแธม
บรู๊ซ: โจ๊กเกอร์กลับมาแล้วเหรอ? แจ้งกรมตำรวจก็อทแธมด้วยว่าผมกำลังไป
อัลเฟร็ด: รับทราบครับ อย่างนั้นกระผมจะส่งสัญญาณผ่านช่องทางปกติ… สำหรับผลวิเคราะห์ตัวยาอย่างละเอียดนั้นตรงกับสมมติฐานขั้นต้นที่เราวิเคราะห์เอาไว้ ยาตัวนี้มีฤทธิ์แยกความกลัวออกจากประสาทรับรู้ของมนุษย์
อัลเฟร็ด: แต่มันมีผลข้างเคียง… ร่างกายมนุษย์นั้นไม่สามารถรับได้ มันจะทำให้ผู้เสพย์ทั้งหลายมีเลือดทะลักออกมาทางเบ้าตาและจมูก
อัลเฟร็ด: แต่กระผมค่อนข้างเชื่อว่าพวกเขาไม่ค่อยกังวลเรื่องผลข้างเคียงกันสักเท่าไหร่ เพราะปกติพวกเขาก็โดนคุณหนูทำให้เลือดตกยางออกเป็นประจำอยู่แล้ว
บนรถไฟขบวนที่ตัวตลกบุกปล้น มนุษย์ค้างคาวจัดการตัวตลกกีกี้ภายในพริบตา
ลูกสมุนตัวตลกคนหนึ่งถือปืนขู่แบทแมน แต่มันไม่ได้ระวังข้างหลัง… ผลก็คือมันเละไม่มีชิ้นดี!
มนุษย์ค้างคาวปีนเข้ามาทางหน้าต่าง..
บรู๊ซ: อัลเฟร็ด ผมอยู่ข้างในแล้ว ดูเหมือนโจ๊กเกอร์จะสังหารลูกน้องของตัวเองด้วย… แต่เพราะอะไรกัน แบบนี้มันผิดวิสัยเกินไป
“แล้วเมื่อไหร่ถึงจะถูกวิสัยกันหนอ มนุษย์ค้างคาว”
“คงเป็นตอนจบเมื่อสิ่งที่คุณรู้วกกลับมาทำร้ายคุณจนเละสินะ”
..
กระต่ายขาวปรากฏตัว!
“เรื่องจะเร็วขึ้นถ้าคุณตามฉันมา”
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!”
..
แต่เจ๊กระต่ายคงคิดว่า หยุดให้โง่เรอะ?
ไวท์แร็บบิท: ต้องไวอีกนิดนะจ๊ะ พ่อค้างคาว
บรู๊ซ: เดี๋ยวก่อน! เรามีเรื่องต้องคุยกัน!
ทันใดนั้นเสียงอันคุ้นหูก็ดังออกมาจากตู้ท้ายขบวน!
..
“ฮาจริง ๆ เลยให้ตาย! ทำไมถึงมีตัวตลกสวมชุดค้างคาวมาเข้าฉากด้วยล่ะฟร้า!”
“แย่หน่อยนะลูกเพ่ แกดันมาตอนที่ฉันกำลังจะเบิกโรงพอดีเลยว่ะ!”
..
“รอให้ผู้ชมนั่งกันเรียบร้อยก่อนสิเฟร้ย!”
..
เมื่อบร๊ะเจ้าโจ๊กโด๊ปยา!
ตอนต่อไป:
CATCH ME IF YOU CAN
..
คุยกันท้ายเล่ม
เล่มนี้กลายเป็นเล่มที่รวมญาติตระกูลค้างคาวไปเสียอย่างนั้น ตัวละครในซีรี่ย์โผล่มากันพรึ่บ ทั้งดิ๊กกับเมี่ยน, บาร์บ, เคท และสาว ๆ เบิร์ด ออฟ เพรย์ (เสียดายขาดทิมไปอีกคน :D) รวมถึงเหล่าร้ายชั้นรองอย่างซาซผู้ที่ฆ่าหนึ่งคนต้องกรีดตัวเองหนึ่งแผล, คล็อคคิง, คาวาเลียร์ และโจ๊กเกอร์ที่มาโด๊ปยากับเขาด้วย
ผมแอบชอบฉากที่แบทแมนคุยกับจิม ชอบสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูผูกพันกันดี
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ยังไงก็ชอบให้เดเมี่ยนคู่กับดิคจริงๆนั่นแหละ ตั้งทีม Nightwing & Robin ขึ้นมาท่าจะเหมาะแฮะ
โจ๊กเกอร์ กลายเป็น The Hulk ไปซะแล้ว T T
โจ๊กเกอร์อย่างกับในเกมตอนโด๊ปยาไททั่นเลย
ถ้าต้องติดเชื้อบ้านี่จากคุณน้องกระต่ายขาวผมก็ยอมแหละ 555+
Joker พลัง K กล้ามเนื้อบนในหน้ายังกลับเรื่อง บากิ *-*
Quin ไปอยู่กับ Suicide Squad ไปแล้ว โจ๊กเกอร์เลยมีสมุนสาวคนใหม่
กะต่ายขาวน่ารักเกิน 555+
ไปไปมา สู้กับโจ๊กเกอร์ สองหัวเลยแฮะ
กอร์ดอนนี่ไม่เคยเคืองแบทแมนเลยหรอครับ
ชอบปล่อยให้พูดคนเดียวหันกลับไปก็หายไปแล้ว 55 5
สงสัยเฮียแกจะชินแล้ว
บอกตรงๆป๋าโจ๊กเป็นคนเดียวที่ผมไ่อยากให้โด๊ปครับ
เพราะความน่ากลัวของโจ๊กเกอรืเหมือนป๋าแบท คือไม่เสริมอะไรเลย แต่น่ากลัวชิปเป๋ง
โจ๊กเกอร์ตอนไหนมาก่อนนิ งง เห็นอีกตอนก็ลอกหน้าออก
ใช้ยาของ Bane หรือป่าวน้า??
โจ๊กเกอร์ไปอ่นวิถีแห่งเฮอร์คิวลิส ของลูเธอร์ สโตรดมา 5555555555555
เจ้าพวกนี้ใช้ยา first hulk ใน ultimate marvel กันชัวร์ๆ แบบนิค ฟิวรี่ไง ฉีดแล้วเหมือนกันเปี๊ยบ
กระต่ายขาว โอ้ ๆๆ O_o
โจ้กเกอร์ใช้น้ำยา Titan ปะเนี้ยทำไมตัวใหญ่จัง
กรี๊ดดดดดดดด น้องกระต่ายน่ารักอ่าาาาาา
เห็นแล้วอยากเอากลับบ้านมาให้โด๊ปยาทั้งวันเลย ตายก็ยอมมมม
แต่อยากจะบอกว่าโจ๊กเกอร์โด๊ปยาเหมือนในเกมส์เลย เหอๆๆ
ไล่ตามกระต่ายขาว แล้วจะเจอแม๊ดแฮตเตอร์หรือเปล่า ?
ขาดพ่อ red hood ด้วยนะเนี่ย