DC Comic : The Flash 02 : Think Fast!
เรื่อง : Francis Manapul, Brian Buccellato
ภาพ : Francis Manapul, Brian Buccellato
วางจำหน่าย: 26 ตุลาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
Barry Allen ต้องเข้าไปพัวพันกับคดีประหลาดที่เกี่ยวข้องกับ Manuel Largo เพื่อนเก่าของเขา โดยในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ได้รับคำแนะนำที่อาจช่วยให้เขาพัฒนาความสามารถของเขาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง แต่มันจะเพียงพอหรือไม่?
.
.
.
ต่อจากตอนที่แล้ว
The Flash (Barry Allen) กำลังสืบสวนคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ Manuel เพื่อนเก่าของเขา แต่เมื่อเขาพบกับ Manuel กลับต้องพบว่าเพื่อนของเขากำลังถูกกลุ่มคนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนไล่ล่า
The Flash : นี่มันน่าสนใจดีนี่ ฉันให้เวลาพวกนายสามวินาทีในการจะปล่อยเขาซะ
พวกกลุ่มคนหน้าเหมือน Manuel คิดจะเล่นงานทีเผลอ แต่ก็ไม่อาจแม้แต่จะสัมผัสร่างของชายผู้เร็วที่สุดในโลกได้เลยด้วยซ้ำ
เพียงสองวินาที The Flash ก็จัดการไปได้เกือบสิบคนอย่างสบายๆ
และใช้อีกหนึ่งวินาทีต่อมาจัดการไปได้อีกสิบคน ก่อนจะเข้าไปถึงตัวคนที่ล็อคคอ Manuel อยู่
The Flash : ฉันจะไม่ถามซ้ำสองนะ
Clone1 : โหวว นั่นมันเร็วสุดๆเลยนะ แต่ถึงนายจะเร็วขนาดไหนก็ตาม นายก็ไม่สามารถไปอยู่ทุกที่ในเวลาเดียวกันได้ แต่…
Clone2 : พวกเรานั้นทำได้
Clone3 : เพราะงั้นจงฟังเราให้ดี…
Clone1 : นายรู้จักเจ้าโง่ที่ตกน้ำไปเมื่อกี้ไหมล่ะ?
(หมายถึงตัว Barry เอง ที่แกล้งตกลงไปในน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด)
Clone4 : เราได้ตัวเพื่อนผู้หญิงของหมอนั่นไว้แล้ว
The Flash : ไอริส เวส งั้นหรือ?
Clone5 : ใช่ และในเมื่อนายดูจะชอบนับเลข…
Clone5 : จงยืนอยู่เฉยๆแล้วนับหนึ่งถึงพันไปซะ
Clone2 : และนับช้าๆด้วยล่ะพ่อหนุ่มชุดแดง
Clone3 : เมื่อพวกเราไปไกลพอแล้วเราจะโทรมาหานายเอง
Clone4 : แล้วแม่คนสวยนั่นก็จะปลอดภัย
Clone1 : แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง จงลืมเรื่องของพวกเราไปซะ และเจ้ามานูเอล ลาร์โก้นี่ก็ไม่คุ้มให้นายต้องมาลำบากช่วยมันหรอก
Clone1 : ให้พวกเรา “ม็อบรูล” จัดการเรื่องหมอนี่เอง
หลังจากนับถึงพันเรียบร้อย The Flash ก็ยืนมองโทรศัพท์มือถือที่พวก Mob Rule ให้ไว้
และหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่มันก็ดังขึ้นจนได้
เป็น Iris นั่นเอง
เมื่อเธอบอกว่าเธออยู่ที่ไหน The Flash ก็รีบวิ่งไปตรวจดูเธอ และเมื่อเขาแน่ใจว่าเธอปลอดภัยแล้ว เขาก็รีบไปต่อทันที
หลังจากนั้น The Flash ก็มาอยู่ในห้องทดลองของเพื่อนของเขา Dr.Elias
ซึ่งเขาต้องการให้ The Flash ทดลองวิ่งบนสายพานเพื่อให้เขาสามารถตรวจสอบร่างกายของ The Flash ยามใช้พลังความเร็วสูง
และเมื่อ The Flash วิ่งบนรางวิ่งเพียงไม่กี่อึดใจ รางวิ่งก็ระเบิดเป็นเสี่ยงๆเพราะไม่อาจทนต่อความเร็วที่ The Flash ใช้ได้
The Flash : ผมบอกแล้วไง ว่าคุณต้องหาอะไหล่มาซ่อมมันแน่ๆ
Dr.Elias : สามวินาทีก็เกินพอแล้วล่ะ
Dr.Elias : จากข้อมูลดิบที่ได้มา ร่างกายของคุณดึงพลังงานมาจาก “แหล่งพลังงาน” บางอย่างนะ
The Flash : ผมเรียกมันว่า “สปีดฟอร์ซ” น่ะ
Dr.Elias : ร่างกายของคุณสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เกินกว่าที่เครื่องมือของเราจะวัดได้
The Flash : นั่นหมายความว่าคุณช่วยให้ผมเร็วขึ้นกว่านี้ไม่ได้สินะ?
Dr.Elias : ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ดูผลการสแกนสมองของคุณนี่ก่อนนะ…ในขณะที่ร่างกายของคุณใช้พลังงานที่คุณได้รับมาอย่างเต็มที่ แต่สมองคุณกลับใช้พลังของสปีดฟอร์ซเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
The Flash : คุณกำลังบอกว่าผมยังคิดไม่เร็วพองั้นรึ?
Dr.Elias : ใช่แล้ว…คุณจะต้องเรียนรู้วิธีที่จะให้สมองของคุณสามารถดึงพลังจากสปีดฟอร์ซมาใช้ได้ให้เหมือนกับส่วนอื่นๆของร่างกายคุณ
Dr.Elias : คุณเคยได้ยินเรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้” ไหมล่ะ?
Dr.Elias : มันเป็นศาสตร์ทางระบบประสาทที่ว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการรับรู้ของสมองมนุษย์
Dr.Elias : ถ้าคุณใช้พลังของสปีดฟอร์ซ คุณจะสามารถขจัดปัญหาการประมวลผลข้อมูลที่เกิดจากขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ได้
Dr.Elias : ด้วยการเพิ่มประสาทการรับรู้นี้ คุณจะไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป คุณเพียงต้องหาวิธีที่จะทำให้มันทำงานขึ้นมาให้ได้
วันต่อมา
ขณะที่ Barry กำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่ Dr.Elias บอกเขา Patty Spivot เพื่อนร่วมงานและแฟนสาวของเขาก็มาบอกเขาว่า ผลการชันสูตรของ Manuel คนที่ตายนั้นมาจากการที่ “เซลเสื่อมสภาพ” และเกิดความคิดว่าคนที่ตายนั่นอาจจะเป็นมนุษย์โคลนนิ่ง
แต่ทันใดนั้นขณะที่ Barry กำลังฟังที่ Patty พูดอยู่ เขาก็รู้สึกว่าการรับรู้ของเขาแปลกไปจากเดิม
“นี่มัน…ประหลาด”
“สมองของฉันกำลังประมวลผลข้อมูลทุกอย่างรอบตัวฉันพร้อมๆกัน”
“ฉัน…กำลังคิดได้เร็วขึ้น”
เมื่อเขาหลุดจากภวังค์ Barry ก็บอก Patty ว่าเขามีนัดกับ Iris และต้องขอตัวก่อน
แต่ก่อนไปเขาก็บอก Patty ให้มองด้านบน ซึ่งเมื่อเธอมองขึ้นไปก็เห็นกลีบดอกไม้กำลังลอยลงมาหาเธอ
Barry มาพบกับ Iris ซึ่งเธอต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ The Flash แต่ Barry ก็ทำเนียนบ่ายเบี่ยงไปได้
แต่ทันใดนั้นเอง ความรู้สึกแบบเดียวกับก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
เขามองเห็น, ได้ยิน, รับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว อีกทั้งยังสามารถคิดคำนวณสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลที่จะตามมาถ้าเขาเข้าไปเกี่ยวข้อง และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วเสี้ยววินาทีเท่านั้น!!
“ยอดเยี่ยมจริงๆ”
“ฉันสามารถเห็นทุกอย่างก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียอีก”
“ฉันสามารถคิดคำนวณทุกๆผลอาจเกิดขึ้นมาได้ทั้งหมด”
“ฉันสามารถเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดได้”
“และฉันก็สามารถทำมันได้…ก่อนที่ใครจะรู้ตัวเสียอีก”
ในเสี้ยววินาทีนั้น Barry ดึงแอ๊ปเปิ้ลออกจากกองมา 1 ผล และทำให้มันตกลงมาขวางทางโจรปล้นร้านสะดวกซื้อ ทำให้มันล้มหงายท้องและโดนจับได้ ส่วนคู่หูของมันที่จะขับรถหนีก็โดนเอาตะขอจากรถลากเกี่ยวเอาไว้
ขณะที่รถของโจรกำลังลอยละลิ่วมา คนเดินถนนคนหนึ่งก็เหลือบไปเห็นแบงค์ที่ “บังเอิญ” ตกอยู่และก้มลงเก็บ ซึ่งก็ทำให้เขารอดจากการโดนรถที่ปลิวมาชนได้พอดิบพอดี ส่วนรถของโจรก็พุ่งเข้าไปในกระบะรถบรรทุกที่โดนตำรวจเรียกพอดิบพอดี
จากข้อมูลที่ได้จาก Iris ทำให้ Barry รู้ว่า Manuel เป็นอดีตสายลับที่ทำงานให้กับ CIA และตามข้อมูลอย่างเป็นทางการนั้นเขา “เสียชีวิตในหน้าที่” ไปเมื่อ 16 เดือนก่อน และเธอก็ได้สำเนาของพาสปอร์ตของ Manuel มาด้วย ซึ่ง Barry ก็จะใช้มันเป็นเบาะแสตั้งต้นของการสืบสวน
“พาสปอร์ตของมานูเอลเป็นจุดเรื่มต้นที่ดี”
“มันไม่น่าจะใช้เวลามากนัก”
“ที่ฉันต้องทำก็คือหาช่องโหว่ให้พบ”
“เพราะถ้าหาเจอก็จะสามารถเจาะให้ทุกอย่างเปิดเผยออกมาได้”
“แค่เบาะแสเล็กๆ ก็จะทำให้ฉันหาสิ่งที่ต้องการได้…”
เขาไปยังสถานที่แห่งสุดท้ายที่ Passport ของ Manuel ระบุไว้ว่าเป็นที่สุดท้ายที่มีการยืนยันว่าเขาอยู่ที่นั่น
ที่ฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งหนึ่งในชนบท
เจ้าของฟาร์ม : แล้วนี่คุณมองหาอะไรอยู่ล่ะ?
The Flash : ก็ไม่ใช่เรื่องนี้น่ะนะ
The Flash : ผมได้ยินมาว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ฝึกสอนของทหารมาก่อน
เจ้าของฟาร์ม : ก็เมื่อหลายปีก่อนน่ะ แล้วพวก CIA ก็พังมันทิ้งลง เก็บของทั้งหมดกลับไปด้วย ยกเว้นแต่หมูพวกนี้น่ะนะ
The Flash : หมูงั้นหรือ?
แล้วเขาก็นึกถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายของเขากับ Manuel
Manuel : ที่นี่มีแต่กลิ่นอุจจาระหมูหึ่งไปหมดเลยล่ะแบรี่
Barry : ฉันก็เข้าใจว่ามันไม่น่าโสภาเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่นายจะลาออกนี่นา มันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าน่ะ?
สิ่งที่ Barry ที่คุยโทรศัพท์อยู่ไม่มีทางรู้ได้คือ Manuel นั้นมือขาดไปข้างหนึ่ง แถมแผลยังมีเลือดซึมอยู่เลย?!
แต่เขาก็ยังไม่อยากจะบอกเรื่องนี้ให้ Barry รู้
Manuel : มะ…ไม่มีอะไรหรอกเพื่อน ฉันแค่ไม่อยากจะทำมันอีกต่อไปแล้ว
Barry : นี่แมนนี่ นายจะเอาแต่หนีไม่ได้นะ…
Manuel : นี่ ตกลงนายจะมารับฉันได้หรือเปล่าน่ะ?!
Barry : แน่นอนสิ ไหนนายบอกหน่อยสิว่านายอยู่ไหน
แต่ Manuel ก็ไม่มีโอกาสได้บอก Barry เพราะเขาโดนทหารกลุ่มหนึ่งอุ้มขึ้นรถไปเสียแล้ว…
Barry : มานูเอล? มานูเอล??
ตัดมาที่ปัจจุบัน
Manuel ถูกพวกโคลนของเขาจับมานั่งไว้บนอุปกรณ์บางอย่าง
Clone1 : บ้าเอ๊ย มานูเอล! พวกเรากำลังจะตายกันหมดนะ!
Clone2 : และนายก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น!
Clone3 : ทำไมนายถึงโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้?
Clone4 : นายไม่เข้าใจหรือไง?! นายคือทางแก้ของปัญหาที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่!
Clone1 : ว่าไปแล้วก็ แค่บางส่วนของนายน่ะนะ…
แล้ว Clone ก็หันไปหานักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ข้างๆ
Clone1 : ใช่ไหมล่ะ ดอกเตอร์เกอร์เรโร่?
ในคืนนั้น คนในเมือง Central City ต่างก็ทำสิ่งต่างๆกันไป
Iris West กำลังไปที่เรือนจำ Iron Heights เพื่อสัมภาษณ์นักโทษคนหนึ่ง
Patty Spivot กำลังทำงานคดีของ Manuel ในห้องแล็ป
Dr.Elias กำลังวิเคราะห์ข้อมูลของ The Flash อยู่ในห้องทดลองของเขา และดูเหมือนเขากำลังค้นพบอะไรบางอย่าง
และที่บนสะพาน Gem City
The Flash กำลังวิ่งกลับเข้าไปในเมืองพร้อมกับครุ่นคิดสิ่งที่เกิดขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม”
“โคลน”
“พลังการฟื้นตัวเหนือมนุษย์”
“การตายที่หาสาเหตุไม่ได้”
“แล้วก็…หมูงั้นหรือ?”
“มันต้องมีความเกี่ยวโยงกันอยู่แน่ๆ”
ในตอนนั้นเองพวก Clone ก็สั่งให้ Dr.Guerrero กดปุ่มดำเนินการ
ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีเขียวส่องสว่างวาบขึ้นบนฟ้าเหนือเมือง และมันก็ทำให้เกิดไฟฟ้าดับทั้งเมือง!
ส่วน The Flash ที่กำลังอยู่บนสะพานก็ต้องพบกับสถานการณ์เลวร้ายสุดๆขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อเขาเห็นว่าเครื่องบินที่บินอยู่บนฟ้ากำลังร่วงลงมา!!!!
ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกอย่างกะทันหัน
ถึง The Flash จะมีพลังความเร็วสูง แต่เขาก็มีพละกำลังเพียงเท่าๆกับคนทั่วไป แถมเขาก็บินไม่ได้อีกด้วย! แล้วเขาจะหยุดเครื่องบินที่กำลังร่วงลงมาได้อย่างไร?!?!?!
โปรดติดตามตอนต่อไป
ผมนึกถึงเรื่อง วันพีซ ที่ คิซารุ ตัวละครที่กินผลแสงเข้าไป มีคนให้ความเห้นว่าถ้าสามารถใช้คิดโดยใช้ความเร็วแสงได้จะเมพมาก เมื่อ Flash ปลดล็อคพลังใหม่ได้ ผมว่าน่าสนใจมากว่ามันจะพัฒนาความสามารถได้ไปถึงไหน
งานเข้าแล้ว แฟลช์ เอย
แต่่ความคิดรวดเร็วนี่ ใช่ได้เลย
ชอบฉากที่แฟลชคำนวนทุกอย่าง วิ่งไปทำ แล้วกลับมายืนกินแอ๊ปเปิ้ลข้าง ๆ ไอริสในพริบตามาก ๆ เลยครับ
อยากเห็นเวลาเอาไปใช้ในการต่อสู้จัง 😀
ติดตามๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พลังใหม่เมพสุดๆไปเลยครับ
อ่านจบเล่มนี้สำหรับผมแฟลชน่าติดตามขึ้นเลยแฮะ
แต่ทำไมอยู่ๆถึงได้เกิดการรับรู้และคิดได้เร็วแบบนี้ละคับ ทั้งที่ก่อนหน้ายังทำไม่ได้เลย
@jochobo ผมก็อ่านวัน พีซครับ
ถามผม ในฐานะ ซูเปอร์ แฟนฟิค ทุกเรื่องในจักรวาลเลย คิซารุความสามารถเน้นทำลายมากไปครับ
ไม่บังอาจะสร้างสรรค์ได้ยังแฟลช
แม้สู้ตรง ตรงแฟลชอาจะแพ้ แต่ถ้าสู้ด้วยสภาพแวดล้อมรอบข้าง ชนะครับผม
** ลองดึงคิซารุจากโลกวัน พีซมาสู้ในเมืองปัจจุบันสิครับ ** ขนาดแมลงดักฟัง คิซารุ บอลซาลีโน่ ยังงงเลย
ถ้ามาเจอเมืองที่มีเทคโนโลยีแบบใหม่อาจจะงง มากมายก็ได้ครับ)
สังหรฯ์ว่า เล่มหน้า พลิกล็อกเยอะอ่ะครับผม
ฮีโร่ในดวงใจ เมพขึ้นอีก 1 ขั้นแล้ว!!!
@seventoon คิดเหมือนกันเลยคับ พี่แกเน้นทำลายอย่างโหดเลย แต่ผมว่าเรื่องวันพีซพวกโรเกียมันโกงมาก มาเจอเรื่องไหน ผมว่าโรเกียก็ชนะ เพราะเรื่องอื่นไม่รู้จักฮาคิ หรือนอกจากจะเป็นพลังที่แพ้ทางกัน 5555+
ฉากคํานวณทุกอย่างแล้วเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดเท่มากกกกก…
ที่หมอเขาบอกตอนแรกคือแกมันโง่นี่เอง 😀
สปีดฟอร์ซนี่ประโยชน์เยอะจริงๆ เอาไปใช้ได้แทบทุกแบบเลย อีกซักพักคงเอาไปปั่นน้ำผลไม้ 555+
เอาเรื่องจากมังงะ มา รวมกับ คอมมิค เถียง หรือเอาเหตุผลมาเป็น ล้าน ก็ไม่จบหรอกครับ
อย่าไปคิดให้ผวดหัวเลย
แต่ความสามารถใหม่ นี่สุดยอดจริงๆเลย
อย่างงี้สมองมันจะไม่พังเอาหรอ ??
ปล. เสี้ยววินาที โทรเรียกพี่ซุป !! o_O
อ้าว ผมนึกว่าแฟลชทำแบบนี้ได้ตั้งแต่จักรวาลเก่าแล้วซะอีก เห็นอ่านหนังสือจบได้เร็วมาก
นายคิดได้เร็วมากเลย
ชอบลายสายฟ้าบนชุดใหม่มากเลยเท่ดี พลังใหม่เหมือนในซีรี่ย์เรื่อง Alphas เลยครับที่สามารถคำนวณเหตุการณ์ล่วงหน้าได้
เอาล่ะว้า ตอนหน้าแฟลชจะกู้เครื่องบินยังไง !!
ถ้าใช้ความเร็วแสงดันเครื่องบินรัวรัว ค่อยค่อยเพิ่มแรงเข้าไป มันจะหยุดเครื่องบินได้มั้ยคับ
ผมว่าพลังใหม่ มากับเล่มหน้าแน่นอน หยุดเครื่องบิน ยังไงรอดู
อ่านตอนแรกกะจะมาโพสว่า สมองพลังแสงนี้เมพมากกกก
แต่พอมาเจอตอนท้ายนี่ งงเลยว่าจะทำไงเนี่ย จะกระโดดไปรับเครื่องบินได้ทันเรอะ