THE FURY OF FIRESTORM: THE NUCLEAR MEN #2
เรื่อง : ETHAN VAN SCIVER และ GAIL SIMONE
ภาพ : YILDIRAY CINAR
วางจำหน่าย: 27 ตุลาคม 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ฟิวรี่อาละวาด!
..
“เจสัน? รอนนี่?”
ทอนย่า วิ่งเข้ามาหาสิ่งมีชีวิตร่างมหึมาตรงหน้า
แต่เมื่อทอนย่าสัมผัสร่างของปิศาจร้าย ทันใดนั้นเธอก็มองเห็นภาพนิมิตประหลาด
เธอมองเห็นเขม่าควันฟุ้งอยู่รอบกาย พื้นดินปกคลุมไปด้วยหิมะ และบนท้องฟ้า พระจันทร์ถูกประทับตราสัญลักษณ์ของไฟร์สตอร์มเอาไว้!
..
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“หนีไป… ถ้ายังไม่อยากเกรียม”
สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าฟิวรี่เดินผ่านเธอไปอย่างไม่ไยดี
ทอนย่า: ทำไมถึงหนาวอย่างนี้นะ พวกฆาตกร พวกมันยังอยู่ในโรงเรียน! นายจะเข้าไปไม่ได้
ทอนย่า: ฉันจะทำยังไงดี?
“ก็หาที่ซ่อนซะเซ่”
คลิฟฟอร์ด: ด้วยความเคารพนะไซเธอร์ ตอนนี้มีไฟร์สตอร์มใหม่สดซิงสองตัวล้อมกรอบเราอยู่ เราติดอยู่ในเขตอันตราย และต้องการให้พวกไฮยีน่ามาช่วยด่วนเลย
ไซเธอร์: เจ้าหน้าที่คาร์ไมเคิล คุณหมายถึงมีไฟร์สตอร์ม…
คลิฟฟอร์ด: สองตัวไงล่ะโว้ย สองตัว! แถมยังมีอะไรบางอย่าง…
คลิฟฟอร์ด: อะไรบางอย่างอีกตัวหนึ่ง
แม็คดรูรี่: หัวหน้า เราเอาตัวดร.ฟอร์เทียร์ขึ้นมาได้แล้วแต่เธอ… เธอสาหัสเอาการ เธอต้องไปโรงพยาบาลนะคลิฟ เกเบรียลพาเธอไปที่รถแล้ว
คลิฟฟอร์ด: จัดการพวกที่อยู่ในตึกรึยัง?
แม็คดรูรี่: เรียบร้อยแล้ว เราเก็บภารโรงสองคนแล้วก็ครูสอนศิลปะ… เธอกำลังตกแต่งโคมกระดาษอยู่ นายต้องไม่เชื่อแน่ เพราะรูปร่างมันตลกมาก ๆ เลย
คลิฟฟอร์ด: เจ้าหน้าที่แม็คดรูรี่ อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ไม่อย่างนั้นปืนฉันได้ลั่นใส่นายแน่ เข้าใจมั้ย?
คลิฟฟอร์ด: แกต้องทำตามคำสั่งนะ เราต้องออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย ทำได้มั้ยทหาร? ทำได้รึเปล่า? ออกไปก่อนที่เจ้าปฏิกรณ์นิวเคีลยร์เดินได้จะเห็นเรา
“ซวยล่ะสิ มันเห็นเราแล้ว”
“วิ่ง! วิ่งงง!”
“ช่าย วิ่งเลยน้อง”
..
ขณะเดียวกันภายในตัวฟิวรี่ รอนนี่ก็ฟื้นมาพบกับเจสัน
เจสัน: เฮ้ย ไอ้บื้อ ตื่นได้แล้ว
รอนนี่: ฉันขอบอกนะเพื่อน แกควรเรียกฉันว่า… นี่เราอยู่ในนรกขุมไหนกันวะเนี่ย?
เจสัน: คงเป็นสักขุมนั่นแหละ… เลิกพล่ามแล้วรีบลุกขึ้นเถอะ ใช้ความสามารถด้านกีฬาให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ ตอนนี้ฉันมีข่าวร้ายจะบอก โลกถึงกาลอวสานแล้ว
…
ที่ข้างนอกนั้น คลิฟฟอร์ดกับแม็คดรูรี่กำลังเผชิญหน้ากับฟิวรี่
แม็คดรูรี่: คิดว่าข้ากลัวรึไง? ข้ามาจากเบลฟาสท์ไอ้ปิศาจ! คิดว่าข้ากลัวเรอะ?
คลิฟฟอร์ด: โทเบียส! ไม่นะ!
เก๋านักใช่มั้ย ฟิวรี่จัดให้!
..
“อพยพด่วนโว้ย!”
เจสัน: ฉันคิดว่าเราอยู่ในสนามพลังควอนตั้ม เรย์มอนด์ เราติดอยู่ใน… ในตัวอะไรสักอย่างที่เรียกว่าฟิวรี่ ฉันไม่มั่นใจนะแต่ดูเหมือนเราจะติดอยู่ในมิติที่สาม
รอนนี่: เจ้าพวกนั้น… พวกนั้นฆ่าเทรเวอร์
เจสัน: ใช่แล้วล่ะ พวกมันฆ่าเขาโดยไม่กะพริบตาเลย แล้วพวกมันจะฆ่าพวกเรา รวมทั้งทอนย่าที่อยู่ข้างนอกโน่นด้วย ทั้งหมดก็เพื่อไอ้นี่
รอนนี่: โอเค ฉันเริ่มเข้าใจแล้ว อย่างที่แกพูดนั่นแหละ แกฉลาด ส่วนฉันไม่ แต่แกคงรู้ตัวใช่มั้ย ว่าตอนนี้แกมันงี่เง่ามาก ๆ ?
เจสัน: นี่คือบรรจุภัณฑ์แม่เหล็กไฟฟ้า ข้างในนี้จะมีอนุภาคที่ถูกเรียกว่าเกจ โบสันแช่แข็งเอาไว้ มันจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำสั่งที่ดร.สไตน์เรียกว่าปฏิบัติการไฟร์สตอร์ม
รอนนี่: พอเถอะ ฉันไม่เข้าใจอะไรที่แกพูดนั่นเลย ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน รัช?
เจสัน: นั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามจะบอกนายไง เราติดอยู่ในร่างของระเบิดนิวเคลียร์เดินได้ และฉันคิดว่าคงจะมีใครอีกคนอยู่ข้างในนี้
ขณะนั้น พวกคลิฟฟอร์ดกำลังเถียงกันว่าจะไปโรงพยาบาลหรือกลับฐานทัพก่อนดี ทันใดนั้นรถโรงเรียนก็ตกลงมาตรงหน้าพวกเขาในระยะประชิด!
พวกเขาหักพวงมาลัยหลบแบบเส้นยาแดงผ่าแปด!
รอนนี่: เรากำลังจะฆ่าคนพวกนี้นะ
เจสัน: รู้แล้วน่า
รอนนี่: มีทางหยุดมันมั้ย
เจสัน: ฉัน… ฉันก็ไม่รู้
..
คลิฟฟอร์ด: เราต้องไปจากที่นี่ หาพาหนะใหม่ด่วนเลย
แต่ฟิวรี่มาถึงแล้ว!!
..
“เจสัน? รอนนี่? พวกเธออยู่ข้างในนั้นรึเปล่า?”
ทอนย่า: เราต้องไป ไปจากที่นี่… อย่าฆ่าฉันเลยนะ
…
ฟิวรี่จึงสวมบทยักษ์เขียวอุ้มนางเอกบินจากไป
คลิฟฟอร์ด: หน่วยสุนัขบ้านเรียกไซเธอร์… มีเหตุฉุกเฉิน คุณซี พวกเขา… ไม่สิ มันหนีไปแล้ว
ไซเธอร์: เสียใจด้วยคลิฟฟอร์ด ทีมไฮยีน่ากำลังไป คงใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ตอนนี้ซ่อนตัวซะ… อย่าลืมล่ะคลิฟฟอร์ด
ไซเธอร์: สุนัขที่ดีน่ะคือสุนัขที่ถูกฝึกมาแล้ว มันจะไม่ทิ้งมูลเอาไว้ให้ผู้เป็นนายเก็บกวาด เข้าใจใช่มั้ย?
“ระเบิดโรงเรียนเลย เจ้าหน้าที่ซัมเมอร์ส”
ตูมมมม!!
เจสัน: นายรู้จักดร.มาร์ติน สไตน์ใช่มั้ย?
รอนนี่: คนที่โคตรฉลาดระดับเมก้าเคลฟเวอร์ใช่มั้ยล่ะ? ฉันรู้จักแหละน่า ฉันไม่ได้โง่สักหน่อย
เจสัน: แปลกดีแฮะที่นายรู้จักแต่ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าชายคนนี้ไม่ใช่แค่ “ฉลาด” หรอกนะ เขาคือผู้ค้นพบแหล่งเริ่มของนิวเคลียร์
“หลาย ๆ ประเทศได้ทุ่มงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์เพื่อสะกดรอยและขโมยข้อมูลทุกอย่างที่เขาค้นพบ”
“เขามีห้องแชทลับเฉพาะอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของเด็กระดับหัวกะทิทั่วประเทศ นายคงคิดไม่ออกหรอกว่าเรานั่งคุยเรื่องอะไรกัน”
“อยู่มาวันหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็หายตัวไป เขาหยุดโพสท์ข้อความในบอร์ด จนกระทั่งเกือบปีให้หลัง… เราทุกคนต่างได้ข้อความ”
[ฉันพบพระผู้เป็นเจ้าในอะตอม]
“เขาบอกว่าเขาต้องการเรา เขาค้นพบหนทางที่จะทำให้โลกไร้ซึ่งสงครามตลอดไป”
เจสัน: แต่เขาบอกว่า… เราต้องเสียสละ แล้วเขาก็เสียชีวิต
รอนนี่: นี่แกรู้อยู่แล้วนี่หว่า
รอนนี่: โค้ชกับเทรฟ… พวกเขาตายแล้ว นะโว้ย แล้วแกมาบอกว่าแกรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้นงั้นเหรอ?
รอนนี่: แกเป็นบ้าอะไรวะ?
คำพูดของรอนนี่ก่อปฏิกิริยาต่อฟิวรี่ที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก..
ฟิวรี่: แกเป็นบ้าอะไรวะ?
ทอนย่า: อะไรนะ? ใครเป็นบ้าอะไร?
“ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเลย! ฉันจะฆ่าแก!”
..
ทั้งรอนนี่และเจสันพลันแยกออกมาจากร่างของฟิวรี่!
รอนนี่: โอย อยาก… กลับบ้านชะมัดเลย
เจสัน: เรากลับไม่ได้… ไม่ได้อีกแล้ว ขอโทษด้วย
ทอนย่า: ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?
เจสัน: เสียใจด้วย แต่เธอไม่ได้ฝันนะทอนย่า เราต้องหาที่ซ่อนก่อน มานี่เร็ว
รอนนี่: ช่างมัน ฉันจะกลับบ้าน
รอนนี่: ฉันต้องดูแลแม่ ฉันต้องซ้อม แถมฉันยังต้องไปคอนเสิร์ทอีก ไปกับมิสซี่ วินเซ็นท์
ทอนย่า: ผู้หญิงที่… ใหญ่ ๆ น่ะเหรอ?
เจสัน: ใช่แบบไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ แต่ฟังนะเรย์มอนด์ นายจะไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก… ตอนนี้พวกฆาตกรมันรู้แล้วว่าเราเป็นใคร พวกมันต้องปั้นเรื่องขึ้นมาว่านายสาบสูญไป
เจสัน: ถ้านายพยายามไปหาแม่นาย เธอจะหายสาบสูญไปตลอดกาล เรย์มอนด์
รอนนี่: งี่เง่า ฉันจะไม่เชื่ออะไรที่แกพล่ามอีกแล้ว
ทอนย่า: ว่าแต่คนพวกนั้นเป็นใครกันแน่เจสัน?
เจสัน: พวกมันคือทหารที่รับใช้กลุ่มคนผู้ปกครองโลกอยู่เบื้องหลังน่ะทอนย่า
รอนนี่: โอเค เริ่มเข้าเค้าล่ะ นี่เธอเพี้ยนตามหมอนี่ไปแล้วใช่มั้ย?
ทอนย่า: รอนนี่ มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นจริง ๆ นะ ฉันคิดว่ามันคือปาฏิหารย์
เจสัน: ทอนย่า..
ทอนย่า: ไม่ ฟังนะ มันคล้ายวันพิพากษาโลกหรืออะไรสักอย่าง ฉันแตะร่างเจ้านั่น เจ้าปิศาจตัวนั้นแล้วฉันก็เห็นภาพนิมิต
ทอนย่า: ฉันเห็นภาพควันสีดำรายล้อมรอบตัว แล้วก็มีฝุ่น… คล้าย ๆ เขม่าปกคลุมไปทั่ว
เจสัน: ปรากฏการณ์นิวเคลียร์เหมันต์สินะ
(*ปรากฏการณ์นิวเคลียร์เหมันต์ – เป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดระเบิดนิวเคลียร์ครั้งยิ่งใหญ่ในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจะทำให้แหล่งน้ำในโลกเกิดการระเหยเป็นไอ และบริเวณท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยฝุ่นเขม่าที่ปนเปื้อนรังสีหนาแน่น จนกระทั่งแสงไม่สามารถส่องเข้ามาในโลกได้ และเมื่อไม่มีแสงแดดอุณหภูมิในโลกจะเย็นตัวลงมาก)
ทอนย่า: ฉันเห็นภาพนั้นวันนี้ แถมฉันยังมองเห็นพระจันทร์… พระจันทร์ที่มีสัญลักษณ์ของเจ้าปิศาจร้าย เหมือนพื้นผิวของดวงจันทร์กำลังลุกไหม้ ฉันรู้ว่ามันฟังดูประหลาดแต่… แต่มันน่ากลัวมาก ๆ น่ากลัวที่สุดเท่าที่ฉันจะคิดได้
เจสัน: ฟังนะ… สนามพลังควอนตั้มนั้นสามารถทำให้กระแสเวลาผันผวนได้ นั่นอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอเห็น…
รอนนี่: รัช ฟังนะ… คราวนี้ฟังฉันบ้าง ฉันว่าเธอหลอนไปเองเท่านั้นแหละ เพราะฉันก็เคยเป็น
รอนนี่: ฉันเคยตื่นขึ้นมาเจอทดสอบประกาศเตือนภัยฉุกเฉินในทีวี ฉันนึกว่าโลกกำลังจะแตก ฉันนึกว่าทุกคนตายหมด
“ฉันอยากได้ยินคำพูดประมาณว่าโลกนี้จะไม่ถึงกาลอวสานมากกว่า เข้าใจมั้ย?”
..
ในขณะเดียวกันนั้นเองทีมไฮยีน่าที่รับคำสั่งจากไซเธอร์ก็ออกปฏิบัติการ!
ห่างออกไปในตัวเมือง ตำรวจท้องถิ่นได้บุกเข้าบ้านของเด็กทั้งสาม พร้อมหมายจับข้อหาก่อการร้ายวางระเบิดโรงเรียน!
“หอมจัง กลิ่นเธอ… หอมชะมัด”
“เจสันเอ๊ย แกนี่ไม่มีอารมณ์กวีเอาเสียเลย”
“หืมม”
เจสันนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลองีบ เขาเลยรีบปลุกรอนนี่ (ส่วนทอนย่า เธอคงตื่นอยู่แล้วเพราะหัวกระแทกขนาดนั้น :P)
“ทีมไฮยีน่าบุกโว้ย!”
เจสัน: เราต้องพูดคำนั้น นายจำได้นะ?
รอนนี่: ไปตายเถอะ รัช ฉันจะมอบตัว
เจสัน: มันไม่ได้มาจับเราโว้ย…
“มันมาเพื่อฆ่าเรา!… แกอยากให้มันฆ่าทอนย่ารึไง?”
“ไฟร์สตอร์ม”
ไฟร์สตอร์มมาแล้ว!
..
รอนนี่: ออกจากเมืองของเราไปเลย ไอ้พวกกระจั๊ว
เจสัน: ใช่แล้ว เราจะไม่พูดอีกเป็นครั้งที่สอง
เจสัน: ฉันเตือนแล้วไง
เจสันแปลงกระบอกปืนในมือสมาชิกทีมไฮยีน่าคนหนึ่งกลายเป็นดอกไม้ในพริบตา!
“พวก… ฮี่ฮี่ พวกแกคิดต่อต้านการจับกุมงั้นเหรอ ยิงมันเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
กระสุนนัดหนึ่งพุ่งถากแขนของเจสัน!
“โอย แย่แล้ว เจสันเสร็จมัน เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่ด้วย”
“ไม่อยากเชื่อว่าฉันจะพูดแบบนี้ แต่…”
“แต่ไอ้พวกหน่วยคอมมานโดลับลวงพรางพวกนี้… ไอ้พวกนี้มันเลวทุกตัวเลย”
“ก็ใช่ เจ้านั่นอาจจะฉลาด”
“แต่เรื่องกีฬาใช้กำลังน่ะ มันต้องยกให้ฉันจัดการเอง”
รอนนี่: ชอบมั้ยล่ะ? มาเลยไอ้ขี้แพ้ เจอกันหน่อย ดูซิว่าในปากแกมีฟันอยู่กี่ซี่
หน่วยไฮยีน่า: เรย์มอนด์!
หน่วยไฮยีน่า: คู่หูแกอยู่ในกำมือฉันว่ะ
หญิงสาวผู้เป็นหัวหน้าหน่วยไฮยีน่าจับตัวเจสันเอาไว้!
หน่วยไฮยีน่า: แกลอง… ฮี่ฮี่ฮี่… ลองขยับอีกนิดสิ… แล้วแกจะได้เห็นว่าในกะบาลคนน่ะ มันแดงแจ๊ดแจ๋ขนาดไหน เอาไงดีล่ะ เรย์มอนด์?
“ครั้งหนึ่งฉันเคยตื่นนอนขึ้นมาตอนที่เขากำลังทดสอบระบบเตือนภัยฉุกเฉินกันอยู่ ประกาศเตือนภัยเล่นวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนหน้าจอโทรทัศน์ ตอนนั้นฉันนึกว่าโลกจะถึงกาลอวสาน แต่กลายเป็นว่าฉันยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรต่างหาก”
“ฉันขอคิดก่อน!”
..
ตอนต่อไป:
HELIX!
..
คุยกันท้ายเล่ม
ดูท่าเราจะได้เห็นเหล่ามนุษย์นิวเคลียร์สู้กันในไม่ช้าครับ ผมคิดว่าภาพนิมิตที่ทอนย่าเห็นนั้นคงเป็นภาพอนาคตที่เหล่าไฟร์สตอร์มทั้งหลายสู้รบปรบมือกันจนเกิดเป็นวิกฤตินิวเคลียร์เหมันต์ครับ แต่จะใช้หรือไม่ต้องติดตามตอนต่อไป
มีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับทีมไฮยีน่า ผมเชื่อว่าทีมนี้อิงมาจาก Hyenas หนึ่งในศัตรูของไฟร์สตอร์มในจักรวาลเดิม แต่ในจักรวาลเดิมพวกเขาไม่ใช่หน่วยรบแบบนี้นะครับ ไฮยีน่าแห่งจักรวาลเดิมนั้นเป็นมนุษย์ไฮยีน่า (ตัวเป็นคนหัวเป็นไฮยีน่า) คู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งพวกเขากลายเป็นไฮยีน่าเพราะโดนไฮยีน่ากัด
ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ 🙂
เห็นไฟร์สตรอมตัวโตๆแล้วก็พูดประโยคสั้นๆแบบนี้ ทำให้นึกถึง Hulk ทุกทีเลยครับ
ตาย5 เมื่อเช้าโดนหนูเเกสบี้กัดจะกลายเป็นหนูปล่าวล่ะเนี้ย
เริ่มมันส์แล้วแหะ Reboot ทีนี่พวกตัวจืดๆดูน่าสนใจขึ้นจมเลย
ดูๆไปเจ้าบุคลิคที่สามของไฟร์สตอร์มที่ชื่อฟิวรี่นั่นทำให้ผมนึกถึง Deathstorm ของจักรวาลเก่านะเนี่ย
ไฟร์สตอร์ม บางทีก็มีความลับซ่อนอยู่
แต่ศักดิ์ศรีสำคัญคือ ฮีโร่ส์คอนเซ็ปสองรวมกันเป็นหนึ่ง รุ่นแรกแรก
นั่นเอง
เพิ่งรู้ศัตรูเก่า ของไฟร์สตอร์มมาเป็นไฮยีน่า โต้งโต้งเลยแฮะ
มันส์มากกก
ไฮยีน่า ป๊าดดด she born to be ม๊ากกก
มันส์ครับ เนื้อเรื่องมันส์ขึ้นเรื่อยๆแล้ว