SUPERMAN #2
เรื่อง : GEORGE PEREZ
ภาพ : JESUS MERINO
วางจำหน่าย: 27 ตุลาคม 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ชีวิตใหม่ของพี่ซุปยังดำเนินต่อไป พร้อมกับการปรากฏตัวของภัยร้ายตัวใหม่
..
“พ่อของผมมักอ้างถึงงานเขียนของโธมัส วูล์ฟ”
“ผลงานเรื่อง ‘บ้านที่ไม่อาจกลับ’”
“ผมคิดเสมอว่าเรื่องราวในนั้นช่างเหมือนกับชีวิตของผม”
นักวิทยาศาสตร์1: คิดว่าเขาจะลอยค้างอยู่แบบนั้นอีกนานมั้ย?
นักวิทยาศาสตร์2: จะไปรู้เรอะ เขายืนมองแผนที่ดาราศาสตร์นั่นมาเป็นชั่วโมงแล้ว
นักวิทยาศาสตร์1: เขาจะหาบ้านเกิดจากแผนที่นั่นเจอเหรอ? ชื่อดาวอะไรแล้วนะ?
นักวิทยาศาสตร์2: คริปตั้น ฟังเหมือนชื่อก๊าสเนอะ
นักวิทยาศาสตร์1: นั่นน่ะสิ เขาคงคิดถึงบ้านน่ะ
นักวิทยาศาสตร์2: แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะดาวของเขาพินาศไปแล้ว
“ข้อเสียอย่างหนึ่งเมื่อคุณมีหูทิพย์ นั่นคือคุณสามารถได้ยินทุกคำพูด… แม้ว่าคุณไม่อยากจะฟังก็ตาม”
“เฮ้! เจ้าต่างดาว”
คล้าก: นายพลเลน? ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณวันนี้
นายพลเลน: พูดตรง ๆ ฉันเองก็ไม่อยากเสียเวลาทั้งวันมาทำอะไรแบบนี้หรอก แต่ดูเหมือนครั้งล่าสุดที่แกกับฉันร่วมงานกันจะทำให้พวกระดับสูงประทับใจมาก
นายพลเลน: นี่ข้อมูลที่แกขอ… ดูเหมือนแกจะเป็นที่ชื่นชอบของวายร้ายเหนือมนุษย์จริง ๆ นะ
คล้าก: ถือว่าผมไม่ได้ยินแล้วกันท่านนายพล ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าเจ้าปิศาจเพลิงนั่นมาจากไหนกัน
นายพลเลน: ฝ่ายเทคโนโลยีบอกว่าแผนผังดาราศาสตร์นี่มีข้อมูลมนุษย์ต่างดาวทุกสายพันธุ์ที่เคยรุกรานโลก และไม่ว่าไอ้ตัวนี้มันตัวอะไร แต่มันไม่มีข้อมูลอยู่ในฐาน
นายพลเลน: ตามที่ฝ่ายเทคโนโลยีบอก ถ้าเจาปิศาจไฟนั่นมาจากนอกโลกจริง มันต้องโผล่มาตั้งแต่ก่อนได้โนเสาร์จะหัดเดินเสียอีก คำถามก็คือ แล้วทำไมมันถึงโผล่หัวมาตอนนี้
คล้าก: แล้วคุณจะอธิบายเรื่องที่มันพูดภาษาต่างดาวว่ายังไง? ผมได้ยินชัด ๆ ก็หนึ่งคำ คำว่า “คริปตั้น”
นายพลเลน: แต่จากเทปบันทึกภาพและเสียงที่ยึดมาได้ ที่เจ้าผีนั่นพ่นออกมาก็แค่คำที่ไม่มีความหมาย แถมมันก็ไม่ได้พูดคำว่าคริปตั้นออกมาสักคำ
นายพลเลน: เท่าที่ฉันจะบอกได้ตอนนี้ มันน่าจะเป็นอาวุธร้ายที่ถูกสร้างขึ้นโดยไอ้เพี้ยนสักคนที่คิดทำลายเมโทรโปลิศ… และหวังจะกำจัดมือกฏหมายของเมือง
นายพลเลน: นี่เป็นอีกครั้งที่ประชาชนบริสุทธิ์ตกอยู่ในอันตราย… รวมถึงลูกสาวฉันด้วย โลอิสกับฉันอาจไม่ค่อยถูกกัน เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากได้คำตอบตรงไปตรงมาจากแก… ตอนนี้แกกับเธอไปถึงไหนกันแล้ว?
เมื่อฟังคำถาม คล้ากก็นึกย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้
โลอิส: ว้าว จำนี่ได้มั้ย? ฉบับนี้แหละที่เปลี่ยนชีวิตของฉันตลอดกาล ฉันว่าจะแขวนมันไว้ตรงนี้ คุณคิดว่าไงคะ?
คล้าก: แล้วแต่คุณเถอะ ผนังห้องยังว่างอยู่นี่ ห้องนี้จะขาดก็แต่โทรศัพท์ไว้ให้เราคุยกันข้ามห้องเท่านั้นเอง
โลอิส: คุณพูดอย่างกับคุณชอบรับสายอย่างนั้นแหละ โชคดีของฉันที่ยังได้ห้องทำงานนี่มาใช้ พอคิดถึงท่าทีของเอ็ดจ์ตอนที่ฉันสั่งให้ตากล้องทางอากาศหยุดถ่ายการต่อสู้ของซุปเปอร์แมนกับปิศาจเพลิงตัวนั้น ช่วยฉันแขวนรูปหน่อยสิ
คล้าก: เอ็ดจ์ไม่พอใจเหรอ?
โลอิส: ไม่น่ะสิ จนกระทั่งฉันบอกเรื่องที่ฉันให้จิมมี่กับมิโกะแฮ็คกล้องรักษาความปลอดภัยบนอาคารที่เขาเองเป็นเจ้าของ
โลอิส: หวังว่าเอ็ดจ์จะไม่รู้ว่าตอนนั้นฉันกลัวแทบแย่
คล้าก: อย่างน้อยตอนนี้ซุปเปอร์แมนก็ไม่ต้องพะวงเรื่องความปลอดภัยของเธอแล้ว ทำงานนั่งโต๊ะแบบนี้ปลอดภัยกว่าเยอะ
โลอิส: ที่จริงฉันคิดถึงความตื่นเต้นเมื่ออยู่ในเหตุการณ์ทุกครั้งที่ออกภาคสนามเหมือนกันนะ ตอนนั้นคุณกับฉันเป็นคู่เข่งที่สมน้ำสมเนื้อมาก
คล้าก: แต่ผมมักจะรู้สึกว่าเราเป็นทีมมากกว่าเป็นคู่แข่ง
โลอิส: ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น คล้าก… ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณเดินเข้ามาในออฟฟิศของเพอร์รี่ ฉันก็รู้แล้วว่าคุณมีแววที่จะเป็นนักข่าวยอดเยี่ยม แล้วฉันก็คิดถูกเสียด้วย จมูกคุณน่ะไวต่อข่าวพอ ๆ กับฉันเลย เพราะอย่างนั้นฉันเลยต้องลุยหาข่าวเสมอแม้ต้องเสี่ยงก็ตามที นั่นเพื่อแข่งขันกับคุณไงล่ะ
โลอิส: ฉันพยายามทำข่าวซุปเปอร์แมน ส่วนคุณกลับชอบเขียนบทความมักเกี่ยวกับคนจรจัด, คนไร้บ้าน, คนที่ถูกสังคมทอดทิ้ง คุณแสดงแง่มุมของความเวทนาออกมาผ่านงานเขียน… บทความของฉันทำให้ฉันอยู่บนจุดสูงสุดมาโดยตลอด ฉันหวังว่างานของคุณจะเข้าตาใครสักคนบ้าง
โลอิส: เห็นว่าฮีทเธอร์ เคลลี่อยากร่วมงานกับคุณนี่นา คุณได้คุยกับเธอรึยัง?
คล้าก: เราคุยเรื่องร่วมงานกันน่ะ แต่เหมือนเราไม่เข้าขากันเหมือนที่ผมเคยร่วมงานกับคุณ ผมคิดถึงตอนนั้นชะมัดเลย… เอ่อ แล้วเรื่องคืนก่อน ผมหวังว่าเพื่อนคุณคนนั้นจะไม่ได้เข้าใจผมผิดนะ ขอโทษที่ไปหาคุณโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ผมไม่รู้…
โลอิส: โจนาธานน่ะเหรอ? เขาก็แค่เพื่อนเที่ยวจากต่างเมืองของฉันน่ะ เขาดีใจที่ได้เจอคุณนะ เพราะเขาได้ฟังเรื่องของคุณจากฉันบ่อย ๆ เขาว่าจะชวนเราสองคนไปเดทคู่ด้วย ฉันกับคุณก็ยังเป็นเหมือนเดิมน่ะแหละ อย่าให้ตำแหน่งมาทำลายมิตรภาพของเราสิ
โลอิส: ฉันยังเป็นเพื่อนคนเดิมของคุณ ถ้าคุณมีอะไรไม่สบายใจแล้วฉันพอจะช่วยได้…
คล้าก: ผมไม่เป็นไร โลอิส อย่าห่วงเลย
คล้าก: ผมมีของต้องจัดเหมือนกัน ขอให้จัดห้องให้สนุกนะ
ขณะเดียวกัน ในโทรทัศน์วิลเลี่ยม แม็คคอยก็กำลังรายงานข่าวเรื่องซุปเปอร์แมนกับปิศาจเพลิงอยู่
แม็คคอย: จากภาพบันทึกเหตุการณ์ที่ปิศาจเพลิงเข้าโจมตีเมืองของเราเมื่อสัปดาห์ก่อน ในขณะนี้ยังไม่อาจสรุปได้ว่า วายร้ายต่างดาวตัวนี้มาจากไหนและมีจุดประสงค์อย่างไร
แม็คคอย: รวมถึงคำถามที่ว่าปิศาจเพลิงเกี่ยวกันอย่างไรกับโดมดาราศาสตร์ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ สำหรับผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์นี้ ยามรักษาความปลอดภัยประจำโดมดาราศาสตร์ ไมเคิล “แม็ค” แม็คลอชลินยังไม่พ้นขีดอันตราย และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวอน-เคลน
“เฮ้! คล้าก ยู้ฮู! คล้าก!”
แกรนท์: เพอร์รี่พยายามติดต่อคุณแน่ะ ที่จริงคุณน่าจะพกโทรศัพท์ไว้บ้างนะ เราได้รับการแจ้งมาว่าพบคนจรจัดอยู่ในอุโมงค์รถไฟใต้ดินที่กำลังซ่อมบำรุงน่ะ เขากำลังก่อกวนการก่อสร้าง หัวหน้าเห็นว่าข่าวนี้เป็นข่าวแบบที่คุณชอบ
แกรนท์: เราก็รู้ว่าคุณชอบเขียนเรื่องคนยากคนไร้ที่ถูกไล่ที่จากนโยบายแปลงโฉมนครเมโทรโปลิศใหม่… พวกข่าวปัญหาสังคมน่าเบื่อพวกนั้น
คล้าก: ไม่แล้วล่ะ แค็ท บอกเพอร์รี่ด้วยว่าผมกำลังตามข่าวอื่นอยู่ เขาจะได้ส่งคนอื่นไปแทน บางที่อาจจะเป็นคุณก็ได้นะ
แกรนท์: ฉันนี่นะ? ล้อเล่นน่า ฉันไม่ทำข่าวคนจรจัดหรอก… เว้นแต่จะมีคนดังมาเอี่ยวด้วย คนดังอย่างซุปเปอร์แมนน่ะ
กลับมาที่ปัจจุบัน…
คล้าก: ลูกสาวคุณเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ส่วนผมเป็นแค่พาดหัวข่าวของเธอก็เท่านั้น และทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้วด้วย
นายพลเลน: ทำไมล่ะ? เพราะเธอไม่ได้ทำงานหนังสือพิมพ์น่ะเหรอ? แกคิดจริงหรือว่าการเป็นโปรดิวเซอร์ช่องข่าวจะทำให้เธอเปลี่ยนไป? ขอบอกว่าตราบใดที่แกยังอยู่ในเมโทรโปลิศ ทั้งเธอและคนอื่น ๆ ก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี
คล้าก: คุณคงไม่ได้ห่วงโลอิสกับชาวเมืองเมโทรโปลิศหรอกใช่มั้ยท่านนายพล? คุณไม่พอใจที่ผมอยู่บนโลกนี้ต่างหาก หรือว่าไม่จริงล่ะ? แต่คุณจะให้ผมไปอยู่ที่ไหนกัน ในเมื่อกลับไปดาวคริปตั้นก็ไม่ได้แล้ว
นายพลเลน: ฉันก็อยากบอกให้แกไปลงนรกอยู่หรอก… แต่ตอนนี้ดูเหมือนนรกมันมาตามล่าแกเองแล้ว
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมคิดว่านายพลเลนมักเถียงข้าง ๆ คู ๆ แต่คราวนี้เขาทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวายใจ
เพราะคราวนี้ บางทีเขาอาจจะถูกก็ได้
ขณะเดียวกันในอุโมงค์รถไฟใต้ดิน วิศวกรและคนงานก่อสร้างได้เรียกให้ตำรวจมาจัดการคนจรจัด
จอห์นสัน: ทุกคน ผมคือเจ้าหน้าที่จอห์นสัน ส่วนนี่เจ้าหน้าที่ชวอล์ม คุณคือหัวหน้าคนงานที่แจ้งเรื่องคนจรจัดเข้ามาใช่มั้ย?
หัวหน้าคนงาน: ใช่ครับ ผมนึกว่านักข่าวจากพลาเน็ตจะมาด้วยเสียอีก
จอห์นสัน: เขาอาจคิดว่านี่ไม่ใช่ข่าวสำคัญล่ะมั้ง
หัวหน้าคนงาน: แต่กับหัวหน้าผมนี่มันคือก้างชิ้นใหญ่เลยแหละ เราจำเป็นต้องรีบซ่อมให้มันใช้การได้หลังจากที่ซุปเปอร์แมนกับไอ้หุ่นยนต์ยักษ์พังมันเสียเละ
หัวหน้าคนงาน: ตำรวจมาไล่ไอ้พวกเวรคนอื่นที่ซุกหัวอยู่ในอุโมงค์ไปหมดแล้ว เหลือก็แต่ไอ้สเปนนี่ มันหลบได้ไวมากอย่างกับหนูท่อแน่ะ
จอห์นสัน: รับทราบ เดี๋ยวพวกผมจัดการเอง
จอห์นสัน: ภาษาสเปนเธอเป็นไงบ้าง มาร์ซี่
ชวอล์ม: ก็ดีกว่าภาษามองโกเลียนิดหน่อย จะลองดูนะ… โฮล่า! ซินญอร์! นี่ตำรวจนะค้า!
จอห์นสัน: “นี่ตำรวจ”? เธอจะบอกมันทำไมน่ะ?
ชวอล์ม: ใช่ซี้ คุณเก่งเสมอนี่ทราวิส
จอห์นสัน: ดูเหมือนไอ้หมอนั่นจะวิ่งลึกเข้าไปในอุโมงค์ มันทิ้งเศษขยะเอาไว้ตรงนี้น่ะ
ชวอล์ม: คงไม่ใช่แค่เหมือนล่ะมั้ง แต่ในอุโมงค์แบบนั้น เราน่าจะได้ยินเสียงของมันบ้างนะ
ขณะเดียวกัน ชายจรจัดพลันพบเห็นสิ่งประหลาดเข้า! ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เรืองแสงสีแดงเป็นประกาย!
“ไม่รู้ผมคิดอะไรถึงยังออกบินตระเวณรอบเมืองในวันนี้”
“หลังจากที่ได้ฟังนายพลเลนพูดแล้ว บางทีผมควรจะกลับไปใช้ชีวิตแบบคล้ากก่อน หรือไม่ก็ไปเก็บตัวอยู่คนเดียวในป้อมปราการ”
“แต่ไม่ล่ะ ผมยังคงออกบินตรวจตราและใช้หูหาเรื่อง”
“ตอนแรกดูเกือบผมจะไม่ได้เรื่องเสียแล้ว ผมได้ยินแค่เสียงคนทะเลาะกัน และเสียงงัดแงะห้องของโจรกระจอก… และเสียงตำรวจเมโทรโปรลิศที่เร่งรุดไปจัดการ”
“จนกระทั่ง ผมได้ยินเสียงคนพูดถึงผม… ซึ่งตอนแรกก็พูดประโยคเดิม ๆ”
“ดูบนท้องฟ้าสิ!”
“จากนั้นพวกเขาก็พูดแปลก ๆ”
“ทำไมเขาไม่ทำอะไรล่ะ?”
“มันตรงไปที่เขาแล้วนะ”
“ทุกอย่างพลันเงียบสงัด เงียบราวกับอยู่ในอวกาศ”
“ผมไม่ได้ยินเสียงมัน มองไม่เห็นมัน ไม่แม้แต่จะได้กลิ่นมัน”
“ผมรู้อย่างเดียว: ผมโดนมันซัด”
“และผมเจ็บ”
“ผมรู้สึกสมองหมุน และต้องใช้เวลาหลายวินาทีเพื่อคัดกรองเสียงอึกทึกของผู้คนเบื้องล่าง การแยกสิ่งที่ได้ยินเป็นพื้นฐานขั้นต้นที่ผมต้องเรียนรู้เพื่อที่จะได้ยินเสียงกระซิบที่มีประโยชน์ ในขณะที่รอบ ๆ ดังไปด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวก มันฝึกลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็ทำได้ดี”
“นอกจากเสียงแตรสัญญาณ, เสียงคนร้องแรกแหกกระเชอ, เสียงจากเครื่องขยายเสียง ผมยังได้ยินเสียงเล็ก ๆ ว่า…”
“มันมาอีกแล้ว!”
“แต่ผมก็ยังมองไม่เห็นตัวมันอยู่ดี”
“มันคือตัวอะไร? มันอยู่ไหนกัน? บางทีถ้าฝนตกหรือมีควันสักหน่อย… ผมอาจจะพอสังเกตได้ว่าตัวอะไรกำลังโจมตีผม”
“ผมรู้สึกปวดตาเป็นบ้าเมื่อต้องใช้สายตาจุลทัศน์ในระดับสูงที่สุดเพื่อเอ็กซเรย์ตรวจจับความร้อนในทุกอณู… ผมพยายามจำกัดวงการได้ยินให้แคบลง… กรองเอาเสียงรบกวนอื่น ๆ ออกไปเพื่อจะได้ได้ยินเสียงที่ผิดปกติ”
“แต่แย่ชะมัด ยิ่งจำกัดวงความสามารถ ผมแทบไม่ได้ยินเสียงเตือนภัย…”
“มันพุ่งไปหาเขาอีกแล้ว”
“ทำไมเขาไม่ตอบโต้เลยล่ะ!?”
“จนมันสายเกินไป”
“หลังจากนั้น ผมได้ยินเสียงร่างกระแทกและเสียงกรีดร้องดังสนั่น”
“หัวผมหมุนอีกรอบ สัมผัสต่าง ๆ รวนไปหมด ผมเริ่มคิดว่านี่คืออาการไมเกรนรึเปล่า? ผมว่าผมได้ยินเสียงคนในออฟฟิศร้องเตือน แต่กว่าที่ผมจะแยกแยะเสียงนั่นได้ มันก็ช้าเกินไปอีกแล้ว”
“ผมสับสนไปหมดแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงข้อนิ้วของเจ้าปิศาจตัวนี้ที่บีบหลอดลมของผมอยู่และลากตัวผมออกมาจากตึก…”
“และมุ่งตรงเข้าใส่เรือบอลลูนที่เต็มไปด้วยชีวิตบริสุทธิ์”
“ผมหยุดมันไม่ได้เลย พระเจ้า… ผมเห็นสีหน้าของพวกเขา ผมได้ยินเสียงกรีดร้องหวาดกลัวของพวกเขา”
จิมมี่: โว้ว! เธอเห็นนั่นมั้ย ซุปเปอร์แมนโดนเจ้านั่นซ้อมเสียน่วมเลย!
มิโกะ: ลืมเรื่องซุปเปอร์แมนไปก่อนเถอะจิมมี่… ตอนนี้บอลลูนนั่นจะตกแล้ว! ข้างในมีคนอยู่กว่าสามสิบคนเชียวนะ!
มิโกะติดต่อกลับไปหาโลอิสในทันที!
มิโกะ: คุณเลนคะ! นี่มิโกะเองนะ!
โลอิส: ว่าไงจ๊ะมิโกะ?
มิโกะ: เราได้ภาพเหตุการณ์สดมา ตอนนี้กำลังส่งเข้าเครื่องของคุณค่ะ
โลอิส: โอ้ พระเจ้า
โลอิส: นั่นมันตัวอะไร?
มิโกะ: หนูคิดว่าคงเป็นปิศาจต่างดาวพวกนั้นอีกตัวหนึ่ง
โลอิส: แล้วทำไมซุปเปอร์แมนไม่ตอบโต้ล่ะ?
มิโกะ: หนูไม่รู้ค่ะหัวหน้า เราได้ภาพวิดีโอตัวนี้จากพนักงานในตึกที่ซุปกับเจ้าปิศาจพังเข้าไป พ่อเบิ้มของเรามีสภาพไม่ต่างจากกระสอบทรายเลย
มิโกะ: ลองซูมเข้าไปใกล้ ๆ แล้ว ไอ้เจ้านี่มันน่าเกลีดชะมัดเลย!
มิโกะ: นี่เป็นภาพที่ได้จากคอปเตอร์ของพลาเน็ต หนูว่าคุณต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าจิมมี่จะทำหน้าที่ใหม่ได้ดีขนาดนี้
“พอตั้งสติได้ ร่างผมแทบค้างเพราะภาพที่เห็น เรือบอลลูนลูกนั้นมีคนบริสุทธิ์อยู่ข้างใน… พวกเขากำลังกรีดร้อง!”
จิมมี่: ว้าว! ซุปเปอร์แมนกำลังพุ่งไปช่วยคนในบอลลูน… ฉันกำลังถ่ายไว้อยู่!
“ต้องไม่ให้ที่ท่านนายพลพล่ามมานั้นกลายเป็นความจริง…”
“ต้องไม่ใช่คืนนี้… ต้องไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”
โลอิส: นั่นมันอะไรกัน? ปิศาจนั่นขวางทางซุปเปอร์แมนเอาไว้นี่นา! แถมซุปเปอร์แมนไม่คิดจะสู้ด้วย! นี่แปลว่า… ซุปเปอร์แมนมองไม่เห็นตัวมัน!
“เอาอีกแล้ว มันโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้… โผล่มาอยู่ตรงนั้น”
“กระแทกตึกแบบนี้มันไม่เจ็บหรอก แต่แรงโจมตีของศัตรูที่มองไม่เห็นนี่สิที่เป็นปัญหา ผมไม่อาจมองเห็นหรือได้ยินมันเลย ผมคล้ายต้องเผชิญกับสุญญากาศท่ามกลางแสงไฟเจิดจ้า, คำพูดอึกทึกและเสียงกรีดร้องสับสนวุ่นวาย”
“แต่ทันใดนั้นเอง ผมเหมือนได้ประสามสัมผัสกลับมา… กลับมาด้วยเทคโนโลยี”
“แน่สินะ ถึงผมจะไม่อาจมองเห็นตัวเจ้าปิศาจได้ ถึงสัมผัสชาวคริปตั้นของผมจะไม่สามารถรับรู้การมีอยู่ของมัน แต่ประชาชนคนอื่นยังมองเห็นมันได้อยู่…”
“และกล้องก็ยังถ่ายภาพมันได้!”
“นี่แหละที่ต้องการ!”
..
ถึงเวลาที่ซุปเปอร์แมนจะสวนกลับแล้ว!
โลอิส: จิมมี่! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอต้องถ่ายภาพเจ้าปิศาจนั่นไว้! ตอนนี้เราต้องเป็นหูเป็นตาให้กับซุปเปอร์แมน!
“ผมหวังว่าแรงหมัดของผมจะหยุดมันไว้ได้จนกระทั่งผมนำยานลงไปจอด แต่เมื่อเทียบกับพละกำลังของมันแล้วผมรู้ว่ามีเวลาไม่มาก ถึงอย่างนั้นตอนนี้ก็ยังดีกว่าเมื่อครู่เพราะผมไม่ต้องบินไปมาอย่างคนตาบอดอีก”
“ผมแค่ต้องหาใครมาเป็นตาให้ ณ เวลานี้มีคนจำนวนมากที่กำลังดูข่าวของผมอยู่ ผมแค่ต้องหาช่องข่าวที่ใช้การได้”
“หลังจากที่ผมเคยช่วยเหลือเดลี่ พลาเน็ตด้วยการสร้างข่าวให้พวกเขา… ใครจะไปคิดว่าในวันหนึ่งข่าวของพวกเขาจะกลับมาช่วยชีวิตผมเอาไว้”
ชาวบ้าน: จัดการมันเลย ซุปเปอร์แมน! สอนให้ไอ้ปิศาจนั่นรู้เสียบ้างว่ามันจะเจออะไรถ้าคิดมาแหยมในเมโทรโปลิศ
คล้าก: ก็ว่าจะทำอยู่ อย่าห่วงไปเลย!
จิมมี่: เยี่ยมเลย ซุปเปอร์แมนกำลังเอาคืน! พ่อเบิ้มของเราลากคอเจ้าอัปลักษณ์นั่นขึ้นไปบนฟ้าแล้ว… ไม่สิ เขาเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศ! เขาพุ่งลงไปที่ตึกข้างล่างทำไมกัน?
จิมมี่: ทำไมซุปเปอร์ไม่ลากคอปิศาจสยองตัวนั้นออกไปนอกเมืองตอนที่มีโอกาสล่ะ?
โลอิส: ใจเย็นจิมมี่ ไม่เห็นป้ายบนตึกเหรอ? นั่นร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าไงล่ะ ข้างในนั้นมีทั้งทีวีและกล้องบันทึกภาพ… นี่ฉลาดมาก ๆ เลยซุปเปอร์แมน…
คล้าก: ฉันอาจมองไม่เห็นแกด้วยสองลูกกะตา… แต่เพื่อนช่างภาพของฉันเคยพูดไว้ว่า…
“ภาพถ่ายน่ะไม่เคยโกหกเฟ้ย!”
..
“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะโลอิสสมองไว ผมคงไม่อาจคิดหาวิธีปราบเจ้าผีต่างดาวตัวนี้”
“ในวินาทีที่สัมผัสของผมไม่อาจใช้การได้ ผมจำเป็นต้องมีอะไรมาทดแทน”
“และตอนนี้ผมก็มีอยู่เต็มร้าน”
“ก่อนเข้ามา ผมใช้สายตาเอ็กซเรย์ดูให้แน่ใจแล้วว่าในร้านนี้ไม่มีคนอยู่ และของทุกชิ้นมีประกันความเสียหาย ฉะนั้นผมจะจัดการกับสิ่งมีชีวิตตนนี้ยังไงก็ได้… ลูกเล่นนี้ทำให้ผมสามารถซัดเจ้าปิศาจให้หมอบกระเตงก่อนที่หูและตาของผมจะพังหมดเสียก่อน”
คล้าก: เอาล่ะ ไอ้ผี ฉันเปิดไมค์ให้แกแล้ว ทีนี้ได้เวลาพูด… เดี๋ยวนี้เลย! แกเป็นใคร? ผุดมาจากขุมไหน? ตอบมาก่อนที่ฉัน…
ปิศาจร้ายพล่ามออกมาเป็นภาษาประหลาด ภาษาเดียวกับเจ้าปิศาจเพลิง!
“ตอนแรกผมนึกว่ามันร้องด้วยโทสะ แต่ผมรู้ดีว่าไม่ใช่”
“ถึงร่างมันกำลังหายไป ถึงแม้คำพูดของมันจะบางเบาราวเสียงกระซิบ แต่ผมก็จำภาษานี้ได้ถึงแม้ไม่รู้ความหมายก็ตาม”
“มันคือภาษาเดียวกับที่ผมได้ยินจากปิศาจเพลิงก่อนที่มันจะมอดดับไปในอวกาศ… คำพูดเพียงคำเดียวที่ผมจับความได้”
“คริปตั้น”
จิมมี่: ซุปเปอร์แมน! คุณเป็นอะไรรึเปล่า? เกิดอะไรกับเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นล่ะ?
จิมมี่: บอกหน่อยน่า ผมต้องได้วิดีโอไปส่งที่พลาเน็ตก่อนตากล้องช่องอื่นจะมาถึง สัตว์ประหลาดนั่นไปไหนแล้ว? ผมไม่เห็นตัวมันเลย
คล้าก: นายไม่เห็นตัวมันเหรอ?
“ดีใจจริง ๆ ที่ได้ยินจิมมี่บอกอย่างนั้น”
คล้าก: นั่นแปลว่าไม่มีใครเห็นตัวมันอีก ถ้ากล้องจับภาพมันไม่ได้ก็คงต้องเป็นเพราะมันตายแล้ว ไม่ใช่แค่ล่องหน… แต่มันตายแล้ว
ซุปเปอร์แมนกลับมายังป้อมปราการของเขา เขากำลังบันทึกรายงานปฏิบัติการ..
คล้าก: เจ้าปิศาจเพลิงกับอสูรล่องหนต้องเกี่ยวพันกันแน่ แต่ยังไงกันล่ะ? ถ้าพวกมันไม่ใช่ภัยรุกรานต่างดาวจริงอย่างที่นายพลเลนบอก แล้วพวกมันคือตัวอะไร? มันพูดภาษาอะไรกัน? แล้วทำไมมันถึงพุ่งเป้ามาที่ผมกันนะ? นี่คงปฏิเสธไม่ได้ว่านายพลเลนพูดถูกแล้ว
คล้าก: นรกกำลังมาเยือนผม… น่าขำชะมัดที่คราวนี้ไม่ใช่แค่นายพลเลนพูดถูก แถมโลอิส ลูกสาวของเขาก็เป็นฝ่ายช่วยชีวิตผมไว้อีกต่างหาก เธอยอดเยี่ยมจริง ๆ
คล้าก: ผมเพียงอยากให้ทุกอย่างไม่เป็นแบบนี้… หยุดบันทึกก่อนซิ
โอนสายจากโทรศัพท์มือถือของเคนท์: มีข้อความใหม่จากโลอิส
“เฮ้ คล้าก นี่ฉันเองนะ ฉันโทรมาเพื่อจะดูให้แน่ใจว่าที่ฉันพูดไปเมื่อเช้ามันจะไม่ทำลายมิตรภาพของเรา คือฉันแค่… คือฉันรู้สึกเหมือนคุณดูหงุดหงิด”
“ฉันรู้ว่าฉันอาจทำตัวเหมือนแม่ ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ฉันอยากให้คุณรู้เอาไว้นะ ถึงฉันจะไม่มีโทรศัพท์ในห้อง และถึงห้องทำงานของฉันจะอยู่ชั้นบน แต่เชื่อเถอะว่าเราสองคนจะไม่เหินห่างกัน”
“ถ้ามีปัญหาอะไร คุณไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง”
“ความโดดเดี่ยวน่ะไม่ทำให้ใครหายเหงาหรอกนะ”
ณ โรงพยาบาลสวอน-เคลน
ยามแม็คที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ที่ปิศาจเพลิงโจมตีเมโทรโปลิศกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่!
หมอ: อาการดีขึ้นบ้างมั้ย?
พยาบาล: ไม่เลยครับ ดร.บิช็อป คุณแม็คลอชลินยังอยู่ในขั้นโคม่าถึงอาการภายนอกจะดีขึ้นก็ตาม
หมอ: ไม่อยากจะเชื่อเลย ติดอยู่ในกองเพลิงนานขนาดนั้นแถมร่างกายก็ไหม้เกรียม แต่ยังอุตส่าห์รอดมาได้อีก
หมอ: ฉันรู้ว่าตำรวจอยากสอบปากคำเขา ฉันก็อยากเหมือนกัน… ได้แต่หวังว่าเขาจะตื่น
ประตูห้องของยามแม็คค่อย ๆ เปิดออก ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาคือชายจรจัดในอุโมงค์นั่นเอง
ทันใดนั้นเองยามแม็คก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น! ดวงตาของเขาส่องแสงสีแดงเรืองรอง!
เขาเริ่มพูดกับชายจรจัด… ด้วยภาษาเดียวกันกับปิศาจร้ายทั้งสอง!
…
“คริปตั้น”
..
พวกเขาพูดอะไรกัน?
ตอนต่อไป:
A COLD DAY IN A HELL
ตัวหนังสือเยอะมากมาก แต่ก็ยังอุตสาห์แปลให้อ่านหมด
ขอบคุณมากครับผม Thxมากมากเลย
ปริศนาใช้ได้เลย
ดูเหมือนตัวหัวเรื่องของซูเปอร์แมน จะบรรยายความรู้สึก
และชี้ดชัด ซูเปอร์แมนมากมายเลยนะครับเนี่ย
ขนาดตา X-Ray ยังมองไม่เห็นเลยหรอเนี่ย
ทำไมรูปสุดท้าย คุณ Mister-Y แปลแต่คำสุดท้ายล่ะครับ 555+
(นี่มุขนะครับ อย่าซีเรียส 555+)
55555555 นึกว่าจะไม่มีใครทักแล้วเชียว 😛
พยายามแกะแล้วครับคุณ BaaMzS คิดว่าตัวอักษรต่างดาวพวกนี้ยังไงก็คงต้องอิงอักษรปกติแน่ ๆ
แต่แกะยังไงก็แกะไม่ออก ไอ้ครั้นจะทิ้งคำสำคัญไปเฉย ๆ ก็เสียดาย
เลยเอาฟะ ถึงยังไงได้สักคำก็ดี 555
ขออภัยอย่างยิ่งครับ (ไม่ซีเรียส ๆ 55 :P)
@seventoon เห็นด้วยเลยครับ หัวนี้เหมือนมีไว้ให้พี่ซุประบายความในใจ 55
ธาตุ ไฟ ธาตุ ลม
ต่อไป Cold น้ำแข็ง?
พี่ ซุป เป็นหนี้ สื่อ 2 ที่ติดละ
สนุกสุดๆเลยแหะ แต่ก็หวังด้วยว่าพี่ซุปจะคืนดีกับโลอิสเร็วๆนะครับ
ไร้ครอบครัว ไร้คนรัก ไร้ที่พักใจ ไร้บ้านเกิด โลกนี้มันโหดกับพี่ซุปเกินไปล่ะ
ขอบคุณมากครับ ปมปริศนากำลังน่าติดตามเลย 🙂
เป็นได้แค่เพื่อน…สงสารนายเป็นบ้าเลยคล๊าก…
พี่ซุปดราม่าขั้นหนักนะช่วงนี้ น่าสงสารจริงๆ
สังเกตุมือถือที่คนใส่แว่นเอามาถ่ายพี่ซุปสิ ยี่ห้อ pieapple
จะเป็นไปได้มั้ยว่า ปิศาจสองตัวนี้ พอตายก็จะเข้าไปสิงสู่มนุษย์โลกแทน
โอย ดราม่าเข้าไป ชีวิตรักของป๋าซุปนี่ยังอ่าน ยิ่งสงสาร ฮือๆๆๆ T___T
แต่ตัวร้ายคราวนี้ น่าจะรับมือยากวุ้ย
ปริศนาเยอะมาก ๆ + ชีวิตพี่ซุป ดราม่ามาก สงสัย คงไม่ได้ลงเอยกับ ลูอิส เเหง ๆ DC ช่างใจร้ายยิ่งนัก
มือถือนั่นดูเหมือน ไอโฟน แต่เป็นรูปสัปรส มันเป็นโลโก้ของ โปรแกรมเจลเบลกตัวนึงครับ
เป็นไอโฟนที่เจลเบลกแล้ว
superman ชุดนี้ทำให้ผมนึกถึง superman ที่สำนักพิมพ์ nation เอามาพิมพ์ขายเลยมีปริศนา เเละ เรื่องราวที่น่าสนใจมาก ทำต่อไปนะครับสุดยอดเเต่ “กางเกงใน จ๋า”
ซุป รีบูทมีเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักพอสมควร คลากที่ดูเก็บกด ต่างจากคลากคนก่อนที่ดูใสซื่อมองโลกในแง่ดี รู้สึกอะไรๆก็ดูเครียดไปหมดเนอะดีซี