DC Comic : Grifter 02 : Explosive Breakup!
เรื่อง : Nathan Edmonson
ภาพ : Cafu, Jason Gorder
วางจำหน่าย: 12 ตุลาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
เผ่าพันธ์ต่างดาว Daemonites กำลังดำเนินแผนการเงียบเพื่อยึดครองโลก และอาจมีเพียงนักต้มตุ๋นอย่าง Cole Cash เท่านั้นที่จะเป็นความหวังเดียวที่จะขัดขวางแผนการของพวกมันได้ ทว่าคนทั้งโลกกำลังมองว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้าย ทำให้เขาต้องโดนตามล่าทั้งจากพวก Daemonites และรัฐบาลอเมริกาไปพร้อมๆกัน!
.
.
.
เปิดเรื่องมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน New Orleans
“ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมานี่ ฉันได้พยายามเล่นแบบปลอดภัยโดยทำแต่งานต้มตุ๋นเล็กๆน้อยๆ”
“พอฉันลองเล่นงานใหญ่ดู ก็กลายเป็นแบบนี้ไปซะงั้น”
ในขณะที่ Cole Cash กำลังนั่งคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ “เสียง” ที่อยู่ในหัวของเขาก็ยังดังไม่หยุด
{หามันให้พบ…มันไปไหนไม่รอดหรอก…}
{…ไม่มีที่ให้ซ่อน….}
{…หามันให้พบ…}
{…ไม่มีใครหนีเราพ้น…ไม่มี…}
“ฉันต้องพยายามอธิบายให้แฟนสาวของฉันเชื่อว่าเสียงในหัวฉันนี่…เป็นเรื่องจริง”
ในที่สุด Gretchen แฟนสาวของ Cole และเป็นคู่หูในงานต้มตุ๋นก็มาพบเขาตามที่เขานัด แต่เธอดูจะไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่นัก
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ก็มีตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน
“สิ่งที่ทั้งนักต้มตุ๋นและหน่วยรบพิเศษมีเหมือนกันก็คือการที่จะเชื่อสัญชาตญาณไว้ก่อน”
“โดยเฉพาะถ้ามันเคยช่วยชีวิตตัวเราเองมาแล้วล่ะก็ เราจะไม่มีทางมองข้ามมันไปได้อีกเลย”
“บางครั้งมันเป็นแค่ความรู้สึกเย็นสันหลังวาบ”
“บางครั้งมันเหมือนเข็มเย็นๆแทงอยู่ในหัวเรา”
“บางครั้งเราก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่นไปเลย”
“ความแตกต่างระหว่างคนสุจริตกับนักต้มตุ๋น…ระหว่างทหารกับประชาชนทั่วไป…”
“…ก็คือจะทำอย่างไรเมื่อรู้สึกเช่นนั้นขึ้นมา”
ทันใดนั้นตำรวจคนที่เดินเข้ามาก็หันขวับมาทาง Cole
{เจ้าคนที่เราตามหามันอยู่ที่นี่}
Gretchen : มีอะไรหรือโคล?
Cole : เจ้านั่นคือหนึ่งในพวกมัน ผมได้ยินเสียงมัน ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเดี๋ยวนี้ล่ะ
Gretchen : โคล…
ก่อนที่มันจะทันทำอะไร Cole ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อน
ตำรวจA : มีอะไรให้ผมช่วยหรือครับ?
Cole : แกอยากได้ตัวฉันใช่ไหมล่ะ? ฉันอยู่นี่แล้วไง! พร้อมแล้วที่จะเอาคืนกับแกและเพื่อนๆของแกด้วย!
{จะทำอะไรต่อหน้าพวกมนุษย์แบบนี้ไม่ได้ ข้าจะเอามันออกไปข้างนอกร้านแล้วเราค่อยจัดการมัน}
ตำรวจA : ใจเย็นๆไว้ ฉันขอแนะนำให้นายยกมือขึ้นเหนือหัว
ตำรวจA : แล้วนายกับฉันก็ไปคุยกันตามลำพังกันหน่อย
“สัญชาติญาณจะมอบทางเลือกให้สองอย่างเสมอ…สู้หรือไม่ก็หนี”
“แต่บางครั้งคนเราก็เบื่อที่จะหนีเต็มทนแล้วได้เหมือนกัน”
ลงมือก่อนได้เปรียบ Cole ขว้างถ้วยที่ใส่กาแฟร้อนใส่หน้ามัน!
Cole : ฝากบอกพรรคพวกแกด้วยล่ะ…ว่าพวกแกเลือกหาเรื่องผิดคนแล้ว!
ถึงปืนมันจะหลุดมือไป แต่มันก็แสดงพลังระดับเหนือมนุษย์ออกมา แล้วเหวี่ยง Cole ปลิวไปหลังเคาว์นเตอร์
แต่ด้วย Cole ก็มือไวอย่างเหลือร้าย ทันทีที่มันตามเข้ามาเขาก็หยิบกระทะฟาดเข้าที่หัวมันอย่างจัง!
{เจ้ามนุษย์นี่มันสู้กลับ ข้าต้องการกำลังเสริมจากใครก็ตามที่อยู่ใกล้ๆนี่}
ขณะที่มันชะงัก Cole ก็ใช้สิ่งที่อยู่รอบตัวมาใช้สร้างเป็นอาวุธ
เขาเทน้ำมันทอดเบคอน(ทำจากไขมันสัตว์ติดไฟได้ง่าย)ในกะทะใบหนึ่ง แล้วใช้บุหรี่จุดไฟ พร้อมๆกับที่เทผงแป้งลงในกะทะอีกใบ
Cole : ฉันรู้ว่าแกมาที่นี่เพื่อกินอาหาร…
Cole : …เพราะงั้นฉันก็จะไม่ทำให้แกต้องผิดหวังละกัน
ขณะที่มันพุ่งเข้ามา Cole ก็สาดทั้งน้ำมันติดไฟ และผงฝุ่นแป้งออกไปหามันพร้อมๆกัน!
มันเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ง่ายๆ เมื่อมีอนุภาคของฝุ่นผงเช่นแป้งฟุ้งกระจายในอากาศ มันจะติดไฟได้ง่าย และเมื่อมันติดไฟมันก็จะลามไปยังอนุภาคที่อยู่รอบๆต่อกันเป็นลูกโซ่ จนเกิดระเบิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งมันถูกเรียกว่า “ระเบิดฝุ่น”
แต่ขนาดมันโดนระเบิดเข้าเต็มๆก็ยังไม่ตาย แต่ Cole ก็พร้อมรับมืออยู่แล้ว และด้วยการฟาดกะทะเข้าเต็มหน้าเป็นครั้งสุดท้าย…มันก็แน่นิ่งไปในที่สุด
เมื่อเห็นว่าศัตรูล้มลงไปแล้ว Cole ก็หันไปหา Gretchen
Cole : เอาละเกรต ไม่กันเถอะ ยังมีเจ้าพวกนี้อยู่อีกข้างนอกนั่น! เราจะต้อง…
แต่ Gretchen กลับหันปืนใส่เขา
Gretchen : ไม่ล่ะ! ฉันไม่เอากับนายด้วยแล้ว ถอยไปซะ
Cole : นี่คุณทำอะไรน่ะ?
Gretchen : นายมันฆาตกร!
Cole : คุณไม่เข้าใจ! มันไม่ใช่ตำรวจ มันเป็น…
Gretchen : ลาขาดล่ะโคล อย่าตามฉันมาเชียวล่ะ
เมื่อ Gretchen ออกจากประตูไปแล้ว Cole ก็เห็นรถตำรวจเปิดไซเรนมาจอดหน้าร้านที่พังพินาศ
Cole : นี่ต่างหากตำรวจน่ะ
ว่าแล้ว Cole ก็ปั้นหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว แล้วเดินออกไปหาตำรวจที่มาใหม่
Cole : ขอบคุณพระเจ้าที่คุณมานะครับคุณตำรวจ!
Cole : เราต้องการความช่วยเหลือ…คนร้ายมันอยู่ข้างในนั้น! มันจุดไฟแล้วก็…
แต่เมื่อตำรวจเผลอ Cole ก็รวบแขนเขาแล้วเอาหน้ากระแทกพื้นจนน็อคคาที่ทันที
Cole : ขอโทษทีนะพวก ฉันก็ปวดใจที่ต้องทำแบบนี้กับนายเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วละ
“…และฉันก็ต้องขอปลอดภัยไว้ก่อน”
เมื่อขึ้นที่นั่งคนขับของรถตำรวจ Cole ก็หยิบหน้ากากผ้าออกมาสวม แล้วก็ออกรถไปทันที
ตัดมาที่ Pentagon อาคารสำนักงานใหญ่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา
Sergeant Brook : ผู้พันคะ มีบางอย่างที่ฉันอยากให้คุณดูค่ะ
Sergeant Brook : ฉันพบมันในเทปบันทึกการก่อการร้ายบนเครื่องบินที่นิวออร์ลีน
Colonal : ให้ฉันดูซิ
Sergeant Brook : มีกล้องเพียงตัวเดียวบนเครื่องบินลำนั้ ทำให้มุมมองของเราโดนจำกัด ฉันเลยดูอย่างละเอียดทีละเฟรม
Sergeant Brook : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกมันว่ายังไงดี
Sergeant Brook : นี่คือภาพหลังจากที่เขาฆ่าผู้โดยสาร
Sergeant Brook : ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่ง…
ในภาพนั้น มีเงาสีฟ้าลอยออกมาจากร่างของผู้โดยสารที่โดนสิง
Colonal : นั่นมันอะไรกัน?!
Sergeant Brook : ฉันก็ไม่รู้ค่ะผู้พัน ตอนแรกฉันนึกว่ามันเป็นแค่สัญญาณภาพไม่ดี แต่…มันยังกับเป็นมีรังสีบางอย่างแผ่ออกมาจากร่างของผู้ตาย แต่มันดูคุ้นตามาก มันเหมือนกับภาพที่อยู่ในไฟล์ลับเลยค่ะ
Colonal : พรินท์ภาพนี้อออกมาให้ฉันหน่อย แล้วก็วิเคราะห์ภาพนี่ด้วย ดูว่าเราจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ไม่ว่าจะเสียง หรืออินฟราเรดก็ได้…
Colonal : …แน่ใจว่าพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นไม่รู้เรื่องนี้นะ?
Sergeant Brook : ทางกรมป้องกันประเทศบอกพวกเขาไปว่าเป็นความขัดข้องของกล้องค่ะ
Colonal : ดีแล้ว ฉันจะติดต่อไปที่คนของเราด้วย เขาน่าจะเข้าถึงเป้าหมายในเร็วๆนี้
Colonal : จ่าบรู๊ค อย่าบอกเรื่องที่คุณเห็นนี่กับใครเป็นขาดล่ะ ให้ถือว่านี่เป็นเรื่องลับสุดยอด
Sergeant Brook : ค่ะท่าน
เมื่อเดินออกมาจากห้อง ผู้พันก็โทรศัพท์หาใครบางคน
Colonal : โอเว่น ฟังนะ เราต้องมาพบกันหน่อยแล้วล่ะ…ฉันพบเห็นเจ้าพวกนั้นเข้าอีกครั้งแล้วล่ะ
ตัดมาที่ Gretchen เธออยู่ที่สถานีรถไฟ New Orleans Amirah
เธอชนเข้ากับตัวประกอบคนหนึ่งเข้า แต่เมื่อนายพลเมืองดีช่วยเธอเก็บของที่ตกลงพื้น เธอก็ฉวยโอกาสขโมยกระเป๋าเงินของเขามาซะ!
(ไม่ค่อยจะเลวเท่าไหร่เลยนะแม่คุณ)
ขณะที่พลเมืองดีผู้โชคร้ายยังไม่รู้ตัวว่าโดนเล่นเข้าให้แล้ว Gretchen ก็ได้รับสายเรียกเข้าจาก Cole
Gretchen : ฉันพูดชัดเจนแล้วนะโคล ลาขาดล่ะ
ว่าแล้ว Gretchen ก็ขึ้นรถไฟไป ซึ่งจุดหมายปลายทางก็คือ…Gotham City!
(ขอให้โชคดีละกันเจ๊…)
ตัดมาที่ Cole ที่ตอนนี้กำลังบึ่งรถตำรวจที่ขโมยมาไปตามถนน
ทันใดนั้นล้อของรถก็โดนยิงจนระเบิด
“บางครั้งสัญชาติญาณก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย”
รถเสียการควบคุมและพลิกคว่ำตกออกนอกถนน
“บางครั้งเรื่องเฮงซวยมันก็เกิดขึ้นมาได้”
“แต่มันมักไม่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ”
เป็นจริงตามที่เขาคาดไว้ มือปืนที่ยิงยางของเขาเดินมาดูผลงานที่ทำไป
??? : ลงไปนอนให้นับซะแล้วเรอะ โคล แคช?
“ลงไปนอนก็จริง…แต่ยังไม่หลับหรอก”
??? : อย่าเชียวนะโคล! ทิ้งปืนซะ!
Cole ปืนออกมาจากรถแล้วยิงใส่มือปืน…แต่ราวกับว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเล็ง เพราะที่เขายิงไปนั้นมันโดนพื้นเบื้องหน้าของมือปืนทั้งสิ้น ในขณะที่มือปืนก็ยิงสวนใส่เขา ซึ่งก็ไม่โดนตัวเขาเช่นกัน
Cole : ฉันรู้ว่าเป็นนายน่าแม็กซ์ ฉันเห็นนายตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว
ที่แท้มือปืนที่ยิงยางรถเขาก็คือ Max Cash น้องชายของ Cole นั่นเอง!
Cole : และฉันก็รู้ว่าฝีมือนายไม่ตกขนาดนั้นแน่ ฉันรู้ดี ฉันสอนนายยิงปืนมากับมือนี่นะ
ว่าแล้ว Cole ก็รัวปืนออกไปสามนัดซ้อนจนกระสุนหมดโม่
Max : ครั้งนี้นายเป็นฝ่ายผิดนะโคล ฉันเสียใจด้วย และฝีมือของนายก็ตกไปมากเลยด้วย
แต่เมื่อ Max กดไกปืนปืนกลับยิงไม่ออก!?
เขามองไปที่ปืน และเห็นว่ากระสุนของ Cole ทำลายรางเลื่อนลูกกระสุนของเขาไปแล้ว!
Max : บ้าเอ๊ย ลูกเล่นเยอะจริงนะ
และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง Cole ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
Max : ไม่เอาน่าพี่ชาย! อย่าให้ฉันต้องตามล่านายเลย! นายก็รู้ว่าฉันไม่ปล่อยให้นายหนีพ้นมือฉันไปได้หรอก!
ทั้งพวก Daemonites และน้องชายของเขาต่างก็ตามล่าเขา อีกทั้งตอนนี้คู่หูของเขาก็ทิ้งเขาไปแล้วด้วย สถานการณ์ของ Cole ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ เขาจะพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่?
โปรดติดตามตอนต่อไป : เมื่อพี่น้องต้องมาต่อสู้กันเอง!
พระเอกซวยไป
มีแต่คนตามล่า
แล้ว ตัวผู้หญิงมีไปมีอะไรเกี่ยวกับ ก็อธแธมไหมเนี่ย เฮ้อ
น่าสงสารนะเเต่เมื่อไรจะสู้ลุ้นลุ้นไปเลยว้าหนีอย่างเดียว
หวังว่าคงเจอตัวละครในตระกูลค้างคาวซักคนน่ะ
ตัวเอกฉลาดดีเเหะ
มันแหะ
พระเอกมันเก่งจริงๆ แต่ดันซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ
เล่มหน้าต้องมาฟัดกับน้องรักซะอีกแหน่ะ!!
ขอแก้นิดนึงครับ คนที่ออกมาบอกตำรวจที่ร้านอาหารเป็น Cole นะครับ ไม่ใช่ Gretchen
@Sh@d0W_Fi[G]uRe:
แก้เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากครับ