BATGIRL #2
เรื่อง : GAIL SIMONE
ภาพ : ARDIAN SYAF และ VICENTE CIFUENTES
วางจำหน่าย: 12 ตุลาคม 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
บาร์บาร่าจะรอดหรือไม่เมื่อต้องรับมือทั้งตำรวจและวายร้าย
..
มิเรอร์: ราตรีสวัสดิ์สาว ๆ แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้
สายเกินไป ฉันช้าเกินไป!
เมล: แก… ไอ้ชาติชั่ว แกฆ่าคู่หูฉัน!
สายเกินไปที่คิดจะช่วยตำรวจผู้น่าสงสารที่กองอยู่บนพื้นนั่น ฉันตัวแข็งตอนที่เขาจ่อปืนใส่ แถมฉันยังช่วยเหลือหัวโจกแก๊งบริสบี้ที่ถูกจับโยนลงไปทั้งเตียงไม่ทันอีกต่างหาก
เมล: แบทเกิร์ลอาจกลัวแก แต่ฉันไม่แน่นอน…
มิเรอร์: แขนคุณหมดสภาพแล้ว คุณตำรวจ
มิเรอร์: และชื่อคุณไม่ได้อยู่ในบัญชี
มันจ่อปืนตรงจุดเดียวกับที่โจ๊กเกอร์ยิงฉันเมื่อสามปีก่อน แล้วฉันก็กลัวจนตัวแข็ง
เมล: หยุดเลยแบทเกิร์ล เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!
บาร์บ: ขอโทษนะคุณนักสืบ
จะให้มันเกิดขึ้นอีกไม่ได้!
ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ไปไม่ทันก่อนเขาจะสังหารคู่หูของคุณ
แต่ฉันจะไม่ยอมให้เขาหนีไปซุกหัวในนรกขุมไหนได้อีก
หมอนี่ตัวใหญ่แถมยังแกร่งอย่างกับวัวชน ฉันยอมรับเลยว่าเขาทำให้ฉันกลัว ฉันหวังว่าลวดสลิงของฉันยาวพอที่จะตามเขาทัน เขาคือฆาตกรเลือดเย็น เมื่อเทียบกับฉันที่ว่างเว้นจากงานซุปเปอร์ฮีโร่มาหลายปี ฝีมือย่อมเทียบกันไม่ได้
แต่มีสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันได้เปรียบ นั่นก็คือเขาไม่คิดว่าฉันมีเขี้ยวเล็บ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ระวังฉันที่ไล่ตามมา
อ้าวเฮ้ย นายเบรคร็วเกินป๊ายยยยยยย
โอ๊ย แย่เลย ถ้าฉันตกลงไปตาย คุณพ่อจะทำหน้ายังไงกัน?
เหมือนงานนี้จะหนักเกินไปสำหรับสาวน้อยที่เพิ่งลุกจากรถเข็น ฉันไม่น่ารีบออกปฏิบัติการเลย
มิเรอร์: ผมตายแบบนี้ไม่ได้!
บาร์บ: นายเล่นมุกใช่มั้ย? ที่จริงนายไม่น่าจะฆ่าตำรวจเล้ย เพื่อน
บาร์บจึงยื่นมือไปให้มิเรอร์เกาะ
บาร์บ: อ่ะ มา มา เอื้อมหน่อย
มิเรอร์: คุณไม่เข้าใจหรอก ผมไม่ได้ตายที่นี่
มิเรอร์: คุณต่างหากล่ะที่ต้องตาย คุณมีรายชื่ออยู่ในบัญชี
นี่แหละน้า ทำดีไม่ได้ดี ให้ตายเถอะ หมอนี่เกือบทำให้ฉันไหล่หลุด
มาลองกันหน่อย นี่น่าจะได้ผล
บาร์บยิงตะขอเกี่ยวไว้และเหวี่ยงตัวลงมา ทว่าเธอพลาดพุ่งเข้าชนรถเต็ม ๆ
ทีนี้ ถ้ายังขยับไหว ฉันขอตบหน้าตัวเองแรง ๆ สักทีเถอะ
แท็กซี่: ดูที่เธอทำกับรถฉันเซ่!!
บาร์บ: หนูก็เจ็บซี่โครง ถือว่าเจ๊ากันแล้วกันค่ะ
แท็กซี่: เธอคือไอ้พวกขบวนการค้างคาวนี่นา! แทนที่จะร่อนไปแล่นมาอย่างกับผีดิบ ทำไมเธอไม่เอาเวลาไปจัดการไอ้ลูเธอร์ที่เมโทรโปลิศแทนล่ะหา
บาร์บ: ขอโทษค่า ขอโทษ
เฮ้อ ฉันไล่ตามต่อจากจุดที่ฉันเข้าชาร์จเขาแบบมืออาชีพ แต่ก็ไม่เจออะไรเลย
กลับมาที่โรงพยาบาล
เมล: ฉันต้องไปแล้ว ไม่ต้องยุ่งกับฉันตอนนี้ หมอ
หมอ: แต่คุณครับ ผมขอบังคับให้คุณนั่งเฉย ๆ ก่อน… เราต้องตรวจร่างกายคุณ
เจ้าหน้าที่: เถอะน่า นักสืบเมล อย่าดื้อแล้วปล่อยให้เขาตรวจไปเถอะ
หมอ: ผมต้องตรวจให้แน่ใจว่า…
เมล: ไปห่าง ๆ ฉันเลย
เจ้าหน้าที่: เมลอย่าทำตัวแบบ…
“นักสืบแม็คเคนน่า”
เจ้าหน้าที่: เอ่อ สารวัตรกอร์ดอน… ตอนนี้นักสืบแม็คเคนน่าเขา…
กอร์ดอน: ตรวจร่างกายอยู่ใช่มั้ย?
เมล: ท่านคะ คู่หูดิฉัน… เขาเป็นคนดีมาก
กอร์ดอน: ใช่แล้ว ดั๊กลาส พอลสันเป็นคนดี และผมก็ไม่อยากจะเสียตำรวจดี ๆ ไปอีกคนหนึ่ง คุณมีสิทธิ์ขอลาพักและถ้าคุณต้องการ คุณสามารถทำเรื่องย้ายไป…
เมล: ย้ายเหรอ? หลังจากที่ไอ้กระจั๊วนั่นฆ่าคู่หูดิฉัน… ไม่ล่ะค่ะท่าน ฉันไม่ย้าย
กอร์ดอน: ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น เรื่องนักสืบพอลสันทิ้งให้เป็นหน้าที่ซีเอสไอเถอะ ตกลงมั้ยนักสืบแม็คเคนน่า?
เมล: ท่านคะ เราต้องออกหมายจับอีกใบ…
“…ไว้ให้แบทเกิร์ล เพราะธอกลับมาแล้ว”
สุสานฮอลโลว์… ห่างออกไปไม่กี่ไมล์ สถานที่สุดพิเศษในก็อทแธมที่จะรับเฉพาะคนพิเศษ
… และคนตายเท่านั้น
มิเรอร์: ผมได้ยินเสียงลมหายใจของคุณ แบทเกิร์ล ผมคิดว่าคุณคงไม่ได้พกดอกไม้ไฟมาด้วยใช้มั้ย?
บาร์บ: ไม่
มิเรอร์: เสียดายจังเลย
บาร์บ: คิดจะเล่นดอกไม้ไฟกลางฝนรึไง? นี่นายคงไม่ได้เดินผ่านมาเฉย ๆ สินะ
มิเรอร์: ไม่
บาร์บ: งั้นก็น่าเสียดาย
ที่นี่คือสุสานเดียวกลางกรุงก็อทแธมที่ยังไม่ถูกรื้อ ถึงแม้เจ้าของที่จะอ้อนวอนอย่างจริงใจให้ขุดร่างข้างใต้ไปฝังที่อื่น เพราะพวกเขาต้องการห้างหรือที่จอดรถมากกว่า
แต่คนทั่วไปไม่คิดอย่างนั้น พวกคนรวยก็ไม่อยากย้ายคนที่เขารักไปฝังที่ไหน ส่วนคนจนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่พวกเขามีพลังในการเรียกร้องทำให้มันไม่เกิดขึ้น
แม้แต่ที่แบบนี้ ยังเกี่ยวพันกับระบบชนชั้นที่ครอบงำก็อทแธม… แต่ เฮ้! ทำไมฉันต้องมาล้มลุกคลุกคลานกับหมอนี่ด้วยนะ
ฉันช้าไปอีกแล้ว
เล่นเอาจุกจนพูดไม่ออกเลย
จะโดนอีกไม่ได้
ถึงเป็นเกราะเคฟล่า แต่หมัดเมื่อกี้ทำให้เกือบน็อคแน่ะ
บาร์บ: ทำได้… ได้แค่นี้เองเหรอ พ่อเด็กโข่ง?
มิเรอร์: อย่าเรียกแบบนั้น โปรดเรียกชื่อของผม
“มิเรอร์!”
ฉันสวมผ้าคลุมตระเวณอยู่ในเมืองนี้มานาน พ่อฉันก็เป็นตำรวจ ฉันเคยเห็นพวกโรคจิตสไตล์ก็อทแธมมาจนเอียน แต่หมอนี่ต่างไป… เขาทำตัวราวศาสดาที่ได้รับบัญญัติพระเจ้าซึ่งเขาเองเท่านั้นที่อ่านออก
มิเรอร์: เห็นรึยัง? เห็นใบหน้าที่แท้จริงรึยัง?
บาร์บ: นายอยากเป็นลูกบอลดิสโก้รึไง?
เขาไม่สะเทือนเลยสักนิด บางทีเขาอาจเป็นผีร้ายตัวจริง แต่ฉันจะเสียขวัญแบบนี้ไม่ได้ คืนนี้ฉันต้องรอด พรุ่งนี้ฉันมีเดท
เขาไวปานวอก แถมยังถึกแสนถึก ฉันจะโดนโจมตีอีกไม่ได้ ไอ้หมัดเมื่อกี้ทำให้ฉันรู้สึกเสียดายมื้อเย็นที่เพิ่งกินเข้าไปเหลือเกิน แต่ฉันโต้คืนแบบนั้นไม่ได้เลย ฉันไม่ใช่แบทแมน ฉันไม่มีกำลังพอจะล้มไอ้ยักษ์นี่ได้ แต่ที่ฉันมีคือสมอง
บาร์บโดดเข้าไปล้วงคองูเห่า!
ฉันมีโอกาสเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์
บาร์บ: เอาล่ะ ฉันอาจล้มนายไม่ได้ แต่ฉันมีข้อเสนอ
หวังว่าฉันจะจับจุดอ่อนมันถูก
บาร์บ: นายว่าฉันควรทำยังไงกับกระดาษแผ่นนี้ของนายดี?
ที่แท้ บาร์บล้วงเอากระดาษรายชื่อของมิเรอร์ออกมานั่นเอง!
มิเรอร์: แกไม่สิทธิ์! แกดูมันไม่ได้!
แล้วเราก็ได้ยินเสียงไซเร็น ท่าทางพวกเขาจะเห็นเราจากภาพถ่ายทางดาวเทียม
อย่างที่บอกที่นี่เกี่ยวพันกับพวกนายทุนเสมอ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงจากไป
ฉันไม่คิดจะไล่ตาม ในเมื่อจะขยับตัวยังยากเลย
ไม่รู้ว่าฉันแบกสังขารกลับมาที่รถตู้ของฉันได้ยังไง มอเตอร์ไซค์ของฉันคงโดนกรมตำรวจก็อทแธมยึดไว้แล้ว แต่ฉันก็ไม่ลืมเปลี่ยนชุดหรอกนะ ฉันไปโรงพยาบาลไม่ได้ จะกลับบ้านไปเจอพ่อในสภาพนี้ก็ไม่ได้ ฉะนั้นกลับมาที่ห้องเช่าใหม่น่าจะเข้าท่าที่สุด
อลิเซีย: นั่นใครอยู่นอกประตูน่ะ ฉันมีไม้นะ… กอร์ดอนรึเปล่า?
ถึงตอนนั้นฉันก็หมดสติไปแล้ว
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาในวันต่อมา
บาร์บ: ที่นี่ที่ไหน?
อลิเซีย: ห้องฉันน่ะสิ กอร์ดอน บาร์บาร่า กอร์ดอน… ฉันทำแผลที่ซี่โครงให้แล้ว เธอคงไม่เป็นอะไรมาก
อลิเซีย: ฉันให้เวลาเธอแค่นาทีเดียว ฉันไม่ได้ตาบอดและไม่ได้โง่ด้วย บอกมาว่าใครทำร้ายเธอก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจ ใช่ฝีมือแฟนเธอรึเปล่า?
อลิเซีย เยโอห์ เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของฉัน เธอเป็นคนดีกว่าที่เห็นทีแรก
บาร์บ: ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก อลิเซีย ฉันอยากจะบอกเธอจริง ๆ นะ…
อลิเซีย: แต่เธอก็จะไม่บอกใช่มั้ยล่ะ?
บาร์บ: สาบานเลยว่าฉันไม่ใช่อาชญากรหรอกนะ และฉันก็ไม่ได้โดนทำร้ายมาด้วย
อลิเซีย: กอร์ดอนฉันพูดตรง ๆ นะ ถ้ามีใครทุบตีเธอ ฉันไม่ยอมนั่งดูอยู่เฉย ๆ หรอกนะ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นเข้าใจมั้ย?
บาร์บ: ชัดแจ๋วเลย
อลิเซีย: ทีนี้เก็บความลับเอาไว้ ฉันรู้ว่าเราก็มีกันทุกคนแหละ
อลิเซีย: เดี๋ยวต้มบะหมี่หลักซาให้ น้ำแกงมันรสเยี่ยมเลยล่ะ
บาร์บ: ฉันเคยกินแล้วค่ะ
อลิเซีย: แต่ไม่เด็ดเท่าสูตรของแม่ฉันแน่ ๆ สูตรนี้เคยทำให้คนตายลุกมาเต้นมูนวอล์คเชียวนะ
บาร์บ: เอ่อ อลิเซีย… ขอโทษนะ พอมีเสื้อผ้าน่ารัก ๆ ให้ฉันยืมใส่หน่อยรึเปล่า?
อลิเซีย: เจอหน้ากันครั้งที่สอง เธอก็ทำให้ฉันงงไปหมดแล้ว
คุณรู้มั้ย? น้ำแกงของเธอได้ผลจริง ๆ นะ
บาร์บ: ก็ใช่ แต่คำถามคือคุณชอบชุดนี้จริงอ่ะ?
เกรเกอร์: ผมเป็นชายที่ปากตรงกับใจนะ บาร์บาร่า ใช่แล้วล่ะผมชอบชุดนี้ของคุณ
เกรเกอร์: ผมไม่เคยเห็นคุณแต่งตัวสไตล์นี้มาก่อนเลย
บาร์บ: ชุดเก่า ๆ นี่อ่ะนะ ฉันก็ใส่อยู่ตลอดนี่
หน้าอายชะมัด ทำไมฉันถึงแต่งตัวแอ๊บเด็กแบบนี้เนี่ย
ฉันคิดจะแชร์ค่าอาหาร แต่เขาบอกจะจ่ายเองเพราะเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษ
เกรเกอร์: มันดูไม่ดีเลยนะที่คุณมาเดทกับนักกายภาพบำบัดของตัวเองแบบนี้
บาร์บ: คิดงั้นเหรอ?
เกรเกอร์: ไม่เกี่ยวกับจรรยาบรรณหรอกนะ บาร์บาร่า แต่หัวหน้าของผมคิดว่า..
บาร์บ: ฉันต่างหากหัวหน้าของคุณ แต่ถึงยังไงพอเราแต่งงานกันแล้วมีลูกถึงแปดคน ฉันก็คงต้องจ้างนักกายภาพบำบัดคนใหม่อยู่ดี
เกรเกอร์: คุณชวนผมมาเดท จะไปไหนกันดี?
บาร์บ: คุณเป็นผู้ชายนะ คุณต่างหากต้องนำฉัน แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากไปสวนสาธารณะ
เกรเกอร์: บาร์บาร่า… บาร์บ ถามหน่อยสิ ทำไมคุณดูไม่ค่อยสนใจ… เรื่องที่หายดีและคุณกลับมาเดินได้เลยล่ะ?
บาร์บ: เพราะฉันโกหกคุณเรื่องหนึ่ง เกรเกอร์
เกรเกอร์: จริงหรือครับ?
บาร์บ: ใช่ ที่จริงแล้วฉันไม่เคยใส่ชุดแบบนี้มาก่อนในชีวิต… นั่นฉันล้อเล่น ที่จริงฉันเป็นพวกวิมัตินิยมน่ะ ฉันไม่เชื่อในปาฏิหารย์ และถ้ามีใครสักคนนั่งแจกจ่ายปาฏิหารย์จริงล่ะก็… ฉันก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉัน
เกรเกอร์: แต่มันเกิดขึ้นกับคุณ บาร์บ และไม่ใช่แค่กับคุณคนเดียว
บาร์บ: ฉันรู้ แต่ถ้าอย่างนั้นทำไมความไม่เข้าใจถึงทำให้ฉันโศกเศร้า… และเจ็บปวดกันล่ะ?
เกรเกอร์: เพราะบางทีคุณต้องเชื่อในพระเจ้าบ้าง… คุณเป็นคนเก่ง บาร์บ และคุณเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าใคร ๆ …
“คุณจะพบคำตอบเอง เชื่อผมสิ”
..
บาร์บ: อรุณสวัสดิ์ก็อทแธม เช้านี้ช่างสดใส
ควรจะออกกำลังกายสักนิด ก่อนจะต้องเสียเวลาอีกหลายชั่วโมงในห้องสมุด ฉันต้องหาข้อมูลอะไรสักหน่อย
มิเรอร์คงไม่ได้ไปสุสานเพื่อเดินเล่นกินลมชมวิว ที่นั่นต้องมีสิ่งที่สำคัญกับเขา เขาไปเยี่ยมหลุมศพใครสักคน
เขาพูดถึงดอกไม้ไฟ ดูเหมือนไฟจะสำคัญสำหรับเขา… ฉันนั่งแช่อยู่ในห้องสมุดเพื่อค้นหาชื่อผู้เสียชีวิตด้วยเหตุเพลิงไหม้และถูกฝังไว้ที่สุสานฮอลโลว์
บาร์บ: แต่ดูเหมือนฉันจะเดาผิดใช่มั้ย มิเรอร์?
ฉันเกือบลืมไปแล้วว่าฟ้าหลังฝนของก็อทแธมมันสวยเพียงใด
…
ฉันคว้าน้ำเหลวเข้าเต็มเปา ไม่มีใครตายเพราะเหตุเพลิงไหม้สักคน
ฉันจึงใช้วิธีย้อนกลับ ด้วยการตรวจข้อมูลศพใหม่ ๆ ที่ถูกฝังในฮอลโล่ว์ และค้นหารายชื่อผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลประโยชน์และมีประสบการณ์ทางการทหาร
“โป๊ะเชะ!”
..
[วีรุบรุษสงครามรอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนในช่วงวันหยุด]
ทราบชื่อเหยื่อจากเหตุการณ์รถชนที่สะพานอ่าวก็อทแธมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว อุบัติเหตุดังกล่าวได้คร่าชีวิตแชนดร้า มิลส์ ภรรยาสาวทายาทเจ้าสัวใหญ่แห่งวงการธุรกิจอาหารและลูกสาวแฝดวัยสี่ปีของเธอทั้งคู่ ส่วนผู้เป็นบิดา โจนาธาน มิลส์ รอดชีวิตออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ทางผู้สื่อข่าวหลายสำนักเชื่อว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้มีเจ้าพ่ออาชญากรรมของเมืองก็อทแธมอยู่เบื้องหลัง ทางสารวัตรกอร์ดอนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ
เขามีทักษะชั้นเยี่ยม เมียก็มีเงินมรดกเป็นกระตัก และทั้งครอบครัวก็ตายเพราะไฟคลอก
บนกระจกเดินสายไฟเอาไว้ แต่ก็แค่ระบบเตือนภัยธรรมดา ไม่น่าซีเครียดเท่าไหร่
บาร์บ: มีใครอยู่มั้ยเอ่ย?
ที่จริงก็มีวิธีเข้ามาที่นุ่มนวลกว่านี้
ถึงที่นี่จะไม่ยินดีต้อนรับเราเท่าไหร่… แต่ก็ไม่น่าเตรียมอาวุธไว้เยอะขนาดนี้เลยนี่นา
อาวุธทั้งหมดนี้ราคารวมกันไม่ต่ำกว่าแสนดอล แต่ทำไมหมอนี่ถึงใช้สัญญาณเตือนภัยถูก ๆ ล่ะ
“แบทเกิร์ล”
ภาพของมิเรอร์ฉายขึ้นมาบนจอภาพ!
บาร์บ: มิเรอร์!
มิเรอร์: คุณเห็นบัญชีรายชื่อแล้วสิ
บาร์บ: เห็นแล้วล่ะ มีชื่อฉันด้วยนี่นา
ในนั้นมีชื่อของฉันทั้งสองฐานะเลย ชื่อพ่อของฉันด้วย รวมทั้งครอบครัวออเตก้าที่ฉันช่วยจากเงื้อมมือของแก๊งบริสบี้ ในนั้นมีแต่ชื่อของคนที่ควรจะตายไปแล้ว แต่ก็รอดชีวิตมาได้ด้วยเหตุบางอย่าง
มิเรอร์: คุณทำให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของแผนแล้ว คุณต้องเป็นพยาน
บาร์บ: ฉันรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณมิลส์… ฉันรู้เรื่องครอบครัวของคุณแล้ว
มิเรอร์: จริงหรือครับ? รู้เรื่องครอบครัวของผมด้วยหรือครับ?
ครอบครัวของผมตายในอ้อมแขนของผม
ผมเห็นลูกสาวทั้งคู่ร่างแหลกเหลวผ่านกระจกมองหลังของตัวรถ
ผู้คนมากมายอ้อนวอนขอปาฏิหารย์
ช่างเป็นโศกนาฏกรรมแห่งมนุษยชาติจริง ๆ
พวกเขาไม่ควรอ้อนวอนร้องขอให้รอดชีวิต
เพราะที่จริง ปาฏิหารย์คือมุกตลกร้ายของพระเจ้า
“ปล่อยผมเซ่! ไม่! ปล่อยให้ผมตายพร้อมพวกเขา!”
พระเจ้า เขาไม่ได้คิดจะฆ่าใคร แต่เขาคิดจะตายต่างหาก
มิเรอร์: คุณเป็นส่วนหนึ่งแล้ว ผมจะให้คุณดูอะไรหน่อย
มิเรอร์: ผู้ชายคนซ้ายมือของรูปชื่อรูเพิร์ท อันเซล เขาควรจะตายไปแล้วจากอาการเบาหวานกำเริบบนทางรถไฟทางขวามือของอพาร์ทเมนต์แห่งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะความอยากเป็นฮีโร่แบบผิด ๆ ของพ่อหนุ่มทางขวามือ เขาก็คงตายไปแล้วล่ะครับ
ทุกเช้าเขาจะนั่งรถไฟคันเดิมไปทำงาน วันนี้ผมจึงเอาระเบิดไปฝากไว้บนนั้นเพื่อช่วยสงเคราะห์เขาอย่างปราณี
บาร์บ: ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้นสิ! ฟังนะ ฉันอ่านข้อมูลของคุณ คุณคือวีรบุรุษ! คุณเป็นคนดีนะ!
“ไม่”
“คนดีที่ว่าได้ถูกไฟคลอกตายในรถไปพร้อมครอบครัวของเขาแล้ว”
..
“แล้วคุณจะเห็นเอง”
“เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ไฟจะลุกท่วม ปาฏิหารย์ทั้งหลายจะสูญสิ้น”
..
“แล้วคุณจะเห็นเอง”
..
..
แฟนใหม่จงออกไป! กิ๊กเก่ากลับมาแล้ว!
ตอนต่อไป:
NIGHTWING!
นึกว่าจะไม่มาซะเเล้วนะพี่ดิ๊ก 5555555
เฮ้อ มาเจอวายร้ายที่เป็นโรค God Complex แบบนี้นี่นับว่าเป็นการคืนวงการที่ไม่สวยเลยนะเนี่ย Barbara
รอดิ๊กเทิร์นแบ็ค! กิ๊กเก่าจงกลับมา!
ดูแล้วเหมือนกลับมาคราวนี้ทาง บาบาร่าจะดูอ่อนลงไปหน่อยมีผิดพลาดหลายอยู่แฮะ
ตอนต่อไป
Nightwing <—–มันต้องแบบนี้เซ่!!!!!
Barb นี่เจอศึกหนักตั้งแต่ต้นเรื่องเลยวุ้ย แอบเครียดแทนเลย
แต่เล่มนี้แอบฮาตรง "ซุปที่ทำให้คนตายลุกมาเต้นมูนวอล์คได้" 5555+
เจอกับคนสนิทเก่า อย่างดิค ดีกว่านะเชื่อเหอะ บาบาร่า
ดูเหมือนร่างกายเธอยังไม่สมบูรณ์ ตามเนื้อเรื่องก่อนรีบูธเลยนะ
เพราะเพิ่งจะลุกขึ้นมาเดินได้นี่เอง
ไอ้ผู้ร้ายที่เล่าแผนตัวเองนี่ยังไม่หมดไปซักทีนะ – -“
@NetNN รู้สึกเหมือนกันเลยครับ แค่ศัตรูคนแรกแต่ดูบาร์บจะรับมือลำบาก
@genesis เหมือนโดนลดอายุแล้ว ความสุขุมแบบออราเคิ่ลจะหายไป T T
@_V_ วายร้ายสไตล์คลาสสิคครับ 555
นับวันรอบาร์บกับแฟนใหม่เลิกกัน
ดิ๊กกลับมาอย่างนี้ มีหวังเกรเกอร์ตกกระป๋องแหง ๆ 555
แฟนใหม่จงออกไป! กิ๊กเก่ากลับมาแล้ว! 55555 คมๆ
สงสัยมาก ใครรู้ช่วยตอบหน่อย มิเรอร์รู้ไหมว่า batgirl คือคนเดียวกันกับ barb เพราะถ้าจำไม่ผิด ในตอนแรกมีชื่อ barb อยู่ แล้วในเล่มนี้มิเรอร์พูดว่า batgirl มีชื่ออยู่ใน list
@bluewing_a23 ไม่รู้ครับ ในลิสต์รายชื่อมีทั้งชื่อบาร์บและแบทเกิร์ลอยู่ทั้งสองชื่อเลยครับ แปลว่ามิเรอร์เข้าใจว่าเป็นคนละคนกัน