LEGION LOST #2
เรื่อง : FABIAN NICIEZA
ภาพ : PETE WOODS
วางจำหน่าย: 12 ตุลาคม 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics
พบแล้ว! ผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์คนแรก!
..
เมืองน้ำตกเร้ดเลค, มินเนสโซต้า
77 ชั่วโมงหลังเชื้อแพร่กระจาย
ในงานศพของหมอและพยาบาลจากเล่มแรก
..
“ยี่สิบสี่คนได้จากเราไป พวกเขาอาจเป็นพ่อและแม่ พี่และน้อง สามีและภรรยาของใครมากมาย”
“คุณหมอและพยาบาลเหล่านี้ แลกชีวิตเพื่อช่วยชีวิต”
ถึงแม้ผมจะบินอยู่สูงครึ่งมาเกือบครึ่งไมล์สฺแต่ผมยังสัมผัสความเครียดเคร่งได้
..
ชายคนหนึ่งในงานศพมองดูรูปภาพผู้เสียชีวิตอย่างโกรธแค้น สองตาของเขาเรืองแสงสีแดง!
ผมเห็นทิมเบอร์ วูล์ฟดูร้อนรน ไม่รู้เพราะเขาได้กลิ่นผิดปกติ… หรือเพราะเขากำลังกระอักกระอ่วนกับความสูญเสียนี้เช่นเดียวกับเราที่เหลือ
ความสูญเสียของพวกเขาเป็นความผิดของพวกเรา… ถ้าเกิดสมาพันธ์เหล่ายอดมนุษย์สามารถหยุดยั้งเหตุการณ์กวาดล้างต่างดาวในอนาคตได้ล่ะก็… ชายคนนั้นก็คงไม่ต้องสูญเสียน้องสาว… จะไม่มีความโศกเศร้าที่แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง
เมื่อไร้ความเกลียดชัง อลาสเตอร์ก็ไม่ต้องย้อนเวลากลับมาก่อหายนะ
เราย้อนเวลากลับมาที่นี่เพื่อหยุดยั้งการติดเชื้อ… และพยายามชดเชยบาปที่ก่อ
(*หมายเหตุ: คาดว่าเหตุกวาดล้างพวกต่างดาวในอนาคตหมายถึงเหตุการณ์เดียวกันกับเหตุการณ์ที่ เอิร์ธแมน ปกครองโลกและขับไล่มนุษย์ต่างดาวออกไปจากโลก จากคำพูดของอลาสเตอร์แปลว่าน้องสาวของเขาเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน)
ที่แท้ทิมเบอร์ วูล์ฟกำลังสงสัยชายคนหนึ่ง ซึ่งผมเองก็เห็นเขาแล้วเช่นกัน
“ขอพระเจ้าคุ้มครองเรา”
วูล์ฟ: ขอช้าไปหน่อยล่ะเพื่อน… เฮ้ ไวล์ดฺไฟร์ ฉันรู้ว่านายได้ยินนะ แต่นายเห็นที่ฉันเห็นรึเปล่า?
เขารู้ว่าระบบรับเสียงของชุดเกราะผมสามารถได้ยินแม้เสียงกระซิบของเขา
และเขาก็รู้ว่าผมบินได้ไม่เร็วพอที่จะลงไปห้ามไม่ให้เขาทำอะไรโง่ ๆ
วูล์ฟ: แกคงไม่ได้มาจากดาววิแนธสินะ…
(*ดาววิแนธ คือดาวเคราะห์บ้านเกิดของ Lightning Lad และ Lightning Lass สมาชิกรุ่นก่อตั้งของสมาพันธ์ ซึ่งชาวดาวเคราะห์วิแนธนั้นจะคลอดลูกฝาแฝดเสมอ)
?: อะไรของคุณน่ะ?
วูล์ฟ: หมอคนที่ตายน่ะ ฉันเห็นรูปเขา เขาดูเหมือนแกอย่างกับแฝดแน่ะ
?: สำเนียงคุณฟังแปลก ๆ …
วูล์ฟ: ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สามของฉันน่ะ… เอาล่ะ ฉันกำลังแปลกใจ… ฉันได้กลิ่นเลือดของแกฟุ้งไปทั่วที่นี่… ร่างแกร้อนจี๋เลย… แถมหัวใจแกก็ไม่เต้น
?: ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร? คุณเป็น…
วูล์ฟ: คนที่มาติดแหง่กอยู่ที่นี่ เพราะสิ่งที่กำลังทำร้ายแกอยู่ตอนนี้ ถ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแกล่ะก็ ตามฉันมา
ผมจะพุ่งไปที่นั่นได้ทันเวลาถ้าเร่งพลังปฏิสสารให้มากขึ้น แต่นั่นคงทำให้คนทั้งโขยงข้างล่างเกรียมเป็นตอตะโก
แปลง่าย ๆ เลยนะ นั่นคือผมลงไปหยุดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ทัน
“ออกไป!”
“นั่นดร.สแกนล่อนนี่นา”
“เขายังไม่ตาย”
สแกนล่อน: เกิดอะไรขึ้นกับฉัน?
ตอนนี้เราได้เห็นผลของเรื่องเชื้อไวรัสแล้ว
แถมยังได้เจอมนุษย์พันธุ์ผสมคนแรกอีกต่างหาก
ไม่สิ… ไม่ใช่มนุษย์ พื้นฐานร่างกายของเขาได้กลายเป็นพลังงานแต่เขายังนึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์
เหมือนกับผมนั่นแหละ
เด็กคนหนึ่งหยิบกล้องมือถือถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้
วูล์ฟ: ไทร็อค ใช้เสียงความถี่สูงทำลายอุปกรณ์นั่นที
ไทร็อค: เราไม่อาจทิ้งหลักฐานการมีตัวตนไว้ในยุคนี้ได้
แต่เราอาจต้องติดอยู่ในยุคนี้ตลอดไปก็ได้นะ ไท
ไทร็อค: เดี๋ยวฉันให้ เทลลัสใช้โทรจิตลบความจำของชาวบ้านพวกนั้นเอง
ไทร็อค: เรามานี่เพื่อตรวจดูว่ามีใครติดเชื้อบ้าง…
วูล์ฟ: แต่ฉันนึกว่าจะเจออลาสเตอร์
ไทร็อค: นายจับพิรุธเขาได้ไงน่ะ บริน
วูล์ฟ: กลิ่นน่ะสิ… มันไม่ปกติ… กลิ่นเหมือนเนื้อเน่าฉุนอยู่ในอากาศ
ไทร็อค: เดี๋ยวฉันไล่ทางอากาศเอง จะได้ตามทัน
วูล์ฟ: โอ่ย ฉันล่ะอยากให้แหวนเหินฟ้าของเราทำงานจริง ๆ เล้ย
ไทร็อค: ไวล์ดฺไฟร์ เป้าหมายเราแผ่คลื่นพลังงานออกมาเสียเยอะเชียว
ไวล์ดฺไฟร์: เขาควบคุมการเปลี่ยนแปลงของตัวเองไม่ได้ ฉันเคยผ่านมาก่อน… ฉะนั้นให้ฉันจัดการเอง
ผมพุ่งแซงพวกเขาไป หนึ่งเพราะผมเร็วกว่าและอีกอย่างเพราะผมไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าผมหนักใจเพียงไหน ผมไม่ยอมให้ใครสักคนหนึ่งต้องกลายเป็นอย่างผมหรอก ผมไม่ยอมให้เขากลายสภาพ… กลายเป็นก้อนพลังงาน… ต้องถูกขังไว้ในชุดเกราะเสมือนร่าง… ไม่ ผมไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่
ไวล์ดฺไฟร์:รอเดี๋ยว! เรามาเพื่อช่วยคุณนะ! ผมรู้ว่าคุณกำลังเป็นอะไร ผมสามารถ…
“ถอยไปปปป!!!”
ไทร็อค: เป็นอะไรรึเปล่า?
ไวล์ดฺไฟร์: ไม่ง่ายเลย… ที่จะ… ดูดซับพลังงานของเขา… แต่มันเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย
วูล์ฟ: มันไปไหนแล้ว? ฉันจับกลิ่นเน่า ๆ ของมันไม่ได้เลย
ไวล์ดฺไฟร์: เขาเผาร่างเนื้อที่ตายแล้วของตัวเอง… ตอนนี้เขาจะอยู่ในสภาพพลังงานที่ไร้รูปร่าง
“… จนกว่าเขาคิดจะคืนร่างเป็นคนอีกครั้ง”
79 ชั่วโมงหลังเชื้อแพร่กระจาย
คงต้องนับโรงแรมนี้เป็นหอประชุมแห่งสมาพันธ์แห่งแรกในประวัติศาสตร์ เรากำลังประชุมงานกันอย่างที่เคย
วูล์ฟ: เป็นไงบ้าง เทลลัส?
เทลลัส: หยั่งจิตเขาด้วยโทรจิต… เป็นเรื่องยาก ไทร็อค… การจะเชื่อมเข้ากับคลื่นสมองอันเป็นปัจเจกเป็นสิ่งที่อันตราย… ยิ่งถ้าเป้าหมาย… ไม่มีสมองที่เป็นสสาร
วูล์ฟ: งั้นนายใช้วิธีไหนหลอกเอาห้องนี้มาจากผู้จัดการนั่นล่ะ?
เทลลัส: บริน มุกนาย… ชวนเครียดว่ะ
เทลลัส: ตอนที่ล้างความทรงจำ… ชาวเมือง ฉันได้ข้อมูลของ… ผู้ติดเชื้อ เขาชื่อคุณหมอเจฟฟรี่ย์ สแกนล่อน… เขาเพิ่งย้ายมาเมืองนี้… เป็นคนโดดเดี่ยว… ไร้คนรู้จัก… คงต้องภาวนา…
“ให้ดอว์นสตาร์หาตัวเขาเจอ”
..
ผมกังวลชะมัด เธอคงต้องสูดอากาศที่หนาวเย็นสะท้านร่าง… ผมรู้ดีว่าเธอกำลังทรมาณ
ผมรู้จักเธอดีกว่าใคร ผมรู้ว่าเธอกำลังผะอืดผะอมที่ต้องถูกจองจำไว้ในยุคนี้ อยู่ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมอันน่าอึดอัดที่ฉุนฉมไปด้วยขยะ
เราติดอยู่ที่นี่มาสามวันแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งที่คิดออกมา
ถ้าเรากลับบ้านไม่ได้ตลอดกาลล่ะ?
ทำไมคนที่เคยคุ้น ถึงรู้สึกไกลห่างเหลือเกิน?
ไวล์ดฺไฟร์: ดอว์นนี่
ดอว์นสตาร์: เดร๊ค
ไวล์ดฺไฟร์: ใช้ร่องรอยพลังงานของสแกนล่อนที่เปื้อนอยู่บนเกราะของฉันเถอะ
“พอหาเขาเจอมั้ย?”
..
ถ้าผมมีฟันผมน่าจะกัดปากตัวเองเอาไว้ เธอไม่ชอบให้ใครถาม
มันเหมือนกับเรากำลังคิดว่าเธอจะทำไม่ได้
เธอไม่ชอบเรื่องสุดวิสัย ทุกสิ่งที่เธอทำต้องสมบูรณ์แบบ
สำหรับเธอรอยพลังงานตกค้างของสแกนล่อนก็ไม่ต่างจากหยดเลือดบนผ้าขาว
“ฉันเจอเขาแล้ว”
เราไปหาตรง ๆ โดยไม่มีแผนอะไรมากมาย
ไทร็อคอยากทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วบุกเข้าไป ส่วนผมอยากยื่นมือเข้าไปช่วยมากกว่า หลังเถียงกันผมชนะ
ผมอยากให้เขาไว้ใจผม เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของผม
ไทร็อค: คุณหมอเจฟฟรี่ย์ สแกนล่อนอยู่มั้ยครับ? เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เราอยากจะช่วย
เราต้อง… ทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
สแกนล่อน: พวกคุณเป็นใคร? หรือเป็นตัวอะไร?
ไทร็อค: อาจฟังพิลึกไปหน่อยนะครับ แต่… เรามาจากอนาคต เราเป็นสมาชิกของภาคีหลากสายพันธุ์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือมนุษย์
สแกนล่อน: คล้าย ๆ จัสติซ ลีกแห่งจักรวาลในโลกอนาคตงั้นสินะ?
ไทร็อค: เป็นเรื่องจริงครับ จริงเช่นเดียวกับเรื่องที่ว่าร่างกายของคุณตายไปแล้วตอนที่คลินิคระเบิด
วูล์ฟ: แกคงสร้างร่างปลอมห่วย ๆ นี่ขึ้นมาเองสินะ
สแกนล่อน: เกิดอะไรขึ้นกับผม? คนไข้คนนั้น… เขาคือเอเลี่ยนเหรอ?
วูล์ฟ: แกได้รับเชื้อไวรัส… ไวรัสแบบที่แกไม่เคยเห็นมาก่อน
สแกนล่อน: ผมเป็นหมอนะ เชื่อผมสิ ผมอยู่กับเชื้อไวรัสหลายชนิดมาตลอดชีวิต
ไทร็อค: เชื่อเถอะครับ คุณไม่เคยเจอไวรัสชนิดนี้หรอก เพราะมันถูกคิดค้นขึ้นในอีกพันปีข้างหน้า
เขาอาจจะตกใจ แต่ที่สุดเราก็กล่อมเขาให้ยอมเชื่อมต่อจิตกับเทลลัสได้สำเร็จ
เทลลัส: ในอนาคต… ชายผู้โศกเศร้าคนหนึ่งคิดแก้แค้น… ให้น้องสาวที่จากไปบนโลก… เธอเป็นเหยื่อของกลุ่มกวาดล้างต่างแดนหัวรุนแรง… ที่คิดจะกวาดล้างพวกมนุษย์ต่างดาวให้หมดสิ้นไปจากโลก… ชายคนนั้น, อลาสเตอร์ได้คิดค้นอาวุธที่น่าสะพรึง… และน่าขันเพื่อพิพากษามนุษยชาติ
เทลลัส: เขาคิดจะเปลี่ยนมนุษย์ทุกคนให้กลายพันธุ์… เป็นมนุษย์ต่างดาวอย่างถาวร เขาบุกเข้าไปในสถาบันวิจัยเวลาเพื่อจะย้อนเวลากลับไปช่วยน้องสาว… และแพร่เชื้อไวรัสที่คิดค้นโดยเหล่านักวิทยาศาสตร์ชาวไซอ็อน… ซึ่งจะก่อให้เกิดการวิวัฒนาการอย่างฉับพลันต่อเนื่อง จากการถ่ายโอนดีเอ็นเอหลากสายพันธุ์เข้าสู่ดีเอ็นเอมนุษย์… ทุกสรรพชีวิตจะวิวัฒนาการสู่สายพันธุ์ใหม่เมื่อสัมผัสเชื้อไวรัสในอากาศ… และมนุษยชาติจะสูญพันธุ์
เทลลัส: สัญญาณขอความช่วยเหลือถูกส่งมายังสมาพันธ์… เราไปหยุดยั้งอลาสเตอร์… แต่ภารกิจของเราทำท่าว่าจะล้มเหลว… นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันวิจัยเวลาใช้พลังเฮือกสุดท้าย… สละชีวิตตัวเองเพื่อส่งอลาสเตอร์ข้ามเวลากลับมาที่นี่
พี่ยักษ์ถ่ายทอดเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของเราออกมาด้วยเสียงเรียบ ๆ
เทลลัส: เรามาถึงเมื่อสามวันก่อน… แต่ก็สายเกินไป… อลาสเตอร์ติดเชื้อจากอาวุธของตนเองเสียแล้ว… การเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของเขาทำให้ที่ทำงานของคุณระเบิด… และทำให้เราไม่อาจกลับสู่ยุคสมัยของเราได้… สมาชิกของเราสองคน… เพื่อนของเราเสียชีวิต… เราติดอยู่ในยุคสมัยนี้ และเหมือนเราก็จะติดเชื้อด้วยเช่นกัน
สแกนล่อน: อัตราการกระจายตัวของไวรัสเป็นยังไงบ้าง? จะเกิดการติดเชื้อเฉพาะคน หรือลุกลามใหญ่โตทั่วโลก? แล้วมันแพร่กระจายทางไหน? ผ่านละอองเหลวในอากาศ, การไอ หรือว่าการจาม?
ดูเขาจะสนใจมันเหลือเกิน ทำไมกัน
ไทร็อค: เรามีข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสที่อลาสเตอร์แพร่เชื้อนี้น้อยมาก เรารู้แค่ว่าในเซลล์ไวรัสบรรจุดีเอ็นเอมนุษย์ต่างดาวเอาไว้นับพันสายพันธุ์
ไวล์ดฺไฟร์: ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ผสมนับแสนล้าน
สแกนล่อน: เปลี่ยนจากโฮโม เซเปี้ยนให้เป็นไฮเปอร์เซเปี้ยนอย่างนั้นเหรอ? อืม แล้วผมอยู่ในสายพันธุ์ไหนล่ะ?
เขาลอกผิวหนังคล้ายเด็กแกะสะเก็ด เหมือนเขาไม่ได้เสียใจเลยที่เขาไม่ได้เป็นมนุษย์อีกแล้ว
ไวล์ดฺไฟร์: ตอนที่ได้สัมผัสพลังงานของคุณเมื่อสักครู่… ผมมั่นใจว่าคุณได้รับดีเอ็นเอสายพันธุ์ทีลเลี่ยนที่มีรูปร่างเป็นก้อนพลังงาน
เขาพยักหน้ารับอย่างไม่สะทกสะท้าน เหมือนเด็กที่รู้ว่าข้อเท้าแพลง
ด้านหลังผม ดอว์นนี่คงเริ่มสัมผัสมันได้เช่นกัน
ไวล์ดฺไฟร์: แต่คุณยังไม่พร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
สแกนล่อน: เพราะผมคิดว่าตัวเองยังเป็นมนุษย์ใช่มั้ย? ร่างนี้ผมก็จำลองขึ้นมาเองใช่มั้ย?
ไวล์ดฺไฟร์: ใช่ครับ
สแกนล่อน: แล้วถ้าผมยอมรับสภาพล่ะ? ยอมรับว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคนใหม่ ผมยินดีต้อนรับการเปลี่ยนแปลงนี้
ไม่นะ… อย่า
ไวล์ดฺไฟร์: เดี๋ยวสิ คุณยังไม่พร้อม…
พริบตานั้น สแกนล่อนก็ระเบิดพลังจนทุกสิ่งรอบ ๆ ตัวกลายเป็นจุลไปในพริบตา
ผมผิดที่คิดว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ… ผิดที่คิดว่าเขาอยากเป็นมนุษย์… เหมือนอย่างที่ผมอยาก ผมทั้งดาลเดือดและโศกสลดในเวลาเดียวกัน แต่ผมจะให้พวกเขารู้ไม่ได้
ไวล์ดฺไฟร์: ขอบใจที่ใช้ม่านโทรจิตป้องกันเราไว้ เทลลัส ตอนนี้นอกจากฉันแล้วมีใครรู้สึกว่าเราเป็นตัวซวยบ้าง? ไปที่ไหนก็เกิดระเบิดที่นั่นตลอด
ไทร็อค: เกิดอะไรกับสแกนล่อน?
ไวล์ดฺไฟร์: พลังงานของเขากระจัดกระจายเหมือนกับฉันเวลาชุดเกราะแตกนั่นแหละ ฉันพยายาม ‘สัมผัส’ เอกลักษณ์พลังงานของเขา… เผื่อจะรวบรวมและควบคุมมันได้ ฮ่วย ตอนนี้ฉันหวังให้ทีมของเรามีใครที่เก่งวิทยาศาสตร์จริง ๆ
ดอว์นสตาร์: เธอจบเอกฟิสิกส์ดาราศาสตร์มานะ
ไวล์ดฺไฟร์: ฉันมันพวกนักเรียนหลังห้องน่ะ
ไทร็อค: จะได้ผลรึเปล่า?
ไวล์ดฺไฟร์: ไม่รู้เหมือนกัน ไท
..
“นี่มันมหัศจรรย์เป็นบ้า!!”
ทำไมเขาถึงเรียนรู้วิธีควบคุมร่างพลังงานได้รวดเร็วขนาดนี้นะ?
สมัยที่ฉันเป็นอย่างนี้ใหม่ ๆ ฉันต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะควบคุมมันได้นิดหน่อย
ไทร็อค: คุณหมอ ใจเย็นก่อนครับ…
เทลลัส: อย่าเพิ่งระเริง… กับพลังงานใหม่… ที่ได้รับ
“ทำไมล่ะ!?”
วูล์ฟ: พอแค่นั้นแหละ
ดอว์นสตาร์: บริน อย่าเปลืองพลัง…
วูล์ฟมันพยายามหยุดสิ่งมีชีวิตที่เป็นพลังงานทั้งร่างด้วยขอนไม้ หมอนี้มันโคตรดื้อยิ่งกว่าฉันเสียอีก
ไวล์ดฺไฟร์: เจ้านี่มันกลายสภาพเป็นพลังงานไปแล้ว คิดจะสู้กับไฟน่ะ…
..
“มันต้องสู้ด้วยไวล์ดฺไฟร์!”
วูล์ฟ: ดูกิ๊กเธอสิ ดูมันเล่นสำบัดสำนวน
ดอว์นสตาร์: บริน พอเถอะ… นายชอบเยาะเย้ยถากถางอยู่นั่นแหละ
วูล์ฟ: ไม่ได้เยาะเย้ยเฟ้ย แต่ฉันกำลังโมโห…
วูล์ฟ: เพราะขนาดฉันยังไม่ยอมทิ้งความเป็นมนุษย์เลย
ศึกนี้อลาสเตอร์ได้ชนะเราไปแล้ว ไม่ใช่เพราะมันทำลายล้างมนุษยชาติได้
แต่เพราะมนุษย์เองนั้น ก็ละทิ้งความหมายของความเป็นมนุษย์ไปแล้วต่างหาก
..
ไวล์ดฺไฟร์: สแกนล่อน ฟังนะ นี่มันงี่เง่ามาก เชื่อใจผมสิ ผมจะช่วยให้คุณควบคุมมัน
สแกนล่อน: เพื่ออะไรล่ะ?
ไวล์ดฺไฟร์: เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะไม่ต่างอะไรกับผมเลย! ต้องมีชีวิตอยู่ในชุดเกราะที่ไม่ต่างจากห้องขัง! ไม่อาจจูบหญิงที่รักได้อีก… ไม่สามารถสัมผัสแสงแดดอุ่น ๆ ได้อีก… คุณอยากให้เป็นอย่างนั้นรึไง?
สแกนล่อน: ผมสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปแล้ว! ผมทิ้งความเป็นมนุษย์ไปก่อนที่จะติดไวรัสนี่เสียอีก!
ไวล์ดฺไฟร์: คิดดี ๆ สิว่าตัวเองเป็นใคร ผมจะพยายามดูดซับพลังงานที่ล้นออกมาให้คุณ
สแกนล่อน: แกไม่ฟังฉันเลย… ฉันบอกว่าฉันไม่อยากเป็นมนุษย์อีกแล้วไงเล่า!
ไวล์ดฺไฟร์: ไม่นะ อย่าพูดอย่างนั้นสิ อยู่กับผมก่อน ได้โปรดเถอะ… เราใช้ชุดเกราะนี่ร่วมกันได้ ลองถ่ายพลังงานผ่านเข้ามาทางรอยต่อนี่สิ
สแกนล่อน: แกไม่เข้าใจหรอก ไอ้หนู…
ไวล์ดฺไฟร์: เดี๋ยวสิครับ ถ้าคุณสลัดจิตวิญญาณของคุณออกไป คุณจะบังคับพลังงานให้ก่อตัวเป็นรูปร่างไม่ได้อีกแล้วนะ…
สแกนล่อน: แกไม่เข้าใจหรอก ว่าแกกำลังหลงลืมอะไรบางอย่าง…
..
“ไม่!”
เขาจากไปตลอดกาล ผมช่วยเขาไม่ได้ และได้แต่สงสัย… ว่าผมกำลังพยายามช่วยใครอยู่กันแน่?
ผมไม่อาจช่วยเหลือคนที่เหมือนกันกับเราได้
ดอว์นสตาร์: เดร๊ค เธอทำดีที่สุดแล้วล่ะ…
ไวล์ดฺไฟร์: คิดงั้นเหรอ? ถึงเราจะไม่มีเทคโนโลยีที่เคยใช้ และไม่มีเพื่อนร่วมทีมระดับหัวกะทิอยู่ด้วย แต่ใช่ว่าเราจะห่วงตัวเองได้มากขึ้น แล้วห่วงชาวบ้านได้น้อยลงเสียเมื่อไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับสแกนล่อนน่ะคือจุดเริ่มต้น…
บึงดีทรอยต์, มินเนสโซต้า
84 ชั่วโมงหลังเชื้อแพร่กระจาย
..
“ตอนนี้ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีใครติดเชื้ออีกบ้าง”
..
ผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเป็นใคร?
ตอนต่อไป:
THE COMING OF RED RAGE!
สนุกแฮะ ถึงตังละครจะเยอะไปหน่อย แต่ก็พอจะจำได้ สรุปว่าชอบอีกเรื่องละ
อ่านแล้วมึนหัวแทนเลย
จะแก้อดีตกันได้จริงๆรึ สิ้นหวังแทนทีมนี้เลย = =”
พอจะจำตัวละครได้บางว่าแต่ติดอยู่ในยุคนี้เวลาระเบิดพวก JL อื่นๆไม่มาตรวจสอบเหรอ
Red rage ไม่ใช่ red lantern น่ะ 555
สำหรับบางคน พลังอันยิ่งใหญ่มันไปทำให้จิตใจบิดเบี้ยวไปสินะ…
หน้าใหม่สำหรับผม อยู่ดีแฮะหัวนี้
ไม่ครอสกับหัวอื่นเลยแฮะ