Ultimate Comics Spider-Man #2

Ultimate Comics All-New Spider-Man #2 : เพื่อนสนิท และ เรื่องเล่า

เรื่อง : Brian Micheal Bendis
ภาพ : Sara Pichelli
วางจำหน่าย: 28 กันยายน 2011
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

หลายเดือนก่อน ก่อนที่สไปเดอร์แมนคนแรกจะตาย เรื่องราวของเด็กนักเรียนนามไมล์ส โมราเลส ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ในโรงเรียนหลังใหม่ ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ถูกแมงมุมดัดแปลงพันธุกรรมกัดเข้า และได้มอบพลังแมงมุมอันน่าเหลือเชื่อให้กับเขา ทว่าในโลกที่เกลียดชังและตามล่าคนกลายพันธุ์ อีกทั้งปัญหาครอบครัวที่ต้องเผชิญ จะหล่อหลอมให้เขากลายเป็นสไปเดอร์แมนได้ยังไงกันนะ?!!

 บรูคลิน เมือง นิวยอร์ก

ไมล์ส โมราเลส ได้ออกตัววิ่ง หลังพบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกินขึ้นกับตน สิ่งที่ตนหวาดกลัวมาก

ไมล์สได้วิ่งสุดแรงพร้อมกระโดดข้าม ทีวีจอแบนที่พนักงานกำลังขนย้ายและพนักงานก็ไม่ได้ทันสังเกตเด็กที่วิ่งมาจนเขากระโดดมาในระยะใกล้

“ชั้นก็เลยบอกคนนั้นไปว่า นายไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนั้นมาก่อน แล้วนายก็เข้าโลกออนไลน์แล้วคุยโวอย่างกับว่า…”

ไมล์ส โดดข้ามทีวีและลงพื้นได้อย่างสวยงาม ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนบนทางเท้า ได้สงสัยในสิ่งที่เด็กคนนั้นทำไปเมื่อครู่

ผู้หญิงบนทางเท้า : เมื่อกี้เธอ… เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน ?

พนักงานขนทีวี : นายไม่น่าวิ่งแบบนั้นบนทางเท้าเลยนะ

พริบตาเดียว ร่างของไมล์สก็ได้จางลง ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
และได้สรุปสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ว่าตนได้พบกับมิวแทนต์ตัวเป็นเข้าแล้ว

“เด็กนั่นมันเป็นมิวแทนต์นี่!!”
“ใช่เลยล่ะ”

“กรูเกลียดเมืองนี้จังเลยว่ะ”
“เจ้ามิวแทนต์เซี่ยนี่!!”

ไมล์สได้ใช้ความสามารถล่องหนปลีกตัวเองตามตรอกซอยเปล่าเปลี่ยว และร่างเขาค่อยเด่นชัดขึ้นมา

Miles : ซวยแล้วไงงานนี้ งานนี้ซวยแล้ว ซวยแล้วไง
เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดได้เลย ช่วยบอกผมทีว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?

หลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ไมล์สก็ได้เดินกอดกระเป๋าด้วยสีหน้าหดหู่ จนพบกับแก็งอันธพาลเข้า

อันธพาล A : แล้วกรูก็บอกกับหล่อนว่าเพื่อนเธอน่ะเป็นไอ้หมูอ้วนแล้วมันมีผลอะไรกับชั้นไหมล่ะ??
อันธพาล B : มรึงไม่ได้พูดคำหยาบกับหย่อนรึไง
อันธพาล A : ถามเจ้าหล่อนเองสิวะ

อันธพาล C : หิวแล้วล่ะ
อันธพาล D : กรูก็หิวเหมือนกันว่ะ

เมื่อตัวอันธพาลหันมาก็พบเหยื่อรายแรกของเขา

อันธพาล A : น้องมีอะไรให้แดรกมั้งไหมวะ?
Miles : อะ อะไรกันครับ?
อันธพาล A : น้องมีอะไรให้พวกพี่แดรกมั้งไหมล่ะ? อย่าง ไอเป็ด ขอไอแพ็ตเลยละกัน
Miles : อย่านะ

ขณะที่กำลังยื้อแย่งกระเป๋านั้น ไมล์สก็ได้ขับแขนของอันธพาลคนนั้น

อันธพาล A : ไหนให้พี่ดูข้างในหน่อยซิ ว่ามีอะไรบ้าง ไอ้น้อง
Miles : อย่านะ นั่นน่ะ…
อันธพาล A : เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย น้องเฉยไว้ก่อน รึอยากจะเจ็บตัว?

Miles : นี่กระเป๋าผมนะ
อันธพาล A : เหมือนไอ้น้องอยากจะหาเรื่องเจ็บตัว? ไอ้น้องอยากจะเปลี่ยนไปเป็นไอ้…

ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงดังแซะตรงบริเวณแขนอันธพาลที่โดนจับ ก็เกิดความรู้สึกเจ็บซ่าน

พวกอันธพาลไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงคิดว่าเจ้าเด็กคนนี้จะลองดี ขณะที่ไมล์สกำลังเป็นฝ่ายโดนอัด เขาก็พยายามใช้ฝ่ามือดันตัวอันธพาลไปให้พ้น

อันธพาลคนนั้นก็ล้มหมอบลงไป

Miles : อย่ามายุ่งกับผมนะ

หลังจบประโยค ไม่นานนัก ไมล์สก็เริ่มออกตัวเดินหนีไป ทิ้งให้อันธพาลวิจารณ์กันเอง

อันธพาล C : อะไรกันวะนั่นเห๊ย?
อันธพาล B : หมอนี่ หมอนี่ต้องเป็นหนึ่งในมิวแทนต์แหงๆเลยว่ะ!!
อันธพาล D : ซวยแล้วล่ะงานนี้!!

อันธพาล C : เราน่าจะโทรแจ้งตำรวจนะ!!
อันธพาล B : ไม่อยากเชื่อเลยว่า กรูได้เห็นมิวแทนต์ตัวเป็นๆ
อันธพาล D : กรูนึกว่าพวกมันเป็นของหลอกเด็กซะอีก

อันธพาล B : เราน่าจะโทรแจ้งตำรวจนะ
อันธพาล D : แล้วเราจะบอกพวกตำรวจเรื่องอะไรดีวะ?

ห้องนอนบ้าน Ganke

ขณะที่ Ganke กำลังต่อเลโก้ ไมล์สเพื่อนสนิทเขา จู่ๆก็เปิดประตูพรวดมาทันที ทำให้เขาตกใจแทบแย่ ชิ้นส่วนเลโก้หลุดจากมือไป
(Ganke ใส่เสื้อลาย Frog-Man ด้วย)

Miles : ขอบคุณ พระเจ้า ที่นายยังอยู่ในบ้าน
Ganke : ไมล์ส!! ว่าไงเพื่อน!

Miles : ฉันต้องการนายนะ Ganke ฉันต้องการสมองนาย
Ganke : ขอชั้นต่อหัวเรือให้เสร็จก่อน
Miles : ฉันอยากให้นายกลับสู่ชีวิตจริงตรงนี้เลย มีเรื่องอยากให้นายช่วยน่ะ
Ganke : เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?

Miles : เรื่องที่ฉันจะแสดงและเรื่องที่บอกกับนายต่อไปนี้ห้ามเอาไปคุยที่อื่นนอกห้องนี้นะ
Ganke : แล้วอะไรล่ะ?
Miles : สัญญากับฉันก่อนสิเรื่องที่ฉันจะแสดงและเรื่องที่บอกกับนายต่อไปนี้ห้ามเอาไปคุยที่อื่นนอกห้องนี้นะ
Ganke : ชั้นยังไม่รู้เลยว่านายจะพูดเรื่องอะไร

Miles : สัญญาก่อนสิ
Ganke : บอกหน่อยได้มั๊ยว่าเราจะคุยเรื่องอะไรกันน่ะ
Miles : สัญญากับฉันก่อนสิ
Ganke : เพื่อนยาก ชั้นเคยของเคยซ้ำเติมนายมั๊ยล่ะ? นายเป็นเพียงคนเดียวที่ชั้นคุยด้วย

Ganke : แล้วจะมีใครอื่นล่ะ ที่ชั้นควรจะไปเล่าในสิ่งที่นายบอกมาล่ะห๊ะ?
Miles : โอเคเลย อยากให้นายดูนี่ให้ดีๆ
Ganke : ได้เลย
Miles : เตรียมพบกับเรื่องพรรค์พึลึกสุดกู่ที่นายไม่มีวันได้เจอมาก่อนแน่เลย
Ganke : อย่าถอดโชว์กางเกงในละกัน

Miles : ดูนะ

ทว่าพลังล่องหนไมล์สก็ไม่ได้ทำงานต่อหน้า Ganke ไมล์สพยายามเบ่งแล้วเบ่งอีกก็ไม่ได้ผล

จนไมล์สต้องถอดใจ
Miles : ไม่เห็นเข้าใจเลย
Ganke : เฮ้ เอ่อ นายเพิ่งได้เข้าโรงเรียนใช่ไหมล่ะ?
Miles : ฟังฉันก่อนซี่ มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น  แล้วฉันก็ทำเรื่องนั้นตอนนี้ได้เลย
Ganke : ทำอะไรเรอะ?
Miles : อย่างงี้ไง

มือไมล์สได้สัมผัสกับเรือเลโก้ที่ยังต่อไม่สมบูรณ์ และเสียงแซะๆ ก็ดังขึ้น

งานตัวต่อของ Ganke ที่อุตส่าห์ทุ่มเทมา แตกกระจายปลิวว่อนไปทั่ว หมดกัน

Miles : อะ ห๊ะ?
Ganke : ทำไมนายถึงทำแบบนั้นได้ลงคอล่ะ?
Miles : ไม่ใช่แล้ว นายต้องถามว่า เมื้อกี้ทำได้ไงอ่ะต่างหาก?
Ganke : นายทำอย่างงั้นได้ยังไงล่ะ?

Miles : รู้รึยัง?
Ganke : อย่างน้อยทำไมถึงไม่ลองอันอื่นล่ะ ลองกับงานที่แบบว่าไม่ได้แตะมาเลยสามอาทิตย์ก็ได้ ไม่ว่าหรอกนะ?

Miles : บางที… ฉันอาจเป็นมิวแทนต์ก็ได้
Ganke : ตั้งแต่เมื่อไหร่
Miles : วันนี้แหละ
Ganke : วันนี้นายเป็นมิวแทนต์เฉยๆเลยเหรอ?

Miles : ก็แบบว่านะ วันนี้มันเป็นวันที่เพี้ยนจนคาดไม่ถึง ฉันนั่งรอจับฉลากเข้าเรียนกับพ่อแม่ แล้วก็ได้เข้า
Ganke : นายถูกหวยด้วยแฮะ!! เจ๋งไปเลย บางทีเราคงได้เรียนห้องเดียวกัน
Miles : จากนั้นชั้นก็ไปเยี่ยมลุงแอรอน…พอเข้าไปในห้องก็โดนแมงมุมกัด
Ganke : โดนแมงมุมกัดเนี่ยนะ? มีใครที่ไหนกันเล่าที่ไปโดนแมงมุมกัดเข้าให้??

Miles : มันเป็นแมงมุมตัวใหญ่มาก
Ganke : ขนาดประมาณเจ้าทาแรนทูราหรือ?
Miles : แบบว่าเป็นแมงมุมตัวใหญ่แถมมีหมายเลขอยู่บนหลังมันอีก
Ganke : นายโดนแมงมุมตัวนั้นกัดรึ?

ไมล์สยื่นมือให้เพื่อนดู แต่ Ganke ก็เห็นแค่รอยจุดด่างเท่านั้น
Miles : และมันก็กัดตรงนี้แหละ
Ganke : เพื่อนเอ๊ย ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่
Miles : มันบวมเมื่อสิบนาทีก่อนนี่เอง
Ganke : แค่รอยจุดเองนะ นายแน่ใจแล้วเหรอเพื่อน?
Miles : มันใหญ่มากนะ
Ganke : รอยจุด

Ganke ได้ทำการเก็บชิ้นส่วนเลโก้
Miles : จากนั้นฉันก็สลบกระทันหันไปเลย
Ganke : นายน่าจะไปที่โรงพยาบาลนะ
Miles : ไม่ได้หรอก
Ganke : ไม่ได้หรือ?
Miles : พวกเขาก็รู้กันพอดีว่าฉันเป็นมิวแทนต์ นายก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับมิวแทนต์ที่ยังอยู่ในประเทศนี้
Ganke : แมงมุมตัวนั้นเปลี่ยนให้นายเป็นมิวแทนต์รึ?

Miles : ไม่ไปหรอกนะ… อยากให้นายเชื่อใจฉันก็ยังดี
Ganke : ชั้นเชื่อนายแล้วล่ะว่ามีเรื่องจริงๆ

ทันใดนั้น พลังล่องหนไมล์สก็ทำงาน เพื่อนไมล์สประหลาดใจมาก และชมว่านี่แหละเจ๋งสุดยอด แต่ไมล์สกลับไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น

Ganke : โว้!! นายทำอย่างเมื่อกี้ได้ไงกันเนี่ย??
Miles : นี่แหละที่ชั้นพยายามบอกนายอยู่
Ganke : เพื่อนเอ๋ย นายเป็นมิวแทนต์ นั้นโคตรสุดเจ๋งไปเลยเพื่อน
Miles : ไม่หรอก คนละเรื่องเลย

Miles : มันไม่เจ๋งหรอกนะ พอลองคิดถึงชีวิตปกติแล้วล่ะก็
Ganke : นายคิดมั๊ก..
Miles : ไม่เจ๋งเลย เดี๋ยวก็จบลงท้ายที่ค่ายทหารกักกันหรืออะไรทำนองนี้แหละ
Ganke : เค้าไม่จับยัดมิวแทนต์ไว้ในค่ายหรอกน่า

Miles : พวกเค้าทำแน่
Ganke : นั่นมันทฤษฎีสม…
Miles : พวกมิวแทนต์ทำเมืองทั้งเมืองจมนะ นายคงไม่อยากเป็นมิวแทนต์ในเมืองนี้หรอกนะ
Ganke : โอเค โอเค
(ประโยคนี้ได้ระบุเวลาหลังจากฉากหนังสือพิมพ์ เนื้อเรื่องไมล์สได้เริ่มต้นหลังเหตุการณ์ Ultimatum)

Miles : เรื่องนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาดนะ
Ganke : เดี๋ยวก่อนเซ่ ย้อนกลับไปเมื่อครู่ ตอนที่นายบอกว่าแมงมุมกัดนายน่ะ? แมงมุมที่มีหมายเลข? หมายเลขอะไรหรือ?
Miles : ห้ามบอกใครนะ

Ganke : เดี๋ยวเรามานั่งไขกันว่าพลังนายใช้งานยังไง
Miles : ไม่มีพลังซะหน่อยนึง
Ganke : เพื่อนเอ๋ย นายมีพลังนะ

Ganke : ชั้นไม่สนหรอกนะว่านายจะว่ายังไง ขอบอกได้เลยว่านี่มันยอร์ชมากเลย
Miles : ฉันกลัวจนหัวสั่นเลยนะ

ไม่ทันไรพ่อของไมล์สก็ตามหาลูกจนเจอ และเรียกไมล์สให้ออกไปด้วยกันทันที

หลังจากเดินฝ่าฝูงชนอยู่นาน พ่อไมล์สก็ได้พาเขานั่งลงเก้าอี้สาธารณะแห่งหนึ่ง ไม่นานนักเขาก็เริ่มพูด

พ่อไมล์ส : ทำไมลูกถึงวิ่งหนีพ่อล่ะ ?
Miles : ก็พ่อทำให้ผมตกใจ
พ่อไมล์ส : เคยมีตอนที่พ่อตีลูกมั้งไหมล่ะ?
Miles : ไม่เลยฮะ
พ่อไมล์ส : งั้นลูก… ลูกก็ไม่ได้วิ่งหนีพ่อโดยมองพ่อเป็นคนบ้าล่ะสิ
Miles : เหมือนพ่อ เหมือนพ่อจะชกต่อยกับลุงแอรอนฮะ
พ่อไมล์ส : เรื่องนั้น ก็อาจจะนะ พ่อจัดให้ได้นะ

Miles : ลุงเค้าไม่ได้ทำอะไรกับผมซะหน่อยนี่ฮะ พ่อก็รู้
พ่อไมล์ส : ทำไมลูกถึงไปเยี่ยมที่นั้นล่ะลูก?
Miles : ก็เค้าเป็นลุงผมนี่ เขาเป็นคนในครอบครัว ผะ ผมครับ ถึงเราจะไม่ใช่ครอบครัวใหญ่ก็ตามแต่…
พ่อไมล์ส : เหตุผลที่เราไม่ไปเยี่ยมลุงแอรอนน่ะ เรามี
Miles : พ่อไม่เคยบอกผมเลย ทำไมกันครับ…
พ่อไมล์ส : แล้วลูกคิดว่ายังไงล่ะ?

Miles : เดาว่าพวกคุณพ่อกับลุงเค้าแบบว่ามีเรื่องให้สู้กัน ก่อนที่ผมจะเกิดครับ
พ่อไมล์ส : อืม ลูกพูดถูกครึ่งนึง เราไม่เคยไปเยี่ยมที่นั่นก็เพราะว่าลุงลูก ถึงลุงเขาอาจดูเป็นคนดีคนเก่ง แต่เปล่าเลย พ่อไม่เอ่ยเรื่องนี้ก็เพราะพ่อโมโหเขา…พ่อพูดอย่างนี้ไปก็เพราะ…เขาเป็นโจร คนไม่ซื่อตรง

Miles : ไม่ซื่อตรงเหมือนลุงเค้าขโมยของหรือฮะ?
พ่อไมล์ส : ใช่แล้ว (ท่านลอร์ดทรงโปรด..ไม่เคยอยากสนทนาหัวข้อนี้กับลูกเลย) พ่อรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงเข้า ถึงพ่อจะหวังไว้ว่าเขาติดคุกตอนที่ลูกโตพอจะเข้าใจแล้ว…
Miles : นั้นหรือฮะที่ว่าทำไมคุณพ่อถึงไม่ชอบลุงนัก?
พ่อไมล์ส : ฟังนะ พ่อรักเขา ตัวพ่อเองก็คงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หรอก หากไม่ใช่เพราะเขาแล้ว ในเวลาเดียวกันนั้นพ่อเองก็ไม่อยากให้คนที่ไม่รู้จักแยกเยอะอันไหนถูกอันไหนผิด…  และเขาก็ไม่รู้ที่จะแยกแยะ… พ่อไม่อยากให้คนแบบนั้นป้วนเปี้ยนลูกชายเพียงคนเดียวของพ่อหรอกนะ

Miles : แล้วตรงที่พ่อบอกว่า พ่อคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หรอก หากไม่ใช่เพราะลุงแล้ว? หมายถึงอะไรหรือฮะ?

พ่อไมล์ส : พ่อหมายถึง ตอนที่เรายังหนุ่ม เขาช่วยชีวิตพ่อไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่า…(เรื่องนี้มันซับซ้อนจริงๆเลยนะ)
Miles : ลุงเค้าเคยติดคุกหรือฮะ?

พ่อไมล์ส : ใช่ แล้วก็ตัวพ่อก็ด้วย

สีหน้าไมล์สบ่งบอกถึงความตกตะลึง เมื่อรู้ว่าพ่อของตัวเองเคยทำผิด

Miles : เมื่อไหร่ฮะ?
พ่อไมล์ส : ก่อนที่ลูกจะเกิดน่ะลูก
Miles : งั้นพ่อทำอะไรไปบ้างฮะ?

พ่อไมล์ส : พ่อขโมยของที่ไม่ได้เป็นของของพ่อ
Miles : พ่อจะบอกรายละเอียดหรือฮะ?
พ่อไมล์ส : นี่เป็นเรื่องยากสำหรับพ่อเลยนะ พ่อจะบอกลูกเรื่องที่ เรื่องที่พ่ออับอายขายขี้หน้าที่สุด แล้วพ่อก็จะบอกเรื่องน่าระอายของพ่อที่เล่าต่อหน้าคนอื่นที่สุด
Miles : พ่อกับลุงแอรอนเคยขโมยของด้วยกัน แล้วพ่อก็เลิก และเค้าก็…

พ่อไมล์ส : เห็นได้ชัดเลยล่ะ ตอนที่เรายังเด็ก เราไม่มี… เราไม่เห็นโอกาสอันดีมาหาพวกเราเลย ไม่ได้บอกนะว่า เราไม่มีโอกาสอันดี… พ่อพูดว่าเราไม่ทางได้เห็นโอกาสเลย

พ่อไมล์ส : ครั้งเมื่อ เราโตขึ้น พ่อถึงได้เห็นโอกาส เห็นมันตอนที่ได้พบแม่ลูกเข้า เห็นมันตอนที่ได้มีเด็กอย่างลูกเข้า เห็นตอนที่พ่อสร้างครอบครัว เห็นมันตอนที่พ่อได้ใช้ชีวิตจริงๆ  พ่อเห็นโอกาสเหล่านั้นเป็นโอกาสอันดีที่พ่อได้เห็นและพ่อยอมทำทุกอย่างเพื่อให้โอกาสเช่นเกิดขึ้นอีก แล้วมันก็เกิด ตัวลูก,แม่ลูก,โรงเรียนหลังใหม่ของลูก…ทุกอย่างมันเกิดขึ้น  แต่ลุงลูกไม่เคยได้รับ อดีตที่เคยเป็นมา ตอนนั้นเราคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกหรือสนุกในสิ่งที่ทำไปวันๆ  เรารู้ว่ามันผิด  พ่อไม่เคยยกโทษให้ตัวเองหรอกนะ…   พ่อบอกลูกได้เลยว่าพ่อต้องชดใช้ความผิดที่ได้กระทำไป พ่อใช้เวลาทุกเสี้ยวทุกวันพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้อดีตซ้ำรอยเดิม ทุกคนมีทั้งด้านดีและด้านเลว  ใครๆก็ทำเลวได้ทั้งนั้น ทุกคนเลย การทำเลวมันง่ายนะ เป็นเรื่องง่ายมากเลย แต่การตั้งมั่นตนเองให้เริ่มต้นวันดีๆในชีวิต มันเป็นเรื่องยากนรกสลัดเลยนะ ลูกเข้าใจมั๊ย?

(ตรงนี้รู้แล้วว่า ลุงแอรอนเป็นพี่ชายของพ่อไมล์ส)

พ่อไมล์ส : ถึงแม้พ่อจะรักพี่ชายเพียงใด รักจากใจจริง… พ่อไม่ยอมพี่อีกแล้ว สำหรับพ่อไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าตัวลูก
สำหรับพ่อแล้วนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าตัวลูกอีกแล้วไม่ยอมให้

Miles : พ่อน่าจะบอกเรื่องลุงตั้งแต่ทีแรก จะให้ผมรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกันล่ะฮะ?
พ่อไมล์ส : ให้พ่อคนนี้บอกลูกตัวน้อยๆเรื่องนี้ยังไงงั้นหรือ?
Miles : ลุงเค้าจะติดคุกอีกรึเปล่าฮะ?
พ่อไมล์ส : ก็อาจจะ พ่อไม่มีทางรู้ว่าพี่ทำอะไรอยู่และพี่ทำงานให้กับใครบ้าง พ่อรู้เพียงแค่นี้ก็พอว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเราไม่จำเป็นต้องมีลุง

พ่อไมล์ส : แต่จะให้พ่อทำยังไงได้ล่ะ เมื่อเห็นความรู้สึกในใจลูกว่ามีใจให้กับลุงแล้ว ลุงเค้าเปิดโอกาสให้คุยในเรื่องที่กวนใจลูก… และไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ที่ลูกคิดว่าไม่มาหาพ่อดีกว่า พ่อบังคับลูกไม่ได้หรอกนะ แต่ขอบอกลูกไว้เลยว่าลูกมาได้เสมอ ไม่มีเรื่องพรรค์ใดในโลกที่ลูกชายจะมาเล่าให้พ่อฟังไม่ได้หรอกจริงมั๊ย ไม่มีเรื่องใดที่พ่อจะไม่ฟัง…

ไมล์สตัดสินใจพยายามพูดเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนในวันนี้
Miles : เอ่อ พ่อฮะ?

ทว่ากว่าที่จะได้ทันกล่าว Iceman และ Human Torch ก็ได้บินผ่านหน้าพวกเขา โดยที่ทุกคนในสวนสาธารณะต่างให้ความสนใจกันยกใหญ่

Miles : ว้าว
พ่อไมล์ส : ลูกคิดว่าหลังจากที่ทุกเมืองต้องเผชิญกับภัยนั้น พวกเขาน่าจะไล่ต้อนมิวแทนต์พวกนี้และปล่อยให้พวกเราใช้ชีวิตกันตามปกติสุขกัน
Miles : ผมว่ามนุษย์คบเพลิงไม่น่าจะใช่มิว…

Miles : พ่อคงหวังได้แค่พวกมันทั้งหมดคงจากเมืองนี้ไปเอง เราน่าจะออกเดินกันได้แล้ว แม่คงรอพวกเราจนเมื่อยแล้ว
เราจะคุยเรื่องนี้อีกรอบ ลูกนี่โตขึ้นมาเยอะแล้ว ลูกจะต้องเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวก่อนที่พ่อแม่จะรู้เสียอีก

หลังจากที่เปิดความในใจ พ่อไมล์สก็จูงมือเขากลับบ้าน โดยที่ไมล์สไม่มีโอกาสกล้าบอกสักคำ หลังเจอประโยคไม่ชอบขี้หน้าพวกมิวแทนต์เข้าไป

(จากตรงจุดนี้บอกช่วงเวลาได้ว่าเป็นช่วงที่จอห์นนี่กับบ็อบบี้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านปีเตอร์)

ห้องนอนของไมล์ส
หลังจากที่เมื่อเช้าเจอเรื่องหนักๆมาตลอดทั้งวัน ถึงเวลานอนพักผ่อน จนกระทั่งมือถือไมล์สส่งเสียงดัง
เขาได้รับข้อความจากเพื่อนเขา Ganke ว่า

นายไม่ได้เป็นมิวแทนต์หรอกนะ

นายมีพลังพลางตัวแบบกิ้งก่าได้ เหมือนแมงมุมบางชนิด
นายมี Venom Strike, เหมือนที่แมงมุมบางชนิดทำได้

ไมล์สพิมพ์ตอบ

นายพูดถึงเรื่องอะไรกันล่ะ ?

สไปเดอร์แมนก็โดนแมงมุมกัดด้วยเหมือนกัน

ไมล์สจ้องข้อความนั้นด้วยความตกตะลึง

Ganke ได้ส่งแหล่งข่าวอ้างอิงที่เขียนโดย เบน ยูริก ให้อ่าน

กว่าจะมาเป็นสไปเดอร์แมนในวันนี้ได้อย่างไร
ถึงจะบอกด้วยความคึกคะนอง สไปเดอร์ได้กล่าวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่าตัวเขาถูกแมงมุมกัดและมันก็มอบพลังแมงมุมให้กับเขา

โทษทีนะ นายไม่ได้เป็นมิวแทนต์ นายเป็นสไปเดอร์แมนต่างหากเล่า?!!  (เวลา Error)

เมื่อได้รับคำตอบ ไมล์สก็ได้นอนคิดถึงเรื่องสไปเดอร์แมน ตอนที่สามารถเกาะกำแพงได้

ด้วยความสงสัยในความสามารถของตน เขาจึงนำมือแตะบนผนัง และตามต่อด้วยเท้า

เมื่อเขาพบตัวเองว่าสามารถไต่ผนังเกาะกำแพงได้ เหมือนสไปเดอร์แมนทุกประการ แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเขากลับตรงกันข้ามกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์อย่างสิ้นเชิง
Miles : ซวยล่ะ

หลังจากที่ไมล์สได้เรียนรู้พลังของตนว่าเหมือนสไปเดอร์แมน ทว่าด้วยสภาพสังคมที่ไม่เอื้ออำนวยนัก ทำให้เขาต้องปิดบังเรื่องนี้กับครอบครัว
เขาจะตัดสินใจจะทำยังไงกับพลังที่ได้รับมาต่อไปนั้น??

โปรดติดตามตอนต่อไป…

15 thoughts on “Ultimate Comics Spider-Man #2

  1. _V_

    ทั้งภาพทั้งเรื่องมันเอี้ออำนวยกันจริงๆ สุดยอดมากๆ

  2. teshin

    เริ่มมีmotionเหมือนmangaแต่ภาพสีทำให้ใช้เส้นสปีดอะไรยากหน่อย
    ตรง but that doesn’t mean – –
    พ่อmilesน่าจะบอกว่า
    “แต่มันไม่ได้หมายความว่า-(ที่ยังไม่ได้พูดน่าจะเป็น “เค้าจะมีความสำคัญกับครอบครัวเรา”)”
    มากกว่านะครับ

  3. DOL

    ชอบฉากตอนที่มันจะพลางตัวให้เพื่อนดูตอนแรก อย่างฮา

    อืมมม สนุกนะครับ ตอนแรกบอกตามตรงว่าแอบมีอคตินิดนึง

    แต่เห็นเจ้าหนูนี่โชว์บ๊องๆแล้วน่ารักดี ภาพก็สวย

  4. Longjunt

    สนุกมาก ขอบคุณที่สปอยครับ

    แต่ตรง ประโยค U have chameleon like powers like some spiders do
    chameleon powers ไม่น่าจะแปลว่า มีพลังลอกเลียนแบบ
    แต่หมายถึง นายมีพลังพลางตัวแบบกิ้งก่าได้ เหมือนแมงมุมบางชนิด นะครับ
    (เพิ่งรู้ว่าแมงมุมบางชนิดพลางตัวแบบกิ้งก่าได้)

  5. teshin

    Spider man มี symbiote กี่ตัวครับเนี่ย Venom, Anti-venom, Carnage, Toxin, แล้วก็ตัวที่ติดไปกับนักวทยาศาตร์หญิงอีก
    ยังเหลืออีกรึเปล่าครับ

  6. seventoon

    ซิมไบโอท ภาคไหนครับ ถ้าจักรวลหลักก้ประมาณนั้น ผมไม่ค่อยจำพวกตัวอื่นด้วย จำได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ถ้าในอัลติเมท ผมไม่รู้นะ 555+

    อ้อ ท่าทางเพื่อนอ้วน จะเป็นคู่คิดของสไปเดอร์แมนคนใหม่สินะ

    เพื่อนอ้วนชอบฟร็อกแมนด้วย สุดสุด

  7. tummy

    น่าติดตามสุดๆเลยครับ

    ขอยคุณที่ทำมาให้อ่านนะครับ

  8. BaaMzS

    รูปดิสเพลย์ของ Ganke นี่ก็เจ้าฟินแฟงฟูมนิครับ ภาพแบบเก่าๆด้วย

  9. Twinz

    ขอคุณผู้แปลคับ

    เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว!!!!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *