DC Comic : Green Arrow 01 : นายพรานชุดเขียวในป่าคอนกรีต
เรื่อง : J.T. Krul
ภาพ : Dan Jurgens, George Perez
วางจำหน่าย: 7 กันยายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ในจักรวาล DC ที่รีบูธใหม่นั้น Green Arrow ก็เป็นอีก 1 ในบรรดา Hero ที่ถูกปรับโฉมให้ทันสมัยขึ้น + หนุ่มขึ้น แต่แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาแค่ไหนก็ตาม โดยแก่นแท้แล้วเขาก็ยังเป็น Oliver Queen คนเดิมที่ตั้งมั่นจะต่อสู้กับเหล่าร้ายอยู่เช่นเดิม โดยในครั้งนี้…เขายินดีที่จะแหกกฎหมายมันทุกข้อเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา!!!
.
.
.
เปิดเรื่องมาในมหานคร Seattle รัฐ Washington
ที่ตึกสำนักงานใหญ่ของ Queen Industries กำลังมีการประชุมผู้บริหารกันอยู่ โดยมี Mr.Emerson ผู้เป็น CEO เป็นประธานการประชุม
(ในจักรวาลเดิมจะอยู่ใน Star City ที่เป็นเมืองที่สมมุติขึ้น แต่ในจักรวาลนี้ย้ายมาอยู่ในเมืองที่มีจริงอย่าง Seattle แทน)
Emerson : การคิดค้นสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอคือสิ่งที่สำคัญที่สุดนะทุกท่าน ไม่มีที่ให้กับการเป็นที่สองอีกต่อไปแล้ว
Emerson : ควีนอินดัสตรีส์ของเรานั้นเป็นผู้นำของธุรกิจพลังงาน, การขนส่ง รวมไปถึงของใช้ต่างๆในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าเราเข้าถึงทุกแง่มุมของชีวิตสมัยใหม่เลยทีเดียว ซึ่งบริษัทลูก Q-Core ของมันนั้นก็ควรจะเป็นสุดยอดเช่นเดียวกัน แทนที่ต้องไปคอยแข่งขันกับพวกอย่าง เวย์นเท็ค, เล็กซ์คอร์ป แล้วก็ ฮอลท์อินดัสตรีส์ นั่น
(Waynetec : บริษัทลูกของ Wayne Enterprise ของ Bruce Wayne (Batman))
(Lexcorps : บริษัทของ Lex Luthur คู่ปรับของ Superman)
(Holt Industries : บริษัทของ Michael Holt (Mr.Terrific))
เลขาฯ : แต่ท่านคะ ยอดขายของ Q-Pad รุ่นใหม่นั้นทะลุเกินเป้าไปถึงเกือบสี่เปอร์เซ็นต์เลยนะคะ
Emerson : นั่นมันเมื่อไตรมาสที่แล้ว ผมกำลังพูดไตรมาสต่อไป…ปีต่อไป…อีกห้าปีต่อจากนี้ และผมก็ไม่ได้กำลังพูดกับคุณด้วย
Emerson : ไหนบอกผมมาหน่อยซิ ว่าโอลิเวอร์ ควีนผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลนั้นฝีมือตกแล้วหรือไง?
ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดออกมาจากเครื่อง Speaker ที่ตั้งอยู่กลางห้อง
Oliver : คุณไม่ต้องพูดถึงผมในแบบอ้อมๆแบบนั้นก็ได้น่าเอเมอร์สัน ผมกำลังฟังคุณพูดอยู่นี่แล้วไงล่ะ
Emerson : ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ยโอลลี่
Oliver : ช่าย เทคโนโลยีสมัยนี้มันเจ๋งจริงๆว่าไหม
ในขณะพูดกันอยู่นั้น Oliver Queen ประธานบริษัท Q-Core กำลังวิ่งข้ามยอดตึกไปในยามราตรีของนครปารีส
Emerson : มันก็ถูกอยู่ แต่ผมอยากให้คุณมาอยู่ในห้องเดียวกับเรา ในขณะที่เรากำลังประชุมเรื่องอนาคตของ Q-Core อยู่มากกว่านะ
Emerson : เพราะอย่างน้อยผมจะได้รู้ว่าคุณให้ความสนใจกับเรื่องที่เรากำลังประชุมอยู่นี่
Emerson : ถ้าหากว่างานนี้มันไปรบกวนการท่องเที่ยวของคุณนักล่ะก็ บางทีคุณก็น่าจะคิดเรื่องลงจากตำแหน่งไว้บ้างก็ได้นะ
Oliver : การเดินทางของผมทุกครั้งมันเกี่ยวกับเรื่องงานทั้งนั้นล่ะเอเมอร์สัน ผมเชื่อว่าเราคบหากันมานานพอที่คุณจะรู้จักผมดีนะ…
Oliver : …ว่าไอ้การทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันน่ะมันเป็นสิ่งที่ผมถนัดมากเลยล่ะ
จากยอดตึก Green Arrow กำลังมองดูเป้าหมายของเขาในค่ำคืนนิ้อยู่
“ภาพที่กำลังเห็นอยู่นี่มันให้ความรู้สึกไม่ถูกต้องเอาเสียเลย”
“พวกวายร้ายมันควรที่จะต้องหลบๆซ่อนๆอยู่ในเงามืด ด้วยความหวาดกลัวที่จะโดนจับ แต่แทนที่สังคมจะกล่าวโทษพวกมัน กลับกลายเป็นว่าสังคมดันยกย่องพวกมันซะงั้น”
“ทำให้พวกมันมีชื่อเสียงและความร่ำรวยยังกับพวกมันเป็นดาราดัง”
“มองว่าพวกมาเฟียมันเจ๋ง มองว่าพวกโจรสลัดมันเซ็กซี่ มองว่าพวกนักฆ่ามันสุดยอด
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันเห็นว่าพวกมันเป็นเลยสักนิด”
Oliver : นาโอมิ? ได้ยินไหม?
Naomi : ฉันอยู่ตรงนี้ตลอดนั่นแหละโอลลี่
ที่ห้องบัญชาการลับในบริษัท Q-Core Naomi ผู้สนับสนุนของเขากำลังประสานงานด้านข้อมูลและคอมพิวเตอร์ให้กับ Green Arrow อยู่
Oliver : ฉันจำพวกนั้นทั้งสามคนได้จากคลิบวีดีโอที่พวกมันเอาไปโพสบนยูทูปนั่น
Oliver : ไอ้เจ้าตัวใหญ่ไดนามิกซ์นั่นมันเกือบจำทำลายสะพานลอนดอนมาแล้ว ส่วนยัยดอบเพลแกงเกอร์นั่นมันก็ไปก่อเรื่องในงานแสดงแฟชั่นที่มิลาน แล้วก็เจ้าซุปเปอร์ชาร์ตนั่นก็ใช้พลังไฟฟ้าของมันไปทำให้มอนติคาร์โลไฟดับทั้งเมืองมาแล้ว
Naomi : ดูเหมือนว่าครั้งนี้คุณเจองานใหญ่เลยนะเนี่ย
Oliver : แล้วพวกมันทั้งสามคนมาทำอะไรกันแน่?
Naomi : พวกนั้นท่าจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดในเรือที่อยู่ด้านหลังผับน่ะ
Oliver : ฉันจะตามพวกมันไปเดี๋ยวนี้แหละ
Oliver : เปลี่ยนโหมดแว่นตาเป็นแบบจับอุณหภูมิ
Oliver : แต่มันดูจะเป็นการยากอยู่สักหน่อยที่จะตามดูพวกมันในฟลอร์เต้นรำที่พลุกพล่านนี่น่ะนะ
Naomi : บางทีคุณควรจะถอยออกมา แล้วก็จัดการวางระเบิดรถของพวกมัน จากนั้นก็แค่รอดูดอกไม้ไฟก็พอ มันทั้งง่ายกว่าแล้วก็เป็นการแก้ปัญหาที่ฐาวรกว่าด้วย
Oliver : เธอก็รู้ว่านั่นไม่ใช่วิธีการทำงานของเรานะ
Naomi : มันไม่ผิดที่จะนึกฝันบ้างใช่ไหมล่ะ?
ที่ในฟลอร์เต้นรำ วายร้ายทั้งสามเตรียมลงมือ
Naomi : โอลลี่ คุณควรจะลงมือได้แล้วล่ะ เพราะมันดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะ เพราะค่าที่อ่านได้ของดอปเปลแกงเกอร์มันสูงขึ้นจนหลุดชาร์ตเลย
Jax : แต่พวกมันมีตั้งสามคนเชียวนะ แถมยังมีคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เต็มไปหมดด้วย มันยากเกินไปนะโอลลี่
Oliver : ควรจะเรียกรถพยาบาลเผื่อไว้ด้วยล่ะนะ
Jax : แต่นั่นมันจะทำให้พวกตำรวจแห่กันมาด้วยนะ และพวกนั้นก็คงจะยิงใส่คุณด้วยถึงคุณจะอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเขาก็ตาม
Oliver : นั่นคือชีวิตของฉันล่ะแจ๊กซ์
Oliver : จะลงมือทำก็แย่
Oliver : ไม่ลงมือทำก็แย่เหมือนกัน
ว่าแล้ว Green Arrow ก็กระโดดลงจากหลังคาตึก ทะลุหลังคากระจกเข้ามาข้างในเรือ
(แหม พอได้เปลี่ยนกลับมาเป็นหนุ่มทีนี่โชว์ฟอร์มเต็มที่เลยนะโอลลี่)
พวกวายร้ายเมื่อเห็นเขาก็ไม่มีท่าทางหวาดกลัวแต่อย่างใด
(มีการกระหยิ่มยิ้มย่องจะอัดคลิปไว้อีก)
แต่พ่อนักธนูชุดเขียวของเราก็ไม่สนเรื่องนั้นอยู่แล้ว และเริ่มลุยทันที
Oliver : เฮ้ พวกชอบปาร์ตี้ทั้งหลาย พวกนายควรจะเลิกปากอ้าตาค้างแล้วรีบไปจากที่นี่ดีกว่านะ
Oliver : นี่ไม่ใช่ดิสโก้นะจะบอกให้
Green Arrow ขว้างอาวุธที่มีรูปร่างเป็นแผ่นกลมใส่ Supercharge แต่ก็โดนมันทำลายได้ง่ายๆ
Supercharge : ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมพวกคนอเมริกันถึงได้สนใจแกนัก
Supercharge : แกมันก็แค่คนธรรมดาที่ใส่ชุด ที่วิ่งไปทั่วแล้วเล่นเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ พร้อมกับของเด็กเล่นเท่านั้นแหละ ฉันน่ะไม่ต้องใช้ของเล่นหรอก เพราะนี่…นี่แหละคือพลังของแท้!
แม้จะเจอกับศัตรูที่มีพลังพิเศษ แต่ Green Arrow ก็ยังคงเยือกเย็นอยู่เช่นเดิม
Oliver : แกพูดถูกว่ะ ฉันมีของเล่นอยู่เพียบเลย
Oliver : แต่ฉันไม่เล่มเกมน่ะนะ
เขาหยุดพลังของ Supercharge ด้วยการใช้ธนูที่ติดระเบิดแสงทำให้มันตาพร่าจนใช้พลังต่อไม่ได้
เมื่อเห็นว่าพวกคนดูโดดหนีไปหมดแล้ว Green Arrow ก็ยิงธนูติดเครื่องรับ-ส่งสัญญาณไปปักที่แผงควบคุมเรือ แล้วให้ Naomi แฮ๊คการควบคุมของเรือเพื่อบังคับมันให้ออกห่างจากฝั่ง
เมื่ออยู่ห่างจากคนอื่นมากพอแล้ว Green Arrow ก็ลุยต่อ เขาขว้างอาวุธจานร่อนใส่ Doppelganger แต่มันก็รับไว้ได้
แต่ทันใดนั้นก็มีสายโลหะเป็นสิบเส้นออกมาจากจานร่อนเข้ามัดตัวของ Doppelganger อย่างแน่นหนา
เมื่อเห็นดังนั้น Dynamix ก็คิดใช้พละกำลังมหาศาลของมันเข้าเล่นงานเขา
แต่แค่พละกำลังนั้นไม่พอจะเอาชนะนักธนูของเราได้หรอก
ว่าแล้ว Green Arrow ก็จัดคอมโบใส่ Dynamix ไปชุดใหญ่ แล้วก็ถีบมันตกเรือไป
(สังเกตุว่า Green Arrow ใช้สนับแขนที่เป็นโลหะร่วมในการโจมตีด้วยเพื่อเพิ่มความรุนแรงของคอมโบด้วย)
โดยไม่ลืมจะกันไม่ให้มันหนีด้วย
เหลือ Supercharge เป็นคนสุดท้าย ซึ่งในเมื่อเห็นอยู่ว่ามันยิงพลังไฟฟ้าออกจากมือ ก็เล่นงานจุดนั้นก็พอแล้ว
Green Arrow จึงยิงลูกธนูไปเสียบทะลุมือทั้งสองข้างของมันให้ใช้การไม่ได้ไปเสีย
แล้วก็ซัดมันที่หมดอาวุธจะใช้แล้วจนน็อคไป
Oliver : ปาร์ตี้จบแล้ว เอาเรือกลับเข้าฝั่งได้แล้วนาโอมิ!
Naomi : ได้เลย
Jax : เจ๋งมากเลยโอลลี่ ดูเหมือนว่าบางครั้งวิธีการแบบโลว์เทคก็ใช้ได้ดีเหมือนกันนะ
Naomi : ที่พูดมานั่นไม่เข้ากับนายเอาซะเลยนะ
วันต่อมา
ที่อาคารบริษัท Q-Core ที่ Seattle
Oliver พลิกบทบาทมาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ซ่อนมาดซุปเปอร์ฮีโร่ไว้ได้อย่างมิดชิด
Adrian : ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี่ เอเมอร์สันโทรมาหาคุณถึงเก้าครั้งเลยนะคะ
Oliver : หมอนั่นตื๊อจริงๆเลยนะ
Adrian : เขาโกรธหนักขึ้นทุกครั้งที่โทรมาเลยล่ะคะ บอกว่าคุณวางสายใส่เขาด้วย
Oliver : เขาก็พูดเกินจริงไปหน่อยนะ เอเดรียน
Adrian : แหม ฉันเดาว่าในเมื่อเขาเป็น CEO ของควีนอินดัสตรีส์ เอเมอร์สันก็คงต้องการให้คุณอยู่เวลาที่เขาเรียกหานั่นแหละค่ะ
Oliver : ถึงชื่อของผมจะติดอยู่บนยอดตึกนั่นก็เถอะ แต่ผมอยากจะกันควีนอินดัสตรีส์ให้ห่างจาก Q-Core ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่อยากให้มีใครมาทำตัวเป็นพี่ใหญ่คอยควบคุมผมน่ะ
Adrian : แต่ทั้งสองบริษัทก็เป็นส่วนหนึ่งของเครือเดียวกัน คุณจะเอาแต่ไม่สนใจเขาไม่ได้หรอกนะคะ และคุณก็ไม่ควรจะทำด้วย
Oliver : คุณรู้อะไรไหมเอเดรียน? คุณพูดถูกนะ มันจะเป็นการดีกว่าที่จะมีใครคอยเฝ้าดูเขาไว้บ้าง ถ้าเอเมอร์สันต้องการตัวแทนของ Q-Core ให้ไปที่หอคอยงาช้างนั่น เราก็จะส่งไปให้ ช่วยบอกสวัสดีเขาแทนผมด้วยแล้วกันนะ
Adrian : คะ…คุณจะให้ฉันไปแทนงั้นหรือคะ?
Oliver : เอเมอร์สันกับผมนั้นไม่ถูกกันมาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะ สิ่งเดียวเรามีตรงกันก็คือเราต่างก็เหม็นหน้ากันและกันเท่านั้นเอง เขาจะสบายใจกว่าแน่ถ้าคุณเป็นคนไป เชื่อผมสิ
Jax : นี่คุณโยนเอเดรียนเข้ารังหมาป่างั้นสินะ?
Oliver : แหม เธอไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันไม่จ้างคนที่ไม่สามารถรับความเครียดนิดๆหน่อยๆมาทำงานให้ฉันหรอก
Jax : ก็ว่างั้นแหละ
พวกเขาขึ้นมายังห้องทำงานส่วนตัวของ Oliver ซึ่งก็เป็นฐานของ Green Arrow ไปด้วยในตัว
Oliver : มีข่าวล่ามาจากทางฝรั่งเศสบ้างไหมนาโอมิ?
Naomi : หน่วยจัดการพวกมีพลังเหนือมนุษย์ของฝรั่งเศสจับซุปเปอร์ชาร์จกับไดนามิกซ์ขังไว้ในเรือนจำเลเวล 6 แล้วพวกนั้นก็เอาดอปเปลแกงเกอร์ไปตรวจสอบในห้องแล็ปเพื่อหาทางแก้ตัวยาที่ทำให้พวกนั้นมีพลังพิเศษขึ้นมา
Jax : เธอรู้เรื่องพวกนั้นได้ไงน่ะ?
Naomi : เดี๋ยวนี้อะไรๆก็สามารถเข้าถึงได้ทั้งนั้นแหละแจ๊กซ์ ขอแค่รู้ว่าจะหาที่ไหนก็พอแล้ว
Jax : ไม่ต้องไปสนเรื่องสิทธิส่วนบุคคลกันเลยงั้นสินะ หืมม์?
Naomi : มันต้องมีใครสักคนทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้หรือไม่ยอมทำ แต่อย่างน้อยเราก็อยู่ฝ่ายคนดีแหละน่า
Oliver : นี่เป็นสงครามรูปแบบใหม่แล้วแจ๊กซ์ เราสู้มันด้วยวิธีเดียวที่เราสามารถทำได้นั่นแหละ
Jax : แต่…ทำไมเราถึงต้องสู้อยู่แบบนี้ด้วยล่ะ?
Jax : ไอ้การได้เข้ามาทำงานที่ Q-Core หลังจากจบจาก M.I.T. มันเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริงเลยน่ะนะ เพราะการได้ทำงานกับเทคโนโลยีล้ำยุคเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิมมันเป็นเรื่องดีต่อทุกฝ่าย แต่ผมไม่ได้ขอมาทำงานแบบนี้นะโอลลี่ ผมไม่ชอบชีวิตอีกด้านของคุณนี่เลย
Oliver : ฉันบอกนายไปหมดแล้วนี่ว่ากรีนแอร์โร่วมีไว้เพื่ออะไร
Oliver : มันคือสิ่งที่ฉันต้องการที่จะทำ
Jax : แต่ผมไม่อยากจะคิดสร้างอาวุธนี่ครับ
Oliver : ซึ่งนั่นก็ทำให้นายคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้ไงล่ะแจ๊กซ์ ฉันต้องการให้คนที่สร้างอาวุธให้ฉันเป็นคนที่ไม่รู้สึกสนุกกับการหาวิธีทำร้ายคนอื่น
Jax : คุณก็ช่วยเหลือคนอื่นผ่านทาง Q-Core มามากแล้วนี่นา ทำไมคุณถึงต้องมาเสี่ยงชีวิตตัวเองแบบนี้อีกล่ะ?
Jax : แค่แจ้งเรื่องให้พวกตำรวจรับทราบ แค่นั้นก็พอ แล้วให้พวกนั้นทำงานของพวกนั้นไป
Oliver : ฉันไม่สามารถจะนั่งดูอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลยได้หรอก ฉันทำไม่ได้ ครั้งล่าสุดที่ฉันทำแบบนั้น ฉันก็ต้องเห็นผู้คนตายไปต่อหน้าต่อตา ผู้คนที่ฉันอาจสามารถช่วยเหลือได้ ผู้คนที่ฉันควรจะเข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่แรก ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก ถ้าฉันสามารถทำอะไรกับมันได้ล่ะก็นะ
ตัดมาที่เรือนจำนักโทษอุกฉกรรจ์ของฝรั่งเศส
Dynamix : นี่มันห่วยแตกสิ้นดีเลย
Supercharge : ใจเย็นๆน่า พวกนั้นไม่มีอะไรจะมาใช้เอาผิดเราหรอก พวกนั้นรู้แค่ว่ากรีนแอร์โร่วเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเท่านั้นแหละ
Dynamix : เหรอ แต่เราเป็นฝ่ายที่โดนขังนะ แถมยังไม่รู้เลยว่าพวกนั้นเอาดอปเปลแกงเกอร์ไปไหนเลยด้วย
Supercharge : อย่าไปสนใจเลยน่า ยายนั่นมันเป็นตัวประหลาดอยู่แล้วนี่
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังลั่นขึ้น พร้อมกับที่กำแพงคุกก็พังลง
??? : อาร์เรตเต้! ฮาลท์!
Supercharge : เอ่อ…รัช…คืองี้…พวกเราน่ะ…เอ่อ…
Rush : ใจเย็นไว้พวก…ฉันไม่ได้โกรธที่พวกนายไปปาร์ตี้กันโดยไม่บอกฉันหรอก
Rush : การต่อสู้ของพวกนายกับกรีนแอร์โร่วน่ะแพร่ไปทั่วเน็ตแล้ว คนกำลังฮือฮากันใหญ่เลยเชียวละ
Rush : รอให้พวกนั้นได้ดูเราฆ่าเจ้านั่นก่อนเถอะ
ตอนนี้แก๊งวายร้ายที่มีพลังพิเศษกำลังตั้งเป้าที่จะเล่นงาน Green Arrow แล้ว! เขาจะเอาตัวรอดได้หรือไม่?
โปรดติดตามตอนต่อไป เมื่อการไล่ฆ่า Super Hero จะถูกถ่ายทอดผ่านเน็ต!!!
เสริมนิด
พออ่านตอนนี้แล้วนั้น เกิดความรู้สึกว่า Green Arrow กับ Batman นี่เป็นตัวแทนของ “ความเหมือนที่แตกต่าง” จริงๆ
Oliver กับ Bruce นั้นมีปูมหลังกับแนวคิดที่เกือบจะเหมือนกันเลย คือเป็นทายาทที่สืบทอดมรดกเป็นธุรกิจใหญ่ทั้งคู่ และยังตัดสินใจที่จะมาเป็นนักปราบอธรรมโดยไม่สนกฎหมายทั้งที่เป็นแค่คนธรรมดาทั้งคู่ด้วย
แต่วิธีการของ Batman กับ Green Arrow กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง
โดย Batman นั้นจะใช้วิธีแฝงตัวเล่นงานเหล่าร้ายอยู่ในเงามืด และจู่โจมแบบไม่ให้ตั้งตัว พร้อมกับปลูกฝังความหวาดกลัวให้กับพวกมัน
ส่วน Green Arrow นั้นจะใช้วิธีแบบตรงๆและเปิดเผยมากกว่า (ขนาดชุดยังจงใจใช้สีเขียวให้มันสะดุดตาเลย) ประมาณว่า “อั๊วไม่สนว่าพวกแกจะกลัวอั๊วหรือเปล่า รู้แค่ว่าอั๊วจะตามไปอัดพวกแกให้หมอบแล้วยัดเข้าตารางเท่านั้นก็พอ)
ซึ่งวิธีการของทั้งคู่ก็สะท้อนบุคลิคที่แตกต่างของแต่ละคนออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีประสิทธิภาพในแบบของมันเองคงจะเอามาเทียบกันได้ยาก แต่ผมก็ชอบทั้งสองคนนะ
ชุดและความหนุ่มอิมพอร์ตจาก Smallville 😀
ประเด็นแรก หนุ่มแล้วดูเก่งขึ้นจริง โดดไปโดดมา อาวุธขนมาเล่นให้เพียบ
ประเด็นสอง ถอดแว่นแล้ว ไม่เห็นหล่อเหมือนที่คิดเลย 55 แต่ชุดใหม่นี่โดนใจเต็มๆ
ประเด็นสาม ที่ว่าเปรียบเทียบกับแบทแมน ดูๆแล้ว พอไม่มีใครกลัวกรีนแอโร่ เลยทำให้แบทแมนดูเหนือกว่าในการใช้ความกลัวเข้าข่ม
ทำไมผมไปเทียบกับ โทนี่ สตาร์ค ล่ะ…
มายกแก๊งค์ขนาดนี้ ออลลี่คงสาหัสแน่ ๆ 55
กับบรูซ ผมว่าออลลี่ต่างกันอีกอย่างคือออลลี่ไม่สนกฏหมาย แต่บรูซยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรมอยู่ครับ
ไมใช่เล่มหน้ามีฉากตายแบบตอน Brightest Day อีกนะ เจอผู้ร้ายมาเป็นแก๊งซะขนาดนี้ -“-
แต่โอลลี่เปิดตัวบู๊หล่อเท่จริงๆ 😀
อืม สงสัย ต้องรอ Bat กับ Green มาเจอกันดู
เอาแบบนักธุรกิจ เจรจากัน
ไม่น่าเปลี่ยนเป็น Seattle เลย รู้สึกผูกพันธ์กับ Star City มากกว่า
Q-pad คู่แข่ง I-Pad ป่ะ
Batman แกซุ่มโป่ง แต่เกรียน เอ๊ย กรีน แอโร่ แกเล่นตรงๆ อาจเพราะ พวกตัวร้ายเอง ก็ชอบแสดงตัวต่อหน้าสาธารณะด้วย ซึ่งดูท่าทาง กรีน แอโร่เอง ตัวจริงเป็นคนใจร้อนโผงผาง นั่นเอง
ที่ผมชอบเพราะว่า เค้าทั้งสองคนนั้นเป็นคนธรรมดา
พอหนุ่มขึ้น โอลลี่เราก็จัดเต็มเลยนะนี่
ว่าเเต่โอลลี่กับตาเวย์นใครจะรวยกว่ากันนะ 5555555555
กรรมตกลงเมือง สตาร์ซิตี้ จำต้องหายไปหลัง ไบร์ทเทอร์เดย์ หรือนี่ เฮ้อ
เล่มนี้ กรีนแอร์โร่ว์เท่มาก เลย เห็นเมื่อก่อนทั้งคู่ก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนให้รู้กันนิทั้งกรีนแอร์โร่ว์กับแบทแมน
เห็นด้วยเลยครับหัวข้อ “ความเหมือนที่แตกต่าง”
ขอบคุณมากครับที่ปสอย
มีใครเห็น“เธอ”มั้ง
@fewuio อยู่ในบาร์หลังโอลิเวอร์ครับ
หนุ่มขึ้นแล้วไฟแรงจริงๆ
“ฉันต้องการให้คนที่สร้างอาวุธให้ฉันเป็นคนที่ไม่รู้สึกสนุกกับการหาวิธีทำร้ายคนอื่น” อะฮ้า…โอลิเวอร์ถึงหน้าตานายจะหล่อสู้บรู๊ซไม่ได้แต่จิตใจนายหล่อมาก
ให้ตายสิ คำพูดของ โอลลีิเวอร์ มันกินใจผมจริงๆ
สุดยอดจริงๆ ขอบคุณมากครับ เจอ Time Trapper อีกแล้ว
เท่กว่าตอนเป็นลุงเยอะเลย !!
ฮอว์กอายยยยยยยยยยยยยยย