Ultimate Fallout : Spider-Man No More 3 of 6

Spider-Man No More : Ultimate Fallout #3 อนาคตที่ต้องมุ่งหน้าต่อไป
เรื่อง : Jonathan Hickman และ Nick Spencer
ภาพ : Steve Kurth, Eric Nguyen และ Carlo Pagulayan
วางจำหน่าย: 27 สิงหาคม 2011
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

สี่วันก่อน งานศพของพี่ชายเกรกอรี่

บาทหลวง : แด่ผู้ล่วงลับ ไม่มีความเสียใจ ช่วงเวลาที่ผ่านผ้นไปจะไม่มีการย้อนกลับมาครุ่นคิด ไม่ต้องมาคิดว่าควรจะเป็นอย่างไร ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ได้นึกถึงคำกล่าวที่ว่า ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์มีเพียงครั้งเดียวในชีวิต

บาทหลวง : เกรกอรี่ สตาร์ค เป็นบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญยิ่ง ได้ก่อเกิดสิ่งสำคัญต่างๆมากมาย

บาทหลวง : แม้เขาจะตายจากแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขา…จากไป

โทนี่เจ้าภาพพิธีงานได้กล่าวขอบคุณแก่ผู้แขกผู้เข้ามาร่วมไว้อาลัย จนกระทั่งชายคนหนึ่งมา

??? : อืม ผมคงต้องกล่าว…
??? : คิดว่าคุณเกรกอรี่คงหน้าถมึงทึงใส่คุณสตารค์แน่เพราะรูปปั้นเทวดาที่บังอาจบินว่น
ในขณะที่เขากลับคืนสู่ผืนดินตลอดกาลนี่สิ

โทนี่ สตาร์ค : ขอโทษครับ… เราเคยพบกันก่อนรึเปล่าครับ
??? : ช่วงเวลาสั้นๆนี่เอง คุณเกอกอรี่และผมมีพบปะธุระกัน เมื่อหน้าร้อนสองปีก่อนที่มอนาโค
ช่วงเวลานั้น แน่ชัดเลยว่า คุณไม่เคยพบผม ผม Jonathan Blackhaven

โทนี่ สตาร์ค : อ๋อ Blackhaven เจ้าของบริษัทเภสัชกรรมรายยักษ์ใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วติดระดับโลก–
ครั้งหน้าผมมั่นใจว่าจำได้แน่ ขอบคุณที่แวะมา Jonathan  ผมมั่นใจว่าคุณพี่เกอกอรี่ปิติยินดีอย่างยิ่ง

Jonathan Blackhaven : ที่จริง ผมมานี่ตามคำขอ ดูเหมือนว่าพี่ชายคุณอยากให้สานงานต่อที่พี่ชายคุณและผมเริ่มขึ้น
โทนี่ สตาร์ค : งั้นคุณก็มานี่เพื่มตามความมุ่งหวังของพี่ชายผม ผู้จัดมรดกสินทรัพย์ก็เรียกผมเมื่อหลายวันมาแล้ว
พี่ทิ้งทุกอย่างให้น้องอย่างผม ผมไม่มีเวลาเลยที่ต้องมานั่งเซ็คสัญญาที่คงค้างหรือ..

Jonathan Blackhaven : ผิดล่ะ ผิดแล้ว คุณสตาร์ค คุณพูดถึงเรื่องเงินทอง ทรัพย์สินและหลายอย่างๆของพี่อยู่…
แต่เรื่องนี้มันสำคัญกว่านั้นเยอะ บอกผมสิ ว่าคุณอยากไปซูริคในรอบปีนี้ เลยไหมล่ะ?

ซูริค เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ในเวลาถัดมา

Jonathan Blackhaven ได้พาโทนี่ไปหากลุ่มที่รอพวกเขาอยู่ระหว่างทางก็ชวนคุยไปด้วย

Jonathan Blackhaven : ผมมั่นใจว่าคุณรู้เรื่องสามัญชนเล่าถึงความร่ำรวยในรูปแบบต่างๆกันไป ส่วนมากเชื่อว่าการร่ำรวยย่อมมีชีวิตที่แสนสบาย
ซึ่งมันก็ถูกเมื่อเทียบกับตรรกะทั่วไป ความมั่งคั่งได้เป็นตัวเปิดโอกาสและเป้าหมายใหม่ๆที่สำคัญอย่างยิ่งยวด

โทนี่ สตาร์ค : คุณBlackhaven มรดกของพี่ชายได้นับรวมกับของผมแล้วมีมูลค่ากว่าเก้าหมื่นหนึ่งพันล้านดอลล่าร์ คุณไม่ต้องอธิบายคำว่าร่ำรวย มั่งคั่ง กับผมหรอก
โทนี่ สตาร์ค : และโอกาสที่ผมได้ซุปเปอร์ฮีโร่ ขอเดาเลยว่าคุณพูดถึงภาพรวม

Jonathan Blackhaven : แน่นอน มีความเชื่อที่แพร่หลายว่าเหล่าผู้ร่ำรวยชั้นนำของโลกมาจากการนับเงินก้อนเก่า
เปรียบเป็นนัยๆว่าไม่มีทางที่เราจะร่ำรวยอย่างที่เป็นอยู่ได้หรอก แล้วกล่าวหาความสำเร็จพวกเราได้มาโดยวิธีการไม่ขาวสะอาด

Jonathan Blackhaven : เรารู้กันอยู่แล้วเรื่องที่กล่าวมานี่โกหกทั้งเพใช่ไหมล่ะ
โทนี่ สตาร์ค : แน่นอนว่าใช่

Jonathan Blackhaven : คุณและพี่ชายเกอกอรี่ทั้งสองคนเป็นตัวอย่างของความน่าพิศวงสมบูรณ์แบบ
ผลุโผล่มาไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัวแทรกแซงระบบเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ของพวกเรา ระบบที่ปฏิบัติการด้วยอัตราความเร็วเหนือแสงไม่เคยได้หลับได้นอน
Jonathan Blackhaven : คุณเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มบุคคลผู้ร่ำรวยติดอันดับแล้ว
Jonathan Blackhaven : แล้วเราก็มาถึงแล้ว

เขาได้แนะนำสมาชิกในกลุ่มให้แก่โทนี่
1. La Contessa Valentina Allegra de la Fontaine ประธานกลุ่ม OXE ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
2. พี่น้องฝาแฝด Mirolav และ Dieter Buchwald  ผู้ก่อตั้งร่วมให้กับเทเลคอมรายยักษ์ใหญ่FreivolksWaldในเยอรมันนี
3. Ming Xiang เป็นหนึ่งในแนวหน้าของกลุ่ม HKpec บริษัทระหว่างประเทศซึ่งผลิตน้ำมันและบริษัทแก๊ส และเป็นเจ้าของโรงกลั่นใหญ่อันดับสองของโลก
4. Damon Dunn มหาเศรษฐีผู้มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ในวัยเพียง17ปี ตอนอายุ 21ก็ได้ติดอันดับสี่ของโลก โดยประดิษฐ์เครื่องประมวลผล DNA

Damon Dunn ได้จับมือทักทาย โทนี่สตารค์ และแสดงความยินดีที่โทนี่ได้เข้าร่วม Kratos Club

Jonathan Blackhaven ได้เริ่มอธิบายเป้าหมายของการรวมกลุ่มครั้งนี้

โทนี่ สตาร์ค : เข้าใจล่ะ การจัดการตลาดหุ้น เข้าคุมความขาดแคลน เป้าหมายที่ประเมิณค่ามิได้..
Jonathan Blackhaven : ผิดล่ะ เรารวยพอแล้ว เราแค่ใช้อำนาจเป็นหลักประกันว่าจะจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางอย่างที่สมควรเป็น
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีใครขัดขวางก็ตาม
โทนี่ สตาร์ค์ : แล้วใครล่ะที่ตัดสินว่ามันถูก
Jonathan Blackhaven :  ประชาชนที่ได้รับประโยชน์ กลุ่มบุคคลที่รวมกันในห้องแห่งนี้

โทนี่ สตาร์ค : ไม่ยักรู้เลยว่าพวกคุณคาดหวังตัวผมให้เข้า…
Damon Dunn :  เราคาดหวังการตัดสินใจที่ถูกต้องจากคุณ แล้วคุณมีอะไรอื่นให้ทำรึไง?  ใช้เวลาที่เหลือไปวันๆหลบกระสุนจนกว่าปลายกระสุนลูกหนึ่งจะโดนตัวคุณรึ  เพื่ออะไรล่ะ? เพราะอีโก้รึ?หรือฉลองอะไรสักอย่างหรือ? คุณฉลาดจะตายไปที่จะมายอมตายเพื่อเล่นเป็นซุปเปอร์ฮีโร่เนี่ยนะ

Jonathan Blackhaven : สรุปแล้ว…

“คำตอบของคุณจะออกมาในรูปแบบไหนกันล่ะ?”

กลับมาในงานพิธีศพของปีเตอร์

คิตตี้ ไพร์ตนั่งติดกับป้าเมย์ เหลือบไปทางซ้าย เหลือบไปทางขวา ทำใจไม่ได้เลยวิ่งออกจากงานพิธีไป

เราอยู่ในรายการทีวีอยู่นะ

คิตตี้ ไพร์ต แม่หนูคงถามแน่ว่ามารยาทหนูหายไปไหนหมด?

ก็คนเราต่างมีขีดกำจัดเหมือนกันไม่ใช่หรือไง?

เมื่อคิตตี้เห็นนักข่าวมาสัมภาษณ์ความรู้สึกต่อสไปเดอร์แมน กับคนที่แวะผ่านมา
คิตตี้ไม่สบอารมณ์อย่างแรงจึงเข้าไปไล่ตะเพิดหนีไป

คนพวกนั้นน่าขยะแหยงถึงที่สุด เพื่อนของหนู เพื่อนที่หนูหลงรักเกินกว่าจะสรรหาคำมาบรรยายได้  ตายไปแล้ว
ไม่มีวันกลับมาได้อีก แล้วคนพวกนั้นทำอะไรงั้นหรือ? ก็เอามาทำเป็นรายการโชว์ไง

ปีเตอร์ทุ่มเททำแต่ในสิ่งที่ถูกต้อง

คนพวกนั้นกลับทำร้ายเขาเป็นการตอบแทน ตลอดเวลามานี้ คนพวกนั้นเอาแต่ยิงใส่ ตะโกนเรียกชื่อเขาตามหนังสือพิมพ์
และพยายามจับกุมเขา–

กลับกลายเป็นว่าพวกเค้ายืนบอกความในใจว่าปีเตอร์เป็นยอดคน วีรบุรุษอย่างไร

ห่วยแตก

มันก็แค่กลุ่มคนพยายามให้ตัวเองดูดีต่อหน้ากล้องเท่านั้นแหละ

‘เขาเป็นเด็กคนนึง ไม่รู้มาก่อนเลย’ ก็พวกคุณไม่เอ่ยซักถามสักครั้งเลยนี่ พวกคุณมัวแต่ติดธุระกันตลอดอย่างเข้าโรงยิม
ซ็อปปิ้ง นั่งดูรายการทีวี พยายามขายหนังสือพิมพ์ให้มากเข้าไว้ หรือปฏิบัติการลับติ๊งต๊องของคุณเอง

ลึกๆแล้ว คุณไม่เคยแคร์ตัวเขาเลย หากพวกคุณแคร์เขาจริงๆแล้วล่ะก็

หากคุณแคร์ล่ะก็ เขาคงไม่มานอนในโรงศพหรอก

ไอ้ที่แย่ที่สุดก็คนอย่างพวกเค้าก็แกล้งทำเป็นกลับเนื้อกลับตัว แล้วยกตัวอย่างมาว่าเด็กอย่างเขามอบแรงบันดาลใจให้พวกคนอย่างคุณ

ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยซักนิด

ปีเตอร์คงอยากบอกว่าให้เลิกสู้กันเอง บอกให้เลิกตามล่าพวกคนกลายพันธุ์ ให้เลิกเกลียดใครก็ตามเพียงเพราะแตกต่างไปจากพวกคุณ

แต่ไม่เลย พวกเขาไม่หยุดเลิกราง่ายเพียงนี้หรอก อาจเพราะส่งผลถึงส่วนลึกๆในจิตใจ อาจเพราะต้องแลกกับผลโหวตคะแนนบางส่วนไป
ที่พวกเขาเล่นกับคนก็เพื่อความสะดวกสบายส่วนตัวเท่านั้นเอง

เห็นรึยัง ไม่มีใครอยากให้มีฮีโร่กันทั้งนั้น–เพราะอาจกล่าวเรื่องไม่ถูกไม่ควร–หรือเตือนสติว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไม่ใช่เลย

ความตายเป็นเรื่องรับมือแสนง่ายที่สุด การให้ตัวเองเป็นผู้ดีก็แค่บอกไปว่าพวกเค้าเศร้าแค่ไหน
หรือไม่ก็ชี้นิ้วใส่ใครสักคนแล้วร่วมกันประณาม

ชั้นงั้นหรือ? เลิกล่ะกับการเป็นฮีโร่ แม้จะรู้ดีว่าปีเตอร์คงมาบอกว่าอย่ายอมแพ้สิ ควรพยายามต่อไปไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้น
แค่ชั้นไม่มีทางมอบสิ่งที่คนพวกนั้นอยากได้หรอก ชั้นก็ไม่อยากตาย อยากได้แค่ชีวิตปกติสุข
ไปมหาลัย อยู่กับแม่ แล้วก็ออกไปเที่ยวกับ–

เพื่อนๆของหนู

คิตตี้ : รู้สึกยังไงบ้าง
บอบบี้ : เลวร้ายที่สุด
คิตตี้ : ใช่ล่ะ ทำใจไม่ได้เหมือนกันเลย
บอบบี้ : ยังไม่รู้เลยว่าจะไปซุกหัวนอนที่ไหนดี กลับไปหาบ้านป้าเมย์ก็ไม่ได้
ปะ ป้า เจอเรื่องมามากพอแล้ว เธอก็รู้?
คิตตี้ : รู้
บอบบี้ : ทางรัฐบาลเองก็พลิกแผ่นดินตามหาพวกเรา หากทางรัฐรู้ว่า ป้าซ่อนเราไว้ พวกเค้าจับป้าแน่ใช่มั๊ย?
คิตตี้ : ถูก
บอบบี้ : บัดซบเอ๊ย ไปต่อไม่ถูกแล้ว–
คิตตี้ : บอบบี้

บอบบี้ : ตอนแรกเลยคิดว่ามันเจ๋งเท่ระเบิดสุดๆเธอรู้มั๊ย? แม้เราจะเป็นตัวประหลาด
แล้วไปรนหาที่ตายหรืออะไรก็ช่าง ตอนนั้นคิดว่าเพียโคตรสุดยอดกับการได้ชื่อว่าซุปเปอร์ฮีโร่
จนกระทั่งมาพบกับปีเตอร์และจอห์นนี่ มันทำให้รู้สึกได้เลยว่ามัน

บอบบี้ : ไม่เจ๋งเลยซะนิด ห่วยแตก เราแค่ออกไปวิ่งเล่นเรื่อยจนเค้าตามเจอจับขังเราไว้ที่ไหนสักแห่งทดลองจนถึงวันตาย
นั่นเป็นสิ่งจะเกิดขึ้นต่อไป ใช่มั๊ย?
บอบบี้ : เด็กอย่างเราๆ ไม่เคยมีความสุดในปั้นปลาย

คิตตี้ : บางทีก็นะ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ฟังนะบอบบี้ ฉันรู้สถานที่ปลอดภัยสถานที่ไม่มีใครตามหามนุษย์กลายพันธุ์
ไม่ว่าจะพลิกแผ่นดินแล้วก็ตาม พวกเค้าไม่มีวันหาเราเจอ จะมุ่งไปที่นั้นทันทีหลังพีธีจบ
และ เอ่อ นายจะมากับฉันก็ได้ หากนายต้องการ

บอบบี้ : เอาจริงดิ?

คิตตี้ : ฮือ เอาจริง หากไปต้องตกลงกันก่อน

คิตตี้ : ไม่มีการเล่นเป็นซุปเปอร์ฮีโร่อีกต่อไป ไม่ต้องพิทักษ์โลกอีก ไม่ต้องใส่ชุดรัดรูปอีกเอาแค่จัดการวายร้ายก็พอ
ไม่แสดงพลังในที่สาธารณะเป็นอันขาด ไม่มีข้อยกเว้น เราจะเก็บตัวเงียบๆมุดลงดินแล้วเราก็จะหายใจต่อไปได้
หากตกลงไม่ได้นายไม่ต้องตามมาเลย

คิตตี้ : เอาด้วยมั๊ย?

บอบบี้ : จอห์นนี่มาด้วยได้ไหม?

สองสัปดาห์ก่อน

คาเรน เกร๊นหาทางให้บรูช แบนเนอร์ คุมสติเองหลังการแปลงร่างเป็นฮัลค์
(บรูช แบนเนอร์กลับมาใน Ultimate X#5และเผยนิค ฟิวรี่ให้ความร่วมมือกับคาเรน เกร๊นเป็นการลับ)
คาเรนพยายามแนะนำให้บรูชไม่ให้กำจัดอารมณ์ทิ้งแต่ให้ควบคุมอารมณ์ เลยให้บรูชนึกถึงตอนการแปลงร่างครั้งแรกที่สูญเสียการควบคุมไป

บรูช แบนเนอร์นึกถึงตอนที่สู้กับสไปเดอร์แมนครั้งแรก

คาเรนเริ่มขั้นต่อไปด้วยการส่งกระแสจิตเข้าไปในหัวบรูชย้ำคำอีกครั้ง

บรูชได้แปลงร่างเป็นฮัลค์ในสภาพสงบนิ่ง ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น คาเรนเรียกนิค ฟิวรี่ให้เข้ามาดูผล

Nick Fury : เธอแน่ใจรึว่าปลอดภัยฮะขอบอกไว้เลยว่า ฝันร้ายเวรตะไลของตรูมีเจ้านี้ค้างตั้งครึ่งนังแล้วนะเฟ้ย
คาเรน เกร๊น : เดี๋ยวช่วยดูแลเรื่องฝันได้นะคะ
Nick Fury : อย่าคิดจะได้แอ้มเลย แล้ว เราใจชื้นได้ยัง?
คาเรน เกร๊น : ยังหรอก ทุกครั้งที่เราลองมันจะนานขึ้นเป็นสองเท่ากว่าครั้งก่อน จัดอยู่ในช่วง “ต่อต้านขั้นสูง”
Nick Fury : งั้นก็ คุณเลดี้ เรายังมีปัญหาล่ะสิ

Nick Fury : ตรูต้องการคนใช้เป็นหมากในกระดาน เสนอตัวปกป้องเธอและเพื่อนเธอด้วยความเข้าที่ใจว่าต้องมีการจ่ายตอบแทนกลับมา
สรุปแล้ว..เธอควบคุมแบนเนอร์ได้อ๊ะเปล่า?

คาเรน เกร๊น : ได้
Nick Fury : งั้นก็เรียบร้อย เก็บของไว้ให้พร้อม เธอจะได้รับคำสั่งในไม่ช้านี้หรอก

คาเรน เกร๊น : หลับฝันดีนะ บรูช… ขอโทษเรื่องที่ผ่านมาด้วยนะ
“ฝันหวานนะ”

จบเล่มสาม

 

ฉบับต่อไป

ใครคือผู้สืบทอดตำนาน

คลิ๊กเพื่อแย้มดูโฉมหน้าสไปดี้คนใหม่

8 thoughts on “Ultimate Fallout : Spider-Man No More 3 of 6

  1. wat

    เอ่อ สงสัยอย่าง ตกลงเวบนี้จะไม่จัดโครงการดูหนัง Cap. USA แล้วเหรอครับ แถม header เวบ ยัง green lantern อยู่เลย เปลี่ยนเป็น Cap. ได้แล้วมั้ง

  2. theji

    รีบๆแปล สไปป์เด้อแมน ภาคคนดำด้วยนะครับอยากลองอ่านบทบาทจะเป็นยังไง

  3. doc holliday

    wat: ต้องขอโทษจริงๆ ครับ ทีแรกตั้งใจจะชวนมีตติ้งดูกัน แต่เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่ต่างจังหวัด เลยไม่ได้ชวนกันน่ะครับ
    ปกติจะชวนกัน เสาร์อาทิตย์แรกที่หนังเข้าเลย

    theji: ครับ กลัวแล้วครับ จะ “รีบๆ แปล” มาให้อ่านจะได้รู้ว่าจะเป็นยังไงนะครับ หึๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *