FLASHPOINT: Wonder Woman and the Furies #2

DC Comic : FLASHPOINT : Wonder Woman and the Furies 02 : เมื่อความโกรธเข้าบังตา…

เรื่อง : Dan Abnett, Andy Lanning
ภาพ : Augustin Padilla, Jose Aviles
วางจำหน่าย: 20 กรกฎาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

เมื่อเล่มที่แล้วเราได้รู้ว่าสงครามระหว่าง Atlantis และ Amazon มีสาเหตุจากอะไร แต่ทว่า…โศกนาถกรรมยังไม่จบแค่นั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั้นมันเลวร้ายยิ่งกว่า!!

ย้อนไปเมื่อ 14 ปีก่อน ในนครใต้สมุทร Atlantis

“นับตั้งแต่ตอนที่เขาช่วยชีวิตของเธอไว้ และนำตัวเธอมารักษาที่อาณาจักรของเขา เขาได้เฝ้าติดตามเธออย่างใกล้ชิด”

“และพวกเขาก็พูดคุยกันถึงสิ่งเดียวเท่านั้น…”

“นั่นก็คืออนาคต”

Arthur : นี่เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน สำหรับทั้งชาวอมาซอนและชาวแอตแลนติสนะไดอาน่า

Arthur : ภายในระยะเวลาอีก 10-20 ปี ประเทศของพวกเราต่างก็ต้องเปิดเผยตัวต่อโลกภายนอก ทั้งแอตแลนติสและเธมิสไคร่านั้นหลบซ่อนอยู่ในเงามืดมานานเกินไปแล้ว

Diana : โลกภายนอกจะต้องหวาดกลัวพวกเราเป็นแน่

Arthur : เรื่องนั้นไม่ต้องสงสัยเลย

Arthur : แต่การร่วมมือกันของพวกเรานั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นยิ่งยวด เราไม่อาจจะอยู่อย่างหลบๆซ่อนตลอดไปได้ และโลกก็ต้องการความช่วยเหลือของเราเพื่อไม่ให้มันทำลายตัวเอง

Arthur : หากเราร่วมมือกัน เราจะมีทั้งเทคโนโลยีและความรอบรู้ที่จะชี้นำโลกได้…

Diana : การ “ร่วมมือกัน” ที่ว่านั่นมันครอบคลุมหลายเรื่องนะ

Arthur : มันเป็นรากฐานของการสร้างประเทศอยู่แล้ว ราชาที่เข้มแข็ง กับ ราชินีที่เข้มแข็ง การแต่งงานการเมืองเป็นวิถีทางที่สะดวกที่สุด

Diana : อาจมีบางคนที่ไม่พอใจกับเรื่องนี้ อย่างเช่นเมร่าเป็นต้น

Arthur : เธอจะเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องของการเมือง

Diana : เช่นเดียวกับที่ข้าจะเข้าใจความจำเป็นของราชา ที่จะต้องมีนางสนมเอกอยู่ข้างกาย

ตัดมาที่เหตุการณ์เมื่อ 1 ปีก่อนเหตุการณ์ปัจจุบัน

งานศพของราชินี Hippolyta ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 3 วันใกล้จะเสร็จสิ้น

Penthesilea : เลือดของมารดาเจ้าที่หลั่งรินออกมานั้น กำลังเรียกร้องการแก้แค้นอยู่นะไดอาน่า

Diana : ท่านแม่ของข้าก็คือพี่สาวของท่านเช่นเดียวกันนะท่านน้าเพนเตซีเลีย เราจะต้องประกอบพิธีศพให้เสร็จสิ้นเสียก่อน จากนั้นเราถึงจะค่อยวางแผนทำสงคราม

Arthemis : สงครามก็จะไม่เป็นฝ่ายรอเราเช่นกันนะเพคะ…

Phillipus : แต่การทำสงครามกับแอตแลนติสนั้น เป็นสิ่งที่เราจะไม่อาจถอนตัวได้อีกหากเราตัดสินใจทำอะไรลงไปนะเพคะ

Diana : อาเธมิส ฟิลลิปัส พอได้แล้วทั้งคู่นั่นแหละ!

Diana : ข้ายังเชื่อไม่ลงว่าคนของอาเธอร์ จะทำการต่อต้านเราอย่างรุนแรงป่าเถื่อนถึงเพียงนี้ เจ้าคนชื่อการ์ธที่ฆ่าท่านแม่ของข้าน่าจะต้องเป็นเพียง 1 ในคนทรยศไม่กี่คนเท่านั้น

ทันใดนั้นก็มีทหารเข้ามาแจ้งข่าวเร่งด่วน

เป็นกองเรือของแอตแลนติสนั่นเอง

Arthur : นี่เป็นเพียงการแสดงแสนยานุภาพเท่านั้น เข้าใจแล้วนะ ออร์ม? โรดัน? เมร่า? อย่าทำอะไรอย่างอื่นอีก

Arthur : เราจะล้อมเกาะของพวกนั้นเอาไว้ ให้พวกนั้นรับรู้ถึงความเป็นต่อด้านกำลังพลของเรา เราจะให้พวกนั้นรู้ว่าการคิดทำสงครามกับเรานั้นไร้ประโยชน์

Orm : พวกนั้นกล่าวหาเราว่าปลงพระชนม์ราชินี! และการ์ธที่เป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องถูกพวกมันฆ่าตายไปแล้ว! เราควรจะบดขยี้พวกมันโดยที่…

Mera : ไม่นะออร์ม! องค์ราชาได้ตัดสินพระทัยไปแล้ว

Arthur : ข้าไม่ต้องการให้เกิดสงครามขึ้น หากเราทำอะไรวู่วามลงไป จะเป็นการทำให้พวกโลกเบื้องบนเกิดความเห็นใจต่อพวกอมาซอน และให้การสนับสนุนพวกนั้น ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่จะให้เกิดขึ้นไม่ได้

Arthur : หายนะครั้งนี้จะต้องถูกจัดการและควบคุมเอาไว้ให้ได้ และต่อจากนี้ไป…

Arthur : ก็ขึ้นอยู่กับไดอาน่าแล้ว

สองวันถัดมา การเจรจาสันติภาพก็เริ่มต้น…

ขณะที่ติดตาม Diana ไปยังท้องพระโรง Penthesilea ก็กระซิบกับคนสนิทที่เป็นผู้ร่วมสมรู้ร่วมคิดอย่าง Arthemis

Penthesilea : การเตรียมการทั้งหมดพร้อมแล้วใช่ไหม?

Arthemis : ค่ะ ท่านเพนเตซีเลีย

Arthur เข้าไปพบกับ Diana พร้อมกับนายพล Rodunn โดยให้ Mera และ Orm อยู่เตรียมพร้อมเอาไว้ที่กองเรือ

ตอนนั้นเอง Penthesilea ก็สั่งดำเนินการ

เกิดระเบิดขึ้นบนราชวังที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจากันอยู่ และมันทำให้ Phillipus คนสนิทของ Diana ที่คัดค้านการทำสงครามกับ Atlantis ถูก “ลูกหลง” เสียชีวิตไป

และนั่นเองก็ทำให้ Diana ที่อารมณ์ไม่มั่นคงอยู่แล้วถึงกับขาดสติ!!

การโจมตีเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย โดยต่างฝ่ายต่างก็ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตี!!

ขณะที่ Arthur พยายามจะอธิบายให้ Diana เข้าใจ แต่ Diana ที่กำลังเลือดเข้าตาก็ไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งนั้นแล้ว!!

ในขณะที่สถานการณ์กำลังวุ่นวาย Penthesilea ได้พา Dian มายังสถานที่แห่งหนึ่ง

Penthesilea : อย่ามัวเถียงข้าอยู่เลย รีบมาเถอะ!

Diana : เราจะไปที่ไหนกัน?

Penthesilea : ถึงมันจะน่าแค้นนัก! แต่เกาะแห่งนี้ก็ไม่รอดแล้ว!

Penthesilea : ข้านึกไว้แล้วว่าพวกแอตแลนติสจะหักหลัง ข้าจึงให้ประชาชนของเราขึ้นกองยานบินเอาไว้แล้ว

Penthesilea : เราพร้อมจะทำการอพยพแล้ว ตอนนี้ทั้งอาเธอร์และนายพลของมันกำลังอยู่ในราชวัง! เราต้องปลดผนึกซะ! ทำลายผนึกแห่งทาร์ทารุสนี่! เสียสละเกาะแห่งนี้และให้ศัตรูของเราพินาศไปพร้อมกับมัน!

Diana : แต่ถ้าทำแบบนั้นเธมิสไคร่าก็จะ…

Penthesilea : ลงมือเดี๋ยวนี้เลยไดอาน่า!!

ด้วยความสับสนกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นประเดประดังกันเข้ามา จนทำให้ไม่สามารถคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้ Diana ก็ทำลายผนึกลงด้วยมือของเธอเอง!

ทันใดนั้นเกาะทั้งเกาะก็สั่นสะเทือน

Diana : ข้าสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว

Penthesilea : ไม่หรอก เจ้าได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ว่าคู่ควรกับการเป็นราชินีของอมาซอนอย่างแท้จริง ผู้จะพิชิตโลกนี้!!

Penthesilea : การแก้แค้นจะกลายเป็นความชอบธรรมของเจ้า!!!!

ตัดมาทางด้าน Arthur

Rodunn : รีบเข้าเถอะฝ่าบาท! เกาะทั้งเกาะกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว! พวกอมาซอนมันทำอะไรลงไปกันแน่?

Arthur : เธมิสไคร่านั้นตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟน่ะโรดัน…พวกอมาซอนใช้ชีวิตโดยนำเอาพลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้ พวกนั้นคงจะทำลายระบบควบคุมไปแล้ว!

Rodunn : เพื่อทำลายเกาะของพวกนั้นเองเนี่ยนะพะยะค่ะ?

Arthur : พวกนั้นคงเกลียดชังเราอย่างที่สุดแล้วล่ะ! นี่เป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่เยี่ยงนักรบที่จริงเลยทีเดียว!

Arthur : เกาะนี้จบสิ้นแล้ว! โดดเร็วเถอะโรดัน!!

และดังนี้เอง Themyscira ก็พินาศลง พร้อมกับที่เหล่าชาว Amazon ก็ออกเดินทางหาแผ่นดินแห่งใหม่

การที่พวก Amazon จมเกาะของตัวเองเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ในขณะที่ราชา Arthur แห่ง Atlantis ก็ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการต่อชาว Amazon

หลังจากนั้น กองยานของชาว Amazon ก็ไปถึงเกาะอังกฤษและเมื่อการขออพยพเข้าประเทศถูกปฎิเสธ พวก Amazon ก็ทำการบุกยึดหมู่เกาะอังกฤษทั้งหมดและตั้งเป็น New Themyscira

พร้อมกันนั้น Diana ที่ตอนนี้ขนานนามตัวเองว่า Wonder Woman ก็ประกาศความชอบธรรม ในการบุกยึดหมู่เกาะอังกฤษของเธอต่อเหล่าชาติในยุโรป และได้ก่อตั้งกองทหารรักษาพระองค์ ที่รวบรวมเหล่านักรบหญิงที่เก่งกาจและมีพลังเหนือมนุษย์จากทั่วโลกในนามของ The Furies เพื่อเป็นหัวหอกของกองทัพอมาซอน

ตัดมาที่เหตุการณ์เมื่อ 8 เดือนก่อนเหตุการณ์ปัจจุบัน .

ในกองเรือของ Atlantis ในช่องแคบอังกฤษ

Arthur : รายงานมาซิ!

Dr.Vulko : เมื่อตอนที่พวกอมาซอนจมเกาะของพวกมันเองนั้น มันได้สร้างความเสียหายให้แก่ท้องทะเลอย่างรุนแรงพะย่ะค่ะ

Dr.Vulko : ประชาชนของเราต้องตายไปนับพัน ส่วนพวกนั้นก็ได้ยึดหมู่เกาะอังกฤษ มาเป็นฐานที่มั่นใหม่ของพวกมัน และข่มขู่บังคับให้ประเทศหลักๆในยุโรปให้สนับสนุนพวกมัน

Arthur : แล้วเครื่องกำเนิดคลื่นสั่นสะเทือนแรงดึงดูดเป็นอย่างไรบ้างล่ะดอกเตอร์วัลโก้? เพราะหากเราต้องใช้งานมันขึ้นมาจริงๆล่ะก็ มันจะก่อความสูญเสียอย่างมหาศาลทีเดียว

ที่ภายใน “หัวรบ” คือ Brion Makov ราชาแห่ง Makovia ผู้ถูกพวก Atlantis จับมาเพื่อใช้งานพลังควบคุมหินและแรงดึงดูดของเขานั่นเอง
Dr.Vulko : ทุกอย่างพร้อมแล้วฝ่าบาท กระหม่อมรู้ดีว่าองค์ราชินีเมร่าไม่ต้องการให้เราใช้งานราชาบริออนเช่นนี้ แต่เราก็ไม่มีทางเลือก เราต้องตอบโต้ความโหดเหี้ยมของพวกอมาซอนอย่างเท่าเทียมกัน

Arthur : แน่รึ? เราจำเป็นต้องทำเช่นนั้นจริงๆรึ? ความรุนแรงที่เริ่มเลยเถิดเช่นนี้ทำให้ข้าเกิดลังเลใจขึ้นมา แล้วนี่ราชินีอยู่ที่ไหน? ข้าอยากปรึกษากับนางก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้

Dr.Vulko : ไม่มีใครเห็นพระนางเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท…

ขณะเดียวกันนั้น ที่ท่าเรือที่ช่องแคบโดเวอร์

ขณะที่ราชินี Diana กำลังออกตรวจดูความพร้อมของท่าเรือ Penthesilea ก็พาตัว Tara Makov น้องสาวของ Brion Makov ที่ต้องการจะสวามิภักดิ์มาเข้าพบ

แตทันใดนั้นเอง…

หน่วยจู่โจมของ Atlantis ก็เข้าโจมตี และผู้ที่นำปฏิบัติการนี้ก็คือ Mera!!

เมื่อเห็นว่าราชินีถูกทำร้าย พวก Furies ก็คิดจะเข้าช่วย แต่ Diana สั่งห้ามไว้ เพราะต้องการจะจัดการด้วยตัวเอง

และบัดนี้คือการเผชิญหน้าของราชินีทั้งสอง

Diana : เราเป็นสหายกันนะเมร่า เราเคยรักกันเหมือนพี่น้อง เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ร่วมกันได้ แต่เจ้ากับกล้ามาที่นี่แบบนี้งั้นรึ?

Mera : เจ้าได้ทรยศต่อมิตรภาพนั้นเองไดอาน่า! เจ้าทรยศอาเธอร์!

Diana : ข้าไม่ได้ทรยศอะไรทั้งนั้น ข้าก็เจ็บปวดเช่นกันที่ต้องทำแบบนี้เมร่า…ข้าพูดจริงๆ แต่ฝ่ายแอตแลนติสเป็นผู้เริ่มเรื่องทั้งหมดนี้…

เพียงพริบตาเดียว ทุกอย่างก็สิ้นสุดลง…

Diana : …และข้าก็จะเป็นคนจบมันเอง!

แล้ว Diana ก็หยิบเอาหมวกเกราะของ Mera มาสวม

Penthesilea : ท่านจะ…เอาหมวกเกราะของนางไปด้วยงั้นรึ?

Diana : ที่ข้าเอามันไป ไม่ใช่เพื่อเป็นของที่ระลึกจากสงคราม แต่เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ ว่าเราต้องสูญเสียอะไรไปบ้างกับสงครามครั้งนี้ จงส่งร่างของนางกลับไปยังพวกพ้องซะ…ข้าไม่อาจทนมองดูมันได้อีกต่อไปแล้ว

และเมื่อ Arthur ได้รับศพของ Mera กลับมา…

Arthur : ไม่!!!!!!!

Orm : เธอ…เธอถูกพบโดยเรือลาดตระเวณน่ะอาเธอร์ ข้าเสียใจด้วยจริงๆ

ด้วยความโกรธแค้นจนขาดสติ บัดนี้ชายผู้ซึ่งบ้าคลั่งไปแล้วด้วยความโศกเศร้า ก็ออกคำสั่งที่จะทำให้คนนับล้านต้องรับเคราะห์!!!

Arthur : ใช้หัวรบคลื่นสั่นสะเทือนแรงโน้มถ่วงเดี๋ยวนี้เลยออร์ม จมพวกมันซะ ฆ่าพวกมันให้หมด

การสมคบคิดนำไปสู่ความเข้าใจผิด และมันได้ถูกเติมเชื้อด้วยความสูญเสีย จนลุกลามเกินความควบคุมไปเสียแล้ว…เป็นการเริ่มต้นสู่ความพินาศของโลกนี้!!!

โปรดติดตามตอนต่อไป

9 thoughts on “FLASHPOINT: Wonder Woman and the Furies #2

  1. Gothic

    ที่แท้หมวกที่ไดอาน่าใส่เป็นของเมร่านี่เอง

  2. Boatmaster

    ดูแล้ว สนุกไม่ออก ดราม่ากันจนน่าสงสาร T^T

    นี่สินะ ความแค้น ไม่เข้าใครออกใคร ไม่เว้นแม้แต่คนที่ (เคย) จะเป็น Hero ผู้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง

  3. hellboy_bank

    ในที่สุดปมเหตุแห่งสงครามก็คลายออกมาแล้ว ทั้งคู่สมเป็นเป็น ราชา และ ราชินี อย่างแท้จริง
    คนแต่งคิดได้ไงว่ะเนี่ย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *