DC Comic : FLASHPOINT : Deathstroke & The Curse of The Ravager 02 : ทะเลแห่งความตาย

เรื่อง : Jimmy Palmiotti
ภาพ : Joe Bennett, Tony Shasteen
วางจำหน่าย: 13 กรกฎาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

อีกเพียงนิดเดียวโจรสลัด Slade Wilson ก็จะไปถึงที่ๆลูกสาวของเขาอยู่แล้ว แต่เขากลับโดนจู่โจมโดยจักรพรรดิ์แห่งท้องทะเล Aquaman! เขาจะเอาตัวรอดได้หรือไม่?

“เราเข้ามาลึกเกินไป นั่นเห็นได้ชัดเลยทีเดียว เมื่อได้เห็นซากเรือของวอร์ลอร์ดที่โดนฉีกเป็นเศษเหล็ก…ลูกเรือตายเกลี้ยง”

“อควอแมนกับน้องชายของมันโอเชี่ยนมาสเตอร์ ได้ตั้งตัวเป็นผู้ครอบครองส่วนที่หลงเหลือของยุโรปตะวันตก หลังจากที่พวกแอตแลนติสจมมันลงทะเลไป”

“ซึ่งจริงๆแล้วสถานการณ์เช่นนี้มันดีสำหรับคนอย่างฉัน ที่จะหาประโยชน์จากมัน แต่ฉันก็มีอีกเหตุผลหนึ่งอยู่ มันคือการที่มีใครบางคนลักพาตัวโรส ลูกสาวของฉันไป และใช้เธอเป็นเหมือนสินค้าสำหรับใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยน”

“เรากำลังมุ่งหน้าไปยังจุดหมายของเราในนอร์เวย์ อีกแค่นิดเดียวก็จะได้ตัวเธอกลับมาแล้ว แต่ตอนนั้นเองเราก็ถูกเตือนสติว่าชีวิตโจรสลัดเช่นนี้นั้น…มันมีข้อเสียอยู่”

“สำหรับฉัน มันคือสามง่ามของอควอแมนที่เสียบลึกเข้าไปถึงหัวใจของฉัน…และท่าทางว่าชะตากรรมของลูกเรือของฉันก็คงไม่ดีกว่ากันนัก…”

พวกลูกเรือพยายามจะต่อสู้…แต่ก็ไม่ครณามือจักรพรรดิ์แห่งท้องทะเลแม้แต่น้อย

“อึ๊ก…คิดอะไรไม่ค่อยออกแล้วสิ…หัวมันหมุนไปหมด แย่แล้วสิ พลังการฟื้นสภาพของฉันมันไม่รู้ว่าจะรักษาแผลไหนก่อนดี”

“บ้าเอ๊ย เจ้าพวกโง่ รีบออกไปห่างๆจากเจ้านั่นเซ่…”

ทั้ง Aquaman และ Ocean Master ไล่ฆ่าพวกลูกเรืออย่างมันมือ

“หายใจลำบากมากเลย….พวกนี้เป็นคนของฉัน…เป็นความรับผิดชอบของฉัน”

ขณะที่ Aquaman พุ่งเสียบ Clayface ตกทะเลไป ทางด้าน Ocean Master ก็ใช้เวทย์มนต์ซัด Icicle จนหล่นทะลุเรือลงไปใต้ท้องเรือ

ในระหว่างที่หล่นลงไป Icicle ก็ได้ทำให้แคปซูลที่แช่แข็งร่างของ Jenny Blitz ซึ่งเป็น “สินค้า” ที่พวก Slade เพิ่งจะปล้นมาจากพวกของ “Warlord” มาได้จนมันเสียหาย

เมื่ออาละวาดจนหนำใจแล้ว พวก Aquaman ก็จากไป ทิ้งความพินาศเอาไว้เบื้องหลัง

ห่างออกไป 1,000 ไมล์

Warlord ซึ่งรอดมาได้เนื่องจากโชคดีที่ไม่ได้อยู่บนเรือลำที่โดน Aquaman จม ก็กำลังคุยกับลูกค้าอยู่

Warlord : ฉันรู้ว่านายจ่ายล่วงหน้ามาเรียบร้อยแล้วน่าแคร์เทคเกอร์ นี่มันแค่การล่าช้าชั่วคราวเท่านั้นแหละ ฉันจะเอาแม่นั่นกลับมาให้นายได้แน่ แล้วฉันก็จะเอาไปส่งให้กับนายด้วยตัวเองเลย เชื่อคำพูดฉันได้เลย

ขณะที่ Warlord กดปุ่มวางหูโทรศัพท์ Morris ผู้เป็นต้นหนก็เดินเข้ามาหา

Morris : ท่านวอร์ลอร์ดคะ ฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบค่ะ

Warlord : พูดมาได้เลย และมันควรจะเป็นข่าวดีนะ

Morris : ฉันได้ติดตามการสื่อสารของพวกราเวเจอร์ และดูเหมือนว่าพวกมันจะเข้าไปในน่านน้ำเดียวกับที่เรือทาร่าถูกจม ฉันคาดว่าพวกนั้นก็คงจะถูกโจมตีเหมือนกันเป็นแน่น่ะค่ะ

Warlord : ถ้าเป็นแบบนั้นจริงล่ะก็ มันก็เป็นโอกาสดีที่เราจะไปเอาตัวเด็กนั่นกลับมา และถ้าเจ้าสารเลวเดธสโตรคมันยังไม่ตายล่ะก็ ฉันก็จะได้ล้างแค้นมันเสียทีละ

Warlord : ต้นหนมอร์ริส ไปส่งสัญญาณเรียกกองเรือของเรามารวมตัวกันเดี๋ยวนี้เลย เพราะดูท่าว่าเราจะได้โอกาสเอาของที่เราเสียไปคืนมากันแล้ว!

ตัดกลับมาที่เรือ Ravager พวกที่รอดอยู่ก็เริ่มสำรวจความเสียหาย ซึ่ง Briggs ผู้เป็นคนสนิทของ Slade ก็รีบเข้ามาดูอาการของกัปตันของเขา

เขาให้น้องสาวของเขาสำรวจดูภายในตัวของ Slade แต่ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะหนักเกินกว่าที่ Healing Factor จะรับไหว…

ตัดมาที่ใต้ท้องเรือ Sonar ที่โดนจับมาทำเป็นเรดาร์ของเรือก็ร้องขอให้ Icicle ปล่อยเขาเพื่อจะได้ช่วยกันรับมือพวกผู้บุกรุก

ซึ่ง Icicle ที่ยังไม่รู้ว่าพวก Aquaman ได้จากไปแล้วก็ตกลงที่จะปล่อยตัว Sonar ออกมา ด้วยเหตุผลว่ามีพวกเพิ่มขึ้นย่อมดีกว่า

ที่ด้านบน Briggs ให้ The Eel ช๊อตไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจให้ Slade ซึ่งแม้มันจะทำให้เขาได้สติขึ้นมา แต่เขาก็ยังดูท่าทางไม่ดีอยู่

ตอนนั้นเอง Sonar กับ Icicle ก็ขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ

Sonar ที่มีพลังในการตรวจจับวัตถุ รู้ว่าสาเหตุที่ Slade อยู่ในสภาพนี้ เป็นเพราะตอนนี้เศษของสามง่ามชิ้นหนึ่งหักติดอยู่กับหัวใจของเขา และตอนนี้มันกำลังขวางเส้นเลือดที่จะเข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่ และเพราะพลัง Healing Factor ก็ทำให้ตอนนี้มันถูกตรึงติดอยู่กับที่ ด้วยเนื้อเยื่อที่ประสานตัวกันขึ้นมา

ซึ่ง Sonar ก็เสนอว่าเขาจะช่วยใช้พลังของเขาควานหาเศษสามง่ามที่อยู่ข้างในตัว Slade ให้ โดยแลกกับการเป็นรองกัปตัน และส่วนแบ่ง 50% ของสมบัติที่พวกเขาจะหามาได้ ซึ่ง Slade ก็ตกลง

ว่าแล้ว Sonar ก็ใช้พลังของเขาหาเศษสามง่ามจนพบและดึงออกมาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อสิ่งที่ขวางอยู่ถูกนำออกไป Healing Factor ของ Slade ก็ทำหน้าที่ของมันทำให้เขาแข็งแรงดังเดิมอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Slade ก็ไม่ลืมที่จะให้ Sonar รับตำแหน่งรองกัปตันตามที่ตกลงกันไว้

Slade เห็นว่าหากพวก Aquaman ย้อนกลับมาล่ะก็คราวนี้พวกเขาคงไม่โชคดีแบบนี้อีกแน่ จึงควรจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องทำพิธีศพให้พวกที่ตายไปเสียก่อน

“การที่ต้องมาสูญเสียลูกเรือไปอีกแบบนี้ สภาพจิตใจของพวกเราตกต่ำลงถึงขีดสุด แต่เราก็ต้องมุ่งหน้าต่อไป”

เมื่อทำพิธีศพเรียบร้อยแล้ว Slade ก็หันไปถามสถานการณ์จาก Briggs
Slade : สภาพของปืนใหญ่ของเราเป็นยังไงบ้างบริกก์?

Briggs : ไม่ดีเลยครับ ปืนหลักทั้งสี่กระบอกต้องซ่อมแซม และกระสุนเราก็เหลือน้อยด้วย เราต้องหาท่าเรือเพื่อจอดซ่อมแซม หรือไม่ก็ต้องหาเรือลำใหม่มาแทนเพื่อ…

แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีลูกปืนใหญ่พุ่งมาตกที่หัวเรือ พร้อมเสียงระเบิดตูมใหญ่!!

เป็นกองเรือของ Warlord นั่นเอง

ในขณะที่ Warlord สั่งให้พวก Slade ยอมจำนนซะ

ทางฝ่าย Slade ก็เลือกที่จะตอบคำถาม…ด้วยลูกปืนไรเฟิ่ล!!

ซึ่งมันก็พุ่งเข้าใส่เบ้าตาขวาของ Warlord อย่างถนัดถนี่!!!

Warlord ที่ตาบอดไปข้างก็ตะโกนสั่งลูกน้องทันที

Warlord : โจมตีมันเลยว๊อย!! โจมตี!!! เป่าไอ้สารเลวนั่นให้หายไปจากโลกนี้ไปเลย!!!

Briggs : แม่นมากครับ โดยเฉพาะที่เข้าเบ้าตาเจ้านั่นเต็มๆน่ะนะครับ

Slade : ฉันเล็งกะให้เข้าปากเจ้านั่นต่างหาก

เมื่อได้ยินกัปตันว่ามาแบบนั้น Briggs ก็หัวเราะออกมาดังลั่น

Slade : เอาละทุกคน มีอะไรก็ใส่พวกมันให้หมด ถ้าจะตายเราก็จะสู้ให้เต็มที่ก่อนตายล่ะ

ว่าแล้ว Slade ก็ประทับปืนไรเฟิ่ลเตรียมยิงอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น เรือที่เขาเล็งอยู่ก็ระเบิดขึ้น!?!?

Slade : นั่นฝีมือพวกเราหรือเปล่าน่ะ?

The Eel : ไม่ใช่ฝีมือของเรานี่ครับ

แล้วเรือที่ล้อมรอบพวก Slade ก็ระเบิดต่อๆกันไปเป็นลูกโซ่

Slade : แล้วมันฝีมือใครกันแน่ล่ะเนี่ย?

ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดมาจากด้านหลัง

??? : นั่นเป็นฝีมือฉันเองแหละ…

เมื่อพวก Slade หันไปตามเสียง ก็เห็นร่างของเด็กสาวที่มือทั้งสองลุกเป็นไฟ!!

Jenny : ฉันชื่อเจนนี่ บลิธซ์ แต่ต่อไปนี้ให้พวกนายเรียกฉันว่ากัปตันแล้วกัน!!

ความช่วยเหลือที่ไม่ได้คาดหวังจากอดีต “สินค้า” ที่ชิงมาได้ ก็ทำให้พวก Slade รอดไปได้ แต่ทว่า…หรือนี่จะเป็นเวลาเปลี่ยนตัวกัปตันกันแล้วล่ะนี่?

โปรดติดตามตอนต่อไป