DC Comic : FLASHPOINT : Emperor Aquaman 02 : อดีตของจอมจักรพรรดิ์
เรื่อง : Tony Bedard
ภาพ : Adrain Syaf, Vincente Cifuentes
วางจำหน่าย: 13 กรกฎาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ในตอนนี้จะเป็นการเปิดเผยอดีตของจักรพรรดิ์ Aquaman และเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง Atlantis และ Amazon อีกด้วย!!
เปิดฉากมาที่ช่องแคบอังกฤษ ที่บัดนี้คือ New Themyscira
กองเรือของ Atlantis มาถึงยังชายฝั่งที่บัดนี้ถูกยกขึ้นไปสูงหลายร้อยเมตรบนชั้นหินแข็ง
ที่ภายในเรือบัญชาการ จักรพรรดิ์แห่งท้องทะเล Aquaman กำลังอยู่กับ Ocean Master, นายพล Rodunn และ Siren น้องสาวของ Mera ราชินีผู้ล่วงลับของ Aquaman
(ดูเหมือนว่าใน Time-Line นี้ เผ่า Xebel ถูกดึงกลับมาร่วมกับ Atlantis แล้วแฮะ)
Ocean Master : หมู่เกาะอังกฤษถูกยกขึ้นไปสูงครึ่งไมล์ด้วยฝีมือเด็กสาวคนเดียว มันยากที่จะเชื่อจริงๆว่าไหม?
Aquaman : ก็ไม่มากนัก เมื่อดูจากที่เราใช้พี่ชายของหล่อนในการจมยุโรปตะวันตกมาแล้ว
Siren : ไม่ว่าพลังของนังนั่นจะร้ายกาจขนาดไหน ขอแค่เชือดคอมันซะนังทาร่า มาคอฟนี่ก็ต้องตายไม่ต่างกับคนอื่นๆอยู่ดีนั่นแหละ
Ocean Master : ทั้งเธอกับฉันจะไปจัดการมันด้วยตัวเองเลยล่ะไซเรน
แต่นายพล Roduun ดูจะไม่ค่อยแน่ใจกับแผนนี้นัก
Gen.Roduun : ฝ่าบาท กระหม่อมขอให้ทรงใคร่ครวญแผนนี้อีกครั้งเถิด โปรดทรงอนุญาตให้กองทหารของกระหม่อม ไปแทนพระอนุชาของพระองค์ด้วยเถิดพะยะค่ะ
Ocean Master : ท่านไม่เชื่อในความสามารถของข้ารึท่านนายพลโรดัน?
Gen.Roduun : หามิได้เลย องค์ชายออร์ม ท่านสามารถล้มข้าได้ในการประลองมาแล้ว และนั่นก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้ แต่โลหิตแห่งราชวงศ์นั้น มีค่าเกินกว่าจะไปเสี่ยงในภารกิจหลังแนวข้าศึกเช่นนี้
Aquaman : ถ้าหากว่าเราไม่ยอมเสี่ยง เราจะล้างแค้นให้กับราชินีของข้าได้อย่างไรกันล่ะท่านนายพล?
Siren : ฝ่าบาท โปรดอย่าตรัสถึงเรื่องนี้เหมือนเป็นการพนันเลยเพคะ หม่อมฉันขอสาบานต่อวิญญาณของพี่สาวของหม่อมฉัน ว่าเราจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังแน่นอน
Aquaman : ก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถอะไซเรน เพราะข้าเจอกับความผิดหวังมามากพอแล้ว…
“โดยไม่มีใครล่วงรู้ ราชาแห่งท้องทะเลได้หวลคิดกลับไปยังอดีต ถึงเรื่องที่พ่อของเขาบอกเล่าให้เขาฟัง เกี่ยวกับมารดาที่เขาไม่เคยได้รู้จัก…”
ที่ชายฝั่งทะเลในรัฐ Maine เมื่อยี่สิบหกปีที่แล้ว
“โทมัส เคอร์รี่เป็นชายผู้รักความสันโดษ ผู้ปลีกตัวจากผู้คนมาทำงานเป็นผู้ดูแลประภาคารในที่ห่างไกล เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องพูดคุยกับใคร”
“แต่เมื่อพายุใหญ่ประจำเดือนพฤศจิกายนพัดมา เขาก็ต้องประหลาดใจกับผู้มาเยือนที่มากับพายุ
สิ่งที่ Thomas เห็นคือหญิงสาวคนหนึ่งอยู๋ในทะเลที่กำลังบ้าคลั่งจากพายุ
“มันดูไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เธอก็อยู่ตรงนั้นจริงๆ เกาะหินเอาไว้แน่นราวกับว่ากำลังยึดเหนี่ยวชีวิตของเธอเองเอาไว้”
“เคอรรี่มีความหวังเพียงเล็กน้อยที่จะดึงเธอเข้ามาหาฝั่งได้ แต่เขาก็ต้องลองทำดูอยู่ดี”
“และตอนนั้นเองทอม เคอร์รี่ก็กลับกลายเป็นฝ่ายที่ต้องลืมหายใจ เมื่อได้เห็นหญิงที่เขาช่วยเอาไว้เต็มๆตา”
“เธอชื่อว่าแอตแลนน่า เธอไม่ยอมบอกว่าเธอมาจากไหน แต่เมื่อเขามองไปที่ดวงตาสีม่วงคู่นั้นของเธอ เคอร์รี่ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอต้องไม่ได้มาจากโลกเดียวกับเขาแน่นอน”
“เคอรรี่ไม่สามารถเข้าใจได้ ว่าทำไมเธอจึงให้ความรักแก่คนเก็บตัวที่น่าสมเพชเช่นเขา แต่เธอก็รักเขาจริงๆ”
“หลายเดือนผ่านไปเธอก็ตั้งครรภ์ลูกของพวกเขา”
“แต่ตอนนั้นเอง คนจากโลกของแอตแลนน่าก็ตามมาพบเธอ”
“พวกนั้นเป็นทหารจากแอตแลนติส ที่ถูกส่งมาเพื่อนำตัวเชื้อพระวงษ์ที่หลบหนีมากลับไป ซึ่งการต่อต้านพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย”
“แต่อย่างไรก็ตามโทมัส เคอร์รี่ก็สู้เพื่อปกป้องบ้านและครอบครัวของเขาอย่างสุดความสามารถ”
“แต่ทว่า…เขาก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น”
“มันเป็นปาฏิหารย์ที่เขาไม่ตายไปในคืนนั้น ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะอยากให้เขาตายไปตั้งแต่ตอนนั้นก็ตาม”
“แต่ทหารเหล่านั้นก็ไม่คิดจะกลับไปยังแอตแลนติส เพื่อเผชิญหน้ากับราชาโดยไม่มีองค์หญิงกลับไปด้วย”
“และพวกนั้นก็พาเธอกลับไปยังพระราชวัง เหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกนำกลับมายังกรงขัง”
“แต่แอตแลนน่าได้นำบางสิ่งติดตัวมาจากโลกเบื้องบนด้วย ซึ่งนั่นทำให้ราชาไม่พอใจอย่างยิ่ง”
“ขณะที่องค์หญิงตายขณะให้กำเนิดบุตร เธอได้สาบแช่งพ่อของเธอ และขอร้องให้ไว้ชีวิตลูกชายของเธอ”
“แต่ราชาแห่งแอตแลนติสมองเด็กคนนั้นเป็นเพียงเด็กนอกคอก และเผ่าพันธ์ของเขาก็มีกฎที่เข้มงวดสำหรับทายาทที่ไม่คู่ควร”
“ตามกฎที่บัญญัติไว้ตั้งแต่โบราณ ชาวแอตแลนติสจะทิ้งเด็กทารกนั้นไว้บน ‘แนวปะการังแห่งความเมตตา’ รอให้สัตว์น้ำมาทึ้งกิน”
“แต่ชาวแอตแลนติสได้มองข้ามอะไรบางอย่างสำหรับเด็กคนนี้…บางอย่างที่สำคัญอย่างยิ่ง”
“ในแต่ละชั่วอายุคน พระแม่สมุทรจะมอบความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์น้ำทั้งปวง ให้แกบุคคลผู้หนึ่ง”
“และสัตว์น้ำทุกตัวตั้งแต่ปลาไปจนถึงแพลงต้อน ก็รับรู้ได้และพร้อมจะรับใช้ราชาแห่งทะเลผู้ถูกเลือก”
“เหล่าสัตว์ทะเลไม่ยอมให้ราชาแห่งท้องทะเลที่เพิ่งจะถือกำเนิดต้องตาย พวกมันรู้ว่าเขาปฏิสนธิขึ้นที่ใด และพวกมันก็นำเขาไปที่นั่น…เพื่อให้บิดาของเขาได้เลี้ยงดูเขาอย่างปลอดภัย”
ตัดมายังปัจจุบัน
Ocean Master และ Siren ลอบเข้ามาใน New Themyscira ได้สำเร็จ และหลังจากใช้เวลาค้นหาอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็พบกับ Tara Makov ที่เป็นเป้าหมายจนได้
Ocean Master : เธออยู่นั่นไง ทาร่า มาคอฟไม่ผิดแน่
Siren : ช่างเหมาะเจาะดีจริง ที่เธออยู่ใกล้กับน้ำพุพอดี…ข้าสามารถควบคุมน้ำให้ทะลวงกระโหลกของมันได้จากตรงนี้เลย
แต่ก่อนที่ Siren จะทันลงมือ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน
??? : -อะแฮ่ม-
ผู้ที่มาก็คือ Penthesilea น้าของราชินี Diana และยังเป็น 1 ในผู้สมรู้ร่วมคิดกับ Ocean Master ในการทำลายการอภิเษกระหว่าง Arthur กับ Diana และทำให้ทั้งสองเผ่าพันธ์ต้องกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกัน
Penthesilea : ข้าว่าแล้ว…ว่าข้าได้กลิ่นสาหร่ายทะเลโชยมานะเนี่ย…
Siren คิดจัดการกับ Penthesilea แต่กลับกลายเป็นฝ่ายโดนเอาหอกทะลวงอกเสียเอง
Penthesilea : ช่างน่าผิดหวังเสียจริง
Penthesilea : เมร่าพี่สาวของนังนี่ ยังสู้กับหลานสาวของข้าได้นานกว่านี้ตั้งเยอะนะ
ว่าแล้ว Penthesilea ก็หันมาหาอดีตผู้สมรู้ร่วมคิดอย่าง Ocean Master
Penthesilea : แล้วท่านล่ะองค์ชายออร์ม? นี่ยมเทพฮาเดสดลใจท่านยังไงกันล่ะเนี่ย ท่านถึงได้มาด้วยตัวเองแบบนี้น่ะ?
ทางด้าน Tara ที่ได้ยินเสียงการต่อสู้ก็หันไปดูและเห็น Penthesilea กำลังเผชิญหน้ากับผู้บุกรุก
Tara : ท่านหญิงเพนเตซีเลีย? เกิดอะไรขึ้นข้างบนนั้นหรือเปล่าคะ?
Penthesilea : จงไปหาองค์ราชินีซะเทอร์ร่า! ไปบอกพระนางให้เรียกรวมตัวหน่วยฟิวรี่ของพวกเจ้าซะ! เรามีข้าศึกลอบเข้ามาแล้ว!
ตัดไปทางด้าน Aquaman
เมื่อเห็นว่าพวก Ocean Master ขาดการติดต่อไป เขาก็ร้อนใจจะเข้าจู่โจมทันที โดยไม่ฟังคำทัดทานของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา
เขาหวลคิดย้อนกลับไปเมื่อสมัยเขายังเด็ก
“ราชาแห่งท้องทะเลเติบโตขึ้นมาในประภาคารแห่งนั้น แม้เขาจะพยายามจะไม่สนใจมัน แต่เสียงของเหล่าสรรพสัตว์แห่งท้องทะเลก็ยังคงร้องสรรเสริญเขา และเรียกร้องให้เด็กน้อยกลับสู่ท้องทะเล”
“แต่พ่อของเขารู้ว่าการกลับไปยังแอตแลนติสก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย ดังนั้นเขาจึงบอกให้ลูกชายของเขา ว่าอย่าสนใจเสียงเรียกที่อยู่ในหัวของเขา และยอมรับชีวิตคนธรรมดาเช่นเดียวกับเขา”
แต่ในวันเกิดปีที่ 13 ของเด็กน้อย กองทหารของ Atlantis ก็กลับมาอีกครั้ง
“สำหรับโทมัส เคอร์รี่ นี่เป็นดุจดังฝันร้ายที่กลับมาอีกครั้ง เขาต้องสูญเสียผู้หญิงคนเดียวที่เขารักไปครั้งหนึ่งแล้ว และเขาได้สาบานว่าจะไม่ยอมสูญเสียลูกชายของเขาไปอีก”
“ทอม เคอร์รี่ตายไป ทั้งที่ยังเชื่อว่าทหารเหล่านั้นถูกส่งมาฆ่าลูกชายของเขา เพื่อยุติอันตรายที่เขาอาจก่อขึ้นต่อราชาแห่งแอตแลนติส”
“แต่ความจริงแล้ว บิดาของแอตแลนน่าได้ตายไปแล้ว และมหาอุปราชของของได้รู้ตัวว่าพวกเขาได้ทำความผิดพลาด ที่อัปเปหิราชาที่แท้จริงแห่งท้องทะเลไปเมื่อสิบสามปีที่แล้ว”
“และดังนี้ อาเธอร์ เคอร์รี่ก็ได้กลับคืนสู่ท้องทะเล โดยที่ยังเยาว์เกินกว่าจะเข้าใจคุณธรรมที่พ่อของเขาคอยพร่ำสอน อย่างความอดทน, ความเมตตา และ ความอ่อนน้อมถ่อมตน”
“เขาเข้าใจผิดไปว่าความอ่อนโยนของทอมเป็นความอ่อนแอ และถือว่าการที่เขาถูกฆ่าอย่างง่ายดายเป็นสิ่งยืนยันความเชื่อนั้น”
“และทุกสิ่งที่เขาเรียนรู้ในโรงเรียนทหาร ได้ทำให้เขาเกลียดชังโลกเบื้องบน ฐานที่พยายามจะขัดขวางเขาจากสิ่งที่สมควรเป็นของเขา”
“ทั้งการศึกษาและกฎเกณฑ์ ที่เขาเคยได้รับการสั่งสอนจากโรงเรียนที่โลกเบื้องบน ก็กลายมาเป็นคำสอนที่ผิดๆสำหรับเขา…”
“…เพราะสำหรับแอตแลนติสแล้ว ผู้อ่อนแอนั้นไม่มีสิทธิ์ได้รับสิ่งใดนอกจากความทุกข์ และความสุขจะเป็นของผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ซึ่งอาเธอร์ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าชาวแอตแลนติสคนไหนๆในที่เคยมีมา”
“ทุกชีวิตในทะเลต่างน้อมรับคำบัญชาของเขา แม้แต่องค์ชายออร์ม ผู้ที่ราชาองค์ก่อนได้เลี้ยงดูมาเพื่อสืบทอดราชบัลลังค์ ก็ยังถูกบังคับให้ต้องหลีกทางให้ โดยรับรู้ว่าอาเธอร์ คือผู้ได้รับเลือกจากพระแม่แห่งท้องทะเลอย่างแท้จริง”
ตัดมายังปัจจุบัน
Gen.Roduun : ฝ่าบาท เราควรถอยทัพเดี๋ยวนี้นะพะย่ะค่ะ
Aquaman : น้องชายและน้องสะไภ้ของข้าอยู่ในนั้นนะ โรดัน เราถอยไม่ได้อีกแล้ว
Gen.Roduun : แต่ถ้าไดอาน่าได้จับตัวทีมลอบสังหารของเราไปจริงๆ นางก็คงจะส่งพวกฟิวรี่ของนางมาเป็นแน่!
ทันใดนั้นทหารที่รับหน้าที่ดูแลเรดาร์ก็จับอะไรบางอย่างบนจอได้
Soldier : มาแล้วครับ!!
สิ่งที่มาคือยานบินของฝ่าย Amazon ลำหนึ่ง
“ราชินีไดอาน่า ‘วันเดอร์วูแมน’ แห่งอมาซอน ได้รวบรวมเหล่านักรบหญิงที่ดุร้ายที่สุดจากทั่วโลก มาเข้าร่วมในกองทหารประจำตัวของนาง”
“พวกนางเรียกตัวเองว่า ‘ฟิวรี่’ และความดุร้ายของพวกนางนั้น มันยิ่งกว่าเทพแห่งการแก้แค้น ที่เป็นที่มาของชื่อหน่วยของพวกนางเสียอีก”
พวกที่มาในครั้งนี้ประกอบด้วย Huntress (Helena Bertinelli), Hawkgirl (Shiara Hall) และ Cheetah (Barbara Ann Minerva)
(Cheetah ใน Time-Line ดั้งเดิมเป็นคู่ปรับของ Wonder Woman ซึ่งจริงๆแล้วมีคนใช้ชื่อนี้หลายคนมาก โดยแต่ละคนจะมีหน้าตาและชุดไม่เหมือนกัน แถมยังเคยมีที่เป็นผู้ชายอีกด้วย แต่ดูจากหน้าตาของคนนี้แล้วน่าจะเป็นคนที่ 3 ที่ชื่อ Barbara Ann Minerva)
แต่ทันใดนั้นก็มีบางอย่างบินผ่านพวก Furies ไปยังเรือบัญชาการของ Atlantis และทะลวงเข้าไปข้างใน!!
“แต่พวกฟิวรี่เองก็ยังต้องหวาดกลัวต่อผู้บังคับบัญชาของพวกนาง ผู้ที่ทั้งพลังและความแข็งแกร่งเหนือกว่าพวกนางอย่างไม่อาจเทียบได้…”
“…เพราะความพิโรธของไดอาน่าแห่งเธมิสไคร่านั้น แม้นรกเองก็ยังไม่อาจเทียบได้”
Wonder Woman : เจ้าได้กลายเป็นอสูรร้ายไปแล้วนะอาเธอร์ และเมื่อคิดว่าข้าเคยเกือบจะต้องแต่งงานกับเจ้ามาแล้วด้วยนี่…
ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างสองเผ่าพันธ์ก็มาถึงจุดเดือด! ในขณะที่เหล่าอดีตผู้สมรู้ร่วมคิดกำลังต่อสู้กันเองอยู่ เหล่าผู้ที่ถูกเชิดโดยไม่รู้ตัวก็กำลังจะเข่นฆ่ากันเอง และจุดประกายของสงครามที่จะทำลายล้างโลกนี้!!!
โปรดติดตามตอนต่อไป : เมื่อ Wonder Woman Vs. Aquaman!!!
O_o
กำลังมันส์ :]
ที่สุดมันส์โฮก
ช่วงแรกๆที่พูดถึงญาติพี่น้อง พ่อแม่ แอบหนี เอามาเลี้ยงแทน ทำไมคิดถึงละครพวกบ้านทรายทองนะ มันดราม้า ดราม่า
เค้าต้องการปูทางว่าทำไมอควอแมนถึงมีนิสัย โหดเหี้ยมและดุรร้ายซึ่งก็มาจากการเลี้ยงดู
อื้มมมม siren มาไว ไปไว มั๊กกก
เหมือนละครหลังข่าวเลย
พี่น่องยุแหย่ใ้ห้ตีกัน
มันส์มากครับ
ขอบคุณมากครับที่สปอย
ภาพเสียหมดแล้วอะคับ