DC Comic : FLASHPOINT : The Reverse-Flash One-Short

เรื่อง : Scott Kolins
ภาพ : Joel Gomez
วางจำหน่าย: 22 มิถุนายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ในเล่มนี้เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวร้ายหลักของ Flashpoint อย่าง The Reverse-Flash มากยิ่งขึ้น และจะได้รู้แรงจูงใจที่ทำให้เขาอยากทำลายชีวิตของ Barry Allen ถึงขนาดนี้

“ฉันชื่อเอโอบาร์ด ธอว์น ฉันมาจากศตวรรตที่ 25 ยุคสมัยซึ่งฮีโร่เป็นแค่เรื่องเล่า และเดอะแฟลชก็คือฮีโร่ที่ฉันชื่นชม”

“แต่ในตอนนี้…ฉันเกลียดเจ้าเดอะแฟลชสุดหัวใจเลย!!

“เจ้านั่นมันทำลายการทดลองครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน จนพังป่นปี้ไปแล้ว…”

“ทั้งที่ฉันวางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว”

“ทั้งที่ฉันทำสำเร็จไปแล้ว”

“ฉันกำลังจะเป็นเดอะแฟลชแห่งศตวรรตที่ 25”

“ทุกคนจะต้องชื่นชมฉัน”

“เมื่อฉันกลายเป็นชายผู้รวดเร็วที่สุด ในยุคสมัยที่ไม่มีฮีโร่นี้ ฉันจะได้ครอบครองทุกสิ่ง”

“ไม่มีอะไรจะหยุดฉันได้”

“ยกเว้นแต่เจ้าแบรี่ อัลเลน”

“แบรี่ อัลเลน ผู้ทำลายทุกอย่างจนพังป่นปี้”

(Barry ข้ามเวลามายัง ศตวรรตที่ 25 เพื่อตามมาเก็บ Time Capsule อันเดียวกับที่มีชุดของ The Flash ซึ่ง Thawne ใช้นำมาทดลองสร้าง Speed Force เพราะข้างในนั้นมี “นาฬิกาอะตอม” บรรจุอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อถูกส่งข้ามเวลามาก็จะทำให้สสารที่อยู่ภายในไม่เสถียร และทำให้กลายสภาพเป็นระเบิดปรมาณูได้)

(ปกติ Speedster จะมีพลังที่สามารถข้ามเวลาได้อยู่แล้ว แต่ไม่สามารถจะกำหนดจุดหมายที่แน่นอนได้ จึงต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Cosmic Treadmill ช่วยในการจะระบุจุดที่แน่นอนในกระแสเวลา จนถึงปัจจุบันนี้ มีเพียง Thawne เท่านั้นที่สามารถเดินทางข้ามเวลาได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือนี้ช่วย)

“เพราะทรรศนคติที่คับแคบของมัน…และเพราะความอิจฉาที่มันมีต่อฉัน…ได้พรากอนาคตของฉันไป”

“ฉันต้องถูกขังอยู่ในคุก”

“มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะพรากอนาคตไปจากเจ้าเดอะแฟลชบ้าง”

“มันถึงเวลาแล้วที่ฉันฆ่าฮีโร่ที่ฉันเคยชื่นชม”

“ไม่มีใครรู้ว่าฉันนั้นเชื่อมต่อกับสปีดฟอร์ซอย่างฐาวรแล้ว…กับต้นกำเนิดพลังของเดอะแฟลชที่ฉันได้ค้นพบนั่น”

“ซึ่งฉันได้ใช้มันสร้าง…พลังเนกาทีฟสปีดฟอร์ซของฉันเองขึ้นมา”

“ถ้าเจ้าเดอะแฟลชของยุคอดีต ไม่ยอมให้ฉันเป็นฮีโร่ของยุคสมัยของฉันล่ะก็…”

“ถ้างั้นวันนี้แหละ…ฉันจะฆ่าเจ้าเดอะแฟลชในยุคสมัยของมันเอง”

“นั่นไงล่ะ เจ้าศัตรูของฉันมันอยู่นั่น”

“ฉันจะฆ่ามันเสียตอนนี้เลย…ดีไหมนะ?

“แต่ฉันก็ตัดสินใจว่า จะศึกษาเรื่องของมันเท่าที่จะทำได้เสียก่อนที่จะ…ลงมือ”

“ฉันเดินทางย้อนเวลาไปดู”

“ย้อนไปดูตอนที่มันจับคนร้ายเป็นครั้งแรก”

“ย้อนไปดูตอนที่มันใช้พลังความเร็วสูงเป็นครั้งแรก”

“ย้อนไปดูวันที่มันถูกสายฟ้าผ่าใส่”

“ฉันศึกษาต่อไป…จนกระทั่ง…ฉันได้พบกับห้วงเวลานั้น”

“ฉันก็พบคำตอบที่ฉันหาอยู่”

“ในประกายแสงที่เป็นจุดเริ่มต้นของมัน ฉันก็พบวิธีแก้แค้นที่เหมาะสมที่สุด ฉันจะไม่เพียงแค่ฆ่าเจ้าแบรี่ อัลเลนเฉยๆหรอก”

“ไม่…ฉันจะทำให้มันยิ่งไปกว่านั้นอีก”

“หยุด”

(Speedster สามารถเร่งความเร็วได้ถึงขั้นความเร็วแสง ซึ่งในความเร็วระดับนั้น ก็จะดูเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างช้าลงจนหยุดนิ่ง)

“ที่นี้…ถ้าหากว่ามันเป็นแบบนี้ล่ะ?”

“ถ้าบีกเกอร์อันนี้ไม่ได้หกรดตัวแบรี่ล่ะ?”

“หรือถ้าไม่มีสารเคมีอันไหนหกลงมาเลยล่ะ?”

“ถ้าหากว่าเหตุการณ์นี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเลยล่ะ?”

“คิดดู : ถ้าฉันทำให้แบรี่ อัลเลนไม่เคยได้รับพลังนี้ และฉันได้เป็นเดอะแฟลชเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ล่ะ?”

“ถ้าหากว่า…นี่มันกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของฉันแทนล่ะ?!”

“ชะตากรรมนี้จะสามารถกลายมาเป็น…ของฉัน!!”

แต่ทันใดนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้น!

ประกายสายฟ้าเคลื่อนผ่านร่างของ The Reverse-Flash ไป รวมถึงตัวเขาก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ

แต่ก่อนที่เขาจะหายไปหมด ประกายสายฟ้านั้นก็โดนตัวของ Barry

“นี่…นี่มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง”

“มันเป็นเพราะแบรี่”

“ฉัน…ตัวตนของฉันเกือบจะหายไปแล้ว…เพราะฉันพยายามจะหยุดไม่ให้แบรี่กลายเป็นเดอะแฟลชงั้นรึ?!”

“แต่เพราะในท้ายที่สุดเขาก็ได้รับพลังอยู่ดี…ฉันถึงรอดมาได้”

“และฉันก็ได้รู้กฎที่สำคัญที่สุด : แบรี่จะต้องมาก่อนถึงจะมีฉันได้”

“เขาต้องได้เป็นเดอะแฟลช…ฉันที่เป็นรีเวอร์ส-แฟลชจึงจะมีตัวตนอยู่ได้”
“ไม่ ไม่!!”

“เจ้าคนที่ฉันอยากให้มันตายเป็นที่สุด!”

“เจ้าคนที่ฉันยินดีแลกทุกอย่างเพื่อที่จะฆ่ามันได้!”

“จะต้องมีชีวิตอยู่…ไม่งั้นฉันก็ตาย”

ด้วยความรู้สึกจนตรอกกับสิ่งที่ค้นพบ The Reverse-Flash ก็ข้ามเวลาไปยังช่วงเวลาที่ The Flash รู้จักตัวตนของเขาแล้ว และเข้าต่อสู้กับ The Flash

แต่ไม่ว่าจะสู้กันสักกี่ครั้ง สุดท้ายเขาก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี

แต่ในที่สุดเขาก็ได้รู้วิธีที่จะทำให้ The Flash เจ็บปวดได้

“ถ้าฉันฆ่ามันไม่ได้ล่ะก็…ฉันก็จะฆ่าคนที่มันรักแทน!”

แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่สำเร็จ และในท้ายที่สุดเขาก็โดน The Flash หักคอตาย

ในเหตุการณ์ที่ตัวเขาย้อนกลับมาดูหลายต่อหลายครั้ง หลังจากที่เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยพลังของแสงสีขาวในช่วงท้ายของ Event Blackest Night

เขาได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าอย่างไร The Flash ก็จะสามารถหยุดเขาได้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำสองอีก

ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะย้อนกลับไปในอดีตให้ไกลยิ่งกว่าเก่า

ไปยังช่วงเวลาที่ Barry ยังเป็นเด็ก เพราะนั่นเป็นช่วงเวลาสำคัญที่อุปนิสัยประจำตัวของแต่ละบุคคลจะถูกพัฒนาขึ้น และยังเป็นเวลาที่เปราะบางที่สุดด้วย!

สิ่งที่ประสบมาในวัยเด็กจะส่งผลไปจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ และหากเขาสามารถเพิ่มแผลใจเข้าไปในตัว Barry ได้ เขาก็จะเปราะบางลงและจะทำให้ Thawne เอาชนะเขาได้ง่ายขึ้น!

เริ่มจากการทำให้ Barry ต้องพบกับประสบการณ์ร้ายๆ

ต่อมาด้วยการลบตัวตนของเพื่อนสนิทของ Barry ออกไป ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างโดดเดี่ยว

และสุดท้าย…

มันก็ฆ่าแม่ของ Barry ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพินาศลง และเขาต้องมีแผลใจที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต!!

จากตรงนี้เป็นส่วนแถม

และเรื่องราวก็จะไปต่อที่ “Flash Rebirth”

เมื่อ The Reverse-Flash แน่ใจแล้วว่าตอนนี้จิตใจของ Barry อ่อนแอลงจนถึงจุดที่มันสามารถเอาชนะเขาได้แน่นอนแล้ว มันก็เริ่มดำเนินการ

เริ่มจากการทำให้ Barry ถูกพลังงานด้านลบของ Negative Speed Force เข้าครอบงำ และเขาเริ่มส่งผลต่อ Speedster คนอื่นๆ ทำให้บางคนถึงกับต้องล้มตายไป (เป็นพวกเหล่าร้ายความเร็วสูงน่ะนะครับ)

เหล่าเพื่อนๆของเขาทั้งจาก JLA และ JSA พยายามจะตัดการเชื่อมต่อของเขากับ Speed Force เพื่อช่วยเหลือเขา

เมื่อถึงที่สุด Barry ตัดสินใจว่าเขาควรจะกลับเข้าไปใน Speed Force เพราะเห็นว่าเขานั้นไม่คู่ควรที่จะอยู่ที่นี่

(นี่แสดงถึงผลของการกระทำของ Reverse-Flash ได้เป็นอย่างดี เพราะ Barry กลายเป็นคนที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และพยายามจะสละตัวเองเพื่อหนีจากปัญหา)

ขณะที่เขาวิ่งไปเขาเริ่มสูญเสียความคิดความทรงจำไปเรื่อยๆเมื่อเข้าใกล้กับห้วงมิติ Speedforce มากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เขายังสามารถคงความเป็นตัวของตัวเองได้ก็คือ Iris ภรรยาของเขา

สิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากชีวิตที่ผ่านมาของเขา

“ตราบใดที่ฉันยังจำไอริสได้ ทุกอย่างก็จะต้องเรียบร้อย”

แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ยิ่งเขาวิ่งมากเท่าไหร่ ประกายสายฟ้าสีแดงของ Negative Speed Force ก็ถูกลบล้างไป

(ฺBarry มีความเชื่ิอมโยงกับ Speed Force เหนือกว่า Speedster คนอื่นๆ เมื่อเขาวิ่งพลังงานของเขาก็จะไปเสริมพลังให้กับ Speed Force ปกติ และลบล้างพลังของ Negative Speed Force ได้)

และเมื่อเขาเข้าไปถึงภายในมิติของ Speed Force

เขาได้มาพบกับ Max Mercury และ Johnny Quick ที่โดนดูดหายเข้าไปใน Speedforce เช่นเดียวกับเขาก่อนหน้านี้

ทันใดนั้น Johnny Quick ก็แก่ลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นซากแห้ง โดยตอนแรก Barry ก็คิดว่าเป็นเพราะตัวเอง แต่ Max Mercury ก็บอกว่าไม่ใช่

และตอนนั้นเองคนร้ายตัวจริงก็ปรากฎตัว

The Reverse-Flash ดึงพวกเขาเข้าสู่มิติของ Negative Speed force ซึ่งทำให้มีเพียงมันเท่านั้นที่ใช้พลังในมิตินี้ได้ ในขณะที่พวกเขาจะโดนขังอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล มันก็็จะไปฆ่าทุกคนที่ Barry รักให้หมด!

ระหว่างที่พวก Barry พยายามหนีออกมาจากภายในมิติของ Negative Speed Force ทางด้าน Wally West ก็เข้าไปช่วยเขาจากภายนอก

ในขณะที่ Jay Garrick และ Bart Allen ก็เข้าปะทะกับ The Reverse-Flash

ในที่สุด Barry ก็ออกมาจาก Speedforce ได้สำเร็จ และเข้าปะทะกับ The Reverse-Flash

Barry กับ Thawne เข้าต่อสู้กัน และตอนนั้นเองที่มันเริ่มเปิดเผยเรื่องราวที่มันทำลงไป

มันเปิดเผยว่ามันเองคือคนที่ฆ่าแม่ของ Barry

เมื่อเห็นว่าที่ Barry ยังสามารถเข้มแข็งได้ขนาดนี้เพราะมี Iris ภรรยาของเขาเป็นที่พึ่งทางใจ Thawne จึงคิดจะย้อนเวลาไปฆ่า Iris ในสมัยก่อนที่เขาจะได้รักกัน และเขาก็จะไม่สามารถใช้เธอเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจได้อีก

Barry พยายามจะตาม Thawne ไป แต่เขาไม่สามารถจะตามมันไปยังช่วงเวลาที่มันกำลังจะไปได้ เขาไม่สามารถวิ่งข้ามกระแสเวลาอย่างอิสระได้เหมือนกับมัน

ตอนนั้นเอง Wally ก็มาช่วยเขา และพวกเขาก็ช่วยเสริมพลังให้กันและกันจนตาม Thawne ไปได้

ในที่สุดพวกเขาก็ตามมันทัน และลากมันกลับมายังเวลาปัจจุบันอีกครั้ง

จากนั้นก็เอามันใส่ในเครื่องมือที่เหล่า ฮีโร่คิดจะใช้ตัดการเชื่อมต่อกับ Speed Force ของ Barry ก่อนหน้านี้

และตัดการเชื่อมต่อของ Thawne กับ Negative Speed Force พร้อมกับจับกุมมันได้สำเร็จ

และจับมันขังในสภาพแช่แข็งห้อยหัว เพื่อไม่ให้มันมีสติพอจะดึงพลังความเร็วสูงมาใช้ได้อีก

จนกระทั่งมันถูก Captain Boomerang ปล่อยออกมาใน the Flash เล่ม 7 และเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่ Flash Point

จบครับ