DC Comic : FLASHPOINT : Abin Sur The Green Lantern 01 : IN BLACKEST NIGHT!?!?
เรื่อง : Adam Schlagman
ภาพ : Felipe Massafera
วางจำหน่าย: 1 มิถุนายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงของ Flash Point นั้น Abin Sur คือ Green Lantern แห่งเขตอวกาศ 2814
แต่เขาจะทำอย่างไร? เมื่อจักรวาลกำลังถูกครอบงำด้วยความมืดและความตายจากฝีมือของเหล่า Black Lantern?!?!?
ปล.ฉากต่างๆในเล่มอาจดูแปลกตาสำหรับแฟนๆซีรีย์ Green Lantern แต่ไม่ต้องตกใจ มันเป็นเพราะฉากในหนังสือเล่มนี้ ถูกเขียนขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตหนังโรงของ Green Lantern ที่กำลังจะเข้าฉายนั่นเอง
.
.
.
.
.
เมื่อหลายสิบปีก่อน ที่ดาวเคราะห์อังการ่า
เด็กน้อยคนหนึ่ง กำลังจะเหยียบแมลงที่มารบกวนเขาโดยไม่ได้คิดอะไร
แต่ทันใดนั้นเอง พี่สาวของเขาก็มาห้ามเอาไว้
Arin : อาบิน! นี่เธอกำลังจะทำอะไร?
Abin : ก็ไม่มีอะไรนี่นา พี่อาริน ผมแค่…มันมากวนใจผมน่ะ มันก็แค่แมลงตัวเดียวเอง ไม่มีใครสนใจมันหรอก…
Arin : น้องรักของพี่ เราทั้งหมดต่างก็เชื่อมโยงกันทั้งนั้นนะ
Arin : ตั้งแต่เธอกับฉัน…จนถึงนกและต้นไม้..จนถึงฝุ่นผงที่เล็กที่สุด
Abin : แม้แต่แมลงที่มากวนฉันด้วยเหรอ พี่อาริน?
Arin : นี่คือ “ด้วงวิญญาณ” มันช่วยผสมเกสรให้ต้นไม้ที่ออกลูกโกล-ฟรุ๊ตที่เธอชอบมากไง ถ้าไม่มีพวกมัน ผู้คนของเราก็จะต้องหิวโหยและอดอยาก
Arin : ทุกชีวิตต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้นแหละอาบิน
Arin : ทุกชีวิตต่างมีค่า
มาถึงยุคปัจจุบัน
เด็กน้อยได้เติบโตเป็นชายฉกรรจ์ เป็นนักรบผู้เก่งกล้า ผู้ปกป้องมวลชีวิต
“ผมชื่ออาบิน เซอร์”
“เป็นเจ้าหน้าที่กรีนแลนเทิร์นและผู้พิทักษ์แห่งเขตอวกาศ 2814”
“ผมรับหน้าที่ปกป้องมวลชีวิตในกาแล็คซี่มากมาย เป็นจำนวนนับล้านล้าน”
เขากำลังต่อสู้เหล่า Manhunter หุ่นแอนดรอยด์ที่มุ่งจะทำลายล้างทุกชีวิตในจักรวาล ตามคำสั่งที่บิดเบี้ยวในระบบเครือข่ายสมองกลของพวกมัน
หลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือด เขาก็กำจัดเหล่า Manhunter จนหมดได้สำเร็จ
ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเขา
Sinestro : อาบิน เซอร์…
Sinestro : …ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนาย
Abin : ทาล์ล ซิเนสโตร
(Thaal Sinestro ใน Timeline หลัก เขาคืออดีต Green Lantern ที่ถูกขับไล่ออกจากองค์กร และได้ครอบครองพลังแห่งแสงสีเหลือง และก่อตั้งองค์กรของ Sinestro Corps ของตนเองขึ้นมา และกลายมาเป็นตัวร้ายหลักของซีรีย์นี้)
Abin : ไม่เจอกันเสียนานนะ
Sinestro : ใช่แล้วอาบิน และตอนนี้ก็เป็นเวลาคับขันอย่างยิ่ง ฉันกำลังรวบรวมกำลังพลของเหล่าแลนเทิร์นที่เก่งกาจที่สุดที่เรามี เพื่อไปต่อสู้กับพวกแบล็คแลนเทิร์น หากเราจะมีโอกาสชนะเราก็ต้องร่วมมือกันเท่านั้น
Abin : พวกการ์เดี้ยนอนุมัติแล้วหรือ…
Sinestro : พวกการ์เดี้ยนเอาแต่นั่งอยู่เฉยๆในที่ปลอดภัย ในขณะที่พวกพ้องนักรบสีมรกตของเราถูกสังหารไปเรื่อยๆ วันนี้เขตอวกาศที่ 674 ถูกทำลายโดยเนครอนและกองทัพของมัน
Sinestro : คิโลวอค ครูฝึกที่เก่งกาจที่สุดของพวกเราได้พลีชีพไปแล้ว
Abin : ไม่นะ…
(ใน Timeline หลัก Nekron จ้าวแห่งมิติความตายได้ใช้แหวนพลังสีดำ ปลุกเหล่าคนตายขึ้นมาเป็นสมุน Black Lantern ของมัน ด้วยเป้าหมายจะทำลายล้างชีวิตทั้งปวงในจักรวาล ทำให้เกิดเป็นหายนะตามคำทำนายที่เรียกว่า “Blackest Night” แต่สุดท้ายแล้วมันก็ถูกพิชิตลงโดยการร่วมมือขององค์กร Lantern ทั้ง 7 รวมถึงเหล่าฮีโร่ของโลก และพลังแห่งแสงสีขาวที่เป็นพลังงานแห่งชีวิต)
Sinestro : เนครอนมันใช้สหายที่ตายไปแล้วมาต่อสู้กับพวกเรา แบล็คแลนเทิร์นของมันได้ทำลายเขตอวกาศไปแล้วกว่าสองร้อยแห่ง ถึงเวลาที่เราต้องโต้กลับแล้ว!
Abin : ฉันจะไปพูดกับพวกการ์เดี้ยน แล้วเราจะได้คิดแผนการโจมตีที่รอบคอบขึ้นมา
Sinestro : นายไม่เข้าใจหรือไงอาบิน ถ้าเราไม่หยุดพวกมันตั้งแต่ตอนนี้…ทุกชีวิตก็จะถูกทำลายไป…เหมือนกับอารินผู้เป็นที่รักของพวกเรา
Sinestro : เธอคงต้องเศร้าใจเป็นแน่ที่เห็นนายกลายเป็นแบบนี้
(ใน Timeline หลัก (และน่าจะรวมถึงใน Timeline นี้ด้วย) Sinestro กับ Arin Sur แต่งงานกัน และมีลูกสาวคนหนึ่ง ซึ่งก็กลายมาเป็น Green Lantern เช่นเดียวกัน)
ด้วยถูกพูดจี้ใจดำ Abin ก็ชกหน้า Sinestro จนหน้าหันไป
Abin : อย่าได้บังอาจพูดถึงเธออีกเชียวนะ! ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้เลยทาล์ล!!
Sinestro : เห็นแก่ที่เรารู้จักกันมานาน ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย…สำหรับครั้งนี้
Sinestro : ความหมกหมุ้นกับการปกป้องชีวิตนั้นมันทำให้นายตามืดมัว ทำให้นายมองไม่เห็นภัยร้ายที่ใหญ่หลวงกว่า ที่จักรวาลนี้กำลังเผชิญอยู่
Sinestro : งั้นก็จงสู้ต่อไปเถอะอาบิน…เพราะถ้านายไม่ทำเช่นนั้น…นายก็คงไม่ต่างกับพวกมัน…
Sinestro : …เป็นแค่เครื่องจักรที่ไร้จิตใจ
ที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps
ที่หอประชุมของเหล่า Guardian of Universe
Guardian : เขตอวกาศได้พินาศลงไปอีกแห่งแล้ว จักรวาลนี้กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายสับสน
Guardian : ในบรรดาเขตอวกาศ 2,793 แห่งที่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของเรา กว่าครึ่งกำลังถูกรุกรานโดยพวกแมนฮันเตอร์ หรือไม่ก็พวกแบล็คแลนเทิร์น นี่เป็นเวลาที่เราต้องลงมือทำอะไรกันบ้างแล้ว
Guardian : ไม่หรอก สิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรก คือต้องให้แน่ใจว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในจักรวาลนั้นปลอดภัยดีเสียก่อน
Guardian : เราจะต้องไปนำ “สิ่งนั้น” มาจากดาวเคราะห์โลก
Guardian : ตอนนี้สงครามครั้งใหญ่กำลังจะอุบัติขึ้นบนดาวดวงนั้น
Guardian : ซึ่งถ้าหากว่าดาวโลกพินาศลงไปล่ะก็…ทุกชีวิตก็จะถูกทำลายไปด้วย
Guardian : เราต้องเรียกตัวแลนเทิร์น 2814 มาเดี๋ยวนี้
ขณะเดียวกันนั้นเอง ที่ดาวเคราะห์ Ungara
Abin Sur มายังหลุมศพแห่งหนึ่ง คำจารึกบนนั้นสลักไว้ว่า
“อาริน เซอร์ พี่สาวและภรรยาอันเป็นที่รัก และผู้เป็นแสงสว่างแห่งจักรวาลนี้”
Abin : จิตใจของผมมันว่างเปล่าไปแล้ว ตั้งแต่วันที่พี่จากไป
Abin : ผมคิดถึงพี่เหลือเกิน อาริน ผมพยายามจะมีชีวิตอยู่…เพื่อพี่อันเป็นที่รักของผม…แต่ว่า…
Abin : …ผมทำไม่ได้ ผมไม่สามารถทนรับการสูญเสียคนใกล้ชิดของผมไป…ผมทนไม่ได้อีกแล้ว
Abin : ความตายของพี่เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ถ้าหากว่าทาล์ลหรือผมสามารถหยุดยั้งมันได้…ถ้าเราช่วยพี่ได้ บางทีทุกอย่างมันอาจต่างไปจากนี้ บางทีดาวของเรา…อังการ่าแห่งนี้…อาจยังคงอยู่ก็เป็นได้
หลังจากนั้น ที่หอประชุมของเหล่า Guardian
Guardian : แลนเทิร์น 2814 เอ๋ย เราเข้าใจดีว่าเนครอนและพวกแมนฮันเตอร์นั้น เป็นภัยร้ายที่ยิ่งใหญ่เพียงใด… แต่เรามีภารกิจอย่างหนึ่งที่สำคัญยิ่งยวด ที่เราต้องการให้เจ้าทำอย่างเร่งด่วน
Guardian : เพราะเจ้าคือผู้ที่มีความมุ่งมั่นจะปกป้องชีวิตทั้งมวล มากกว่าแลนเทิร์นคนไหนๆ
Guardian : เจ้าจะต้องไปรับเอา “ดิเอนธิธี” ร่างอวตารแห่งแสงสีขาว ต้นกำเนิดแห่งสรรพชีวิตทั้งมวลมา
Guardian : มันถูกซ่อนเอาไว้ในเขตอวกาศของเจ้า…ถูกฝังอยู่ลึกลงไปในดาวเคราะห์โลก
Abin : โลกเป็นดาวเคราะห์ที่ยังไม่เจริญ ทำไมมันถึงถูกเลือกให้เป็นที่เก็บรักษา สิ่งที่มีความสำคัญต่อทั้งจักรวาลถึงเพียงนั้น?
Guardian : นั่นก็คือสาเหตุหลักที่มันถูกเลือกยังไงล่ะแลนเทิร์น 2814 เพราะมันคือที่ซ่อนที่จะไม่มีใครคิดจะไปค้นหา แต่ตอนนี้ดาวเคราะห์ดวงนั้นกำลังอยู่ในอันตราย จากการถูกทำลายโดยเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ที่นั่นเอง
Guardian : เจ้าจงไปที่นั่นด้วยยานอวกาศ เพื่อทำการเก็บกู้เอาร่างอวตารแห่งแสง…และนำมันกลับมาที่โออาร์แห่งนี้…
Guardian : …เพื่อที่เราจะได้ปกป้องดูแลมันได้
Abin : ผมเข้าใจแล้วเหล่าการ์เดี้ยน แต่ผมก็จะช่วยปกป้องโลกไปพร้อมๆกันด้วย
Guardian : ร่างอวตารแห่งแสงสีขาวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่จำเป็นต้องสนใจดาวโลกหรอก
Abin : ทุกชีวิตต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้น
Guardian : แลนเทิร์น 2814 เอ๋ย ดาวดวงนั้นกำลังถูกครอบงำด้วยความกลัว เราไม่อนุญาตให้เจ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว
Abin : งั้นผมก็ขอปฏิเสธที่จะรับฟัง
Abin : ทุกชีวิตต่างมีค่า
หลังจากนั้น Abin Sur ก็โดยสารยานอวกาศมาถึงดาวเคราะห์โลก
Abin : แหวน บนดาวเคราะห์โลกมีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาอาศัยอยู่มากเท่าไหร่?
[จำนวนมากกว่าหกพันล้าน]
Abin : พวกการ์เดี้ยนคิดผิดแล้ว ฉันจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อปกป้องโลกเอาไว้
Abin : ฉันไม่สามารถปกป้องอังการ่าเอาไว้ได้ แต่ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นกับโลก
Abin : ทาล์ลอาจจะพูดถูกก็ได้
ทันใดนั้นเอง ยานอวกาศของเขาก็ถูกโจมตีโดย ลำแสงสีคราม?!?!?!
Abin : ยานกำลังลดระดับอย่างรวดเร็ว…แหวน ตำแหน่งที่ยานจะตกลงไปคือที่ไหน?
[ที่เขตชานเมืองของโคสซิตี้ รัฐแคลิฟอเนีย จำนวนเสียชีวิตตามที่คำนวณไว้คือ 2,210 คน]
Abin : ถ้างั้นฉันก็ไม่สามารถจะสละยานหนีไปได้ ฉันต้องบังคับมันให้ลงจอดที่อื่น
ขณํที่ยานกำลังร่วงลง มันก็สวนกับเครื่องบินรบลำหนึ่ง ที่ปีกของมันมีสัญลักษ์ติดไว้ว่ามันเป็นของ “Ferris Air”
Abin : แหวนเอ๋ย หากฉันไม่รอด ก็จงเลือกใครสักคนที่เหมาะสมที่จะปกป้องดาวดวงนี้ด้วย…
แล้วยานของเขาก็ตกลงกับพื้นทะเลทรายนอกเมือง พร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น!!!
ขณะเดียวกันนั้นเอง ที่ดาวเคราะห์คุมขังนักโทษ Ysmalt
??? : แกมาคนเดียวงั้นเรอะ? แล้วพรรคพวกแลนเทิร์นของแกไปไหนซะล่ะซิเนสโตร?
Sinestro : พวกนั้นกำลังหวาดกลัว
??? : แกคงจนตรอกแล้วล่ะสิ ถึงต้องมาหาข้า…
Sinestro : หุบปากไปซะเจ้าสัตว์ร้าย แกคือคนที่ต้องรับผิดชอบ ต่อการที่ทำให้จักรวาลต้องพบกับความวุ่นวายเช่นนี้…จากการที่แกฆ่าวิลเลี่ยม แฮนด์ ทำให้เนครอนถูกปลดปล่อยออกมา
Sinestro : ฉันต้องการทำให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยกลับคืนมา
Sinestro : ที่นี้จงบอกมาซะอโตรซิตัส เรื่องคำทำนายที่เรียกกันว่า…”แฟลชพอยน์” นั่นน่ะ
ที่แท้คนที่ Sinestro มาพบก็คือ Atrocitus ผู้นำของ Red Lantern Corps ผู้ใช้พลังของแสงสีแดงแห่งความโกรธแค้น
(ใน Timeline หลัก Atrocitus ที่มีความสามารถในการทำนาย ได้พยายามที่จะฆ่าชาวโลกที่ชื่อว่า William Hand ผู้ที่ถูกทำนายไว้ว่าจะเป็นผู้ที่นำมาซึ่งความมืดที่จะนำไปสู่ Blackest Night แต่ก็ถูก Sinestro และ Hal Jordan ขัดขวางเอาไว้ ซึ่งสิ่งที่ไม่มีใครรู้ในตอนนั้นก็คือ เมื่อ William Hand ตาย Blackest Night ก็จะเริ่มขึ้น เพราะพลังงานสีดำของ Black Lantern นั้นเป็นพลังแห่ง “ความตาย” ดังนั้นเมื่อ William Hand ตาย การเชื่อมโยงกับความมืดก็จะสมบูรณ์ และ Blackest Night ก็จะเริ่มขึ้น)
อิทธิพลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์นั้น กำลังจะนำจักรวาลไปสู่ความพินาศ! และคำทำนายของ Atrocitus จะส่งผลอย่างไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้?!
โปรดติดตามตอนต่อไป : เมื่อ Hal Jordan กับ Abin Sur มาพบกัน
เหมือนจะกลายเป็น What if แทนจักรวาลหลักแล้ว ตามที่ การ์เดี้ยนพูดว่าเจ้าต้องตายอีกรอบ
แต่เผอิญว่าไม่มีเอี่ยวด้วย และ Antrocius ลงมือฆ่าสำเร็จ กลายเป็นสิ่งยืนยันว่า Hal ใน ไทม์ไลน์หลัก
ช่วยwillam ถูกต้องที่สุดแล้วเพื่อรอเวลาเปิดตัวขบวนการสีอื่นเป็นคีย์หลักในการรับมือ
มันส์มากมาก
เหมือนเห็นนิมิตรแห่ง การต่อสู้รอบที่แล้วเลย
มันช่วยให้ เข้าใจเหตุการ์ณคราวที่แล้ว ได้ดีแต่ไม่เีก่ยวกับคราวนี้นะ
ว่าแต่ เฟอร์ริสได้พลัง แล้วหรอ ถึงมีลำแสงยิงใส่ยานอาบินได้
ว่าแต่ ค่ำคืนแห่งความมืดมันเริ่มเร็วมาก
ถ้าสีไม่ครบ7สี แล้วมันจะปราบเนครอนยังไงกันเนี่ย
ไทม์ไลน์ของแฟลชพอทย์ มันหดหู่มากเลยอ่ะครับ
ขอบคุณมากครับที่สปอย
โอ้ว แปลกันเร็วมาก ขอบคุณครับ 😀
หวังว่า Flashpoint คงไม่ได้เขียนมาเพื่อเตรียมสร้าง JLA ฉบับ Movie
นะครับ หน้าตาต่างๆมันเหมือนในหนังเลย
มันส์โฮกๆ
DC รอบนี้จัดมันส์มาก อะ
เอ่อ อ่า คือว่า เนื้อเรื่องทั้งนั้น คนที่ว่ามันส์ มันมันส์ตรงซอกไหนครับสำหรับตอนนี้ (= =!)
มันส์ในความรู้สึกเพราะภาพมันสวยหรือเปล่า
เครื่องแบบกรีน แลนเทอร์นแบบหนังเลย เอาลายกล้ามเนื้อมาใช้ ส่วน sinestro พี่ มาร์ค สตรองมาเองเลย
ในเรื่องนี้รู้ได้ไงว่ามีflashpointเริ่มขึ้น
มันส์ตรงที่ว่า ถ้าเอาเหตุการณ์flashpointมาเชื่อมโยงต่อกัน มันน่าติดตามจนขนลุกเลยครับ
มันส์พ่ะย่ะค่ะ
อุสาห์ติดตามwar of green lanternตั้งนานเจอแบบนี้เลยเซงเลย
ชุดเหมือนในหนังเลยอะ ถ้ามองเผินๆอะ
ชุดเหมือนในหนังเลยอะ ถ้ามองดีๆอะ
@hometown03:
War of The Green Lanterns เล่มจบก็จะยังคงออกตามปกตินะครับ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าจนกว่า event นี้จะจบก็จะไม่ส่งผลใดๆต่อเล่มหัวอื่นๆทั้งสิ้น
โดย Green Lantern เล่มที่ 67 ที่เป็นเล่มจบ event จะวางขาวตอนปลายเดือนนี้
ขอบคุณมากครับที่แปลมาให้อ่านกัน
แต่ส่งสัยอย่างนึงว่า Abin Sur มีแหวนแค่เครื่องบินลำเดียว ใช้พลังแหวนส่งไปตกทะเลหรือนอกโลกสบายๆ ไม่เห็นต้องนั่งควบคุมเครื่องจนตกมาเดี้ยงแบบ time line หลักก็ได้นิ >.<
ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ
ภพสวยดี