War of The Green Lanterns : Part 4 : Green Lantern Vol.65 : การตัดสินใจครั้งสำคัญ!!
เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Christian Alamy, Doug Mahnke, Keth Champagne
วางจำหน่าย: 20 เมษายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
สงครามแห่ง Green Lanterns ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อ Green Lantern ชาวโลกทั้ง 4 คนต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่พวกเขาเองก็ไม่อาจแน่ใจว่ามันเป็นความคิดที่ถูกหรือผิดกันแน่
ที่ดาวเคราะห์ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps
Guardian ขบถ Krona ที่บัดนี้ใช้พลังของ Parallax เข้ายึดครอง Green Lantern Corps ทั้งหมด กำลังสอบปากคำ Kilowog ที่เป็นกรณีพิเศษที่มันไม่สามารถควบคุมได้
Krona : จากการที่สิ่งแปลกปลอมถูกใส่เข้าไปในแบตเตอรี่ศูนย์กลาง สมาชิกทุกคนของกรีนแลนเทิร์นคอร์ปควรจะอยู่ในความควบคุมของข้า
Krona : แต่เจ้านี่สิคิโลวอค เจ้ายังคงมีสติ ยังต่อต้าน ยังเข้มแข็งอยู่เลย
Kilowog : ฉันจะไม่ยอมสยบให้กับใครทั้งนั้น
เมื่อ Kilowog พูดจบ Krona ก็หยิบแหวนพลังสีเขียววงหนึ่งขึ้นมา
Krona : ข้าขอรับคำท้าทายของเจ้า แลนเทิร์นเอ๋ย
แหวนพลังสีเขียวของ Krona ส่งพลังเข้าช๊อต Kilowog จนเขาต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
Krona : ใช่ อารมณ์ความรู้สึกของเจ้านั้นมีส่วนมาก…แต่มันต้องมีอย่างอื่นอีกแน่
Kilowog : มันเป็นเพราะ…ฉันเชื่อมั่นในองค์กรของเราไงล่ะ!
Krona : ไม่ มันไม่ใช่แค่เพราะแค่อารมณ์ความรู้สึกแน่ มันต้องมีสาเหตุที่อธิบายได้มากกว่านี้
แล้วมันก็เอามือแตะบนหัว Kilowog
Krona : ถ้าเจ้าไม่อยากบอก ข้าก็จะให้เจ้าแสดงให้ข้าดูแทน
Krona : อย่างนี้นี่เอง…เจ้ากับพรรคพวก ฮาล จอร์แดน, กาย การ์ดเนอร์, จอห์น สจ๊วต, ไคล์ เรย์เนอร์ และเพื่อนรักของข้า…เพื่อนเก่าของข้า…กานเธท
Krona : พวกเจ้าต่างเคยโดนพาราแล็กซ์สิงสู่มาก่อน เจ้าสามารถรู้สึกถึงมันผ่านทางแหวนของเจ้า และมันทำให้เจ้าสามารถต่อต้านการควบคุมของมันได้ แต่พวกเจ้าไม่มีทางที่จะต่อต้านข้า ได้หากมาอยู่ต่อหน้าประชิดตัวเช่นนี้
แหวนพลังที่ Krona ถืออยู่เข้าสวมเข้ากับนิ้วของ Kilowog
Krona : คิโลวอค แห่ง โบโลแว็ก วิค เจ้ามีความสามารถที่จะสยบความกลัว
Krona : ขอต้อนรับสู่กรีนแลนเทิร์นคอร์ปของข้า
ตัดไปที่เขตอวกาศ 2000
ที่ดาวเคราะห์ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย ที่ถูกเรียกว่า “กรีนเฮ้าส์”
Hal Jordan และ Guy Gardner กำลังเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะ
Guy : เราเดินวนกลับมาที่เดิมนี่นา
Hal : นายแน่ใจหรือ?
Guy : ก็รอยเท้าเราเองมันอยู่ข้างหน้านั่นไงล่ะจอร์แดน!
Guy : ถ้าเราหาทางเข้าฐานลับไม่เจอในเร็วๆนี้ล่ะก็ เราได้กลายเป็นไอติมแท่งแน่
Hal : มันจะต้องอยู่แถว…แถวนี้แหละ
Guy : นายจำไม่ได้หรือว่ามันอยู่ตรงไหนน่ะ?
Hal : ฉันสร้างมันตอนช่วงหน้าร้อนน่ะ
Guy : เจ๋งเลยนี่
Guy : บางทีเราน่าจะส…ใส่แหวนสักแป๊บนึงว่าไหม? ทำให้เราอบอุ่นแล้วก็ใช้มันหาประตูทางเข้าฐาน
Hal : แล้วเสี่ยงให้พาราแล็กซ์เข้าครอบงำเราอีกครั้งงั้นหรือ? เราเกือบจะฆ่ากันตายมาเมื่อกี้นี้เองนะกาย
Guy : แล้วนายจะให้เราทำยังไงกันล่ะพ่อหนุ่มนักบิน ฉันไม่เห็นทางอื่นตรงไหนเลยนะ
แคร๊ง!
Hal : เดี๋ยวนะ นายได้ยินไหม? ที่พื้นรู้สึกว่าต่างกับที่อื่นๆใช่ไหม?
“ตรวจพบกรีนแลนเทิร์น 2814.1 และ 2814.2”
ทันใดนั้นพื้นก็เปิดออก แล้วพวกเขาก็หล่นลงไป
ในที่สุดพวกเขาก็พบฐานลับจนได้
Guy : นี่เรามียานอวกาศอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
Hal : เมื่อปีที่แล้วเอง มันชื่อว่า เดอะอินเตอร์เซปเตอร์
Hal : เป็นยานที่เร็วที่สุดในจักรวาลเชียวละ
Guy : แล้วนายไปหามันมาจากไหนกันน่ะ?
Hal : มันเคยเป็นยานที่ใช้ขนส่งพวกแมนฮันเตอร์ ฉันเจอมันในกองเศษเหล็กบนโออาร์ แล้วขอให้สเตลช่วยซ่อมและโปรแกรมมันใหม่ ฉันก็ยังไม่ทันได้ทดลองบินมันหรอกนะ แต่ฉันคิดว่ามันคงเป็นการฉลาด ที่จะมีมันไว้เผื่อเราจะต้องการไปที่ไหนอย่างรวดเร็วน่ะนะ
“สวัสดีค่ะกัปตันจอร์แดน”
Guy : “กัปตันจอร์แดน” งั้นเหรอ?
“และขอต้อนรับขึ้นเครื่องค่ะ คุณกาย การ์ดเนอร์ ฉันคือระบบควบคุมของอินเตอร์เซปเตอร์ ชื่อว่าอายาค่ะ ต้องการเครื่องดื่มไหมคะ?
Guy : เอาเป็นเบียร์สดเย็นๆเป็นไง ที่รัก?
“ได้ค่ะคุณการ์ดเนอร์”
แต่ Guy ก็ยังไม่ทันได้ดื่ม…
Hal : ไม่เอาน่า
Guy : ฉันก็ไม่ได้จะดื่มจริงๆซักหน่อย
(เรอะ? ดูสีหน้านายจะเสียดายมากเลยนา)
Hal : เราจะใช้ยานลำนี้เพื่อไปสมทบกับพวกจอห์นกับไคล์
Guy : แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหน?
Hal : ยานลำนี้สามารถตรวจหาแหวนของพวกเขาได้ และบันทึกการใช้ครั้งสุดท้ายของพวกนั้น ก็เป็นเมื่อยี่สิบนาทีก่อนบนโออาร์
Hal กดสวิทซ์เปิดประตูฐานลับ เพื่อเตรียมนำยานขึ้น
Hal : เป็นไปได้ว่าพวกนั้นจะสามารถต่อต้านการควบคุมของพาราแล็กซ์ อย่างน้อยก็ในช่วงแรกๆน่ะนะ เพราะงั้นฉันจึงคาดเดาว่าพวกนั้นคงสามารถถอดแหวนออกเหมือนกับที่พวกเราทำ
Hal : นายคงรู้ว่าคนเขาว่ายังไงกับไอ้การคาดเดาใช่ไหม? ขนาดนายกับฉันยังเพิ่งจะเอาตัวแทบไม่รอดมาเลย แถมบนโออาร์ก็จะต้องมีศัตรูอยู่เป็นพันๆแน่ เราจะบินเข้าไปดุ่ยๆโดยไม่มีแผนจะหนีออกมาไม่ได้นา
ยานเริ่มจุดเครื่องยนต์ มีเสียงดังกระหึ่ม
Hal : นายได้ยินเสียงเครื่องยนต์นั่นไหมล่ะ?
Guy : สายตานายมันออกแววพิลึกๆอยู่นะฮาล
Hal : จริงสินะ นายไม่เคยบินกับฉันนี่ อย่าเรียกว่าพิลึกๆเลยกาย เรียกว่าความตื่นเต้นดีกว่า
เมื่อมาเจอด้านที่ไม่คุ้นเคยของเพื่อนตัวเองเข้าให้ Guy ก็ชักเริ่มใจคอไม่ดี
Guy : นี่เข็มขัดนิรภัยอยู่ไหนเนี่ย?!
Hal : ยี๊-ฮ่า!!!!!!!
Guy : อุ๊บ! ไอ้การเดี๋ยวเอียงทางโน้นทีทางนี้ทีมันทำให้ฉันคลื่นไส้แล้วนะ นายทำอะไรกันเนี่ย?
Hal : ฉันต้องใช้ระบบนำร่องในการล็อคตำแหน่งของแหวนของจอห์นกับไคล์ ดังนั้นแม้มันจะมุ่งตรงไปยังโออาร์ แต่มันไม่สามารถที่จะหาเส้นทางที่ปลอดภัยได้
Hal : ซึ่งนั่นหมายความว่า เราต้องบังคับหลบหลีกไม่ให้พุ่งชนเข้ากับดาวเคราะห์หรือดาวฤกษ์ด้วยตัวเอง
Hal : อีกแค่ไม่กี่นาทีเราก็จะถึง…แล้ว
แล้วทันใดนั้นภาพทิวทัศน์ที่คุ้นตาก็ปรากฎขึ้นตรงหน้า
Hal : โออาร์อยู่ข้างหน้านั่นแล้ว
ทันใดนั้นระบบควบคุมของยานก็แจ้งเตือนขึ้น
“โปรดรัดเข็มขัดนิรภัยของท่านด้วย เรากำลังพบกับการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง”
Guy : ใช่ แถมไอ้แรงสั่นสะเทือนนั่นมันมีชื่อเสียด้วย
เป็น Kilowog นั่นเอง
เมื่อท่าทางยานจะไปต่อไม่ได้แล้ว พวก Hal ก็ต้องรีบลงยานชูชีพ ซึ่งตั้งโปรแกรมให้มุ่งไปยังสถานที่ๆ John กับ Kyle อยู่
แต่ในยานชูชีพนั้นค่อนข้างจะคับแคบสำหรับสองคน…
Hal : ฉันหวังว่าไอ้ที่โดนหลังฉันอยู่นั่นคือหัวเข็มขัดของนายนะ
Guy : อย่าหลงตัวเองไปนักเลยน่า
“ตรวจพบจอห์น สจ๊วต และ ไคล์ เรย์เนอร์แล้ว”
แล้วยานชูชีพก็พุ่งทะลุพื้นถนนลงไปใต้ดิน ก่อนจะหยุดนิ่ง
Guy : ฉันจะไม่ขอบินกับนายอีกแล้ว
Hal : ไม่นึกว่านายจะบ่นมากขนาดนี้นะเนี่ย
แล้วก็มีเสียงพูดดังขึ้น
Kyle : นี่พวกนายทำอะไรกันเนี่ย?
ในที่สุด Green Lantern ชาวโลกทั้ง 4 คนก็มารวมกันจนได้
Kyle : หรือจะพูดอีกอย่าง…พวกนายมาทำอะไรที่นี่?
Guy : ก่อนที่เราจะแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันนะพ่อหนุ่ม…เราไปหาที่หลบที่พวกนั้นหาเราไม่เจอก่อนดีกว่า
John : เรานึกว่าการซ่อนตัวอยู่ใต้ดินจะทำให้เราเอาตัวรอดได้สักพัก แต่เราไม่รู้ว่าโออาร์มันซับซ้อนขนาดนี้ อุโมงค์พวกนี่มันทอดยาวเป็นไมล์ๆในทุกทิศทางเลย
Hal : นายรู้ไหมว่ากานเธทอยู่ที่ไหน?
Kyle : ไม่ แต่จากการที่เขาเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องพวกเรา…เขาอาจตายไปแล้วก็ได้
Guy : กานเธทนั้นอึดกว่าที่ใครๆคิดมากนะ
John : ต่อให้กานเธทก็ไม่มีทางรอดจากการโดนคนเป็นพันรุมกินโต๊ะหรอกนะ
Kyle : แบตเตอรี่หลักอยู่ห่างออกไปเป็นครึ่งดวงดาวนะจอห์น แล้วเราจะไปถึงที่นั่นได้ยังไง นี่ยังไม่พูดถึงว่าเราจะรอดไปถึงที่นั่นได้โดยไม่มีแหวนพลังด้วย?
ทันใดนั้น Hal ก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค๊ท
Hal : อย่างที่ฉันบอกพวกนายว่า แครอลกับพวกผู้นำกลุ่มอื่นๆถูกดูดเข้าไปในหนังสือยักษ์สีดำของโครน่านั่น
Hal : แต่แหวนของพวกเขาอยู่ที่นี่ ที่นี้เราก็ต้องเลือกกันแล้วล่ะ
Guy : เราทุกคนต่างก็รู้ว่าแหวนมันจะเป็นผู้เลือกคนที่ใส่มันนะจอร์แดน
Hal : ฉันก็เคยใช้แหวนพลังสีเหลืองมาแล้วนะกาย…ด้วยเจตนาของตัวเองด้วย
(เป็นเหตุการณ์ในช่วง Sinestro Corps’s War)
John : ฉันนึกว่าที่นายสามารถใช้พลังของแหวนนั่นได้ เป็นเพราะนายมีประสบการณ์กับพาราแล็กซ์มาก่อนเสียอีก
Hal : มันเพราะฉันเคยมีประสบการณ์กับความกลัวต่างหากล่ะจอห์น
Hal : ฉันก็ไม่ได้บอกว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายหรอกนะ ให้ตายสิ เราอาจไม่สามารถทำให้มันทำงานได้เลยด้วยซ้ำ แต่เราก็ต้องลองดู ในการจะทำให้มันส่องแสงขึ้นเราต้องรับรู้ความรู้สึกของเรา…ฉันก็รู้ว่ามัน ไม่ใช่สิ่งที่เราถนัดนัก แต่…
Guy : ลองบอกกับพ่อนักคิดนี่เป็นไง
Kyle : ให้ตาย ขอบใจที่ย้ำนะ กาย
Guy : ใจเย็นน่าไคล์ มันเป็นคำชมน่ะ ส่วนใหญ่น่ะนะ เอาละถ้าเราจะต้องเลือกกันล่ะก็ฉันขอเป็นคนแรกแล้วกัน ฉันไม่อยากจะต้องใส่ชุดแนบเนื้อที่ทำจากคริสตัลน่ะนะ สีชมพูมันไม่เหมาะกับฉันเลย
Guy หยิบแหวนพลังสีแดงของ Atrocitus ขึ้นมา
Guy : ฉันเคยมีประสบการณ์กับพลังของสีแดงมาแล้ว ฉันรู้จักความโกรธแบบเดียวกับที่ฮาลรู้จักความกลัว
Kyle : กาย นายเคยเกือยตาย เมื่อตอนที่เราพยายามจะเอาแหวนสีแดงออกจากนิ้วนายครั้งที่แล้วนะ
(เหตุการณ์ในช่วง Blackest Night)
Guy : เรากำลังจะต้องช่วยองค์กรของเราอยู่นะไคล์ เราค่อยมาห่วงฉันทีหลังเหอะ
Kyle : แต่ว่า…
Hal : เราต้องเสี่ยงดวงกันแล้วล่ะนะ เอาละเลือกสิ่งที่นายต้องแบกรับได้เลย
แล้ว Hal ก็เลือกแหวนพลังสีเหลืองของ Sinestro ขึ้นมา
Kyle : ฉัน…เอาสีฟ้าแล้วกัน ถ้าทุกคนจะไม่ว่าอะไร ฉันมีความหวังอยู่ ฉันรู้น่ะนะว่าฉันมี
Hal : แล้วนายจะเลือกอันไหนล่ะจอห์น?
John : สีส้มแล้วกัน
แต่ Hal ดูจะไม่เห็นด้วย
Hal : ฉันว่านายอย่าเลือกวงนี้ดีกว่านะจอห์น ฉันเคยมีประสบการณ์จากการแค่สัมผัสตะเกียงพลังสีส้ม มันแสดงให้ฉันเห็นว่า แหวนนี่มันจะบิดเบือนความรู้สึกทุกอย่างที่นายมี แล้วถ้าจะว่าไป…ความโลภงั้นหรือ? มันไม่ตรงกับนายเลย
แล้ว Hal ก็ยื่นแหวนพลังสีครามให้กับ John
Hal : เอาวงนี่แล้วกัน
John : ความเห็นอกเห็นใจงั้นรึ?
Hal : นายมีความเห็นอกเห็นใจให้ทุกคนเสมอล่ะจอห์น
แล้วพวกเขาก็สวมแหวนพลังที่ตนเลือก
Guy : ที่นี้เราก็มาลุยกันเล….อ๊าค!!!!
“ความโกรธ”
“ความกลัว”
“ความหวัง”
“ความเห็นอกเห็นใจ”
Hal : เอาล่ะโครน่า…
Hal : ถึงเวลาที่แกต้องระวังพลังของพวกเราแล้ว
การ เอาแหวนพลังที่ไม่คุ้นเคยมาใช้นั้น มันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดกันแน่?! พวกเขาจะสามารถใช้พลังของพวกมันได้หรือไม่? : โปรดติดตามตอนต่อไปใน Green Lantern Corps เล่ม 59
เอ่อ เหมือนดูขบวนการห้าสีแบบเวอชั่นอเมริกาเลยอ่ะครับ
ขอบคุณมากครับ ที่สปอย
ทำไมกายหน้าตาตอนใส่แหวนสีแดงโหดจัง !! -.-
บักจอห์นพอใส่แหวนสีครามแล้วหน้าตาหยั่งกะพวกนักร้องฮิปฮอป มีผ้าโพกหัวเพิ่มมาอีก
Interceptor ชื่อนี้มันคือเรือที่เร็วที่สุดในแคริบเบี้ยน
ที่กัปตันแจ็ค สแปร์โรวขโมยตอนต้นเรื่องของภาคแรกนี่นา (The Curse of the Black Pearl)
อันนี้เร็วที่สุดในจักรวาลน่าเอาไปบินแข่งกับ Millennium Falcon 😀
ว่าแต่…ชุดเฮียจอห์นมันจะฮาไปมั้ย – -“
” ฉันหวังว่าไอที่โดนหลังชั้นอยู่นั่นคือหัวเข็มขัดของนายนะ ”
ประโยคนี้ทำผมเงิบ 😀 555555555
หน้าจอร์น….มากๆอ่ะ 555
ไอเดียสุดยอดเลย~
ปกติสีครามใส่แล้วจะเป็นคนป่า ทำไมเฮียจอห์นใส่แล้วเป็นทหารพรานได้ฟะ !
ปกเท่มากเล่มนี้ ชอบ
สีฟ้ามันเพิ่มพลังให้สีเขียวไม่ใช่เรอะ!!
ถ้าได้มาอีกคนก็จะเป็น lantern ranger และ
ดูหน้าจอห์นสิ
อาเบะสุดๆ
จอห์นกำลังทำสีหน้าเห็นอกเห็นใจอยู่
อยากเห็นจอห์นใส่สีส้ม คงจะได้เป็นกองทัพทหาร
555
ชุด Guy นี่ เห็นแล้วคิดถึง tron
ทำไมสีครามของจอห์น
ผมเห็นเป็นสีม่วง orz
หน้าจอห์น พริ้ม มากกกก
ฮาจริงๆ
กายเป็นเกย์เหรอครับ? ถึงมีมุขหัวเข็มขัดด้วย^^”
เห็นสีครามของจอห์นแล้วสงสัย
ในstar Sapphireไม่มีผู้ชายมั่งเลยเหรอครับ
เห้นpredator ยังเคยสิงผู้ชายเลย^^”
ขอบคุณมากครับ ที่สปอยซะ ตามติดๆ เลยครับ
เฮ้ย แม่เจ้ามากกกกก
ตอนนี้นี่มันสมาคมชายโสดชัดๆ เกย์มากๆ
สุดยอดจริงๆเลย
ดี ครับ มาใหม่ ฝากตัวด้วยครับ กาย จะถอดแหวนได้อีกป่าวอ่ะ ใส่แดงไปซะแล้ว
guy หน้าโหดมาก