The Road to Flashpoint : The Flash #10

The Road to Flashpoint : The Flash 10 : ความไม่เข้าใจกัน

เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Francis Manapul
วางจำหน่าย: 13 เมษายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

เส้นทางสู่วิกฤติแห่งเวลา Flashpoint ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค ซึ่งในครั้งนี้ Barry Allen ต้องรับมือกับทั้งปัญหาเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ที่ประดังกันเข้ามาพร้อมๆกัน

The Flash (Barry Allen) ไล่ตามนักบิดลึกลับที่เข้าโจมตีห้องแลปอาชญากรรมที่เขาทำงานอยู่ แต่เมื่อเขาตามไปจนทัน นักบิดลึกลับกลับเปิดเผยตัวตนของเขาว่าเขาก็เป็น Barry Allen เช่นเดียวกัน

The Flash : นายก็คือฉันงั้นหรือ?

Hot Pursuit : ถ้าพูดกันตามหลักการล่ะก็นะ ใช่แล้ว ฉันก็คือนาย

Hot Pursuit : ฉันชื่อแบรี่ อัลเลน แต่คนส่วนใหญ่รู้จักฉันในชื่อ “ฮอต เพอร์ซุต” ชายผู้รวดเร็วที่สุด

ในขณะที่พูดกันอยู่ Hot Pursuit ก็ทำการเก็บมอเตอร์ไซด์ของเขาให้อยู่ในรูปของกระบองตำรวจ

Hot Pursuit : ฉันต้องขอยอมรับตรงๆว่า การมาพบกับนายนี่…มันรู้สึกแปลกๆกว่าที่ฉันคิดไว้อีก

The Flash : “แปลกๆ” มันยังนับว่าน้อยไปด้วยซ้ำ

Hot Pursuit : แต่ถึงแม้ว่าความเสี่ยงมันจะสูง แต่มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

The Flash : แล้วมอเตอร์ไซด์ของนายนั่น…?

Hot Pursuit : มอเตอร์ไซด์คอสมิคนั่น เป็นสิ่งที่ฉันออกแบบขึ้นโดยได้ความช่วยเหลือจากวอลลี่ หลานชายของฉัน ด้วยการดึงพลังมาจากสปีดฟอร์ซ ทำให้ฉันสามารถขับมันได้ด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง แต่นายไม่ต้องใช้ยานพาหนะในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงใช่ไหมล่ะ? และชุดของนายก็ไม่ใช่ที่มาของพลังของนายด้วยสินะ?

The Flash : ไม่ พลังมันมาจากตัวฉันเอง

ทันใดนั้น Hot Pursuit หันกระบองไปทาง The Flash แล้วทันใดนั้นประกายสายฟ้าของ Speed Force ก็ถูกดึงจากตัว The Flash เข้าไปในกระบอง

The Flash : ทำอะไรน่ะ!

Hot Pursuit : ขอโทษทีนะแฟลช แต่นายก็รู้ว่าเวลาที่เราจะพิสูจน์ทฤษฎีอะไรก็ตาม เราก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันเสียก่อน และตอนนี้ฉันก็รู้ชัดแล้ว นายคือแหล่งพลังงานของสปีดฟอร์ซจริงๆ

Hot Pursuit : โชคดีจริงๆที่ในที่สุดฉันก็หานายพบจนได้

The Flash : นายมาจากที่ไหนกันน่ะ? จากอนาคตหรือ?

Hot Pursuit : เปล่า ฉันมาจากโลกคู่ขนาน 1 ใน 52 โลกที่รวมกันเป็น “มัลติเวิร์ส” ซึ่งอีก 51 โลกในจำนวนนั้นจะคงอยู่ได้ก็ตราบเท่าที่โลกแห่งนี้ยังมีอยู่ โลกของนายนี้คือรากฐานของโลกอื่นๆทั้งหมด

Hot Pursuit : ก็เหมือนกับที่นายเป็นรากฐานของสปีดฟอร์ซนั่นแหละ

The Flash : นายบอกว่านายกำลังอยู่ในระหว่างภารกิจการปกป้องประวัติศาสตร์จาก…

Hot Pursuit : จากการบิดเบือนของห้วงเวลาครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น สิ่งเลวร้ายบางอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของนาย และมันจะส่งผลถึงโลกอื่นๆด้วย

ทันใดนั้นก็มีเงาความเร็วสูงพุ่งผ่านไป พร้อมกับที่กระบองหายไปจากมือของ Hot Pursuit

??? : คุณคงไม่ได้เชื่อที่หมอนี่พูดจริงๆใช่ไหมแฟลช?

ผู้ที่มาก็คือ Kid Flash (Bart Allen) หลานของ Barry ผู้มาจากศตวรรตที่ 31 นั่นเอง

Kid Flash : บอกผมหน่อยสิว่าคุณไม่ได้อ่อนหัดขนาดนั้น

The Flash : แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่?

Kid Flash : คุณไม่มาร่วมในงานปิคนิคของครอบครัว ผมเลยมาดูคุณ แล้วคุณไอริสก็ดูจะเป็นกังวลมากด้วย

The Flash : ฉันบอกไอริสไปแล้วว่าฉันกำลังยุ่งอยู่กับคดีฆาตกรรมอยู่

Kid Flash : แล้วนี่คือผู้ต้องสงสัยของคุณหรือเปล่าเนี่ย? คนที่พยายามทำตัวเป็นคุณเนี่ย?

Hot Pursuit : แล้วนายเป็นใครกันน่ะ?

Kid Flash : อ่า-ห้า! เห็นไหมล่ะ ถ้านายเป็นแบรี่ อัลเลนจริงๆล่ะก็นายก็ต้องร้ว่าฉันเป็นใครสิ! ฉันคือคิดแฟลชยังไงล่ะ!

Hot Pursuit : นายดูเด็กเกินกว่าจะเป็นวอลลี่ เวสต์นะ

Kid Flash : เชอะ! ก็เพราะฉันไม่ใช่วอลลี่ เวสต์ ไงล่ะ นาย “แบรี่”

ตอนนั้นเองกระบองของ Hot Pursuit ก็ส่องแสงขึ้น

Hot Pursuit : นายชื่อ บาโธโลมิว อัลเลน

Hot Pursuit : นายเกิดในศตวรรตที่ 31

Hot Pursuit : นายเป็นนักท่องเวลา

The Flash : บาธเป็นลูกหลานของฉันที่มาจากอนาคต เขามีความเชื่อมโยงกับสปีดฟอร์ซผ่านทางสายเลือดเหมือนกับฉัน เขามายังยุคนี้เพื่อเรียนรู้วิธีที่จะใช้พลังของเขา

Kid Flash : เปล่า ฉันมายังยุคนี่เพราะยุคอนาคตมันไม่น่าอยู่เอาเสียเลยต่างหาก

Hot Pursuit : ถ้านายเป็นคนที่มาจากอนาคต งั้นนายก็มีความเสี่ยงจากผลของความปั่นป่วนของห้วงเวลาที่จะมาถึงมากกว่าใครๆ

Hot Pursuit : เพราะนายเกิดในยุค 1 พันปีนับจากตอนนี้ นายอาจหายไปจากโลกไปเลยหากประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง

The Flash : แล้วประวัติศาสตร์มันเปลี่ยนแปลงได้ยังไง?

Hot Pursuit : โดยปกติแล้ว รถมอเตอร์ไซด์ของฉันจะแจ้งเตือนเมื่ออาชญากรข้ามเวลาปรากฎตัวขึ้น มันสามารถตรวจจับการบิดเบือนของห้วงเวลาในขณะที่มันมาถึง แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนมันตรวจจับสัญญาณหลายๆอันพร้อมกันได้ ซึ่งทำให้ระบบควบคุมของมันเสียหาย ตอนแรกฉันนึกว่ามันเป็นการรุกรานของกองทัพจากอนาคต

แล้ว Hot Pursuit ก็เปลี่ยนกระบองกลับเป็นมอเตอร์ไซด์อีกครั้ง

Hot Pursuit : แต่หลังจากฉันสร้างระบบควบคุมของมันขึ้นมาใหม่ ฉันก็กู้ข้อมูลกลับมาได้มากพอที่จะรู้ว่า ภัยพิบัติที่จะมาถึงนี้นั้นมันมีที่มาจากสปีดฟอร์ซโดยตรง

Hot Pursuit : หรือไม่ก็ใครบางคนที่บงการสปีดฟอร์ซได้

The Flash : แล้วฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง?

Kid Flash : พวกเราจะช่วยอะไรได้บ้าง?

แทนคำตอบ Hot Pursuit กลับขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซด์แล้วเร่งเครื่อง

Hot Pursuit : อย่ามาขวางทางฉันก็พอแล้ว

ซึ่งคำตอบนี้ดูจะไม่เป็นที่ถูกใจ Flash ทั้งสองอย่างแรง…

The Flash : ไม่เคยรู้ว่าตัวฉันเองจะไร้มารยาทแบบนี้

Hot Pursuit : ฉันแค่ทำตามขั้นตอนเท่านั้นแหละแบรี่ ฉันฝึกฝนมาอย่างดี เพื่อรับมือเจ้าพวกอาชญากรที่พยายามจะทำให้ประวัติศาสตร์เป็นไปตามที่มัน ต้องการ มันไม่จำเป็นที่จะดึงนายมายุ่งกับเรื่องนี้ด้วย ที่ฉันบอกนายเรื่องตัวตนของฉันนั้นเป็นการทำตามมารยาทเท่านั้น

The Flash : ตามมารยาทหรือ? นายเพิ่งจะพังกระจกห้องแลปของฉันนะ

Hot Pursuit : บางครั้งมันก็ต้องมีการเสียสละบางอย่างกันบ้างนะแฟลช

Hot Pursuit : การเติมเชื้อเพลิงให้รถของฉันมันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย

เมื่อ The Flash ใกล้จะถึงตัว Hot Pursuit ก็กดปุ่มบนรถของเขา แล้วทันใดนั้นประกายสายฟ้าจากตัวของ The Flash ก็ถูกดูดเข้าไปในรถของ Hot Pursuit

Hot Pursuit : อย่าห่วงไปเลยแฟลช ฉันจะตามหาเจ้าวายร้ายที่คิดทำลายประวัติศาสตร์ให้เอง…

Hot Pursuit : …และฉันจะจัดการมันให้สิ้นซากไปเลย

Flash ที่สูญเสียพลังความเร็วสูงไปชั่วขณะก็ล้มกลิ้งไปกับพื้น ขณะที่ Hot Pursuit ก็ควบมอเตอร์ไซด์หายลับไป

Kid Flash : แฟลช?! คุณโอเคไหม?

The Flash : เขา…เขาดึงเอาพลังสปีดฟอร์ซออกไปจากตัวฉัน ด้วยมอเตอร์ไซด์นั่น

Kid Flash : คนเป็นเพื่อนจะไม่ปฏิเสธความช่วยเหลืออย่างหยาบคายแบบนั้นแน่ แล้วยังความเสียหายที่หมอนั่นก่อขึ้นอีก เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

The Flash : ไม่ ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เธอกลับบ้านไปเถอะบาธ

Kid Flash : ให้กลับบ้านงั้นหรือ?

The Flash : ฉันมีประสบการณ์เกี่ยวกับมัลติเวอร์สมามากนะ

Kid Flash : คุณต้องลองตรวจสมองคุณบ้างแล้วล่ะแฟลช ทำไมคุณถึงเชื่อว่าหมอนั่นมาจากโลกคู่ขนานเร็วขนาดนี้ล่ะ…

ตรงนี้เอง The Flash ก็ยกมือที่ถือผมเส้นหนึ่งขึ้นมาให้ Kid Flash ดู

Kid Flash : เอ่อ…นั่นอะไรน่ะ?

The Flash : ตัวอย่างเส้นผมจากตัวของฮอต เพอร์ซุต ฉันเอามาตอนที่เขาถอดหมวกออก

Kid Flash : นี่คุณดึงออกมาเร็วจนหมอนั่นไม่รู้ตัวเลยหรือนี่? เจ๋งเลย

The Flash : ฉันก็สงสัยเหมือนๆกับเธอนั่นแหละ แต่ฉันใจเย็นกว่า ฉันจะเอามันกลับไปที่แลปเพื่อตรวจ DNA เพื่อให้รู้แน่ชัดว่าไอ้เรื่องตัวตนจากโลกคู่ขนานที่ฮอต เพอร์ซุตว่าไว้เป็นความจริงหรือเปล่า

Kid Flash : ผมไปกับคุณด้วยแล้วกัน

The Flash : ไม่ต้องหรอก

Kid Flash : แล้วจะให้ผมช่วยอะไรดีล่ะ?

The Flash : ไม่มีหรอก ฉันจัดการเองได้

Kid Flash : ผมว่าคุณไม่ต้องตรวจ DNA ให้เสียเวลาหรอก เพราะคุณพูดเหมือนฮอต เพอร์ซุตไม่มีผิดเลย

The Flash : มันจะดีกว่าถ้าฉันจัดการเรื่องนี้ตามลำพังนะบาธ

Kid Flash : เดี๋ยวสิ นี่ที่คุณไม่มาร่วมงานปิคนิคน่ะเป็นเพราะผมหรือเปล่าน่ะ?

The Flash : นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฉันไม่ไปหรอกนะบาธ ฉัน…มีงานต้องทำน่ะ

Kid Flash : แต่คุณเอาแต่ทำงานตลอดทุกครั้งที่ผมมาหาคุณ

The Flash : บาธ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอหรอก

Kid Flash : งั้นทำไมล่ะ? ทำไมคุณถึงไม่อยากใช้เวลาอยู่ร่วมกับเรา

คำ พูดของ Bart ทำให้ Barry รู้สึกผิดอย่างแรง เพราะตอนนี้ความไม่มั่นใจในตัวเองของเขากลับมาทำให้คนรอบตัวของเขาต้องเจ็บ ปวด แต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกเล่าความรู้สึกในใจของเขาให้คนอื่นฟัง

แต่ Bart ที่ยังไม่โตพอจะสังเกตุสิ่งที่สะท้อนในแววตาของ Barry ก็ยังแดกดันต่ออีก

Kid Flash : ผมพนันว่าคุณคงหวังไว้ว่าผมไม่ควรจะมาที่นี่งั้นสิ!

The Flash : ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นแน่นอน

Kid Flash : แล้วทำไมคุณถึงทำตัวเหมือนกับว่าคุณคิดอย่างนั้นล่ะ?

The Flash : บาธ…!

ไม่ทันที่ Barry จะได้อธิบายต่อ Bart ก็วิ่งเลี้ยวหายไปแล้ว ทิ้งให้ Barry ยืนโมโหตัวเองอยู่ตามลำพัง

The Flash : บ้าเอ๊ย

(นี่อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน : เพราะ Barry เป็นแหล่งกำเนิดพลังของ Speed Force ซึ่ง Speedster คนอื่นๆดึงเอาไปใช้อีกต่อ ซึ่งทำให้พวกเขาเชื่อมโยงกันผ่านทาง Speed Force และนั่นทำให้หากมีความผิดปกติขึ้นกับ Barry มันก็จะส่งผลกับ Speedster คนอื่นๆไปด้วย อย่างเช่นที่ตอนนี้ Barry กำลังอยู่ในสภาพจิตใจสับสนว้าวุ่น และนั่นก็ส่งผลให้ Bart มีอารมณ์ไม่มั่นคงไปด้วยโดยไม่รู้ตัว : มีการพิสูจน์เรื่องนี้ไปแล้วในช่วง Flash Rebirth ที่ The Reverse-Flash ใช้ Barry เป็นสื่อในการส่งพลังของ Negative Speed Force ไปยัง Speedster ทุกๆคน เพื่อฆ่าพวกเขาผ่านทาง Barry)

ที่ห้องแลปอาชญากรรม

Barry ตรวจ DNA ของเส้นผมที่ดึงมาจาก Hot Pursuit ซึ่งมันก็ยืนยันว่าทั้งคู่มี DNA เดียวกันจริงๆ

ทันใดนั้นก็มีคนเรียก Barry

คนที่มาก็คือ Patty Spivot อดีตเพื่อนร่วมงานของ Barry ที่เขาเรียกตัวมาเพื่อช่วยเขาสืบคดีการตายของ Elongated Kid นั่นเอง

ทั้งคู่ที่ไม่ได้พบกันมานานก็ทักทายกันด้วยความคิดถึง

(ทั้ง คู่เคยร่วมงานกันจนถึงตอนที่ Barry หายเข้าไปใน Speed Force ในช่วง Crisis on Infinite Earth แต่เมื่อ Barry กลับมา เขาบอกคนอื่นๆว่าที่เขาหายไปเป็นเพราะไปเข้าโปรแกรมพิทักษ์พยานมา)

(อ้อ แล้วก็ไม่ต้องคิดมากนะครับ ฝรั่งเขาทักทายกันด้วยการกอดเป็นปกติพอๆกับการจับมือนั่นแหละ โดยถ้าเป็นคนที่ไม่สนิทกันจะใช้การจับมือ แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทจะใช้การกอด ซึ่งก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ)

Barry ต้องการให้ Patty ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจเลือด และพิษวิทยาช่วยในการสืบคดีการตายของ Elongated Kid ว่าการที่เขาตายในสภาพร่างกายแก่ชราเหมือนคนแก่ทั้งที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ นั้น มาจากการที่เขาดื่มสาร Gingold ซึ่งให้พลังในการยืดร่างกายกับเขาหรือไม่ เพราะถ้าใช่ก็เป็นการตายโดยธรรมชาติ แต่ถ้าไม่ใช่ นี่ก็ต้องเป็นการฆาตกรรม

แต่ Patty ที่ตอนนี้ย้ายไปทำงานที่เมืองอื่นแล้วกลับปฎิเสธ เนื่องจากไม่ต้องการทำงานเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอีก

ขณะที่ Barry กำลังพยายามจะขอร้องให้ Patty คิดดูใหม่ ก็มีสายเรียกเข้าจากหัวหน้าของเขาว่ามีคดีแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกแล้ว

เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เก็บตู้คอนเทนเนอร์ พวกเขาก็พบร่างของ Jay Nicolosi คนงานของกองทัพอากาศ อายุ 30 แต่ศพของเขากลับดูแก่เฒ่าเหมือนคนอายุเกินร้อยปี

เมื่อเห็นแล้วว่ามีเหยื่อรายที่สองเกิดขึ้น และคราวนี้ไม่เกี่ยวกับสาร Gingold อย่างแน่นอนด้วย Barry ก็รู้แล้วว่านี่ต้องเป็นการฆาตกรรมแน่นอน และคนร้ายก็น่าจะต้องมีพลังในการ “ขโมยเวลา” ได้

พูดมาถึงตรงนี้ Barry ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ เขารีบถามออกมาว่ามีรอยยางรถยนต์อยู่ในที่เกิดเหตุบ้างไหม

ซึ่งก็มีจริงๆ เป็นรอยล้อเส้นเดียว แสดงให้เห็นว่าเป็นรอยยางมอเตอร์ไซด์ (?!)

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากคอนเทนเนอร์แถวๆนั้น เหล่าตำรวจทุกคนจึงเตรียมพร้อมและเปิดประตูตู้ออก

ในนั้นเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่ง Barry ก็รู้ทันทีว่า หากว่าเขาอยู่ที่นี่ในขณะที่เกิดเหตุขึ้น เขาก็จะเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้!

ปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวที่รุมเร้าก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะคลี่คลายลงง่ายๆ แล้วยังเรื่องของภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงอย่าง Flashpoint อีก ช่างน่าหนักใจจริงๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป

12 thoughts on “The Road to Flashpoint : The Flash #10

  1. seventoon

    เขาเปิดประเดิมเรื่องแนว มัลติเวริส์มั่งหรือยังครับ ตั้งแต่ไฟนอล ไครซิส เผอิญชอบเรื่องแนวนี้มากมากเลย
    แต่ เรื่องการข้ามมิตินี่ ยกให้ แฟลชเลยนะครับ ที่แฟลชเป็นฮีโร่ คนแรกที่มาเจอกับเจย์การ์ริค แฟลชโลกสอง
    ตั้งแต่นั้นมา ก็มีมัลติเวิส มาเรื่อยเรื่อย
    ขอบคุณมากครับ ที่สปอย
    ว่าแต่ หลังยุคใหม่นี่ นอกจาก Earth-ONeแล้ว มีEarthอื่นอีกหรอครับเนี่ย

  2. WallyBoy

    ซวยละ แบรี่ เด็กที่เห็นก็คงต้องบอกว่าเป็นนายทำนั้นแหละ……

  3. Boatmaster

    อะไรกัน ตกลงเรื่องที่เค้าบอกกันๆมา คือเรื่องที่เกิดโลกอื่นใช่ไหมเนี่ย?

    เดี๋ยวจะงงกันอีกหรือเปล่านะ

    ปล. คู่นี้เค้างอนกัน น่ารักจริงๆ

  4. mysterious

    @นักสืบจิ๋ว:

    เด็กแว๊นอาจตามมาจับผู้ร้ายก็ได้

  5. GhostRider

    ผมรอ FLASH มานานแล้วนะเนี่ย
    บาร์ธต้องมีบทบาสำคัญใน Multiverse นี้ชัวร์เลย

  6. Gothic

    ทั้ง multiverse ทั้งเรื่องเวลา

    Event นี่ท่าจะมึนตึ๊บน่าดู

  7. Fisttofight

    เด็กที่นั่งอยู่ในตู้นี้ใครหรอครับ ? Barry วัยเด็กหรอ ?

  8. Chakariya

    WallyBoy:
    April 17, 2011 at 12:11 am

    ซวยละ แบรี่ เด็กที่เห็นก็คงต้องบอกว่าเป็นนายทำนั้นแหละ……

    ——–

    เห็นด้วยอย่างแรง

  9. hometown03

    ทำไมปกมีWally West แต่เนื้อเรื่องมีนิดพูดขึ้นนิดเดียวเอง

  10. NetNN Post author

    ตอบคุณ hometown03

    หน้าปก Comic มักเชื่อถือไม่ได้ครับ บ่อยครั้งที่บนหน้าปกนี่คนละเรื่องกับข้างในเลย

  11. DOL

    งานเข้าล่ะ Barry เอ๊ย เจ้าเด็กนี่ หาเหาใส่หัวแกแน่นอน

    ว่าแต่ Reverse Flash มันหายไปเลยแฮะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *