Brightest Day Vol.23 : อวตารแห่งความมืดปรากฎกาย และเผยโฉมผู้กอบกู้โลก!!
เรื่อง : GEOFF JOHNS, PETER J. TOMASI
ภาพ : IVAN REIS, JOE PRADO
วางจำหน่าย: 6 เมษายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ฺBrightest Day ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเต็มทีแล้่ว และในเล่มนี้ “อวตารแห่งความมืด” ได้เข้าจู่โจมป่าแห่งแสง และแสงสีขาวก็จะเปิดเผยผู้ที่จะมาเป็น “ผู้กอบกู้โลก” รวมถึงชะตากรรมของพวก Aquaman ที่โดนดึงพลังชีวิตไปรวมกับโลกด้วย
ก่อนหน้านี่ ที่ Central City ที่ซ่อนลับของ The Rogue
Captain Cold (Len Snart) ผู้นำของกลุ่ม the Rogue กำลังสอบปากคำ Captain Boomerang (Digger Harkness) ในเรื่องที่เขาไปปล่อยวายร้ายความเร็วสูง The Reverse-Flash (Prof.Eobard Thawn) ผู้เป็นศัตรูกับ The Rogues มายาวนาน
Captain Cold : แกต้องการอะไรจากชีวิตของแกกันแน่หา ดิกเกอร์?
Captain Cold : หรือแกไม่อยากมีชีวิตอยู่กันแน่?
Captain Cold : เพราะงั้นแกถึงได้ไปปล่อยเจ้ารีเวอร์ส-แฟลชออกมาจากเรือนจำไอรอนไฮด์งั้น เหรอเจ้างี่เง่า? แกก็รู้ว่าเจ้านั่นมันอันตรายขนาดไหน
Captain Boomerang : ฉันไปหาธอว์น ก็เพราะเจ้านั่นคือวายร้ายอีกคนเดียวนอกจากฉัน ที่คืนชีพเพราะแสงสีขาวใช่ไหมล่ะ? แถมเจ้านั่นมันก็มาจากอนาคตด้วยนะโคลด์
Captain Boomerang : ฉันพยายามจะหาคำตอบว่าทำไมไอ้ตัวฉันคนนี้ถึงถูกเลือกให้ฟื้นขึ้นมา เพราะถึงแม้รีเวอร์ส-แฟลชจะเป็นไอ้โรคจิตที่เน่าไปถึงข้างใน แต่มันก็เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ในขณะที่ฉันมันแค่อาชญากรธรรมดาๆเท่านั้น
Captain Cold : ผิดแล้วล่ะ แกมันเป็นสมาชิกของเดอะโร๊คต่างหากล่ะบูมเมอร์แรง แกมันควรที่จะฉลาดกว่านี้ เราไม่ค้นหาคำตอบว่าทำไมเรื่องต่างๆมันถึงเกิดขึ้น เพราะเรารู้ว่ามันไม่มีแผนการอะไรวางไว้ใหกับเราหรอก เราจะเอาทุกอย่างที่เราจะหาได้จากชีวิตของเรา เพราะเรารู้ว่าชีวิตมันจะไม่มอบอะไรกลับคืนมาให้เราหรอก
Captain Boomerang : แต่ครั้งนี้ชีวิตมันมอบอะไรกลับคืนมาจริงๆนะโคลด์ และเจ้าแสงสีขาวมันก็บอกฉันว่า…
ตัดมาที่ปัจจุบัน เมฆดำทมึนแผ่ไปทั่วพื้นผิวของโลก
เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงขึ้นทั่วโลก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าฮีโร่ก็สามารถปกป้องชีวิตผู้คนไว้ได้เป็นจำนวน มาก แต่สถานการณ์ก็ยังคับขันอยู่ดี
ที่ป่าใน Star City
Firestorm (Ronald Reymond & Jason Rusch) ที่เพิ่งชิงเอาตะเกียงพลังสีขาวกลับมาจาก Anti-Matter Universe ได้สำเร็จ กำลังเผชิญหน้าอยู่กับ Deadman (Boston Brand) ในสภาพ White Lantern
Ronald : นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย?
Deadman : ฉันกำลังพยายามจะปกป้องนายนะไฟร์สตอร์ม ส่งตะเกียงนั่นมาซะ
Ronald : เราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย?
“เจ้ากำลังอยู่ในสถานที่ปลอดภัยเพียงแห่งเดียวบนโลก”
“สถานที่เดียวที่ท้องฟ้ายังปลอดโปร่ง”
“ป่าแห่งสตาร์ซิตี้”
“ถึงแม้มันจะถูกเรียกด้วยชื่ออื่นๆมากมายตลอดเวลาที่ผ่านมา…”
“…มันคือสถานที่ซึ่งผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นจึงจะผ่านเข้ามาได้
ที่ ภายนอกป่า ต้นไม้สีดำจำนวนมหาศาลงอกขึ้นจากพื้นดินและเข้าจู่โจมผู้คน แต่เมื่อพวกเขาพยายามจะเข้ามาหลบภัยในป่า กลับมีม่านพลังบางอย่างขวางพวกเขาไม่ให้เข้าไปได้
รวมถึงผู้ที่อยู่ภายในป่าอย่าง Green Arrow (Oliver Queen) ก็ไม่สามารถออกไปช่วยเหลือผู้คนได้เช่นกัน
Oliver : บ้าเอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่นน่ะ?! ให้พวกเขาเข้ามาเซ่!!
แต่คำตอบที่เขาได้รับคือ…
“ไม่”
Ronald : ไม่เหรอ?
Deadman : ไม่อะไรกันล่ะ?
“ข้าพูดกับคนอื่นอยู่น่ะ”
Jason : รอนนี่ ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าการที่เอาแหวนกับตะเกียงพลังมาอยู่รวมกันจะเป็นควมคิดที่ ดีนะ เพราะก่อนหน้านี้ตะเกียงนั่นมันสั่งให้เราไปช่วยมัน เสร็จแล้วมันกลับส่งเรากลับมาที่นี่ซะงั้น?
Ronald : นายพูดถูก…ทำไมมันถึงไม่ส่งตัวมันกลับมาที่นี่ด้วยตัวเองล่ะ?
Jason : ฉันว่ามัน ‘จงใจ’ ให้เราไปที่นั่น
“ข้าต้องการข้อมูล ซึ่งมีแต่แอนติ-มอนิเตอร์เท่านั้นที่จะมอบให้ข้าได้”
“และที่สำคัญที่สุดคือข้าต้องการให้เจ้าเห็นการตายของศาสตราจารย์สเตนด้วยตาของเจ้าเอง”
Ronald : แกอยากให้ฉันไปอยู่ที่นั่นเพื่อดูเขาตายงั้นเหรอ?! ถ้าแกรู้ว่าเขาจะตายแล้วทำไมแกถึงไม่ช่วยเขาล่ะ?
“นั่นจะทำให้การที่เจ้าจะยอมรับการเป็นไฟร์สตอร์มอีกครั้งต้องช้าลงไปอีก”
“และเราก็ไม่มีเวลาจะให้เสียอีกแล้ว”
“อีกไม่ช้าอวตารแห่งความมืดจะปรากฎตัวขึ้น”
“และมันก็จะมาที่นี่”
Deadman : ฉันขอโทษนะรอนนี่ นายต้องเข้าใจนะว่าเจ้าแหวนนี่มันหลอกใช้เราทุกคนเลย
Ronald : ทำไม?
“เพื่อให้พลังชีวิตของเจ้าสามารถนำมาใช้ปกป้องโลกได้ยังไงล่ะ”
ที่อีกด้านหนึ่ง ขณะที่ Hawk(Hank Hall) และ Dove (Dawn Granger) กำลังปกป้องผู้คนร่วมกับฮีโร่คนอื่นๆ
จู่ๆแสงสีขาวก็วาบขึ้น และพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังเบื้องหน้าต้นไม้แห่งแสง
ขณะเดียวกันนั้น Captain Boomerang ก็กำลังวิ่งไปตามถนนใน Star City
Captain Boomerang : ที่สตาร์ซิตี้นี่ก็พอๆกับที่เซ็นทรัลซิตี้เลยล่ะโคลด์
Captain Boomerang : ท้องฟ้าเป็นสีดำสนิท แล้วก็เกิดภัยพิบัติขึ้นเหมือนๆกันเลย
Captain Cold : บูมเมอร์แรง แกแน่ใจนะว่าแกจะ…
Captain Boomerang : เสียงนั้นมันบอกให้ฉันมาที่นี่ มันบอกว่าฉันสามารถเข้าไปในป่าได้ในขณะที่คนอื่นทำไม่ได้
Captain Cold : ขอบอกตามตรงนะ ถ้าแกอยากจะรอดล่ะก็ แกควรจะอยู่รวมกลุ่มกับพวกเรา แกรอดอยู่ข้างนอกนั่นตามลำพังได้ไม่นานหรอก
Captain Boomerang : นี่เป็นเวลาที่ฉันจะต้องลองดูแล้วว่ะพวก ฉันเบื่อที่จะหนีจากชีวิตตัวเองเต็มทีแล้ว ก็อย่างที่ฉันบอกเจ้าแฟลชนั่นแหละ ถึงเวลาที่จะดูกันว่าจะอยู่หรือจะตายกันแล้ว
เมื่อ Captain Boomerang กระโดดผ่านม่านพลังเข้าไปในป่า ภาพนิมิตรก็ปรากฎขึ้นในหัวเขา
“ดิคเกอร์ ฮาร์คเนส แห่งโลก”
“จงขว้างบูมเมอร์แรงใส่เธอ”
Hawk : นี่แกคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่เดดแมน?
Deadman : ฉันก็ไม่รู้
Dove : คุณเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะบอสตัน?
Deadman : ฉันพยายามเต็มที่แล้วที่จะหยุดเจ้าแหวนบ้านี่น่ะดอว์น ฉัน…
Deadman : …ฉันคิดว่าฉันฆ่าฮอว์คแมน, ฮอว์คเกิร์ล กับอควอแมน แล้วฉันก็ทำอะไรบางอย่างกับมาเชี่ยนแมนฮันเตอร์ด้วย
ทันใดนั้นเอง ที่ด้านนอกของป่า รากไม้สีดำกลุ่มหนึ่งงอกขึ้นมา แล้วมันก็สานตัวเข้าด้วยกัน ก่อรูปขึ้น และมุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง
“มันมาแล้ว”
Ronald : อะไร? ใครกันล่ะที่มาน่ะ?
“อวตารแห่งความมืด”
ที่อยู่เบื้องหน้า Captain Boomerang คือรากไม้สีดำที่ก่อรูปเป็นมนุษย์ยักษ์ ที่หน้าอกของมันมีสัญลักษณ์แห่งความตายสลักอยู่
“สีเขียวได้กลายสภาพเป็นสีดำไปเสียแล้ว”
“อวตารแห่งความมืด” โจมตีม่านพลังของป่าแห่งแสงและค่อยๆฝ่าเข้ามา
Ronald : ไม่ว่าเจ้านั่นจะเป็นอะไรก็ตาม แต่มันกำลังทำร้ายผู้คนอยู่! เราจะต้อง…
“เมื่อเจ้าเข้ามาในป่านี้แล้วเจ้าจะออกไปไม่ได้”
Dove : บอสตัน ถามแหวนสิ! ถามว่าเจ้านั่นมันต้องการอะไรกันแน่?!
“มันต้องการความตาย”
“ที่ซึ่งมันเคยได้รับความทรงจำของคนผู้หนึ่ง…”
“…แต่ตอนนี้มันกลับมีความทรงจำอื่นอยู่ภายใน”
ทางด้าน Captain Boomerang ก็พบว่าตอนนี้มือทั้งสองข้างของเขากลายเป็นสีดำ
Captain Boomerang : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับมือของฉันกันเนี่ย?
“บูมเมอร์แรงของเจ้า”
“จงใช้มันกับเธอซะ”
แล้วมันก็พูดกับ Firestorm
“ถึงเวลาแล้วโรนัลด์ เรย์มอนด์”
Ronald : ถึงเวลาอะไรกันล่ะ…?!
แล้วมันก็ยิงพลังใส่ Firestorm ทำให้ไฟลุกท่วมร่างของเขา
Jason : รอนนี่! แกกำลังฆ่าเขานะ ไอ้สารเลว
“ไม่ต้องห่วงไปหรอกเจสัน รัช”
“บางครั้งความตายก็ทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น”
“หรือไม่งั้นก็ตายไปเลย”
ทันใดนั้นก็มีลมพัดขึ้นในป่า
Captain Boomerang : ลมนั่น…
Captain Boomerang : มันดูคุ้นๆตาอยู่นะ…
Deadman : พระเจ้า…นี่ฉันทำอะไรลงไป…?
“อากาศ”
“ไฟ”
“น้ำ”
“ดิน”
“เช่นเดียวกับเหล่ามวลพฤกษา ธาตุเหล่านี้ต้องการผู้ชี้นำ”
“และบัดนี้พวกมันก็ได้รับผู้ที่จะชี้นำพวกมันแล้ว”
เหล่าผู้ที่ถูกรวมเข้ากับพลังชีวิตของโลก ถูกเรียกมาปรากฎขึ้นอีกครั้งในฐานะของผู้ชี้นำพลังงานของธาตุทั้งสี่ เพื่อปกป้องโลก!!
Dark Avatar : ต…ต้นไม้ ต้นไม้…จะต้องเน่าเปื่อย
Ronald : ผม…ผมรู้สึกถึงไฟทั้งหมดบนโลก ตั้งแต่เปลวเทียนไขจนถึงภูเขาไฟทุกลูก พวกมันล้วนแต่เชื่อมโยงกัน
J’onn : เช่นเดียวกับผืนดินที่สร้างโลกเป็นโลกนี้ขึ้นมา
Hawkgirl : และอากาศที่เราใช้หายใจ
Aquaman : เรารู้ว่าทำไมเราจึงมาอยู่ที่นี่
Dark Avatar : โลกนี้…ต้องเน่าเปื่อยผุพัง
แล้วโดยไม่ต้องมีใครบอก เหล่าพลังงานแห่งธาตุทั้งสี่ ก็พุ่งออกไปพร้อมๆกัน
แล้วแสงสีขาวก็บอกกับพวก Deadman, Hawk และ Dove
“พวกเจ้าทั้งสามจะต้องอยู่ปกป้องต้นไม้ต้นนี้ มันคือรากฐาน”
Dove : รากฐานของอะไรล่ะ?
“จิตศูนย์กลางที่ควบคุมมวลพฤกษาทั้งกลาย”
“ตอนนี้มันสูญเสียผู้ที่ปกป้องมันไปเสียแล้ว”
แล้วทันใดนั้นสัญลักษณ์บนต้นไม้ก็ส่องประกายเจิดจ้า
“มันได้ถูกทำให้แปดเปื้อนไป”
“แต่ป่าแห่งนี้มีหนทางรอดพ้นของโลกอยู่ภายใน”
ที่โคนต้นไม่ มีบางอย่างผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
“มันเก็บรักษาร่างของคนผู้นี้อยู่”
Hawk : แล้วนี่มันใครกันเนี่ย?
“นี่คือผู้พิทักษ์คนใหม่ของโลกนี้”
“ชื่อของเขาคืออเล็กซ์ ฮอลแลนด์”
ร่างที่เน่าเปื่อยผุพังที่ผุดขึ้นมาจากโคนของต้นไม้แห่งแสง คือชายผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรวมวิญญาณของเขาเข้ากับจิตของธาตุไม้ จนเกิดขึ้นมาเป็นผู้พิทักษ์แห่งพฤกษาทั้งมวล ในนามของ “Swamp Thing”!!
โปรดติดตามตอนต่อไป : ในตอนจบของ Brightest Day!!
อันนี้แถม
นี่คือรูปของ Swamp Thing ร่างที่เกิดจากพลังงานแห่งธาตุไม้ที่รวมเอาวิญญาณของชายที่ชื่อ Alec Holland เข้าไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าหน้าตาของเขานั้นเหมือนกับของ “อวตารแห่งความมืด” ที่ปรากฎในเล่มนี้เลย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า “อวตารแห่งความมืด” ก็คือพลังงานแห่งธาตุไม้ ที่ถูกพลังงานแ่ห่งความมืดแทรกซึมเข้าไปแทนที่จิตของ Alec Holland ทำให้มันแปดเปื้อนและต้องการทำลายล้างทุกชีวิต ดังนั้นแสงสีขาวจึงเลือก Alec Holland ให้คืนชีพขึ้นมาเป็นผู้กอบกู้โลก เพื่อต่อกรกับ “อวตารแห่งความมืด”
ปกติ ฉายา สวอมป์ติง ก็คือ Avartar of Green ตอนนี้สุดยอดเลย
ติดตามานานแล้วนะเนี่ย อยู่มาเกือบ40ปี จะได้มีบทบาทสำคัญแน่ แน่
ขอบคุณครับที่สปอย
เจ๋งอะ ไปโยงเอาตัวละครเก่าๆมาด้วย
มันกลับมาได้ยังไง!!
โปรเจ็คปลุกตัวละครมาโปรโมตจริงๆแฮะ – –
กลับมาแ้ล้วววววววววววววว Swamp Thing
ไม่เคยอ่าน แต่เคยได้ยินชื่อ เหมือนจะขายไม่ออก เลยโดนจบไป
เล่นเอาเหวอไปเลย
ไหนจะ Fantastic 4(หรือ 5 คน) ที่กลับมาอีก เจ๋งมากๆ
ตกลงกลายเป็นพลังงานให้โลกไปแ้ล้ว แล้วจะยังไงต่อนะ หรือจะกลายเป็นเทพพลังงานไปเรื่อยๆ ไม่ีมีร่างจริงเหมือนเดิม?
“บางครั้งความตายก็ทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น”
“หรือไม่งั้นก็ตายไปเลย”
อันนี้ใครไม่ฮา ผมฮา
เอ๊ะ มาคิดอีกที หรือจะเป็นมุขการเคลียร์ตัวละครที่ถูกลืม หรือขายไม่ค่อยออกเท่าไหร่
เหมือนที่เคยเคลียร์ Batman Zur en Arrh กับ Batmite ใน Batman R.I.P.
นี่มันขุดเอาตัวเก่ามาขายของจริงๆ!!
อ่านตอนนี้แล้วนึกถึง catain planet ยังไงไม่รู้ – -“
^
^
ขาด หัวใจ ก็ได้captain planetแล้วซินะ
ผมว่าแหวนขาวนี่มันตัวร้ายกว่าแหวนดำอีก = =”
Swamp thing เคยถูกสร้างเป็นหนังด้วยครับ กำกับโดย Wes Craven แห่งนิ้วเขมือบ
Jason โดนสอยไปพร้อมกับ Ronald ซะงั้น 555555
เล่มหน้าจบแล้วเรอะนี่ โอ้วววว
สรุป วันสว่างโพดๆ นี่ ตีมมันก็คือ การรณรงค์รักษ์โลกสินะ อื้มๆๆ
ปล เย้ Swamp Thing กลับมาแย้วววว
เพื่อเป็นการต้นรับการกลับมาเดียวรออ่านประวัติ Swamp Thing ได้เลยครับสองสามวันจะเอามาลงให้อ่าน