Brightest Day : Firestorm 03 : ความสูญเสียที่ไม่คาดคิด

เรื่อง : GEOFF JOHNS, PETER J. TOMASI
ภาพ : IVAN REIS, PAT GLEASON ARDIAN SYAF, SCOTT CLARK, JOE PRADO
วางจำหน่าย: 16 มีนาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Firestorm ตามล่า Deathstorm ไปยัง Anti-Matter Universe และเข้าเผชิญหน้ากับผู้ที่ควบคุมมันอยู่เบื้องหลัง และต้องพบว่า มันไม่ใช่ใึครอื่นเลย…

สปอยนี้รวบรวมจาก Brightest Day เล่มหลักเล่ม 22

ณ.ดาวเคราะห์ Qward ใน Antimatter Universe

Firestorm (Ronald Reymond & Jason Rusch) ที่โดนวาร์ปมาที่นี่โดย The Entity ร่างอวตารแห่งแสงสีขาวกำลังตามหาบางอย่างอยู่

หลัง หาอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็จับสัมผัสพลังของแสงสีขาวได้ และที่นั่นย่อมต้องมี Deathstorm ที่ลักพาตัว ศาสตราจารย์ Martin Stein และ Alvin Rusch พ่อของ Jason มาอยู่แน่ รวมถึงผู้ที่ควบคุมพวกมันอยู่เบื้องหลังด้วย…

และผู้ที่ควบคุมเหล่า Black Lantern อยู่ก็ไม่ใช่ใครอื่น มันคือ The Anti-Monitor นั่นเอง

และตอนนี้มันได้บรรจุตะเกียงสีขาวลงในอุปกรณ์บางอย่าง…

Anti-Monitor : ตะเกียงพลังสีขาวเอ๋ย…พลังของเจ้าเป็นของข้าแล้ว

Alvin : ไอ้เจ้าตึกระฟ้าพูดได้นั่นมันใครกันน่ะสเตน?

Stein : นั่นก็คือแอนติ-มอนิเตอร์น่ะคุณรัช มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยล่ะ

Alvin : ทำไมรึ?

Deathstorm : พวกแกสองคนนี่อยู่เงียบๆกันไม่เป็นเลยสินะ?

Stein : แอนติ-มอนิเตอร์ นั้นคือผู้กลืนกินจักรวาล และมันก็สังหารชีวิตไปมากมายเกินกว่าจะนึกภาพออกเลยทีเดียว

Deathstorm : ข้านึกภาพออกนะ เยอะแยะเลยไงล่ะ

ขณะนั้นเอง Anti-Monitor ก็เริ่มทำอะไรบางอย่างขึ้น

Anti-Monitor : เริ่มใส่พลังชีวิตเข้าในตะเกียงสีขาว

แล้วทันใดนั้น ก็ปรากฎบางอย่างขึ้นเหนือตะเกียงสีขาว กาแล็คซี่?

Stein : คุณพระช่วย

Deathstorm : ผิดว่ะ จักรวาลต่างหาก

Alvin : มันทำอะไรงั้นรึ?

Stein : เมื่อมีตะเกียงพลังสีขาวอยู่ในมือ มันก็สามารถสร้างชีวิตขึ้นมาได้ ชีวิตที่มันสามารถกลืนกินเพื่อกลายมาเป็นพลังให้กับมัน…จะไม่มีใครหยุดมัน ได้อีก

แล้วสองหนุ่มก็มาถึงจนได้

Ronald : ฉันเห็นพวกมันแล้ว ทั้งเดธสตอร์มแล้วก็แอนติ-มอนิเตอร์ด้วย

Jason : แล้วเจ้าแอนติ-มอนิเตอร์นี่มันร้ายกาจขนาดไหนกันหรือ?

Ronald : สเตนกับฉันแทบจะเอาตัวไม่รอดตอนที่เจอกับมัน ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่กับซุปเปอร์แมน, กัปตันอะตอม แล้วก็ฮีโร่อื่นๆอีกสามสิบคน แล้วตอนนั้นฉันก็ยังเป็นไฟร์สตอร์มที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันสามารถเป็นได้ด้วย

Jason : รอนนี่…

Ronald : นั่นไม่ใช่เพราะนายหรอกเจสัน มันเป็นเพราะฉันต่างหาก ฉันกำลังถ่วงตัวฉันเองอยู่

Jason : งั้นนายต้องหยุดทำแบบนั้นได้แล้วล่ะ

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงพูดดังออกมาจากตะเกียงสีขาว

“พวกเขามาถึงแล้ว”

Anti-Monitor : เจ้าพูดอะไร…?

“แต่ข้ายังไม่พร้อมที่จะไปจากที่นี่”

“ข้ายังต้องการข้อมูลของจักรวาลปฏิสารแห่งนี้”

ทันใดนั้นตะเกียงสีขาวก็ส่องแสงสว่างจ้าจนทั้ง Anti-Monitor และเหล่า Black Lantern ต้องหลบ

Alvin : มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

Stein : ดูเหมือนว่าตะเกียงพลังสีขาวจะตอบโต้มันอยู่

Ronald : นายเห็นนั่นไหม? ตะเกียงสีขาวเพิ่งจะโจมตีมันไปน่ะ!

Jason : ถ้างั้นนี่ก็เป็นโอกาสของเราแล้ว นายอยากจะเป็นไฟร์สตอร์มที่ดีที่สุดอย่างที่นายเคยเป็นอีกครั้งใช่ไหมล่ะรอน นี่? ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำตอนไหนแล้ว

Ronald : ให้มันได้อย่างนี้สิ

Ronald : งั้นก็เอาเลย!!

Firestorm ยิงพลังใส่ Anti-Monitor แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายมันได้เลย อีกทั้งพวก Black Lanterns ก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย

แต่ทันใดนั้น Jason ก็นึกแผนอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ และให้ Ronald เปลี่ยนหมวกของ Anti-Monitor ให้เป็น “ไฮโดรเจน”

แล้วจากนั้นสร้างไม้ขีดยักษ์แล้วจุดไฟ

ไฮโดรเจนเป็นก๊าซติดไฟได้ เมื่อโดนไฟมันก็ระเบิดตูมใหญ่

ขณะที่พวก Black Lantern กำลังหยุดนิ่งเพราะแรงระเบิด Firestorm ก็พุ่งไปคว้าตะเกียงพลังสีขาวมาได้

แต่ระเบิดแค่นั้นหรือจะทำอะไร Anti-Monitor ได้…

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทั้ง Ronald และ Jason ก็หลุดจากการรวมร่างกัน

Deathstorm : ไม่ต้องเสียใจไปนักหรอกพวก พวกแกเอาตัวรอดจากแอนติ-มอนิเตอร์ได้นานถึงสี่สิบวินาทีเชียวนะ นับเป็นสถิติได้เลย

Deathstorm : รอนนี่เอ๋ย ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนแกให้กลายเป็นเกลือไปซะ เรามารำลึกอดีตถึงสิ่งที่แกเคยเป็นมาก่อนหน่อยเป็นไง…แกยังจำตอนที่แกตาย ได้ไหมล่ะ? เจ้าชาโดว์ทีฟผ่าร่างนิวเคลียร์ของแกจนเปิดออก ทำให้แกกำลังจะระเบิด แต่แกก็ไม่ได้แตกตื่น

Deathstorm : แต่แกกลับทำการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ แกบินไปให้ห่างจากเพื่อนๆของแกเพื่อปกป้องพวกนั้นจากการระเบิดของแก แล้วดูแกตอนนี้สิ? แกแค่อยากหนีจากความรับผิดชอบ และความจริงที่ว่าแกเป็นพวกเหนือมนุษย์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาล แกแค่อยากคลานไปหลบมุมแล้วซ่อนอยู่อย่างนั้นใช่ไหมล่ะ?

Deathstorm : และวันนี้ แกก็จะตายโดยที่ไม่ได้ช่วยเหลือใครเลย!

Deathstorm : คืองี้ว่ะ : แกฟื้นคืนชีพกลับมาก็จริง รอนนี่ แต่ไฟร์สตอร์มไม่ได้ฟื้นกลับมาด้วย เพราะแกไม่เคยทำได้ดีสักแค่ไหนเมื่อไม่มีเจ้านี่ใช่ไหมล่ะ?

แล้วทันใดนั้น ศาสตราจารย์ Stein ก็ปรากฎขึ้นข้างๆ Ronald

Ronald : ศาสตราจารย์!

แต่ก่อนที่จะทันทำอะไรต่อ Anti-Monitor ก็พูดขึ้นบ้าง

Anti-Monitor : ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการที่จะสูบกินพลังงานอารมณ์ความรู้สึกของพวกมันนะ เหล่าแบล็คแลนเทิร์น แต่ก่อนอื่นพวกมันต้องบอกมาก่อนว่าเจ้าตะเกียงพลังสีขาวมันเอาอะไรไปจากข้า

Anti-Monitor : พวกแกกำลังร่วมกับเจ้าตะเกียงขาวต่อต้านข้าอยู่

Anti-Monitor : เป้าหมายของแกคืออะไร?

Deathstorm : ให้ตายสิ เจ้านายข้านี่ช่างน่าเบื่อจริงๆ

Deathstorm : แต่ข้าหิวแล้ว…ถ้างั้นเอาความโกรธของแกเป็นไงอัลวิน? แกมีมันอยู่เต็มหัวใจเลยใช่ไหมล่ะ แกเกลียดชีวิตเพราะแกเสียแขนของแกไป รวมทั้งความภูมิใจในตัวเองของแกด้วยใช่ไหมล่ะ? และแกก็เอามันมาระบายออกกับลูกชายของแก

Deathstorm : ทีนี้ให้ข้าจัดการให้แล้วกัน และเพื่อให้ความโกรธสีแดงฉานของแกพุ่งปรี๊ดไปเลย เฮ้ย เจสัน! ฝากสวัสดีแฟนแกที่โลกโน้นด้วยนะ!

Alvin : ไม่!

ขณะที่ Deathstorm กำลังจะฆ่า Jason นั้นเอง Ronald ก็เข้ามาขวางหน้ามันไว้

แต่ในห้วงวินาทีเป็นตายนั้นเอง ศาสตราจารย์ Stein ก็เอาตัวเข้ามารับการโจมตีแทนทั้งสองคนเอาไว้

ร่างของ ศาสตราจารย์กำลังกลายเป็นเกลือไปเรื่อยๆ แม้พวกเขาจะรวมร่างกันเป็น Firestorm ก็ไม่สามารถหยุดการแปรสภาพนี้ได้

(Firestorm ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของสิ่งที่มีชีวิตได้)

แล้ว Ronald ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เขาให้ศาสตราจารย์ถือตะเกียงพลังสีขาวไว้

แต่ความหวังสุดท้ายมันกลับไร้ผล…ไม่ว่าจะทำอย่างไรตะเกียงสีขาวก็ไม่ตอบสนองอะไรเลย

ศาสตราจารย์ Stein ที่รู้ชะตากรรมของตัวเองแล้วก็สงบจิตใจ และกล่าวออกมาด้วยท่าทีสงบว่า

Stein : รอนนี่ ฟังฉันนะ…

Stein : ฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เธอเป็นคนที่ดีขึ้น…เธอต่างหากที่ทำให้ฉันเป็นคนที่ดี ขึ้น เธอช่วยดึงฉันออกมาจากการจมอยู่แต่ในหัวของฉันเอง เธอได้มอบสิ่งที่ฉันห่วงใยนอกเหนือจากความคิดของฉันเอง…การเป็นผู้ดูแล ไฟร์สตอร์มเมธริกซ์มันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม…หากเป็นคนอื่นจะต้องเอาพลังไปใช้ในทางที่ผิด…หรือ ไม่ก็ละทิ้งมันไป…เธอต้องอย่ายอมแพ้

Stein : ฉันรู้จักเจสันดีกว่าเธอ เขาจะเป็นคู่หูของเธอได้ดีกว่าฉันมากนัก หากพวกเธอทั้งคู่จะยอมรับกันและกัน และแบ่งปันความรับผิดชอบนี้

และในลมหายใจเฮือกสุดท้าย ศาสตราจารย์ Stein ก็กล่าวบางอย่างออกมา…

Stein : เธอไม่ใช่เพียงแค่เป็นเหมือนลูกชายของฉันเท่านั้นนะโรนัลด์…

Stein : เธอคือลูกของ….

ก่อนจะทันพูดจบประโยค ร่างของศาสตราจารย์ก็สลายเป็นผุยผง

Ronald : ศาสตราจารย์!!!!

Deathstorm : เอาล่ะนายใหญ่ ใจเย็นไว้ก่อนแล้วให้เราสนุกกับเจ้าเด็กพวกนี้เสียหน่อย ไหนๆเจ้าแก่นั่นมันก็ตายไปแล้วนี่…เพราะงั้นมาสนุกกันดีกว่า!

Jason : รอนนี่…เจ้าเดธสตอร์มกับพวกแบล็คแลนเทิร์นยังมีพ่อฉันเป็นตัวประกันอยู่ เราจะเอาไงกันต่อละ?

Ronald : เราทั้งคู่ก็จะไปอัดพวกมันให้เละด้วยกันไง!

แต่ทันใดนั้นเอง เสียงของตะเกียงสีขาวก็ดังขึ้น

“โรนัลด์ เรย์มอนด์ แห่งโลก”

“ภารกิจเสร็จสิ้น”

“ชีวิตคืนกลับ”

พริบตานั้นร่างของ Firestorm ก็เปล่งแสงสีขาวสว่างจ้า และพร้อมกันนั้นเหล่า Black Lantern ก็ถูกสลายร่างไปจนหมดสิ้น

แล้วพวกเขาก็ถูกย้ายมายังป่าใน Star City

Ronald : มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? เราอยู่ที่ไหนกัน?

“ข้าทำลายพวกแบล็คแลนเทิร์นและนำพวกเรากลับมายังโลก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับแอนติ-มอนิเตอร์ต่อไปอีก”

“ด้วยประสบการณ์ที่เจ้ามีตอนนี้ และการที่เจ้ายังไม่สามารถควบคุมพลังของเมธริกซ์ได้อย่างสมบูรณ์ เจ้าคงไม่มีทางรอดแน่หากสู้กับมัน”

Jason : แล้วพ่อของฉันล่ะ?

“พ่อของเจ้าถูกดึงออกมาจากแบล็คแลนเทิร์น และส่งกลับไปยังบ้านของเขาอย่างปลอดภัยแล้ว

Ronald : แล้วศาสตราจารย์ล่ะ?

“เขาไม่ใช่เรื่องที่เราต้องสนใจ เขาตายไปแล้ว”

Ronald : แกเอาฉันกลับมาจากความตายได้ แกก็ต้องสามารถเอาเขากลับมาได้เหมือนกัน! แล้วทำไมแกไม่ทำ?

“เขาไม่จำเป็นต่อเส้นทางที่เจ้าต้องก้าวเดินต่อจากนี้ไป”

Ronald : ไม่จำเป็นงั้นเหรอ? เราเพิ่งเสี่ยงชีวิตเพื่อเอาแกกลับมา! เราทำทุกอย่างตามที่แกบอกแล้วนะ บ้าเอ๊ย

“ถูกแล้วและข้าก็ได้รับสิ่งที่ข้าต้องการจากแอนติ-มอนิเตอร์แล้ว รวมทั้งเจ้าก็ยอมรับเจสัน รัชแล้วอีกด้วย”

Ronald : นี่แกพูดบ้าอะไรของแกอยู่น่ะ?

แล้วตอนนั้นเองก็มีเสียงพูดมาจากด้านหลังของเขา

??? : ไฟร์สตอร์ม

ผู้ที่มาก็คือ Deadman (Boston Brand) ในสภาพ White Lantern

Deadman : ส่งตะเกียงพลังนั่นมาให้ฉันซะ

“จงทำตามที่เขาบอก”

“ชะตากรรมของโลกขึ้นอยู่กับมัน”

ชะตา กรรมของ Firestorm จะเป็นอย่างไร? เขาจะถูกดึงเอาพลังชีวิตไปมอบให้กับโลกเหมือนกับคนอื่นๆ หรือตะเกียงสีขาวจะมีแผนการณ์อะไรอื่นรอเขาอยู่อีกกันแน่?

โปรดติดตามตอนต่อไป เมื่อ Brightest Day ใกล้ถึงจุดไคลแมกซ์เข้าไปทุกที!!