Brightest Day : Green Lantern Corps. Vol.55 : สัญญาเลือดที่ถูกเปิดเผย
เรื่อง : TONY BEDARD
ภาพ : TYLER KIRKHAM, BATT
วางจำหน่าย: 22 ธันวาคม 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics
การต่อสู้ระหว่าง Green Lantern Honor Guards และ Weaponer เริ่มขึ้นแล้ว แต่มันจะเป็นเพียงการเปิดม่านของสิ่งที่กำลังจะมาถึง
ก่อนหน้านี้เล็กน้อย
ที่ถ้ำลับภายใต้ดาวเคราะห์ OA ดาวหลักของ Green Lantern Corps
ภายในหนังสือยักษ์สีดำ The Book of The Black
Lyssa Drax สมาชิกของ Sinestro Corps ที่โดน Scar Guardian ที่ทรยศไปเข้ากับ Black Lantern จับขังในหนังสือตั้งแต่ช่วง Blackest Night พยายามจะหนีออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่สำเร็จ
แต่ในขณะที่ถอดใจไปแล้วนั้นเอง ก็มีใครบางคนปรากฎตัวขึ้น
??? : ข้าต้องการความร่วมมือจากเจ้า ลิซซ่า แดรกซ์
??? : เจ้าคือผู้ที่สามารถมองทะลุไปถึงมุมลึกที่สุดของวิญญาณได้อย่างไม่มีใครเสมอเหมือน เป็นเงามืดในเงามืดทั้งปวง
??? : เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?
Lyssa : ข้าย่อมรู้แน่นอนค่ะ
??? : คัมภีร์เล่มใหม่กำลังจะถูกเขียนขึ้นใหม่ในไม่ช้า คัมภีร์แห่งการสร้างสรรค์ครั้งใหม่ ด้วยฝีมือของข้า
Lyssa : นั่นหมายความว่าท่านต้องการให้ข้าเป็นผู้รักษาคัมภีร์ใหม่เล่มนั้นหรือ?
??? : ใช่แล้ว ทุกสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้จะไม่มีอยู่อีกต่อไป
ที่ ดาวเคราะห์ Qward ใน Antimatter Universe
เหล่า ชาว Qwardian ได้เห็นความวุ่นวายจากที่อยู่ของ Weaponer และตอนนี้ เหล่า Thunderer กองทหารของที่นี่ก็กำลังจะไปตรวจดู
ที่จุดปะทะ Weaponer กำลังปะทะกับกลุ่ม Green Lanterns
โดย John Stewart, Ganthet, Boodikka และ Hannu เข้าจู่โจม Weaponer เพื่อดึงความสนใจของเขา เพื่อให้โอกาส Kyle Reyner เข้าไปช่วย Soranik Natu ที่โดนลักพาตัวมา
“ตอนที่ข้าจับตัวลูกสาวของซิเนสโตรมา ข้าบอกเจ้าแฟนหนุ่มหน้าโง่นั่นชัดเจนแล้วนะว่าให้ “พาซิเนสโตรมาที่ควาร์ด”
“แต่เจ้าโง่นั่นดันพาเพื่อนมันมาแทนซะนี่”
“ต้องใช้กรีนแลนเทิร์น 5 คนมารุมคนๆเดียว บางทีข้าอาจควรจะภูมิใจนะนี่”
“แต่ต่อให้พวกมันมีสักสิบคน ข้าก็ยังชนะได้อยู่ดี”
“เจ้าพวกแลนเทิร์นพวกนี้จะได้เจอกับระบบอาวุธใหม่ล่าสุดของข้า…ผลงานสุดยอดของข้า”
“พวกมันไม่รู้หรอกว่ากำลังจะได้เจออะไร”
“โล่ของข้าจัดอันดับศัตรูตามระดับความอันตราย และเตรียมการตอบโต้ที่เหมาะสมกับแต่ละคน”
ทันใดนั้นแสงสีขาวจากโล่ของ Weaponer ก็เข้าอาบค้อนในมือของเขา
John : นั่นอะไรน่ะ? ไฟฟ้า? หรือว่าพลาสม่ากันแน่?
Ganthet : มันใช้พลังของแสงสีขาวต่างหากล่ะจอห์น สจ๊วต พลังงานแห่งชีวิตทั้งมวล!
Ganthet : ข้าก็ไม่รู้ว่ามันได้มายังไง แต่มันใช้งานพลังนั่นได้!
ตอนนี้ “อาวุธ” จากพลังงานแสงสีขาวถูกสร้างขึ้นมาแล้ว
“พวกมันแพ้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ที่เหลือก็แค่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น”
“เจ้าชาวโออาร์นั่นคือตัวอันตรายอันดับหนึ่ง”
“ความรอบรู้กว่าห้าพันล้านปีของมันนั้นอันตรายยิ่งกว่าแหวนพลังเสียอีก”
“ถ้าไม่มีมันคอยแนะนำเจ้าพวกแลนเทิร์นก็จะต้องแพ้แน่นอน”
“ต่อให้พลังของมันเหนือกว่าข้า แต่ตาข่ายสะท้อนพลังนั่นจะทำให้พลังนั่นเล่นงานมันเอง”
ด้วยความเชี่ยวชาญและ “อาวุธ” ที่เหนือชั้นกว่า Weaponer เล่นงานเหล่า Lantern ไปทีละคน
ทันใดนั้น Hannu Green Lantern ผู้ไม่นิยมใช้แหวนพลังในการต่อสู้ก็เข้าร่วมวงด้วย
Hannu : แกเก่งเรื่องหาจุดอ่อนสินะ “นักสร้างอาวุธ”
Hannu : ไหนแกลองมาหาจุดอ่อนของฉันหน่อยซิ…
ทางด้าน Kyle ที่เข้ามาในที่พักของ Weaponer ก็พบกับแหวนของ Soranik อยู่ในสนามพลัง แต่เมื่อเขาจะหยิบมันก็มีคนมาห้ามไว้
คนที่ห้ามคือ Soranik นั่นเอง และเมื่อพวกเขาไม่สามารถเอาแหวนของ Soranik ออกมาได้ พวกเขาก็ต้องหาอย่างอื่นมาแทน
ซึ่งมันก็ไม่ยากจนเกินไปนัก ในเมื่อที่นี่คือที่ทำงานของ “นักสร้างอาวุธ”
แต่ที่ด้านนอก สถานการณ์กำลังย่ำแย่ เพราะตอนนี้พวก John โดน Weaponer เล่นงานกันหมดแล้ว
Weaponer : ไอ้มนุษย์หินนี่มันคิดว่าไม่มีอะไรทำร้ายมันได้…แต่จุดอ่อนของมันนั้นมัน เห็นได้ชัดที่สุดเลย ก็คือมันไม่ยอมใช้แหวนพลังของมันเลยไงล่ะ
Hannu : อ๊าคค!! แกควรจะภาวนาไว้ว่าอย่าให้ฉันหลุดไปได้เชียวนะ…
แต่ทันใดนั้น Ganthet ก็เกิดอาการแปลกๆขึ้นมา
Ganthet : …ไม่…ทำไม…ต้องเป็นตอนนี้ด้วย…
John : กานเธท? น้ำเสียงคุณฟังดูแย่มากเลย!
Ganthet : …ข้า…กำลัง…รู้สึก…แย่มาก…
Weaponer : ข้าว่านั่นเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุดที่แกจะมากังวลเลยนะ
ทันใดนั้นเอง Ganthet ก็อ้วกเลือดสีแดงเข้มออกมา
John : กานเธท คุณยังโอเคอยู่หรือเปล่าน่ะ?
Weaponer : หึ คงไม่ว่ะ เว้นแต่ว่าถ้าที่ดาวแกไอ้การอ้วกเลือดออกมามันโอเคน่ะนะ
Ganthet : ข้า…ขอโทษด้วย…ข้าไม่ได้อยากให้พวกเจ้าต้องมารู้เรื่องแบบนี้
ทันใดนั้นเลือดที่ Ganthet พ่นออกมาก็ก่อรูปเป็นใบหน้าของ Atrocitus ผู้นำของ Red Lantern Corps
Atrocitus : การ์ดเนอร์! กานเธท! ข้ามันโง่จริงๆที่ไปเชื่อพวกแก! ศัตรูของพวกเรามันอยู่ที่โลกต่างหาก!
Atrocitus : และมันก็ได้ตัวร่างอวตารของความกลัวและความมุ่งมั่นไปอยู่กับมันแล้ว อีกไม่ช้าก็จะไม่มีใครหยุดมันได้! จงทำตามข้อตกลงที่เราทำไว้ซะ!
John : กานเธท? นี่คุณทำอะไรลงไป?
Ganthet : มันเป็นสิ่งที่ทำลงไปในสภาวะจนตรอก…
Ganthet : หลายสัปดาห์ก่อน แลนเทิร์นการ์ดเนอร์ที่ได้เห็นภาพนิมิตรของอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวจนเขายอมบอกข้าคนเดียวเท่านั้น
(เหตุการณ์ใน Green Lantetn Emerald Warriors เล่มที่ 5)
Ganthet : มันเป็นการหยั่งรู้ที่เกิดจากความโกรธสีแดงที่ยังเผาไหม้ในตัวเขาจากช่วงที่เขากลายเป็นเรดแลนเทิร์น…
Ganthet : …และมันก็บอกถึงภัยร้ายที่จะมาคุกคามองค์กรของเรา, เหล่าการ์เดี้ยน รวมถึงทั้งจักรวาล…
Ganthet : …ภัยร้ายที่ข้ารู้ว่าตัวจริงของมันคือใคร
Ganthet : มันกำลังรวบรวมร่างอวตารแห่งแสงทั้งเจ็ด ที่เป็นตัวแทนของพลังงานอารมณ์ความรู้สึกที่มอบพลังให้กับแหวนของพวกเรา
Ganthet : หากว่ามันสามารถจับเหล่าร่างอวตารได้ครบ พวกเราทุกคนก็จะไม่มีทางรับมือเจ้าคนบ้าคลั่งนั่นได้เลย
(ตอนนี้เฉลยออกมาแล้วใน Green Lantern เล่ม 60 ว่าตัวจริงของคนลึกลับคือ Krona อดีตชาว Oan ที่เคยถูกกักขังไว้นั่นเอง)
Ganthet : การ์ดเนอร์กับข้าจึงได้ไปหาอโตรซิตัสผู้นำของเรดแลนเทิร์น ผู้ซึ่งหยั่งรู้ถึงการกระทำของศัตรูของเราผู้นี้ได้เช่นกัน และรู้ว่าภัยร้ายนี้ยิ่งใหญ่กว่าความแค้นที่เขามีต่อเผ่าพันธ์ของข้ามากนัก
Ganthet : และเราทั้งสามก็ตกลงเป็นพันธมิตรกันอย่างลับๆ เพื่อตามล่าศัตรูของเราก่อนที่มันจะรู้ตัวว่าเราตามล่ามันอยู่
Ganthet : และเพื่อให้พวกเราสามารถสื่อสารกันและกันโดยไม่มีใครตรวจจับได้ ข้าจึงยอมรับเอาเลือดแห่งความโกรธสีแดงเข้ามาไว้ในตัว
Ganthet : แม้มันยากจะควบคุม แต่มันก็ใช้ได้ผล
Ganthet : และตอนนี้เจ้าก็รู้ถึงสาเหตุที่ข้ามาเป็นกรีนแลนเทิร์นแห่งเขตอวกาศที่ศูนย์นี้แล้ว…
Ganthet : …เพื่อที่จะตามล่าศัตรูในเขตศูนย์กลางของจักรวาล ในขณะที่แลนเทิร์นการ์ดเนอร์ก็ค้นหาในเขตอวกาศลึกลับ
Ganthet : แต่แม้พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ศัตรูของเราก็ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆทุกวัน และภาพนิมิตรหายนะของการ์ดเนอร์ก็ใกล้เป็นความจริงเข้าไปทุกที
John : ให้ตายสิกานเธท…
Hannu : นี่คุณทำสัญญาเลือดกับอโตรซิตัสเนี่ยนะ?!
Weaponer : โอ้ให้ตายสิ วันนี้มันวันดีจริงๆว่ะ! ข้าละอยากจะจับมือแสดงความยินดีกับเจ้าคนที่ตามจับตัวมาสคอตของพวกแกนั่นซะจริงๆ!!
ทันใดนั้นก็มีปืนกระบอกโตมาจ่อหัวของ Weaponer
Soranik : อย่า-ขยับ-เชียวล่ะ
Soranik : ฉันก็ไม่แน่ใจว่าไอ้นี่มันทำอะไรได้ แต่ฉันแน่ใจว่ามันจะสามารถเป่าหัวนายกระเด็นหลุดจากบ่าได้แน่
Weaponer : ข้าเพิ่งจัดการแหวนพลังไปได้สี่วงนะ เจ้าคิดว่าแค่ปืนจะมาขู่ข้าได้รึไง?
ทันใดนั้นพวก Thunderer ก็มาถึงพอดี ซึ่งพวกเขาก็เร่งให้ Soranik ยิง Weaponer ซะ
Thunderer : เดี๋ยวสิ นังเด็กผิวแดงนั่นเป็นเผ่าพันธ์เดียวกับซิเนสโตรหรือเปล่าน่ะ?
Weaponer : ถ้าพวกมันรู้ความจริงล่ะก็นะ…
Soranik : หุบปากไปเลย
Thunderer : ความทะเยอทะยานของแกทำให้พวกเราสูญเสียทุกอย่าง ทั้งเทพเจ้าของเรา! ทั้งจักรวรรด์ของเรา! บ้านของเรา! รวมถึงครอบครัวของเราด้วย!
Thunderer : แม่แกน่าจะฆ่าแกให้ตายไปซะตั้งแต่แกยังแบเบาะอยู่ไปซะเลย!
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ท่าจะเลี่ยงการปะทะไม่ได้ Weaponer ก็หันไปหา Kyle
Weaponer : ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของแกนะเจ้าหนู! ที่แกต้องทำก็แค่ไปพาซิเนสโตรมาที่นี่ และความยุติธรรมก็จะได้รับการชำระ! ที่นี้ข้าเลยต้องฆ่าเจ้าพวกนี้ทุกคน รวมทั้งพวกแกทุกคน และความตายของพวกมันก็จะเป็นความรับผิดชอบของแก…
แต่ก่อนจะทันปะทะกัน โล่ของ Weaponer ก็ส่งเสียงเตือนออกมา
“ตรวจพบการเดินทางข้ามมิติ”
เมื่อทั้งหมดมองไปบนฟ้าก็เห็นวังวนของแสงสีเหลืองสว่างจ้า
Soranik : โอ…ไม่นะ
Weaponer : โอ้ ใช่แล้ว…ในที่สุด…
John : ไคล์ บอกฉันหน่อยซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น
Kyle : พวกซิเนสโตรคอร์ปโผล่มาน่ะจอห์น
Kyle : พวกซิเนสโตรคอร์ปทั้งก๊กเลย
Kyle : ยกเว้นแค่คนเดียวเองมั๊ง
ดูเหมือนว่า Sinestro จะไม่มาเองเนื่องจากลั่นวาจาไว้แล้ว…
เลยส่งลูกน้องตัวเองทั้งก๊กมาถล่มที่นี่ให้ราบแทน…
โปรดติดตามตอนต่อไป
….แหม US Comic ก็มีซึนดาเระเหมือนกันนะ
เหตุการณ์ช่วงแรกนี่ใช่ที่มันตรงกับ Untold Tales From Blackest Night รึเปล่า
นั่นสิ ซึนกันใหญ่~
ตอบคุณ SecurityMan
ใช่แล้วครับ ตัดมาจากเล่มนั้นเลย เพราะเห็นว่าฉากนี้น่าจะมีผลต่อเนื้อเรื่อง แต่ก็ไม่อยากจะทำทั้งเล่ม เลยคัดเฉพาะส่วนนี้มารวมกับเล่มนี้เสียเลย (จริงๆอยากทำนานแล้วแต่ลืมครับ (แฮะๆ))
Weaponerนี่มันทั้ง ค้อน-โล่-เหล็ก เลยแฮะ =w=
ซิเนสโตรโคตรซึน 55555
หวัดดีครับเรื่องนี้สนุกมากแต่ผมขอแย่งนึงได้ป่ะ spoil อันนี้ http://www.l4d.com/comic/ ให้ผมหน่อยสิครับผมอ่านไม่ออกอะถ้าได้จะขอบคุณมากครับผม
ตอบคุณ 5555
นี่เป็นคอมมิคโปรโมตเกม Left 4 Dead นี่นะครับ ก็ประมาณว่า 4 สหายผู้มีจุดร่วมกันคือดูจะมีภูมิต้านทายไวรัสซอมบี้ทำให้แม้โดนกันก็ไม่กลายเป็นพวกมัน ร่วมกันฝ่าฟันไปจนโดนพาไปค่ายกักกันเพื่อเอาไปวิจัยหาทางต้านไวรัส แต่ต่อมาค่ายก้โดนซอมบี้บุก สี่สหายพร้อมด้วยทหารในค่ายจึงหนีร่วมกันเพื่อเอาตัวรอด โดยตลอดทางก็มีการ Flash back อดีตของแต่ละคนไปพลาง จนในที่สุดเพื่อให้คนอื่นๆหนีรอด ก็ต้องมี 1 ในสี่สหายเสียสละ
เนื่องจากนี่เป็นคอมมิคเพื่อโปรโมตเกมอย่างที่ว่า ทำให้มันไม่บอกอะไรที่เป็นเนื้อหาเบื้องลึกของเรื่องเลย เพราะต้องการให้ไปตามเล่นเกมต้นฉบับเอาเอง เนื้อหาก็เลยสรุปสั้นๆได้ตามข้างต้นนั่นแหละครับ