Brightest Day : Green Lantern : Emerald Warriors 5 : ภาพลางแห่งหายนะที่ฉายบนม่านโลหิต
เรื่อง : Peter J. Tomasi
ภาพ : Fernando Parasin, Cam Smith
วางจำหน่าย: 8 ธันวาคม 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics
การผจญภัยในเขตอวกาศลึกลับยังคงเพิ่มความอันตรายยิ่งขึ้น และมันยิ่งแย่ขึ้นไปอีกเมื่อพวกเพื่อนๆของ Guy Gardner ล่วงรู้ถึงข้อตกลงที่เขาร่วมมือกับ Atrocitus
ต่อจากเล่มที่แล้ว
พวกของ Guy Gardner ถูกซุ่มโจมตีโดยพวก Rookies Green Lanterns ซึ่งถูก Zadoor ควบคุมจิตใจ
ซึ่งในสายตาของพวก Rookies ตอนนี้พวกเขาก็ถูกเข้าใจไปว่าเป็นพวก Sinestro Corps ไปซะแล้ว
แต่ทันใดนั้น Kilowog ที่เห็นพวกนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าพวกนี้ทุกคนคือ Green Lantern ที่เพิ่งเข้าประจำการ และได้รับการฝึกจากเขาทั้งนั้น
ซึ่ง Zadoor ที่ได้ยินคำพูดของ Kilowog ก็เห็นว่าควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม จึงได้ทำการบางอย่างลงไป…
เหล่า Rookies ที่โดนควบคุมจิตใจ ก็หันมาเตรียมจะฆ่าพวกเขาแทนการจับกุม
ซึ่ง Guy ที่เริ่มเหลืออดกับสถานการณ์นี้แล้วก็แสดงฝีมือโดยการปล่อยพลังมหาศาลออกมาสลาย “สิ่งก่อสร้าง” ที่พันธนาการพวกเขา
ซึ่งเมื่อ Red Lantern Bleez หลุดออกมาได้ก็ลงมือเล่นงาน Rookies คนหนึ่งทันที ซึ่งก่อนที่จะลงมือหนักถึงขั้นฆ่าหมอนี่ตาย Kilowog ก็รีบมากันเธอออกไป
ขณะที่ Rookies คนอื่นๆยังคงเล่นงานพวก Guy อยู่ Rookies คนที่เพิ่งโดน Bleeze เล่นงานก็ดูจะหลุดจากการควบคุมและเห็นว่าพวกของตนกำลังเล่นงาน Green Lantern พวกเดียวกันอยู่จึงพยายามเข้าไปห้าม
ซึ่งเมื่อ Zadoor เห็นดังนั้นก็สั่งการออกมา
Zadoor : …จงทำลายทหารของซิเนสโตรคอร์ปที่อยู่ข้างหลังพวกเจ้าซะ
เมื่อสิ้นเสียงสั่ง พวก Rookies ที่โดนควบคุมก็ฆ่าพรรคพวกที่หลุดจากการควบคุมไปทันทีต่อหน้าต่อตาพวก Guy
Guy : กรีนแลนเทิร์นคนนั้นเพิ่งจะตายไปพร้อมกับที่บอกคำตอบให้เรา! เราต้องปลุกเจ้าพวกนี้แล้วล่ะอารีเซีย!
Arisia : ยังไงล่ะ…แล้วด้วยอะไร?!?
Guy : ใช้ความเจ็บปวดไงล่ะ! ระวังหลังให้ฉันด้วย!
ว่าแล้ว Guy ก็โชว์ความเก๋าให้เห็นว่า ต่อให้มีมากกว่าสักแค่ไหน แต่แค่พวกมือใหม่ก็ไม่ครณามือเขาเลย
Guy : ถ้านายกับบลีซฟัดกันจนพอใจแล้วล่ะก็นะคิโลวอค ฉันต้องการกำลังเสริมหน่อยละ
Kilowog : นายทำอะไรของนายน่ะกาย?!?
Guy : ถ้าเราจะช่วยพวกนี้ เราก็ต้องทำร้ายพวกเขา! ถ้าไม่เจ็บก็ไม่หาย!!
เมื่อ Kilowog ได้ยินดังนั้นก็เข้าช่วย Guy ทันที
Guy : นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดจากอะไรก็ตามที่ควบคุมพวกเขาอยู่
Rookies : …แลนเทิร์น..พวกคุณเป็น…กรีนแลนเทิร์น…
Guy : ดีใจที่พวกหัวทึ่มอย่างพวกนายตาสว่างเสียทีนะ
Arisia : ทีนี้ไหนพวกนายลองบอกมาซิว่า ใครกันที่ทำให้พวกนายคิดว่าพวกเราเป็นพวกซิเนสโตรคอร์ป?
Rookies : …สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือผมอยู่ในฐานเซคเตอร์เฮ้าส์…
Rookies : …มันจำไม่ได้แน่ชัด แต่ผมจำได้ว่าเห็นงู…
Rookies : …แล้วก็ดาบเล่มใหญ่…ดาบที่ลุกเป็นไฟ…
Guy : เอาละ ทีนี้ก่อนที่พวกนายจะเกิดเพี้ยนขึ้นมาอีก เราคงต้องเอาพวกนายไปใส่ไว้ในสนามพลังควบคุมตัวแล้วส่งพวกนายกลับไปตรวจสอบ ที่โออาร์ซะ บางทีพวกนั้นอาจจะหาพวกผู้ใช้โทรจิตมาตรวจดูพวกนายได้…เพราะถ้ามีใคร สามารถควบคุมกรีนแลนเทิร์นได้อยู่ล่ะก็…
Kilowog : …เราก็มีปัญหามากกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีกแล้วล่ะ อารีเซียสลายพลังงานที่ผูกมัดพวกเขาซะ แล้วเราจะได้ส่งพวกเขาไปได้
แต่เมื่อสนามพลังผูกมัดสลายไป…
Zadoor+Rookies : ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้นหรอก แลนเทิร์นการ์ดเนอร์
ทันใดนั้นโดยไม่มีใครทำอะไรได้ทัน พวก Rookies ก็ระเบิดหัวตัวเองจนกระจุยตามคำสั่งควบคุมของ Zadoor
Guy : …คุณพระช่วย…
Zadoor : พวกแลนเทิร์นรุ่นใหม่ที่อุตส่าห์หามาตายหมดซะแล้ว น่าเสียดายจริงๆ
Zadoor : แต่อย่างน้อยการทดสอบครั้งนี้ก็ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์
Guy : แลนเทิร์นพวกนี้จะไม่ตายเปล่าหรอก
Guy พยายามจะจับแหวนของ Rooky คนหนึ่งที่กำลังจะไปหาผู้สืบทอดตัวมันตามที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งมันก็ลากเขาตามมันไปด้วย
Kilowog : ทำไมกัน?!?
Kilowog : ใครกันที่ทำให้พวกนายทำแบบนี้กับตัวเอง?!?
Guy ตามไปจับแหวนที่กำลังจะไปกลับมาจนได้
Kilowog : อย่ามันแต่ยืนเฉยสิอารีเซีย! ตรวจดูสัญญาณชีวิตของพวกเขาสิ! พวกเขาบางคนอาจยังไม่ตายก็ได้!
Arisia : พวกเขาจากไปแล้วล่ะคิโลวอค…เราช่วยพวกเขาไม่ได้แล้ว…
Kilowog : เธอยังไม่รู้แน่หรอก…ฉันเคยเห็นพวกหมอบนโออาสร้างปาฐิหารย์มาแล้วนะ ฉันเคยเห็นนาธูช่วยชีวิตแลนเทิร์นที่น่าจะหมดหวังไปแล้วด้วย!
Arisia : ดูที่มือของพวกเขาให้ดีสิ แหวนของพวกเขาได้ออกจากนิ้วไปเพื่อหาคนมาแทนที่พวกเขาแล้ว
Kilowog : พวกเขาเป็นแค่รุคกี้…เป็นแค่เด็กใหม่…และมันเป็นเพราะฉัน…ฉันน่าจะ ทุ่มเทให้พวกเขาฝึกทางด้านจิตใจมากกว่านี้…ฉันน่าจะตั้งโปรแกรมฝึกให้เข้ม งวดกว่านี้..
Arisia : ฟังนะ อย่าได้โทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เลยนะเข้าใจไหม? กรีนแลนเทิร์นคอร์ปนั้นเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพได้ขนาดนี้ก็เพราะคุณ คุณสอนพวกเราได้ดีแล้ว
Guy : และนายก็สอนฉันได้ดีมากแล้วด้วยนะคิโลวอค นายจะมาโทษตัวเองกับเรื่องนี้ไม่ได้หรอก มันไม่ใช่ความผิดของนาย
Guy เรียกข้อมูลจากแหวนที่เอากลับมาได้ เพื่อสืบค้นว่าเจ้าของแหวนได้เดินทางไปที่ไหนมาบ้างในช่วง 20 วันที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อได้พิกัดที่ต้องการแล้ว พวกเขาก็ส่งมันไปทำหน้าที่ค้นหาผู้จะสืบทอดมันต่อไป พร้อมทั้งส่งศพของพวก Rookies กลับไปรับการจัดการที่ Oa
Kilowog : ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในวันนี้ ใบหน้าของเขาจะฝังแน่นในสมองฉันไปตลอดกาล
Kilowog : เรารู้ที่ตั้งของดาวเคราะห์คราล็อคนั่นแล้วใช่ไหมกาย?
Guy : ใช่
Kilowog : คิดว่าไอ้ตัวต้นเหตุที่ควบคุมจิตใจพวกเขาจะเป็นตัวเดียวกับที่ดูดพลังแหวนของเราไหม?
Guy : มันเป็นไปได้สูงมากเลยละ
Kilowog : ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ…เพราะใครก็ตามที่ฆ่าลูกศิษย์ของฉันอย่างเลือดเย็นแบบนั้นมันจะต้องชดใช้
Arisia : ฉันเป็นห่วงคิโลวอคจัง ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
Guy : แบบไหนล่ะ?
Arisia : ความเศร้า…ความเศร้าที่ลึกล้ำกำลังครอบงำเขา เขารู้สึกเกี่ยวข้องเป็นส่วนตัวกับผู้ที่ผ่านการฝึกจากเขาที่โออาร์ทุกคน และทุกการสูญเสียก็กัดกินเขาอยู่ข้างใน
Guy : พวกเราทุกคนก็มีสิ่งที่มันกัดกินเราอยู่ข้างในทั้งนั้นแหละนะ…อึกกก…
Arisia : กาย เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
Bleez : เลือดของเขากำลังร้องเรียก
ขณะที่ Arisia เรียก Kilowog มาดูอาการของ Guy จู่ๆเขาก็พ่นเลือดเพลิงจำนวนมากออกมา
Kilowog : นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?!?
Guy : บ้าเอ๊ย…ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย…
ทันใดนั้นเลือดเพลิงที่ Guy พ่นออกมาก็เข้ามารวมกัน และก่อรูปขึ้น เป็นรูปร่างของผู้นำแห่ง Red Lantern
Kilowog : อโตรซิตัส?!?
Atrocitus : การ์ดเนอร์! กานเธท! ข้ามันโง่จริงๆที่ไปเชื่อพวกแก! ศัตรูของพวกเรามันอยู่ที่โลกต่างหาก! และมันก็ได้ตัวร่างอวตารของความกลัวและความมุ่งมั่นไปอยู่กับมันแล้ว อีกไม่ช้าก็จะไม่มีใครหยุดมันได้! จงทำตามข้อตกลงที่เราทำไว้ซะ…
Atrocitus : ไม่งั้นพวกเราจะพินาศกันหมด!
เมื่อเจอแบบนี้เข้า Guy ก็ต้องหันไปหา Kilowog กับ Arisia อย่างเร็ว
Guy : เอาล่ะ ฉันสามารถอธิบายได้ถ้านายจะยอมให้ฉันอธิบายนะ
Kilowog : นั่นจะเป็นอย่างเดียวที่เราจะยอมให้นายทำเลยล่ะ!
Guy : ตั้งแต่ฉันกลายไปเป็นเรดแลนเทิร์น และกลับมาเป็นอย่างเดิมฉันก็ฝันร้ายติดต่อกันมาเป็นเดือน ฉันเห็นภาพที่มันดูไม่มีเหตุผลเลยมากมาย…
Guy : ฉันนึกว่ามันคงเป็นผลข้างเคียงจากแหวนแดง และมันก็คงหายไปเองหลังจากกลับไปทำภารกิจตามเดิม…
Guy : …แล้วมันก็เป็นไปตามนั้น ฝันร้ายมันหายไปเอง
Guy : หรืออย่างน้อยฉันก็คิดแบบนั้น
Guy : เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ฉันกำลังตกแต่งบาร์วอร์ริเออร์ขั้นสุดท้ายเพื่อเตรียมการเปิดทำการใหม่…
Guy :…จู่ๆฉันก็อ้วกเลือดออกมาจำนวนมากแล้วก็หมดสติไป
Guy : เมื่อฉันฟื้นขึ้นมาในอีกหลายนาทีให้หลัง ฉันก็พบว่าตนเองกำลังมองไปยังภาพที่น่าสะพรึงกลัว…
Guy : …มันคือภาพของหายนะ
Guy : ครั้งนี้ภาพที่ปรากฎในฝันร้ายมันมารวมกัน และฉายออกมาบนม่านเลือด และฉันก็นั่งดูอยู่แถวหน้าเลย
Guy : และฉันขอบอกพวกนายตรงนี้เลยว่า ที่ฉันเห็นมันคือลางร้ายที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรของเรา, พวกการ์เดี้ยน…ให้ตายสิมันจะเกิดกับทั้งจักรวาลเลยล่ะ
Guy : ใครก็ไม่รู้ในชุดผ้าคลุมได้รวมรวมพวกสัตว์แปลกๆที่เรียกว่า “ร่างอวตารแห่งแสง” ที่เป็นตัวแทนของพลังงานอารมณ์ความรู้สึกที่มอบพลังให้กับแหวนของพวกเรา
Guy : ถ้าไอ้เจ้านั่นมันรวบรวมร่างอวตารพวกนั้นได้ครบล่ะก็ มันต้องเป็นหายนะสำหรับพวกเราทุกคนเป็นแน่
Guy : ฉันนึกว่าฉันจะสามารถหยุดยั้งบางอย่างที่ฉันเห็นไม่ให้มันเกิดขึ้นได้
1 ในภาพนิมิตรที่ปรากฎลงบนม่านโลหิต คือภาพของเขากำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับ Hal Jordan เพื่อนของเขาเอง!?
Guy : …แต่มันดูเหมือนว่าฝันร้ายพวกนี้มันกำลังจะกลายเป็นจริงขึ้นมาไม่ว่าฉันจะพยายามยังไงก็ตาม
ตอนหน้า : Zadoor จู่โจม!
เมาไม่เหาะ!!
โหย หน้าปกเรื่องนี้ ทำให้กินข้าวไม่ลง
ขอบคุณ
หน้าปกได้ใจมาก
ปกเล่มนี้มันสุดยอดจริงๆ -“-
ชวนให้อ้วกจินๆ
หน้าปก ไม่ไหวมาก = =”