Amazing Spider-Man Presents: American Son 2 of 4
The Other Son
เรื่อง: Brian Reed
ภาพ: Phillipe Briones
ลงสี: Jeromy Cox
วางจำหน่าย: 30 มิถุนายน 2010
สำนักพิมพ์: Marvel Comics
เหตุการณ์เล่มที่แล้ว มีคนขโมยชุดเกราะ American Son และมีชายลึกลับบุกมายิงแฮรี่ที่ร้านกาแฟ
เกเบรียล: “แฮโรลด์ ออสบอร์น นายยังไม่ตายใช่มั้ย”
แฮรี่: “โอ้ พระเจ้า…”
เกเบรียล: “ชั้นเสียใจด้วยนะ นายน่าจะตายทันทีจะได้ไม่ต้องเจ็บ ชั้นแค่ต้องการจะให้พ่อของเรารู้ว่าเค้ามีลูกชายสองคน”
อเมริกันซัน: “วางปืนซะ”
เกเบรียล: “แกเป็นใครกันวะ”
โดนจู่โจมจนปืนหลุดมือ เกเบรียลเลยรีบหนีไป
คนในชุดเกราะอเมริกันซันอุ้มแฮรี่บินออกมาจากร้าน
แล้วพามาส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล
“ชายคนนี้ถูกยิง ต้องการหมอด่วนเลย”
“ทุกคนกลับไปทำงาน” พยาบาลรีบไล่ฝรั่งมุงออกไป
“นั่นใช่แฮรี่ ออสบอร์นรึเปล่าน่ะเธอ”
“ฉันว่าใช่นะ”
“น้องเขยเธอทำงานอยู่ช่อง 7 ใช่เปล่า”
พวกเจ๊นี่กะจะขายข่าวกันเลย
“นี่บาดแผลถูกยิงนะครับ”
“ใช่ ฉัน…ไม่เห็นนะว่าใครยิง”
“เอาล่ะ ต้องมีใครแจ้งตำรวจ”
“เค้าจะรอดมั้ย”
“เร็วไปที่จะบอก แต่ผมจะทำเต็มที่ ไหนดูแผลซิ…ไม่โดนจุดสำคัญ”
“งั้นก็หมดหน้าที่ฉันแล้ว”
พูดจบ อเมริกันซันก็บินออกจากโรงพยาบาลไป
วันนั้นก็มีข่าวออกทีวีแทบทุกช่องว่าแฮรี่ถูกยิง
มีภาพผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีออกมาจากร้านด้วย แถมก่อนมีการยิงกันก็มีคนเห็นสไปเดอร์แมนไปป้วนเปี้ยนแถวนั้นเหมือนกัน
เช้าวันถัดมาที่โรงพยาบาล
มีกำลังตำรวจมารักษาความปลอดภัยเต็มไปหมด
โอเว่น: “พวกเรามาดูแลความปลอดภัยให้”
แฮรี่: “เจ้าหน้าที่โอเว่น ครั้งล่าสุดที่คุยกัน คุณพยายามพิสูจน์ว่าผมใส่ชุดเกราะนั่นแล้วก็ขโมยเพชรด้วย
จากนั้นผมก็โดนยิง คงว่ากันไม่ได้ถ้าจะบอกว่าผมไม่เชื่อคุณเลย”
โอเว่น: “ผมเสียใจด้วย ขอโทษ”
แฮรี่: “ช่างเถอะ ส่งเสื้อผ้าให้ผมหน่อยได้มั้ย”
โอเว่น: “แล้วเรื่องมือปืนล่ะ..?”
แฮรี่: “บอกแล้วไงว่าผมจำอะไรไม่ได้ มันวูบไป แล้วผมก็มาตื่นที่เนี่ยแหละ”
โอเว่น: “ผมกำลังให้คนดึงภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัย ถ้าเจออะไรจะแจ้งให้ทราบละกัน”
“ไว้ผมจะมาใหม่ถ้าคุณจำอะไรได้ระหว่างนี้ก็…”
แฮรี่: “โอ้ ผมจะส่งข้อความหาคุณนะ จริงๆ”
นอร่าห์แอบปลอมตัวเป็นพยาบาลเข้ามาในโรงพยาบาล
“นอร่าห์ วินเทอร์ เธอฉลาดจริงๆ เดินเข้าไปแล้วก็ เปรี้ยง! ลงหน้าหนึ่งฟรอนท์ไลน์เลย เดี๋ยวนะ…
ปลอมตัวเป็นพยาบาลแบบนี้ผิดกฎหมายมั้ยเนี่ย สายเกินจะถอนตัวแล้ว เอาล่ะ ยิ้มไว้ละกัน”
นอร่าห์: “เฮ้ ได้เวลาตรวจเลือดแล้ว”
ตำรวจ 1: “ตรวจใคร..”
นอร่าห์: “คนไข้ไง”
นอร่าห์: “ตรวจคุณก็ได้นะถ้าอยาก”
ตำรวจ 1: “คุณไม่ใช่พยาบาลคนที่เราได้รับแจ้งไว้นี่”
นอร่าห์: “นาตาลีน่ะเหรอ เธอมีเรื่องด่วนที่บ้านน่ะ เค้าเลยส่งชั้นมาแทน พวกคุณจะอยู่กันถึงกี่โมงล่ะ”
ตำรวจ 1: “โอ้ ผมอยู่อีกสองสามชั่วโมง”
นอร่าห์: “งั้นเดี๋ยวชั้นตรวจเลือดคุณออสบอร์นเสร็จแล้วเราคุยกันหน่อยตอนคุณออกเวรดีมั้ย”
ตำรวจ 1: “เข้าท่าดีหมือนกันจ้ะ”
เจ๊าะแจ๊ะกับนายตำรวจหน้าห้องนิดหน่อยก็ผ่านเข้ามาได้
นอร่าห์: “โอเค จริงจังเลยนะ จะมีชายแท้คนไหนในโลกนี้จะต้านพลังอ่อยเราได้”
แฮรี่: “นอร่าห์?”
นอร่าห์: “ฉันมีเวลานิดเดียว นั่นนายจะทำอะไร”
แฮรี่: “ออกไปจากที่นี่น่ะสิ แล้วเธอมาทำอะไร”
นอร่าห์: “ฉันเคยคิดว่านายคือคนในชุดเกราะอเมริกันซัน ฉันนั่งทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นนาย จนมาตอนนี้ เอ่อ…ทั้งหมดนี่ นายรู้มั้ยว่า ‘ใครเป็นคนยิงแฮรี่ ออสบอร์น’ เป็นข่าวใหญ่ทุกช่องเลย”
แฮรี่: “แล้วเธอก็เลยมาเพราะเรื่องนี้”
นอร่าห์: “ฉันมานี่เพราะ…”
อึ้งไปชั่วครู่
นอร่าห์: “ฉันกะจะหลอกนายว่าฉันมาเพราะความเป็นเพื่อน ไม่ใช่จะมาทำข่าว”
แฮรี่: “แล้วตอนนี้ไม่เป็นงั้นแล้ว”
นอร่าห์: “ไม่ละ”
แฮรี่: “ทำไม”
นอร่าห์: “พ่อนาย…”
แฮรี่: “โอ้…ว่าแล้วเชียว”
นอร่าห์: “ฉันรู้เรื่องโครงการอเมริกันซันตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ฉันรู้เรื่องชั่วทั้งหลายที่นอร์แมนทำไว้ แล้วก็จะประกาศให้โลกรู้ แต่พ่อนาย…ขู่จะเอาชีวิตฉัน”
แฮรี่: “นั่นแหละนอร์แมน”
แฮรี่: “ไปกันเถอะ”
นอร่าห์: “นายจะไปไหน”
แฮรี่: “ที่ๆ ฉันว่าเธอต้องสนใจมากแน่”
ตำรวจ: “คุณครับ คุณห้าม…”
แฮรี่: “ฉันไม่ใช่นักโทษ ฉันจะไปไหนก็ได้”
พยาบาล: “คุณออสบอร์น คุณเพิ่งฟื้นจากถูกยิงนะ”
แฮรี่: “และถ้าฉันไม่ออกไปจากที่นี่ตอนนี้ ฉันคงต้องจ่ายค่ารักษาบานตะไท หลีกทางไปซะ”
พยาบาล: “ฉันให้คุณไปไม่ได้…”
นอร่าห์: “คุณได้ยินเค้าพูดแล้ว หลบไป”
พยาบาล: “ใครเป็นหัวหน้าเธอ พยาบาล”
นอร่าห์: “หัวหน้าฉันคือ เบน อุลริช ที่ฟรอนท์ไลน์ โทรหาเค้าเลย บอกเค้าด้วยว่านอร่าห์ วินเทอร์อยู่กับแฮรี่ ออสบอร์น”
นอร่าห์: “โอเค เอาไงต่อ”
แฮรี่: “เราจะไปหาพ่อชั้นกัน”
นอร่าห์: “อะไรนะ เดี๋ยวก่อนซิ ฉันไม่ได้บอกเหรอว่าถูกขู่ฆ่าน่ะ”
แฮรี่: “เธอเป็นนักข่าวนะ รักษาอาชีพหน่อย”
แฮรี่: “ฉันต้องการให้เธอเห็นทุกอย่างที่ฉันทำ ได้ยินทุกคำที่ฉันพูด แล้วก็รายงานข่าวทุกอย่างเรื่องฉัน”
นอร่าห์: “ทำไมเป็นฉันล่ะ”
แฮรี่: “เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ฉันมีตอนนี้น่ะสิ”
ว่าแล้วก็แฮรี่ก็อัพยาอีกสองเม็ด
ที่ The Raft เรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด
เจ้าหน้าที่ชีลด์ 1: “นี่มันเป็นผิดกฎอย่างมาก”
แฮรี่: “นี่แหละชีวิตฉัน”
เจ้าหน้าที่ชีลด์ 1: “ผมต้องตรวจสอบก่อน”
แฮรี่: “กฎข้อ 6258 สมาชิกในครอบครัวสามารถเข้ามาตอนไหนก็ได้ระหว่าง 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ตอนนี้ 8:45 ฉันจะเข้าไปล่ะ”
เจ้าหน้าที่ชีลด์ 1: “เชิญทางนี้”
เจ้าหน้าที่ชีลด์ 2: “ห้ามเอาอะไรเข้าไปด้วย เอาของในกระเป๋าทั้งหมดฝากไว้ที่นี่ครับ”
แฮรี่: “ได้”
ต้องสแกนระดับโมเลกุลกันเลยกว่าจะเข้าไปได้
เจ้าหน้าที่ชีลด์: “คุณเคยเข้าเยี่ยมที่นี่แล้ว งั้นคุณก็รู้กฎดี”
แฮรี่: “ใช่”
นอร่าห์: “ฉันไม่เคยมาที่นี่เลย เราต้องลงลึกไปเท่าไหร่”
เจ้าหน้าที่ชีลด์: “ลึกมากจนคุณไม่อยากร่วงลงไปเลยล่ะ”
นอร่าห์: “แม่จ้าว”
เจ้าหน้าที่ชีลด์: “ถึงแล้วครับ ห้องขังหมายเลขสิบสี่ บ้านของนอร์แมน ออสบอร์น”
???: “แหม ช่างน่าแปลกใจซะจริงๆ”
นอร์แมนนั่นเอง พูดทักมาแต่ไกล
นอร์แมน: “ชั้นไม่ต้องทนนั่งอยู่ในกล่องนี่คนเดียวแล้วสินะ ต้องมีเรื่องอะไรแน่ถึงมาหากันถึงนี่
แกไม่เคยอยากเจอชั้นเลยตอนที่ชั้นครองโลก แฮรี่ อะไรพาแกมาได้ล่ะ”
แฮรี่: “เกเบรียล สเตซี่”
นอร์แมน: “แล้วแกไปเอาชื่อนั่นมาจากไหนกัน”
แฮรี่: “หมอนั่นเป็นใคร แล้วทำไมมันถึงคิดว่าเป็นน้องชายผม”
นอร์แมน: “หวัดดี นอร่าห์”
แฮรี่: “ตอบมา นอร์แมน”
นอร์แมน: “ถ้าฉันไม่ตอบล่ะ ถ้าฉันทำให้แกเสียเวลาไปเปล่าๆ ที่นี่ แล้วจะยังไง”
แฮรี่: “ผมบอกคนอื่นไปว่าผมไม่รู้จักชื่อเค้า บางทีผมอาจจะ ‘นึกอะไรออก’ ขึ้นมาบ้างก็ได้”
นอร์แมน: “อาห์ อย่างนี้นี่เอง แกเจอเกเบรียลแล้วสินะ แล้วมันก็ยิงแก ฮ่าๆๆๆ
ไม่ค่อยได้หัวเราะตั้งแต่เจอยาพวกนี้ แกก็รู้ดีทุกอย่างเกี่ยวกับยาระงับประสาทนี่ ใช่มั้ย แฮรี่”
แฮรี่: “ไปกันเถอะ ฉันบอกเธอแล้วว่าเค้าไม่รู้อะไรหรอก นอร่าห์”
นอร่าห์: “แต่นาย…”
แฮรี่: “นอร์แมนไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว”
นอร์แมน: “อะไรนะ นี่แกคิดว่าแค่ฉันถูกขังในกล่องนี่งั้นเหรอ… ฉันรู้ทุกเรื่องในโลกข้างนอกนั่นแหละ
ผู้คุมบางคนคิดว่าชั้นมีความคิดดีๆ พวกที่ยังอยากให้ฉันอยู่และคุมทุกอย่างได้”
แฮรี่: “งั้นเหรอ พ่อยังเป็นคนสำคัญงั้นสิ คนยิ่งใหญ่ในห้องขัง”
นอร์แมน: “เกเบรียลเป็นลูกฉันเอง!”
“แล้วก็รู้ด้วยว่ามันเป็นคนยิงแก ฉันหวังว่ามันจะเป็นลูกชายที่ดีกว่าแกด้วยซ้ำ”
ทางด้านเกเบรียล หลังจากหนีมาจากที่เกิดเหตุ
เกเบรียล: “แกทำอย่างนี้ได้ไง ทำไมแกถึงทำแบบนี้”
เกเบรียลไปโวยวายกับชุดเกราะอเมริกันซัน
“ตอบมา”
เกเบรียล: “ทำไมแกถึงต้องไปช่วยแฮโรลด์ ออสบอร์น ทั้งที่ฉันต้องอุตส่าห์ลำบากไปฆ่ามัน”
โอว มันยังไงกันแน่ ตกลงใครเป็น American Son กันแน่
ที่ออฟฟิศหนังสือพิมพ์ฟรอนท์ไลน์
นอร่าห์กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับคอมพิวเตอร์ เบน อุลริช ก็เดินเข้ามามา
เบน: “นอร่าห์ นั่นเธอเหรอ ฉันได้รับสายจากเอ็มไพร์สเต…”
นอร่าห์: “ยินดีด้วยนะอุลริช ฉันรู้ว่าคุณจัดการกับโทรศัพท์ได้”
เบน: “นี่เธอไปปลอมตัวเป็นพยาบาลมาเรอะ”
นอร่าห์: “ฉันพยายามจะปลอมเป็นคริสโตเฟอร์ วอล์คเคน แต่ลงเอยที่ชุดพยาบาลน่ะ”
เบน: “เป็นอะไรไป เราไม่ใช่พวกหนังสืออย่างนั้น…”
นอร่าห์: “ค่าาา ขอโทษค่ะบอส เอ้านี่..ขอให้ฉันทำนี่ให้คุณนะ”
เบน: “ลูกชายออสบอร์นอีกคนงั้นเหรอ นี่เธอ..ยืนยันเรื่องนี้ได้แน่นะ”
???: “โอ้ แหงสิ”
แฮรี่: “เธอมีสุดยอดแหล่งข่าวเลยล่ะ”
โปรดติดตามตอนต่อไป…
เรียบเรียงโดย:
สรุปว่ามันเป็นคนไปยิงแฮรี่ แล้วมันก็กลับมาช่วยซะงั้นสินะ (พร้อมๆกับหลอนว่าเกราะมาตอนมันยังอยู่ในร้าน)
ที่จริงจะว่าไม่แปลกก็ได้ เพราะว่านอร์แมนก็มีอาการคล้ายๆกันนี้กับหน้ากากกรีนกอปลินเหมือนกัน เพียงแต่คราวนี้บุคลิกภาพแตกแยกกลับกลายเป็นด้านดี
โอ คิดไม่ถึงเลยครับ ลืมข้อนี้ไปเลยว่าเป็นเรื่องหลอนไปเองก็ได้ บ้านนี้ติดยากันหลายคนอยู่ด้วย
ผมว่าเป็นแบบนี้แหงๆ
ตอนแรกผมเดาว่าอาจเป็นการ return มาแบบยกครอบครัว
คนที่มาช่วยน้องสาวฝาแฝดของเกเบรียล หรือไม่ก็เป็นโคลนนิ่งของใครซักคนไปนู่นเลย
(เลยต้องมาเหนื่อยแปลแบบกั๊กๆ ว่าคนในชุดเกราะอาจเป็นผู้หญิง ทำให้ต้องเลี่ยงการใช้สรรพนามที่จะบ่งบอกว่าเป็นชาย) 😀
ผมว่า มันไม่ใช่เรื่องหลอนอะไรหรอก
น่าจะเป็นเพราะชุดเกราะมันมีระบบป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับเจ้าของเกราะ ซึ่งมันจำ DNA ของแฮร์รี่ได้
คุกดูอยู่สบายเหลือเกิน
มุขเดิมอีกแล้ว เป็นกอบลินในชุดของamerican son
ชักน่าติดตามซะแล้วซิครับเนี่ย Family War ได้ไหมเนี่ย
ผมยอมรับว่า คงต้องอ่าน อีกรอบเพราะ งง