Marvel Comic : Thor Vol.610 : Siege : Epilogue

เรื่อง : Kieron Gillen
ภาพ : Doug Braithwaite
วางจำหน่าย: 26 พฤษภาคม 2010
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

คราวนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาสปอยฝั่งมาร์เวลเสียบ้าง

นี่ จะเป็นบทส่งท้ายของ Event ใหญ่ Siege of Asgard ที่จะเป็นบทสิ้นสุดของยุคมืด (Dark Reign) และเข้าสู่ยุคสมัยของวีรบุรุษ (Heroic Age)

แต่เพื่อให้ยุคแห่งวีรบุรุษเริ่มขึ้นอย่างแท้จริง ยังเหลือสิ่งหลงเหลือสุดท้ายจาก Civil War ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของช่วงมืดมนที่สุดของมาร์เวล ที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย มันคือ Ragnarok ไซบอร์คโคลนของ Thor

ความเดิม

ในช่วงท้ายของการบุกยึด Asgard ร่างด้านมืดของ Sentry นาม The Void ได้ปรากฎตัวออกมาและเข้าทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า โดยทั้งเหล่าฮีโร่และเทพแห่งแอสการ์ดก็ไม่อาจต่อกรกับมันได้เลย

ด้วย ความสำนึกในความผิดพลาดของตน Loki ผู้ทรยศแห่ง Asgard ได้ใช้ Stones of Norn หินวิเศษที่สามารถบันดาลทุกสิ่งที่ผู้ใช้ปราถนา มอบพลังให้เหล่า ฮีโร่ให้สามารถทำร้าย The Void ได้ …แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตของเขาเอง

ในที่สุด The Void ก็ถูกทำลายลงพร้อมๆกับการร่วงลงจากอำนาจของ Norman Osborn

ที่ซากของ Asgard ในวันถัดมา

Balder ราชาแห่ง Asgard เฝ้ามองดูความพินาศของนครที่เขารักร่วมกับ Heimdal และ Tyr

Balder โทษตัวเองว่าต้องรับผิดชอบกับหายนะที่เกิดขึ้น แม้ทั้ง Heimdal และ Tyr จะพยายามบอกไม่ให้เขาคิดเช่นนั้นแต่ก็ไม่ได้ผลนัก

ทันใดนั้นอะไร บางอย่างก็ลงมาจากฟากฟ้า

ผู้มาคือ Thor เทพสายฟ้านั่นเอง

Thor : องค์ราชาบาลเดอร์ ข้าได้รับการบอกกล่าวว่าท่านต้องการให้ข้ามาที่แอสการ์ดแห่งนี้

Balder : ใช่แล้ว

Thor : ข้าไม่สามารถมาที่นี่ได้ทั้งที่ยังถูกเนรเทศอยู่ บัดนี้ข้ามิได้ถูกเนรเทศแล้วเช่นนั้นหรือ?

(Thor ถูกเนรเทศเนื่องจากเขาสังหาร Bor ปู่ของตนเองจากการหลงกลแผนการของ Loki ที่ใช้มนต์ทำให้ Bor บ้าคลั่งอาละวาด และต้องโทษเนรเทศจาก Asgard)

Balder : ท่านคิดถูกต้องแล้ว

Thor : แล้วเป็นด้วยเหตุใดกัน?

Balder : มากับข้าเถิดพี่ชายของข้า เรามีเรื่องต้องปรึกษากัน

ที่ท้องพระโรง

Balder : ขณะที่ข้านั่งบัลลังค์ ข้าเอาแต่หวาดกลัวว่าจะทำตัวไม่เหมาะสมกับกฎที่ถูกตราไว้ แต่ข้ากลับไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ราชาตรากฎขึ้นมาเพื่อรับใช้ประชาชน แต่ราชาที่ปล่อยให้กฎชี้นำจนทำให้ประชาชนต้องพบกับอันตรายไม่สมควรเป็นราชา

Balder : แอสการ์ดต้องการท่าน ในเวลาแห่งความพินาศนี้ได้บอกเล่าความจริงแก่เรา ท่านต้องกลับมาที่นี่

Thor : ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักองค์ราชา

Balder : ไม่ใช่ “ราชาบาลเดอร์” อีกแล้ว ก่อนที่ท่านจะถูกเนรเทศ ท่านคือราชาของที่นี่ และเมื่อท่านกลับมาท่านก็ควรเป็นราชาอีกครั้ง

ทั้ง สองมองหน้ากันนิ่งนานก่อนที่ Thor จะกล่าวออกมาว่า

Thor : ไม่หรอก ท่านนั่นแหละคือราชา บาลเดอร์ และท่านก็ควรเป็นราชาต่อไป

Balder : ทอร์ นี่ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ยุคสมัยของข้าสมควรต้องจบลง ข้านำมาเพียงความย่อยยับ

Balder : ดูซะสิ! นี่แหละคือสิ่งที่ข้านำมา!

Thor : ไม่หรอกบาลเดอร์ นี่คือสิ่งที่เกิดจากการจากไปของข้า

Thor : การที่ข้าเป็นทั้งราชาและผู้ปกป้องไปพร้อมกันนั้นมันหนักหนาเกินไป เพียงความผิดพลาดครั้งเดียวก็ทำให้แอสการ์ดอ่อนแอและนั่นก็นำมาสู่สิ่งนี้ แม้ท่านจะครอบครองแอสการ์ดแต่อำนาจของมันถดถอยลง และคนข้างตัวท่านก็เชื่อใจไม่ได้ (พูดถึง Loki) สิ่งเหล่านั้นมันจะต้องไม่เกิดขี้นอีก

Balder : หมายความว่าท่านจะเป็นที่ปรึกษาให้ท่านเช่นนั้นหรือ?

Thor : ข้าว่าข้าคงให้คำแนะนำท่านได้ดีกว่าโลกิ

Balder : ข้าจะให้แน่ใจว่าท่านทำตามคำสัญญานั้นท่านทอร์

แต่ทันใดนั้นก็มี เสียงดังลั่นขึ้น

Balder : มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

Thor : เสียงฟ้าร้อง และสายฟ้าผ่า

Balder : รีบไปกันเร็ว

ต้นเหตุของเสียงคือ Ragnarok โคลนของ Thor ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วง Civil War โดยถูกสร้างขึ้นโดยใช้เซลของทอร์และเทคโนโลยีไซบอร์ค ด้วยฝีมือของ Hank Pym และ Reed Richard ซึ่งต่อมามันกลับบ้าคลั่งและควบคุมไม่ได้ จนฆ่า Black Goliath (Bill Foster)

(แต่ภายหลังจึงรู้กันว่า Hank Pym ในช่วง Civil War คือ Skrull ปลอมตัวมา และได้โปรแกรมโคลนให้บ้าคลั่งจนควบคุมไม่ได้ตั้งแต่ต้นเพื่อกระพือเชื้อไฟ กับทั้งสองฝ่ายให้มากขึ้นไปอีก)

หลังจากที่มันถูก Hercules ทำลายลงไปในช่วงท้ายของ Civil War มันได้ถูกเก็บไว้ในน้ำยารักษาสภาพ แต่ด้วยเทคโนโลยีของ Skrull ที่ใช้ในการสร้างมันขึ้นมามันจึงฟื้นฟูสภาพขึ้นมาได้ (แต่ก็ใช้เวลาเป็นปี) ซึ่งมันก็ต้องการสังหาร Thor เพื่อพิสูจน์ว่ามันเป็นตัวจริง

(ในช่วง Siege มันก็มาร่วมบุก Asgard ด้วยแต่มันก็พลาดโดนซากปราสาททับจนเพิ่งจะหลุดออกมาได้นี่แหละ)

Thor : เก็บดาบของท่านเถิดฝ่าบาท เพราะคนที่สมควรไปต่อสู้กับมันคือข้า

Thor : มันถูกสร้างมาจากเลือดของข้าด้วยมือของเหล่าคนเขลา มันเรียกตัวเองว่าแร็คนาร็อค มันคือการดูหมิ่นต่อทั้งแอสการ์ดแต่เหนืออื่นใดคือดูหมิ่นต่อข้า

Thor : ข้ากับมันมีเรื่องต้องตัดสินกัน

Balder : ดีแล้ว ถ้าเช่นนั้นผู้พิทักษ์แห่งแอสการ์ดเอ๋ย ลงมือได้

ทั้ง Thor และ Ragnarok พุ่งเข้าหากัน และสายฟ้าก็ผ่าฟาดไปทั่วบริเวณทันทีที่ทั้งคู่ปะทะกัน

แรงปะทะส่งทั้งคู่ลอยออกมานอกแอสการ์ด

Ragnarok : บุตรแห่งแอสการ์ดที่แท้จริงปะทะกับเมืองแห่งเหล่าเทพจอมปลอม ผู้กล้าที่แท้จริงคือผู้ที่เข้าต่อกรต่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และเอาชนะมัน

Ragnarok : และผู้กล้าก็ต้องยืนหยัดตามลำพัง

Thor : เจ้าไม่ได้ยืนอยู่ตามลำพังหรอก เจ้ากำลังยืนอยู่เหนือกองซากศพ การสร้างเจ้าขึ้นมาคือบาปมหันต์ และการโป้ปดนี้ต้องจบลงที่นี่

Ragnarok : อย่ามาคิดหลอกข้า แร็คนาร็อคผู้นี้ต่างหากคือเทพสายฟ้าที่แท้จริง!

Thor : ข้าว่าเจ้ากำลังจะได้รู้ ว่ามันไม่จริง

Thor ป้องกันและหักเหสายฟ้าของ Ragnarok ได้อย่างสบายๆ

Ragnarok : ไม่มีใครแกร่งเกินกว่าจะถูกพิชิตได้หรอก ข้าจะพิชิตเจ้าเหมือนที่ทำกับเจ้ายักษ์ผิวดำนั่น

Thor : เจ้าโอ้อวดการฆ่าคนดีงั้นรึ

Thor : เจ้าทำให้ข้ารู้สึกดีที่ว่าตอนนั้นข้ายังตายอยู่

คราวนี้ Thor ส่งสายฟ้าที่รุนแรงมหาศาลใส่ Ragnarok บ้าง และนั่นทำให้ค้อนของมันระเบิดกระจุยไปพร้อมแขนของมัน

Thor เดินเข้าหา Ragnarok อย่างแช่มช้าแต่มั่นคง

Thor : แต่บัดนี้ข้ากลับมาแล้ว

ด้วยแรงฮึดสุดท้าย Ragnarok กระโจนเข้าใส่ Thor

Thor : และเวลาของเจ้าก็จบลงเช่นกัน!

Thor ฟาดร่างของ Ragnarok จนแหลกเละยิ่งกว่าที่มันเคยโดน และครั้งนี้คงไม่มีใครเสียเวลามาเก็บซากมันกลับไปแน่

สิ่งหลงเหลือสุดท้ายที่น่ารังเกียจจาก Civil War และ Secret Invasion พินาศไปแล้ว

Balder : พวกนักรบทั้งสามรอดชีวิต แต่ความภูมิใจของพวกเขาคงต้องแบกรับรอยแผลครั้งนี้เอาไว้ ข้าดีใจที่เจ้าสิ่งนั้นมันไม่โชคดีแบบพวกเขา

Balder : ให้นี่เป็นจุดจบของการทำลายล้างเถิด พวกเราต้องบูรณะแอสการ์ดที่พินาศขึ้นมาใหม่

Thor : เราจะบูรณะซ่อมแซมปราสาทขึ้นมาใหม่ แต่ทว่าแอสการ์ดนั้น

Thor : ข้าขอบอกว่าตราบเท่าที่เราพี่น้องชาวแอสการ์ดยังร่วมยืนหยัดเคียงข้างกัน

Thor : แอสการ์ดก็จะยังคงอยู่

และนี่คือการจบสิ้น Dark Reign อย่างสมบูรณ์ และจุดเริ่มต้นแห่ง Heroic Age!!