Marvel Comic : Spider-man And The X-Men 05 : Symbiote ปะทะ Symbiote
เรื่อง : Elliott Kalan
ภาพ : Marco Failla
วางจำหน่าย: 15 เมษายน 2015
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ในการต่อสู้กับปรสิตต่างดาว Spider-man ต้องใช้พลังของพวกมันเข้าสู้กันเอง!
เปิดฉากมาที่โรงเรียน Jean Grey
บรรดาอาจารย์และนักเรียนกำลังรับมือกับสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่กลายเป็นหนังสยองขวัญไปเสียแล้ว เมื่อ Deathbird และฝูง Brood ที่ถูก Symbiote สิงสู่บุกผ่านประตูมิติเข้ามา
Spider-man : งั้นก็หมายความว่าแม่สาวคลั่งนั่นคือเจ้าหญิงนักฆ่าจากต่างดาว ที่กำลังท้องลูกของน้องชายไซคล็อบ ที่เคยเป็นจักรพรรดิ์บ้าคลั่งของดาวนั้น และเจ้าพวกสัตว์ประหลาดแมลงต่างดาวพวกนี้ก็สามารถเปลี่ยนคนที่โดนพวกมันเล่นงานให้เป็นสัตว์ประหลาดแมลงต่างดาวไปด้วยงั้นเหรอ?
Beast : และนายกำลังบอกฉันว่าเจ้าพวกแมลง-บรูดพวกนี้ได้รวมร่างพวกมันเข้ากับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีร่างเป็นกึ่งของเหลวที่ทำให้คนที่สวมใส่พวกมันเสียสติไป และถูกเรียกว่า “ซิมไบโอต” ทั้งที่น่าจะเรียกว่า “พาราไซต์” (ปรสิต) ซะมากกว่างั้นหรือ?
Both : ให้ตายสิ นายมีตัวร้ายที่พิลึกเป็นบ้าเลย
แม้ Spidey จะไม่รู้จักทั้ง Deathbird และ Broods ดีนัก แต่เขารู้จัก Symbiote เป็นอย่างดี และจุดอ่อนของพวกมันนอกจากเสียงดังแล้วก็คือ…ความร้อน!!
เขาจึงบอกให้ Firestar ใช้พลังไฟยิงใส่พวกมันจนต้องถอยทัพกลับเข้าไปในประตูมิติ
Firestar ใช้พลังไฟมากไปจนหมดแรง แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายไปได้
Storm : ฉันไม่เข้าใจเลย เมื่อตอนที่เราเจอหล่อนครั้งล่าสุด เดธเบิร์ดอยู่ในความคุ้มครองของ S.W.O.R.D. นี่นา แล้วทำไมเจ้าหล่อนถึงเล่นงานพวกนั้นกันล่ะ?
Spider-man : ในกรณีนั้นนะสตอร์ม คุณพนันได้เลยว่าเป็นเพราะชุดใหม่ที่เจ้าหล่อนสวมอยู่นั่นแหละ ซิมไบโอตจะทำให้คนที่ถูกพวกมันสิงสู่กลายเป็นบ้าเสียสติไปได้ เชื่อฉันได้เลย เพราะฉันเคยสวมพวกมันมาก่อน
Rachel ยังฉุนไม่หายและไปโวยใส่ Spidey ต่อจน Beast ต้องมาห้ามทัพไว้ เนื่องจากเรื่องวุ่นๆนี้ยังไม่จบ พวกเขายังต้องตามไปยังฐานของ S.W.O.R.D. เพื่อหยุดยั้งพวก Symbiote
ว่าแล้ว Spidey กับ Beast ก็พุ่งเข้าประตูมิติไป ซึ่งแน่นอนว่าบรรดานักเรียนห้องพิเศษก็ไม่รอช้าและตามไปเช่นกัน
ที่อีกด้านของประตูพวกเขาพบว่าฐานของ S.W.O.R.D. ถูกทำลายจนพังเละเทะ
พวก Brood Symbiote โผล่มาทำให้พวกเขาต้องฟัดกับพวกมันอีกรอบ
Beast : เราจะให้พวกมันใช้ประตูมิติไม่ได้!
Rockslide : เรียบร้อยแล้ว!
ยังไม่ทันที่อาจารย์ทั้งสองจะทันทำอะไร Rockslide ก็ทุบประตูมิติจนพังไปเป็นที่เรียบร้อย
Beast : นั่น…ไม่ใช่…ที่ฉันหมายความถึงน่ะนะ
Spider-man : ร็อคสไลด์ ตอนนี้เราติดแหง็กอยู่ที่นี่โดยไม่มีกำลังเสริมแล้วนะ! ซึ่งเรากำลังต้องการมากๆด้วยเพราะพวกเราที่นี่ไม่มีใครมีพลังไฟหรือพลังคลื่นเสียงเลย!
Rockslide : โอ้ให้ตายสิ ขอโทษครับ’จารย์ ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมฆ่าทุกคนอีกแล้ว
แต่ในตอนที่กำลังซัดกันนัวเนียนั่นเอง Eye-Boy ก็สังเกตุว่าพวก Broods อ่อนแอลงอย่างมาจนแม้แต่เขาก็ยังจัดการพวกมันได้?!
มันเป็นเพราะว่าพวก Symbiote ใช้งานพวก Broods ที่พวกมันสิงสู่จนหมดแรงขยับไม่ไหวแล้วนั่นเอง และตอนนี้พวกมันก็กำลังต้องการร่างสิงสู่ใหม่
(ถ้า Symbiote ไม่แคร์ Host ของพวกมัน มันก็จะใช้ Host จนหมดแรงแล้วฆ่าทิ้งก่อนจะย้ายไปสิงสู่ร่างอื่นต่อ)
ทว่าก่อนที่พวกมันจะทันได้ทำ Hellion ก็ใช้สนามพลังขังพวกมันไว้ทั้งหมด
ตอนนั้นเอง Abigail Brand หัวหน้าขององค์กร S.W.O.R.D. และแฟนของ Beast ที่โดน Symbiote สิงสู่ก็เข้าเล่นงานเขา
Beast : จะให้มันเล่นงานนายไม่ได้! สไปเดอร์แมน นายไปเลยไม่ต้องห่วงฉัน แล้วไปหยุดเดธเบิร์ดซะ!
Spider-man : แน่ใจนะว่านายไม่ต้องการความช่วยเหลือน่ะ?
Beast : ฉันรับมือไหวน่ะ ว่าไปแล้ว มันก็ไม่ต่างกับตอนที่เราจู๋จี๋กันเท่าไหร่น่ะนะ
Spider-man : อึ๋ย ไม่ค่อยอยากได้ภาพนั่นในหัวฉันเท่าไหร่นะ
พวกเขาเลยให้ Eye-Boy มองหาร่องรอยของพวก Brood ซึ่งเขาก็ตามร่องรอยความร้อนจากร่างกายของพวกมันไป แต่พอถึงจุดหนึ่งเขากลับพบว่าร่องรอยความร้อนของพวก Brood หายไป?
เพราะว่าพวก Symbiote ย้ายไปสิงสู่ร่างของพวกเจ้าหน้าที่ S.W.O.R.D แทนและฆ่าพวก Brood ไปหมดแล้ว!
งานนี้ทุกคนเลยต้องถอยไปตั้งหลักก่อน
แต่ Ernst ก็บอก Spider-man ว่า No-Girl รู้สึกถึงความคิดของ Deathbird ได้และคิดว่าพวก Symbiote กำลังหลอกล่อให้พวกเขา…
ไปติดกับหล่อนที่กำลังรออยู่…
Spider-man : เดธเบิร์ด เธอไม่รู้จักฉันก็จริงนะ แต่ฉันรู้จักเจ้าเมือกดำนั่นดีเลย ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างในนั้น เธอจะต้องสู้มันนะ
Symbiote : เดธเบิร์ดไม่ใช้ผู้ที่ควบคุมร่างนี้อีกแล้ว พลังของนางเป็นของพวกเรา ลูกของนางเป็นของพวกเรา และมันก็จะครอบครองแกแล็กซี่นี้ให้เรา
Symbiote : และเราก็จะนั่งบนบัลลังก์ที่สร้างขึ้นจากกระดูกของพวกแก!
Spider-man : ยัยนี้แข็งแรงเกินไปแล้ว! สู้มันเดี่ยวๆ แบบนี้ท่าจะไม่ไหว เฮลเลี่ยน ปล่อยเจ้าพวกบ้านั่นออกมาให้ฉันตัวซิ! ฉันต้องการมัน!?!
Hellion : เอาจริงดิ?! นี่คุณยังบ้าไม่พออีกหรือไง?
Spider-man : โน-เกิล แสดงให้ดูซิว่าฉันไว้ใจเธอได้ เพราะในการจะกันเจ้าพวกนั้นไม่ให้ควบคุมหัวสมองของฉัน ฉันต้องการใครสักคนมาระวังสมองของฉันให้! นั่นมันฟังดูสมเหตุสมผลไหมเนี่ย?
ว่าแล้ว Spidey ก็เอามือล้วงเข้าไปในช่องของสนามพลังที่ Hellion เปิดขึ้น แล้วดึงเอา Symbiote ตัวหนึ่งมาสวมร่างเพื่อเพิ่มพลังให้ตนเอง!!
ขณะเดียวกันนั้น ในหัวของ Spidey นั้น No-Girl ก็ต้องรับหน้าที่ต้านจิตของ Symbiote ไม่ให้เข้าควบคุมจิตใจของเขา!!
แม้ต่างฝ่ายจะสวม Symbiote แต่ Spidey ที่ต้องสู้โดยไม่ต้องการจะทำร้าย Deathbird ก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ในขณะที่ No-Girl ก็จะต้านจิตของ Symbiote ไว้ไม่ไหวแล้ว…
เขาพยายามครั้งสุดท้ายโดยการเกลี้ยกล่อม Deathbird ให้ต่อต้านการควบคุมของพวกมันเพื่อปกป้องลูกในท้องของเธอ!
แล้วมันก็ได้ผล! Deathbird สลัดการควบคุมของ Symbiote และเอามันออกจากตัวของเธอได้สำเร็จ!
แต่ในขณะเดียวกันนั้น No-Girl ก็สู้จิตของ Symbiote ไม่ไหวอีกต่อไปและหมดสติไป ทำให้ตอนนี้ Symbiote ยึดร่างของ Spider-man ไปเสียแล้ว!!
ในขณะที่สถานการณ์กำลังเลวร้ายนั้นเอง คลื่นเสียงแรงสูงก็ยิงโดน Spider-man เต็มๆและขับเอา Symbiote ออกจากร่างของเขา
Beast : การสร้างปืนแสงพลังคลื่นเสียงมันใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่การได้ยิงสไปเดอร์แมนมันก็ทำให้ความลำบากนั้นมันคุ้มค่าสุดเลยเชียว
Abigail : ขอบใจที่มาช่วยนะเด็กๆ ฉันว่าบทเรียนของครั้งนี้คือ คราวหน้าเมื่อมีพวกบรูดโผล่มาขอลี้ภัย ให้ยิงก่อนได้เลย
พวก S.W.O.R.D. จะจัดการโยนพวก Symbiote ทิ้งไปนอกอวกาศ แต่ปัญหาคือระบบพยุงชีวิตของฐานนี้ได้รับความเสียหายและเมื่อต้องใช้หลายส่วนในการดูแล Deathbird ที่กำลังจะคลอดลูก พวก Spidey ที่เป็นคนนอกจึงต้องออกไปจากที่นี่ แต่ปัญหาคือยานอวกาศที่ยังใช้งานได้ในตอนนี้เหลือเพียงยานเล็กที่ไม่มีเกราะสำหรับกันความร้อนขณะเข้าสู้บรรยากาศโลก
ตอนนั้นเอง Glob ก็เสนอตัวขึ้นมา
และดังนี้เกราะกันความร้อนเฉพาะกิจที่เสนอตัวมาเองก็ถูกติดตั้งไว้กับยาน…
Glob : บางทีฉันอาจไม่ควรจะเสนอตัวงานนี้นะเนี่ย…
Glob : …แต่ฉันว่าถ้านายคนของกระทิงแดงนั่นสามารถทำได้ล่ะก็…
(หมายถึง “Red Bull Stratos” ที่นักดิ่งพสุธาชาวออสเตรีย Felix Baumgartner โดดจากความสูง 39 กิโลเมตร หรือจากบรรยากาศชั้นสตราโตสฟียร์และลงมาสู่พื้นได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2012 โดยมีสปอนเซอร์คือเครื่องดื่มกระทิงแดง)
แล้วพวกเขาก็เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
Glob : นี่! มัน! ห่วย! สุดๆเลยยยยยยย!!!!
ในที่สุดพวกเขาก็ลงถึงพื้นโลกจนได้ แต่ Glob ล่ะ?
Spider-man : กล็อบนายปลอดภัยไหม?!
Rockslide : กล็อบ เพื่อนยากนายช่วยเราไว้!
Hellion : นั่นมันสุดยอดสุดๆ ไปเลย!
Ernst : ฉันรักเธอกล็อบ! เธอเป็นวีรบุรษของฉัน!
Sharkgirl : โอแย่แล้ว เขาละลายเละเลย
Spider-man : ได้โปรดเถอะกล็อบ บอกเราหน่อยว่านายยังมีชีวิตอยู่!
แล้ว Glob ก็ชูนิ้วโป้งให้ Spidey
Spider-man : ต้องอย่างนั้นสิ! ฉันยังไม่ได้ฆ่านักเรียนไปซักคน!!
หลังจากนั้นที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน
Rockslide : เขาเป็นไงบ้างครับ’จารย์?
Spider-man : ดร.เรเยสบอกว่าเขาน่าจะไม่เป็นไร ไม่มีการเสียกายภายในนอกจากกระดูกร้าวบางจุด และดูเหมือนว่าเจลของเขาก็ฟื้นสภาพได้เร็วด้วย
Spider-man : โน-เกิล มาคุยกับฉันหน่อยนะ
Sharkgirl : เขากล้าหาญมากจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำแบบนั้นได้ไหม…
Hellion : แน่นอนอยู่แล้วสิไออาร่า เธอก็เป็นเอ็กซ์เม็นเหมือนกับกล็อบนั่นแหละ
ที่ในห้องของ Spider-man
Spider-man : ฉันว่าตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าคนหนึ่งในพวกเธอเป็นสายลับที่ทำงานให้กับผู้ร้าย ซึ่งก็ต้องบอกว่าการที่เธอลบความทรงจำของอ.เกรย์มันก็ทำให้เธอน่าสงสัยเอามากๆเลย
Spider-man : แต่วันนี้เธอก็เพิ่งจะเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อฉัน เพราะงั้นบอกฉันมาเธอเพื่อว่าฉันจะได้รู้ว่าจะคิดยังไง เธอคือสายลับหรือเปล่า?
แต่ทันใดนั้นก็มีใครบางคนพูดขึ้นพร้อมกับที่สัมผัสแมงมุมร้องเตือน…
Ernst : อ.สไปเดอร์แมนคะ ฉันรู้ว่ามันเสียมารยาทที่มาขัดจังหวะ แต่ฉันรู้แน่นอนค่ะว่ามาธาร์ไม่ใช่สายลับ…
Ernst : …เพราะฉันต่างหากที่เป็นสายลับ ใช่ไหมล่ะคะมิสเตอร์ซินิสเตอร์?
โปรดติดตามตอนต่อไป
Mister Sinister (Nathaniel Essex) เป็นอดีตลูกน้องของ Apocalypse ที่ภายหลังแยกตัวออกมา ซึ่งเดิมทีเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาแต่ถูก Apocalypse ดัดแปลงร่างกายจนมีพลังเหนือมนุษย์ และยังหาพลังพิเศษหลายๆอย่างมาเพิ่มให้ตัวเองอยู่เรื่อยๆโดยการวิจัยทางพันธุกรรมและโคลนนิ่งยีนส์ของ Mutant ซึ่งหมอนี่มีความสนใจในตัว Cyclops และ Jean Grey เป็นพิเศษ
ตานี้เป็นคนธรรมดาตอนแรกเหรอนะ ผมนึกว่าเป็นมิวเทน แล้วไปหารหัสDNAมาเพิ่มพลังให้ตัวเองซะอีก