Brightest Day #0
เรื่อง : ฺ Geoff Johns และ Peter J. Tomasi
ภาพ : Fernando Pasarin
ปก : David Finch และ Ivan Reis
วางจำหน่าย: 14 เมษายน 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics
วันคืนอันมืดมิดผ่านไป วันสดใสก็มาถึง เหตุการณ์ผลพวงจาก Blackest Night เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“มันคือวันใหม่”
วันรุ่งขึ้นหลังจากคืนอันมืดมิด ที่เมือง Gotham City เหล่าลูกนกต่างร้องเพราะความหิวโหยรอให้แม่นำอาหารมาให้ แต่นกตัวนึงกลับตกลงมาด้านล่าง ข้างๆสุสานของ Boston Brand
“หลังจากเหตุการณ์พวกนั้น เขาว่ากันว่าวันนี้คือวันที่สดใส เรื่องนั้นผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร”
Boston Brand ผู้มีชีวิตเขาถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยพลังของ Entity ต้นกำเนิดแห่งชีวิต ได้มายืนบนป้ายหลุมศพของตัวเอง
“ผมชื่อ บอสตั้น แบรน ผมเคยเป็นนักกรรมผาดโผนไร้ตาข่าย จนกระทั่งโดนยิงขณะที่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต กระสุนยิงทะลุกระดูกสันอกออกจากหลังผม แต่มันก็ไม่ทำให้ผมตาย”
“ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมไม่แน่ใจว่าทำไมวิญญาณของผมยังไม่ไปไหน มีภาระที่ต้องช่วยผู้อื่นไปนิรันดร์ ไม่มีใครเห็นและได้ยินเสียงผม เว้นแต่ผมจะเข้าสิงคนอื่น”
แต่เมื่อเขามีชีวิตกลับมาแล้ว ป้ายสุสานนี้จะมีไว้ทำไมกัน Boston หยิบค้อนขึ้นมาและหวดมันลงไปที่ป้าย
“พวกเขาเรียกผมว่า เดดแมน”
“แต่ เดดแมน ได้จากไปแล้ว ไปพร้อมกับประกายของแสงสว่าง”
เมื่อ Deadman จากไปหน้ากากนี้จึงไม่จำเป็นอีก
“ผมกลับมาแบบไร้บ้าน ไม่มีงาน ไม่มีความปรารถนาจะได้สิ่งใด และ ความเจ็บปวดของหัวเข่าขาซ้าย ผมไม่แน่ใจว่าจะหันไปพึ่งใครดี ความจริงคือ ผมเป็นคนที่เลวมากตอนที่ยังมีชีวิต ผมไม่เคยสนใจเรื่องชีวิต จนกระทั่งเสียมันไป”
เมื่อ Boston หันไปดูข้างๆก็เห็นนกน้อยที่ตกลงมาตาย
Boston : ให้ตายเถอะ
เขาเข้าไปหยิบร่างไร้ชีวิตของลูกนก และก็มองขึ้นไปบนต้นไม้ก็เข้าใจว่านกคงตกลงมาตาย น่าสงสารเสียจริง
แต่ทันใดนั้นเองแหวน White Lantern ที่อยู่ในมือของเขาก็เปล่งแสงขึ้น
“จงมีชีวิต”
ร่างของลูกนกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง Boston จึงพาลูกนกกลับไปที่รังของมัน แต่แหวนก็ส่องแสงขึ้นมาอีก
“บอสตั้น แบรน แห่ง โลก”
“ช่วยข้า”
แล้วร่างของ Boston ก็หายไป
ที่อ่าว Amnesty
Mera ตื่นนอนขึ้นมาก็พบว่าสามีของเธอไม่อยู่บนเตียง
เมื่อเดินออกมาจากหอประภาคาร ก็พบว่าสามีของเธอ Aquaman ได้มายืนชมวิวคิดเรื่องต่างๆนาๆอยู่
Mera : อาเธอร์ คุณทำอะไรอยู่
Arthur : ผมไม่อยากปลุกคุณ
Mera : แต่ถ้าคุณปลุกฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ
Arthur : ผมกำลังจะไปว่ายน้ำ ผมยังไม่ได้ว่ายเลยตั้งแต่…
Mera : ตั้งแต่กลับมาจากความตายใช่ไหมค่ะ
Arthur : มันยากที่จะพูด และยากที่จะนึกถึง แต่ทำไมถึงเป็นผมเมร่า ทำไมผมถึงได้กลับมาแต่คนอีกหลายคนไม่ได้ อยาง การ์ธ และ ตูล่า
(หมายถึง Aqualad กับ Aquagirl)
Mera : อย่างน้อย การ์ธ และ ตูล่า ก็ไปอยู่ด้วยกันแล้ว
Arthur : ก็น่าจะเป็นแบบนั้น
Mera : ฉันคงไม่ต้องตอบว่าทำไม อาเธอร์ และฉันคิดว่าคงจะไม่มีใครตอบได้ แต่คุณอยู่ที่นี่แล้วกับฉัน
Arthur : และมันก็สวยงาม
Mera : งั้นก็อย่าเสียเวลาเลยค่ะ
Mera กระโดนลงน้ำไปก่อนแต่ Arthur ยังคงไม่แน่ใจว่าการที่เขาฟื้นขึ้นมาคือสิ่งที่ถูกต้อง
Mera : คุณจะไม่ลงมาเหรอค่ะ
Arthur : ไม่รู้สิ
Arthur : ผมรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ เมร่า
บนภูเขา Boston ได้ยื่นมอง Arthur และ Mera พูดคุยกันโดยที่เขาไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
“นั่นใครกัน อควอแมนใช่ไหม เขาทำอะไรที่นี่ ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่”
ร่างของ Boston ก็หายไปอีกครั้ง
ที่คุก Iron Heights เรือนจำที่กักขังศัตรูของ Flash
Boston ปรากฏตัวขึ้นมาหน้าห้องขังของ Thawne Eobard หรือ Reverse Flash
“ผมรู้จักหมอนี่ ข่าวร้าย ทำไมแสงสว่างถึงคืนชีพให้ ไอ้โรคจิตจากศตวรรษ ยี่สิบห้า”
ทันใดนั้น Barry Allen มนุษย์ที่เร็วที่สุดในโลกก็ปรากฏตัว
เขาหยุดลงตรวหน้าห้องขังของ Digger Harkness วายร้ายที่รู้จักกันในนาม Captain Boomerang
Digger : นี่เช้าแล้วหรือยังมืออยู่ พออยู่ข้างล่างนี้ฉันก็ไม่รู้ว่ามันตอนไหน
Barry : เช้าแล้ว บูมเมอแรง แปดโมง
Digger : นายต้องการอะไรตั้งแต่เช้าเนี่ย
Barry : ฉันเสียใจด้วยเรื่องลูกของนาย
Digger : ยินดีต้อนรับสู่ธุรกิจครอบครัว
(Owen Mercer ลูกชายของ Digger ถูกฆ่าตายโดยร่าง Black Lantern ของ Digger ใน Blackest Night : Flash)
Barry : จากหลายๆคนที่โดนฝั่งลึกลงไป หกฟุต นายได้โอกาสครั้งที่สองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ดิกเกอร์ และฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกนายว่าไม่ต้องคิดมากในเรื่องต่างๆ
Digger : คิดมากเรื่องอะไรฟ่ะ
แล้ว Barry ก็ทะลุเข้ามาในห้องขังของ Digger
Barry : ก็อย่าคิดมากหาเรื่องให้ตัวเองงานเข้า และไปทำร้ายผู้คน แล้วจะทำให้ฉันต้องไล่ล่านาย
Digger : หลายปีก่อนมันมีหนังอยู่เรื่องนึงที่ได้รางวัลมาเยอะแยะ ว่าด้วยเรื่อง ผู้ชายคนนึง เป็นนายธนาคาร ถูกตัดสินความผิดว่าฆ่าเมียตัวเอง มันหักมุมตรงที่ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่พวกนั้นก็ไม่ยอมปล่อยเขาออกมา เป็นหนังที่โคตรดี นายได้ดูไหม
(หมายถึงเรื่อง The Shawshank Redemption ที่ฉายในปี 1994)
Barry : ฉันพลาดหนังหลายเรื่อง
Digger : ก็แหงล่ะ
Barry : และถ้านายจะบอกว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
Digger : ไม่ ไม่ใช่เรื่องนั้น มันเป็นเรื่องของชายที่ไม่มีอะไรต้องเสีย เขามีสองทางเลือก ว่าจะมีชีวิตต่อ หรือ จะตาย ทำไมถึงเป็นฉัน แทนที่จะเป็น ลูกฉัน ไม่ก็น้องของ กัปตันโคล หรือเพื่อนติ๊งต๊อง อีลองเกทแมน ของนาย ฉันจะไปรู้ได้ไงวะ แต่ฉันจะไม่ยอมนั่งเฉยๆ แล้วจมอยู่ที่นี่หรอก
Barry : นี่นายขู่เหรอ
Digger : ไม่ใช่ มันคือความจริง
แล้ว Barry ก็จากไป
ขณะเดียวกันที่ พิพิธภัณฑ์ Stonechat สถานที่พักพิงของ Hawkman และ Hawkgirl
Carter Hall พยายามหยิบสิ่งของต่างๆที่เขากับ Sheira Hall เคยใช้ร่วมกันในชาติที่แล้ว มาถามกับ Shiera ว่าเธอจำได้ไหม ซึ่งเธอก็ตอบได้
Carter : อันนี้ล่ะ
Shiera : แลงดา ราชินีปีศาจ แลงดา สาปให้พวกเรา ต้องใช้อาวุธห่ำหั่นกันเอง เป็นหนึ่งในจุดจบของพวกเราที่ แย่มากเลยล่ะ
Carter : แล้วนี่ล่ะ เชียร่า
Shiera : อ้า อัศวินไซเรน ของฉัน ฉันคือเซเรีย ส่วนคุณก็ เบน เคนท์ ในปี หนึ่งพันห้าร้อยแปดสิบสี่ ช่างหนาวเย็นนักในอังกฤษ จำได้ไหมว่าเราทำตัวให้อุ่นยังไง
ทันใดนั้น Boston ก็โผล่เข้ามา เห็น Carter และ Sheira กำลังระลึกวิธีทำร่างกายให้อุ่นอยู่ ^^
ดูท่าทั้งสองจะไม่สามารถมองเห็น Boston ได้ และในเข็มขัด Hawkgril ของ Shiera ก็มีเสียงดังออกมา
“รัก”
ระหว่างที่จูบกัน Carter กลับมองเห็นร่างของชาติก่อนๆของพวกเขา
Shiera : เป็นอะไรไปคาเตอร์
Carter : ผมเห็นวิญญาณชาติที่แล้วของเรา พวกเขาอยู่รอบๆ คอยเตือนผมว่า ช่วงเวลาความสุขนี้มันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือป่าวที่ผมจูบคุณ แล้วคำสาปจะพากเราสองคนไปอีก เชียร่า นี่จะเป็นคืนสุดท้ายหรือป่าว ที่ผมจ้องดวงตาของคุณ และคุณก็จำผมได้ ว่าคุณรักผม หลังจากที่ผ่านมาแล้วนับพันปี เราจะอยู่ด้วยกันได้นานแค่ไหน กว่าจะมีคนมาเข็นฆ่าเราอีก
Shiera : ไม่เข้าใจเหรอที่รัก คำสาป ในทางตรงกันข้าม มันคือคำอวยพร มันบังคับให้เรามีชีวิตอยู่ ใช่ ฉันจำได้ถึงวันที่เสียคุณไปเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวาน คุณก็เคยพูดมาก่อนครั้งนึง ว่าอดีตของพวกเรา เราต้องใช้ประโยชน์จากมัน เป็นอาวุธที่น่าอัศจรรย์ ถ้าคุณรู้จักที่จะยอมรับมัน ฉันจะไม่หยุดรักคุณ เพราะว่าฉันมีโอกาสที่จะเสียคุณไปอีก
Shiera : ฉันเหนื่อยจะต้องมาระลึกถึงช่วงชีวิตที่เราตาย มันได้เวลาที่เราจะคิดถึงช่วงชีวิตความสุขของพวกเรา
Carter : คุณพูดถูก
แต่แล้วของบางอย่างที่อยู่ในเข็มขัดก็พุ่งเข้าไปติดกับถุงมือของ Hawkman เขาพยายามจะแกะมันออกแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
Carter : ผลึกนี่มันอะไรกัน
Shiera : มิริ แห่ง สตาร์ แซฟฟาย ให้ฉันมา เธอบอกว่ามันคือส่วนหนึ่งของหัวใจ ซามารอน
Carter : เธออธิบายแค่นั้นเหรอ
Shiera : ใช่ แล้วเธอก็บินจากไป
Carter : มันไม่ยอมหลุดออกมาเลย ติดยังกับแม่เหล็ก
อยู่ดีๆถุงมือก็ขี้นิ้วขึ้นด้านบน
Shiera : คุณคิดว่ามันหมายความว่าไง
Carter : มันคงจะบอกให้เราบินขึ้นไป
Carter และ Shiera จึงสวมสุด Hawkman และ Hawkgirl บินขึ้นไปบนฟ้าบินไปตามที่ถุงมือได้ชี้ทางไปให้
Carter : ดูเหมือนว่าเรากำลังบินลงไปทางทิศใต้
ที่ห่างไกลบนยอดเขา Peruvian Andes ใน อเมริกาใต้
ทีมนักสำรวจได้ค้นพบ ซากกระดูกชาติแรกของ Hawkman และ Hawkgirl และได้ทำการยึดไป
Carter และ Shiera ต่างสัมผัสได้เหมือนว่ามีคนแตะต้องพวกเขาอยู่
ด้าน Maxwell Lord ผู้ที่ฆ่า Ted Kord หรือ Blue Beetle ตายไปในเหตุการณ์ Countdown to Infinite Crisis กำลังทำการทดลองบางอย่างกับตัวเขาเอง โดย Maxwell บอกว่าถ้าการทดลองนี้ไม่สำเร็จเขาจะตายแน่นอน
พูดจบก็นำเอาเข็มเสียบเข้าที่คอ เลือดของ Maxwell ไหลออกมาไม่ขาดสาย
ไม่นานนักเลือดก็เต็มทั่วใบหน้าของเขา ในขั้นตอนสุดท้ายเขาก็กระชากเข็มออกมาทิ้งร่างตัวเองลงไปในบ่อน้ำแข็งด้านล่าง
แล้ว Boston ก็โผล่เข้ามาเขาจ้องมองร่าของ Maxwell Lord และครุ่นคิดเรื่องต่างๆที่ Maxwell เคยทำ ทั้งการเข้าคุมควบจิตใจของ Superman เพื่อที่จะไล่ฆ่าเพื่อนฮีโร่ด้วยกันเอง แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะ Wonder Woman ได้หักคอเขาตายซะก่อน
จากนั้นแหวนขาวก็นำพา Boston มายังดาวอังคารดาวบ้านเกิดของ J’onn J’onzz ที่ดูเหมือนว่าจะมีคนสองคนบินมาเยี่ยมเขา
Hal และ Guy แห่ง Green Lantern นั้นเองพวกเขามาเยี่ยมเพื่อนเก่าหลังจากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
J’onn : ฮาล กาย สวัสดี
Hal : หวังว่าเราคงไม่ได้มารบกวนอะไรนายนะ
Guy : เรามาที่นี่เพื่อมาเล่นง่ายนาย ข้อหาออกมาจากโลกเร็วนัก
J’onn : ช่างน่ายินดีเหลือเกินที่ได้เจอคนที่คุ้นเคย
Guy : นี่ ฉันเอาของมาให้ด้วยนะ
พอเปิดถุงออกมาก็พบว่าเป็นขนมคุ๊กกี้
Guy : ทา ดา! ได้เวลาหม่ำขนมแบบ กาย แล้ว
J’onn : ฉันหวังว่าพวกนายจะเอานม มาให้กินล้างปากจากขนมด้วยนะ
Guy : แหมรู้ด้วยว่าเอามา นี่นมจาก สูตรมาม๊ากาย
J’onn : ขอบใจมากกาย
Hal : บ้านนายนี่สวยดีนะ
J’onn : ให้ฉันได้พานายไปดูทั้งหมดก่อนเถอะ
จากนั้น J’onn ก็พาเพื่อนทั้งสองออกไปชมด้านนอก ที่พื้นผิวของดาวอังคารมีไอน้ำพุ่งขึ้นมา โดย J’onn บอกว่าเขาได้ค้นพบขั้นน้ำใต้ดินของ ดาวอังคาร และหวังว่าเขาก็จะดูแลมันให้กลับมาทำให้ดาวอังคาร มีชีวิตอีกครั้ง แต่ในความหวังก็ยังมีความโกรธ ความโกรธที่ว่าแสงสว่างไม่นำ ลูกและภรรยากลับมามีชีวิต
หลังจากพูดคุยเสร็จ Hal และ Guy ก็ขอตัวเดินทางกลับโลก
จากนั้น Boston ก็ถูกพามาที่ OA บ้านของกลุ่ม Green Lantern
Jade ลูกสาวของ Alan Scott กำลังฝึกใช้พลังแหวนกับ Soranik Natu ลูกของ Sinestro
ทั้งสองต่างเป็นคนรักของ Kyle Rayner โดยที่ Jade นั้นคืออดีตส่วน Soranik คือปัจจุบัน
Jade บอกว่าสายตาที่ Kyle มองมาที่เธอไม่เหมือนก่อนแล้ว ต่างกับที่มองไปที่ Soranik มันมีประกาย เหมือนกับตอนที่ Kyle ยังรักกับเธออยู่ Jade คิดว่าคงไม่มีใครจะยอมรับเธอแล้ว
Jade : ฉันไม่รู้ว่าจะเข้าไปใช้ชีวิตกับผู้คนอื่นๆได้อีกไหม ฉันตายไปนานมาก
Kyle : ไม่หรอก
Kyle : เธออยู่ในใจของพวกเรามาตลอด สิ่งที่เธอต้องทำก็คือเปิดประตูเจน เพราะคนที่อยู่ข้างในเขาคิดถึงเธอและรอที่จะให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา โดยเฉพาะพ่อของเธอ อลัน เขาเศร้าโศกตั้งแต่เขาเสียเธอไปในการต่อสู้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนต้องการมีชีวิตยืนยาวกว่าลูกหรอก
Jade : แล้วทำไมฉันยังมีชีวิตอยู่ล่ะ ไคล์
Jade : ทำไมแหวนขาวถึง เลือกฉันล่ะ ฉันพิเศษกว่าคนอื่นตรงไหน ตอนที่ฉันยังเป็น แบลค แลนเทิร์น ฉันฆ่า กรีน แลนเทิร์น ไปหลายคน ด้วยพลังของแหวนดำ
Kyle: เธอไม่ได้ฆ่าใคร เจน
Jade : ฉันพยายามจะฆ่าคุณด้วย ไคล์ นาตู ก็ด้วย
Kyle : ฟังนะ เธอต้องลืมเรื่องพวกนี้ซะ เธอถูกเนครอนใช้เป็นเครื่องมือ เหมือนวิญญาณที่น่าสงสารอีกมากมาย ไม่ได้เป็นอาวุธจากความโกรธหรือความกลัว แต่เป็นอาวุธจากความรัก เจน เพราะว่าสิ่งที่เธอเป็นเธอมีความหมายต่อหลายๆคน
พูดเสร็จ Kyle และ Soranik ก็ชวน Jade บินไปด้วยกันแต่ทว่า มือของ Jade กลับส่องแสงออกมาเป็นรูปสัญลักษณ์ White Lantern
Kyle : และตอนนี้เธอก็กลับมา มันได้เวลาที่จะลืมเรื่องอดีตทั้งหมด และใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
Jade : ตะกี้มันอะไรน่ะ
ที่ New York
Ray Palmer และ Professor Steinได้เดินทางมางานศพของ Gen แฟนสาวของ Jason หรือ Firestorm ในปัจจุบัน Jason ยังคงทำใจไม่ได้ที่เธอต้องมาตายด้วยน้ำมือของเขาเองขณะที่รวมร่างกับ Ronnie Raymond เป็น Black Lantern Firestorm ฆ่าเธอ
ในไม่ช้า Ronnie ก็เดินเข้ามาในงานศพทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและบอกว่าที่เขามาสายเพราะเมื่อคืนเพื่อนๆและครอบครัว Ronnie จัดการเลี้ยงฉลองที่เขาได้กลับมา
Stein : ไปคุยกับเจสัน หน่อย โรนัลด์
Ronnie : ผมยังไม่รู้จักเขาเลย ศาสตราจารย์ผมควรจะพูดอะไรกับเขา
Stein : อะไรก็ตามที่อยู่ใจ
Ronnie : เอ่อ เจสัน
Jason : นายมาทำอะไรที่นี่
Ronnie : ก็ฉันคิดว่าฉันควรมา ไม่รู้สิ ฉันเสียใจด้วยที่เธอตาย
Jason : นายเสียใจเหรอ แฟนฉันไม่ใช่แค่ตาย เธอโดนทรมาน และเราสองคนก็ร่วมกันทำ นายเอาสูตรในสมองฉันไปทำให้เธอเป็นเกลือทั้งตัว
Jason : นายทำให้ฉันต้องเป็นผู้สมคบในการฆ่าเธอ
Ronnie : เฮ้ ฉันไม่ใช่คนเลวนะ เจส
Jason : อย่ามาเรียกฉัน เจส ฉันชื่อ เจสัน
Ronnie : ไอ้ แบลค แลนเทิร์น ไฟสตอรม ต่างหากที่ฆ่าแฟนนาย เจสัน
Jason : โอ้ แม้กระทั่งชื่อของแฟนฉันนายก็จำไม่ได้ใช่ไหม
Ronnie ไม่ตอบเพราะเขาจำชื่อไม่ได้จริงๆ
Jason : พูดมาเซ่ พูดชื่อเธอมา!
อารมณ์ของ Jason โมโหสุดขีดแล้ว เข้าง้างหมัดและเข้าไปต่อย Ronnie
Jason : บอกชื่อเธอมา!
พอทั้งสองสัมผัสกันก็รวมร่างเป็น Firestorm
Jason : แกทำอะไรของแก เนี่ย
Ronnie : ฉันไม่ได้ทำอะไร เลยนะ
Ray เห็นท่าไม่ดีเลยรีบย่อตัวเป็น Atom ส่วน Boston ก็หายตัวไปอีก
ที่เมือง Kahndaq ประชาชนต่างยินดีต้อนรับการกลับมาของ Amon Tomaz
และเมื่อ Amon เดินมาถึงรูปปั้นของ Teth-Adam กับ Adrianna (Black Adam และ Isis) เขาก็แปลงร่างไปเป็น Osiris และสาบานกับประชาชนว่าจะ ฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมาเหมือนเดิม และเขาก็พารูปปั้นของ Teth-Adam และ Adrianna บินขึ้นไปบนฟ้า
(Teth-Adam และ Adrianna โดนพ่อมด Shazam สาปให้กลายเป็นหิน)
ที่ Verginia
Dove กับ Hawk กำลังตามรอยของพ่อค้าขายอาวุธ
และบุกเข้าโจมตี โดนที่ Boston ยืนมองดูอยู่ห่างๆ
หลังจากนั้น Boston ก็โผล่มาสถานที่ Star City ที่เคยเป็นเมืองมาก่อนแต่ตอนนี้เหลือแต่ซากบ้านเมืองที่ถล่มยับเยิน
“ผมอยู่ที่ไหนแล้ว ดูเหมือนจะมีระเบิดเกิดขึ้นที่นี่”
“ใช่มันเกิดขึ้นจริงๆ ผมจำสภาพซากเหล่านั้นได้ในทีวี ผู้คนนับพันตายที่นี่ เมื่อศัตรูของ จัสติส ลีก ได้กดชนวน ระเบิดก็เริ่มทำงานจากใจกลางเมืองบ้านเกิดของ กรีน แอโร่ว เผาทุกอย่างในระยะ สี่ไมล์ สิ้นซาก เหลือทิ้งไว้แต่ซากที่โดนรายล้อมไปด้วยเมืองแห่งความ ฉ้อฉลในอเมริกา”
(เหตุการณ์ใน Justice League : Cry for Justice วายร้าย Prometheus ได้ระเบิดเมือง Star City ทิ้งซึ่งทำให้ Oliver Queen แค้นมาถึงกับฆ่า Prometheus ทิ้ง)
“ความตาย มันก็ไม่ได้แย่เท่าไรหรอกตอนที่ผมยังตายอยู่ แต่พอได้กลับมาหายใจด้อีกครั้ง ผมก็ต้องมาไอกับกลิ่นฝุ่นละอองพวกนี้ แม้กระทั่งเหตุการณ์มันผ่านมาแล้วเป็นอาทิตย์ กลิ่น มันก็ยังอยู่”
แต่แล้ว แหวนขาว ก็สว่างและส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
“บอสตัน แบรน แห่ง โลก”
Boston รู้สึกได้ว่าในตัวเขากำลังเห็นภาพอะไรบางอย่าง
“ช่วยข้า”
ภาพนิมิตแห่งอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นไหลลงมาปรากฏต่อหน้า
“ช่วยพวกเขา”
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง
- ใครบางคนถลกหนัง J’onn J’ozz
- Black Lantern Firestorm ทำให้ Atom กลายเป็นเกลือ
- Mera กักขัง Aquaman
- Dove และ Hawk จูบกัน
- Maxwell Lord จับมือกับ Blue Beetle คนปัจจุบัน แต่ในมือดันถือปืน
- The Rouge ? เล่นงาน Captain Boomerang
- Hawkman กับ Hawkgirl ต่อสู้
- รูปปั้นของ Black Adam และ Isis แตกสลาย
- Zoom ปรากฏตัวขึ้นหลายคน
ภาพนิมิตอันมากมายเกินที่ Boston จะรับไว้เขาล้มลงไปที่พื้น พลังของแหวนขาวก็ทำปฏิกิริยาขึ้นมา
ต้นไม้ พุ่งขึ้นมาจากพื้นเมือง Star City
และ Star City ที่โดนทำลายก็กลายเป็นป่ารูปดาว
Boston งงในสิ่งที่เกิดขึ้น แหวนสีขาวกำลังทำอะไรกับเขา
Boston : อะไรกันเนี้ย เจ้ามันคืออะไร ใครกันที่พูดกับฉันอยู่ ต้องการอะไรกัน ทำไมถึงเป็นพวกเรา
“แสงสว่างได้เลือก สิบสองคนจากพวกเรา กลับมาจากความตาย”
“ผมมองดูทุกคน อย่างใกล้ชิด ผมสังเกตถึงบางอย่าง ผมแตกต่างจากพวกเราทั้งสิบสอง ผมคือคนเดียวที่สวมใส่แหวนสีขาว”
Boston : ไม่บอกใช่ไหมได้ ดี ฉันจะดึงแกออกมาเอง
ขณะที่ Boston จะถอดแหวนออกเสียงจากแหวนก็ดังขึ้นมา
“บอสตั้น แบรน แห่ง โลก”
Boston : อะไรอีก จะให้เรากลับมาทำอะไรกัน!
“ช่วยข้ามีชีวิต”
บทส่งท้าย
ที่เมือง Silver City ประเทศ New Mexico
ผู้คนต่างมุ่งดูวัตถุประหลาดที่หล่นมาจากฟากฟ้ามันคือตะเกียงสีขาว มันมาจากไหนกัน ตำรวจในพื้นที่จึงรีบเข้ามาดูเหตุการณ์ประหลาดนี้
“มันมาจากไหนกัน”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง รัซเซล”
“มันร่วงมาจากท้องฟ้า”
“ดูเหมือนจะเป็นเทวดานะ เพราะมันมีปีกและรัศมีรอบตัว”
“จะไม่ดูหมิ่นเทวดาไปหน่อยเหรอ นั้นไม่ใช่เทวดาซะหน่อย”
“คุณย่าครับ เทวดามีจริงเหรอ”
ทันใดนั้นเองแสงสว่างจากตะเกียงขาวก็สว่างขึ้น
และเหนือขึ้นไป Sinestro ก็ปรากฏตัวขึ้นดูเหมือนว่าเขากำลังตามหาตะเกียงขาวอยู่พอดี
Sinestro : อ้า อยู่นี่เอง
ฮีโร่และวายร้ายทั้งสิบสอง ถูกคืนชีพอีกครั้งโดยแสงสว่างจากใจกลางของโลก หลายคนเชื่อว่ามันคือ สิ่งมหัศจรรย์ แต่กับบางคนการคืนชีพของเขาคือหายนะ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการคืนชีพยังคงเป็นปริศนา แต่มันจะเป็นปริศนาไม่นานหรอก เพราะนี่คือ วันที่เจิดจ้า ไบรทเทส เดย์
เรียบ เรียงโดย :
อืมDead manถ้าจะเป็นตัวเอกของBrightest Dayแล้ว
ผู้ที่รู้ซึ้งเจนจบในความตายอย่าง Dead man ก็จะเป็นผ้ที่รู้สึกถึงชีวิตได้มากที่สุด นี่กระมังที่เป็นเหตุที่ The Entity เลือก Deadman
แต่ท่าทางว่า event นี้จะมีเรื่องรอให้เกิดอีกมากมายเสียแล้ว
อ้อ ขอเสริมนิด
Eternal Lover ที่เึคยเป็นแกนกลางของ Central Power Battery ของ Star Sapphire ก็คือร่างที่แข็งกลายเป็นผลึกของ Khufu และ Shiera ร่างในชาติแรกของ Hawkman และ Hawkgirl นั่นแหละ
ภาพที่เดดแมนเห็นน่าสนใจมาก
เดียวๆงงนิด
Amon ผมอ่านดูรู้สึกโดนจรเข้กินนะ
ส่วน Isis ก็โดนค่าหย้าพ่นใส่ตามไปติดๆ
ส่วน black Adam นี่ตายไง
แล้ว ทำไมทั้งสองกลายร่างเดิม(เป็นคน)งง
เข้าใจว่าเพราะ Isis ไปทำอะไรเนี่ยแหละครับ Black Adam เลยคืนพลังให้พ่อมด Shazam เลยกลับเป็นร่างคน รอผู้รู้มาช่วยเสริมดีกว่า