Multiversity : Mastermen #1
เรื่องโดย : Grant Morrison | ภาพโดย : Jim Lee
วางจำหน่าย : 18 กุมภาพันธ์ 2015
สำนักพิมพ์ : DC Comics
พบกับเรื่องราวของ Earth-10 โลกที่ Superman คือผู้นำยุคสมัยใหม่ของนาซี – Overman
และศัตรูคู่ปรับของเขาก็คือ กลุ่มกบฎที่นำโดย Uncle Sam!
Hitler : ใครกัน? ใครบังอาจมารบกวนฉันถึงที่นี่?!
Soldier : ขออภัยครับท่านผู้นำ ผมถูกท่านนายพลวอน แฮมเมอร์ สั่งให้มารายงานท่าน
Hitler : นี่แกไม่เห็นว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่หรือไง? ไสหัวไปซะ!
Soldier : ท่านผู้นำ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน ผมถึงต้องรีบวิ่งมาหาท่าน
Hitler : ฮึ่ยยยยยยย บอกฉันมา วอน แฮมเมอร์ มีเหตุบ้าอะไรของเขาถึงต้องให้แกมายุ่งกับฉันถึงในห้องน้ำแบบนี้?
Soldier : เขาบอกว่ามันคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ครับ ท่านผู้นำ
Soldier : ท่านนายพล วอน แฮมเมอร์ ได้พบอาวุธแล้ว เขาบอกว่ามันคืออาวุธจากดวงดาวที่จะนำพาเยอรมันไปสู่ชัยชนะ
และ Hitler ก็จัดการกับทุกข์หนักของเขาจนเสร็จ
Soldier : เอ่อ ท่านผู้นำครับ
Hitler : ฉันได้ยินแกแล้ว จากดวงดาว งั้นเหรอ
Hitler : เอาไอ้กระดาษไร้ค่าพวกนี้ไปทำลายทิ้ง แล้วพาฉันไปหา แฮมเมอร์
และจุดหมายก็คือโรงเก็บเครื่องบิน
และอาวุธที่พูดถึงนั่นก็คือ ยานอวกาศซึ่งชาวไร่ที่ Sudetenland ได้พบเข้า และจากโลหะที่ประกอบมันขึ้น Dr. Von Braun ได้คิดว่ามันไม่ใช่สิ่งมาเป็นของโลกใบนี้
Braun : อย่างที่เห็นครับ ท่านผู้นำ ผิวนอกของยานอวกาศมันแข็งแกร่งมาก มันสามารถรับการโจมตีจากคนของเราโดยไม่เป็นอะไรเลย
Braun : และนี่… เป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
Hitler : แกบอกว่ามันคือยานอวกาศ… ที่มาจากโลกอื่น?
Hitler : ถ้างั้นคนขับล่ะ? มันมีคนขับหรือเปล่า… ถ้ามีเขาก็คงจะเป็นคนที่ตัวเล็กมากๆ ด็อกเตอร์ วอน บราน
Braun : นักบินอยู่ทางนี้ครับ ท่านฮิตเลอร์ และใช่แล้ว… เขาเป็นคนที่ตัวเล็กมากๆ
Hitler : เขายังเป็นเด็กอยู่เลย นี่มันอะไรกัน? อธิบายมาซะ!
Braun : ครับท่าน ท่านสุภาพบุรุษ ลงมือได้
และพวกทหารก็ระดมยิงปืนเข้าใส่เด็กคนนั้น แต่กระสุนเหล่านั้นทำอะไรเด็กคนนั้นไม่ได้เลย
Hitler : พระเจ้า…
Braun : เขาสามารถทนทานต่อกระสุนปืนกลในระยะประชิด แถมยังสามารถฉีกเหล็กได้ด้วยมือเปล่า แล้วจะมีใครรู้ว่าเขายังทำอะไรได้อีกบ้าง?
Hitler : เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน
Hitler : นี่พวกแกไม่เข้าใจเหรอว่านี่เด็กคนนี้คือใคร? เขาคือยอดมนุษย์ ผู้เหนือกว่าใคร ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์… เขาถูกส่งมาหาพวกเราจากอนาคต
Hitler : ใช่แล้ว เธอ เจ้าตัวเล็กของฉันที่มาจากดวงดาวอื่น เธอคือบุรุษแห่งอนาคต
Hitler : บุรุษเหล็ก อาวุธที่ไร้เทียมทามของฉัน
17 ปีต่อมา
เด็กคนนั้นได้เติบโตขึ้นกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้นำของกองทัพนาซี Overman
เขาคือชายที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพเยอรมัน ด้วยพลังของเขามันได้เปลี่ยนผลของสงครามได้ในที่สุด เยอรมันกลายเป็นผู้ที่ชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2
“นั่นคือวันเวลานั้น”
“วันที่ 20 เมษายน 1956”
“วันที่อเมริกาล่มสลาย”
“วันที่ ลุงแซม ได้ตายไป”
“หรือก็คือสิ่งที่พวกเขาได้บอกพวกเรา”
และอาณาจักรเยอรมันก็กลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
ในความฝัน เหล่าฮีโร่ของเยอรมัน รวมไปถึงคนเดียวที่เขาเรียกได้ว่าญาติ Overgirl ได้ล้มตายลง* ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายนั้น
60 ปีต่อมา
*เหตุการณ์ตายของ Overgirl อยู่ในช่วง Infinity Crisis
Lena : คาร์ล อีกแล้วเหรอ!
Overman : ความฝันเดิม บ้านที่พังทลาย สิ่งที่ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้…
Overman : มันเป็นบ้านที่ทำจากไม้ซึ่งดูสูงใหญ่แต่กลับแลดูว่างเปล่า มันดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างลวกๆ… แต่มันกลับดูมีชีวิต พร้อมบางสิ่งที่ดูมุ่งร้าย
Lena : มันก็ไม่มีอะไรนี่… คาร์ล!
Overman : แต่มันเกิดขึ้นทุกคืน!
Overman : ลีนา …ฉันขอโทษ แต่พวกมันดูเหมือนจริงมาก
Lena : นี่มันเกี่ยวเรื่องผู้ก่อการร้ายหรือเปล่า? มันทำให้คุณคิดมากเกินไปใช่มั้ย?
Lena : เรื่องการตายของโอเวอร์เกิร์ลเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สะเทือนใจมากจริงๆ แต่คุณต้องเข็มแข็งเข้าไว้ในงานรำลึกถึงการเสียสละของเธอในวันพรุ่งนี้
Lena : โลกทั้งใบต้องการให้คุณเข็มแข็งนะ
ในวันถัดมา Overman และคนอื่นๆก็มาในงานที่ว่า
Overman : พวกเราต้องเข็มแข็งเหมือนกับที่เธอเป็น เธอได้เสียสละชีวิตของเธอเพื่อโลกที่อยู่ห่างไกล
Overman : โอเวอร์เกิร์ลผู้กล้าหาญและงดงาม
“มันดูเหมือนว่าวันแห่งการรำลึกจะเริ่มต้นในตอนนี้ มันคือจุดเริ่มต้นของจุดจบสำหรับโลกที่พวกเราได้ยึดครอง”
“ก่อนที่จะถึงการล่มสลายของเมโทรโปลิส”
“ก่อนที่จะถึงรุ่งอรุณของกลุ่มไรชส์เม็นกลุ่มใหม่ และการทรยศหักหลัง”
“มันคือเรื่องราวก่อนหน้าสิ่งเหล่านั้น…”
“เขาคือผู้นำของอาณาจักรแสงสุริยัน ซึ่งมีศรีภรรยาที่ดูไม่แก่ตัวลงเลย”
“เขานั้นเป็นเหมือนกับมนุษย์ที่ถือครองพลังของเทพเจ้า”
“เขาได้ต่อสู้กับเหล่าสัตว์ร้าย, กลุ่มอาชญากรระดับสุดยอด และนำกลุ่มฮีโร่ที่ทรงพลังไปพบกับการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่”
“เขามีทุกๆอย่างที่ผู้ชายทุกคนฝันถึง”
“เว้นเพียงแต่ความสงบในใจ”
“ฉันได้เข้าใกล้เข้ามากกว่าคนอื่น… และกว่าที่ฉันจะรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง…”
“ฉันก็ได้ช่วยเหลือพวกนั้นทำลายเขาไปเสียแล้ว”
“แต่สิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้”
Overman : นี่คือเปลวไฟที่จะไม่มีวันดับมอด เหมือนกับความทรงจำของโอเวอร์เกิร์ล มันจะไม่มีวัน…
“มันเริ่มขึ้นจากเสียง…”
Overman : ดับมอด
“มันคือเสียงสายฟ้าฟาดที่มอบคำตอบให้กับเขา”
Overman : ใครกันที่กล้าทำแบบนี้?
และที่ด้านนอก ภาพโฮโลแกรมของ Uncle Sam ที่คิดว่าตายไปแล้วได้ปรากฎขึ้น
Uncle Sam : โอเวอร์แมน! พวกเรานี่แหละที่กล้า!
Uncle Sam : พวกเราคือเหล่ามวลชน
และบนฟ้าชายคนหนึ่งได้บนลงมาพร้อมปล่อยพลังออกมาจากมือ
Overman : ไลติ้ง! พาคนที่อยู่รอบๆนี้ออกไป! ไปเร็ว!
Lighting ได้ลงมืออย่างรวดเร็วในทันที และหลังจากหมอกควันได้จากหายไป ก็เหลือเพียงเศษซากปรักหักพังและชายที่โดดลงมาซึ่งพ่ายแพ้ให้แก่ Overman
“มันเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โต จนกลายเป็นพาดหัวข่าวที่โด่งดัง”
“และฉันเองก็อยู่ที่นั่นด้วย”
The Eagle Nest
Overman : เป็นเวลาหลายปีที่พวกเราต้องเผชิญกับเหล่าศัตรูที่เป็นเหมือนการพิสูจน์พวกเรา
Overman : ทั้ง ผู้ยึดครองดวงดาว, คอนสตรัคท์, กลุ่มพันธมิตรของลูธอร์, คานจาร์ โร
Overman : แต่สิ่งนี้… มันดูแตกต่างออกไป
Overman : มันดูเป็นบางสิ่งที่เกิดขึ้นจากอดีตที่น่าละอายใจของพวกเรา พวกเขามีความไม่พอใจที่พวกเราควรจะทำความเข้าใจ
Leatherwing : แต่ฉันไม่เคยละอายใจกับการกระทำพวกนั้น เพราะมันเกิดขึ้นในหลายทศวรรษที่ผ่านมาก่อนที่ฉันจะเกิดขึ้นมาเสียอีก
Leatherwing : และทุกอย่างที่ครอบครัวของฉันได้ทำลงไปล้วนมีเหตุผลที่ดีทั้งสิ้น
Leatherwing : แล้วนี่มันจะแตกต่างกันได้ยังไง?
Overman : …นายอาจจะไม่ได้อยู่ที่นั่น ลีเธอร์วิง แต่ฉันอยู่ ผู้คนยอมตายเพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่น
Leatherwing : ปู่ของฉัน วอน แฮมเมอร์ ก็ได้ตายเพื่อสิ่งที่เขาเชื่อมั่น แล้วฉันน่ะเหรอ?
Leatherwing : ฉันเชื่อในบางสิ่งที่อยู่ในความเป็นจริง, สกปรกโสมม และเต็มไปด้วยความรุนแรง
Leatherwing : นายไม่ควรจะอ่อนข้อให้พวกผู้ก่อการร้าย คนพวกนั้นไม่เคยที่จะหยุดมือ
Leatherwing : พวกนั้นทำแม้กระทั่งเลียนแบบชุดของพวกเราด้วยเศษผ้าสกปรกของพวกมัน
U-Man : ปู่และย่าของพวกนั้นตายในแคมป์ของฮิตเลอร์ และที่คนของฉันรอดมาได้นั่นก็เพราะพวกนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอตแลนติสคือต้นกำเนิดของอารยธรรมเชื้อสายอารายัน
Leatherwing : นั่นเพราะผู้คนของแกดันเลือกที่จะสู้เพื่อฝั่งที่จะพ่ายแพ้ในสงคราม พวกชาวแอตแลนติสทำให้ลูกเรือของ ยู-โบท ต้องสูญเสียไป
Leatherwing : ดังนั้นอย่ามาพล่ามถึงศีลธรรมที่นี่ อันเดอร์วอเตอร์แมน
Leatherwing : นี่ต่างหากคือสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ บรุนน์ฮิล?
Brunnhilde : พวกมันใช้คำภาษาอังกฤษ ภาษาที่ตายไปแล้ว เป็นเหมือนสัญลักษ์ของการต่อต้าน
Brunnhilde : นอกจากนี้พวกมันยังเข้าถึงเจ้านี่ได้ มันคืออาวุธจากโลกคู่ขนาน!
Lighting : โว้วววววว มีค่าการสั่นสะเทือนที่แปลกจริงๆ มันทำงานยังไงเนี่ย?
U-Man : ระวังไว้เจ้าสิ่งนั้น!
แต่สายไปเพราะ Lighting ได้ยิงออกไปแล้ว ยังดีที่แค่เฉียดหัว Leatherwing ไป
Leatherwing : ดูเหมือนมันจะใช้การได้ดีเลยทีเดียว เจ้า “ลุงแซม” คนนี้สามารถที่จะเข้าถึงอาวุธล้ำยุค, และมีโรงงานสำหรับผลิตพวกมัน…
Leatherwing : รวมไปถึงโปรแกรมสร้างซุปเปอร์ฮีโร่ที่พวกมันสร้างขึ้นเอง
Leatherwing : นั่นคือสิ่งที่นักโทษของเราได้บอกกับฉันมา
Overman : หรือไม่เขาก็แค่พูดในสิ่งที่ ลุงแซม นั่นอยากให้เราได้ยิน
Overman : พวกเรายังไม่รู้ว่าพวกเขาหลบซ่อนอยู่ที่ไหน แต่คนสำคัญจำนวนหนึ่งของพวกคนในวงการใต้ดินได้หายตัวไปจากเมืองย่อยของเมโทรโปลิส
Leatherwing : กองกำลังไรชน์แมนรุ่นใหม่มารวมตัวกันเพื่อปกป้องผู้คนของเรา และตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม
Leatherwing : มันมีแค่คำถามเดียวที่เขาไม่ยอมตอบเรา
Overman : คนที่ใช้ระเบิดฆ่าตัวตายแบบไหนกันที่รอดจากการระเบิดของตัวเองได้? อืมมม
Overman : บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง
Overman : ให้เขาอยู่ในชุดนี้ต่อไปจนกว่าเราจะทำการตรวจสอบเสร็จสิ้น มันมีบางสิ่งผิดปกติในการจัดเรียงเซลล์ของเขา มันเป็นเหมือนกับระเบิดรักษาตัวเอง
Leatherwing : เยี่ยมมาก นั่นหมายความว่าเขาสามารถรับกับการทรมานแบบเดิมได้อีก
Overman : ฉันแน่ใจว่านายไม่อยากจะให้ ลีเธอร์วิง ทรมานนายเป็นหนที่สองแน่ เพื่อนเอ๋ย ดังนั้นมาคุยกับฉันแทน
Overman : บอกฉันมา ว่านายต้องการอะไร?
??? : พวกเราอยากจะเห็นแกร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้ายังไงล่ะ “เพื่อนเอ๋ย”
Overman : แล้วหลังจากนั้น ลีเธอร์วิง ก็เล่นงานเขาจนหมดสติไปอีกครั้ง ฉันรู้สึกไม่สบายใจใช่มั้ย แน่นอน
Brunnhilde : ลีเธอร์วิง, อันเดอร์วอเตอร์แมน, เดอะ มาร์เชี่ยน
Brunnhilde : พวกเขาต่างกังวลเรื่องของคุณ
Overman : เธอไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ?
Overman : ก่อนหน้านี้ฉันเคยแน่ใจ… ว่าพวกเราจะเอาข้ามผ่านอดีตของพวกเรา กองซากศพเหล่านั้นไปได้ แต่บางครั้งฉันก็คิดเหมือนกัน…
Overman : ว่าถ้าพวกเราควรแล้วที่จะต้องเจอกับอะไรแบบนี้ล่ะ?
Brunnhilde : นั่นมันไร้สาระ และหวังว่าคุณจะรู้ไว้ ว่าถ้าหากคุณนำพวกเราไม่ได้…
Brunnhilde : ฉันจะไม่มาเล่นเป็นนางพยาบาลที่คอยดูแลบาทแผลทางให้กับบุรุษเหล็กหรอกนะ
Brunnhilde : อย่าปล่อยให้ศัตรูของพวกเรารู้เด็ดขาดว่าคุณเปลี่ยนไปแล้ว โอเวอร์แมน เพราะพวกนั้นจะสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอ
ที่อเมริกาที่ล่มสลาย
Uncle Sam ที่ดูน่าเกรงขามแท้จริงแล้วกลับเป็นเพียงคนแก่ที่อิดโรย และกองกำลังต่อต้านของเขาก็เต็มไปด้วยผู้คนที่แร้นแค้น
ในเงามือคนผู้หนึ่งได้พูดถึงการปรับปรุงบางสิ่งและนำเอาบางสิ่งบางอย่างที่ดียิ่งกว่าเดิมมาให้กับเขา และเมื่อ Uncle Sam ได้มองไปที่โต๊ะเขาก็พบกับคำตอบ มันคือชายหญิงคู่หนึ่งที่เขารู้จักซึ่งมีชื่อว่า Dane และ Matha โดยพวกเขาอยู่ในขนาดเล็กจิ๋ว
จากนั้นผู้ที่อยู่ในเงามืดก็ปรากฎตัวออกมา เขาก็คือหนึ่งใน Doctor Sivana ศัตรูของ Shazam ที่มารวมตัวกันเพื่อหมายจะยึดครองพหุจักรวาลทั้งมวล เขาได้มาที่นี่พร้อมเทคโนโลยีล้ำยุคและให้การช่วยเหลือ Uncle Sam และตอนนี้เขาก็มาพร้อมกับบางสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับ Uncle Sam ในการแก้แค้นเยอรมันและ Overman
Sivana : ขอเชิญพบกับ!
Sivana : เหล่านักสู้แห่งอิสระภาพของนาย!
ทางด้าน Overman เขาได้มาให้สัมภาษณ์ในรายการของ Jurgen (Jimmy Olsen) ซึ่งเขาได้ใช้โอกาสบอกกับประชาชนว่าการก่อร้ายอยู่ในการควบคุมแล้ว ทาง Jurgen จึงถามต่อว่า ในยุคที่สะดวกสบายเหมือนสรวงสวรรค์แบบนี้ Overman มีอะไรที่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปในอดีตบ้างหรือเปล่า? และมันเกี่ยวโยงกับ Uncle Sam คนนั้นหรือไม่?
ในอดีต Overman เคยหายตัวไปประมาณ 3 ปี* และเมื่อเขากลับมามันก็น่าจะเป็นช่วงที่ Hitler ฆ่าล้างสังหารชาวยิวพอดี และเขารู้สึกไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้นอย่างมาก
ปัจจุบัน Jurgen ถามเขาถึงจุดหมายต่อไปที่ผู้ก่อการร้ายจะลงมือ โดยจากข่าวลือเห็นว่ามันจะเป็นที่ New Bayreuth แต่ Overman ก็บอกว่ามันไม่จริง ตอนนี้พวกเขาจับกุมผู้ก่อการร้ายได้แล้วคนนึง และหากมันยังมีคนอื่นๆอีกพวกนั้นจะได้ไปอยู่ด้วยกันในเร็วๆนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีมานี้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และการสัมภาษณ์ก็จบลงตรงนั้นพร้อมกับ Overman ที่เชิญ Jurgen ไปที่ New Bayreuth ด้วย
*จากเวลาที่ว่าคาดว่าจะเป็นช่วงที่ Overman หายตัวไปในอีเวนต์ Infinity Crisis แต่ก็ยังไม่มีการยืนอะไรออกมา
ในค่ำคืนวันนั้น Overman ก็เตรียมแต่งตัวไปที่งานพร้อมๆกับ Lena ภรรยาของเขา
Lena : …นี่คุณฝันร้ายมา 10 วันแล้วนะ? ฝันร้ายที่คุณเห็นเกี่ยวกับ คาร่า น่าจะไม่ใช่อะไรตามธรรมชาติแล้วล่ะ… มันทำให้สุขภาพจิตคุณดูไม่ดีนะ และฉันไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่
Lena : แต่เธอไม่ใช่นะ มนุษย์ นะ คาร์ล ยอมรับมันเถอะ
Lena : เธอถูกโคลนมาจากเซลล์ของคุณ และฉันแน่ใจว่าพวกเขาสร้างให้คุณใหม่ได้ ถ้าคุณต้องการ
Lena : คาร์ล มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าขวดของฉันมันว่างเปล่า? มันแทบจะไม่เหลือแล้วสักหยด
Overman : พวกเราเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้วนะ
Overman : มันมีทรัพยากรจำนวนกัดจากดวงดาวที่เหลือเป็นเศษฝุ่นไปแล้วนะ และคุณก็ใช้มันติดต่อมากว่า 25 ปี แล้ว
Lena : ไม่! คุณต้องหามาให้ฉัน ไม่งั้นฉันจะต้องแก่ลงเหมือนคนอื่นๆ คาร์ล!
Lena : คุณช่วยโลกได้ แต่คุณกลับปฏิเสธที่จะช่วยเหลือฉัน!
Lena : พวกเขาเรียกคุณว่าคนเหนือมนุษย์! แต่คุณมันไม่ใช่คนด้วยซ้ำ!
Lena : มองมาที่ฉันสิ!
Lena : คุณมันเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เป็นอมตะ
Lena : คุณจะมีชีวิตต่อไปอีกยาวนานในอนาคตและเผยแพร่หลักการของฮิตเลอร์!
Lena : ส่วนฉันก็ต้องเป็นเหมือนเงาในกำแพง พวกเราเป็นแค่สำหรับคุณเท่านั้น
Lena : เมื่อพวกเราตายไป คุณก็จะยังคงอยู่ตรงนี้!
Overman : ผมขอโทษด้วย ลีนา มันไม่ใช่แบบนั้น ผมต้องขอโทษจริงๆที่ทำให้คุณคิดแบบนั้น
Lena : อยากบินคุณก็บินไปเลย ฉันไม่อยากจะโดนอุ้มไปอีกแล้ว มันทำให้ผมของฉันยุ่งเหยิง และ…
Lena : คุณมองดูอะไรอยู่?
Overman : ไม่มีอะไร ผมแค่ตรวจสอบอีเกิ้ลเนสต์
Eagle Nest
U-Man : สามวันแล้วที่เราเตรียมการไว้ แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น บางทีพวกนั้นอาจจะไม่บุกเข้ามาแล้วก็ได้
U-Man : แล้วทางโอเวอร์แมนว่าไงบ้าง?
Leatherwing : เขาบอกว่ามองไม่เห็นอะไรผิดปกติจากสรีระร่างกายของนักโทษ
U-Man : แล้วนายก็ไม่เชื่อเขา นายไม่เชื่อโอเวอร์แมนงั้นเหรอ?
Leatherwing : เจ้าผู้ก่อการร้ายคนนี้รู้หลายสิ่งหลายอย่าง ยู-แมน
Leatherwing : ถ้ามีหนึ่งในพวกเราเป็นคนทรยศล่ะ ถ้ามันคือ…
แต่แล้วก็เกิดการระเบิดขึ้น
??? : เอาล่ะทีนี้
เป็นนักโทษที่ก่อเหตุในครั้งนี้
Leatherwing : ไปที่เครื่อง…เคลื่อนย้าย
??? : นี่พวกแกกำลังมาทรมานฉันเพิ่มหรือไง?
??? : จะบอกอะไรให้นะ ลีเธอร์วิง ฉันไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่นิดเดียว
??? : เห็นมั้ย ว่าร่างกายของฉันมันดูดซับ, เก็บกัก และเปลี่ยนแปลงพลังงานได้
??? : ฉันไม่ได้รอดจากการระเบิด ฉันนี่แหละคือการระเบิด
Human Bomb : ฉันคือ ระเบิดมนุษย์
และเขาก็ใช้พลังนั้นระเบิดส่วนหนึ่งของ Eagle Nest
New Bayreuth
Overman และภรรยาของเขาได้มาอยู่ที่นี่เพื่อดูการแสดงพร้อมแขกคนอื่นๆ ซึ่งจากที่ Jurgen เห็น เขาพบว่า Overman ดูมีอาการกังวลเหมือนกับว่าเขารู้ว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้น และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
Uncle Sam : นี่คือเสียงของ ลุงแซม!
Uncle Sam : พวกเรามาเพื่อบอกว่าเวลาของแกบนโลกที่เน่าเฟะนี้ได้หมดลงแล้ว
Uncle Sam :พวกเราจะเล่นงานแกต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งแกพ่ายแพ้
Uncle Sam : เมืองของแกบนดาวอังคารและดวงจันทร์เองก็เป็นเป้าหมายของพวกเราเช่นกัน
Uncle Sam : ไม่มีอาณาจักรไหนของแกที่จะรอดจากเงื้อมมือพวกเราไปได้
Uncle Sam : และพวกเราจะชนะแกได้ในที่สุด!
Uncle Sam : นั่นเพราะพวกเรามีสิ่งหนึ่งที่พวกแกไม่มี
Overman พยายามที่จะเล่นงาน Uncle Sam แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ภาพโฮโลแกรมเท่านั้น
“เขาได้กำหนดชัยชนะของเขาไว้แล้ว นักแสดงได้ปล่อยทีเด็ดของเขาออกมาในช่วงเวลาสุดท้าย”
Uncle Sam : นั่นก็คือบางสิ่งที่ทำให้แกเชื่อมั่นจนหมดใจ
และภาพโฮโลแกรมที่เกิดขึ้นก็เป็นฝีมือของหนึ่งใน Freedom Fighter
“อายุ 98 ปี มันทำให้พละกำลังของเขาตกลงเมื่อต้องแบกรับน้ำหนักอันมหาศาลของ อีเกิ้ลเนสต์ ซึ่งกำลังทะลุชั้นบรรยากาศเข้ามา”
“เขาคาดการณ์ได้ว่ามันกำลังจะตกลงไป”
“และเขารู้ว่ามันมุ่งหน้าไปทางไหน”
Uncle Sam : พวกเราต้องการให้แก! ชดใช้ในสิ่งที่แกทำลงไป!
Uncle Sam : จงฟังไว้เจ้าพวกนาซี แซมขอบอกว่าพวกแกจะตั้งถิ่นฐานได้ในเฉพาะในสถานที่ที่มองไม่เห็นดวงตะวันเท่านั้น
“เขารู้ว่ามันกำลังจะตกไปที่ใด”
“เมโทรโปลิส”
“เขาต้องการเพียงแค่ให้ความผิดบาปของเขาจบลง”
“เขาต้องการจบความรักที่ไฟได้มอดดับลงแล้วของเขา”
“เขาต้องการจะยุติการแผ่ขยายของอาณาจักรที่เห็นแก่ตัวนี้”
“และในวันนั้น มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”
The Multiversity : Master Men
การล่มสลายของยุคสมัยที่รุ่งโรจน์
จบ
คุยกันท้ายเล่ม
เล่มนี้เป็น Multiversity ที่ผมชอบที่สุด เพราะมันค่อนข้างเข้าถึงง่าย โดยจักรวาลนี้จะถือเป็น Earth-10 ใน New 52 ครับ ซึ่งเล่มนี้จุดเดียวที่ผมไม่ชอบก็คือ… มันจบได้ค้างคาอยากอ่านต่อมาก เพราะอารมณ์การดำเนินเรื่องมันสุดยอดมาก แต่อย่างที่รู้ๆกันว่า Multiversity เป็นการออกจักรวาลละเล่มทำให้ไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมต่อจากนี้
สำหรับคำศัพย์กับชื่อบางจุดอาจจะมีผิดเพี้ยนบ้างนะครับ เพราะในเรื่องน่าจะเป็นภาษาเยอรมัน แต่ผมไม่มีความรู้เรื่องภาษาเยอรมัน เลยแปลตรงๆจากภาษาอังกฤษเลย
เนื้อเรื่องเข้มข้นมากๆครับ