ตัวอย่าง Fantastic 4 ปล่อยตัวอย่างมาไม่กี่วัน แทบจะเรียกได้ว่าหักปากกาเซียนที่ด่าหนังไว้เยอะ เพราะดูไม่เป็นหนังไซไฟ๊ไซไฟน้ำดี มากกว่าเป็นหนังฮีโร่ก๊องแก็ง ก่อนจะเริ่มวิเคราะห์ ดูตัวอย่างกันก่อนครับ

ภาพแรกน่าจะเป็นแมนฮัตตันที่ตั้งของ Baxter Building ตึกที่เป็นเหมือนบ้านและฐานบัญชาการของ FF ในรูปนี้เราไม่เห็นตึกนั้น อาจเป็นเพราะมันหน้าตาเหมือนตึกธรรมดาก็เป็นได้

ป่าอันนี้เดานะ ย้ำ เดา ว่าน่าเป็นภาพของ Latveria ประเทศสมมุติบ้านเกิดของวายร้ายตลอดกาล Doctor Doom

บ้านที่เขียนสีว่า ‘Grimm Salvage’ น่าจะเป็นบ้านของ Ben Grimm หรือ The Thing หนึ่งในสมาชิกของ FF ก่อนจะเคลื่อนกล้องไปหาดวงดาว พร้อมกับเสียงบรรยายของ Dr. Franklin Storm (Reg E. Cathey) พ่อของ Sue และ Johnny Storm สมาชิก 2 คน

ภาพการขับรถผ่านทุ่งแบบ Interstellar นี้คงเป็น Johnny Storm ออกมาขับรถโชว์พาวหรือหนีอะไรซักอย่าง

การทดลองแรกที่เราเห็นเป็นตัวอย่าง น่าจะเป็นความพยายามของ Reed ในวัยเด็กพยายามเทเลพอร์ตรถของเล่น

ข้างเขายังมี Ben ในวัยเด็ก สถานที่เกิดการทดลองนี้อาจเป็นบ้านที่เราเห็นไปก่อนหน้านี้ก็ได้

การทดลองที่ 2 ที่เราเห็นในตัวอย่าง คราวนี้ไม่ใช่การทดลองกับรถของเล่นแล้ว แต่เป็นคนจริง แต่อุปกรณ์ที่ใช้ก็ยังดูไม่ได้ไฮเทคอะไรมากมาย สังเกตได้ที่ฝาปิดยังคงมีรอยบุบและสนิม

ชุดขาวที่ใส่ทำให้ผมนึกถึงชุดของ Future Foundation หน่วยงานที่ Reed Richards รวมรวมเด็กอัจฉริยะเข้ามาพัฒนา ไว้แก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แบบร่างของอุปกรณ์เทเลพอร์ตถูกนำเสนอให้กับทหาร แต่แปลกว่าเราไม่เห็นผู้บรรยาย อาจใช่หรือไม่ใช่ Reed

Reed Richards (Miles Teller) ในวัยหนุ่ม เดินชมอุปกรณ์ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นของพวกนี้

Sue Storm (Kate Mara) เหมือนจะทำงานอยู่ในฐานทัพทหาร เพราะรอบตัวเธอมีแต่ทหาร

และงานที่เธอทำเหมือนจะพยายามตามล่าใครหรืออะไรบางอย่าง มุมล่างขวาจะมีตัวเลข 23.21.190.125 ที่ถ้าคุณเอาไปเสริชจะลิ้งไปที่หน้า Wiki ของประเทศ Latveria บ้านเกิดของ Doctor Doom

Ben Grimm (Jamie Bell) กับไม้เบสบอล

Johnny Storm (Michael B. Jordan) แต่งรถอยู่บ้าน

การทดลองที่ 3 คราวนี้ดูอุปกรณ์ก็ไฮเทค แถมผู้เข้าร่วมทดลองมีถึง 6 คน

ที่แปลกคือเงาคล้าย Johnny Storm กำลังมองดูคนกลุ่มนี้เดินเข้าเครื่องเทเลพอร์ต

เป็นไปได้ไหมว่าการทดลองนี้ล้มเหลว Reed จึงพยายามจะช่วยคนกลุ่มนี้โดยใช้เครื่องเทเลพอร์ตทุนต่ำของเขาเอง หรือการพยายามเลียนแบบการทดลองของ Reed ที่ให้กำเนิด FF

Dr. Franklin Storm พ่อโดยกำเนิดของ Johnny Storm และพ่อบุญธรรมของ Sue Storm (ในคอมมิคทั้ง 2คนเป็นพี่น้องกันจริงๆ)

เราเห็น Reed ในชุดทดลอง ที่น่าจะเป็นการทดลองทุนต่ำ จากที่เห็นมีสายระโยงรยางข้างหลัง

Reed ในสภาพสะบักสะบอมพยายามคลานหนีออกจากซากปรักหักพัง ที่น่าจะเป็นผลจากการทดลองทุนต่ำ

ภาพเครื่องบินทหารครับ ทำให้ผมนึกถึงฉากเครื่องบิน (และเป็นฉากดีที่สุด)  ใน The Dark knight Rises ขึ้นมาตะหงิดๆ

Reed ในชุดประหลาด พร้อมใบหน้าเลอะเทอะ ยืนอยู่กลางป่า?

โฉมแรกของ The Thing ที่กะเทาะออกมาจากหิน

ฐานลับที่พวกเขาทำการทดลอง?

Sue พยุง Johnny ที่เหมือนจะบาดเจ็บหนัก/ตาย แต่เราก็รู้กันอยู่ ว่าไม่มีใครบ้าจี้ขนาดฆ่าตัวละครหลักมันตั้งแต่หนังภาคแรกหรอก

Johnny ใช้พลังเปลวเพลิงทำให้ไฟโหมขึ้นมาทั้งตัว ขณะที่รอบตัวเขาเต็มไปด้วยศพของทหาร (ฉากนี้เท่ดี)

เหมือนมีแรงระเบิดอะไรบางอย่างจากจุดที่ควรมี Baxter Building อยู่ น่าจะเป็นการทดลองของ Reed

2 คนจากการทดลองทุนต่ำ (ชุดขาว) กำลังไต่หนีอะไรบางอย่าง

เงาของ Doctor Doom ที่เหมือนกระสุนปืนจะทำอะไรพี่แกไม่ได้เลย

Johnny ในชุดแบบชัดๆ ผู้กำกับเรื่องชุดนี้ว่า containment suit น่าจะแปลออกมาได้ว่าชุดจำกัดพลัง ที่น่าจะทำให้เขาควบคุมพลังได้ ไม่ไฟลุกตลอดเวลา

ดูเหมือน Johnny กับ Sue จะบู๊กัน

Reed พยายามจะใช้พลังของเขา นั่นคือการยืดร่างกาย

Reed เดินเข้าหาเตียงนอน น่าจะเป็น Doom ที่นอนอยู่บนนั้น

และสุดท้าย ตัวเอกทั้ง 4 ของเรื่อง มองไปที่เสาพลัง พร้อมกับเครื่องบินที่ติดอยู่ในนั้น

ปล. The Thing นี่แก้ผ้าเดินโทงเทงแบบนั้นจริงเรอะ

Fantastic 4 ถูกสร้างมาในยุค 60 เพื่อเหตุผลทางการค้าครับ เพราะในยุคนั้น Justice League of America คอมมิคที่นำฮีโร่มารวมกันของค่ายคู่แข่งอย่าง DC ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า Stan Lee จึงสร้าง Fantastic 4 ขึ้นมาบ้าง และนี่คือซุปเปอร์ฮีโร่กลุ่มแรกของค่าย Marvel โดยไม่ต่างจากคาแร็คเตอร์อื่นๆที่ Lee สร้าง สมาชิกทั้ง 4 นั้นห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ มีเลือดเนื้อ และเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง และส่วนที่แตกต่างจากลุ่มอื่นมากที่สุดคือพวกเขาเป็นเพื่อนและครอบครัว ก่อนที่จะเป็นฮีโร่ซะอีก

โดยแรกเริ่มพลังของพวกเขาเกิดมาจากการโดนรังสีคอสมิกจากความพยายามที่จะท่องอวกาศได้ก่อนคอมมิวนิสต์ (ดูเซอร์มากในยุคนี้ แต่ในยุค 60 มันคงจริงมาก) พลังของพวกเขาแสดงออกมาเมื่อกลับมาโลก

ถึงจะได้พลังจากอวกาศมาก็จริง แต่พลังของพวกเขาก็เป็นเหมือนตัวแทนธาตุทั้ง 4 ของโลก พลังยืดหดได้เหมือนน้ำ Mister Fantastic (Reed Richards) มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้เหมือนลมของ Invisible Woman (Susan Storm) ส่วนที่ตรงไปตรงมาเลยก็มีไฟของ The Human Torch (Johnny Storm) และดินของ The Thing (Ben Grimm)

Fantastic 4 นั้นถือได้ว่าช่วยขยับขยายจักรวาลมาเวล พลังด้วยพื้นฐานความเป็นไซไฟของการผจญภัยที่ไปทั้งอวกาศ ทะเลลึก แม้แต่ต่างมิติ ทำให้กำเนิดตัวละครมากมาย ตัวละครที่จะกลายเป็นหนังมาเวลในไม่กี่ปีข้างหน้าอย่าง Inhumans และ Black Panther เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาว Kree (ที่ทำให้เกิดตัวละคร Captain Marvel ในภายหลัง) และ Skrull รวมทั้งสร้าง Unstable molecules วัสดุจะเปลี่ยนแปลงสภาพตามผู้ใส่ที่ทั้งฮีโร่และวายร้ายเลือกทำชุดของพวกเขา (ว่ากันง่ายๆชุดแนบเนื้อที่ใส่กันฮิตทั้งจักรวาลก็ทำมาจากเจ้านี่เกือบทั้งหมด) Silver Surfer และแน่นอนพี่ม่วงยักษ์ Galactus

ไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ผู้กำกับ Josh Trank ไม่ได้เลือกเดินไปในแนวทางของฉบับคลาสสิค แต่เลือกจะอ้างอิงไปกับเรื่องราว Ultimate Fantastic 4 ที่เป็นการหยิบเรื่องราวจากฉบับดั้งเดิมมาปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย โดยสมาชิกทั้ง 4 ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ Reed , Sue และ Ben เป็นวัยรุ่นตอนปลาย ส่วน Johnny ยังเป็นแค่เด็กมัธยม

พวกเขาไม่ได้พลังจากความพยายามไปอวกาศ แต่ความพยายามจะทำจะเทเลพอร์ตไปต่างมิติ โดยความช่วยเหลือของ Think Tank โรงเรียนของรัฐบาลที่รวบรวมเด็กอัจฉริยะจากทั่วโลกมาอยู่ร่วมกัน หลังจากคำนวณมาอย่างมั่นใจ Reed พยายามเทเลพอร์ตแอปเปิ้ล แต่ทุกอย่างเกิดผิดพลาด Victor Van Damme เพื่อนร่วมสถาบัน คิดว่าเขาคำนวณผิด และเปลี่ยนค่าการคำนวนจนทำให้เกิดจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมของพวกเขาทั้ง 5

ความเห็นของผมต่อตัวอย่างนี้ยังคงก้ำกึ่งครับ ผมชอบความไซไฟที่หนังพยายามไป ขณะเดียวกันผมก็กลัวว่าหนังจะพยายามซีเรียสเกินไป ไม่สอดคล้องไปกับรูปลักษณ์และเรื่องราวอย่าง Man of Steel หรือไม่สามารถจัดการคอมมาดี้และดราม่าได้อย่างลงตัวจนกลายเป็นหนังหายนะอย่าง Amazing Spider-Man ทั้ง 2 ภาค