Earth-2 World’s End #7
วางจำหน่าย : 19 พฤศจิกายน 2014
สำนักพิมพ์ : DC Comics
3 เทพวิบัติแห่งอโพโคลิปส์วางแผนสำหรับก้าวต่อไปของพวกเธอ!
Superman Clones ได้หลุดออกมา แล้วเหล่าฮีโร่จะมีวิธีรับมือกับพวกมันได้อย่างไร?
ในตอนท้าย วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ได้อุบัติแล้ว
ที่ขั้วโลกเหนือ
3 เทพวิบัติของ Apokolips ได้มารวมตัวกันยังป้อมปราการแห่งความสันโดษที่พังทลายและเปลี่ยวร้าง พวกมันได้ใช้ที่เป็นที่พูดคุยกันเพื่อวางแผนต่อไป และ Death ได้พบว่าลูกของตนกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขาคลอดออกมาจะเป็นช่วงเวลาที่ Apokolips ได้กลืนกินโลกใบนี้
แต่พวกมันก็พบว่า Famine หายไป Death เองก็ไม่สามารถสัมผัสถึงเธอได้จึงคิดว่า Famine น่าจะโดนผู้พิทักษ์ของโลกใบนี้เล่นงานไปแล้ว War จึงคิดว่าถ้าเช่นนั้นหล่อนก็เป็นแค่ผู้อ่อนแอที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้ และบางทีผู้ที่รอดชีวิตจากดาวดวงนี้อาจจะสามารถมาทดแทนตำแหน่งนั้นได้ แต่เพื่อความปลอดภัย Death คิดว่าต่อจากนี้พวกเธอควรจะร่วมมือกันต่อสู้
Death : ในตอนนี้ขุมพลังต้นกำเนิดของโลกใบนี้ได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว
Death : ตัวแทนของพวกมันจะตามหาและทำลายพวกมันก่อนที่งานของพวกเราจะสำเร็จ
Death : พวกเราต้องทำลายตัวแทนพวกนั้นและสภาของพวกมันก่อน
Death : พวกเราจะออกบินไปด้วยกันน้องรัก และเมื่อพวกเราร่วมมือกันพวกเราจะสามารถกำราบพวกมันได้
Death : พวกเราจะร่วมมือกันต่อสู้เพื่ออโพโคลิปส์ของพวกเรา…
Death : …และทำลายทุกชีวิตบนดาวดวงนี้ให้สิ้นซาก!
ห้องแล็บของ Desaad
Desaad กำลังพยายามที่จะโน้มน้าวให้ Helena หมดกำลังใจ แต่เธอก็มั่นใจว่าครอบครัวของเธอจะต้องมาช่วยแน่ๆ Desaad จึงโกหกไปว่าตอนนี้พวกนั้นกำลังตามหา Superman กันอยู่ไม่ได้สนใจอะไรเธอเลยแม้แต่น้อย Helena จึงย้อนว่าถ้านี่เป็นการชักชวนให้เธอเข้าสู่ด้านมืดแบบ “เข้ามาสู่ด้านมืดกับข้าสิ ลุค” แล้วล่ะก็ เธอก็รู้ดีว่ามันจะจบยังไง
Desaad จึงแสดงเกราะที่จะให้เธอสวมออกมาและย้ำว่าเธอไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง มันจะดัดแปลงให้เธอกลายเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของ Darkseid แต่ Helena ก็ยืนกรานว่าไม่ว่ามันจะทำอะไรกับเธอ เธอจะไม่มีวันละทิ้งศรัทธาต่อเพื่อนๆของเธอแน่นอน Desaad จึงอยากจะดูเหมือนกันว่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรือไม่
หนึ่งในห้องแล็บของ Desaad
Batman : แกทำลายยามิราโคลของฉัน! นี่แกรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป…?
Batman ได้อัด Val ไปชนหลอดแก้วทำให้พวกโคลนตื่นขึ้นและหลุดออกมา
Val : พวกโคลน!
Lois : ไม่นะ พวกนี้มีชีวิต?!
Batman : พวกมันเป็นแค่ซากศพ เซลล์ที่ตายไปแล้ว… พวกมันตอบสนองต่อกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโมเลกุลของพวกมัน…
Power Girl : แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ฆ่าเรานะ โธมัส!
พวกเขาเข้าต่อสู้กับโคลนจำนวนมาก และ Val ก็ช่วย Kara ที่เกือบจะพลาดท่าเอาไว้
Val : คาร่า!
Kara : หลังจากที่เรื่องนี้จบลงนะ วาล เธอกับฉันจะได้มีวันหยุดยาวร่วมกัน… แต่ตอนนี้…
Kara : มาระเบิดกระโหลกเจ้าพวกนี้กันก่อน
Batman : ไม่เอาน่า ตาเฒ่า ถึงแกจะไม่มียานั่นแล้ว
Batman : แต่แกก็ยังเป็นศัลย์แพทย์อยู่นะ
Batman : มันมีการปลูกถ่ายระบบประสาทเทียมเข้าไป ที่พวกเราต้องการก็คือ คลื่นกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านชีพจร… งั้นง่ายมาก
Batman : เข้ามาหาฉันให้หมดเจ้าพวกหมาสกปรก!
และตามคำขอ Superman Clones กรุเข้าไปรุมเล่นงาน Batman ในทันที
และเมื่อเป็นไปตามแผน Batman ก็ใช้พลังงานไฟฟ้าจากเกราะของเขาช๊อตเข้าใส่ Superman Clones พวกนั้นเต็มๆ เพื่อทำลายระบบประสาทของพวกมัน
เมืองจีน, คฤหาสถ์ของ Sam
Sam : ครั้งหนึ่งฉันเคยเป็น แซม เตียว
Sam : แต่ชีวิตนั้นได้จบสิ้นไปแล้ว ตอนนี้ฉันคือตัวแทนของหนึ่งขุมพลังต้นกำเนิดของดาวดวงนี้
Sam : นาย อลัน สก๊อตต์ คือผู้ที่ถือครองพลังแห่งอินทรีย์วัตถุของสีเขียว และนาย กรันดี้ คือผู้ที่ครอบครองพลังแห่งความเน่าเปื่อยของสีเทา
Sam : ส่วนฉันคือตัวแทนของสีขาว ผู้ถือครองพลังแห่งสายลมและอากาศ
Alan : แซม เธอ… จะขอฉันแต่งงาน…?
Grundy : ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่มันยอดไปเลย! ได้พบกับแฟนของเจ้าอีกครั้ง แต่เขากลับกลายเป็นวิญญาณที่แทบจะจำเจ้าไม่ได้!
Alan : อยากโดนใช่มั้ย กรันดี้!
Sam : ไม่ อลัน สก๊อตต์ พวกเราต้องการ กรันดี้ ตอนนี้ชะตากรรมของโลกอยู่บนเส้นด้าย
Sam : แต่เรายังคงสั่งสอนเจ้าสัตว์ประหลาดตนนี้ได้อยู่
Sam : ลองเยาะเย้ยฉันอีกครั้งสิ กรันดี้ ฉันมีพลังในการควบคุมอากาศ พลังความแข็งแกร่งของพายุเฮอร์ริเคน หรือความคลุ้มคลั่งของมหาน้ำวน
Sam : พวกมันรุนแรงมากพอที่จะสลายแกให้เป็นเถ้าถ่าน
Alan : แซม ได้โปรด
Grundy : หยุด…..
Sam : แกได้รับบทเรียนแล้ว กรันดี้ ร่วมมือกับพวกเรา หรือไม่เช่นนั้นก็ถูกทำลายไปเพื่อที่ตัวแทนคนใหม่จะขึ้นมาแทนที่แก
Alan : แซม หยุดก่อน พวกเราต้องคุยกันว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เธอรอดจากเหตุรถไฟระเบิดได้ยังไง? และเธอมา…
Sam : ฉันไม่ใช่ชายที่นายเคยรู้จักหรือรักอีกแล้ว อลัน สก๊อตต์
Alan : นี่เธอหมายความว่ายังไง? เธอกลับมาแล้ว พวกเราได้รับโอกาสอีกครั้งนะ!
Sam : นายไม่เข้าใจ ที่ฉันได้กลับมาเพียงเพื่อจุดประสงค์เดียว ทำหน้าที่ของตัวแทนที่ถูกเลือกในช่วงเวลาที่โลกต้องการมากที่สุด เหมือนกับนาย
Sam : และเราไม่มีเวลาแล้ว ภัยร้ายของเราได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว พวกเราต้องไปรวมตัวกับตัวแทนคนอื่นๆ โดยเริ่มจากสีฟ้าก่อน
Amazonia
Doctor Fate ได้มาหา Jimmy ที่นี่
Fate : หมวกเกราะแห่งนาบูหาคู่ของมันพบแล้ว
Dr.Cane : ดร.เฟท?
Dr.Cane : นี่คุณจะทำอะไรกับ จิมมี่?
Fate : ข้าต้องการจะชำระล้างคำสาปของ ฟามีน ที่ติดบนตัวของข้า
Dr.Cane : อย่าแตะต้องเขา
สายไปแล้ว Doctor Fate ได้ใช้หมวกเกราะสัมผัสกับ Mother Box และมันก่อให้เกิดประกายแสงสว่างวาบออกมา จากนั้น Mother Box ได้หายไปจากหน้าอกของ Jimmy
Dr.Cane : แสงนั่น… มันกลืนกินเขา!
Dr.Cane : พวกเราต้องบันทึกเรื่องนี้ไว้นะ ลินดา นี่มันเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์
??? : หมวกเกราะแห่งนาบูหายไปแล้ว
Linda : เจ้า “มาเธอร์บ็อกซ์” นั่นก็ด้วย
Linda : จิมมี่กับเฟทกำลังฟื้นตัวแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นคะ ด็อกเตอร์
Dr.Cane : ของสองสิ่งนั้นได้รวมตัวกัน…อยู่ในร่างของเด็กคนนี้
Dr.Cane : ฉันเชื่อว่าหมวกเกราะแห่งนาบูเป็นมาเธอร์บ็อกซ์แบบนึง มันตามหาคู่ของมันและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อให้เกิด…
Linda : ก่อให้เกิดเป็นอะไรคะ?
Dr.Cane : สิ่งที่ไม่เคยถูกบันทึกไว้มาก่อนในประวัติศาสตร์ของวงการวิทยาศาสตร์
Fate : อา…. การรวมตัวกันเสร็จสิ้นแล้ว… บางคนอาจจะเรียกมันว่าปาฏิหาริย์
Fate : แต่สำหรับข้ามันคือการเลื่อนระดับชั้น
Fate : ด้วยพลังของมาเธอร์บ็อกซ์คู่
Fate : มันจะเปลี่ยนแปลงให้เด็กชายธรรมดา… กลายเป็นพระเจ้า!
London
John Constantine ที่หลุดเข้ามาในโลกนี้ได้ใช้เวทมนต์ของเขาเปิดประตูมิติออกมาเพื่อหวังว่าจะหาตัวช่วยไปยังโลกเดิมของเขาได้
Arkham World Army Base
พลังของเขาได้พา John มายังฐานเก่าที่พังทลายไปแล้วของกองกำลังโลก แต่เขาก็หวังว่าเพื่อนของเขาจะยังคงอยู่ในนั้นและพอที่จะช่วยเขาได้ แต่เมื่อเข้าไปกลับพบว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
John : โฮ่ งดงามมาก เวทมนต์นั่นมันคิดว่าคนที่ถูกขังอยู่ในกรงนกพวกนี้จะชอบขี้หน้าฉันสินะ หือ?
John : งั้นก็ได้เลย ฉันเรียกคนเลวว่าเพื่อนอยู่แล้ว
Apokolips
สภาของ Apokolips ได้รับฟังคำพูดของร่างทรงของดวงดาวอีกครั้ง และตอนนี้มันได้บอกว่าดวงดาวได้ถูกกำหนดแล้ว ถึงเวลาแห่งการกลืนกินแล้ว
บนยานจู่โจม
Mister Miracle : ข้าสัมผัส…มีบางสิ่งเกิดขึ้นบนอโพโคลิปส์
Sloan : ผิดแล้ว มิราเคิล อโพโคลิปส์ ยังอยู่นอกระบบสุริยะของเรา… บูมไดรว์พร้อมที่จะใช้งานแล้ว
Terrific : เดี๋ยวก่อน! มีค่าพลังงานมหาศาลเกิดขึ้น…
Khan : ตั้งค่าเป้าหมายการโจมตีไปที่อโพโคลิปส์ เดี๋ยวนี้!
Sloan : ก็อยากจะทำนะ ท่านผู้บัญชาการ
Sloan : แต่มันหายไปแล้ว…
Khan : พระเจ้าช่วย มันเป็นไปไม่ได้…
Sloan : ฉันจับสัญญาณค่าพลังงานของบูมทูปได้ที่บริเวณใกล้ดวงจันทร์
Sloan : อโพโคลิปส์ มาถึงที่นี่แล้ว!
และบัดนี้ดวงจันทร์ได้สูญสิ้น Apokolips ได้โดดข้ามมายังจักรวาลของ Earth-2 ด้วยตัวเอง สงครามกำลังจะอุบัดแล้ว!
ตอนต่อไป
เวลาหมดลงแล้ว
มันส์จริงๆ
ขอถามครับ หัวเรื่อง World’s End โลก2 เกี่ยวโยงกับ Future’s End รึเปล่าครับ พอดีอ่านแต่หัวWorld’s end เลยไม่ค่อยรู้เรื่องราว
หรือยังไม่ได้เฉลยเนื้อเรื่องอะไร
เกี่ยวครับ Future End คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ ซี่งจะมีการเชื่อมโยงกันในอนาคตครับ