Geneva

K’li : ข้าได้ทำให้ผู้พิทักษ์ 3 คน กลายเป็นนักรบขององค์เหนือหัว ดาร์กไซด์ แล้ว

K’li : ช่างน่าละอายจริงๆที่เพศผู้เฉกเช่นพวกเจ้ากลับต้องมาตายลงอย่างไร้ค่า

Val : แบทแมน ไม่นะ!

Val สามารถที่จะคว้าตัว Batman ได้ก่อนที่ K’li จะลงขวานสังหารเขา

K’li : กลับมานี่เจ้าพวกขี้ขลาด

Batman : ขอบใจมากเจ้าหนู คราวนี้ฉันเป็นหนี้เธอแล้ว

Val : หล่อนทำให้พวกเธอเสียสติ พวกเธอไม่มีทางที่จะเล่นงานพวกเรา…

Batman : ระวัง!

Helena : แกไปอยู่ที่ไหนตอนที่พ่อของฉันตาย?

Helena : บรู๊ซเวนย์ คือ แบทแมน… ส่วนแกมันเป็นแค่ไอ้ขี้โกง

Kara : ฉันจะเผาแกให้เหมือนกับที่พวกในสภาทำกับครอบครัวของแก วาล

K’li : ปล่อยให้พวกมันฆ่ากันเอง จากนั้นจงทำลายเมืองนี้ทิ้งไปซะ ก่อนที่เจ้าจะทำลายตัวเองตามไปด้วย แม่ของเล่นตัวน้อย

Red Tornedo : ตามที่ท่านบัญชา

K’li : เหล่าพี่สาวของข้าติดต่อมาแล้ว… องค์เหนือหัวในหลุมของพวกเรามีคำสั่งลงมา… พวกแกจะมีชีวิตอยู่ด้วยความละอายแก่ใจและไม่มีวันได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของดาร์กไซด์

K’li : ข้าล่ะสงสารพวกเจ้าเสียจริงๆ

Rio

Green Lantern มาถึงที่นี่แล้ว และเข้ารับมือกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นที่นี่

“พวกอโพโคลิปส์ พวกมันนำพาโรคติดต่อ”

“ความอดอยาก”

“และความตายมาสู่พวกเรา”

Amazonia

Khan ได้ติดต่อไปยังสภาโลกเพื่อรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่ Apokolips กำลังจะพุ่งเข้าชนโลกของพวกเขา ซึ่งสภาโลกได้บอกว่าพวกเขามีอาวุธสำหรับจะใช้จัดการมันอยู่แล้วและนั่นก็คือหัวรบนิวเคลียร์ที่เหลืออยู่ทั้งหมด แต่พวกเขาก็ต้องการแผนการรับมือที่ชาญฉลาดเสียก่อน โดยพวกเขาคิดว่าจะดึงข้อมูลจาก Mister Miracle ที่คิดว่าเป็นสายของอโพโคลิปส์ แต่ Khan ก็ยืนยันว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น

แต่ทางสภาโลกก็เตรียมการไว้แล้ว พวกเขาให้ Dodds ทำการดึงข้อมูลจาก Mister Miracle ว่าพวกเขาจะแน่ใจได้ยังไงว่าหัวรบนิวเคลียร์ของพวกเขาจะทำลาย Apokolips ลงได้ Mister Miracle ยังคงยืนว่าที่พวกเขาจะทำมันไร้ประโยชน์เพราะ Apokolips นั้นไม่ใช่แค่ดวงดาวธรรมดา แต่คือพระเจ้า และบอกให้พวกเขาคืน Mother ของตนมา

ที่ด้านนอก Mister Terrific ก็ไม่ค่อยชอบใจที่ต้องมาทำแบบนี้กับคนที่ฝ่าฝันชะตากรรมมาด้วยกัน แต่เขาก็ยอมรับว่า Mister Miracle เป็นแค่เอเลี่ยนที่สวมบทบาทพระเจ้าเท่านั้น ทาง Sloan นั้นไม่สนใจว่า Mister Miracle จะเป็นอะไรแต่เขาจะต้องมอบในสิ่งที่พวกตนต้องการแน่นอน ไม่ว่ายังไงก็ตาม

ค่ายอพยพที่ Chicago

จากข่าวที่พวก Khan ประกาศออกมา มันทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในค่าย เพราะคนจำนวนมากทยอยเข้ามายังสถานที่หลบภัยมากขึ้นเรื่อย เมื่อมีการแจกจ่ายอาหารพวกเขาก็กรุเข้าไปแย่งชิงกัน จนบางคนเปิดศึกกัน และพวก Dick ก็เกือบที่จะเสียมันไป ดีที่ Barbara ซึ่งเป็นอดีตตำรวจอยู่ด้วยจึงปกป้องอาหารและเครื่องใช้ของพวกเขาไว้ได้

Dick : ตราบใดที่พวกเราทั้งสามคนอยู่ด้วย ทุกๆอย่างจะต้องเป็นไปด้วยดีแน่ บ๊าบ

“ฉันได้ยินในสิ่งที่ฉันพูด”

“และหวังว่าฉันจะเชื่อมันเช่นเดียวกัน”

1000 ฟุต เหนือท้องฟ้า London

Doctor Fate และ Hawkgirl ได้มาถึงที่หมายแล้ว ตอนนี้ Nabu คือคนที่คุมร่าง และเขามาถึงที่นี่เพื่อตามหา “ผู้มาเยือน” จากมิติอื่น และชายคนนั้นก็คือ John Constantine จาก Prime Earth นั่นเอง

Geneva

Power Girl และ Huntress ถล่มเข้าใส่ Val กับ Batman ที่ไม่ยอมโต้กลับ แต่ในช่วงเวลาเป็นตายนี่เอง ระบบของ Red Tornedo ได้ทำการฟื้นค่าใหม่ทำให้สติของ Lois กลับมาและหยุดพวกเธอไว้ได้ทัน

Kara : อูยยยย… คุณแม่… โลอิส

Red Tornedo : คาร่า! ลูกไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย? ลูกหลุดออกมาจากมนต์สะกดของวอร์แล้วใช่มั้ย?

Red Tornedo : ขอโทษด้วยที่ลงมือหนักไปหน่อย… แต่ร่างกายที่เป็นแอนดรอยที่ก็มีประโยชน์ดีเหมือนกันเมื่อต้องทำการรีบูตจิตใจใหม่

Kara : ไม่เป็นหรอกค่ะ แม่

Batman : เก็บไว้บอกตัวเองเถอะ

Batman : แล้วเด็กที่ถือขวานกับเคียวนั่นหายไปไหนแล้ว?

Red Tornedo : เธอจากไปแล้ว ใครบางคนที่อยู่ในหลุมนั่นสั่งการให้เธอไปรวมกับ “เหล่าพี่สาว” ของเธอ

Batman : หลุมพวกนี้… พวกเราควรจะปิดมันไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว พวกเราต้องไล่ตามหาจุดตั้งต้นของเรื่องราวเลวพวกนี้ และพวกเราจะเริ่มกันวันนี้เลย…

Batman : พวกเราจะเริ่มจากจุดนี้ หวังว่าคนอื่นๆจะโชคดีกว่าเรานะ

Amazonia

พวกเขาได้รับแจ้งจาก Batman ว่าทางนั้นอยากจะลงไปยังหลุมที่อยู่ฝั่งพวกเขา และตอนนี้สถานการณ์ก็ย่ำแย่เพราะคนธรรมดาเริ่มโดนเปลี่ยนแปลงกลายเป็นพาราเดม่อนซ์ ทางฝั่ง Rio นั้น Green Lantern ก็กำลังจัดการเท่าที่จะทำได้ ส่วน Hawkgirl กับ Doctor Fate ก็ไปถึงที่หมายคือ London แล้ว ก่อนที่จะมีคำพยากรณ์ใหม่ออกมาอีก

Fate : โลกใบหนึ่งกำลังรอชั่วโมงสุดท้ายของมัน ในขณะที่อีกหนึ่งใบกำลังรอที่จะถูกกลืนกิน*

Fate : พวกเราถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟที่โหมแรง บ้านของพวกเรากำลังจะกลายเป็นเมรุเผาศพ

Jimmy : เยี่ยมจริงๆ เขาเพิ่งจะตอบกลับมาคำนึง แล้วก็มาพล่ามบทพรรณาของเขาอีกแล้ว

Jimmy : เดี๋ยวนะ พวกคุณได้ยินเสียงนั่นมั้ย?

*ประโยคนี้ผมคิดว่าอันแรกคือ Future End ส่วนอีกอันก็คงจะเป็น World’s End นี่แหละ

แล้วจู่ๆดวงตาของ Jimmy ก็ขาวโพลนและล้มลงไปเหมือนคนไม่ได้สติ

Jimmy : แม่…ผม…ขอ…

Sato : จิมมี่ ไม่เป็นไรใช่มั้ย? เกิดอะไรขึ้น?

Doctor : ชีพจรของเขาเต้นถี่มาก

Jimmy : มันพูดกับผม… คุณกำลังคุมขังมันไว้!

Jimmy : ผมต้องการให้คุณบอกผมทุกๆอย่างเกี่ยวกับลูกบาศก์ที่คุณเก็บไว้ที่ด้านล่าง และคุณต้องบอกผมมาเดี๋ยวนี้!

Dodds : มิสเตอร์ มิราเคิล ต้องการที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกผู้หญิงที่มากับเขาดูเหมือจะไม่ต้องการแบบนั้น แถมฉันคิดว่าคนที่ใส่หมวกพยายามจะเล่นตลกกับฉัน

Khan : เวสลี่ย์ มิราเคิล สามารถที่จะฆ่านายได้ง่ายๆเหมือนบี้แมลงวันตัวหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้พวกเรามีสิ่งเดียวที่ต้องทำ – พวกเราต้องจัดการพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะเล่นงานพวกเรา

Sloan : ปล่อยพวกเขาออกมา ข่าน

Khan : แกไม่ต้องมาออกความเห็นเลย สโลน แกมันเป็นไอ้ฆาตกรสังหารโหด…

Sloan : ผมรู้ เพราะตอนที่ผมอยู่ภายใต้การควบคุมจิตใจของเบ็ดลาม มันบังคับให้ผมต้องเผชิญกับอดีตของผม และผมก็สามารถที่จะอยู่กับมันได้

Sloan : มิราเคิล กับผู้หญิงอีกสองคนของเขา บาร์ด้า และ ฟิวรี่ คงจะหนีออกมาได้ในเร็วๆนี้ ดังนั้นมันคงจะดีกว่าถ้าเราปล่อยพวกเขาออกมาเสียตั้งแต่ตอนนี้

Khan : เพื่อให้พวกนั้นทำลายโลกของเราเพิ่มงั้นเหรอ? ฉันจะเชื่อใจ มิสเตอร์ มิราเคิล ได้ยังไง?

Sloan : พวกเราไม่จำเป็นต้องเชื่อใจเขา พวกเราแค่ต้องติดตามไปที่บ้านของเขา เมื่อเขาไปถึงที่นั่น พวกเราจะติดตั้งจุดเคลื่อนย้ายมวลสารไว้ และจากนั้นเราจะส่งกองกำลังของเราไป

Dodds : หนนี้เขาพูดถูกนะ ท่านผู้บัญชาการ แต่พวกเราต้องดำเนินแผนโดยเร็ว

Dodds : เพราะพวกนักโทษพวกนั้นคงจะไม่รอไปตลอดหรอก

และเป็นไปตามนั้น Barda กับ Fury ออกอาละวาดแล้ว

Barda : รู้สึกดีกว่าจริงๆ

Fury : คราวนี้ข้าเห็นด้วยกับเจ้า

Mr. Miracle : ข้าคิดว่าขอให้พวกเจ้ามีความอดทนกันหน่อยแล้วนะ

แต่คนพูดนี่สิโดนยิงเข้าใส่เองเลย

Mr. Miracle : โอเค ดูท่าจะไม่เป็นไปด้วยดีเท่าไร

Barda : นี่นายล้อเล่นหรือเปล่า? ฉันว่านี่แหละดูดีสุดๆ!

ที่ห้องแล็บของ Dr.Crane ด้านล่าง Amazonia

Mother Box ของ Mister Miracle อยู่ที่นี่ ประตูของมันเปิดออกคล้ายกำลังรอใครบางคน แต่ยังไม่มีใครกล้าลองผ่านเข้าไปดู Dr.Crane ได้พยายามลองดูแต่ก็ไม่สำเร็จและกระเด็นออกมา คนเดียวที่อาจจะช่วยเขาได้ในตอนนี้ก็คือ… Jimmy Olsen

Geneva : นี่เรารู้มั้ยว่าอะไรอยู่ข้างล่างนั่น?

Val : หลุมไฟมันปล่อยรังสีอ่อนๆออกมา และความร้อนของมันก็ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น บางอย่างที่อยู่ข้างล่างกำลังเปลี่ยนแปลงไป…

Kara : ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน

Batman : ตอนนี้ไม่มีใครที่ปลอดภัย เพราะพวกเรากำลังเผชิญกับอาการของตัวโรค ไม่ใช่ตัวโรคเอง

Batman : เมื่อวานนี้ พวกเราเชื่อว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือฝูงพาราเดม่อนซ์จำนวนมาก แต่ตอนนี้มันกลับมีสัตว์ประหลาดจากพระคัมภีร์ไบเบิลโผล่ออกมาไล่ฆ่าพวกเรา และทำให้ทุกที่ที่พวกมันผ่านทางไปกลายเป็นทาสของมัน

Batman : กองกำลังโลกบอกว่า บางสิ่งที่อยู่ข้างใต้หลุมนี่มีการเคลื่อนไหว ฉันคิดว่ามันน่าเกี่ยวข้องกัน

Batman : พวกเราต้องลงไปและกำจัดมันทิ้ง พวกเราจะถอนรากถอนโคนอะไรก็ตามที่ทำให้ร้ายหัวใจของโลกของพวกเรา

Red Tornedo : ร่างกายของฉันรับมือกับเรื่องนี้ได้ ฉันจะไปกับโทมัส

Kara : งั้นฉันไปด้วยนะ โลอิส เสียคุณไปครั้งนึงแล้ว ฉันจะไม่ยอมเสียไปอีกเป็นครั้งที่สอง

Kara : เฮล วาล พวกเธอล่ะ?

Helena : ฉันไปกับเธอเสมอนั่นแหละ คาร่า

Val : ฉันยอมลงนรกดีกว่าที่จะต้องเห็นโลกอีกใบตายไปเหมือนกับคริปตัน

Batman : กรีนแลนเทิร์น นายพอจะปกป้องโลกด้านบนได้มั้ย ถ้าพวกเราลงไปด้านล่าง?

Alan : ฉันคลาดกับเจ้าสัตว์ประหลาดที่โผล่ออกมาที่นี่ไปแล้ว แบทแมน

Alan : แต่ตอนนี้บราซิลเรียกได้ว่าปลอดภัยแล้ว แค่บอกฉันมาว่าต้องไปที่ไหนต่อ

Alan : แล้วว่าแต่ มีใครติดต่อ อควาวูเมิน ได้บ้างมั้ย?

Alan : เพราะหนึ่งในพวกนั้นลงไปยังดินแดนของเธอ

Marella ได้ตรงกลับไปยัง Atlantis และสิ่งที่เห็นทำให้เธอต้องตกตะลึง

Marella : ไม่ มันเป็นไม่ได้….

Marella : แกทำอะไรกับแอนแลนติสของข้า เจ้าตัวประหลาด?!

ชาวแอตแลนติสกลายเป็นร่างไร้วิญญาณที่ติดตามหนึ่งในเทพวิบัติออกมาจาก Atlantis และแน่นอนเธอคนนี้ก็คือผู้มีสมญานามของความตาย “Death”