เรื่อง : Brian Azzarello, Jeff Lemire, Dan Jurgens, Keith Giffen
ภาพ : Art Thibert, Aaron Lopresti
วางจำหน่าย: 18 & 25 มิถุนายน 2014
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Batman Beyond ได้ทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่จนอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิมอย่างเกินจะจินตนาการ!!

.
.
.
เปิดเรื่องมาใน Phantom Zone
พวก Frankenstein ที่คิดจะใช้ห้วงมิติจองจำนี้เป็นทางลัดไปยังสถานที่เกิดเหตุที่ห่างจากโลกไปหลายร้อยปีแสง ก็ต้องเจอกับความยุ่งยากที่ไม่คาดคิด นั่นก็คือเหล่านักโทษที่ถูกขังอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะขาใหญ่ประจำคุก Black Adam!!

ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องก็ต้องซัดกันหน่อยล่ะ!

ถึงแม้ Black Adam จะทั้งทรงพลังและมีเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่ง แต่สายฟ้าที่เป็นอาวุธหลักของเขานั้นทำอะไร Frankenstein ไม่ได้ แถมมันยังไปเสริมพลังให้นายผีดิบแข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีก!

(Frankenstein เกิดจากการเอาชิ้นส่วนศพคนตายมาประกอบเข้าด้วยกันแล้วใช้สายฟ้ากระตุ้นให้มีชีวิตขึ้นมา (อาจมีเวทย์มนต์ผสมด้วย) ทำให้ยิ่งโดนไฟฟ้า เขายิ่งมีชีวิตชีวาขึ้น)

จากที่ Frankenstein ช่วยถ่วงเวลาไว้ ทำให้พวก Ray Palmer สามารถเปิดทางออกจากมิตินี้ไปยังจุดหมายปลายทางของพวกเขาได้สำเร็จ

แต่ในตอนที่นายผีดิบจะหลับไปที่ยาน Black Adam ก็มาคว้าแขนของเขาไว้แล้วใช้พลังฉีกแขนของเขาจนขาด!!

แต่สำหรับมนุษย์ผีดิบอย่าง Frankenstein นั้นการแขนขาดไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก และเขาก็สามารถสลัดหลุดจาก Black Adam และออกไปได้สำเร็จ

ตอนนี้พวกเขาก็จะต้องมาทำงานหลักของพวกเขาเสียที…นั่นคือค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวก Storm Watch?

ตัดมาที่ New York

Terry McGinnis กำลังแอบฟังการสนทนาของสามวายร้าย Key, Plastique และ Coil ที่วางแผนลอบเข้าไปใน Terifitech เช่นเดียวกับเขา

แต่โดยที่เขาไม่รู้ตัว แบงค์ 50 ดอลล่าห์ใบหนึ่งก็ลอยมาตกที่รองเท้าของเขา

จนกระทั่งมีมือใครคนหนึ่งมาหยิบมันขึ้นมา…

Mr.Terrific : อืมม. ฉันรู้มานานแล้วว่าพวกขอทานมักจะจมูกไวเรื่องเงิน

Mr.Terrific : แต่นายไม่ใช่ขอทาน…ใช่ไหมล่ะ?

เมื่อรู้ตัวว่าพลาดไปครั้งใหญ่อย่างไม่น่าให้อภัยตัวเอง Terry ก็ยกเลิกระบบพรางตัว…

แล้วเข้าซัดใส่ Mr.Terrific ทันท

[นายท่านเทอร์รี่ การไปเผชิญหน้ากับมิสเตอร์เทอร์ริฟิคในตอนนี้…]

พูดไม่ทันขาดคำ Batman Beyond ก็โดนโต้กลับจนลงไปกองกับพื้น

Batman Beyond : …เป็นเรื่องไม่ควรทำสินะ?

ในขณะที่ Terry กำลังโดนทุบอยู่ เหล่าร้ายทั้งสามก็ดูอยู่ไม่ไกลนักเหมือนกัน

Key : นั่นมัน…?

Coil : เทอร์ริฟิคนี่นา

Key : ไปจากที่นี่กันเถอะ

ถึงแม้รูปการจะพูดได้ว่าสูสี แต่สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว

[ขอแนะนำให้ถอยไปตั้งหลักในทันทีครับ]

Batman Beyond : ไม่มีทางล่ะ A.L.F.R.E.D. ฉันจะให้ฮอลท์ได้ไซบอร์คนั่นไปไม่ได้

[รปภ.ของเทอร์ริฟิเทคล้อมเราไว้แล้วนะครับ]
[วิธีที่ดีที่สุดของเราในตอนนี้…]
[…คือหนีขึ้นข้างบนครับ]

เมื่อไม่มีทางเลือก Batman Beyond ก็จำต้องทำตามและบินหนีไป

แต่ตอนนั้นเอง Plastique ก็สังเกตุถึงอะไรบางอย่าง…

รปภ. : นั่นมันอะไรล่ะเนี่ย?

รปภ. : ท่านครับ ท่านเป็นอะไรไหมครับ

Mr.Terrific : ฉัน…สบายดี?

Key : ไปกันเถอะ…

Coil : เดี๋ยว! ดูนั่น…มัน…

Key : เราต้องไปเดี๋ยวนี้นะพลาสทิค!

Mr.Terrific : แหมๆ ดูซิว่าเราได้อะไรมา?

ที่อยู่ในรถเข็นของ Terry ก็คือ Plastique จากอนาคตในสภาพของจักรกลชีวะนั่นเอง!

ตัดมาที่ Cadmus Island

King Faraday กำลังคุยกับผู้คุมของที่นี่ Slade Wilson หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Deathstroke”

Slade : กริฟเตอร์นั่นไม่โง่เลยนะ สิ่งแรกที่เขาทำในตอนที่เราอนุญาติให้เขาออกมาได้คือขอเดินสำรวจรอบๆเกาะ เขาต้องการจะดูให้แน่ใจด้วยตัวเองว่าเขาอยู่บนเกาะจริงๆ

Faraday : ฉันเชื่อว่าพวก OMAC ต้องดีใจแน่ๆสินะ

Slade : ฟิฟตี้ ซู ไม่ชอบหน้าหมอนั่น

Faraday : แล้วนายแปลกใจกับเรื่องนั้นรึ?

Slade : ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงไม่ทำลายเจ้าหล่อนเสียในตอนที่คุณยังมีโอกาส

Faraday : สักวันเจ้าหล่อนจะต้องได้ยินนายพูดแบบนั้นเข้าจนได้นา

Slade : แล้วยังไงล่ะ?

Faraday : นายอยากให้เราจัดการศพนายด้วยการฝังหรือเผาดีล่ะ?

Slade : ทำไมคุณถึงคิดว่ากริฟเตอร์จะสามารถทำได้มากกว่าที่เขาบอกล่ะ? เขาอาจจะทำได้แค่มองหามนุษย์ต่างดาวได้จริงๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาไม่มีประโยชน์อะไรกับผม

Faraday : ถ้าเป็นอย่างนั้นนายก็จัดการเขาซะก็ได้ ว่าไปแล้วให้ซูซานจัดการดีกว่า เจ้าหล่อนคงอยากทำจะแย่แล้วนี่นะ

Faraday : ความสามารถของเขากำลังเติบโตขึ้น…พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มมองเห็นพวกเหนือมนุษย์ที่ปิดบังตัวเองอยู่แล้ว เขาพูดออกมาเองเลยล่ะ

Slade : แล้วคุณรู้เรื่องนี้…ได้ยังไง?

Faraday : ก็จากคนที่พูดคุยอย่างใกล้ชิดตอนนอนไงล่ะคุณวิลสัน

Slade : ตอนนอนเนี่ยนะ? นี่คุณให้คนเข้าประชิดเขาขนาดนั้นเลยหรือฟาราเดย์?

Faraday : “เรื่องมันจำเป็นต้องรู้” แหม ฉันอยากจะพูดคำนั้นมาตั้งนานแล้ว ขอบคุณที่ให้โอกาสนะ
[img]http://f.ptcdn.info/436/021/000/1405855759-TheNew52Fu-o.jpg[/img]

Slade : ด้วยความยินดี

ทางด้าน Grifter (Cole Cash) กำลังเดินดูรอบๆสถานที่โดยมี Fifty Sue เดินคุมมาด้วย

และเมื่อเขาปากเสียไปตามนิสัย Fifty Sue ก็ส่งเขาลอยละลิ่วไป…

เขาออกมาตกที่ชายทะเลนอกเกาะ แต่ตอนที่ OMAC ที่ทำหน้าที่เป็นยามกำลังจะจับตัวเขา ร่างของเขาก็หายไป

กลับมาโผล่ที่หน้า Fifty Sue อีกครั้ง

Fifty Sue : ไม่ต้องหน้าซีดขนาดนั้นหรอกน่า ถ้าฉันอยากจะทำร้ายนายจริงๆล่ะก็ ฉันคงลอกหนังของนายออกก่อนที่นายจะตกถึงน้ำเสียอีก รู้ใช่ไหมว่าน้ำเกลือมันทำอะไรได้บ้าง?

Cole : เธอสามารถทำเรื่องอย่าง…โยนฉันลงไปในทะเลได้ด้วยการคิดเท่านั้นเลย…

Fifty Sue : นั่นมันเรื่องจิ๊บจ๊อย

Cole : …แล้วพวกนั้นก็ยอมให้เธอเดินไปโน่นมานี่ได้ตามใจเนี่ยนะ?

Fifty Sue : ฉันทำสิ่งที่ฉันอยากทำ เมื่อฉันอยากทำ และไม่มีใครในเกาะนี้สามารถจะหยุดฉันได้ทั้งนั้น ชีวิตฉันมีความสุขดี

Cole : มีเหตุผลอะไรที่เธอมาตามติดฉันไหมล่ะเนี่ย?

Fifty Sue : แบทแมนต้องมีโรบิน โฮล์มต้องมีวัตสัน ส่วนสเลดมีฉัน ไม่ใช่นาย “ฉัน”

Cole : เธอคือ…คู่หูของสเลด วิลสันงั้นหรือ?

Fifty Sue : ถูกต้อง และอย่าได้ลืมเป็นอันขาด ไม่มีใครขอให้นายมาที่นี่ ไม่มีใครจะคิดถึงนายถ้านายไม่อยู่แล้ว ถ้านายเข้าใจที่ฉันกำลังบอกนะ (แต่เราจะจับนายใส่ชุดสีแสบๆเพื่อล่อกระสุนก็ได้ แบทแมนก็ใช้วิธีนั้นนี่นะ)

Cole : มันจะช่วยอะไรไหมถ้าฉันบอกเธอว่าฉันไม่ได้อยากจะข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำน่ะ?

“ก็คิดอยู่ล่ะนะว่ามันคงไม่ช่วยอะไร”

ตัดมาที่ห้องทำงานของ Lois Lane

Lois กำลังตรวจสอบกระดาษโน๊ตที่เธอได้รับมาเมื่อวันก่อน ซึ่งเบาะแสที่มากับมันได้นำเธอไปพบตัว Tim Drake (Red Robin) ที่ซ่อนตัวอยู่มาแล้ว เธอจึงตรวจสอบเลขรหัสที่อยู่บนกระดาษเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม และพบว่ามันคือพิกัดของสถานที่ และตำแหน่งที่มันระบุก็เป็นกลางมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันตกของออสเตรเลีย

ในเมื่อเบาะแสอันหนึ่งมันนำเธอไปถูกที่มาแล้ว Lois ก็ยินดีจะตรวจสอบอันนี้ด้วย และสั่งให้เลขาฯจองตั๋วเครื่องบินทันที

ตัดไปที่กลางอวกาศ

Ray Palmer ได้ตั้งฐานปฏิบัติงานชั่วคราวบนซากยานของ Stormwatch ที่ถูกทำลายจนแยกเป็นสองซีก

ทั้ง Frankenstein และ Amethyst ได้รวบรวมศพของพวก Stormeatch มาให้ Ray ตรวจสอบ

ซึ่งเมื่อเขาคิดดูเขาก็ยิ่งอดนึกกลัวขึ้นมาไม่ได้ เพราะสิ่งที่สามารถเล่นงานพวก Stormwatch ที่สมาชิกแต่ละคนต่างก็ทรงพลังขนาดนี้ได้ มันจะต้องยิ่งน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าอย่างแน่นอน!

Frankenstein กับ Amethyst เข้ามาในตอนที่ Ray กำลังมองศพของ Hawkman ด้วยสีหน้าครุ่นคิด

Frankenstein : ดร.พาล์มเมอร์ คุณสามารถติดต่อบิดาแห่งเวลากับ S.H.A.D.E. ได้หรือยัง?

Ray : หือ? อ๋อ ยังไม่ได้เลยล่ะแฟรงเกนสไตน์

Ray : จนท.อเมทิส ผมขอยืมดาบของคุณสักครู่ได้ไหม?

Amethyst : อะไรนะ? คุณจะเอาไปทำไมรึ?

Ray : …ก็แค่สงสัยอะไรนิดหน่อย

Amethyst : เอ่อ…โอเค นี่ค่ะ

Ray : ขอบคุณ ผมอยากได้ดาบมาตั้งนานแล้วล่ะนะ

Frankenstein : ดร.พาล์มเมอร์ ขอร้องล่ะนะ ถ้าคุณมีเวลามาเล่นฝันกลางวันแบบนี้ล่ะก็ เราควรจะหาทางติดต่อกับ S.H.A.D.E. มากกว่า

Ray : อย่าห่วงไปเลยแฟรงเกนสไตน์ ดาบเล่มนี้มีประโยชน์กับผมมากกว่าแค่ใช้เล่นฝันกลางวันแน่

Ray : แบบว่า เลื่อยที่ผมมีมันใช้กับงานนี้ไม่ได้…น่ะนะ

Amethyst : ดร.พาล์มเมอร์?

ว่าแล้ว Ray ก็ใช้ดาบตัดแขนซ้ายของศพ Hawkman ออกมา?!

Amethyst : ดร.พาล์มเมอร์?!!?

Ray : อะไรล่ะครับ?

Ray : …ก็มันดูจะเข้ากันได้พอดีเลยนี่นะ

Ray หยิบแขนซ้ายของ Hawkman ขึ้นมาและชี้ไปที่ Frankenstein…ที่ไม่มีแขนซ้าย…

(ที่ยืนเล็งอยู่คือกะขนาดของแขนหรอกเรอะ?)

ตัดมาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นักล่าสมบัติกลุ่มหนึ่งกำลังรอการติดต่อจากพรรคพวกที่เข้าไปสำรวจสถานที่อยู่

การติดต่อกลับมายืนยันว่ามีสมบัติอยู่จริง…แต่ทว่า…

สิ่งที่อยู่ภายในนั้นมันไม่ใช่แค่สมบัติ!

ตัวประหลาดลึกลับฆ่าพวกนักล่าสมบัติตายจนหมด!!

ขณะเดียวกันนั้นที่ New

หญิงสาวคนหนึ่งตกใจตื่นขึ้นกลางดึก และที่เบื้องหน้าของเธอคือ John Constantine

Constantine : คุณฝันร้ายหนักมากเลยนะมิดจ์…

Constantine : …คุณเพ้อออกมาเป็นภาษาจีนเลยล่ะ

Midge : มันเป็นภาษาลาวน่ะ จอห์น…จุดจบ…มันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว

Constantine : ผมรู้ที่รัก

แล้ว Constantine ก็นอนลงข้าง Midge

Constantine : ผมรู้ และผมอาจต้องการความช่วยเหลือในการหยุดยั้งมันด้วย