เรื่อง Peter J. Tomasi | วาด Andy Kubert | วางจำหน่าย 16 กรกฏาคม 2557
ปฏิบัติการทวงคืนโรบิ้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นจากบททดสอบในทะเลทราย
ทดสอบว่าคู่ควรความรักของลูกสาวมั้ย
และข้อเสนอสืบทอดบัลลังก์ ราซ อัล กูล เพื่อช่วยนำพาโลกนี้ไปสู่กฏระเบียบใหม่
โดยการกำจัดมนุษย์เกือบทุกคนบนโลก
ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ผมปฏิเสธ จากนั้นความมืดก็ปกคลุมร่างผม และได้ยาถอนพิษแมงป่องจากจูบของทาเลีย
ผมไปเยี่ยม ราซ ในคืนนั้นเพื่อชี้ให้เขาเห็นว่าการเป็นอมตะด้วยบ่อลาซารัส ไม่อาจหลุดพ้นจากความเจ็บปวด
จากนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมปล่อยให้หัวใจมีอำนาจเหนือสมอง และพบว่าสิ่งที่ผมเชื่อว่าคือความรัก เป็นเพียงแค่สิ่งที่วางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อผสานเลือด เวย์น และ อัลกูล เข้าด้วยกัน ในแนวทางที่โง่เง่าเหนือคำบรรยาย
ทาเลียเลี้ยงเด็กผู้ชายบนเกาะลับส่วนตัว สอนเขาด้วยแนวทางและศิลปะแห่งสงคราม หวังไว้สักวันเด็กน้อยเติบใหญ่เพื่อนำกองทัพพันธมิตรแห่งนักฆ่า
แต่ทาเลียพบว่า เด็กไม่แคร์อะไรทั้งนั้น มีเพียงแค่เรื่องเดียวในหัวเขาคือการได้พบกับพ่อ
ซึ่งไม่นานนักผมก็ได้พบกับลูกชายเป็นครั้งแรก
เมื่อได้พบผมก็เริ่มหาทางผลักอดีตผิดที่ผิดทางจากการบ่มสอนในวัยเด็กลูกชาย
และภาวนาให้ธรรมชาติเอาชนะธรรมชาติด้วยกันเอง แต่เวลามันไม่เพียงพอ
พอเรากำลังเข้าหากัน…
ผมได้ตายลง…หรือสิ่งที่คนอื่นเขาคิดกัน
ดิ๊ก สวมชุดค้างคาวและเดเมี่ยนกลายเป็นคู่หู เผชิญหน้ากับ ด็อกเตอร์ เฮิรท์ และเล่าสาวกโรคจิตทั้งหลาย
ผมหาวิธีท่องเวลากลับมา
ท้ายที่สุดก็กลับมาถึงบ้าน
และต้องเจอกับเด็กน้อยผู้สับสนและเกรี้ยวกราด เขาต้องการพิสูจน์บางอย่าง
ด้วยการเล่นงานศัตรูผู้หวังทำลายเราด้วยฝีมือเพียงคนเดียว
การต่อสู้นั้นผลักให้ผมต้องอยู่ขอบปากเหว และ เดเมี่ยนได้ฆ่าเขา
ความหวังอยากเห็น เดเมี่ยน หลุดพ้นจากวังวนความมืดของแม่ ได้จางลง
ผมจึงพยายามสร้างครอบขึ้นมาใหม่ ครอบครัวที่ผมเสียไประหว่างหลงทางในกาลเวลา
และปกป้องเมืองนี้จากสัตว์ประหลาดที่หวังให้เมืองถูกเผาทำลาย
ถึงกระนั้น ยังคงเฝ้ามองเดเมี่ยน ที่เริ่มจะห่างเหินเข้าไปทุกที ทำให้ผมกลัวมากว่าเขาจะกลายเป็นคนที่สนใจแต่ตัวเอง
แต่เขาแสดงให้เห็นว่าผมคิดผิด
เดเมี่ยน แอบใช้เวลาเป็นเดือนในท่อระบายน้ำบริเวณพ่อแม่ผมถูกฆ่า เพื่อค้นหาไข่มุกสร้อยของแม่
แสงสว่างเล็กน้อยของมันส่องเข้าไปในใจของเราพ่อลูก นำพาความสงบมาสู่เราทั้งสอง
แต่โจ๊กเกอร์กลับมาเพื่อทำลายความสงบนั้น มันมาสั่นคลอนความเชื่อในครอบครัว ซึ่งตอนนี้ก็ยังรักษาไม่หาย
จากนั้นพายุได้พัดเข้ามา ทาเลีย และ ลิเวียธาน เฮอเรติก ระเบิดพิฆาต
เด็กสิบขวบไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งพ่อที่ให้เขาอยู่บ้าน
เด็กสิบขวบที่ตัดสินใจออกมาช่วยเมืองและประชาชน ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ผมคิดถึงช่วงเวลาเดเมี่ยนตายจากคมดาบอยู่ทุกวัน โดยไม่มีผมไปอยู่กอดเขา
บอกว่าพ่อภูมิใจตัวลูกแค่ไหนเป็นครั้งสุดท้าย
ผมมาช้าไปเพื่อเปลี่ยนแปลง มาช้าไปเพื่อเป็นฮีโร่ของลูก
ผมเล่นงานเจ้าสัตว์ประหลาดที่ฆ่าเดเมี่ยน และมองไปยังหน้ามัน
พบเป็นร่างโคลนลูกชายตัวเอง สูงเจ็ดฟุตถูกควบคุมโดยทาเลีย
ท้ายที่สุดเราล้มแผนล้างโลกของเธอ และก็เป็นคนอื่นที่จบชีวิตของเธอด้วยการใช้กระสุนฝั่งเข้าไปในหัว
กลับมาในถ้ำผมมองดูร่างไร้วิญญาณลูกชาย และตระหนักได้ว่าผมทำเขาผิดหวังในหลายๆอย่าง หรือผมอาจคิดไปเอง
ผมตกไปในรูที่ไม่อาจยอมรับเรื่องการตายของลูกได้
ใช้ทุกอย่างที่เคยเผชิญ ทั้งวิทยาศาสตร์ และ เวทมนตร์ หากมันยังมีโอกาสเพียงแค่เล็กน้อยเพื่อนำ เดเมี่ยน กลับมา ผมยอมเสี่ยง
และทำสิ่งที่ไม่ได้ภูมิใจนักลงไป
ผลักไสคนห่วงใยให้ไปไกลๆ
จนถูกทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะทำไปเท่าไร ผมไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
เหมือนการตายของพ่อแม่ ผมต้องฝั่งความเจ็บและใช้ชีวิตโดยไม่มีลูกชายเคียงข้าง
และดันปล่อยให้ ราซ มาขโมยร่าง เดเมี่ยน และ ทาเลียไป
จนเรามาอยู่กันตรงนี้ เขาหิมาลัย
Batman ตามรอย Ra’s Al Ghul เพื่อทวงศพ Damian และ Talia กลับมา ทั้งสองสู้กันจน Batman เกือบเอาชนะได้สำเร็จแต่มีแขกไม่ได้รับเชิญมาแจม แถมเขาไม่ใช่มนุษย์โลกอีกด้วย หมอนี้คือ Glorious Godfrey จากดาวแห่งเทพใหม่ Apokolip หนึ่งในบริวารของ Darkseid
Godfrey : เรามาเพื่อ ผลึกเคออส
Batman : นี่พูดบ้าอะไรของแก
Godfrey : ข้ากำลังพูดถึงเศษเล็กๆจากผลึกเคออส ที่เจ้าถือครองอยู่
Batman : ไม่เคยได้ยิน
Godfrey : บางทีข้าอาจพูดไม่ชัดแจ้งเท่าไร งั้นขออธิบายหน่อยละกันมันคือผลึกเล็กๆที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของคริสตัลขนาดใหญ่ซึ่งถูกทำลายแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขนาดของมันอาจไม่ทรงพลังเท่ากับตอนยังไม่แตกสลาย แต่มันยังมีพลังที่ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลเทียบได้
Batman : ไม่เคยเห็นซักนิด
Godfrey : ก็ได้ เจ้าคงโง่มากไม่ก็โกหกข้าอยู่ นี่เจ้าอสูรจงค้นหาผลึก
“ตามท่านบัญชากลอเรียส”
Batman : ผลึกอยู่ไหน ราซ
Ra’s : ซ่อนอยู่ในโลงหินเดเมี่ยน
Godfrey : ข้าไม่อยากจะขัดพวกเจ้าหรอก แต่เราพบว่ามีพลังออกมาจากโลงหิน หนึ่งในสองใบนั้น
Godfrey : ไงล่ะ ถ้าอยากไม่อยากให้เลือดหนองเลอะหิมะขาวโพลนนี่ก็จงส่งผลึกมาให้ข้าเสีย แบทแมน
Ra’s : พ่อหนุ่มเราเสียเปรียบอยู่นะ คุณรู้จักสุภาพบุรุษคนนี้แต่เราไม่รู้จักท่าน
Godfrey : ข้าคือ กลอเรียส ก็อตเฟรย์ แห่ง อโพโคลิปส์ คิดซะว่าข้าเป็นตัวแทนแห่งลอร์ดดาร์กไซด์ เกรงว่าเพื่อนๆเจ้าคงได้พบกับท่านลอร์ดมาแล้ว
(ใน Justice League: Origins)
Batman : ไอ้ลอร์ดที่แกว่ามาเพื่อนและฉันไล่มันกลับเข้าประตูมิติไป บานที่แกโผล่เข้ามา
Ra’s : ชายคนนี้ไม่ใช่เพื่อนของข้า ที่จริงเราคือศัตรูคู่อาฆาต แต่ข้าเชื่อเราทั้งสองจะร่วมต่อสู้ร่วมกันเพื่อหยุดเจ้า แบบนั้นดีมั้ยละ เจ้านักสืบ
Batman : ตกลง
Godfrey : หืม ข้าโน้มนามพวกเจ้าให้สละ โลงหิน เน่าๆนี้ไม่ได้ซินะ
(พลังของ Godfrey คือพูดจากโน้มน้าวคนอื่น)
Batman : ในโลงหินนั้นมีลูกชายฉันอยู่
Ra’s : ลูกสาวข้าเช่นกัน
Batman : เราไม่ยอมให้แกเอาไปหรอก
Godfrey : ทั้งที่จนตรอกอยู่ก็ไม่เหรอ
Batman : ฉันยืนอยู่ก็ไม่มีทาง
Godfrey : งั้นพวกข้าจะฆ่าแกทั้งหมด
Batman : ลองดูสิ
Godfrey : ว่าแล้วเชียว
Godfrey : นี่คงเป็นทริปแสนสั้น
ในเมื่อคุยไม่รู้เรื่องม็อบทั้งสองม็อบก็ลุยอัดกัน
“แด่ดาร์กไซด์!!”
Godgrey ล็อกคอ Batman ไว้ได้
Godfrey : ดิ้นเข้าไป พลังมนุษย์ไม่อาจเทียบได้กับ….อ๊ากกกกก
แต่ Batman ก็คว้าปืนยิงเชือกยิงอัดหน้าเทพ
Frankenstein กับ Ra’s กำลังสนุกกับการฟันดาบใส่ศัตรู
Ra’s : นักฆ่าทั้งหลาย ล้อมวงให้เราด้วยแนวยิง!
“นายหัวสั่งการ!”
นอกจากนี้หมาสุดรัก Damian ยังโผล่มาแจมสู้กับเขา
Batman : ดีมากไททัส
มี Parademon คว้าโลงศพ Damian ไป Batman รีบขอดาบแล้วฟันแขนสัตว์ประหลาดขาดโหดสุดๆ
Batman : แฟรงเกนสไตน์ขอดาบที
Ra’s : สู้เข้าไป อย่าได้ปราณี!
Frankenstein : แบทแมนดาบข้า!
Batman : เอาไป!
Godfrey : ดูเหมือนมนุษย์ตัวน้อยร่วมงานกันได้ดีนะ พวกเจ้าไปจัดการทีซิ
Ra’s : จำนวนคนของเราเหลือน้อยแล้วเจ้านักสืบ
Batman : ต้านไว้เพื่อลูกของพวกเราราซ….สู้มัน!
กองทัพปีศาจพุ่งเข้ามาชนพร้อมคว้าโลงศพไปอีก แถมมันจับตัวแฟรงเกนสไตน์ไปด้วย
พ่อดีเด่นทั้งสองไม่รอช้ารีบกระโดดเข้าไปยื้อแย่งจากมัน
ส่วน Frankenstein แขนขาดร่วงตกทะลุทะเลน้ำแข็ง
Batman : ไหนดูซิตาบอดแล้วยังบินได้มั้ย
Ra’s โดนยิงเข้ายอดอกเสียการทรงตัวร่วงตกเหวไปพร้อมกับโลง Talia
Batman : ปล่อยโลงซิ เจ้าบ้า!
เหลือเพียง Batman สามารถจัดการ Parademon สำเร็จร่วงตกสู่พื้นหิมะ โลกศพ Damian กระแทกพื้นจนฝาโลกเปิดออกมา เห็นผลึก Chaos ที่ Ra’s เอาไปซ่อนไว้
Batman : โลงเปิดออก…นี่สินะผลึกเคออส
เมื่อ Batman หยิบขึ้นมาเขาก็จำเหตุการณ์ในอดีตครั้งที่เคยไปยัง Earth-2 ได้ (ในเล่ม Batman/Superman) นอกจากนี้เขายังเห็นบางสิ่งที่ทำให้หัวใจของพ่อคนนี้มีความหวังกลับมา
Batman : ฉันจำได้…ไคโยเทพปีศาจล้างความจำพวกเรา เรื่องสมัยเรายังอ่อนประสบการณ์ได้พบกับตัวเราอีกคน แล้วซูเปอร์แมนเป็นคนทำลายคริสตัล เดี๋ยวนะมีบางอย่าง….ฉันเห็นเดเมี่ยน…ช่วยพวกเราไว้
ยังไม่ทันได้ดูจบ Godfrey โผล่มาทำร้าย Batman จนหมดสภาพ
Godfrey : มีเพียงลอร์ดดาร์กไซด์และสายเลือดของเขาเท่านั้นที่ยอมให้ติดต่อกับพลังเคออส หืมมม ยังมีพลังงานเคออสออกมาจากศพในโลงหิน งั้นเราขอผลึกกลับ พร้อมนำโลงหินกลับไปด้วย
บริวาร Godfrey ลากคอ Batman มาให้เป็นเป้านิ่งสำหรับการประหารชีวิต
Godfrey : ข้าบอกเจ้าแล้วจะฆ่าให้หมดทุกคน และข้าทำตามคำพูดเสมอ คิดเสียว่านี่เป็นเกียรติที่ได้พบกับข้าในช่วงเวลาสุดท้าย อ๊ากกกก
ยังไม่ทันได้ทำอะไร Justice League ก็โผล่มาช่วยแล้วจ้า
WW : เหนี่ยวไกนั้นเมื่อไรคนที่ตายคือแกเอง
Batman : ชาแซมเหรอ
Shazam : เราได้สัญญาณคุณแบทแมน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันเคยอ่านเรื่องพวกมันมาก่อน
Batman : ให้ตายเถอะอย่าเพิ่ง
Aquaman : พวกแกไม่ได้มาอย่างสงบ แต่จงจากไปอย่างสงบเถิด
Cold : ฉันจำหน้าอุบาวท์ตัวนั้นได้แต่ที่เหลือมันตัวอะไรฟ่ะ ไซบอร์ก
Cyborg : ช่างหัวมันก่อน กัปตันโคล พวกมันมาด้วยกันก็จัดการให้หมด
Luthor : สวัสดีฉันเล็กซ์ ลูธอร์ ขอต้อนรับสู่โลก
Batman : ไอ้สารเลว ฉันเพิ่งได้เขากลับมา แกไม่ได้พาลูกฉันไปไหนหรอก
Godfrey : การรู้เวลาเข้าปะทะกับเวลาที่ต้องหนีทำให้ข้าเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีเสมอ
พูดแบบนี้แสดงว่าได้เวลาเผ่นซิจ๊ะ แต่ Titus ไม่ยอมวิ่งเข้ามากัด
Godfrey : กล้าดียังไงมางาบข้าเจ้าสุนัข
Godfrey : ได้เวลาไปแล้ว ประตูสู่บ้านได้เปิดขึ้น กลับสู่ อโพโคลิปส์
Batman รีบยิงปืนเชือกเกี่ยวกับโลงศพเพื่อรีบตามเข้าไปในประตูมิติ
ร่าง Batman กำลังพุ่งเข้าไปในประตูมิติแต่มีคนมาขัดตัดเชือกซะก่อน
Batman : ไม่
Shazam : เจ๋งป่ะละ ฉันช่วยแบทแมน สองครั้งในวันเดียว
โถ่ไอ้เด็กขี้อวดทำเสียเรื่อง Batman ไม่ปลื้มรัวหมัดใส่ Shazam
Batman : พวกมันได้ร่างโรบิ้น ฉันพยายามตามมันไป แต่แกตัดหนทางเพื่อนำเขากลับมา!
Cyborg : พอทีแบทแมน
Shazam : ก็แค่คิดว่าช่วยไม่ให้นายโดนประตูมันดูดอ่ะ
Batman : ไซบอร์ก ตามรอยมัน ค้นหากล่องแม่พวกมันแล้วรีบเปิดประตูมิติให้ฉันเดี๋ยวนี้
Cyborg : ผมยังมีปัญหากับการเชื่อมต่อเทคโนโลยีของดาร์กไซด์ ผมไม่ยอมเสี่ยงเปิดประตูมิติหรอก เราอาจไปโผล่ที่อโพโคลิปส์ หรือ หลุมดำที่ไหนก็ได้แทน
Batman : ศพทาเลียหายไปแล้ว พวกมันฆ่า ราซ กับ แฟรงเกนสไตน์
WW : เรารีบมาที่นี่โดยไม่รู้สถานการณ์มาก่อน ฉันขอโทษกับสิ่งที่คุณเสียไปในวันนี้ รู้ว่าคุณผ่านอะไรมาบ้างเพื่อเอาศพโรบิ้นคืนมา
Luthor : แกเรียกเรามา แกเสี่ยงอันตรายเราจัดการให้ อย่างรวดเร็วและเห็นผล วันเดอร์ วูเมินไม่จำเป็นต้องขอโทษ
พูดมากกินซักหมัดมั้ย
Batman : ลูธอร์ หุบปากเสียของแกไปซะ
Luthor : อัดพวกเดียวกันกลายเป็นงานอดิเรกตั้งแต่ร่วมทีมกับพวก….
พูดไม่จบสายตาเหลือบไปเห็น Frankenstein นอนอยู่ใต้พื้นน้ำแข็ง
เพื่อนติดอยู่ต้องรีบช่วยออกมา
Frankenstein : โลงศพล่ะเราได้คืนมารึเปล่า
Batman : ไม่ ก็อดเฟรย์เอาโรบิ้นไป ส่วนของทาเลียหายไปตอนต่อสู้
Frankenstein : ราซละ
Batman : โดนอัดร่วงตกลงไปในเหว
WW : เหวลึกแค่ไหน
Batman : ถ้าเธอรู้จักราซ เหวแค่นั้นเรื่องธรรมดามาก
Aquaman : อะไรทำให้นายคิดว่าไปอโพโคลิปส์คนเดียวเป็นไอเดียที่ดี
Batman : ฉันพบอะไรบางอย่าง อาเธอร์ มันทำให้ฉันเชื่อว่านำโรบิ้นกลับมามีชีวิตได้ และฉันต้องไปอโพโคลิปส์เพื่อจัดการมัน
Luthor : ทำไมสัตว์ประหลาดพวกนี้ต้องเดินทางข้ามมิติกลับมาที่โลกเจาะจงมาหาแกด้วย แบทแมน
Batman : มันต้องการบางสิ่งที่เรียกว่า ผลึกเคออส เศษเล็กๆจากคริสตัลของดาร์กไซด์
Shazam : แล้วมันคืออะไร
Batman : ไม่แน่ใจแต่ราซได้มันมาแล้วซ่อนไว้ในโลงศพโรบิ้น
Cyborg : ผมยังคิดว่าต้องใช้เวลาถึงจะเข้าใจเทคโนโลยีพวกมัน อาจต้องใช้เป็นปีเพื่อรู้ว่ามันทำงานยังไง
Cold : เห็นด้วยนะเราไม่ควรเสี่ยงทำภารกิจไปที่นั่นเพื่อคนๆเดียว
Batman : แต่เราก็ไปช่วยซูเปอร์แมนมาแล้ว
Cold : แต่ตอนนั้นมันไม่ตายนิ
WW : นี่หนุ่มๆ กลับไปคุยกันต่อที่วอชทาวเวอร์เถอะ
Batman : ไม่มีการคุยอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ได้ขออนุญาตซะหน่อย
Batman : ฉันจะไปอโพโคลิปส์และพาชีวิตโรบิ้นกลับมา
….. ติดตามต่อใน Batman & Robin #33 อาทิตย์หน้า …..
ตรงที่อควอแมนพูดว่า
“You obviously don’t come in peace
but feel free to leave in pieces.”
ตรงนี้น่าจะแปลเป็น ว่า “แต่จงจากไปอย่างเป็นชิ้นๆ” หรือเปล่าครับ เล่นคำพ้องเสียง
โหดจริงบรูส
อาเธอร์เรียกวาฬออร์ก้าโผล่กลางหิมาลัย โหดขิงๆ o_O
พี่แบทยิ่งเดือด ปล่อยๆ พี่แกไปเหอะนะ =_=