Original Sin #5

เรื่องโดย : Jason Aaron | ภาพโดย : Mike Deodato

วางจำหน่าย : 2 กรกฎาคม 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

เตรียมพบกับเรื่องราวความจริงของ Nick Fury ที่พวกเราไม่เคยรับรู้มาก่อน!

Original Sin Part 5 : ประวัติศาสตร์ที่ถูกปกปิดเป็นความลับของ พันเอก นิโคลัส เจ ฟิวรี่ 

ตัวละครในเล่ม

Fury ได้เล่าความจริงที่เกิดขึ้น โดยย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปี 1958 ที่ Kansas ในตอนนั้นเขายังเป็นแค่ Colonel Fury สปายที่กระตือรือร้น มีสองตา และมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกกลายเป็นสถานที่ที่ดีกว่าเดิม และในช่วงนั้นเขาร่วมกับหน่วยบัญชาการพิเศษ มุ่งหน้าไปเพื่อปลดเอกนำมาซึ่งเสรีภาพ ที่ต้องแลกมาด้วยการทำสงคราม ในช่วงเวลานั้นพวกเขาได้พบกับกองกำลังต่างดาวที่บุกมายังโลกผ่านประตูมิติ

พวกเขาเคยเจอกับพวกต่างดาวมาก่อน แต่ไม่ใช่จำนวนมากที่มาในรูปแบบการรุกรานแบบนี้ เหล่าทหารหาญที่ติดตามเขามาล้วนตายในการระเบิดครั้งแรก ซึ่งนั่นรวมกับเวลาที่พวกมันใช้พังเมืองก็เป็นเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น และนั่นทำให้เขาคิดว่าทั้งโลกอาจจะพินาศในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่เขาจะไม่ยืนรอให้มันเกิดขึ้นเฉยๆ เขาคิดที่จะสู้จนตัวตาย

แต่แล้วกลับมีทหารชุดพิเศษคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาเข้าต่อสู้กับพวกมัน เขาเป็นคนที่ Fury ไม่รู้จักแม้แต่น้อย แต่เขาได้เรียกชื่อ Howard และสั่งให้ทำบางอย่าง

และชายคนนั้นก็ถูกเล่นงานจนนอนบาดเจ็บสาหัส Fury จึงรีบวิ่งไปดูอาการของเขา และบอกให้เขาพยายามลุกขึ้น เพราะมันยังมีกองกำลังต่างดาวอีกเป็นโขยงที่จะยกพลออกมาจากประตูนั่น ซึ่งเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นพวก Skrull ที่ฆ่าเขาได้ไม่ใช่กองกำลังอะไรไม่รู้แบบนี้ ก่อนจะสั่งให้ Fury ระวังพวก Skrull ไว้ จากนั้นประตูมิติก็เกิดการระเบิด

พวกต่างดาวที่ยกพลออกมาล้วนถูกไฟคลอกจนร้องโหยหวนก่อนที่จะสิ้นใจ และชายปริศนาคนนี้ก็ถามเขาเป็นครั้งสุดท้าย ว่าสิ่งที่ตนทำลงไปนั้น มันคุ้มค่าใช่หรือไม่ และสิ้นใจตามไป

หลังจากนั้นไม่นาน ชายอีกคนก็เข้ามาเรียกชื่อชายคนนี้ว่า “Toledo” และเขาก็คือ Hoaward Stark นั่นเอง ซึ่งเขารู้จัก Fury และอีกฝ่ายก็รู้จักเขาเช่นกัน แต่ที่ Fury ต้องการรู้มากกว่านั้น ก็คือใครกันที่เป็นผู้ช่วยเหลือโลกใบนี้ไว้

Howard เลยพา Fury มายังฐานลับของเขา และบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โลกของเราถูกรุกรานจากพวกต่างดาว และทุกครั้งจะมีคนที่ขัดขวางพวกมันไว้ คนแบบเช่น Woodcrow Mccord ซึ่งเสียชีวิตในวันนี้ และเขาคิดว่ามันเป็นเกียรติของ Fury ที่ได้เห็นการตายของ Mccord เพราะเขาคือชายคนเดียวที่อุทิศตนเพื่อปกป้องโลกนี้ เป็นดั่งกำแพงระหว่างโลกกับการรุกรานจากนอกโลก

จากนั้น Howard ก็แสดงให้เห็นถึงวิทยาการที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างลับๆ โดยกลุ่มคนที่รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ผู้ที่ใช้มันนั้นไม่ได้ทำงานให้กับพวกเขา หรือรัฐบาล หรือองกรใดๆ เขาทำงานให้กับโลก เขาทำเพื่อพวกเราทุกคน เขาคือชายที่ลุกขึ้นมาเป็นแนวหน้าที่จะต่อสู้กับภัยร้ายที่หมายจะรุกรานโลก และทำให้แน่ใจ ว่าจะไม่มีใครบนโลกรับรู้ว่าเขามีชีวิตอยู่บนโลก
แต่ตอนนี้เขาได้ตายไปแล้ว และมันจะต้องมีคนที่ปกป้องโลกใบนี้ต่อไป Howard จึงได้ถาม Fury ว่า

Howard : บอกผมทีสิ พันเอก นิโคลาส โจเซฟ ฟิวรี่ จากเฮลคิกเช่น นิวยอร์ก… ว่าคุณรักโลกใบนี้มากแค่ไหน?

Fury ที่ได้ยินก็นึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะชี้ไปยังจรวดข้างๆ

Fury : ไอ้นี่บินได้มั้ย?

นอกโลก เอเลี่ยนต่างดาวกลุ่มหนึ่งกำลังวางแผนที่จะรุกรานดาวโลก แต่แล้วหัวหน้าของพวกมันกลับโดนลอบยิงตายในระหว่างการประชุม

มันทำให้พวกเราแตกตื่นจนทำอะไรไม่ถูก และนี่คือฝีมือการยิงของ Fury ที่รับหน้าที่ต่อจาก Woodrow นั่นเอง

“ฉันตกลงรับหน้าที่โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย”

“จากที่ฉันจำได้… ฉันเป็นทั้งทหารและสปาย ดังนั้นฉันจึงคิดว่ามันก็เป็นงานที่เหมือนๆกัน เพียงแต่…”

“…มันก็แค่ขอบเขตของงานนั้นมันกว้างกว่านั้นมาก ถึงมากที่สุด ก็เท่านั้นเอง”

“แทนที่จะถูกส่งไปยังประเทศที่ไร้เสถียรภาพทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีพวกคนนั่งโต๊ะบ้าๆที่อาจจะกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเราในอนาคต… ฉันถูกส่งให้มาตามล่าพวกต่างดาวที่หมายจะกินพวกเราแทน”

“และสำหรับสัตว์ประหลาดใต้ดินที่พยายามจะบุกขึ้นมายังแมนฮัตตัน จริงๆแล้วมันยังมีพวกนั้นกว่าอีก 10 ตัว แต่ที่พวกนายไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ นั่นก็เพราะพวกมันไม่สามารถที่จะออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ”

“จันทร์ถึงพฤหัส ฉันทำงานสปายให้กับซีไอเอ แต่วันศุกร์…

“…ฉันก็ไปยังโลกใบอื่น เพื่อดูว่า มันจะมีพระเจ้าบ้าๆองค์ไหนที่คิดจะมาทำรังที่โลกหรือเปล่า”

และนั่นคือที่มาของบรรดาศพที่พวก Black Panther และ Dr.Strange พบเจอนั่นเอง

“แม้กระทั่งในตอนที่หน้าที่การงานของฉันเปลี่ยนไป แต่ความรับผิดชอบของฉันนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย”

Fury ได้กลายเป็นผู้บัญชาการของชิลด์ในที่สุด และได้ทราบเรื่องข่าวการระเบิดของ Gamma Bomb ซึ่งทางชิลด์คิดว่า Tony อาจจะมีเอี่ยวด้วย และอีกอย่างคือเรื่องของบุรุษแมงมุมปริศนา แต่แล้วเขาก็มีสายเข้ามาเลยต้องขอตัวไปก่อน พร้อมพูดไปว่ามันเป็นวันเกิดของป้าของเขา

“ฉันไม่เคยบอกใครในชิลด์ถึงเรื่องงานอื่นของฉัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และถ้าให้พูดจริงๆ ฉันไม่เคยบอกใครเรื่องนี้มาก่อน”

“นั่นเพราะ เมื่อฉันต้องกลายเป็นกำแพงของสองโลก…”

“… ฉันไม่เคยเชื่อใจใครนอกจากตัวเอง”

และนั่นคือสาเหตุที่เขาใช้ L.M.D. ตัวเขาเองทำหน้าที่ต่างๆแทนเขา และเขาก็เริ่มสร้างยานขนาดใหญ่นอกโลก ซึ่งใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติภารกิจลับของเขา

“การทำหน้าที่ ตัดสินและประหารชีวิต เริ่มง่ายขึ้นสำหรับฉันเรื่อยๆ”

“ง่ายเสียจน… ฉันคิดว่าควรจะกังวลให้มากกว่านี้”

และในวันนี้เขามาเตรียมส่องใครบางคน พร้อมกระสุนแบบใหม่ที่มีรังสีแกมมาที่ Bruce Banner เป็นคนออกแบบ ซึ่งการันตีว่าสามารถเจาะรูบนหน้าอกของ Thor ได้เลย

Fury : ดี… และหวังว่าพวกเราจะไม่ต้องพิสูจน์ทฤษฎีนั้นนะ

และมันก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่เล็งแต่สังหารอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหนนี้เมื่อถึงเวลาเขากลับไม่ยิงออกไป

“ท่านครับ ปืนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

Fury : พวกนายก็รู้… ว่าสำหรับเจ้าหมอนี่ มันมีความรู้สึกที่เรียกว่าลางสังหรณ์ แน่นอนว่าหมอนี่อาจจะเป็นพวกตัวประหลาด และได้รับสารกัมมันตรังสี แต่เราก็ควรจะให้โอกาสหมอนี่…แล้วมาดูกันว่า…

Fury : …หมอนี่จะไม่กลายเป็นอะไรที่พิเศษไปกว่านี้แล้ว

และนั่นทำให้ Spider-Man รอดตาย อย่างหวุดหวิด

“แต่ฉันไม่ใช่คนบ้า ฉันไม่เคยหลุดการควบคุมตัวเอง”

“ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันสมควรต้องทำ และฉันก็ทำมันได้ดี”

“หลายปีผ่านไป โฮเวิร์ด สตาร์ก ได้ตายจากไปนานแล้ว และจากที่ฉันรู้ มันแทบจะไม่เหลือใครแล้วที่พอจะรู้ว่าฉันเคยทำอะไรลงไปบ้าง”

“และเจ้าพวกวายร้ายก็มากันมากขึ้น เร็วเกินกว่าที่ฉันจะนับได้หมด”

“ฉันเคยครุ่นคิดอยู่พักนึง ว่าพวกเขาอาจจะพอช่วยฉันได้ แต่ก็นะ…”

“ถึงฉันจะรัก สตีฟ โรเจอร์ เหมือนกับพี่น้อง”

“แต่มันก็ใช่ว่าทุกงานจะเหมาะสมกับ กัปตัน อเมริกา”

และงานล่าสุดของ Fury ก็คือการระเบิดดวงดาวดวงหนึ่ง

“ฉันได้ฆ่า… ไปมากมายเกินกว่าที่ฉันจะนับได้”

“ฉันได้ทำเผาทำลายดวงดาว ทำในสิ่งที่จักรวาลคาดไม่ถึง ขับไล่พระเจ้าบางตนจากบัลลังก์ของพวกมัน”

“และฉันทำลง… โดยที่ไม่มีใครรับรู้ถึงชื่อของฉัน”

“แต่นั่นแหละคือการเป็นชายผู้เป็นกำแพงของโลกกับสิ่งนอกโลก”

“กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ป้องกันสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆอยู่ที่ชายฝั่ง”

“กลายเป็นคนที่ไม่ถูกรู้จักชื่อ และไม่ถูกรับรู้ในสิ่งที่ทำ”

“เป็นสิ่งที่ไม่มีวันถูกพบเห็น”

แต่ใครบางคน ได้เห็นเรื่องนี้อยู่ตลอด และเขาคนนั้นก็คือ Watcher

Fury : และการอธิบายเรื่องนี้… คือสาเหตุที่พวกนายมาอยู่ที่นี่

Fury : เอาล่ะ… มีคำถามอะไรอีกมั้ย?

Ant-Man : ก็มีนะประมาณหนึ่ง…พันคำถาม เริ่มจากทำไมคุณถึงแก่แบบนี้?

Dr.Strange : นิค จากเรื่องที่นายเล่าออกมา… มันไม่น่าจะเป็นจริงได้เลย มันไม่น่าจะใช่นายตัวจริง

Emma : จริงเหรอ?

Punisher : ฉันไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนะ

Orb : หมอนี่ยังไม่ได้บอกความจริงพวกนายทั้งหมด หมอนี่ยังไม่ได้เรื่องเกี่ยวกับ…

แต่แล้ว The Orb กลับล้มลงไป พร้อมร้องอย่างทรมาน

Moon Knight : หมอนี่เป็นอะไรของมัน?

Fury : ร่างกายของเขายังคงดูดซับสิ่งที่เขาขโมยมาจากดวงจันทร์อยู่ พาเขาไปยังห้องสอบปากคำ เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว พวกเราเหลือเวลาน้อยเกินกว่าจะตามหาคนอื่นๆ

Ant-Man : นี่มันบ้าชัดๆ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?

Fury : สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พวกเรามีงานต้องทำ งานเดียวกับที่ฉันทำมาตลอด…

Black Panther : นิค ฉันมีคำถาม

Black Panther : เกิดอะไรขึ้นกับ วอชเชอร์?

Fury : เขาตายแล้ว และตอนนี้… ฉันเกรงว่ามันจะถึงตาของฉันแล้วเช่นกัน

โปรดติดตามตอนต่อไป

เล่มหน้า

ใครกันที่เป็นคนลั่นไก?