THE NEW 52 : FUTURE’S END #3

เรื่อง : Brian Azzarello, Jeff Lemire, Dan Jurgens, Keith Giffen
ภาพ : Mark Irwin, Dan Jurgens
วางจำหน่าย: 21 พฤษภาคม 2014
สำนักพิมพ์ : DC Comics

เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังฉากกำลังเริ่มก่อคลื่นใต้น้ำขึ้นแล้ว


.
.
.
เปิดฉากมาที่ธารน้ำแข็ง Gaise ใน Nuvavut ประเทศ Canada

เด็กชาวเอสกิโมคนหนึ่งถูกหมีขาวเล่นงาน!

แต่ก่อนที่เจ้าหมีจะทันได้ขย้ำเหยื่อของมันนั้นเอง…

Frankenstein : เจ้าออกมาไกลจากบ้านและเผ่าของเจ้ามากนะเด็กน้อย

Frankenstein : แดนเถื่อนนี้ไม่ใช่ที่ๆเด็กควรจะมา

แม้จะช่วยเด็กเอาไว้ แต่เด็กดันตกใจหน้าของเขาจนวิ่งหนีไปซะงั้น เล่นเอา Frankenstein เซ็งเป็ด

ตอนนั้นเองก็มีบางอย่างผุดขึ้นมาจากซากหมีขาว?!

Frankenstein : ปีศาจแบบไหนกันที่ซุกซ่อนอยู่ในสัตว์ร้ายที่สูงส่งน

แล้ว “สิ่งนั้น” ก็ออกมา!

Frankenstein : อ้า! นี่มันไม่ใช่ปีศาจ…แต่เป็นเครื่องจักร!

Frankenstein : แต่เครื่องจักรมันก็คือปีศาจที่สร้างจากมือของมนุษย์นั่นแหละนะ

Frankenstein : เจ้าเครื่องจักรน้อยๆเอ๋ย เจ้าได้บุกรุกเข้ามาในบ้านที่ข้ามาหลบภัยนี้ และข้าก็หวังว่าเจ้าจะมีวิญญาณสิงสู่ในเปลือกโลหะนั่น…

Frankenstein : …เพื่อว่าแฟรงเกนสไตน์ผู้นี้จะได้ส่งเจ้ากลับลงนรกไป

เมื่อจบเรื่องแล้ว มนุษย์ผีดิบก็เดินมาเช็คดูซากของสิ่งที่เขาเพิ่งจัดการไป

Frankenstein : ข้าไม่คิดว่าการพบกันของเรานี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรอกนะเจ้าเครื่องจักรตัวน้อย…

Frankenstein : ดูซิว่าเครื่องในโลหะของเจ้ามีความลับใดอยู่?

แล้วเขาก็เห็นสิ่งที่ดูคุ้นตาอยู่ข้างใน

Frankenstein : ฮึ่ม…S.H.A.D.E. งั้นรึ

Frankenstein : นี่ท่านเฝ้าดูข้าอยู่รึบิดาแห่งเวลา? ดาวเทียมของท่านได้ยินเสียงข้าไหม?

Frankenstein : จงฟังให้ดี เจ้าคนแคระชั่วร้ายเอ๋ย…ข้าลาออกจาก S.H.A.D.E. มาหลายแล้วนะ! ข้าไม่ใช่ลูกน้องหรือตัวหมากให้ท่านอีกแล้ว!! ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาที่นี่…มาบุกรุกสถานที่ของข้าแบบนี้!

Frankenstein : แต่ท่านก็มา และบุกรุกไปแล้ว และทีนี้ S.H.A.D.E. ก็จะได้รู้ถึงความเย็นเยียบของดาบของแฟรงเกนสไตน์ผู้นี้

ตัดไปที่ New York City

Ronnie Raymond และ Jason Rush สองส่วนของ Fire Storm ก็ยังคงทะเลาะกันอยู่

ตั้งแต่ออกจากงานศพของ Green Arrow มา Ronnie ก็ไม่ยอมแยกร่างออกจาก Jason และเอาแต่ปฏิเสธไม่ยอมรับว่า Green Arrow ตายเพราะเขา และโทษ Jason และโลกทั้งโลกว่ากำลังกลั่นแกล้งเขา

ตัดไปที่ Camden รัฐ New Jersey

Cole Cash กำลังผ่านเข้าไปยังที่ซ่อนลับของเขา

“พวกมันรู้จักฉันในชื่อ “กริฟเตอร์” ฉันตามล่าและฆ่าพวกมันมานานแล้ว คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าเทคโนโลยีของพวกมันจะมีประโยชน์แบบนี้ ต้องชมจัสตินที่หาวิธีใช้งานพวกมันและปรับให้เข้ากับความต้องการของฉัน”
“แต่จู่ๆฉันก็เริ่มจะรับรู้ถึงพวกอื่นๆได้ด้วย ทั้งพวกจากดาวอังคาร, พวกที่เปลี่ยนรูปร่างได้ และยังมีเจ้าพวกที่ฉันยังไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไรอีก…”
“ดูเหมือนว่าดาวดวงนี้มีพวกต่างดาวที่ไม่ได้มาดีอยู่ยั้วเยี้ยไปหมด ซึ่งฉันก็บอกได้ว่าพวกมันวางแผนกันมาอย่างดีทีเดียว”
“โอ๊ย…มันเจ็บทุกครั้งที่ผ่านเข้ามาเลย”

ที่ภายในห้องลับที่อยู่ในตึกที่ไม่มีประตูทางเข้า มี “ผู้ร่วมงาน” ของ Cole อยู่

Cole : ที่รักพี่กลับมาแล้ว

Justin : ไม่ตลกนะนั่นน่ะ

Cole : ยังพยายามหาวิธีฆ่าแขกของเราอยู่เหรอ?

Justin : มันอึดจนน่าโมโหขึ้นทุกทีเลยล่ะ!

Cole : ก็ยิงมันให้ตายๆไปซะเลยซี่

Justin : กระสุนปืนกำจัดมันได้แค่ทีละตัว ฉันกำลังมองหาสิ่งที่จะจัดการมันได้เป็นจำนวนมากในครั้งเดียวต่างหาก

Cole : แล้วนายก็คิดว่าน้ำยาล้างห้องน้ำจะเป็นคำตอบของนายเนี่ยนะ?

Cole : ไม่ลองก็ไม่มีทางรู้ได้ เจ้าตัวนี้มันทนเอาเรื่องเลย นายบอกว่ามันเป็นเผ่าพันธ์ไหนนะ?

Cole : ฉันไม่รู้หรอก ฉันแค่ตามฆ่าพวกมัน ฉันไม่ได้จัดแยกประเภทพวกมันหรอก

Justin : ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่นายโชคดีที่มีฉันอยู่ด้วย

Cole : “มีนายอยู่ด้วย”รึ? นี่จัสติน พ่อแม่ของนายเกือบจะช่วยพวกเดโมไนท์ทำแบบเดียวกับที่พวกมันทำกับพวกนั้นกับตัวนายไปแล้วนา นายต่างหากที่โชคดีที่ฉันตามรอยพวกนั้นอยู่พอดี

Justin : -เฮ่อ- …ก็เอาเถอะ แล้วจะเอาไงกับเจ้านี่ดีล่ะ?

Cole : นั่นสินะ ก็อย่างที่บอกนายไปแล้วว่าเจ้าพวกนี้มีหลายแบบ…

Justin : และนายก็เห็นพวกมันทั้งหมด นายโคล แคช ฉายากริฟเตอร์ ผู้เห็นและรู้ทุกอย่าง

Cole : …และถนัดอัดพวกปากมากจนเกือบตายด้วย

Justin : ก็ได้ๆ เอาตามนายต้องการก็ได้

“แล้วเขาก็เข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวเสียที”
“ก็อยากจะสามารถทำแบบนั้นได้อยู่เหมือนกัน การได้จมอยู่ใน…อะไรก็ได้ สำหรับการปรับตัวแล้วนั้น…มันก็ไม่เลวนัก”
“คงต้องให้ใครมาตรวจหัวสมองฉันบ้างแล้ว ที่ยอมให้เข้ามาข้องแวะกับเรื่องนี้ เขาเป็นแค่เด็ก ส่วนฉันก็ไม่ใช่แบทแมนด้วย”
“แต่ก็นั่นแหละ เขาเคยผ่านการโดนเอเลี่ยนสิงสู่แบบประสบการณ์ตรงมาแล้ว เพราะงั้นไม่ว่าการเสียหายทางจิตของเขาจะเป็นอย่างไรมันก็ไม่ได้มาจากฉัน”
“ยังไม่ใช่น่ะนะ”

“แล้วก็ยังมีความจริงที่ว่าเขามีประโยชน์มากด้วย”
“จัดหมวดหมู่พวกต่างดาวที่เราพบมา ค้นคิดวิธีเอาวิทยาการของพวกมันมาใช้ประโยชน์ สอดส่องดูพวกที่เรารู้จัก…นี่ถ้าเขาทำอาหารเป็นล่ะก็ฉันคงเอาเขาเป็นคู่ชีวิตแหงๆ”
“มาดูกันซิว่าวันนี้จัสตินมีอะไรให้ฉันบ้าง…”

แล้ว Cole ก็เปิดข้อมูลที่ Justin รวบรวมมาซึ่งมีข้อมูลของพวกต่างดาวที่พวกเขาค้นพบและเฝ้าดูอยู่ ซึ่งก็รวมถึงนาย King Faraday ที่ตามสืบเรื่องของ Cole อยู่ในเล่มที่แล้วด้วย

“มีเรื่องต้องทำเยอะแต่มีเวลาน้อยจริงๆ…”

ตัดไปที่ Terifitec ที่ New York City
Mr.Terrific (Micheal Holt) กำลังดูภาพบันทึกของผู้ที่บุกรุกเข้ามาในตึกของเขาเมื่อวันก่อน…Batman Beyond?!

Mr.Terrific : นี่เรากำลังดูอะไรอยู่รึนาธาน?

Nathan : คนที่เชื่อว่าเราไม่เห็นเขาไงครับ

Mr.Terrific : สิ่งที่เขาทำกับกล้องวงจรปิดมันไม่เลวทีเดียว ทำให้เทปบันทึกภาพมันย้อนวนไปมา ก่อนที่เขาจะบุกเข้ามาในตึก

Mr.Terrific : ให้มันเล่นภาพสามวินาทีเดียวกันไปเรื่อยๆ แต่ให้นาฬิกาของกล้องเดินตามเวลาจริง

Nathan : ดีที่เรามีระบบรักษาความปลอดภัยลับซ่อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง

Mr.Terrific : เป็นเรื่องดี

Nathan : ว่าแต่…นี่แสดงว่าแบทแมนมีปัญหากับคุณหรือครับ?

Mr.Terrific : ก็ไม่มากไปกว่าที่เขามีกับคนอื่นๆทุกคนหรอกนาธาน ก็เป็นธรรมดาของคนที่ใช้ “ความหวาดระแวง” เป็นหลักในการดำเนินงานแหละนะ

Mr.Terrific : เจ้าหมอนี่ก็ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในคนของแบทแมนนะครับ

Mr.Terrific : ดูเหมือน…

Mr.Terrific : …แต่มันเห็นได้ชัดเกินไป แบทแมนไม่มีทางให้มันรู้ได้ง่ายๆแบบนี้…เว้นแต่เขาจงใจจะทำแบบนั้น…

Mr.Terrific : และอยากให้เราเชื่อว่าไม่ใช่เขาเพราะมันเห็นได้ชัดเกินไป

Nathan : ทีนี้คุณกลับเป็นฝ่ายหวาดระแวงซะเองแล้วนะครับ…

Mr.Terrific : เขาเข้าใกล้โปรเจ็ค uSPHERE หรือเปล่าคุณคูลิดจ์?

Coolidge : ไม่ครับคุณฮอลท์ เขาอยู่ห่างมันไปตั้งสิบสองชั้นน่ะครับ

Mr.Terrific : เห็นอะไรนี่ไหม…สิ่งที่มันเกิดขึ้นนี้…

Mr.Terrific : เขาอยากให้เราคิดว่าแบทแมนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้…

Mr.Terrific : ซึ่งเขาก็มีเทคโนโลยีพอจะเล่นตลกกับกล้องเราได้จริงๆ นายแน่ใจนะว่าโปรเจ็คยังปลอดภัยอยู่น่ะ?

Nathan : แน่นอนครับ มีทหารเป็นกองทัพเฝ้ามันอยู่ นอกเหนือจากกองทัพที่ไล่เจ้านั่นไปได้

Nathan : ทั้งตึกถูกล็อคทั้งหมดทันทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยไปเจอมันเข้า ไม่ว่าประตูทุกบานหรือคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง

Nathan : ผู้บุกรุกไม่มีทางไหนให้ไปได้ทั้งนั้น…

Nathan : …นอกจากหนีออกไป

Mr.Terrific : นั่นแหละคือจุดอ่อนของระบบรักษาความปลอดภัยของฉันล่ะ

Nathan : คุณคิดครอบคลุมไปทุกเรื่องไม่ได้หรอกครับ

Mr.Terrific : จริงหรือนาธาน? ดูรอบๆตัวนายสิ ฉันคิดค้นทุกอย่างนี้…

Mr.Terrific : …และฉันก็ไม่ยอมจะเสียมันไปแน่ เทอร์ริฟิเทคเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ฉันสร้างขึ้นมากับมือ…

Mr.Terrific : …และเราก็จะใช้มันเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกนี้ร่วมกัน

Nathan : ผมโหลดภาพแบทแมนตัวปลอมของเราเข้าไปในเซอร์เวอร์เพื่อดูว่าเราจะหาข้อมูลที่ตรงกันได้เรียบร้อยแล้วครับ

Mr.Terrific : เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นการภายในก่อนสำหรับตอนนี้ แต่เราคงจะต้องเปลี่ยนแผนถ้าไม่มีเบาะแสอะไรออกมาเลย

Nathan : ไม่มีทางแน่ครับ โดยเฉพาะเมื่อเดิมพันมันสูงขนาดนี้

Mr.Terrific : ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้านั่นเป็นใคร…

Mr.Terrific : และมีเป้าหมายอะไรกันแน่

โดยที่ Mr.Terrific ไม่รู้ ขอทานคนที่เขาเพิ่งจะบริจาคเงินให้ไปก่อนขึ้นรถนั่นแหละคือ Terry Mcginnis คนที่บุกเข้าไปในตึกของเขาเมื่อคืนนี้!

ที่อีกมุมหนึ่งของ New York City
ที่บาร์ “Wounded Duck”

Willa : …แล้วก็ขอเอเมรัลด์ มาร์ตินี่ด้วยค่ะ

Bartender : มาแล้วครับคุณผู้หญิง แต่ผมคงต้องขอดูบัตรคุณก่อน ขอดูบัตรประจำตัวคุณด้วยครับ

Bartender : โอเค พวกคุณเป็นคนของโลกที่หนึ่ง ขอต้อนรับสู่ Wounded Duck ครับ

Bartender : ของที่คุณสั่งอยู่นี่ครับคุณผู้หญิง ถ้าต้องการอะไรอีกก็บอกผมได้นะครับ

Willa : ไปช้าๆดีกว่าค่ะ ฉันดื่มแก้วแรกเร็วไปหน่อยแล้วด้วย

Kaylee : โดยเฉพาะในตอนที่เรากำลังกระหายน้ำจากการต้องไปอยู่กลางแดดมาทั้งวันแบบนี้ด้วย

ตอนนั้นเองก็มีลูกค้าชายสองคนเข้ามา

หัวแดง : ให้ฉันเลี้ยงพวกเธอสักแก้วไหมล่ะ?

Kaylee : ไม่ล่ะ เราอยู่กันเองได้

หัวดำ : ไม่เอาน่า! เพื่อนฉันเพิ่งจะชนะพนันมานา! พวกเธอต้องมาช่วยเราฉลองกันหน่อย!

Willa : ถูกล็อตเตอร์รี่มาหรือไง?

หัวแดง : ก็ไม่เชิง ฉันชนะพูล “พนันคนดังตาย” เพราะกรีนแอร์โร่วตายไปไง!

หัวดำ : เมื่อไม่กี่ปีก่อนเข้าก็เคยชนะมาก่อนด้วยนะ เมื่อตอนที่วันเดอร์เกิร์ลตายไง! อย่างกับว่าเขาเห็นอนาคตได้เลยล่ะ!

Bartender : แต่เขาไม่เห็นอนาคตอันนี้แน่

ว่าแล้ว Bartender ก็หวดหมัดใส่คู่หูแดง-ดำ!

Bartender : ออกไปให้พ้นเลย

Bartender : พวกแกทั้งคู่นั่นแหละ

Bartender : เดี๋ยวนี้ด้วย

Bartender : ถ้ามาเหยียบที่นี่อีกล่ะก็พวกแกได้ไปนอน I.C.U. แน่!

แล้ว Bartender ก็หันไปหาสองสาว

Bartender : ผมต้องขอโทษเรื่องเจ้าพวกนั้นด้วยนะครับ แก้วต่อไปผมเลี้ยงพวกคุณเอง

โดยที่พวกเขาไม่รู้ Lois Lane กำลังมองดู Bartender อยู่…

“แหมๆๆ”
“เบาะแสแรกของกล่องปริศนานั่น…กล่องไม้ขีด…ดูจะได้เรื่องแล้ว”
“การได้มาเห็นคุณตรงๆแบบนี้ รวมกับที่ฉันไปค้นคว้าเรื่องราวในอดีตมา ก็ทำให้ฉันได้ข้อสรุปหนึ่งเดียว

“เรดโรบินยังมีชีวิตอยู่”

บนแท็ปเล็ตของ Lois มีข้อมูลข่าวเก่าเมื่อหลายปีก่อน…
[เรดโรบินเสียชีวิต!]
[ไททันคนสุดท้ายเสียชีวิตในระหว่างศึกใหญ่ที่ปารีส]
[ที่ปารีส ความสูญเสียของเหล่าผู้พิทักษ์โลกเพิ่มขึ้นเรื่อย เมื่อพวกเขาต่อสู้เพื่อปกป้องยุโรปตะวันตกในวันนี้]
[เรดโรบิน สมาชิกของทีนไททัน และอดีตผู้ร่วมงานของแบทแมนถูกพบเสียชีวิตในเขตที่ถูกระเบิดพินาศของปารีส ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่เริ่มศึกนี้มา]

ที่แท้นาย Bartender คนนี้ก็คือ Red Robin (Tim Drake) อดีตสมาชิกของ Teen Titans นั่นเอง!!

โปรดติดตามตอนต่อไป

One thought on “THE NEW 52 : FUTURE’S END #3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *