Superior Spider-Man 25 : Darkest Hour Part 4

Marvel Comic : Superior Spider-man 25 : Darkest Hour Part 4 : สิ่งที่เผยตัวออกมา
เรื่อง : Dan Slott
ภาพ : Humberto Ramos
วางจำหน่าย: 15 มกราคม 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

Superior Venom Vs. Avengers!! และในศึกนี้ก็มีตัวช่วยที่คาดไม่ถึงปรากฎตัวขึ้น!!

อีกด้านหนึ่ง แก็ง Goblin ก็กำลังจะต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าร่วม!


.
.
.
เปิดฉากมาที่ Diamond District
Superior Venom (Otto Octavius) กำลังเข้าเล่นงานกลุ่มวายร้ายสามคนที่กำลังปล้นเพชรเพื่อไปจ่ายค่างวดให้แก่ Hobgoblin (Roderick Kingsley)

ด้วยพลังที่เหนือกว่ามาก S.Venom เล่นงาน Devil-Spider กับ The Bruin ไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็เหลือเพียง Blaze คนเดียว

แต่ก่อนที่นายมนุษย์ไฟจะโดนเชือดทิ้ง พวก Avengers ก็มาถึงพอดี

ตัดมาที่เซฟเฮ้าส์ของ Roderick Kingsley

Blaze : บ…บอส…บรูนกับดีวิลสไปเดอร์เสร็จไปแล้ว ปืนพ่นไฟผมก็พัง ผมต้องการหมอด้วย…

Kingsley : งั้นก็โทรเรียกรถพยาบาลเข้าสิ ฉันมีปัญหาใหญ่กว่านั้นให้ต้องรับมือนะ ฉันเพิ่งจะเสียแฟรนไชส์ไปสามอัน และฉันก็จะไม่ยอมให้มันมาสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของฉัน…หรือผลกำไรของฉันแน่

Kingsley : สตีเพิ่ลแจ็ค, ทัมบเลอร์, ริงเกอร์ ตอบด้วย

Steeplejack : อยู่นี่ครับ

Tumbler : มีอะไรรึคิงสลีย์?

Ringer : คุณต้องการอะไรหรือ?

Kingsley : พวกนายทุกคนออกไปหาค่างวดเดี๋ยวนี้เลย

Ringer : เอ่อ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีปัญหากับคุณหรอกนะครับบอส แต่เราก็ตามข่าวอยู่นะ ผมหมายถึงว่า เจ้าสไปเดอร์แมนสติหลุดมันกำลังออกอาละวาดอยู่ แล้วตอนนี้ยังมีพวกอเวนเจอร์อีกเนี่ยนะครับ? คิดดีๆนะครับ

Kingsley : ก็ใช่นะสิ ซึ่งนั่นก็ทำให้ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะทำงาน เพราะใครก็ดูออกนี่ว่า…

Kingsley : …เจ้าพวกนั้นมันคงจะไม่ว่างไปทำอะไรอย่างอื่นไปสักพักนั่นแหละ

ตัดไปที่ Diamond District

พวก Avengers ยังคงพยายามจะหยุดยั้ง S.Venom

แต่ด้วยพละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากการเสริมด้วย Symbiote รวมกับความสามารถหยั่งรู้ของ Spider-sense ก็ทำให้ศึกนี้ยากกว่าที่คิดไว้มาก

แม้แต่ Thor ที่มีพลังเหนือกว่ามากก็ยังต้องลำบากเมื่อ S.Venom พริ้วหลบค้อนเข้าไปซัดสวนได้ง่ายๆ

ทว่าพวก Avengers ก็ยังได้เปรียบด้านจำนวน เพราะแม้ S.Venom จะสัมผัสการโจมตีได้ แต่ก็ใช่ว่าจะหลบหลีกการโจมตีที่มาจากหลายๆทิศทางพร้อมกันได้ทุกครั้งไป

S.Venom จึงสั่งการให้พวกลิ่วล้อที่อยู่ใน Spider-Island มาเสริมกำลัง

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ…มีใครบางคนแอบสังเกตุการณ์พวกเขาอยู่ในมุมมืด…

Goblin Knight : ก็อปลินไนท์เรียกกรีนก็อปลิน ผมได้ภาพขั้นตอนการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินของพวกมัน, รูปแบบสถานที่ของพวกมัน…ทุกอย่างที่เราต้องการเลยล่ะครับ

Goblin Knight : ผมเห็นจุดอ่อนที่พวกเราสามารถใช้ประโยชน์ได้แล้วด้วยซ้ำ

Green Goblin : ทำได้ดีมาก นั่นน่าจะพอแล้วสำหรับตอนนี้ ไปทำภารกิจต่อไปได้แล้ว

Goblin Knight : กำลังมุ่งหน้าไปอยู่ครับ แล้วทางนั้นเรียบร้อยดีไหมครับ?

Green Goblin : ดีสุดๆเลยเชียวละ เมนาซกำลังทำการเสริมสวยแบบฉบับก็อปลินให้กับอดีตคาร์ลี่ คูเปอร์อยู่ แล้วพวกนั้นก็…

ตัดมาที่ฐานทัพใต้ดินของกลุ่ม Goblin

Menace : กำลังสนุกกันสุดๆเลย!

Menace : นี่มันเหมือนกับที่เราเล่นแต่งตัวกันสมัยเรายังเด็กอยู่เลย!

Carlie : ไม่หรอก นั่นมันคนอื่นต่างหาก เป็นแค่หุ่นตุ๊กตากลวงๆที่ทำงานแทบเป็นแทบตายในแล็ปอาชญากรรม เพื่อให้แน่ใจว่าพวกสัตว์ร้ายจะถูกกักขังเอาไว้ไม่ให้ออกมาอาละวาดได้อีก

Carlie : โดยไม่ได้สำเหนียกกับความจริงที่ว่าพวกเราทุกคนต่างก็เป็นสัตว์ร้ายกันทั้งนั้นเลยสักนิด

Green Goblin : เยี่ยมมากเลยนี่ที่รัก ฉันเชื่อว่าเธอเพิ่งจะล้างบาปให้กับตัวเธอเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ฉันเป็นคนแรกที่จะกล่าวลาคาร์ลี่ คูเปอร์ และขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวของเรา…”มอนสเตอร์”!

Menace : โอ เมนาซกับมอนสเตอร์ ฉันชอบจัง เธอคิดว่ายังไงล่ะน้องรัก?

Monster : ลิลี่ ฉันๆๆ ชอบมันมากๆเลย! ฮ่าๆๆ! เราเป็นพี่น้องคู่ขากันเต็มๆเลย!

(ผลของ Goblin Formula ที่มีต่อรูปลักษณ์จะแตกต่างกันไปตามแต่คน บางคนก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายนอกมากนักแบบ Green Goblin หรือ Goblin Knight แต่บางคนก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ระหว่างร่างคนปกติหรือร่างแปลงได้ตามใจชอบแบบ Menace ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่ารูปลักษณ์นี้ของ Carlie เป็นร่างแปลงหรือแค่แต่งหน้าเฉยๆกันแน่)

Green Goblin : จริงแท้แน่นอนเลยเชียว! ทีนี้ ในฐานะครอบครัวเราก็จะไม่เก็บความลับต่อกัน ดังนั้นเรามาเข้าเรื่องสำคัญกันดีกว่า เรื่องชื่อจริงของสไปเดอร์แมนยังไงล่ะ

Green Goblin : มันเป็นใครกันแน่?

แต่แม้ Goblin Formula จะเปลี่ยนแปลงร่างกายและดึงเอาด้านมืดในจิตใจให้ปรากฎขึ้นมา ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้คนคล้อยตามคำสั่งได้เสมอไป คนที่มีจิตใจแข็งแกร่งอาจมีพฤติกรรมต่อต้านได้เช่นกัน

Monster : ถ้าฉันรู้เรื่องแบบนั้น ฉันก็ไม่แบ่งปันมันกับก็อปลินแก่ๆที่ไหนก็ไม่รู้หรอกนะ คุณน่ะแหละบอกมาซิว่าคุณเป็นใครกัน?

Green Goblin : ฮึ อย่าให้การแสดงออกหลอกเอาได้สิ นี่คือฉันเอง…นอร์แมน ออสบอร์นยังไงล่ะ

Monster : พูดน่ะมันง่าย พิสูจน์มาสิ ถอดหน้ากากของคุณให้ฉันดู

Green Goblin : ท่าทางเราจะไปกันเร็วไปหน่อยแล้วนะเนี่ย!

Green Goblin : ฉันคงโง่มากไปหน่อยละถ้าจะไปถอดหน้ากากให้คนที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองว่ายอมทิ้งความเป็นตำรวจกับตำแหน่งในทีมก็อปลินเลยแบบนี้น่ะ

Green Goblin : เมนาซ…ไปจัดปาร์ตี้เปิดตัวให้กับเจ้าหญิงของเราหน่อยซิ

Menace : ได้ค่ะนายท่าน

Green Goblin : ให้แน่ใจว่าเจ้าหล่อนละเลงเลือดให้นองไปทั่วเมืองเลยล่ะ

ตัดมาที่จุดปะทะ
พวก Avengers กำลังต้องสู้กับทั้ง S.Venom และพวก Spider-Patrol ไปพร้อมๆกัน

Cap : นี่มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว!

Cap : กัปตันอเมริกาเรียกสมาชิกอเวนเจอร์ที่พร้อมปฏิบัติการทุกคน เราต้องการกำลังเสริม ถ้าพวกคุณได้ยินผมล่ะก็…”Avengers Assemble!”

ตอนนั้นเองก็มีการติดต่อกลับมา

Ironman : แค็ป นี่ไออ้อนแมนนะ ฉันกำลังมุ่งหน้าไปแล้ว

Cap : เดี๋ยวก่อน!

Cap : นายเปลี่ยนทิศทางเดี๋ยวนี้เลย อย่าเพิ่งเข้ามาที่จุดปะทะนะ

Ironman : นายขอกำลังเสริมไม่ใช่หรือ และฉันก็รู้เหตุผลแล้วด้วย จากที่ออกข่าวอยู่ตอนนี้ มันดูเหมือนว่าสไปเดอร์แมนโดยเวน่อมซิมไบโอตสิงสู่อยู่

Cap : ถูกต้องแล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามีอเวนเจอร์อีกคนที่กำลังมีปัญหาอยู่…สิบโทยูจีน ทอมป์สัน

Ironman : โอเค…ฉันรู้ว่าตอนนี้เรามีสมาชิกมากขึ้นเยอะแล้ว แต่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลยนะ

Cap : ฉันทำงานร่วมกับเขาในภารกิจลับมาหลายงาน เขาคือเอเจนท์เวน่อมและเป็นผู้ที่คอยควบคุมซิมไบโอตอยู่ ซึ่งถ้าพวกเขาโดนแยกออกจากกันแบบนี้…

Cap : …การหาคำตอบว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงและทำไมก็อาจจะเป็นกุญแจในการชนะศึกนี้ และเขาก็กำลังอาจต้องการความช่วยเหลืออยู่ด้วย

Ironman : ฉันกำลังดูอยู่แล้วล่ะแค็ป มีบันทึกการแจ้ง 911 เมื่อไม่นานมานี้ ผู้บาดเจ็บชื่อยูจีน ทอมป์สัน สถานที่คือ…

Ironman : …”ปาร์คเกอร์อินดัสตรี้”

Dr.Wirtham : สัญญาณชีพของคุณทอมป์สันกำลังตกลงเรื่อยๆแล้ว! เราต้องพาเขาไปส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!

Sajani : คุณก็ได้ยินการวินิจฉัยโรคแล้วนี่คะดร.เวิร์ธแฮม พวกนั้นช่วยเขาไม่ได้หรอก ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และฉันก็มีเครื่องมือที่พวกเขาไม่มี…แต่ฉันก็ทำได้แค่ยื้อเวลาไว้เท่านั้น ถ้าไม่ได้ซิมไบโอตคืนมาเขาก็ตายแน่นอน

Flash : เรารู้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหนคุณเจฟฟรี่ ถ้าเพียงคุณพาผมไปใกล้ๆกับมัน…

Sajani : อาการคุณทรงตัวอยู่ได้เพราะเครื่องมือพวกนี้นะ คุณอยู่ได้ไม่เกินสองนาทีแน่ถ้าไม่มีพวกมันช่วย…ยิ่งไปในที่แบบนั้นด้วยนี่

Dr.Wirtham : งั้นผมไปเอง…อึ๊กกก!

Sajani : หยุดเลยค่ะ ฉันได้สั่งเส้นใยที่จะช่วยควบคุมพลังงานในตัวคุณมาเพิ่มแล้ว แต่จนกว่ามันจะมาถึง สภาพของคุณก็ไม่ต่างกับถูกยึดให้ติดกันไว้ด้วยหมากฝรั่งเท่าไหร่หรอก

ทันใดนั้นความช่วยเหลือใหม่ก็เข้ามา…

Ironman : บางทีผมอาจช่วยได้นะ

Ironman : ผมเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ของที่มีให้ได้ประโยชน์สูงสุดอยู่แล้ว

Sajani : ฟังก่อนนะคะคุณอเวนเจอร์ ผู้ชายคนนี้อยู่ในการดูแลของฉัน

Dr.Wirtham : ไม่เป็นไรหรอกซาจานี่ คุณสตาร์ครู้ว่าผมคือคาร์ดิแอคตั้งแต่ช่วยซิวิลวอร์แล้วล่ะ พวกเรา…มีข้อตกลงกันอยู่

Ironman : สำหรับตอนนี้น่ะนะ ซึ่งผมก็คิดว่าพวกเราต่างก็ไม่สบายใจกับมันนัก แต่ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะละเมิดข้อตกลงนั้น

แล้ว Ironman ก็หันไปหา Flash

Ironman : กัปตันอเมริกาได้บอกเรื่องของคุณให้ผมได้รู้ด้วยเหมือนกันนะสิบโททอมป์สัน

Flash : เจ๋งซะไม่มี แบบว่าผมก็ไม่ได้จะว่าอะไรคุณหรอกนะ แต่ความลับมันก็เหมือนยาสีฟันนั่นแหละครับ ถ้ามันเผยออกมาแล้วมันก็ยากจะเอากลับคืนมาได้

Ironman : ผมรู้ดีกับตัวเลยล่ะ แต่ในกรณีนี้การที่ทุกอย่างเป็นที่รู้กันนั้นมีแต่จะเป็นผลประโยชน์ให้เรา

Ironman : ส่วนคุณ ดร.เวิร์ธแฮม ผมสามารถปิดรอยฉีกขาดของการปิดแผลชั่วคราวนั่นได้ หลังจากนั้นผมอยากให้คุณมาช่วยออกความเห็นให้กับไอเดียที่ผมมีหน่อย

ว่าแล้ว Ironman ก็ใช้ Repulser Blast อย่างอ่อนๆจากฝ่ามือของเขาช่วยรักษา Dr.Wirtham

Dr.Wirtham : ดีขึ้นมากเลย ขอบคุณครับ

Ironman : เครื่องไม้เครื่องมือที่คุณมีอยู่นี่น่าประทับใจมากทีเดียว…คุณชื่อ…ซาจานี่ใช่ไหมครับ? สำหรับมือใหม่แล้วคุณเตรียมพร้อมได้ดี

Ironman : ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เคยทำงานให้บริษัทของผมอยู่พักหนึ่ง เขาฉลาดมาก ผมอยากให้เขามาช่วยออกความเห็นด้วยเหมือนกัน

Sajani : ขอโทษนะคะ แต่ฉันติดต่อเขาไปแล้ว…

Sajani : …เขาบอกว่าเขาไม่ว่าง

ตัดกลับไปยังที่เกิดเหตุ
S.Venom ก็ยังคงอาละวาดหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง

แต่ก็มีพวกที่ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อยู่…ซึ่งพวกเขาก็คือ “นักข่าว” นั่นเอง

และด้วยการแพร่ภาพการต่อสู้กับพวก Avengers ที่ออกอากาศไปทั่วเมืองนั้น ก็ทำให้สิ่งที่คุกรุ่นมาพักใหญ่ก็เริ่มปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง!

ซึ่งผลที่ได้ก็ปรากฎต่อศูนย์บัญชาการของ Spider-Island อย่างรวดเร็ว

Spider-Patrol : กล้องของเราที่อยู่ทั่วเมืองถูกทำลายไปเรื่อยแล้วนะ! เจ้าพวกงี่เง่านั่นคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?

Spider-Patrol : แต่ฉันกลับหวังว่าเรามีมากกว่าแค่กล้องนะ ฉันเจอความผิดพลาดแปลกๆในระบบ…อันที่เราพยายามแก้กันมาตั้งนานนั่นแหละ

Spider-Patrol : และเราก็ยังไม่รู้ว่าต้นเหตุมันคืออะไร!

พวกนั้นไม่รู้เลยว่าระบบของพวก Spider-bot โดน Green Goblin แฮ็คไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพวกมันถูกวางโปรแกรมเอาไว้ให้ “ไม่จับภาพใครก็ตามที่มีใบหน้าเป็น Goblin” และนั่นก็ทำให้พวกกลุ่ม Goblin สามารถปฏิบัติการได้อย่างเปิดเผยโดยพวกที่ Spider-Island ไม่มีทางรู้ได้เลย

Menace : นั่นไงล่ะ! เจ้าพวกลูกน้องของคิงส์ลีย์! พวกปลายแถวตัวจ้อย!

Menace : แสดงฝีมือได้เลยน้องพี่ ให้พวกมันดูเลยว่าเราจะทำยังไง…

Menace : …กับเจ้าพวกที่โง่พอจะมาล้ำถิ่นของก็อปลิน!

Tumbler : อะไรเนี่ย?! แต่เราก็ทำงานให้กับก็อปลินนะ

Menace : คนละก็อปลินย่ะ

Ringer : หนีเหอะ! พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!

Monster : การรู้จักประมาณตัวมันก็ไม่ช่วยอะไรนายหรอกนะ พรรคพวก

ทว่าก็มีอยู่คนหนึ่งที่คิดจะสู้

Steeplejack : เจ้าพวกขี้ขลาดเอ๊ย พวกมันก็แค่ผู้หญิงที่เล่นเกมไร้สาระเท่านั้นแหละ ฉันนะเป็นมืออาชีพเฟ้ย

ปืนของ Steeplejack ยิงเฉี่ยวไหล่ของ Monster ไปเล็กน้อย

Monster : อ้อ แกชอบแบบรุนแรงสินะ หืม?

Monster : ฉันก็เหมือนกัน!

ว่าแล้ว Monster ก็ใช้ Goblin Glider ชนใส่ Steeplejack อย่างรุนแรงจนร่างของมันโดนอัดจมลงไปในรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างเคียง!

Monster : แย่จังเลย มันไม่ขยับซะแล้ว ฉันว่าฉันทำมันพังเสียแล้ว

Monster : ฮ่าๆ! ก็สมเป็นก็อปลินตัวปลอมแล้วล่ะนะที่ใช้ของไร้คุณภาพแบบนี้น่ะ

Menace : สุดยอดไปเลยน้อง! ฉันนึกอยู่แล้วว่าเธอต้องเป็นหนึ่งในพวกเราได้แน่

Menace : ขอต้อนรับสู่ครอบครัวนะจ๊ะ เราจะต้องมีความสุขกันสุดๆ…

ที่จากตึกข้างเคียง Goblin Knight ได้บันทึกภาพสิ่งที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมด

Goblin Knight : ใช่ครับบอส ผมถ่ายไว้ได้หมดเลย ก็ดูน่าเชื่อถือดีน่ะนะครับ เจ้าหล่อนไม่ได้ออมมือเลยสักนิด บางทีอาจจะหนักมือไปหน่อยด้วยซ้ำ แต่เจ้าหล่อนยังใหม่อยู่เพราะงั้นนั่นก็เป็นที่เข้าใจได้

Goblin Knight : ผมจะกลับไปทันทีที่จัดการเก็บกวาดเสร็จแล้วนะครับ

แล้วเขาก็ลงไปหา Steeplejack

Steeplejack : ด..ได้โปรดเถอะ…พาฉันไปโรงพยาบาลที…

Goblin Knight : วันนี้เป็นวันโชคดีของนายแล้วล่ะพวก เพราะฉันช่วยเรื่องนั้นได้

แล้ว Goblin Knight ก็เสียบดาบไฟของเขาทะลุอกของ Steeplejack ทันที!

Goblin Knight : นี่ไงล่ะ! ทีนี้นายก็ไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาลแล้ว

ซึ่ง Kingsley ก็ได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจากกล้องที่ติดไว้ที่ตัวของ Steeplejack ด้วย

Kingsley : ฉันจำดาบนั่นได้ เจ้าคนทรยศนั่น…

Goblin Knight แกดูอยู่หรือเปล่าล่ะร็อดดี้? นี่ฉันฟิล อูริช อดีตเด็กลูกไล่เก่าของแกไง ตอนนี้ฉันอยู่ทีมใหม่แล้ว

Goblin Knight : ถ้าแกอยากจะเจรจาเรื่องการยอมจำนนล่ะก็ แกรู้ว่าจะติดต่อฉันยังไง ลาล่ะ!

ตัดไปที่ Diamond District

Spider-woman : ดูรอบๆตัวให้ดีๆสิ ลูกน้องนายหมอบไปหมดแล้ว บางคนอาจจะบาดเจ็บหนักด้วย นายไม่อยากจะทำแบบนี้หรอกน่า

S.Venom : ฉันรู้เรื่องความสามารถใช้กลิ่นฟีโรโมนของเธอดีน่า

Spider-woman : โอเค แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะส่งไปไม่ถึงนาย เพื่อกล่อมนายให้สงบลง…เตือนสตินายว่าเราเป็นเพื่อนกัน

S.Venom : เพื่อน…ของฉัน…

S.Venom : …ไม่คิดจะมาควบคุมฉันเป็นหุ่นเชิดหรอก

ว่าแล้ว S.Venom ก็ซัด Spider-woman กระเด็นไป!

Thor : พอแล้ว ข้าจะไม่ออมแรงอีกต่อไปแล้ว!

S.Venom : ถ้าหากว่าแกเป็นเทพล่ะก็…นี่ก็คือยามสนธยาของแกแล้วล่ะว่ะ
(Raknarok : จุดจบของทุกสิ่งในตำนานเทพยุโรปเหนือแปลเป็นไทยได้ว่า “ยามสนธยา”)

ก่อนที่ Thor จะทันได้ถึงตัว S.Venom มันก็ขว้างโล่ห์ของ Cap ที่ตกอยู่ใส่เขา!

S.Venom : เจ้าพวกโง่! ไม่มีคนไหนในหมู่พวกแกที่สามารถเทียบชั้นฉันได้เลย ทั้งด้านร่างกาย…

S.Venom : …ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงสติปัญญาเลยด้วย

ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้น

Tony : แหม ก็ไม่รู้สินะ

S.Venom : หือ…?

Tony : ฉันก็เคยได้ปริญญามาเหมือนกัน ว่าไปก็หกใบแล้วน่ะนะ

S.Venom : สตาร์ค? แต่ถ้าแกอยู่นี่ แล้วชุดของแกอยู่…

ตอนนั้นเองชุดเกราะ Ironman ก็เข้าซัด S.Venom จากข้างหลัง!

Ironman : อยู่นี่ไง!

S.Venom : อึ๊ก! ป…เป็นไปไม่ได้…ฉันน่าจะ…

ในตอนที่ S.Venom กำลังตะลึงอยู่ Ironman ก็ใช้ซัด Repulser Blast ตามเข้าไปอีกดอก!

Ironman : รับรู้ถึงฉันได้ใช่ไหมล่ะ? แต่สัมผัสแมงมุมของนายไม่สามารถตรวจจับซิมไบโอตได้ และที่ฉันรู้เรื่องนั้น…

เมื่อ “Ironman” เปิดหน้ากากออก S.Venom ก็ต้องตกใจสุดๆ!

Flash : …เพราะฉันก็ยังมีบางส่วนของมันเหลืออยู่ในตัวยังไงล่ะ!

S.Venom : ทอมป์สัน?!

Tony : เร็วเข้า! ในตอนที่เขายังชะงักอยู่นี่ล่ะ!

Flash : ไม่เป็นไรแล้ว แกอยากจะกลับมาหาฉันใช่ไหมล่ะ? เขาไม่สามารถบังคับให้แกอยู่ได้อีกแล้ว

Venom : ใช่…

แต่พริบตาต่อมารยางค์ของ Symbiote ก็ซัด Flash จนกระเด็น?!

Venom : ไม่!

Venom : เจ้าใช้ยามาควบคุมข้า ตอนนี้ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายควบคุม ข้าทั้งดีกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม แข็งแกร่งกว่าเดิม…Superior!

“อ-อะไรนะ?”

“ฉันมันโง่จริงๆ”
“นี่ฉันไม่รู้ตัวได้ยังไงว่าเจ้าสัตว์ร้ายนี่มันส่งผลต่อฉัน…ครอบงำฉัน?”
“เพราะมันไม่ต้องการให้ฉันรู้ มันทำให้การรับรู้ของฉัน การตัดสินใจของฉันสับสน ในขณะที่มันค่อยๆแผ่ขยายการควบคุมอย่างช้าๆ”
“แต่แกพลาดแล้วเจ้าตัวประหลาด! ฉันคืออ็อตโต้ อ็อคเตเวียส! และฉันก็รับมือแกได้อยู่แล้ว!”
“และด้วยพลังใจอันแข็งแกร่งของฉัน ฉันจะขับแกออกไป! ฉัน…ฉัน…ฉันจะ…”
“ฉัน…ทำไม่ได้…”

แต่ในตอนนั้นเอง Venom Symbiote ก็เริ่มถอยออกไป?!

“เดี่ยวนะ ฉัน…ฉันคิดว่า…”
“ฉัน…ฉันทำได้! ฉันกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ!”

แต่สิ่งที่ Otto ไม่รู้คือ…มีจิตใจอีกดวงร่วมต่อต้าน Symbiote กับเขาด้วย!!

[ไม่ใช่หรอกด็อค ที่นายทำคือทำให้ฉันจำเป็นต้องลงมือต่างหาก]
[ที่ผ่านมาฉันคิดจะดูอยู่เฉยๆ เพื่อรอให้โอกาสที่เหมาะสมมาถึง แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้!”
[ฉันนอมให้นายดึงเราทั้งคู่จมดิ่งลงไปในความมืดไม่ได้อีกแล้ว!]

S.Spider-man : ฉันคือ…ฉันคือ…

[ฉันคือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์!]
[ฉันกลับมาแล้ว!]
[และนี่ก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น! เพราะฉันขอสาบานกับนายเลย…ว่าฉันจะต้อง…เป็นอิสระให้ได้!!]

ซึ่ง Otto ก็ไม่รู้ถึงการมีส่วนร่วมของ Peter เลยแม้แต่น้อย…

“นั้นมันเกือบจะสายเกินไปแล้วที่เดียว ถ้าเป็นคนอื่นมันคงสายไปเรียบร้อยแล้ว จะมีใครนอกจากฉันที่จะมีจิตใจแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าจนขับไล่เจ้าตัวประหลาดแบบนั้นไปได้?”

และเมื่อ Symbiote ไร้ร่างสิงสู่แล้ว ก็เป็นโอกาสที่ Flash รอคอย

Flash : มานี่เถอะ ไม่เป็นไรหรอก แกก็แค่สับสนไปเท่านั้นเอง

Flash : กลับมาที่บ้านของแกนี่ เราต่างก็ต้องการกันและกัน เราสมควรแล้วที่จะทำงานร่วมกัน…ในฐานะเอเจนท์เวน่อม

แล้ว Symbiote ก็ผสานเข้ากับร่างของ Flash

Venom : ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย

ส่วนทางด้านฮีโร่ผู้ที่ไม่มีใครรับรู้นั้น

[ดีแล้ว ด็อคคิดว่าเขาเป็นคนทำทั้งหมดนั่นด้วยตัวเอง]
[ได้เวลาต้องกลับไปหลบซ่อนตัวอีกครั้งแล้ว จะให้เขาพยายามลบฉันไปอีกรอบไม่ได้]
[แต่ว่าถ้าขืนเขาก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ล่ะก็ ฉันคงต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเร็วๆนี้แล้วล่ะ]

“สวรรค์ทรงโปรดเถอะ ดูความพินาศที่เกิดขึ้นนี่สิ ฉันจะแก้ตัวยังไง…เดี๋ยวสิ”
“ก็เหมือนทุกครั้งนั่นแหละ ทุกวิกฤตต่างก็มีโอกาสอยู่ทั้งนั้น”

แล้วมหกรรมทำเนียนก็เริ่มขึ้น

S.Spider-man : สหายของฉันทุกคน! นี่ฉันจะขอบคุณพวกนายยังไงดี? ในที่สุดหลังจากโดนครอบงำอยู่นับเดือน ฉันก็เป็นตัวของตัวเองอีกครั้งเสียที!

Venom : หลายเดือนเหรอ? นี่มันเพิ่งจะไม่กี่ชั่วโมง…

S.Spider-man : อ้า แต่นั่นมันไม่ใช่หรอก เมื่อตอนที่เราเจอกันครั้งล่าสุด ฉันโดนสิงสู่โดยเศษชิ้นส่วนขนาดจิ๋วของซิมไบโอต…

Venom : หมายถึงตอนนั้นน่ะหริอ….

S.Spider-man : นั่นแหละ! ใช่เลย!

(Venom หมายถึงตอนที่เขากับ Peter เคยสู้กันตั้งแต่ Venom เล่ม 4 โน่น)

S.Spider-man : มันซ่อนอยู่ในตัวฉัน ขยายตัวอย่างเงียบๆ…ค่อยๆเข้าครอบงำฉัน พวกนายอาจจะเห็นฉันทำตัว…แปลกไป ที่นี้ทุกคนก็รู้เหตุผลแล้ว แต่เพราะพวกนาย ในที่สุดฝันร้ายของฉันก็จบลงแล้วอย่างที่มันควรจะเป็น

S.Spider-man : โลกนี้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง

พวก Avengers ยืนฟัง S.Spidey พล่ามอยู่เงียบๆ

ตัดไปที่ฐานลับใต้ดินของกลุ่ม Goblin

Goblin Knight : มาแล้วครับ ผมได้รับการติดต่อมาทางเบอร์ลับของผม…อันที่ผมใช้ติดต่อกับคิงส์ลีย์

Green Goblin : ส่งมันขึ้นจอใหญ่ได้เลย

แล้วภาพของ Roderick Kingsley ก็ขึ้นมาบนจอ

Kingsley : ออสบอร์น? นั่นแกรึ?

Green Goblin : สวัสดีร็อดดี้ ยังคงหาเศษเลยจากคนที่เหนือกว่าแกเหมือนเคยเลยนี่นะ

Kingsley : แกยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีกเรอะ ทีนี้ฉันก็เข้าใจแล้ว แกคือคนที่ปลอมเป็นฉัน…แล้วขโมยเงินมาจากคนของฉัน

Green Goblin : ถือซะว่านั่นเป็นการส่งคำท้าทายก็แล้วกันนะ

Green Goblin : ถ้าแกยอมรับคำท้าล่ะก็ บอกสถานที่มาได้เลย เราจะมาตัดสินกันอย่างลูกผู้ชาย ซึ่งก็แน่ละแกมีตัวเลือกที่จะหนีหางจุกก้นไป…

Kingsley : ไม่มีวันเสียล่ะ! ฉันเสียเวลาไปมากมายกว่าจะสร้างอาณาจักรของฉันนี้ขึ้นมาได้ ฉันไม่มีวันยกมันให้กับคนเสียสติอย่างแกแน่นอน

Green Goblin : เยี่ยมมาก! ทีนี้ก็เป็นอันตกลงแล้วสิ

Green Goblin : มาเริ่มสงครามแห่งก็อปลินกันได้แล้ว!!

ทางด้าน Mary Jane ที่กลับมาบ้านหลังถูกปล่อยตัวออกมาแล้วก็พบกับ Peter (Otto) ที่รออยู่แล้ว

ซึ่ง Otto ก็ใช้แผนเดิมและป้ายความผิดของการกระทำที่แปลกไปของเขาให้กับ Venom Symbiote และด้วยการที่ MJ ไม่รู้เบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ทำให้เธอเชื่อที่ Otto โกหกอย่างง่ายดาย

“สมบูรณ์แบบ”
“ฉันหลอกเจ้าหล่อนได้ หลอกพวกมันทุกคนเลย”

นั่นคือสิ่งที่เขาคิดน่ะนะ…

Ironman : เอาละ มีใครเชื่อเรื่องไร้สาระที่สไปเดอร์แมนว่ามาบ้างล่ะ? เพราะฉันคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อ

Flash : เศษชิ้นส่วนซิมไบโอตขนาดจิ๋ว…ถึงในทางทฤษฎีแล้วมันก็เป็นไปได้ แต่ผมว่าถ้ามันเกิดขึ้นผมน่าจะรู้นะ

(กรณีที่เศษชิ้นส่วนของ Symbiote ที่เล็กระดับเซลที่หลงเหลืออยู่ในร่าง Host แล้วเพิ่มจำนวนขึ้นมานั้นเคยมีเกิดขึ้นมาแล้ว อย่างในกรณีของ Carnage Symbiote และ Cletus Kasady เป็นต้น)

Black Widow : นี่ทอมป์สัน นายมีการเชื่อมโยงทางจิตกับซิมไบโอตใช่ไหม? นายพอจะดึงข้อมูลความจำในช่วงที่มันรวมร่างกับสไปเดอร์แมนได้หรือเปล่า?

Flash : ผมก็ไม่อยากทำแบบนั้นเท่าไหร่ แต่ถ้าเขากำลังมีปัญหาล่ะก็…หือ? ผมเจอแต่ความเลือนราง เหมือนกับคลื่นวิทยุจากสองสถานีกำลังส่งสัญญาณด้วยคลื่นความถี่เดียวกันจนมันตีกันเอง แปลกมากเลย

Cap : เราจะดูเรื่องนี้เอง แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะให้ซิมไบโอตของนายอยู่ห่างๆจากสไปเดอร์แมนเข้าไว้

Flash : ผมเห็นด้วย และผมก็มีเรื่องที่ต้องกลับไปดูแลที่ฟิลลี่ด้วย ถ้าคุณรับจะดูแลเรื่องนี้ผมก็สามารถไปได้อย่างสบายใจ

Cap : ฉันจะส่งความคืบหน้าให้นายเป็นระยะๆ นายเป็นทหารที่ดี แฟลช…และเป็นคนที่ดีด้วย

เมื่อ Venom โผร่อนออกจากตึกไป พวก Avengers ก็ประชุมกันต่อ

Wolverine : ฉันขอบอกนายตรงๆนะสตาร์ค ฉันเชื่อมั่นในประสาทสัมผัสของฉันเต็มที่ และมันก็บอกว่าสไปดี้เป็นคนเดียวกับที่เคยเป็นมาคลอด ทั้งกลิ่น, เสียง แม้แต่สัญญาณชีพจร…

Spider-woman : และการทดสอบที่เราทำกับเขาก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน

Ironman : การทดสอบรึ?

Black Widow : เมื่อตอนที่คุณออกไปท่องอวกาศ เราได้ทำการทดสอบสไปเดอร์แมนอย่างละเอียดมาก่อน

Thor : ใช่ มันไม่มีร่องรอยของเวทย์มนต์ดำ หรือการที่มีตัวปลอมมาอ้างตัวเป็นสหายของเราเลย

Spider-woman : เขาไม่ใช่ทั้งสเปซแฟนธ่อมหรือสกรัลล์ด้วย…เชื่อเถอะ เราเช็คซ้ำตั้งสามรอบแน่ะ

Ironman : อย่าหาว่าดูถูกกันเลยนะ แต่ฉันคือคนที่ออกแบบเครื่องมือส่วนใหญ่ที่มีอยู่ที่นี่ ฉันรู้จักมันดีกว่าใคร ฉันชักอยากจะดูข้อมูลการตรวจสอบนั่น…บางทีฉันจะเจอบางอย่างที่พวกเธอไม่พบ

Ironman : อ้าว อะไรล่ะเนี่ย? ข้อมูลมันถูกลบไปแล้ว รวมทั้งภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในวันนั้นด้วย…

Ironman : …ยกเว้นอันที่มีแต่ฉันเท่านั้นที่รู้

Spider-woman : โทนี่! นี่นายไม่รู้จักความเป็นส่วนตัวของคนอื่นบ้างหรือไง?

Ironman : รู้จักสิ มันแค่ล้าสมัยไปแล้วก็เท่านั้น ตั้งแต่ตอนที่พวกสกรัลล์บุก ฉันก็หวาดระแวงหนักกว่าเดิม

Ironman : และฉันก็ทำถูกแล้วด้วยใช่ไหมล่ะ? ที่นี้เรามาดูกันดีกว่าว่ามันเป็นฝีมือของใคร…

แล้วภาพของคนที่เข้ามาทำการลบข้อมูลก็ปรากฎขึ้นมาเต็มจอใหญ่…ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน…S.Spidey นั่นเอง!

Cap : นั่นชัดเจนพอแล้ว! ได้เวลาไปจับตัวสไปเดอร์แมนมาแล้วล่ะ!

ถึง Otto Octavius จะหลงตัวเองว่าฉลาดกว่าใครๆไปหมด แต่เมื่อมาเจอกับคนที่ฉลาดไม่แพ้กัน (อาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ) อย่าง Tony Stark เข้า สิ่งที่ปิดบังไว้ก็ถูกเปิดโปงออกมาอย่างง่ายดาย!

ตอนต่อไป The Goblin War!

และหลังจากนั้นก็จะเป็น Goblin Nation!!

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวต่อจากนี้ ผมคงจะไม่ทำต่อนะครับ เพราะคุณ Bank-Genesis ได้ทำสปอยซีรีย์นี้ลงประจำที่เวปของเขาอยู่แล้ว ผมเพียงแค่มาทำสปอยเป็นกรณีพิเศษเฉพาะในบทที่เกี่ยวกับ Venom เท่านั้น

ติดตาม Goblin Nation ที่เว็ปของคุณ Genesis ได้ที่เว็ปของเขาครับ
http://bank-genesis.blogspot.com/

ทีนี้มาถึงส่วนที่ผม “อาจจะ” หยิบมาสปอยในอนาคตกันดีกว่า
แม้ซีรีย์ของพวกเขาจะถูกตัดจบไป แต่เรื่องราวของเหล่าบุรุษแมงมุมคนอื่นๆก็ไม่ได้จบลงตามไปด้วย ในปี 2014 นี้พวกเขากำลังจะออกไปโลดแล่นยังสถานที่อื่นๆในจักรวาล Marvel ที่แม้แต่ Spider-man ก็ยังไม่เคยไปมาก่อน!

Venom : Guardians Of The Galaxy!!

Scarlet Spider : New Warriors!!

และยังมี Miniseries ที่จะเริ่มในเดือนเมษายนนี้
เมื่อคนบ้าถูกส่งไปตามล่าฆาตกรโรคจิต!!

Deadpool Vs. Carnage!!!

3 thoughts on “Superior Spider-Man 25 : Darkest Hour Part 4

  1. RedRaven

    เป็นการจบที่ ได้ความหวังมาก

    แต่ไม่อยากประมาณ คนที่ชื่อ Dan scott

  2. Tatoo

    กลับมาเเล้ววู้ววว ต่อไปมันส์เเน่
    เเต่ว่าเเฟลช ไปไกลเลยนะนั้น

  3. umbra

    …..กำ Carlie สาวแว่น กลายเป็นgoblinแก๊งตามพี่สาวซะแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *