Krypton Return Part 1 : Action Comics Annual #2

เรื่องโดย Scott Lobdell | ภาพโดย : Kenneth Rocafort

วางจำหน่าย : 30 ตุลาคม 2013

สำนักพิมพ์ : DC Comics

H’el ย้อนเวลาสู่อดีตได้สำเร็จ และเขาได้เปลี่ยนแปลงดาวคริปตันไปโดยสิ้นเชิง

และนั่นทำให้ The Oracle ต้องขอความช่วยเหลือจาก Superman, Supergirl และ Superboy

เพื่อหยุดยั้งความทะเยอทะยานของ H’el และทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง!

.

เนื้อหาก่อนหน้านี้เชี่อมโยงจาก H’el on Earth

จากอีเวนต์ที่แล้วใน Psi Way ตัว Superman โดนพลังงงานมหาศาลบางอย่างดึงตัวมาจากโลก

และเขายังพบคลื่นกาลเวลาที่ระเบิดสิ่งต่างๆที่ขวางทางมันจนเป็นผุยผง มันบิดเบือนสิ่งต่างๆที่อยู่เบื้องหน้าของมัน และนอกจากนี้เขายังพบกับประตูมิติที่โผล่ออกมาเบื้องหน้าเขา ซึ่งมันทำให้เขาคิดว่ามีใครบางคนที่ติดต่อมาหาเขาและต้องการให้เขาไปพบ

นอกจากนี้นี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีสุดในการหาทางกลับบ้านของเขา และเขาก็ผ่านประตูเข้ามายังอีกที่หนึ่ง และพบกับ Supergirl* ที่มาอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว ซึ่งเธอก็เล่าว่าตัวเองหลบหนีจากการตามล่าของ Cyborg Superman และ Braniac มา และรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว และซักพัก Superboy** ก็ตามมาติดๆ โดยเขาบอกว่าตัวเองกำลังเล่นงานตัวเองในอนาคตที่บ้าคลั่งอยู่ดีๆก็โผล่มาที่นี่ และตอนนี้พวกเขามากันครบแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่แล้ว Superman ก็เปรยเรื่องพลังงานกาลเวลาที่บิดเบือนที่เขาเห็น ว่าพวกเขาต้องหาทางหยุดยั้งมัน แต่เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่บางทีคนที่เรียกพวกเขามาอาจจะรู้…

*เรื่องราวเกิดขึ้นใน Supergirl #24

**เรื่องราวเกิดขึ้นใน Teen Titan Announce #2

และนั่นก็คือ The Oracle สิ่งมีชีวิตแห่งจักรวาล ที่คอยเฝ้าดูอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต เขาอยู่ในทุกหนแห่ง และคอยจับตาดูโดยไม่ยุ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เว้นแต่เพียงว่ามันจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายอย่างที่สุด เหมือนในวันนี้

ซึ่ง Superman เคยพบเขามาก่อนในช่วงสุดท้ายของ H’el on Earth และรู้ว่าเขาไม่พูดอะไร แต่ใช้ภาพเป็นตัวสื่อสิ่งต่างๆ

Superman : แต่ฉันมีความอดทนน้อยสำหรับเจ้าสิ่งมีชีวิตจากห้วงอวกาศที่เป็นปริศนาอย่างหมอนี่ เอาล่ะ ถ้านายรู้ว่าจะหยุดยังเจ้าคลื่นกระแสกาลเวลานั่นได้ยังไง ก็บอกมาซักที!

Superboy : นี่นี่ ญาติของคุณเขากำลังคุยกับเจ้ายักษ์ใหญ่นี่อยู่อ่ะ เขาเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?

Supergirl : ตอนที่ฉันเจอเขาครั้งแรกก็ไม่หรอกนะ แต่ตอนนั้นเขาอายุแค่ 6 เดือนเอง

Superboy : เดี๋ยวนะ…คุณแก่กว่าเขา?

Supergirl : เคยน่ะ เอาไว้คุยเรื่องนี้กันทีหลังจะได้มั้ย

Superman : เอาล่ะ ทำอะไรสักอย่างสิ

Superboy : ดูสิ นั่นไงภาษามือ นั่นคือจุดเริ่มต้นล่ะ

Supergirl : นายไม่ต้องพูดอะไรออกมาทุกๆอย่างก็ได้นะ คอน

Superboy : อย่าเรียกฉันแบบนั้น พวกคุณเคยออกมาอวกาศกัน… นี่พวกคุณเห็นนั่นมั้ย?

Supergirl : คาล นายต้องดูนี่

Superboy : นี่พวกเธอกำลังหมายถึงอะไร?

และสิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือดาวบ้านเกิดที่ระเบิดไปแล้วในอดีต ดาว Krypton แต่บัดนี้มันกลับยังคงอยู่อีกครั้ง

Superboy : ว้าว มันสวยมากจริงๆ

Supergirl : (ภาษาคริปตัน)

Superboy : อะไรล่ะนั่น?

Supergirl : คริปตัน ด้วยนามแห่งราโอ นั่นคือคริปตันจริงๆ

Superman : ฉันเคยเห็นภาพของมันมาก่อน ฉันเคย…

Superman : พระเจ้า มันสวยงามกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้ไกลโขเลยล่ะ

และการกลับมาของ Krypton ก็ทำให้ Supergirl ตื้นตันเป็นที่สุด เธอคิดว่า H’el ที่ย้อนเวลากลับไปทำสำเร็จแล้ว และพยายามที่จะลงไปทันที แต่ Superman ก็ห้ามไว้ ว่าพวกเขายังไม่รู้แน่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และ H’el ทำได้ยังไง ทำให้ Supergirl เซ็งๆที่โดนขัดแบบนี้ แต่แล้ว อาวุธที่อยู่เหนือวงโคจรของดาวกลับยิงปืนพลังงานนิวเคลียร์เข้าใส่พวกเขา Superman จึงคิดว่าพวกเขาควรจะหาทางหลบจากมันไปที่อื่นดูก่อน

ซึ่งพวกเขาก็โดนวาร์ปมายังดวงจันทร์สีแดงของ Krypton

Superman : นี่พวกเราโดนเคลื่อนย้ายมาที่ไหนเนี่ย…?

Supergirl : อโกรอน ดวงจันทร์ของดาวคริปตัน แต่ได้ยังไง…?

Oracle : คำถามของเจ้า จะได้รับการตอบทั้งหมด ในช่วงเวลานี้

Oracle : ต้องขออภัยด้วย มันมีเวลาไม่มากแล้ว ข้าจึงนำพวกเจ้ามาที่นี่ และขออภัยอีกครั้งกับการใช้ภาษาของพวกเจ้าแบบแปลกๆเช่นนี้ ข้าไม่ได้พูดออกมานานมากแล้ว

Superman : ซุปเปอร์บอย…?

Oracle : ไม่ นี่ไม่ใช่ซุปเปอร์บอย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ทั้งหมด ข้าคือ ออราเคิลผู้อยู่เหนือกาลเวลา และข้าได้เชื่อมต่อเข้ามายังร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังโทรจิตซึ่งพวกเจ้าเรียกว่า ซุปเปอร์บอยคนนี้…

Oracle : และนั่นเป็นเพราะข้าต้องอธิบายถึงภัยร้ายที่กำลังย่างกรายและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาล

Superman : งั้นก็ปล่อยเพื่อนของเรามาก่อน แล้วค่อยคุยกัน

Supergirl : “เพื่อน” นั่นเป็นคำที่ไม่เหมาะกับ โคลน สักเท่าไร แต่ยังไงเขาก็เป็นมากกว่าแค่เครื่องกระจายเสียงของ สิ่งมีชีวิตคอสมิกแบบนาย

Oracle : พอแล้ว ฟังข้าก่อน นี่คือสิ่งสำคัญที่พวกเจ้าต้องฟัง มันไม่มีทางเลือกสำหรับพวกเจ้า…

จากนั้น Oracle ก็เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องราวใน H’el on Earth ที่ทำให้ H’el โดนส่งกลับไปในอดีต และถูกพบโดน Jor-El ที่มีอายุ 18 ปีในตอนนั้น และนำเขาไปรักษา และในช่วงเวลานั้นเขาก็ทำการศึกษาเรื่องราวต่างๆบนดางดวงนั้น และทำให้เขาได้พบกับความจริงว่า ที่จริงแล้วเขาเป็นแค่เซลล์รูปแบบตัวอย่างของ Jor-El ที่บรรจุลงไปในยานเท่านั้น การถือกำเนิดของเขาเป็นอุบัติเหตุทางพันธุกรรม และนั่นทำให้เขาบ้าคลั่ง เข้าสังหารผู้สร้างเขา และส่งยานที่มีเซลล์ของเขาจริงๆลงไปเพื่อให้ตัวเขายังคงอยู่ และตั้งเป้าหมายใหม่เป็นการปกครองดาวคริปตัน

Superman : เรื่องของนายมันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนักนะ ถ้าหมอนั่นฆ่าพ่อของฉันไปก่อนหน้านี้….แล้วฉันล่ะ…?

Supergirl : ญาติของฉันพูดถูก พวกเราอยู่ที่นั่นในวันที่ดวงดาวตายลง สิ่งที่นายพูดออกมามันไม่ได้อธิบายเรื่องนี้เลย

อ่านจุดกำเนิดและเรื่องราวของ H’el ในช่วงก่อนหน้าบทนี้ได้ใน Superman #23.3 H’el

Oracle : นั่นเพราะการกระทำที่แตกต่างออกไปของเขา ได้สร้างอนาคตที่เป็นไปได้ซึ่งแตกต่างกันขึ้นมา

Superman : งั้นก็หมายความว่า… เขาสามารถที่จะฆ่าชาวคริปตันมากเท่าไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ…จนกว่าเขาจะทำให้สิ่งที่เขาต้องการเป็นจริง

Supergirl : แต่ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลยนี่

Superman : ก็เธอไม่ใช่หนึ่งในคนที่โดนระเบิดนี่จริงมั้ย?

Supergirl : แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้พวกเรามีชีวิตอยู่ และคริปตันก็มีชีวิตอยู่

Supergirl : ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะจัดขบวนพาเหรดให้ H’el และมอบกุญแจของวิหารแห่งราโอให้กับเขาด้วยซ้ำ เขาบอกว่าเขาจะช่วยเหลือคริปตัน และตอนนี้เขาก็ทำได้แล้ว… โดยที่ไม่ต้องทำลายล้างระบบสุริยะของโลกเลยอีกด้วย

Oracle : แต่มันก็เกิดห่วงโซ่แห่งหายนะขึ้น

จากนั้น Oracle ก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น H’el ย้อนเวลากลับไปยังช่วง Clone War เพราะคิดว่ามันคือต้นเหตุที่นำไปสู่การล่มสลายของดาวคริปตัน แต่เขาคิดผิด และทำให้เขาคิดว่าการสูญเสียสติปัญญาของ Jor-EL ไปนั้นเป็นเรื่องที่ผิดพลาด เขาจึงย้อนเวลากลับมาช่วยเหลือ Jor-El ไว้ และร่วมมือกับเขาเพื่อหาหนทางช่วยเหลือดาวคริปตันนี้ ซึ่งพวกเขาก็พบสาเหตุที่แกนของดวงดาว แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาต้องมองดูดวงดาวล่มสลายไปอยู่หลายครั้งหลายครา

Oracle : จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อหนึ่งใน Jor-El ได้ค้นพบหนทางที่จะแก้ไขปัญหานี้….

Supergirl : ไม่!

Superman : คาร่า เธอทำอะไร?

แล้วจู่ๆ Supergirl ก็ตบเข้าใส่ Superboy จน Oracle ที่เข้าทรงหลุดไป

Supergirl : นี่นายไม่เห็นเหรอ คาล? ว่าออราเคิลกำลังทำให้ตัวเขาโดนเผาไหม้ ต้องตัดการเชื่อมต่อของทั้งคู่

Superboy : ซุปเปอร์…เกิร์ล… ขอบใจมาก มันมีข้อมูลจำนวนมหาศาล…ที่แทบจะลุกไหม้ในสมองของฉัน ถ้าจิตใจของฉันยังคงเชื่อมต่อกับออราเคิล… มันคงจะ…หลุดไปจากร่างของฉันแน่ๆเลย

Superman : มันก็รู้สึกดีนะ… ที่เห็นพวกเธอดีต่อกันแบบนี้

Superboy : จริงเหรอ?

Supergirl : นี่พวกเรากำลังพูดถึงจุดจบของทุกสรรพสิ่งนะ โตกันเร็วๆหน่อยก็ดี

จากนั้นพวกเขาก็พบกับคนคนหนึ่ง มือขวาของ General Zod เธอคือ Faora นั่นเอง ซึ่ง Supergirl รู้จักเธอดีในฐานะหนึ่งในคนที่น่าหวาดหวั่นที่สุดในกองกำลังของดาวคริปตัน

ซึ่งเธอก็อยากให้พวกเขาเชื่อใจเธอ แต่เหมือน Supergirl จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ส่วน Superman ที่ไม่ค่อยรู้จักเธอเลยง่ายกว่า Supergirl หน่อย แต่จู่ๆแผ่นดินบนดวงจันทร์ก็สั่นสะเทือน ซึ่ง Faora ก็บอกว่าเป็น H’el นั่นเองที่เป็นคนทำ เพราะทุกๆครั้งที่ H’el ทำการข้ามมิติเพื่อเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง มันจะทำให้เกิดคลื่นสึนามิของกาลเวลาที่จะบิดเบือนและทำลายมิติต่างๆ

แต่ยังไง Supergirl ก็ยังไม่เชื่อใจ Faora อยู่ดี เธอจึงเล่าว่า Oracle ได้ลองส่งผู้ส่งสารของเขาออกมาหา H’el แล้ว แต่ก็โดน H’el สังหารไป ทำให้เขาต้องติดต่อมาหาเธอ ที่เมื่อไร้ Zod ก็ไม่มีเป้าหมายในชีวิต และเขาก็เปลี่ยนแปลงเธอไป แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่เธอหรอกที่เปลี่ยนไป เพราะ H’el ได้ทำการจัดการกับทุกๆคนที่ขวางทางเขา และเธอก็แสดงให้พวก Superman เห็น

และนั่นคือโรงงานมนุษย์ที่ใช้ชาวคริปตันที่ต่อต้านเขาเยี่ยงทาส บัดนี้ดาวคริปตันกลายเป็นดวงดาวที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและความตาย และมันยังแผ่ขยายมาถึงดวงจันทร์ดวงนี้อีกด้วย นั่นคือ แม้ดวงดาวจะยังอยู่แต่จิตวิญญาณของมันได้หายสาบสูญไปแล้วตลอดกาล สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้พวก Superman หดหู่ใจ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะ Oracle ต้องการให้พวกเขาเห็น และทาง Superman ก็เริ่มรู้สึกไม่ดีกับอากาศบนดวงดาวนี้ และคิดว่าพลังของเขาจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนภายใต้พระอาทิตย์สีแดงนี่

Superman : แล้วหนทางเดียวที่จะหยุดมัน… คือยับยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้น นั่นหมายความว่า…

Faora : ใช่แล้ว ทางเดียวที่จะช่วยเหลือดาวคริปตัน… และหยุดยั้งคลื่นสึนามิกาลเวลา…ก่อนที่มันจะทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ก็คือ พวกเขาทั้งสามคนต้องย้อนเวลากลับไป… ไปยังช่วงเวลาที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้…

Faora : และแก้ไขมัน… ให้เป็นไปชะตากรรมของดาวคริปตันที่ควรจะเป็น

Faora : ฉันเสียใจด้วยที่ต้องพูดแบบนี้

แต่แล้วจู่ๆใจสู้ของ Superboy ก็ตื่นขึ้นมา และตรงเข้าๆไปเล่นงานพวกทหารของ H’el เพื่อช่วยเหลือเหล่าคนที่โดนกดขี่ แต่เขาก็โดนยิงร่วงในเวลาไม่นาน และทำให้พวกนั้นรู้ตัวว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ จน Faora ต้องเร่งให้พวกเขาไปทำตามที่เธอบอก ซึ่งจริงๆแล้ว Superman ก็คิดที่จะเข้าไปช่วยเธอ แต่เธอก็รับรู้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ใต้พระอาทิตย์สีเหลืองแล้ว ควรจะออมแรงไว้จะดีกว่า อย่าเสียพลังไปโดยเปล่าประโยชน์กับพวกลิ่วล้อพวกนี้เลย เธอจะต้านไว้ให้เอง

และพวกเขาก็พบกับประตูมิติสามบานที่เปิดออกมา และนี่คือการสนับสนุนจาก Oracle ซึ่งนั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องแยกกันไป และทำภารกิจของตัวเองให้สำเร็จ

Faora : ซุปเปอร์เกิร์ล เธอต้องย้อนกลับไปในช่วงเวลาของสงครามครั้งใหญ่ที่สุด การต่อสู้ที่ สกาย คอร์ และต้องป้องกันกองกำลังโคลน ไม่ให้ก่อความรุนแรงที่จะนำไปสู่ความล่มสลาย

Faora : และสำหรับ ซุปเปอร์บอย ทางเดียวที่เธอจะทำเรื่องราวในอดีตสำเร็จได้ นั่นหมายความว่าเธอ (Kara) จะต้องออกไปจากดาวคริปตันได้

Faora : ส่วน ซุปเปอร์แมน นายจะต้องรับผิดชอบในหน้าที่สำคัญที่สุด… เพราะนายจะต้องหยุดยั้ง H’el ในช่วงเวลาที่เขากำลังจะทำการสำเร็จ

Superman : มันต้องมีทางอื่นที่จะช่วยเหลือคริปตัน มากกว่าที่จะให้มันกลับไปกลายเป็นแค่โลกอันเลวร้ายแบบที่เขาทำสิ

Faora : ไม่ มันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว! ออราเคิลต้องการให้ฉันแสดงให้พวกนายเห็นว่า H’el พยายามทำให้เกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา

และ Faora ก็คอยคุ้มกันให้พวกเขา

Superman : ได้ยินที่เธอพูดแล้ว ว่าเธอไม่ใช่คนจากช่วงเวลาปกติ

Superboy : แต่ถ้าเราปล่อยเธอไว้ มันจะ…?

Superman: ออราเคิลส่งพวกเรามาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นั่นคือเพื่อให้เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่ H’el ทำ

Superman : แล้วก็…คาร่า, คอน… ถึงพวกเราจะทำสำเร็จ

Supergirl : พวกเราก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีก…

Superboy : แต่ถ้าพวกเราไม่ทำ สิ่งต่างๆก็จะเลวร้ายลงไปอีก จนกระทั่งคลื่นสึนามิกาลเวลาทำลายทุกๆอย่าง ดังนั้นแล้ว…

Superboy : เจอกันใหม่ในอีกฝากของประตูนะ…

Supergirl : คาล เดี๋ยวก่อน… ฉันรู้ดีว่าฉันไม่เคยจะทำตัวเป็นคุณน้าที่ดีพอสำหรับนายเลย และขอโทษด้วยสำหรับเรื่องที่ฉันเข้าไปยุ่งกับชีวิตของนาย

Superman : เธอไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก

Supergirl : ฉันแค่อยากจะขอบคุณนาย ที่พยายามทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันอยู่บ้านของตัวเอง

และจากนั้นน้า-หลาน ที่อายุต่างกันก็สวมกอดกัน และ Superman ก็ปล่อย Supergirl เข้าไปยังประตูมิติ

Superman : แล้วเจอกัน

Supergirl : ตามนั้น

และจากนั้น Superman ก็สัมผัสได้ว่า H’el มาแล้ว Faora จึงรีบไปขวางไว้ ให้เขาได้เดินทางไป ซึ่ง Superman ก็เดินทางไปได้สำเร็จ แลกกับชีวิตของ Faora ซึ่ง Superman ก็โผล่มายังเมืองหลวงของคริปตัน Kryptopolis หนึ่งเดือนก่อนที่ดวงดาวจะระเบิด

ทางด้าน Supergirl ปรากฏตัวในป่าช่วงเวลาของสงครามครั้งใหญ่ และพบกับโคลนกองหนึ่ง

Supergirl : โคลน พวกมันดูดิบเถื่อนมากกว่าที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้เสียอีก ใจนึงของฉันก็อยากให้ คาล มาอยู่ที่นี่เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า คอน อาจจะกลายเป็นอะไรในอนาคต

Supergirl : ส่วนอีกครึ่งนึง… ก็หวังว่าอีกคนจะอยู่ที่นี่…ในตอนนี้

Supergirl : ขอบคุณ ราโอที่อย่างน้อยฉันก็…

แต่แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บ เพราะอาวุธของโคลนบาดเข้าที่แก้มของเธอ

Supergirl : ฉันกำลังจะบอกว่า “ร่างกายดั่งเหล็กกล้า” แต่ ฟาโอร่า พูดถูก ฉันกลับมาอยู่ใต้ดวงอาทิตย์สีแดงแล้ว…

Supergirl : พลังของฉันกำลังสลายไป แต่ทำไมมันถึงได้รวดเร็วแบบนี้?

Clone : ไม่ใช่หนึ่งในพวกเรา ไม่ใช่หนึ่งในพวกมัน งั้นฆ่าแก สับแกเป็นชิ้นๆ แล้วเราจะเต้นรอบศพของแก

ทางด้าน Superboy ก็โผล่มายัง Argo หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ดวงดาวจะระเบิด และตอนนี้สิ่งที่เขาต้องหาก็คือ Kara Zor-El หรือ Supergirl นั่นเอง แต่แล้วเธอก็ปรากฏตัวออกมาโดยที่เขาไม่ต้องหา

Kara : โอ๊ะ ขอโทษที ฉันไม่เป็นไรหรอก นี่เป็นเครื่องต่อต้านแรงโน้มถ่วงที่แม่ของฉันสร้างขึ้นมา แต่มันยังไม่ค่อยเสถียรอยู่สักหน่อย และเดี๋ยวนะ นายกำลังสวมชุดที่เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลฉันนี่! หรือว่านายจะทำงานให้กับครอบครัวของฉัน?

Superboy : ก็ประมาณนั้น… เอ่อ ฉันทำงานให้กับลุงของเธอ ทดสอบชุดต้านแรงโน้มถ่วงนี่น่ะ เท่ดีใช่มั้ย?

Kara : ดู ฉูดฉาดไปหน่อย แต่ก็ใช้ได้… อ้อ อย่าบอกที่บ้านฉันล่ะ ว่าคืนนี้ฉันจะออกไปเรียน!

Superboy : “ได้เลย ความลับของเธอจะไม่มีวันหลุดออกไปแน่ เพราะฉันก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน”

Kara : ฉันจะไปที่สวนหญ้าลาวาซักหน่อย สนใจจะไปด้วยกันมั้ย?

Superboy : แน่นอนสิ

Superboy : เยี่ยมเลยจริงๆ สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือพาเธอออกไปจากเมืองอาร์โก้ ด้วยยานลำหนึ่งโดยที่เธอไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่… แล้วดูสิฉันทำพังตั้งแต่ 30 วินาทีแรกที่มาถึง แล้วคราวนี้อะไรอีกเนี่ย?

ทางด้าน Superman ก็มาอยู่ในห้องทดลองที่มืดจนเขาแทบจะมองอะไรไม่เห็น แต่เขากลับรู้สึกว่าที่นี่เหมือนกับบ้านของเขาไม่ผิด… และชุดของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง (ตรงส่วนนี้ผมไม่แน่ใจว่า Superman ทำเอง หรือชุดเปลี่ยนไปเอง) ซึ่งทีแรกเขาก็คิดว่าบางทีขุดนี้อาจจะช่วยเก็บพลังที่ค่อยๆหายไปของเขาไว้ได้สักพัก แต่คิดอีกทีมันก็ไม่ได้ช่วยมอบพลังอะไรให้กับเขาเลย และในระหว่างที่เขากำลังคิดก็โดนโจมตีใส่

Superman : H’el!

Lara : ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร และเข้ามาที่นี่ได้ยังไง แต่ฉันแน่ใจว่าแกจะได้ออกไปแบบเป็นชิ้นๆแน่ถ้าไม่ยอมบอกว่าแกต้องการอะไร!

Superman : คุณ คือ…?

Lara : ลาร่า แวน-เอล, นี่แกไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าแกเข้ามาในบ้านตระกูลเอลน่ะ ? แต่ถ้าแกรู้ แกก็น่าจะคิดให้ดีก่อนนะ

Superman : ผม…แน่ใจว่า… เอ่อ ผม เพิ่งจะ… ว้าว

และทาง H’el ก็ต้องการจะรับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

H’el : เธอเก็บซ่อนอะไรไว้กันแน่ ฟาโอร่า “อาวุธลับ” อะไรกันที่เธอนำมา และคิดว่าจะใช้จัดการกับฉันได้?

H’el : และถึงแม้แกจะตายไปแล้ว แต่เศษเสี้ยวแห่งความทรงจำของแกยังคงอยู่ มันจึงง่ายมากสำหรับข้าที่จะใช้ความสามารถที่มีเพื่อย้อนดูอดีตเหล่านั้นว่าเจ้าต้องการจะทำอะไร

H’el : อืมมมม เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับ… ออราเคิล? เรื่องทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของมัน

H’el : และมันก็นำพา..เจ้าพวกทรยศนั่นมา

H’el : โอ คาร่า… ทำไมเธอถึงทำให้ข้าต้องผิดหวังอีกครั้งล่ะที่รัก

H’el : และตอนนี้ข้าก็เห็นแล้วว่าพวกเจ้ามาที่นี่ทำไม… นั่นเพื่อแยกกันไปคนละยุคสมัย…นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าพวกนี้คิดว่าจะหยุดยั้งข้าได้?

H’el : และเธอก็เลือกที่จะทรยศข้าอีกครั้ง?

H’el : งั้นได้เลย

กาลเวลาอยู่ข้างข้า พวกเจ้าทุกคนมันก็เหมือนกับตายไปแล้วทั้งหมดนั่นแหละ

บัดนี้ H’el รับรู้ถึงจุดหมายของพวกเขา แล้วการเดินทางของทั้ง 3 จะสำเร็จตามที่ต้องการหรือไม่ มันจะเป็นอย่างไรต่อไป

อย่าได้พลาด

Superboy #25, Supergirl #25 และ Superman #25

ใน

Krypton Returns

<————————————————->

เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Comics For Fun