DC Comic : Aquaman 21 : TWO KINGS?!
เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Paul Pelletier, Sean Parsons
วางจำหน่าย: 26 มิถุนายน 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ในขณะที่ Aquaman พยา่ยามทำหน้าที่ในฐานะราชาอย่างเต็มที่ เขากลับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่อ้างตัวเป็นราชาแห่งท้องทะเลที่แท้จริง?!
และในเวลาเดียวกัน แผนการร้ายก็กำลังก่อตัวทั้งภายนอกและภายใน Atlantis!!
ปล.Time Line ของซีรีย์ Aquaman จะเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ใน Forever Evil
เริ่มเรื่องมาที่ภายใน Bermuda Triangle
Mera กลับมาที่บ้านเกิดของเธออีกครั้งจากการที่เธอถูกศัตรูลึกลับพามาด้วย และตอนนี้เธอก็มาพบกับ Nereus “คู่หมั้น” เก่าของเธอที่ตอนนี้เป็นผู้นำของที่นี่
ทหารA : เป็นความจริง! องค์ราชินีเมร่ากลับมาแล้ว!
Mera : บางอย่างอาจจะตามข้ากลับมาที่นี่ด้วยนะเนเรอัส
Nereus : ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้นน่ะนะเมร่า แต่ข้าได้ให้นักรบชาวซีเบลไปประจำอยู่ที่รอบนอกของเขตแดนสามเหลี่ยมแล้ว แต่ข้าก็ไม่ได้กังวลนักหรอก
Nereus : ตลอดประวัติศาสตร์ของเราที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครบุกฝ่าเขตป้องกันของเรามาได้เลย
Mera : มันรู้ว่าจะเข้ามาในเขตแดนได้ยังไง มันรู้วิธีผ่านเข้ามาโดยใช้ซากเรือจมด้วย
Nereus : เป็นไปได้ยังไง? มันเป็นใครกัน? เป็นพวกชาวแอตแลนติสหรือ?
Mera : มันบอกว่ามันเคยเป็นราชา
Nereus : ราชาแห่งซีเบล? หมายถึงพ่อของเจ้าน่ะรึ? เขาตายไปหลายปีแล้วนะ
Mera : มันไม่ใช่พ่อของข้าหรอกเนเรอัส ชายคนนั้น…เจ้าสิ่งนั้นมันมีน้ำแข็งปกคลุมทั่วทั้งตัว ทั้งยังดูเหมือนซากศพเลยด้วย
Nereus : เจ้าหมายถึง “ราชาผู้สิ้นชีพ” งั้นหรือ?
Mera : อาเธอร์เคยพูดถึง “ราชาผู้สิ้นชีพ” ว่ามีความเกี่ยวข้องกับสมบัติลับที่พวก The Others ครอบครองอยู่ ฉันต้องรีบกลับ…
Nereus : กลับไปไหนล่ะเมร่า? เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาตั้งสามปี? เจ้าถูกส่งไปสังหารราชาแห่งแอตแลนติส เรารู้ว่ามันคงต้องใช้เวลามากในการตามหามัน แต่ข้าคิดว่าเจ้าจะกลับมาหาข้าเมื่อเจ้าทำภารกิจสำเร็จ
Nereus : ข้าคิดถึงเจ้ามากนะ
เมื่อหญิงที่ตนหลงรักมานานกลับมาอยู่ต่อหน้า Nereus ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป…
Nereus : ข้าคิดถึงภรรยาของข้าเหลือเกิน
แต่ Mera ไม่คิดแบบเดียวกันและใช้คลื่นน้ำซัดเจ้าคนมือไวใจเร็วจนกระเด็นไป
Mera : ข้าไม่ใช่ภรรยาของเจ้านะเนเรอัส
Mera : เราไม่เคยแต่งงานกันด้วยซ้ำ
Nereus : เราถูกกำหนดให้แต่งงานกันในตอนที่เจ้ากลับมา เจ้าควรจะได้นั่งบัลลังค์อยู่ข้างกายข้าด้วยการสังหารชาวแอตแลนติสที่จะมาฆ่าพวกเราทั้งหมด
Mera : พวกเราคิดผิดเรื่องของเขา
Nereus : ผิดงั้นรึ?
Nereus : มันเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เจ้าอยู่ข้างนอกนั่นกันแน่?
Mera : ข้าพบกับคนอื่นแล้ว
ตัดไปที่อีกสถานที่หนึ่งใต้ทะเล
Aquaman (Arthur Curry) กำลังตามโจมตีเรือดำน้ำที่อยู่ในสังกัดของ Scarvenger
“ฉันเกิดมาในฐานะอาเธอร์ เคอร์รี่ ที่อ่าวแอมเนสตี้ รัฐเมน”
“เมื่อตอนที่ฉันเป็นวัยรุ่น ฉันได้รู้ว่านั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่เกี่ยวกับตัวฉัน”
“พ่อของฉันบอกว่าแม่ของฉันมาจากเมืองในตำนาน”
“ฉันได้รับการบอกว่าแม่ของฉันคือราชินีแห่งแอตแลนติส”
“และได้รับการบอกว่าวันหนึ่งฉันจะได้เป็นราชาแห่งแอตแลนติส”
“วันหนึ่งที่ว่านั้นก็คือปัจจุบันนี้”
Arthur พุ่งเข้าโจมตีเรือดำน้ำลำมหึมาอย่างรุนแรงจนมันสะเทือนไปทั้งลำ
จากนั้นเขาก็ใช้พลังอันมหาศาลยันเรือดำน้ำพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ!!
(เมื่ออยู่ในน้ำ Arthur จะทรงพลังมากกว่าตอนอยู่บนบกหลายเท่า)
“ตอนนี้ฉันคืออควอร์แมน ราชาแห่งเจ็ดคาบสมุทร”
“ราชาแห่งชนเผ่าใต้ทะเลที่ไม่เชื่อใจราชาผู้มาจากโลกเบื้องบนเท่าไหร่นัก”
“ราชาผู้มีกองทัพที่ต้องการจะฆ่าล้างชาวเบื้องบนมากกว่าจะผูกมิตรด้วย”
“ราชาผู้ปกครองวัฒนธรรมและผู้คนที่ไม่ใช่ของฉัน”
“แต่ฉันจะมีทางเลือกไหนบ้างล่ะ”
“นี่คือสิทธิแต่กำเนิดของฉัน”
“นี่คือความรับผิดชอบของฉัน”
“และฉันก็จะขออ้าแขนรับมัน”
เรือดำน้ำถูกโยนจนลอยขึ้นเหนือน้ำสูงนับสิบเมตรก่อนจะตกลงมาลอยเท้งเต้งอยู่บนผิวน้ำที่มีพายุ
อึดใจต่อมา Arthur ก็กระโจนขึ้นจากน้ำขึ้นมายืนอยู่บนมัน ก่อนจะใช้ตรีศูลพังผนังเรือหนาเตอะจนเป็นช่องใหญ่
เขาเข้าไปหาพวกลูกเรือทันที
Arthur : มันอยู่ไหน? เจ้าสการ์เวนเจอร์มันอยู่ไหน?!
ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้น
Scarvenger : อยู่ที่นี่ไง
เมื่อ Arthur หันไปตามเสียงก็พบว่ามันมาจากจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพชายในชุดดำน้ำลึกอยู่
Scarvenger : ฉันอยู่นี่ไงล่ะอควอร์แมน
Arthur : แกคือสการ์เวนเจอร์รึ? แกอยู่ที่ไหนกัน?
Scarvenger : อยู่ห่างจากแกไกลเลยละ
Arthur : ฉันจะพูดให้แกฟังเพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะ…เอาอาวุธของแอตแลนติสที่แกขโมยไปมาและจงมอบตัวซะ
Scarvenger : อาวุธของแอตแลนติสที่ฉันขโมยไปงั้นรึ? ฉันไม่ได้ขโมยอะไรไปเลยนะอควอร์แมน ฉันแค่ไปเก็บรวบรวมสิ่งที่อาณาจักรของแกทิ้งเอาไว้หลังจากที่พวกมันบุกขึ้นบกและฆ่าผู้คนของฝ่ายฉัน
Arthur : ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นว่าแกแคร์ชีวิตคนอื่นนอกจากตัวแกเองเลยน่า
Scarvenger : แต่ฉันแคร์ชีวิตของแกนะ ฉันสนใจตัวแกมากเลยล่ะอาเธอร์
Scarvenger : และฉันก็คิดว่าทั้งโลกก็สนใจในตัวแกด้วย ใครๆก็พูดถึงแกและแอตแลนติส แต่พวกนั้นไม่รู้จักแกกับแอตแลนติสอย่างที่ฉันรู้
Arthur : แกผ่าเปิดท้องของชาวแอตแลนติสคนหนึ่งแล้วเย็บแผลกลับเข้าไปใหม่ แกทำไปทำไม?
Scarvenger : ฉันเป็นคนช่างสงสัยน่ะนะ ฉันอยากจะเห็นว่าภายในของพวกมันแตกต่างกับพวกเราขนาดไหน และบางทีแกอาจจะรู้อยู่แล้วด้วย ว่าพวกมันต่างจากตัวแกพอๆกับที่พวกมันต่างจากพวกฉัน
Scarvenger : แกคิดว่า “ครั้งนี้” มันจะใช้เวลานานขนาดไหนก่อนที่พวกมันจะหันมาเล่นงานแกกันล่ะ? เดือนนึง? หรืออาจจะสักหกเดือน?
Scarvenger : ฉันเป็นคนช่างสงสัยน่ะนะ ฉันอยากจะเห็นว่าภายในของพวกมันแตกต่างกับพวกเราขนาดไหน และบางทีแกอาจจะรู้อยู่แล้วด้วย ว่าพวกมันต่างจากตัวแกพอๆกับที่พวกมันต่างจากพวกฉัน
Arthur : ฉันจะหาตัวแกให้พบแน่สการ์เวนเจอร์
Scarvenger : ก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน ครั้งก่อนฉันยังเตรียมตัวไม่พร้อม แต่ครั้งนี้ฉันพร้อมรับการเผชิญหน้ากันแล้ว
Scarvenger : ฉันกำลังรอให้วันนั้นมาถึงอย่างใจจดใจจ่อเลยละ
เมื่อการติดต่อถูกตัดไป Scarvenger ก็เดินออกมาข้างนอกห้อง
Scarvenger : อควอร์แมนมันยังคิดว่าทั้งหมดนี้มันเกี่ยวกับแค่อาวุธของแอตแลนติสไม่กี่ชิ้นกับตัวมัน ยังกับว่าเรื่องแค่นี้มันจะคู่ควรกับการที่ฉันจะเสียเวลางั้นแหละ
Scarvenger : เตรียมเรือดำน้ำไว้ให้พร้อม เราจะเริ่มลงมือกันคืนนี้ล่ะ
ตัดมาที่เรือนจำของ Atlantis
Vulko : ผู้คุม?! ผู้คุม?!!
ผู้คุม A : แกมีอะไรงั้นหรือวัลโก้?
Vulko : ข้าต้องเข้าเฝ้าองค์ราชาอาเธอร์เดี๋ยวนี้
ผู้คุม A : แล้วมันด้วยเหตุผลอะไรกันล่ะ?
Vulko : ข้าเฝ้ามองดูสาหร่ายทะเลมาหลายสัปดาห์แล้ว
ผู้คุม B : พลางคิดว่าเจ้าจะพูดอะไรเป็นอย่างสุดท้ายก่อนถูกส่งไปยังกระแสน้ำสีดำงั้นสิ?
Vulko : ข้าคิดถึงหลายเรื่องเลยล่ะ ทั้งเรื่องที่มีความหมายและไร้ความหมาย แต่สิ่งที่อยู่ในหัวข้ามันไม่สำคัญหรอก
ผู้คุม A : อันนั้นข้าคงต้องบอกว่าเห็นด้วยแฮะ
Vulko : ไม่ใช่ ดูสิ ดูที่พวกสาหร่ายทะเลพวกนั้น เห็นกระแสน้ำนั่นไหม? พวกมันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
Vulko : คำหลอกลวงอันยิ่งใหญ่จบลงแล้ว
Vulko : “เขา” ฟื้นขึ้นมาแล้ว
ตัดมาที่สถานพยาบาลของ Atlantis
Dr.Rhodon หัวหน้าหน่วยแพทย์กำลังรักษาทหารชาว Atlantis ที่ Arthur ช่วยมาจากเรือของ Scarvenger อยู่ ซึ่ง Arthur ก็เข้ามาเยี่ยมเพื่อดูว่าอาการเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้สติพอจะให้ข้อมูลอะไรได้เลย
ตอนนั้นเองก็มีข่าวเข้ามาแจ้งให้ราชารับทราบ
ทหารหญิง : ขออภัยที่มารบกวนเพคะ แต่เราได้ตรวจตราดูการสื่อสารของโลกเบื้องบนเพื่อค้นหาเบาะแสของอาวุธของแอตแลนติส เราได้พบกับข้อมูลที่พระองค์ควรจะได้รับทราบ
แต่ทันใดนั้นเองก็มีอีกงานเข้ามาเช่นกัน
ผู้คุม A : เราก็ไม่อยากจะมารบกวนพระองค์เช่นนี้ แต่ตอนนี้ท่านพัสดีเอิร์นไปที่กระแสน้ำสีดำเพื่อเตรียมการลงทัณฑ์วัลโก้..
.
ผู้คุม B : วัลโก้ถามหาพระองค์พะย่ะค่ะ
ผู้คุม A : เขาพล่ามไม่ยอมหยุดเลย
Dr.Rhodon : ที่นี่เป็นสถานพยาบาล ไม่ใช่ท้องพระโรงนะ ช่วยเอาเรื่องของพวกเจ้าไปรายงานที่อื่นทีเถอะ
ทหารหญิง : เรามีข่าวของโลกเบื้องบนมากราบทูลนะเพคะองค์ราชาอาเธอร์ ข่าวสำคัญมาก!
Arthur : เอาทีละเรื่องซิ
ทหารหญิง : แต่นี่เป็นเรื่องของท่านเมร่านะเพคะ องค์ราชาอาเธอร์
เมื่อได้ยินชื่อของคนสำคัญที่สุดของเขา Arthur ก็หันไปให้ความสำคัญกับข่าวนี้เป็นที่สุดทันที
Arthur : เมร่ารึ? มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเมร่างั้นรึ?
ทหารหญิง : นางถูกทำร้ายเมื่อตอนที่พายุหิมะที่ไม่รู้ที่มาเข้าถล่มอ่าวแอมเนสตี้เพคะ แล้วนางก็หายตัวไป
ทหารหญิง : และพายุแบบเดียวกันนั้นก็ปรากฎขึ้นที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าหลังจากนั้นเพคะ
ทันทีที่ฟังจบ Arthur ก็พุ่งออกไปทันที
Murk : นั่นไง เขาออกไปแล้ว ข้านึกแล้วไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องออกไปแน่
Tula : เขาคงไปตามล่าสการ์เวนเจอร์นั่นแหละเมิร์ค
Swatt : งั้นทำไมเขาถึงไปตามลำพังล่ะธูล่า? มันน่าจะเป็นเรื่องอื่นนะ
Murk : เขากำลังมุ่งหน้าไปยังโลกเบื้องบน เราก็จะไปเช่นกัน
Tula : และถ้าเราทั้งสามคนไป…ในตอนที่องค์ราชาอาเธอร์ก็ไม่อยู่แบบนี้…ใครจะอยู่ปกป้องแอตแลนติสกันล่ะ?
Murk : แอตแลนติสไม่ได้กำลังโดนโทษประหารอยู่นะธูล่า
Murk : แต่พี่ชายของเจ้า…ราชาที่แท้จริงของแอตแลนติสกำลังโดนอยู่
Murk : และมันก็เป็นความผิดของอาเธอร์ด้วย
Swatt : ท่านออร์มถูกขังอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า “เบลรีฟ” มันอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินราวสิบไมล์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่คุกที่จะบุกเข้าไปได้ง่ายๆเลย มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้คุมขังคนอย่างพวกเราโดยเฉพาะ
Swatt : ผู้ที่มีพลังมากกว่ามนุษย์โลกเบื้องบนทั่วไป
Murk : แหงละที่พวกมันต้องกลัวพวกที่ต่างจากพวกมัน
Murk : แล้วเจ้าจะร่วมกับพวกเราหรือไม่ล่ะธูล่า? เจ้าร่วมกับพวกเราในการช่วยเหลือพี่ชายของเจ้าจากการโดนประหารไหม? หรือเจ้าจะยอมให้เขาตายไปโดยไม่ทำอะไรเลย?
เมื่อโดนถามเช่นนี้ทางเลือกของ Tula ก็มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น…
ตัดไปที่สามเหลี่ยม Bermuda
Nereus : เจ้าทำภารกิจล้มเหลวสินะเมร่า
Mera : ภารกิจของเรามันไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้นแล้ว เรื่องราวที่พวกเราได้รับการบอกเล่าต่อกันมาหลายต่อหลายรุ่นมันเป็นเรื่องโกหก แอตแลนติสไม่ใช่ศัตรูของเรานะเนเรอัส ชาวแอตแลนติสไม่รู้ว่าพวกเรามีตัวตนอยู่ด้วยซ้ำ
Nereus : พวกแอตแลนติสมันไล่ล่าสังหารบรรพบุรุษของเราและกักขังเราไว้ที่นี่
Mera : เพราะพวกนั้นเกลียดชังเรางั้นรึ? แล้วทำไมล่ะ? เรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาไม่เคยบอกเหตุผลของเรื่องนั้นเลย ไม่เคยบอกความจริงเบื้องหลังของดินแดนนี้เลย
Nereus : แต่สำหรับตัวเจ้านั้นมันไม่มีข้อสงสัยเลย! เจ้าได้ทรยศพวกเราไปแล้ว!
ว่าแล้ว Nereus ก็ใช้พลังควบคุมน้ำจะจับตัว Mera
Mera : ฉันไม่ใช่คนทรยศ!
แต่ Mera ก็มีพลังควบคุมนั้นเช่นเดียวกันจึงสามารถต้านพลังของ Nereus ได้
Mera : จับตัวราชินีเอาไว้!
แต่ก่อนที่ทหารจะได้ทันทำตามคำสั่ง พวกเขาก็โดนแช่แข็งไปในพริบตา?!
Mera : ฝีมือเจ้านั่น
Nereus : นี่มันอะไรกัน? นี่เจ้านำพาสิ่งใดกลับมายังซีเบลนี้กันแน่เมร่า?
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบโต้ ทั้ง Mera และ Nereus ก็โดนแช่แข็งไปด้วย
“ตลอดหลายปีที่ฉันอยู่ร่วมกับเมร่ามา เธอแทบจะไม่พูดถึงสถานที่ที่เธอจากมาเลย”
“ฉันรู้ว่ามันคือสถานที่ที่เรียกว่า “ซีเบล” ซึ่งซ่อนอยู่ภายในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า”
“และฉันก็รู้ว่ามันมีทางเดียวที่จะเข้าไปในนั้นได้”
“ในเพียงแค่สามสิบปีที่ผ่านมา เรือนับพันได้หายสาบสูญไปในทะเลแถบนี้”
“สามเหลี่ยมนี้ดูดกลืนพวกมันลงไป”
“และชาวซีเบลก็ใช้เศษซากเหล่านั้นเป็นวัตถุดิบในการสร้างบ้านเมืองและอาวุธของพวกเขา”
“ประตูสู่ดินแดนแห่งซีเบลจะเปิดขึ้นเฉพาะเวลาที่มันจะดูดกลืนเศษซากลงไปเท่านั้น”
“ฉันจึงจะสร้างมันขึ้นมาเอง”
ท่ามกลางพายุ Arthur ว่ายน้ำพร้อมกับลากเรือเล็กลำหนึ่งมาด้วย
เมื่อถึงจุดภายในเขตแดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เขาก็กระโดดขึ้นเหนือน้ำและพุ่งลงไปกระแทกเรือจนมันพังแหลกเป็นซาก และทำให้ทั้งเขาและเศษซากถูกดูดเข้าไปในเขตแดนนั้น
“แล้วฉันก็ว่ายผ่านน้ำดำมืดไปเป็นเวลานับชั่วโมง”
“ฉันไม่เคยรู้สึกถึงน้ำที่หนาวเย็นขนาดนี้มาก่อนเลย”
Arthur : เมร่า?!
ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้น…
??? : ราชินีน่ะอยู่ที่นี่แล้ว
??? : ร่วมกับเหล่าข้าราชบริพารของข้า
เมื่อเห็นร่างที่ดูราวกับซากศพที่นั่งอยู่บนบัลลังค์น้ำแข็งที่รายล้อมด้วยชาว Xebel ที่โดนแช่แข็งเอาไว้รวมถึง Mera ด้วย ก็ทำให้ Arthur รู้ได้ว่ามันต้องไม่ใช่มิตรแน่นอน!
Arthur : แกทำอะไรกับเมร่า? แกเป็นใคร?
??? : นี่พวกเจ้าต่างหลงลืมข้าไปกันหมดได้ยังไงกันอาเธอร์? มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าการติดอยู่ในสุสานที่บรรพบรุษของเจ้าจับข้าขังเอาไว้เสียอีก
Dead King : เจ้าควรจะรู้จักข้า ข้าคือราชาองค์แรกแห่งแอตแลนติส
Dead King : และข้าก็จะครอบครองเจ็ดคาบสมุทรอีกครั้ง
ขณะเดียวกันนั้นก็มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
ที่ชายฝั่งโลกเบื้องบน พวก Murk ได้เตรียมตัวไปชิงตัว Orm กลับมา
ที่เรือนจำของ Atlantis พัสดี Urn กลับมาถึง
ผู้คุม : ท่านเอิร์น?
Urn : การเตรียมส่งตัววัลโก้ไปลงโทษที่กระแสน้ำดำเสร็จสิ้นแล้ว
Vulko : ข้าต้องพบกับองค์ราชาอาเธอร์! ได้โปรดเถอะ!
Urn : นี่วัลโก้มันตะโกนโหวกเหวกเรื่องอะไรกัน?
Vulko : คำหลอกลวงกำลังจะจบลงในไม่ช้า
ที่สถานพยาบาล Dr.Rhodon กำลังตรวจดูคนไข้ของเธอ และตอนนั้นเอง…
Dr.Rhodon : เดี๋ยวนะ ฉันพบอะไรบางอย่างในตัวของเขา
ผู้ช่วย : มันคืออะไรกันหรือครับ ดอกเตอร์โรดอน?
สิ่งที่อยู่ในมือของ Dr.Rhdon คืออุปกรณ์บางอย่างที่ส่งเสียงบี๊บเป็นจังหวะ และมันก็กำลังนำทางบางสิ่งมา…
Scarvenger : เครื่องส่งสัญญาณทำงานได้ดีเยี่ยม
Scarvenger : ในที่สุดฉันก็หามันพบจนได้
Scarvenger : แอตแลนติสเป็นของเราแล้ว!
ที่เหนือนครใต้น้ำมีกองทัพเรือดำน้ำหลายสิบลำลอยลำอยู่! ตอนนี้ศึกใหญ่กำลังจะอุบัติขึ้นโดยที่ทั้งราชาและเจ้าหน้าที่ระดับบัญชาการหลายนายไม่อยู่!!
โปรดติดตามตอนต่อไป
มันส์มากครับ แอตแลนทิสงานเข้าอีกแล้ว
โอย ยิ่งอ่านยิ่งเซงอาเธอร์ มันควรต้องเก่งกว่านี้ๆๆๆ!!!
โดนตลบหลังซะงั้น Atlantis นี่ล่มตลอดเลย
ดูทรงเเล้วศึกครั้งนี้อาเธอร์ไม่น่าไหว
ในมาร์เวลกองทัพธานอสบุกถล่มแอตแลนตีสจนพินาศ
ฝั่งดีซีก็ส่งกองทัพสการ์เวนเจอร์บุกแอตแลนตีสด้วย 😛
เนื้อเร็่องโคตรมันส์ ขอบคุณครับ
ปวดหัวแทนอาเธอร์เลยอ่ะ
ฉิบหายแล้ว อาร์เธอร์
อีเวนท์นี้มันส์แท้ =w=