Aquaman #20

DC Comic : Aquaman 20 : Return of The Others

เรื่อง : John Ostrander
ภาพ : Mauel Garcia
วางจำหน่าย: 22 พฤษภาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics

กลุ่ม The Others คือกลุ่มที่ Aquaman เคยเป็นสมาชิกก่อนที่จะเข้าร่วมกับ Justice League โดยแต่ละคนจะครอบครอบสมบัติลับของ Atlantis อยู่คนละชิ้น

ในครั้งนี้ Aquaman ได้ขอความช่วยเหลือจากเหล่าเพื่อนเก่าของเขาให้ช่วยเหลือในการทวงคืนอาวุธของ Atlantis คืนมา ทว่า…ดูเหมือนว่าชะตากรรมจะกำลังแง้มประตูให้เห็นว่าบทบาทของพวกเขาในโลกใบนี้อาจมีมากกว่าที่ิเป็นอยู่มากนัก…


เปิดเรื่องมาที่เขตอนุรักษ์ Fort Apache รัฐ Arizona

ชาวอินเดียนแดงคนหนึ่งพบกับซากของควายที่ถูกฉีกทึ้งจนเห็นกระดูกและอวัยวะภายในหายไป

เขาได้ยินเสียงบางอย่างจากทางด้านหลัง จึงรีบหันปืนไปทางทิศนั้น

ที่เบื้องหน้าของเขาคือครึ่งคนครึ่งหมาป่าร่างมหึมา!!

ตัดมาที่เครื่องบินขนส่งของทหารที่เป็นฐานบัญชาการของ The Operative
ที่ห้องนั่งเล่น The Operative กำลังคุยกับ “ลูกสะไภ้” ของเขา

Madam : ฉันเบื่อจะเล่นเกมนี้กับคุณเต็มทีแล้ว ฉันต้องการลูกชายของฉันคืน

The Operative : เราต่างก็รู้ว่านั่นจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนนะคุณนาย และเราต่างก็รู้เหตุผลที่มันเป็นแบบนั้นด้วย

Madam : คุณเอาเขาเป็นตัวประกันเพราะฉันรู้ว่าคุณเป็นใครไงล่ะ “โจชัวร์ โคล”

The Operative : เธอไม่รู้หรอก เธอแค่รู้ชื่อหนึ่งที่ฉันใช้เท่านั้น เธอจะไม่มีทางได้เด็กคนนั้นกลับไปแน่ เพราะแอรอนนั้นสมควรที่จะมีแม่ที่ดีกว่าเธอ

ว่าแล้ว The Operative ก็กดปิดการสนทนาในเวลาเดียวกับที่ Aaron หลานของเขาเข้ามาพอดี

Aaron : คุยกับใครหรือครับปู่? เรามีภารกิจใหม่หรือครับ?

The Operative : เจ้าน่าจะกำลังขับเครื่องบินอยู่ไม่ใช่หรือแอรอน?

Aaron : เครื่องบินมันกำลังขับตัวมันเองอยู่ครับปู่…ตามที่ปู่ออกแบบมันเลยล่ะ ผมไม่มีอะไรให้ต้องทำมากนัก ซึ่งนั่นก็เช่นเดียวกับ…

ทันใดนั้นเองก็เกิดแสงสีทองวาบขึ้น
เมื่อแสงจางลงก็ปรากฎร่างของคนสามคน พวกเขาคือ Aquaman (Arthur Curry), Ya’wara และ Prisoner of War ซึ่งต่างก็เป็นอดีตสมาชิกกลุ่ม The Others เช่นเดียวกับ The Operative นั่นเอง

Arthur : โจชัวร์ ฉันต้องการให้นายช่วย

The Operative : ดูจากวิธีที่นายเข้ามาแล้วฉันก็ว่าอย่างนั้นล่ะนะ แล้วก็ยา’วาร่า ฉันไม่อยากให้เธอเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในนี้นะ พรมนั่นเป็นของหายากและแพงมากๆเลย

Ya’wara : พวกมันเป็นสัตว์ป่านะตาเฒ่า ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง และฉันก็ไม่ใช่เจ้าของของพวกมันด้วย

The Operative : แอรอน พาพวกเสือไปที่ห้องเก็บของ ปูหนังสือพิมพ์ให้พวกมันนอน แล้วเอาเนื้อดิบมาให้พวกมันด้วยล่ะ

Aaron : ยินดีที่ได้ทำประโยชน์ครับ!

แต่เมื่อ Aaron เข้าไปหาเจ้าเสือจากัวร์สองตัวก็แยกเขี้ยวใส่เด็กหนุ่มทันที

The Operative : ยา’วาร่า ถ้าเธอจะช่วยห้ามไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเธอขย้ำหลานฉันล่ะก็ ฉันจะขอบใจมากเลย

Ya’wara : เด็กคนนี้ไม่ใช่อาหาร อย่ากิน ไปกับเขา เขาจะเอาอาหารที่พวกเจ้ากินได้มาให้ ไปได้แล้ว

ในขณะที่ Aaron พาพวกเสือออกจากห้องไป Arthur ก็เริ่มคุยเรื่องงาน

Arthur : ขอเล่าสถานการณ์ในตอนนี้ให้ฟังก่อนแล้วกันนะ ผลจากสงครามระหว่างแอตแลนติสกับอเมริกาได้ทำให้มีอาวุธของแอตแลนติสมากมายถูกทิ้งไว้ที่ใต้ทะเลของชายฝั่ง ซึ่งพวกฉวยโอกาสคนนึงที่ชื่อ “สการ์เวนเจอร์” ได้เก็บกู้อาวุธพวกนั้นแล้วขายมันในตลาดมืดให้กับผู้คนที่ไม่ควรที่จะได้ครอบครองมัน

P.O.W. : นายอยากให้เราไปจัดการหมอนั้นให้งั้นหรือ?

Arthur : ฉัน…แอตแลนติสจะจัดการกับเจ้านั่นเอง และเราก็สามารถทวงคืนอาวุธส่วนใหญ่คืนมาเองได้ แต่มีบางส่วนที่เราทำไม่ได้ อย่างที่อาริโซน่าเป็นต้น มันมี “ถุงมือเพิ่มพลัง” อันหนึ่งไปอยู่ที่นั่น มันมีพลังขนาดชกทะลุเหล็กกล้าหรือขยี้ร่างกายคนให้แหลกได้เลย

Ya’wara : ทะเลทรายที่ร้อนและแห้งมากๆ ไม่ใช่ที่ๆดีสำหรับพวกคนที่อยู่ในน้ำเลยนี่นะ

The Operative : และยิ่งเมื่อคิดถึงสงครามที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ การที่ชาวแอตแลนติส…หรือราชาของพวกเขา…ไปโผล่อยู่ในดินแดนของอเมริกาจะทำให้สถานการณ์ทีตึงเครียดอยู่แล้วนี้แย่ยิ่งกว่าเดิม

Arthur : ถูกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดนั่นแหละ และฉันก็ไม่ต้องการให้อาวุธนั่นตกไปอยู่กับกองทัพสหรัฐด้วย ก็ไม่ได้ว่าอะไรนายหรอกนะโดมินิค

Arthur : และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันคิดว่าฉันควรจะไปพูดกับพวกจัสติสลีกส์ด้วย

Arthur : พวกนายจะช่วยฉันไหม?

P.O.W. : ไม่ใช่เพื่อแอตแลนติสหรือแม้แต่ราชาของมันแน่ล่ะ

P.O.W. : แต่ถ้าเป็นเพื่อเพื่อน? ถ้าเพื่อนายล่ะก็นะอาเธอร์? แน่นอน

ตัดกลับมาที่เขตอนุรักษ์ Fort Apache รัฐ Arizona
เด็กสาวชาวอินเดียนแดงคนหนึ่งกำลังคุยกับ “ใครบางคน” (?)

Sky : หนูคิดว่าเขาชอบหนู แต่มันก็บอกยากน่ะนะคะ หนูคิดว่าเขากลัวพี่วิคธอริโออยู่ พี่เขาชอบขู่ให้เด็กผู้ชายที่สนใจหนูกลัว หนูก็รู้ว่าพี่วิคธอริโอเขาหวังดี แต่…

ตอนนั้นเองก็มีเสียงเรียกมาจากข้างในบ้าน

Victorio : พูดกับใครอยู่น่ะสกาย?

Sky : พูดกับแม่น่ะ

Victorio : เธอรู้ใช่ไหมว่าแม่ตายไปแล้วน่ะ?

Sky : แน่นอนสิ แม่ตายตั้งแต่ฉันยังเล็กอยู่ แม่ตายไปหลายปีแล้ว ใครๆก็รู้ทั้งนั้น

Victorio : ครั้งหน้าที่เธอเห็นแม่ ฝากถามด้วยแล้วกันว่าใครกันที่ฆ่าเธอ

Sky : ฉันถามไปแล้ว แต่มันทำให้แม่ดูเศร้ามาก

Sky : ฉันคิดว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เธอไม่อยากพูดถึงมัน ฉันเลยไม่พูดถึงเรื่องนั้นมากนัก

Victorio : แหงล่ะ

Sky : บางครั้งหนูก็สงสารพี่วิคธอริโอนะคะแม่ เขากดดันตัวเองมากเกินไป

Victorio : ผมอยากให้คุณยายหยุดใส่ความคิดเรื่องหมอผีไร้สาระเข้าไปในหัวน้องผมเสียทีนะครับ

ยาย : เหรอ? บางทีเจ้าคงคิดว่าที่ฉันเป็นหมอยาก็เป็นเรื่องไร้สาระเหมือนกันงั้นสินะวิคธอริโอ?

Victorio : ผมไม่ได้พูดแบบนั้นนะครับคุณยาย! ผมแค่กลัวว่าคนจะคิดว่าสกายเป็นคนพิลึกก็แค่นั้นเอง

ยาย : สำหรับพวกแองโกลส(คนขาว) ก็อาจใช่ แต่ผู้คนของเรานั้นให้ความเคารพต่อเหล่าผู้ที่เดินอยู่ระหว่างสองโลก โลกนี้และโลกแห่งวิญญาณ บางทีจริงๆแล้วเจ้าอาจจะแค่รู้สึกอับอายที่ด้อยกว่าน้องก็ได้!

Victorio : ผมรักสกาย และผมก็แค่อยากจะปกป้องเธอเท่านั้นเอง

ยาย : ฉันเห็นวิธีที่เจ้า “ปกป้อง” น้องด้วยการไปข่มขู่เด็กหนุ่มทุกคนที่เพียงแค่มองดูเธอแล้วล่ะน่ะ

Victorio : มันก็ได้ผลนี่นะ

Victorio : ผมต้องไปแล้วล่ะ น้าคาร์ลอยากให้ผมไปพบที่ประตูอาร์โรโยก่อนที่ผมจะไปเข้ากะ

ยาย : เจ้านั่นเรอะ! มันอยากให้เจ้าไปเป็นแองโกลสเหมือนมันกับพ่อของมันนั่นแหละ!

Sky : พี่จะไปแล้วหรือ?

Victorio : ใช่แล้ว เธอระวังตัวด้วยแล้วกัน ถ้ามีวิญญาณร้ายมายุ่งกับเธอล่ะก็ บอกมันว่าพี่เธอเป็นตำรวจแล้วก็มีปืนด้วย

Sky : แหงล่ะ

Victorio : ฉันจะกลับมาให้ทันเวลาอาหารเย็นนะ

เมื่อพี่ชายออกจากประตูไปแล้ว Sky ก็พูดขึ้น

Sky : เขาจะไม่กลับมาจนถึงดึกดื่นนั่นแหละ

ยาย : แล้วเจ้าล่ะ? เจ้ารู้หรือยังว่าเจ้าจะไปที่ไหน?

Sky : ก็พอจะรู้ แต่มันจะชัดเจนขึ้นเมื่อหนูไปที่นั่น เหมือนทุกทีนั่นแหละค่ะ

ยาย : สกาย…เจ้าจะไม่เป็นไรใช่ไหม?

Sky : ก็เป็นไปได้ล่ะค่ะ ในตอนนี้มันยังไม่แน่นอนนัก มันขึ้นอยู่กับพวกคนอื่นๆที่หนูจะไปพบนั่นแหละค่ะ

ยาย : ขอให้โชคดี ขอให้ปลอดภัย

หลังจากนั้น ที่ท้องฟ้าเหนือทะเลทราย
เครื่องบินของ The Operative ที่บินอยู่ก็ถูกฟ้าผ่าใส่จนอุปกรณ์ไฟฟ้าในเครื่องรวนไปหมด…ทั้งที่รอบข้างไม่มีเมฆเลยสักก้อน?!

เมื่อไม่มีทางเลือก The Operative จึงต้องเอาเครื่องลงจอดกลางทะเลทรายเพื่อทำการตรวจสอบความเสียหาย

แต่เมื่อเขาสั่งให้ Aaron เปิดประตูเพื่อลงไปตรวจสอบรอบๆเครื่อง กลับกลายเป็นว่ามีคนๆหนึ่งอยู่ที่ตรงนั้นพอดี!

Sky : ดีมาก ในที่สุดก็มาแล้ว

แล้วเธอก็เดินขึ้นไปบนเครื่องบินซะอย่างนั้นเลย

Aaron : เฮ้ เดี๋ยว! เดี๋ยวสิ?!

Sky : โอ ที่นี่หรูหราจริงๆ คุณพักอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยหรือ?

Aaron : ปู่ครับ!

ขณะที่ Aaron ร้องเตือนผู้บุกรุกให้ปู่ของเขารู้ Sky ก็เดินไปถึงห้องรับแขกซึ่งที่นั่นเป็นที่ตั้งของ “หมวกเกราะทองคำ” และ “ตราประทับทองคำ” สมบัติลับของ Atlantis ซึ่งเป็นของอดีตสมาชิกของกลุ่ม The Others ที่เสียชีวิตไปแล้ว

Sky : อ้า หมวกเกราะ ผู้ครอบครองคนใหม่ของมันยังไม่ได้มารับมันไปสินะ?

Sky : เหล่าวิญญาณบอกว่าเขายังไม่พร้อม เขายังไม่ขึ้นมาจากใต้ดิน

และเธอก็เห็นตราประทับทองคำ

Sky : อ้า! ของขวัญสำหรับฉัน!

แต่ตอนที่เธอกำลังจะหยิบมันขึ้นมา Ya’wara ก็พุ่งเข้ามาปัดมือของเธอออกไป!

Ya’wara : อย่ามาแตะต้องมันนะ!

พร้อมกันนั้น เสือจากัวร์ 2 ตัวก็เข้ามาขู่ใส่ Sky

P.O.W. : ยา’วาร่า! อย่านะ!

Ya’wara : ฉันจะไม่ยอมให้ตราประทับให้กับโจรที่จะมาขโมยมันไปแน่!

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันนั้น Sky กลับสามารถลูบหัวเสือทั้งสองตัว ซึ่งพวกมันทำท่าเหมือนกับเป็นลูกแมวเชื่องๆกระนั้น?!

Sky : ฉันลืมไปทุกทีเลย ว่าการที่ฉันรู้จักใครก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะรู้จักฉันด้วย

Sky : ฉันชื่อสกาย อัลเชเซ่ และตราประทับแห่งความรอบรู้ก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะตัดสินใจว่าจะมอบให้ใครนะยา’วาร่า มันเป็นของๆคาฮีน่าต่างหาก

Ya’wara : คาฮีน่าตายไปแล้ว

Sky : ใช่ เธอตายไปแล้ว เช่นเดียวกับวอสทอค เพื่อนอีกคนของคุณ ฉันเดินอยู่ทั้งบนโลกของคนเป็นและโลกของวิญญาณในเวลาเดียวกัน เป็นสิ่งที่คุณอาจเรียกว่าชาแมน (หมอผี) พวกเขาคือผู้ที่บอกให้ฉันตามหาพวกคุณ

แล้ว Sky ก็เอามือสัมผัสที่แก้มของ Ya’wara

Sky : เธอรู้ว่าคุณรักเธอขนาดไหน ในวิถีทางที่คุณอยากจะรักเธอ เธอเข้าใจเหตุผลที่คุณไม่พูดออกมาว่าเป็นเพราะคุณเคารพในวัฒนธรรมและการแต่งงานของเธอ คุณควรจะได้รู้ว่าเธอก็รักคุณเช่นกัน…แม้จะไม่ใช่ในแบบที่คุณอยากให้รักก็ตาม แต่เธอก็รักคุณอย่างลึกซึ้ง เธออยากให้คุณรู้เอาไว้

Ya’wara นิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะหันไปหาพรรคพวกของเธอด้วยน้ำตานองหน้า

Ya’wara : ตราประทับเป็นของเธอคนนี้

The Operative : นี่เธอรู้ได้ยังไงว่าเราจะมาอยู่ที่นี่น่ะคุณหนู?

Sky : ภูตสายฟ้า พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะทำให้พวกคุณลงจอดที่นี่

The Operative : “ภูตสายฟ้า” เนี่ยนะ

The Operative : เราไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้นะ เรากำลังทำภารกิจที่ทั้งสำคัญและละเอียดอ่อนมากๆ

Sky : พวกคุณมาเพื่อทวงคืนอาวุธของแอตแลนติส “เกราะมือเพิ่มพลัง” ฉันรู้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดน่ะนะ

Sky : สิ่งที่สำคัญคืออาวุธชิ้นนั้นอยู่ในครอบครองของ “สกินวอล์คเกอร์”

Sky : สกินวอล์คเกอร์คือคนผู้ที่ร่ำเรียนไสยศาสตร์และใช้มันทำเรื่องชั่วร้าย มันสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ทุกอย่าง และทำได้แม้แต่เข้าสิงสู่ร่างของบุคคลอื่นด้วย

Sky : มันมีสถานที่ที่เรียกว่า “อาร์โรโย่” ที่ซึ่งโลกวิญญาณและโลกของคนเป็นมาบรรจบกัน ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเมืองที่อยู่ภายในถ้ำที่ซึ่งพวกสกินวอล์คเกอร์ใช้เป็นที่รวมตัวกัน

Sky : เหล่าภูตสายฟ้าได้ต่อสู่กับพวกมันและผนึกพวกมันไว้ในป้อมปราการของพวกมันเอง เจ้าสกินวอล์คเกอร์ผู้นี้คิดที่จะใช้พลังของเกราะมือเพิ่มพลังร่วมกับพลังของมันเองในการทำลายผนึกลงและทำลายกำแพงที่ปิดกั้นที่แห่งนั้นอยู่ลง!

Sky : ซึ่งเมื่อมันทำสำเร็จ มันเชื่อว่ามันจะสามารถควบคุมเหล่าวิญญาณร้ายภายในนั้น และพวกนั้นจะกลายมาเป็นกองทัพให้กับมัน

ในตอนนั้น Skinwalker ก็สามารถทำลายผนึกและเข้าไปยังดินแดนที่คุมขังวิญญาณร้ายของ Skinwalker ยุคโบราณอยู่เพื่อปลดปล่อยพวกมันเป็นอิสระ!

แต่ทันใดนั้นเองแสงสีทองก็วาบขึ้นแล้วพวก The Others ก็ปรากฎตัวออกมา

Sky : จำสิ่งที่ฉันบอกพวกคุณเรื่องสกินวอล์คเกอร์ไว้ให้ดี! ทำตามแผนด้วย!

The Operative : แม่หนู ฉันทำงานนี้มาตั้งแต่ตอนที่พ่อของเธอยังเป็นเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำนะ! อย่าได้คิดว่าเธอจะมาบอกวิธีทำงานให้ฉันได้เป็นอันขาด!

Sky : นี่เขามักจะพูดจามะนาวไม่มีน้ำแบบนี้เสมอเลยหรือ?

P.O.W. : ก็ส่วนใหญ่น่ะนะ เขาอ้างว่าเขายอมให้อควอร์แมนออกคำสั่งได้เป็นกรณีพิเศษเท่านั้น

ทั้ง The Operative และ Ya’wara เข้าปะทะกับ Skinwalker

ส่วน Prisoner of War กับ Sky ก็เข้าไปพยายามยับยั้งฝูงวิญญาณร้ายไม่ให้ออกมา

P.O.W. : พวกมันมีมากไป…ม่านพลังของฉันกันพวกมันไม่อยู่…!

Sky : ใช้พวกทหารเพื่อยันพวกมันกลับเข้าไปสิ!

P.O.W. : ไม่ได้…ครั้งสุดท้ายที่ฉันส่งพวกเขาไปรบ…พวกเขาตายกันหมด!

Sky : พวกเขาไม่สามารถตายอีกหนได้หรอก! พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อทำงานให้คุณ! พวกเขาอยากทำงานให้คุณ! พวกเขาต้องการคำสั่งจากคุณ!

เมื่อได้ยินคำพูดเตือนสติจาก Sky ทาง Prisoner Of War ก็สั่งงานเหล่าวิญญาณเพื่อนทหารของเขา!

P.O.W. : หน่วยทหารวิญญาณ! โจมตีพวกมันได้!!

เมื่อได้รับคำสั่ง เหล่ากองทหารวิญญาณก็เข้าโจมตีต่อสู้กับกองทัพวิญญาณร้ายทันที!!

ตัดไปอีกด้านหนึ่ง

Skinwalker : พรรคพวกของแกเสร็จกันหมดแล้ว ทีนี้ก็ตาแกล่ะนังหนู

Sky : ฉันรู้แล้วว่าเป็นคุณน่ะน้าคาร์ล

Skinwalker : ฉันได้พลังนี้มาด้วยการฆ่าแม่ของแก! แล้วการฆ่าแกจะช่วยให้ฉันมีพลังมาขึ้นอีกแค่ไหนกันนะ? ด้วยกองทัพวิญญาณสกินวอล์คเกอร์ของฉัน แม้แต่เหล่าภูตสายฟ้าก็ต้องหวาดกลัวพลังของฉัน!

Sky : และนั่นก็คือความผิดพลาดของคุณล่ะน้าคาร์ล ฉันคือสื่อกลางของแดนแห่งวิญญาณ และคุณก็ได้ทำให้เหล่าภูตสายฟ้ารู้ตัวแล้ว พวกเขาไม่ชอบคุณนะคาร์ล ปีเตอร์ มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องกลายมาเป็นวิญญาณเช่นเดียวกัน

ตอนนั้นเองเหล่าภูตสายฟ้าก็ใช้ร่างของ Sky เป็นสื่อกลางและยิงสายฟ้าใส่ร่างของ Skinwalker!!

P.O.W. : หน่วยทหารวิญญาณ! ถอยทัพได้! โอเปอร์เรทีฟ ใช้กุญแจแล้วผนึกพวกมันไว้เลย! ยา’วาร่าพาเราออกไปจากที่นี่ได้ไหม?

ราวกับนัดกันไว้ ทั้ง The Operative กับ Ya’wara ที่นอนกองอยู่กับพื้นก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้วเริ่มทำตามแผนทันที!

The Operative : ฉันรู้งานของฉันดีน่า

Ya’wara : เราจะไปกันเดี๋ยวนี้ล่ะ

พริบตานั้น The Operative ก็ใช้ “กุญแจทองคำ” สมบัติลับของเขาในการปิดผนึกถ้ำแห่งนี้ลง ส่วน Ya’wara ก็ใช้ “ลูกโลกทองคำ” ของเธอในการเคลื่อนย้ายพวกเขาไปจากที่นั่น!

เมื่อแสงสีทองจางลง พวก The Others ก็หายไปแล้ว ทิ้งให้ Skinwalker ไว้ในถ้ำที่ถล่มลงมาทับมันพร้อมทั้งปิดผนึกดินแดนแห่งนี้ไว้อีกครั้ง

หลังจากนั้น

Aaron : ทุกคน เครื่องบินพร้อมจะไปแล้ว

The Operative : ดี กลับขึ้นไปบนฟ้ากันได้แล้ว

Sky : ฉันคิดว่าคุณโคลจะไม่ชอบฉันเท่าไหร่นะ

P.O.W. : เธอทำให้เขาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่น่ะนะ เขาชอบเก็บความลับของตัวเขาเองไว้ และเธอก็มีวิธีที่จะมองเข้าไปเห็นมันได้
Ya’wara : เราจะต้องได้พบกันอีกแน่

Sky : ถ้าคุณต้องการฉัน คุณรู้ว่าจะตามฉันได้ที่ไหน ถ้าคุณโคลเขาจะยอมให้ฉันเข้าร่วมน่ะนะ

ขณะที่เครื่องบินออกบินจากไป Sky ก็หันไปพูดกับวิญญาณของแม่ของเธอ

Sky : ใช่ค่ะแม่ พวกเขาเป็นคนดี แม้จะมีปัญหาอยู่บ้างแต่ก็เป็นคนดี

Sky : ขอบคุณค่ะแม่ หนูดีใจที่แม่ภูมิใจในตัวหนู หนูก็รักแม่ค่ะ

ตอนต่อไป : ความลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า

5 thoughts on “Aquaman #20

  1. Tatoo

    เล่มนี้ให้เเก๊งค์ Others โชว์เมพ ก็สนุกดีเหมือนกัน
    อ่าน Aquaman เเล้วสังเกตุได้อย่างหนึ่ง เหมือน Geoff Johns เเกพยายามดันๆ Aquaman ขึ้นมา เเละพยายามเเตกไลน์ให้เนื้อเรื่องของหัวนี้ ขยายไปสู่ตัวละครอื่นๆ และพยายามสร้างปมต่างๆ เหมือนที่เคยทำกับหัว Green Lantern น่าสนใจจริงๆ
    เคยลองไปหา Aquaman ยุคก่อนๆมาอ่าน เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยมีไรโดดเด่นน่าสนใจเท่าไหร่ ต่างจากยุคนี้อย่างมาก
    ติดที่ตรงอีตา Prisoner of War นี่เเหละออกเเบบได้เห่ยจริงๆ เอากระสอบทรายมาคลุมหัวทำยังกับเป็นฆาตกรโรคจิตในหนัง

  2. Tatoo

    @jojomoofy:
    แหะๆ มันติดที่ตรงพี่เเกดันเป็นฮีโร่น่ะครับ ถ้าเป็นวายร้ายจะไม่สงสัยเลย นี่ถ้าได้ถือเลื่อยไฟฟ้านี่มัน ตัวเลื่อยใน Resident Evil ชัดๆ

  3. DOL

    ผมชอบทีม Others นะ ยังเสียดายเลยว่าสมาชิกดันตายไปก่อนสองคนแล้ว

    อยากเห็นเรื่องราวของกลุ่มนี้อีกเรื่อยๆ ครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *